Month: August 2022

  เรื่องจากทวิเตอร์ครูสอนพละชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่ง ที่ออกมาทวิตภาพนักเรียนที่ปล่อยชายเสื้อออกนอกกางเกง และพบว่าวิธีนี้ช่วยลดอุณหภูมิได้ถึง 4 องศา จนกลายเป็นไวรัล . เนื้อหาภายในข้อความระบุว่า มีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ทำตามคำสั่งของครูด้วยการนำเสื้อใส่ไว้ในกางเกงขณะแข่งขันกีฬาท่ามกลางอากาศร้อนจัด และพบว่าทุกคนมีสภาพเหนื่อยล้าและดูคล้ายจะเป็นลม ซึ่งตัวเขาเคารพในกฏการแต่งกายของโรงเรียนคือให้นำเสื้อใส่ในกางเกง แต่ก็ต้องคำนึงถึงสุขภาพของเด็กด้วย เพราะวิธีนี้อาจทำให้มีความเสี่ยงเป็นภาวะฮีทสโตรกได้ง่าย พร้อมกับติดแฮชแท็ก #シャツアウトアクション (Shirt out action) ซึ่งแสดงถึงการเรียกร้องให้นักเรียนนำเสื้อออกนอกกางเกง และขณะนี้ก็มีคนรีทวีตและติดแฮชแท็กนี้กันตามมากมาย . โดยภาพที่ครูพละท่านนี้แชร์นั้น เป็นภาพที่ถ่ายจากกล้องถ่ายภาพความร้อน แสดงให้เห็นว่าคนที่เพิ่งออกกำลังกายโดยที่ปล่อยชายเสื้อออกนอกกางเกงนั้นวัดอุณหภูมิได้ประมาณ 29-30 องศา ขณะที่คนที่ใส่เสื้อไว้ในกางเกงวัดได้สูงถึง 34 องศา ซึ่งการปล่อยชายเสื้ออกมานั้นสามารถคลายร้อนได้ถึง 4 องศา…

  เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2565 นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ลงนามในประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง รายชื่อนักเรียน นักศึกษา และสถานศึกษาที่ได้รับรางวัลพระราชทาน ประจำปีการศึกษา 2564 และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง รายชื่อนักเรียน นักศึกษา และสถานศึกษาที่ได้รับรางวัลชมเชย ในการคัดเลือกนักเรียน นักศึกษา และสถานศึกษา เพื่อรับรางวัลพระราชทาน ประจำปีการศึกษา 2564   ลิงก์ประกาศรายชื่อนักเรียน นักศึกษา และสถานศึกษาที่ได้รับรางวัลพระราชทาน : ประกาศรายชื่อรางวัลพระราชทานปีการศึกษา64…

  ศานนท์ ย้ำ กทม. เปิดกว้างทางการเมือง เปลี่ยนวัฒนธรรมภายใน ยอมรับความหลากหลาย เตรียมออกประกาศนักเรียนแต่งชุดไปรเวตได้ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “เยาวชนร่วมสมัยกับการมีส่วนร่วมทางการเมือง” ในกิจกรรมสร้างแนวร่วมเยาวชนร่วมสมัยกับการมีส่วนร่วมทางการเมืองรู้เท่าทันข่าวปลอม ที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์   นายศานนท์กล่าวว่า กทม. เป็นพื้นที่กลาง ที่มีความหลากหลาย มีพื้นที่สำหรับเด็ก มีโรงเรียน 437 แห่ง มีห้องสมุด 34 แห่ง…

“เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน  อยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า” น้อง ๆ เห็นด้วยกับคำพูดนี้หรือไม่  เเน่นอนว่าสังคมสมัยนี้ปลูกฝังค่านิยมว่าเด็กที่ได้ศึกษาจากสถาบันดี ๆ มีชื่อเสียงจะได้รับการยอมรับจากสังคมมากกว่าเด็กที่เรียนสถาบันทั่วไป  จึงเป็นสาเหตุให้เด็กต้องการที่จะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเหล่านั้นเพื่อหวังว่าจะได้รับการยอมรับจากสังคม เเต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างทำให้เด็กบางคนไม่สามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยดี ๆ เหล่านั้นได้ เช่น สอบไม่ติด ค่าเทอมสูง เป็นต้น เด็กเหล่านี้ก็จะต้องไปเรียนที่มหาลัยทั่วไปซึ่งไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร จึงทำให้เกิดคำพูดว่า “เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน อยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า” ซึ่งเป็นคำพูดที่ใช้ปลอบใจหรือเปล่า ? อย่างไรก็ตามชื่อสถาบันก็เป็นเพียงฉลาก ต้องเเกะห่อใช้งานจริงเสียก่อน จึงจะรู้ว่า คำว่า “เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน” จะเป็นจริงอย่างที่กล่าวกันมาหรือไม่ ถ้าเรียนที่ไหนก็เหมือนกัน ทำไมต้องจัดลำดับมหาวิทยาลัยทุกปี…