DIRU นิเทศ จุฬาฯ เผยผลวิจัย 15 ความเสี่ยงบนโลกออนไลน์ของคนไทย

หน่วยปฏิบัติการวิจัย DIRU นิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยผลวิจัย 15 ความเสี่ยงบนโลกออนไลน์ของคนไทยในแต่ละช่วงวัย พบว่า ความเสี่ยง 5 อันดับแรก เนื้อหาที่มีความรุนแรง โฆษณาสินค้าที่ไม่ได้รับการรับรองความปลอดภัย เนื้อหาสุขภาพที่ไม่น่าเชื่อถือ ข่าวปลอม เนื้อหาลกมกอนาจาร โดยกลุ่มวัยทำงานช่วงต้น 23-39 ปี เป็นกลุ่มที่พบเจอความเสี่ยงมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ ในขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุพบเจอความเสี่ยงจากการใช้สื่อสังคมออนไลน์น้อยที่สุด  รองศาสตราจารย์ ดร. พนม คลี่ฉายา หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านความรอบรู้ทางดิจิทัลและการรู้เท่าทันสื่อ หรือ DIRU รายงานผลการวิจัย เรื่อง “การเพิ่มความสามารถในความรอบรู้ทางดิจิทัลและการรู้เท่าทันที่มีต่อความผูกพันและความเสี่ยงจากการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของประชาชน” โดยกล่าวว่า “การวิจัยเริ่มต้นจากการสัมภาษณ์ประชาชน 4 ช่วงวัย ได้แก่ วัยรุ่นและเยาวชนอายุ 15-22 ปี  วัยทำงานช่วงต้นอายุ…

เพราะแผนการสอนเปรียบเหมือนแผนที่นำทาง…มาดู 6 เทคนิคพัฒนาแผนการสอนสำหรับครู

  หนึ่งในตัวช่วยที่จะทำให้การดำเนินการเรียนการสอนของครูได้ประสิทธิภาพนั้น ก็คือ แผนการสอนหรือแผนจัดการเรียนรู้ ที่เป็นเครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอนในทุกระดับชั้น แผนการสอนนั้นเปรียบเสมือนแผนที่นำทางที่ช่วยให้ครูสามารถดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนให้กับผู้เรียนได้เหมาะสม ตรงตามเป้าหมายและมีประสิทธิภาพ     ดังนั้นการที่จะมีแผนที่นำทางที่ดีนั้นก็ต้องเริ่มจากการวางแผนและวาดแผนที่ของคุณ(ครู) ออกมาให้ดีเสียก่อน ซึ่งลักษณะของการเขียนแผนการสอนที่ดีควรมีดังนี้ คือ   มีความละเอียด ชัดเจน ครบถ้วน และครอบคลุมทุกองค์ประกอบของการออกแบบแผนการสอน โดยสามารถตอบคำถามได้ว่าสอนอะไร มีจุดประสงค์อย่างไร โดยวิธีไหน และจะวัดผลแบบใด   แผนการสอนควรเกิดจากการคิดและสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยตัวครูผู้สอนเอง นอกจากนี้ยังต้องเป็นแผนการสอยนที่คำนึงความต้องการของผู้เรียนเป็นสำคัญควบคู่กับสิ่งที่ผู้เรียนต้องเรียนรู้ตามหลักสูตร และสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับแผนการสอน คือ จะต้องสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง   มีความเชื่อมโยงและสอดคล้องสัมพันธ์กัน ระหว่างส่วนประกอบต่าง ๆ…

ครูต้องเปลี่ยนวิธีสอนรับหลักสูตรใหม่

“อำนาจ”เผยคืบหน้าปรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาพื้นฐาน ขณะที่ครูต้องปรับวิธีสอนรองรับหลักสูตรใหม่ เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าการปรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ 2551 ว่า ขณะนี้คณะกรรมการการปรับปรุงหลักสูตรดังกล่าว ได้เปลี่ยนเป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะแล้วโดยอยู่ระหว่างปรับแก้ไขให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นจะเสนอให้ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งหลักสูตรฐานสมรรถนะในหลักการเบื้องต้นเกือบจะมีความสมบูรณ์ครบ 100% แล้ว เหลือเพียงเก็บข้อมูลรายละเอียดในกลุ่มสาระวิชาการเรียนรู้หลักเท่านั้น โดยการปรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานครั้งนี้ เพราะโลกและเทคโนโลยีปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และถือเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่หลังจากไม่ได้ปรับมานานตั้งแต่ปีการศึกษา 2551 เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า สำหรับหลักสูตรฐานสมรรถนะที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ปรับปรุงใหม่นี้…

“สมศ.” เปิดผลการประเมินภายนอกรอบสี่ สถานศึกษาส่วนใหญ่อยู่ในระดับดีเยี่ยม-ดีมาก พร้อมเดินหน้าประเมินต่อเนื่องโค้งสุดท้ายปี 63 เผยสถานศึกษายื่นขอประเมินเพิ่มอีก 2500 แห่ง

สมศ. เดินหน้าพัฒนาการประเมินผ่านระบบดิจิทัล ลดภาระเอกสาร สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. เผยสถานการณ์การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่(2559-2563) มีสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ได้รับการประเมินแล้วส่วนใหญ่อยู่ในระดับดีมาก-ดีเยี่ยม เนื่องจากแต่ละแห่งมีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและผู้เรียน พร้อมนำเอานวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน ส่งผลให้การประเมินคุณภาพภายนอกเป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม สมศ.จะเดินหน้าประเมินต่อเนื่องในปี 2563 ซึ่งขณะนี้มีสถานศึกษาขอเข้ารับการประเมินแล้วกว่า 2,500 แห่งทั่วประเทศ พร้อมติวเข้มผู้ประเมินภายนอกให้มีประสิทธิภาพและมีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้จะนำเอาระบบ AQA ระยะที่ 2 มาใช้เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและลดภาระด้านเอกสารรวมทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่สถานศึกษาที่ขอเข้ารับการประเมินโดยระยะที่ 2 จะนำร่องสถานศึกษาด้านการอาชีวศึกษาก่อน เป็นการรองรับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่มีการนำเอาระบบ ไอทีมาใช้ในสำหรับพัฒนาระบบการศึกษาไทย นางสาวขนิษฐา ตั้งวรสิทธิชัย รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา กล่าวว่า การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ (2559-2563) สมศ.ได้ดำเนินการประเมินและลงพื้นที่ไปยังสถานศึกษาต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง…

6 แนวทางช่วยเสริมนักเรียนให้กล้าแสดงออกในชั้นเรียน

การกล้าแสดงออกนั้นเป็นอีกทักษะที่เด็กๆ รวมถึงคนทุกคนควรจะมี เพราะเป็นอีกสิ่งที่จะทำให้เราสามารถเปิดโอกาสและเพิ่มประสบการณ์ด้านต่างๆ ให้กับตัวเองได้ ซึ่งในยุคปัจจุบันที่โลกเปิดกว้าง และมีการแข่งขันทั้งในการเรียน การทำงานที่สูงขึ้นเรื่อยๆ นั้น การกล้าแสดงออกจึงเป็นอีกสิ่งที่ผู้ปกครองและครูควรปลูกฝังและช่วยสร้างให้กับเด็กเพื่อเป็นประโยชน์แก่พวกเขาในอนาคต     พฤติกรรมการกล้าแสดงออก หรือ Assertive Behavior นั้น หมายถึง ความสามารถในการแสดงออกด้านการคิด  การพูด การกระทำ  ซึ่งรวมถึงอารมณ์และความรู้สึก   รวมไปถึงการกล้าแสดงสิทธิ ความคิดเห็น ความเชื่อ ความรู้สึก หรือความต้องการของตนเอง ให้ผู้อื่นรับรู้ และกล้าที่จะปฏิเสธ ด้วยวิธีการที่ตรงไปตรงมา ทั้งนี้ ความสามารถกล้าแสดงออกดังกล่าวนั้นจะต้องเป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสมเป็นที่ยอมรับของสังคมโดยไม่ไปก้าวก่ายหรือล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่นด้วยเช่นกัน  …

สรุป 9 นโยบายรมว.ศธ จากที่ประชุมผอ.สพท.ทั่วประเทศ ครั้งที่ 1/2563

เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา มีการจัดประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ครั้งที่ 1/2563  ณ โรงแรมปรินซ์ พาเลซ กรุงเทพฯ โดยครั้งนี้มี นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  เป็นประธานเปิดการประชุม   พร้อมด้วย นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นผู้กล่าวรายงาน รวมถึงผู้บริหารระดับสูง อาทิ นางวัฒนาพร ระงับทุกข์ รองเลขาธิการ กพฐ., ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา…

Active Learning รูปแบบการเรียนการสอนสำหรับคนยุคใหม่…(ครู)นำมาประยุกต์ใช้อย่างไรดี?

  ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทำให้การสื่อสารเข้าถึงกันได้ง่าย รวมถึงการเข้าถึงแหล่งข้อมูลสามารถที่สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ในด้านการศึกษาผู้เรียนจำเป็นจะต้องมีความสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องและเป็นผู้แสวงหาความรู้อยู่ตลอดเวลา   ประกอบกับปัจจุบันที่องค์ความรู้ใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ทำองค์ความรู้และเนื้อหาในวิชาต่างๆ มีมากเกินกว่าที่จะเรียนรู้จากในห้องเรียนได้หมดนอกจากนี้ยังส่งผลให้การสอนแบบเดิมด้วยการ “พูด บอก เล่า” ไม่สามารถจะให้การเรียนรู้และพัฒนาให้ผู้เรียนให้มีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับยุคนี้ ดังนั้น ผู้สอนจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมแห่งเทคโนโลยีนี้ จำเป็นต้องปรับเปลี่ยน จากผู้สอนคือผู้ถ่ายทอด ปรับเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้ชี้แนะวิธีการค้นคว้าหาความรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้สามารถแสวงหาความรู้และประยุกต์ใช้ทักษะต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม       ซึ่งในการจัดการเรียนรู้นั้นเราควรจะต้องทราบถึง ปิรามิดแห่งการเรียนรู้  หรือการแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการเรียนรู้ของมนุษย์ผ่านวิธีการต่างๆ เสียก่อน ซึ่งปีรามิดแห่งการเรียนรู้นี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ระดับ คือ  …

จุฬาฯที่1ประเทศ-สวนสุนันทาแชมป์ราชภัฏ11สมัย – มทร.ธัญบุรีครองที่1ราชมงคล-ม.รังสิตยืนที่1ม.เอกชน จากอันดับ Webometrics Ranking January 2020

“จุฬาฯ” ที่1ประเทศ “สวนสุนันทา” ประกาศศักดา แชมป์ราชภัฏ 11 สมัย “มทร.ธัญบุรี” โชว์ศักยภาพครองที่ 1 ราชมงคล อีกสมัย – ด้าน “ม.รังสิต” ก้าวมายืนที่ 1 ม.เอกชน จากอันดับ Webometrics Ranking First edition of 2020: Web data collected during January 2020 ……………………………………………………………………………………………

เผย 13 เทคนิคเรียกสมาธิเด็กในห้องเรียน

  อีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญในการเรียนการสอนของครูในห้องเรียนนั้นก็คือผู้เรียน เพราะต่อให้ครูเตรียมเนื้อหา องค์ความรู้ หรือสื่อการสอนมาอย่างดีมากเพียงใดแต่หากผู้เรียนนั้นไม่พร้อมที่จะรับความรู้เพราะขาดสมาธิในการเรียนแล้วนั้น ก็ไม่อาจทำให้การเรียนการสอนในห้องเรียนนั้นๆ เกิดประสิทธิภาพในการเรียนได้เท่าที่ควร วันนี้เราจึงมี 13 เทคนิคดีๆ ที่จะช่วยครูในการสร้างสมาธิแก่นักเรียนในห้องเรียน เพื่อให้การเรียนการสอนได้ประสิทธิภาพมาฝากกันค่ะ       1.ครูต้องแสดงออกถึงพลังและความกระตือรือร้นอยู่เสมอในเวลาที่อยู่กับเด็ก ในการเรียนการสอนในห้องเรียนครูต้อง active ตัวเองอยู่เสมอ อย่าเอาแต่ยืนนิ่งๆ อยู่กับที่ ให้ลองเดินไปเดินมาบ้างและคอยพูดคุยสื่อสารกับเด็กอยู่เสมอทั้งเรื่องวิชาการและเรื่องทั่วๆ ไป ชวนคิด ชวนเล่มเกม เพื่อให้เด็กไปรู้สึกกระตือรือร้นตามไปด้วย     2.การเรียนการสอนควรเปิดโอกาสให้เด็กได้มีส่วนร่วมด้วย ไม่ควรยืนพูดหน้าชั้นอย่างเดียว การเรียนการสอนที่ครูพูดกับกระดานดำหรือการให้เด็กแค่ฟังและจดตามไม่เพียงพอแล้วในยุคนี้ ครูควรตั้งคำถามบ่อยๆ…

10 อันดับหนังสือดีที่ครูควรอ่าน

  การทำงานในอาชีพครูนั้นเป็นการทำงานที่ถูกคาดหวังจากทั้งเด็ก ผู้ปกครองและสังคมรอบข้างมากมาย ยิ่งในปัจจุบันที่ระบบการศึกษามีการปรับเปลี่ยน องค์ความรู้ทั้งด้านวิชาการและสังคมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ความคาดหวังที่สังคมที่อยากเห็นครูสามารถนำพานักเรียนไปในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ก็มากขึ้นเช่นกัน ทำให้ครูหลายคนไม่รู้จะปรับตัวอย่างไร หรือรับกับความกดดัน และเสียงวิพากษ์วิจารณ์รวมถึงความคาดหวังในสังคมอย่างไร จนทำให้หมดกำลังใจ หมดไฟในการทำงานกันไปวันนี้เราจึงมี 10 อันดับหนังสือดีๆ  ที่จะสร้างแรงบันดาลใจและให้ข้อคิดและเทคนิคดีๆ สำหรับครูมาฝากกันค่ะ       TEACH Like Your Hairs On Fire – Rafe Esquith : ครูนอกกรอบกับนักเรียนนอกแบบ   หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวของครูชั้นประถมศึกษาปีที่ 5…