“ครูคู่คิด…เป็นมิตรมีสไตล์ ปั้นศิษย์สู่นักจัดการเกษตรมืออาชีพ”

ทุกก้าวสำคัญของแวดวงการศึกษาไทย เบื้องหลังความสำเร็จของเยาวชนของชาติ ล้วนถูกหล่อหลอมด้วยสถาบันการศึกษา และผู้ปฏิบัติหน้าที่สำคัญในการรับบทบาทนี้คือ คุณครู อาจารย์ ที่อยู่เบื้องหลังในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด รวมถึงคุณธรรมจริยธรรม ดูแลศิษย์จากรุ่นสู่รุ่น มุ่งขับเคลื่อนความสำเร็จให้ศิษย์เหล่านั้น      พีไอเอ็ม เผยตัวอย่างอาจารย์สาวแกร่ง ผู้มีสไตล์การสอนเหมือนเพื่อนคู่คิดกับศิษย์ ผู้มีความตั้งใจแน่วแน่เพื่อพัฒนาศิษย์สู่มืออาชีพด้านเกษตรและอาหาร…จากพื้นฐานฐานะครอบครัวระดับกลาง  ผสมกับความคาดหวังจากสังคมรอบตัวในวัยเด็ก เป็นปัจจัยกระตุ้นสำคัญให้เด็กหญิงมลฤดี ต้องตั้งใจเพิ่มมากขึ้นกับการเรียนและบอกกับตัวเองว่า ต้องเอาดีให้ได้ จนจบเกียรตินิยมด้วยความคิดที่บอกตัวเองเสมอว่า “หากตั้งใจจริง ก็ไม่มีอะไรที่เกินความสามารถและทำไม่ได้” นี่คือคำกล่าวจากผศ.ดร.มลฤดี จันทร์รัตน์ อาจารย์ประจำและผู้อำนวยการศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาอาชีพ (Counseling and Career Developtment for Student Center)…

ประวัติความเป็นมา “วันครู” 16 มกราคม ของทุกปี

ใกล้ถึงแล้วกับวันที่สำคัญอีกวันหนึ่งของประเทศไทย เป็นวันที่เราจะร่วมกันระลึกนึกถึงพระคุณของครูบาอาจารย์ ที่มอบความรู้ ความหวังดี ความรัก ให้แก่เราชาวลูกศิษย์ ซึ่งก็คือ วันครู วันที่ 16 ของทุกปี นั้นเอง แต่กว่าจะเป็นวันนี้ได้นั้น ก็มีเรื่องราวตั้งแต่สมัย พ.ศ.2488 เลยนะ! ประวัติความเป็นมาของ “วันครู” โดยวันครูได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2500 สืบเนื่องมาจากการประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อปี พ.ศ. 2488 ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่า คุรุสภาเป็นนิติบุคคลให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา โดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครูในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษา และวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษา ควบคุมจรรยาและวินัยของครู รักษาผลประโยชน์…

3 ว. ช่วยครูวิเคราะห์ก่อนลงโทษนักเรียน

    หลายคนคงเคยได้ยินสำนวน “ไม้เรียวเรียวสร้างคน” สุภาษิตสำนวนที่ถูกกล่าวถึงในการสอนลูกหลาน และลูกศิษย์ และให้ได้ดีและประสบความสำเร็จด้วยการตี เมื่อครั้งที่การลงโทษนักเรียนยังไม่มีมาตรการที่เข้ามาควบคุมอย่างชัดเจนและเคร่งครัดแบบนี้ ถ้าพูดถึงการลงโทษนักเรียนด้วยการไม้เรียว การตี หรือการทำโทษทางร่างกายด้วยวิธีต่างๆ อย่างการทำขนมจีบ หรือวิธีอื่นๆ ก็เป็นเรื่องที่ปกติ แต่ด้วยวันเวลาที่เปลี่ยนไป สภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคมและความก้าวหน้าต่างๆ รวมถึงข่าวมากมายที่ออกมาถึงการกระทำที่เกินกว่าเหตุในการลงโทษนักเรียนของครู การลงโทษด้วยการตีและการทำร้ายร่างกาย จึงมีกฎที่เข้ามาควบคุมเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด โดยถูกบรรจุอยู่ใน “ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548”   ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการศึกษาวิจัยถึงการลงโทษเด็กด้วยกันหลายงานวิจัยว่าการลงโทษเด็กด้วยการตี หรือความรุนแรงจะเป็นการสร้างปมและประสบการณ์ที่ไม่ดีติดตัวไปให้แก่นักเรียนอีกด้วย   ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างก็คงทำให้ครูหลายท่านต้องตระหนักถึงการลงโทษเด็กกันมาขึ้น  ซึ่งสิ่งที่ตามมาคือ…

กว่าจะเป็นครู

กว่าจะเป็นครู           เส้นทางในการเดินทางเพื่อเป็นครูนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะการที่เราจะถ่ายทอดความรู้และปั้นเด็กคนนึงให้มีคุณภาพได้นั้น ต้องอาศัยความรู้ที่เรามีและประสบการณ์ที่เราพบเจอมาตลอดการศึกษาไปคัดกรองและวางแผนอย่างดีถึงจะได้มอบสิ่งนั้นให้กับเด็กๆได้ หากมีความแน่วแน่ในการที่จะเป็นครูแล้วนั้น ต้องเริ่มต้นจากการเลือกเข้าคณะที่เกี่ยวกับครูโดยตรง เช่น คณะศึกษาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ และครุศาสตร์อุตสาหกรรม หรือสาขาย่อยในคณะอื่นๆ ที่มีชื่อย่อวงเล็บว่า กศ.บ. เช่น คณะมนุษย์ศาสตร์ สาขาภาษาไทย (กศ.บ) นอกจากต้องเตรียมความพร้อมในการสอบ O-NET GAT แล้ว ยังต้องเตรียมความพร้อมในการสอบ PAT5 ซึ่งเป็นวิชาวัดความถนัดทางวิชาชีพครูอีกด้วย เมื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแล้ว นอกจากเรียนวิชาบังคับ วิชาเลือก และทำกิจกรรมต่างๆในมหาวิทยาลัยแล้ว ยังต้องมีการฝึกสอน 1 ปีด้วย…

คุรุสภาประกาศผลการคัดเลือกผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา “คุรุสดุดี” ประจำปี 2562

ดร.วัฒนาพร  ระงับทุกข์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า ตามที่ คุรุสภาได้ดำเนินการยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา เพื่อประกาศเกียรติคุณให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน ให้มีเกียรติและศักดิ์ศรีเป็นที่ยอมรับของสังคม โดยคัดเลือกผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพจนเป็นแบบอย่างที่ดี มีความเสียสละและอุทิศตนเพื่อประโยชน์แก่วิชาชีพตลอดระยะเวลาของการปฏิบัติงาน ให้มีขวัญและกำลังใจที่จะปฏิบัติงานในหน้าที่ให้เกิดประโยชน์แก่ศิษย์ยิ่งๆ ขึ้นไป ให้ได้รับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “คุรุสดุดี” ประจำปี 2562 บัดนี้ คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมีมติอนุมัติรายชื่อผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาเพื่อรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ   “คุรุสดุดี” ประจำปี 2562 จำนวน 1,047 คน เรียบร้อยแล้ว และเข้ารับรางวัลในช่วงสัปดาห์วันครู ระหว่างวันที่  16 – 17 มกราคม…

ครูยุคใหม่ต้องเป็นแบบไหน? เผยลักษณะของครูในศตวรรษที่ 21

      ต้องยอมรับว่าโลกในปัจจุบันถูกขับเคลื่อนไปด้วยเทคโนโลยีที่ไม่หยุดนิ่ง ในยุคที่เรากำลังจะก้าวไปสู่ยุคดิจิทัล หรือยุคโลกาภิวัตน์อย่างเต็มตัว หลายคนหลายอาชีพก็เริ่มตระหนักถึงการทำงานของในยุคต่อไปจากนี้ของตัวเองกันมากขึ้น เพราะเราจะมีเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งหรือแทนที่การทำงานหลายๆ อย่าง ซึ่งหนึ่งในอาชีพที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงการทำงานในศตวรรษที่ 21 มากเป็นพิเศษก็คือ “ครู” เพราะเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้เด็กสามารถเรียนรู้ได้กว้างและรวดเร็ว จนคุณครูเองต้องปรับตัวกันยกใหญ่   คุณคงจะเคยได้ยินคำถามยอดนิยมที่ว่า “ครูในศตวรรษที่ 21 ต้องมีลักษณะอย่างไร?” กันมาบ้างไม่มากก็น้อย ผ่านโรงเรียนหรือข่าวต่างๆ  แต่จะมีซักกี่คนที่รู้คำตอบที่แท้จริงของคำถามนี้ ในอนาคตครูไม่ใช่แค่ครูต้องตามให้ทันเทคโนโลยี แต่จะต้องเป็นผู้อำนวยความสะดวก ผู้สนับสนุน ผู้สังเกตการณ์แก่นักเรียน รวมไปถึงอีก 6 ลักษณะนี้ ที่เป็นลักษณะสำคัญของครูในศตวรรษที่ 21…

5 เทคนิคช่วยให้การสอน (ของครู) ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

      ในการเรียนการสอนที่มีเนื้อหาอัดแน่น มีองค์ความรู้และทฤษฎีต่างๆ มากมายแล้วนั้น ก็คงจะไม่แปลกที่จะทำให้เด็กๆเบื่อหน่ายกับการเรียน ซึ่งก็ส่งผลต่อความสนใจในการเรียนและยากต่อการสอนของครูด้วย เพราะยิ่งวิชาไหนเนื้อหาหนัก เนื้อหาแน่นคนสอนก็เหนื่อย คนเรียนก็เบื่อ วันนี้เราจึงมีเทคนิคดีๆ ที่จะช่วยให้การเรียนการสอนของครูไม่น่าเบื่อ และน่าสนใจเพิ่มขึ้นด้วยมาฝากกันค่ะ       1 วางตำราแล้วพาไปลงมือทำ ถึงแม้ในหลายวิชาการเปิดตำราและอ้างอิงทฤษฎีต่างๆ จะสำคัญ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการสอนแบบให้เด็กนั่งฟัง นั่งดูตำราตามก็ทำให้เด็กๆ เบื่อหน่ายกับการเรียนได้ การเพิ่มกิจกรรมให้เด็กๆ ได้ลงมือทำก็จะช่วยให้เด็กๆ ไม่เบื่อ ไม่ว่าจะเป็นการทดลองทางวิทยาศาสตร์ การสร้างกิจกรรมร่วมกันในห้องเรียนอย่างการแสดงละคร เรื่องสั้น พาไปสำรวจรอบรั้วโรงเรียน ให้นักเรียนจับกลุ่มพูดคุยระดมสมองในหัวข้อที่ของเขาสนใจ…

9 แอพช่วยสอนสำหรับครูยุค 4.0

9 แอพช่วยสอนสำหรับครูยุค 4.0       ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไกลและมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในทุกวัน ทำให้สมาร์ทโฟน ไอแพด แท็บเล็ตทั้งหลายกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตที่เราต้องพกติดตัวทุกวันไปแล้ว ซึ่งในสมาร์ทโฟนนี้เองก็มี ”แอปพลิเคชัน” ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานและช่วยให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นแอปโอนเงินผ่านมือถือ แอปช่วยในการบอกเส้นทาง แอปสำหรับผู้สูงอายุ สำหรับนักเรียนนักศึกษา รวมไปถึงแอปสำหรับ ”ครู” ก็มีด้วยเช่นกัน วันนี้เราจึงหยิบ 10 สุดเจ๋ง! ที่จะช่วยให้การสอนของครูง่าย สะดวก และดึงดูดเด็กๆ ให้อยากเรียนมากยิ่งขึ้นด้วยมาฝากกันค่ะ   1 Kahoot แอปพลิเคชันถาม-ตอบแบบออนไลน์…

10 สิ่งที่จะทำให้คุณเปลี่ยนไปหลังจากมาเป็นครู

10 สิ่งที่จะทำให้คุณเปลี่ยนไปหลังจากมาเป็นครู 1.คุณจะรู้สึกหวังดีและรักเด็ก (แม้เมื่อก่อนจะไม่เคยรัก) เรียกได้ว่าเมื่อก่อนไม่เคยจะชอบเด็กๆ แต่พอได้เข้ามาสัมผัสจะเห็นอะไรหลายๆอย่างจากเด็กๆ ทั้งความใสซื่อ น่ารักของพวกเขาและความไม่รู้ของพวกเขา จะทำให้คนเป็นครูอย่างเราๆท่านๆรู้สึกหลงรักในตัวพวกเขาขึ้นมาทันที บางครั้งเผลอเรียกไปว่า “ลูกๆ” 2.คุณจะกลายเป็นคนที่ขี้บ่น (แม้เมื่อก่อนคุณจะเป็นคนเงียบๆ) เมื่อก่อนเรียกได้ว่าเป็นคนที่ไม่ชอบคนขี้บ่นแต่พอเป็นครูนานเข้า มารู้สึกตัวอีกที เอ๊ะ…นี่เรากลายเป็นคนขี้บ่น ไปเสียตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ฮ่าๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นทักษะนี้อาจจะมาจากการสอนเด็กๆที่ครูจำเป็นต้องพูด พูดและก็พูดเด็กทุกคนก็ใช่ว่าจะมีนิสัยที่ดีเสมอไป คนเป็นครูจึงต้อง เทศนาบ้าง…ทักษะนี้ก็เลยได้มาแบบฟรีๆ 3.คุณจะกลายเป็นคนที่ตำหนิอะไรได้ง่ายขึ้น (แม้เมื่อก่อนจะเคยปล่อยไปชิวๆ) จากหัวข้อที่แล้ว ทำให้ได้ทักษะอีกทักษะหนึ่งก็คือการตำหนิ เพราะครูจะเป็นจะต้องแนะนำเด็กๆให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง จึงจำเป็นจะต้องรู้จักวิธีการตำหนิในสิ่งที่ผิด เพื่อให้นักเรียนได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทักษะนี้จึงเพิ่มเข้ามาอีก ให้คนรอบข้างรู้สึกเบื่อ (บางท่าน)…