จุดเด่นล้น อาชีพรองรับหลากหลาย “สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์ สําหรับธุรกิจออนไลน์” เปิดรับแล้ววันนี้ tui sakrapeeMay 4, 2024 วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กำลังเปิดรับนักศึกษาใหม่ ในหลักสูตรปริญญาตรี สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์ สําหรับธุรกิจออนไลน์ จุดเด่นที่แตกต่าง ได้ความรู้ควบ 2 ศาสตร์ (Logistics & Entrepreneurship) ดูแลบริหารจัดการงานโลจิสติกส์สินค้า E-Commerce บริหารคลังสินค้า Fullfilment เป็นเจ้าของธุรกิจ… ม.หอการค้าไทย จัดแข่งบาสเกตบอลชิงถ้วยและเงินรางวัล “3×3 UTCC Championship 2024“ EZ WebmasterMay 3, 2024 หอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เชิญชวนเยาวชนร่วมการแข่งขันบาสเกตบอล แบบ 3 คน ในรายการ “3×3 UTCC Championship 2024” เฟ้นหานักกีฬาดาวรุ่งพัฒนาสู่ระดับอาชีพ และสร้างโอกาสสู่เวทีการแข่งขันระดับนานาชาติต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยได้รับการสนับสนุนจากหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่หอการค้าไทย (YEC) สมาคมกีฬา… สูตร หยิบ/คัด/แยก/เรียง ในการเลือกคณะ Admission EZ WebmasterMay 2, 2024 น้อง ๆ ที่จะเลือกคณะ #TCASรอบ3 แต่ถ้ายังเบลอ ไม่รู้ทำไรก่อนดี พี่แฮนด์แนะนำให้ใช้สูตร หยิบ/คัด/แยก/เรียง เพื่อเป็นตัวช่วยเบื้องต้นก่อนนะครับ . 1. เริ่มจาก #หยิบ ให้เลือกคณะทีชอบ ที่สนใจ เหมือนหยิบของใส่ตะกร้า ชอบอะไรหยิบใส่ไว้ก่อน อะไรสวย… งานเทศกาลกีตาร์คลาสสิก “4th Mahidol International Classical Guitar Forum” โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล EZ WebmasterMay 2, 2024 ประชาสัมพันธ์งานเทศกาลกีตาร์คลาสสิก โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 25 สิงหาคม 2567 ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ในชื่อ “4th Mahidol International Classical Guitar Forum”… นักศึกษา สวนสุนันทา พัฒนา soft skills ทักษะวิศวกรสังคม ระดับผู้นำนักศึกษาให้เป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ tui sakrapeeMay 3, 2024 วันที่ 23 – 26 เมษายน 2567 ณ New Travel Beach Hotel จังหวัดจันทบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดยกองพัฒนานักศึกษาจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนา soft skills โดยใช้ทักษะวิศวกรสังคมระดับผู้นำนักศึกษา โดย… ม.หอการค้าไทย จัดแข่งบาสเกตบอลชิงถ้วยและเงินรางวัล “3×3 UTCC Championship 2024“ EZ WebmasterMay 3, 2024 หอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เชิญชวนเยาวชนร่วมการแข่งขันบาสเกตบอล แบบ 3 คน ในรายการ “3×3 UTCC Championship 2024” เฟ้นหานักกีฬาดาวรุ่งพัฒนาสู่ระดับอาชีพ และสร้างโอกาสสู่เวทีการแข่งขันระดับนานาชาติต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยได้รับการสนับสนุนจากหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่หอการค้าไทย (YEC) สมาคมกีฬา… งานเทศกาลกีตาร์คลาสสิก “4th Mahidol International Classical Guitar Forum” โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล EZ WebmasterMay 2, 2024 ประชาสัมพันธ์งานเทศกาลกีตาร์คลาสสิก โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 25 สิงหาคม 2567 ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ในชื่อ “4th Mahidol International Classical Guitar Forum”… วิศวะมหิดล จัดใหญ่ Mahidol Engineering Maker Expo 2024 โชว์สุดยอดไอเดียสร้างสรรค์จากผลงานนักศึกษาปี 4 EZ WebmasterMay 2, 2024 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเวที Mahidol Engineering Maker Expo 2024 “Capstone Project Presentation” โชว์ผลงานโครงงานวิศวกรรมของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และงานวิจัย รวมถึงเผยแพร่ผลงานวิจัยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การสร้างประโยชน์ต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ที่ครอบคลุมมากถึง… ทุนดีดี ขยายเวลารับทุนเรียนต่อป.โท ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว สหพันธรัฐรัสเซีย tui sakrapeeApril 24, 2024 ประกาศขยายเวลารับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว (Skolkovo Institute of Science and Technology: Skoltech) สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024) หลักสูตรภาษาอังกฤษ ตามที่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ… ม.เทคโนโลยีและการออกแบบแห่งสิงคโปร์ ให้ทุนคนไทยไปศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี tui sakrapeeApril 22, 2024 ประกาศ รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบ แห่งสิงคโปร์ (Singapore University of Technology and Design : SUTD) สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024)… รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH… ครู-อาจารย์ “สกสว. – สวทช” ปั้นกลุ่ม “ผู้จัดการงานวิจัยและนวัตกรรม” จาก 45 หน่วยงาน ผลักดันสู่บทบาทผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและงาน ววน. ของประเทศ EZ WebmasterMay 2, 2024 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมกับ สถาบันพัฒนาบุคลากรแห่งอนาคต สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดกิจกรรมพัฒนาผู้จัดการงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม หรือ RDI Manager เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ กลไกการทำงานระหว่างหน่วยงาน ให้สามารถเชื่อมโยงยกระดับการบริหารจัดการงานวิจัยและนวัตกรรมได้เหมาะสมกับบริบทของหน่วยงานในระบบ ววน. พร้อมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากร ความร่วมมือในการขยายผลการขับเคลื่อนผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งการส่วนร่วมออกแบบแนวทางการขับเคลื่อนมาตรฐานวิชาชีพของ RDI Managers และกิจกรรมศึกษาดูงาน “แนวทางการบริหารงานวิจัยเชิงพื้นที่” บทบาทของกลไกชุมชนและภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนงานเชิงระบบ… น้ำมันเชื้อเพลิงจากยีสต์! ผลงานวิจัยคณะวิทย์ฯ จุฬาฯ จ่อขยายการผลิตเพื่ออุตสาหกรรมอากาศยาน EZ WebmasterApril 30, 2024 นักวิจัย จุฬาฯ ใช้หญ้าอาหารสัตว์ เลี้ยงจุลินทรีย์เพื่อนำไขมันที่ได้มาเปลี่ยนเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ตั้งเป้าขยายการผลิตทดแทนน้ำมันจากปิโตรเลียม ลดผลกระทบทางสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ยีสต์เป็นจุลินทรีย์ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารและเครื่องดื่มหลายประเภท อาทิ ขนมปัง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ในอนาคต ยีสต์จะเป็นกำลังสำคัญในการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงทดแทนพลังงานที่มาจากฟอสซิล ปัจจุบัน นักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีขยายขนาดการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพอากาศยานจากยีสต์ ซึ่งเป็นการต่อยอดผลสำเร็จจากการวิจัยพบยีสต์สายพันธุ์ที่มีศักยภาพสูงในการผลิตไขมันเพื่อนำมาผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน โดยในกระบวนการผลิตน้ำมันจากยีสต์นั้น ยังได้ใช้ของเหลือทิ้งจากภาคการเกษตรมาเป็นอาหารเลี้ยงจุลินทรีย์ นับเป็นการลดปัญหาจากเผาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับของเหลือทิ้งภาคการเกษตรอีกทางหนึ่งด้วย ที่มางานวิจัยผลิตน้ำมันจากยีสต์… สสวท. ชวนครูคณิตศาสตร์มัธยมอบรมฟรี สมัครได้ถึง 30 เม.ย.นี้ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” EZ WebmasterApril 29, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เชิญครูผู้สอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาและผู้สนใจ อบรมหัวข้อ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” ในรูปแบบออนไลน์ สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 เมษายน 2567 อบรมระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2567 ลงทะเบียนและอบรมที่เว็บไซต์ระบบอบรมครู… ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี EZ WebmasterApril 26, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครูและเยาวชนสนุกเรียน สนุกรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี รับปิดเทอมนี้ที่ คลังความรู้ SciMath สสวท. พบสื่อหลากหลายทั้ง อีบุ๊กเพิ่มทักษะ คู่มือครู วีดิทัศน์ คลังภาพ โครงงาน บทเรียนน่ารู้ แผนการสอน แอปพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้พร้อมเกมฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหา เพลิดเพลินเรียนรู้ในโลกออนไลน์ฟรีที่คลังความรู้ SciMath สสวท. https://www.scimath.org กิจกรรม ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน EZ WebmasterMay 3, 2024 ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี! ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ทาง www.vec.go.th… ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search EZ Webmaster March 20, 2020 EZ Webmaster March 20, 2020 5 ทฤษฎีพัฒนากับการส่งเสริมการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับผู้เรียน หลังจากที่ทางเว็บไซต์ได้นำเสนอ 5 ทฤษฎี จาก 5 นักคิด เพื่อการนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนกันไปแล้ว วันนี้ทางเว็บไซต์ eduzones ก็ได้มีทฤษฎีที่สามารถนำมาส่งเสริมและใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้เช่นกันนั่นก็คือ “ทฤษฎีการพัฒนา” วันนี้เราจึงได้นำทฤษฎีพัฒนาจาก 5 นักคิดที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนเพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้อย่างเหมาะสมให้แก่ผู้เรียนสำหรับครูผู้สอนทุกท่านมาฝากกันค่ะ ทฤษฎีจิตสังคมของอีริกสัน นักคิดคนแรกสำหรับทฤษฎีพัฒนา ได้แก่ อิริคสัน นักจิตวิเคราะห์ที่มีชื่อของอเมริกา เป็นผู้วิเคราะห์เกี่ยวกับเด็กเป็นคนแรกในนครบอสตัน เขาเห็นว่าการจะทำความเข้าใจพฤติกรรมเด็ก จะต้องศึกษาจากการอบรมเลี้ยงดู สภาพสังคม และความเป็นอยู่ของเด็ก ปัญหาที่นำมาวิเคราะห์นั้นจะอธิบายเชื่อมโยงระหว่างจิตวิทยากับสังคมวิทยาใน รูปแบบของมนุษย์วิทยาซึ่งมีแนวความคิดว่ามนุษย์ต้องพึ่งสังคมและสังคมก็ต้องพึ่งมนุษย์มนุษย์มีวิวัฒนาการที่สลับซับซ้อนและผ่านขั้นตอนต่างๆ ของธรรมชาติหลายขั้นตอน โดยอีริกสันได้ แบ่งพัฒนาการด้านจิตสังคมของบุคคลเป็น 8 ขั้น ตามช่วงอายุดังนี้ ขั้นที่ 1 ระยะทารก (Infancy period) อายุ 0-2 ปี ในระยะขวบปีแรกทารกจะต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่นในการดูแลเอาใจใส่ทุกด้าน ตลอดจนความรัก และสอนให้ทารกพบกับสิ่งเร้าใหม่ๆ ขั้นที่ 2 วัยเริ่มต้น (Toddler period) อายุ 2-3 ปี ขั้นนี้เด็กเริ่มเรียนรู้ที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง หากได้รับการสนับสนุนและกระตุ้นให้เด็กได้กระทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเองตามสมควร ขั้นที่ 3 ระยะก่อนไปโรงเรียน (Preschool period) อายุ 3-6 ปี เป็นระยะที่เด็กมีการเรียนรู้อย่างกว้างขวาง มีความสัมพันธ์กับเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง มีความอยากรู้อยากเห็น ชอบลองอะไรใหม่ๆ ขั้นที่ 4 ระยะเข้าโรงเรียน (School period) อายุ 6-12 ปี ระยะนี้เด็กเรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์ มีความคิดและพยายามทำกิจกรรมด้วยตัวเอง หากได้รับการสนับสนุนก็ย่อมทำให้เด็กมีการพัฒนาที่ดี ขั้นที่ 5 ระยะวัยรุ่น (Adolescent period) อายุ 12-20 ปี เป็นระยะที่เริ่มสนใจเรื่องเพศ เข้าไปผูกพันกับสังคมและต้องการตำแหน่งทางสังคม ความรู้สึกเป็นอิสระและเป็นตัวของตัวเอง ขั้นที่ 6 ระยะต้นของวัยผู้ใหญ่ (Early adult period) อายุ 20-40 ระยะนี้จะเริ่มมีการนัดหมาย การแต่งงาน และชีวิตครอบครัว หรือทำงานกับผู้อื่นได้ หากสามารถบรรลุอัตลักษณ์ของตนเอง ก็จะสามารถสร้างและแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์อย่างสนิทสนมกับบุคคลอื่นได้ ขั้นที่ 7 ระยะผู้ใหญ่ (Adult period) อายุ 40-60 ปี เป็นระยะที่บุคคลหันมาสนใจกับโลกภายนอก ริเริ่มสร้างสรรค์งานต่างๆ เพื่อสังคม และคิดถึงผู้อื่น ขั้นที่ 8 ระยะวัยสูงอายุ (Aging period) อายุประมาณ 60 ปีขึ้นไป วัยนี้เป็นวัยสุขุม รอบคอบ บุคคลจะยอมรับความเป็นจริงของชีวิต ระลึกถึงความทรงจำในอดีต ถ้าหากประสบความสำเร็จในอดีตก็จะรู้สึกไว้วางใจผู้อื่นและตนเอง และมีความมั่นคงทางจิตใจ การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน สำหรับการประยุกต์ใช้ทฤษฎีพัฒนาการทางจิต สังคมของอีริกสันนั้น แนวคิดนี้ส่งผลให้วงการศึกษาตื่นตัวอย่างน้อยที่สุด 2 เรื่องคือ สัมพันธภาพระหว่างบุคคลและการรับรู้เกี่ยวกับตนเอง ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการพัฒนาแต่ละช่วงวัยของผู้เรียน โดยครูสามารถนำขั้นพัฒนาการตาม 8 ระยะข้างต้น มาส่งเสริมนักเรียนในแต่ละช่วงวัย โดยในการจัดการเรียนการสอนครูควรให้จัดให้มีกิจกรรมให้เด็กได้แสดงออกทั้งในด้านของความคิด ด้านสติปัญญา ด้านความสามารถ ให้อิสระทางความคิดต่อเด็ก ให้เด็กได้สร้างผลงานต่างๆ ด้วยตนเอง ให้เด็กเกิดความภูมิใจในตัวเอง ครูต้องให้ความเชื่อใจและไว้วางใจในตัวเด็ก เพื่อให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเอง มีความเชื่อว่าตัวเองสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ โดยการได้ทดลองได้เรียนรู้จะทำให้เด็กได้รู้จักตนเองว่าตนมีความชอบหรือมีความสนใจในด้านไหน และครูควรคอยส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาในสิ่งที่ตนชอบ ในการอยู่ร่วมกันในสังคมครูควรมีการจัดให้เด็กใช้กิจกรรมกลุ่มโดยให้เด็กแต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบของตนเอง เพื่อให้เด็กรู้สึกมีส่วนร่วมในสังคม ทฤษฎีพัฒนาการตามวัยของโรเบิร์ต เจ ฮาวิกเฮิร์ต โรเบิร์ต ฮาวิกเฮิร์ส เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนจะต้องทำงานตามวัย โดยเรียกสิ่งนี้ว่า “งานพัฒนาการ” หมายถึง งานที่ทุกคนจะต้องทำในแต่ละวัยของชีวิต ซึ่งสัมฤทธิ์ผลของงานพัฒนาการของงานแต่ละวัย มีความสำคัญมากเพราะเป็นของการเรียนรู้งานพัฒนาขั้นต่อไป โดยได้การแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ ออกเป็น 4 ด้านใหญ่ๆ ได้แก่ พัฒนาการทางกาย เป็นการแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ตามขั้นตอนในแต่ละวัน พัฒนาการทางด้านความคิดหรือสติปัญญา พัฒนาการทางด้านจิตใจ ซึ่งแบ่งย่อยเป็น 3.1 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-เพศ (Psychosexual Development) 3.2 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-สังคม (Psychosocial Development) พัฒนาการด้านจริยธรรม (Moral Development) ซึ่งพัฒนาการของมนุษย์นั้น แบ่งได้เป็น 6 ช่วงอายุ คือ วัยเด็กเล็ก-วัยเด็กตอนต้น (แรกเกิด- 6 ปี) วัยเด็กตอนกลาง (6-18 ปี) วัยรุ่น (12-18 ปี) วัยผู้ใหญ่ตอนต้น (18-35 ปี) วัยกลางคน (35-60 ปี) วัยชรา (อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เพราะการเรียนรู้ในแต่ละช่วงวัยนั้นมีความสำคัญอย่างมากสำหรับแนวคิดของโรเบิร์ตดังนั้น การจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยจึงสำคัญ ซึ่งหนึ่งในผู้ที่จะทำให้เด็กมองเห็นพฤติกรรมที่เหมาะได้หนึ่งในนั้นก็คือ “ครูผู้สอน” -โดยในห้องเรียนครูจะเป็นตัวแบบที่มีอิทธิพลมากที่สุด ครูควรคำนึงอยู่เสมอว่า การเรียนรู้โดยการสังเกตและเลียนแบบจะเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ว่าครูจะไม่ได้ตั้งวัตถุประสงค์ไว้ก็ตาม – การสอนแบบสาธิตปฏิบัติเป็นการสอนโดยใช้หลักการและขั้นตอนตามทฤษฎี ครูต้องแสดงตัวอย่างพฤติกรรมที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดการแสดงพฤติกรรมเลียนแบบที่มีประสิทธิภาพ เพราะหากครูเกิดความผิดพลาดแล้วบอกให้ผู้เรียนไม่ต้องทำตาม แต่การกระทำเหล่านั้นก็ผ่านการสังเกตและการรับรู้ของผู้เรียนไปแล้ว -นอกจากครูแล้ว ควรใช้ผู้เรียนด้วยกันเป็นตัวแบบได้ในบางกรณี โดยธรรมชาติเพื่อนในชั้นเรียนย่อมมีอิทธิพลต่อการเลียนแบบสูงอยู่แล้ว ครูควรพยายามใช้ทักษะจูงใจให้ผู้เรียนสนใจและเลียนแบบเพื่อนที่มีพฤติกรรมที่ดี โดยอาจเป็นการชี้ทางด้วยการชื่นชมนักเรียนที่มีพฤติกรรมต้นแบบที่ดีเพื่อให้นักเรียนคนอื่นๆได้มองเห็นได้อีกด้วย ทฤษฎีพัฒนาจริยธรรมของโคลเบิร์ก (Kolberg) โคลเบิร์ก (Kolberg) เป็นนักจิตวิทยากลุ่มปัญญานิยม (cognitivism) ซึ่งมีความเชื่อพื้นฐานว่า มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีสมอง สามารถเกิดการเรียนรู้ เพื่อการปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมได้ เชื่อว่า จริยธรรมนั้นมีพัฒนาการตามระดับวุฒิภาวะ เพราะจริยธรรมของมนุษย์เกิดจากกระบวนการทางปัญญา เมื่อมนุษย์มีการเรียนรู้มากขึ้น โครงสร้างทางปัญญาเพิ่มพูนขึ้น จริยธรรมก็พัฒนาตามวุฒิภาวะนั่นเอง โดยโคลเบิร์ก ได้ศึกษาการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมของเยาวชนอเมริกัน อายุ 10 -16 ปี และได้แบ่งพัฒนาการทางจริยธรรมออกเป็น 3 ระดับ (Levels) แต่ละระดับแบ่งออกเป็น 2 ขั้น (Stages) ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์กมีทั้งหมด 6 ขั้น ได้แก่ ระดับที่ 1 ระดับก่อนกฏเกณฑ์สังคม จะพบในเด็ก 2-10 ปี -ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง -ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ระดับที่ 2 ระดับจริยธรรมตามกฎเกณฑ์สังคม จะพบในวัยรุ่นอายุ 10 -16 ปี -ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม -ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม ระดับที่ 3 ระดับจริยธรรมอย่างมีวิจารณญาณ -ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา -ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล โคลเบิร์ก ได้ทำการวิเคราะห์เหตุผลเชิงจริยธรรม โดยทำการวิเคราะห์คำตอบของเยาวชนอเมริกันอายุ 10-16 ปี และแบ่งประเภทเหตุผลเชิงจริยธรรมไว้ 6 ประเภทคือ ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง ในขั้นนี้เด็กจะใช้ผลตามของพฤติกรรมเป็นเครื่องชี้ว่า พฤติกรรมของตน “ถูก” หรือ “ผิด” ถ้าเด็กถูกทำโทษก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ผิด” พฤติกรรมใดที่มีผลตามด้วยรางวัลหรือคำชม เด็กก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ถูก” ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ในขั้นนี้เด็กจะสนใจทำตามกฎข้อบังคับ เพื่อประโยชน์หรือความพอใจของตนเอง ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม ใช้เหตุผลเลือกทำในสิ่งที่กลุ่มยอมรับโดยเฉพาะเพื่อน เพื่อเป็นที่ชื่นชอบและยอมรับของเพื่อน ไม่เป็นตัวของตัวเอง คล้อยตามการชักจูงของผู้อื่น เพื่อต้องการรักษาสัมพันธภาพที่ดี ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม จะใช้หลักทำตามหน้าที่ของสังคม โดยปฏิบัติตามระเบียบของสังคมอย่างเคร่งครัด เรียนรู้การเป็นหน่วยหนึ่งของสังคม ปฏิบัติตามหน้าที่ของสังคมเพื่อดำรงไว้ซึ่งกฎเกณฑ์ในสังคม ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา ขั้นนี้เน้นถึงความสำคัญของมาตรฐานทางจริยธรรมที่ทุกคนหรือคนส่วนใหญ่ในสังคมยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ถูกสมควรที่จะปฏิบัติตาม ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล ในขั้นนี้สิ่งที่ “ถูก” และ “ผิด” เป็นสิ่งที่ขึ้นมโนธรรมของแต่ละบุคคลที่เลือกยึดถือ ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมจะมีความเกี่ยวข้องกับพัฒนาการทางด้านความคิดเป็นเหตุเป็นผล บุคคลจะมีพัฒนาการทางจริยธรรมเป็นไปตามลำดับ และไม่มีการข้ามขั้น การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก ทำให้ผู้สอนรู้ว่าการรับรู้ของเด็กในแต่ละวัยนั้นแตกต่างกัน เด็กเล็กจะมีการตอบสนองข้อขัดแย้งในเรื่องจริยธรรมแตกต่างจากเด็กโต ซึ่งในการจัดการเรียนรู้นั้นผู้สอนควรกระตุ้นให้เด็กได้สื่อแนวคิดนั้นๆ ออก มาโดยสร้างบรรยากาศที่สามารถกระตุ้นให้ผู้เรียนอภิปรายได้อย่างอิสระ และใช้สถานการณ์ตัวอย่างหรือเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในห้องเรียนมากระตุ้น ให้ผู้เรียนตระหนักถึงการมีจริยธรรมภายในห้องเรียนให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการยกตัวอย่าง การใช้สื่อเข้ามาช่วย รวมไปถึงการเปิดให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็น ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจท์ ทฤษฎีของเพียเจต์เชื่อว่า การเรียนรู้ของเด็กเป็นไปตามพัฒนาการทางสติปัญญาซึ่งจะมีพัฒนาการไปตามวัยต่างๆ เป็นลำดับขั้น พัฒนาการเป็นสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติไม่ควรที่จะเร่งเด็กให้ข้ามจากพัฒนาการจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่ง เพราะจะทำให้เกิดผลเสียแก่เด็ก แต่การจัดประสบการณ์ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในช่วงที่เด็กกำลังจะพัฒนาไปสู่ขั้นที่สูงกว่าสามารถช่วยให้เด็กพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว พัฒนาการทางสติปัญญาของบุคคลเป็นไปตามวัยต่างๆเป็นลำดับขั้น ดังนี้ ขั้นประสาทรับรู้และการเคลื่อนไหว (Sensori-Motor Stage) เริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 ปี พฤติกรรมของเด็กในวัยนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวเป็นส่วนใหญ่ ขั้นก่อนปฏิบัติการคิด (Preoperational Stage) เริ่มตั้งแต่อายุ 2-7 ปี ขั้นปฏิบัติการคิดด้านรูปธรรม (Concrete Operation Stage) เริ่มจากอายุ 7-11 ปี พัฒนาการทางด้านสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้สามารถสร้างกฎเกณฑ์และตั้งเกณฑ์ในการแบ่งสิ่งแวดล้อมออกเป็นหมวดหมู่ได้ ขั้นปฏิบัติการคิดด้วยนามธรรม (Formal Operational Stage) เริ่มจากอายุ 11-15 ปี ในขั้นนี้พัฒนาการทางสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้เป็นขั้นสุดยอด คือเด็กในวัยนี้จะเริ่มคิดแบบผู้ใหญ่ ความคิดแบบเด็กจะสิ้นสุดลง เด็กจะสามารถที่จะคิดหาเหตุผลนอกเหนือไปจากข้อมูลที่มีอยู่ พัฒนาการทางการรู้คิดของเด็กในช่วงอายุ 6 ปีแรกของชีวิต ซึ่งเพียเจต์ ได้ศึกษาไว้เป็นประสบการณ์สำคัญที่เด็กควรได้รับการส่งเสริม มี 6 ขั้น ได้แก่ ขั้นความรู้แตกต่าง (Absolute Differences) เด็กเริ่มรับรู้ในความแตกต่างของสิ่งของที่มองเห็น ขั้นรู้สิ่งตรงกันข้าม (Opposition) ขั้นนี้เด็กรู้ว่าของต่างๆ มีลักษณะตรงกันข้ามเป็น 2 ด้าน เช่น มี-ไม่มี หรือ เล็ก-ใหญ่ ขั้นรู้หลายระดับ (Discrete Degree) เด็กเริ่มรู้จักคิดสิ่งที่เกี่ยวกับลักษณะที่อยู่ตรงกลางระหว่างปลายสุดสอง ปลาย เช่น ปานกลาง น้อย ขั้นความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง (Variation) เด็กสามารถเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ เช่น บอกถึงความเจริญเติบโตของต้นไม้ ขั้นรู้ผลของการกระทำ (Function) ในขั้นนี้เด็กจะเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลง ขั้นการทดแทนอย่างลงตัว (Exact Compensation) เด็กจะรู้ว่าการกระทำให้ของสิ่งหนึ่งเปลี่ยนแปลงย่อมมีผลต่ออีกสิ่งหนึ่งอย่างทัดเทียมกัน การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เมื่อทำงานกับนักเรียน ผู้สอนควรคำนึงถึงพัฒนาการทางสติปัญญาของนักเรียนว่า นักเรียนที่มีอายุเท่ากันอาจมีขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่ควรเปรียบเทียบเด็ก ควรให้เด็กมีอิสระที่จะเรียนรู้และพัฒนาความสามารถของเขาไปตามระดับพัฒนาการของเขา ให้เน้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนโดยต้องเน้นให้นักเรียนใช้ศักยภาพของตนเองให้มากที่สุด สำหรับแนวทางการสอนที่ส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน เช่น -การหัดให้นักเรียนถามคำถามมากกว่าการให้คำตอบ – ครูผู้สอนควรจะพูดให้น้อยลง และฟังนักเรียนให้มากขึ้น – ควรให้เสรีภาพแก่นักเรียนที่จะเลือกเรียนกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเองมากขึ้น ทั้งนี้ผู้สอนต้องเข้าใจว่าระดับความสามารถของนักเรียนแต่ละคนนั้นแตกต่าง และนักเรียนจะมีความสามารถเพิ่มขึ้นในระดับความคิดขั้นต่อไป ดังนั้นการให้เวลาและความสนใจกับพวกเขาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของบรุนเนอร์ บรุนเนอร์ (Bruner) เชื่อว่ามนุษย์เลือกที่จะรับรู้สิ่งที่ตนเองสนใจและการเรียนรู้เกิดจากกระบวนการค้นพบด้วยตัวเอง (discovery learning) แนวคิดที่สำคัญ ๆ ของบรุนเนอร์ ได้แก่ 1) การจัดโครงสร้างของความรู้ให้มีความสัมพันธ์ และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก มีผลต่อการเรียนรู้ของเด็ก 2) การจัดหลักสูตรและการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับระดับความพร้อมของผู้เรียน และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนจะช่วยให้การเรียนรู้เกิดประสิทธิภาพ 3) การคิดแบบหยั่งรู้ (intuition) เป็นการคิดหาเหตุผลอย่างอิสระที่สามารถช่วยพัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ได้ 4) แรงจูงใจภายในเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เรียนประสบผลสำเร็จในการเรียนรู้ 5) ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของมนุษย์แบ่งได้เป็น 3 ขั้นใหญ่ ๆ คือ -ขั้นการเรียนรู้จากการกระทำ (Enactive Stage) คือ ขั้นของการเรียนรู้จากการใช้ประสาทสัมผัสรับรู้สิ่งต่าง ๆ การลงมือกระทำช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้ดี การเรียนรู้เกิดจากการกระทำ -ขั้นการเรียนรู้จากความคิด (Iconic Stage) เป็นขั้นที่เด็กสามารถสร้างมโนภาพในใจได้ และสามารถเรียนรู้จากภาพแทนของจริงได้ -ขั้นการเรียนรู้สัญลักษณ์และนามธรรม (Symbolic Stage) เป็นขั้นการเรียนรู้สิ่งที่ซับซ้อนและเป็นนามธรรมได้ 6) การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากการที่คนเราสามารถสร้างความคิดรวบยอด หรือสามารถจัดประเภทของสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 7) การเรียนรู้ที่ได้ผลดีที่สุด คือ การให้ผู้เรียนค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง (discovery learning) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน -ส่งเสริมกระบวนการค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเองกับผู้เรียน เพราะเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ดีมีความหมายสำหรับผู้เรียน -การวิเคราะห์และจัดโครงสร้างเนื้อหาสาระการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ต้องทำก่อนการสอน -ในการเรียนการสอนควรส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิดอย่างอิสระให้มากเพื่อช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน -การสร้างแรงจูงใจภายในให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน เป็นสิ่งจำเป็นในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แก่ผู้เรียน -การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น -การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้ค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี เช่นการทำกิจกรรมนอกตำรา หรือนอกห้องเรียน ให้เด็กได้ทดลองทำกิจกรรมใหม่ๆ เพื่ค้นหาในสิ่งที่ตัวเองชอบหรือถนัด เป็นต้น นอกจากทฤษฎีทั้ง 5 ที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างเพื่อการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างเหมาะสมแล้ว ก็ยังมีอีกหลายทฤษฎีที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้ เช่น ทฤษฎีหมวก6 ใบ ที่เป็นหนึ่งในทฤษฎีที่สามารถช่วยพัฒนาการคิดและตัดสินใจของผู้เรียน >>> ทฤษฎีหมวก 6 ใบกับการประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาผู้เรียน ขอบคุณข้อมูลจาก : http://yru58.blogspot.com/p/blog-page_5.html : http://oknation.nationtv.tv/blog/shitako/2009/09/14/entry-1 : https://sites.google.com/site/psychologybkf1/home/citwithya-phathnakar/thvsdi-cit-sangkhm-khxng-xi-rik-san : http://nattavut40.blogspot.com/p/kolberg-kolberg-cognitivism-piaget.html : http://gamlovenew.blogspot.com/2015/11/blog-post_11.html : https://www.baanjomyut.com/library_2/intellectual_development_theory/02.html ขอบคุณรูปภาพจาก : https://blog.sharetolearn.com/classroom-resources/five-aspects-of-classroom-management/ : https://www.roscommonchildcare.ie/category/aim/ : https://www.gettingsmart.com/2016/03/shift-to-digital-classroom-look-fors/ EZ Webmaster Related Posts สวนสุนันทา พัฒนา soft skills ทักษะวิศวกรสังคม ระดับผู้นำนักศึกษาให้เป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ คณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญบุรี เปิดรับสาขาการตลาด หลักสูตรเทียบโอน (ภาคพิเศษ) เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ สภามหาวิทยาลัยมอบเกียรติบัตรชื่นชมนักศึกษาสวนสุนันทา ที่สร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัย พยาบาลไทยได้เฮ มีโควตาไปทำงานที่เยอรมนีไม่ต่ำกว่า 200 ตำแหน่งต่อปี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สิ่งที่ยากที่สุดในการเป็นครูคืออะไร จากการสำรวจของ EDUZONES Post navigation PREVIOUS Previous post: แนะ 5 หนังสือสำหรับการเรียนรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษNEXT Next post: ข้อสอบ GED คืออะไร? สอบผ่านแล้วเข้ามหาวิทยาลัยได้เลยจริงหรือ? Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
ม.หอการค้าไทย จัดแข่งบาสเกตบอลชิงถ้วยและเงินรางวัล “3×3 UTCC Championship 2024“ EZ WebmasterMay 3, 2024 หอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เชิญชวนเยาวชนร่วมการแข่งขันบาสเกตบอล แบบ 3 คน ในรายการ “3×3 UTCC Championship 2024” เฟ้นหานักกีฬาดาวรุ่งพัฒนาสู่ระดับอาชีพ และสร้างโอกาสสู่เวทีการแข่งขันระดับนานาชาติต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยได้รับการสนับสนุนจากหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่หอการค้าไทย (YEC) สมาคมกีฬา… สูตร หยิบ/คัด/แยก/เรียง ในการเลือกคณะ Admission EZ WebmasterMay 2, 2024 น้อง ๆ ที่จะเลือกคณะ #TCASรอบ3 แต่ถ้ายังเบลอ ไม่รู้ทำไรก่อนดี พี่แฮนด์แนะนำให้ใช้สูตร หยิบ/คัด/แยก/เรียง เพื่อเป็นตัวช่วยเบื้องต้นก่อนนะครับ . 1. เริ่มจาก #หยิบ ให้เลือกคณะทีชอบ ที่สนใจ เหมือนหยิบของใส่ตะกร้า ชอบอะไรหยิบใส่ไว้ก่อน อะไรสวย… งานเทศกาลกีตาร์คลาสสิก “4th Mahidol International Classical Guitar Forum” โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล EZ WebmasterMay 2, 2024 ประชาสัมพันธ์งานเทศกาลกีตาร์คลาสสิก โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 25 สิงหาคม 2567 ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ในชื่อ “4th Mahidol International Classical Guitar Forum”… นักศึกษา สวนสุนันทา พัฒนา soft skills ทักษะวิศวกรสังคม ระดับผู้นำนักศึกษาให้เป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ tui sakrapeeMay 3, 2024 วันที่ 23 – 26 เมษายน 2567 ณ New Travel Beach Hotel จังหวัดจันทบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดยกองพัฒนานักศึกษาจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนา soft skills โดยใช้ทักษะวิศวกรสังคมระดับผู้นำนักศึกษา โดย… ม.หอการค้าไทย จัดแข่งบาสเกตบอลชิงถ้วยและเงินรางวัล “3×3 UTCC Championship 2024“ EZ WebmasterMay 3, 2024 หอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เชิญชวนเยาวชนร่วมการแข่งขันบาสเกตบอล แบบ 3 คน ในรายการ “3×3 UTCC Championship 2024” เฟ้นหานักกีฬาดาวรุ่งพัฒนาสู่ระดับอาชีพ และสร้างโอกาสสู่เวทีการแข่งขันระดับนานาชาติต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยได้รับการสนับสนุนจากหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่หอการค้าไทย (YEC) สมาคมกีฬา… งานเทศกาลกีตาร์คลาสสิก “4th Mahidol International Classical Guitar Forum” โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล EZ WebmasterMay 2, 2024 ประชาสัมพันธ์งานเทศกาลกีตาร์คลาสสิก โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 25 สิงหาคม 2567 ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ในชื่อ “4th Mahidol International Classical Guitar Forum”… วิศวะมหิดล จัดใหญ่ Mahidol Engineering Maker Expo 2024 โชว์สุดยอดไอเดียสร้างสรรค์จากผลงานนักศึกษาปี 4 EZ WebmasterMay 2, 2024 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเวที Mahidol Engineering Maker Expo 2024 “Capstone Project Presentation” โชว์ผลงานโครงงานวิศวกรรมของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และงานวิจัย รวมถึงเผยแพร่ผลงานวิจัยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การสร้างประโยชน์ต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ที่ครอบคลุมมากถึง… ทุนดีดี ขยายเวลารับทุนเรียนต่อป.โท ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว สหพันธรัฐรัสเซีย tui sakrapeeApril 24, 2024 ประกาศขยายเวลารับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว (Skolkovo Institute of Science and Technology: Skoltech) สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024) หลักสูตรภาษาอังกฤษ ตามที่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ… ม.เทคโนโลยีและการออกแบบแห่งสิงคโปร์ ให้ทุนคนไทยไปศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี tui sakrapeeApril 22, 2024 ประกาศ รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบ แห่งสิงคโปร์ (Singapore University of Technology and Design : SUTD) สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024)… รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH… ครู-อาจารย์ “สกสว. – สวทช” ปั้นกลุ่ม “ผู้จัดการงานวิจัยและนวัตกรรม” จาก 45 หน่วยงาน ผลักดันสู่บทบาทผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและงาน ววน. ของประเทศ EZ WebmasterMay 2, 2024 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมกับ สถาบันพัฒนาบุคลากรแห่งอนาคต สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดกิจกรรมพัฒนาผู้จัดการงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม หรือ RDI Manager เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ กลไกการทำงานระหว่างหน่วยงาน ให้สามารถเชื่อมโยงยกระดับการบริหารจัดการงานวิจัยและนวัตกรรมได้เหมาะสมกับบริบทของหน่วยงานในระบบ ววน. พร้อมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากร ความร่วมมือในการขยายผลการขับเคลื่อนผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งการส่วนร่วมออกแบบแนวทางการขับเคลื่อนมาตรฐานวิชาชีพของ RDI Managers และกิจกรรมศึกษาดูงาน “แนวทางการบริหารงานวิจัยเชิงพื้นที่” บทบาทของกลไกชุมชนและภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนงานเชิงระบบ… น้ำมันเชื้อเพลิงจากยีสต์! ผลงานวิจัยคณะวิทย์ฯ จุฬาฯ จ่อขยายการผลิตเพื่ออุตสาหกรรมอากาศยาน EZ WebmasterApril 30, 2024 นักวิจัย จุฬาฯ ใช้หญ้าอาหารสัตว์ เลี้ยงจุลินทรีย์เพื่อนำไขมันที่ได้มาเปลี่ยนเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ตั้งเป้าขยายการผลิตทดแทนน้ำมันจากปิโตรเลียม ลดผลกระทบทางสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ยีสต์เป็นจุลินทรีย์ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารและเครื่องดื่มหลายประเภท อาทิ ขนมปัง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ในอนาคต ยีสต์จะเป็นกำลังสำคัญในการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงทดแทนพลังงานที่มาจากฟอสซิล ปัจจุบัน นักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีขยายขนาดการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพอากาศยานจากยีสต์ ซึ่งเป็นการต่อยอดผลสำเร็จจากการวิจัยพบยีสต์สายพันธุ์ที่มีศักยภาพสูงในการผลิตไขมันเพื่อนำมาผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน โดยในกระบวนการผลิตน้ำมันจากยีสต์นั้น ยังได้ใช้ของเหลือทิ้งจากภาคการเกษตรมาเป็นอาหารเลี้ยงจุลินทรีย์ นับเป็นการลดปัญหาจากเผาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับของเหลือทิ้งภาคการเกษตรอีกทางหนึ่งด้วย ที่มางานวิจัยผลิตน้ำมันจากยีสต์… สสวท. ชวนครูคณิตศาสตร์มัธยมอบรมฟรี สมัครได้ถึง 30 เม.ย.นี้ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” EZ WebmasterApril 29, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เชิญครูผู้สอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาและผู้สนใจ อบรมหัวข้อ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” ในรูปแบบออนไลน์ สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 เมษายน 2567 อบรมระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2567 ลงทะเบียนและอบรมที่เว็บไซต์ระบบอบรมครู… ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี EZ WebmasterApril 26, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครูและเยาวชนสนุกเรียน สนุกรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี รับปิดเทอมนี้ที่ คลังความรู้ SciMath สสวท. พบสื่อหลากหลายทั้ง อีบุ๊กเพิ่มทักษะ คู่มือครู วีดิทัศน์ คลังภาพ โครงงาน บทเรียนน่ารู้ แผนการสอน แอปพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้พร้อมเกมฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหา เพลิดเพลินเรียนรู้ในโลกออนไลน์ฟรีที่คลังความรู้ SciMath สสวท. https://www.scimath.org กิจกรรม ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน EZ WebmasterMay 3, 2024 ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี! ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ทาง www.vec.go.th… ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search EZ Webmaster March 20, 2020 EZ Webmaster March 20, 2020 5 ทฤษฎีพัฒนากับการส่งเสริมการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับผู้เรียน หลังจากที่ทางเว็บไซต์ได้นำเสนอ 5 ทฤษฎี จาก 5 นักคิด เพื่อการนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนกันไปแล้ว วันนี้ทางเว็บไซต์ eduzones ก็ได้มีทฤษฎีที่สามารถนำมาส่งเสริมและใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้เช่นกันนั่นก็คือ “ทฤษฎีการพัฒนา” วันนี้เราจึงได้นำทฤษฎีพัฒนาจาก 5 นักคิดที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนเพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้อย่างเหมาะสมให้แก่ผู้เรียนสำหรับครูผู้สอนทุกท่านมาฝากกันค่ะ ทฤษฎีจิตสังคมของอีริกสัน นักคิดคนแรกสำหรับทฤษฎีพัฒนา ได้แก่ อิริคสัน นักจิตวิเคราะห์ที่มีชื่อของอเมริกา เป็นผู้วิเคราะห์เกี่ยวกับเด็กเป็นคนแรกในนครบอสตัน เขาเห็นว่าการจะทำความเข้าใจพฤติกรรมเด็ก จะต้องศึกษาจากการอบรมเลี้ยงดู สภาพสังคม และความเป็นอยู่ของเด็ก ปัญหาที่นำมาวิเคราะห์นั้นจะอธิบายเชื่อมโยงระหว่างจิตวิทยากับสังคมวิทยาใน รูปแบบของมนุษย์วิทยาซึ่งมีแนวความคิดว่ามนุษย์ต้องพึ่งสังคมและสังคมก็ต้องพึ่งมนุษย์มนุษย์มีวิวัฒนาการที่สลับซับซ้อนและผ่านขั้นตอนต่างๆ ของธรรมชาติหลายขั้นตอน โดยอีริกสันได้ แบ่งพัฒนาการด้านจิตสังคมของบุคคลเป็น 8 ขั้น ตามช่วงอายุดังนี้ ขั้นที่ 1 ระยะทารก (Infancy period) อายุ 0-2 ปี ในระยะขวบปีแรกทารกจะต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่นในการดูแลเอาใจใส่ทุกด้าน ตลอดจนความรัก และสอนให้ทารกพบกับสิ่งเร้าใหม่ๆ ขั้นที่ 2 วัยเริ่มต้น (Toddler period) อายุ 2-3 ปี ขั้นนี้เด็กเริ่มเรียนรู้ที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง หากได้รับการสนับสนุนและกระตุ้นให้เด็กได้กระทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเองตามสมควร ขั้นที่ 3 ระยะก่อนไปโรงเรียน (Preschool period) อายุ 3-6 ปี เป็นระยะที่เด็กมีการเรียนรู้อย่างกว้างขวาง มีความสัมพันธ์กับเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง มีความอยากรู้อยากเห็น ชอบลองอะไรใหม่ๆ ขั้นที่ 4 ระยะเข้าโรงเรียน (School period) อายุ 6-12 ปี ระยะนี้เด็กเรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์ มีความคิดและพยายามทำกิจกรรมด้วยตัวเอง หากได้รับการสนับสนุนก็ย่อมทำให้เด็กมีการพัฒนาที่ดี ขั้นที่ 5 ระยะวัยรุ่น (Adolescent period) อายุ 12-20 ปี เป็นระยะที่เริ่มสนใจเรื่องเพศ เข้าไปผูกพันกับสังคมและต้องการตำแหน่งทางสังคม ความรู้สึกเป็นอิสระและเป็นตัวของตัวเอง ขั้นที่ 6 ระยะต้นของวัยผู้ใหญ่ (Early adult period) อายุ 20-40 ระยะนี้จะเริ่มมีการนัดหมาย การแต่งงาน และชีวิตครอบครัว หรือทำงานกับผู้อื่นได้ หากสามารถบรรลุอัตลักษณ์ของตนเอง ก็จะสามารถสร้างและแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์อย่างสนิทสนมกับบุคคลอื่นได้ ขั้นที่ 7 ระยะผู้ใหญ่ (Adult period) อายุ 40-60 ปี เป็นระยะที่บุคคลหันมาสนใจกับโลกภายนอก ริเริ่มสร้างสรรค์งานต่างๆ เพื่อสังคม และคิดถึงผู้อื่น ขั้นที่ 8 ระยะวัยสูงอายุ (Aging period) อายุประมาณ 60 ปีขึ้นไป วัยนี้เป็นวัยสุขุม รอบคอบ บุคคลจะยอมรับความเป็นจริงของชีวิต ระลึกถึงความทรงจำในอดีต ถ้าหากประสบความสำเร็จในอดีตก็จะรู้สึกไว้วางใจผู้อื่นและตนเอง และมีความมั่นคงทางจิตใจ การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน สำหรับการประยุกต์ใช้ทฤษฎีพัฒนาการทางจิต สังคมของอีริกสันนั้น แนวคิดนี้ส่งผลให้วงการศึกษาตื่นตัวอย่างน้อยที่สุด 2 เรื่องคือ สัมพันธภาพระหว่างบุคคลและการรับรู้เกี่ยวกับตนเอง ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการพัฒนาแต่ละช่วงวัยของผู้เรียน โดยครูสามารถนำขั้นพัฒนาการตาม 8 ระยะข้างต้น มาส่งเสริมนักเรียนในแต่ละช่วงวัย โดยในการจัดการเรียนการสอนครูควรให้จัดให้มีกิจกรรมให้เด็กได้แสดงออกทั้งในด้านของความคิด ด้านสติปัญญา ด้านความสามารถ ให้อิสระทางความคิดต่อเด็ก ให้เด็กได้สร้างผลงานต่างๆ ด้วยตนเอง ให้เด็กเกิดความภูมิใจในตัวเอง ครูต้องให้ความเชื่อใจและไว้วางใจในตัวเด็ก เพื่อให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเอง มีความเชื่อว่าตัวเองสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ โดยการได้ทดลองได้เรียนรู้จะทำให้เด็กได้รู้จักตนเองว่าตนมีความชอบหรือมีความสนใจในด้านไหน และครูควรคอยส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาในสิ่งที่ตนชอบ ในการอยู่ร่วมกันในสังคมครูควรมีการจัดให้เด็กใช้กิจกรรมกลุ่มโดยให้เด็กแต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบของตนเอง เพื่อให้เด็กรู้สึกมีส่วนร่วมในสังคม ทฤษฎีพัฒนาการตามวัยของโรเบิร์ต เจ ฮาวิกเฮิร์ต โรเบิร์ต ฮาวิกเฮิร์ส เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนจะต้องทำงานตามวัย โดยเรียกสิ่งนี้ว่า “งานพัฒนาการ” หมายถึง งานที่ทุกคนจะต้องทำในแต่ละวัยของชีวิต ซึ่งสัมฤทธิ์ผลของงานพัฒนาการของงานแต่ละวัย มีความสำคัญมากเพราะเป็นของการเรียนรู้งานพัฒนาขั้นต่อไป โดยได้การแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ ออกเป็น 4 ด้านใหญ่ๆ ได้แก่ พัฒนาการทางกาย เป็นการแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ตามขั้นตอนในแต่ละวัน พัฒนาการทางด้านความคิดหรือสติปัญญา พัฒนาการทางด้านจิตใจ ซึ่งแบ่งย่อยเป็น 3.1 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-เพศ (Psychosexual Development) 3.2 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-สังคม (Psychosocial Development) พัฒนาการด้านจริยธรรม (Moral Development) ซึ่งพัฒนาการของมนุษย์นั้น แบ่งได้เป็น 6 ช่วงอายุ คือ วัยเด็กเล็ก-วัยเด็กตอนต้น (แรกเกิด- 6 ปี) วัยเด็กตอนกลาง (6-18 ปี) วัยรุ่น (12-18 ปี) วัยผู้ใหญ่ตอนต้น (18-35 ปี) วัยกลางคน (35-60 ปี) วัยชรา (อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เพราะการเรียนรู้ในแต่ละช่วงวัยนั้นมีความสำคัญอย่างมากสำหรับแนวคิดของโรเบิร์ตดังนั้น การจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยจึงสำคัญ ซึ่งหนึ่งในผู้ที่จะทำให้เด็กมองเห็นพฤติกรรมที่เหมาะได้หนึ่งในนั้นก็คือ “ครูผู้สอน” -โดยในห้องเรียนครูจะเป็นตัวแบบที่มีอิทธิพลมากที่สุด ครูควรคำนึงอยู่เสมอว่า การเรียนรู้โดยการสังเกตและเลียนแบบจะเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ว่าครูจะไม่ได้ตั้งวัตถุประสงค์ไว้ก็ตาม – การสอนแบบสาธิตปฏิบัติเป็นการสอนโดยใช้หลักการและขั้นตอนตามทฤษฎี ครูต้องแสดงตัวอย่างพฤติกรรมที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดการแสดงพฤติกรรมเลียนแบบที่มีประสิทธิภาพ เพราะหากครูเกิดความผิดพลาดแล้วบอกให้ผู้เรียนไม่ต้องทำตาม แต่การกระทำเหล่านั้นก็ผ่านการสังเกตและการรับรู้ของผู้เรียนไปแล้ว -นอกจากครูแล้ว ควรใช้ผู้เรียนด้วยกันเป็นตัวแบบได้ในบางกรณี โดยธรรมชาติเพื่อนในชั้นเรียนย่อมมีอิทธิพลต่อการเลียนแบบสูงอยู่แล้ว ครูควรพยายามใช้ทักษะจูงใจให้ผู้เรียนสนใจและเลียนแบบเพื่อนที่มีพฤติกรรมที่ดี โดยอาจเป็นการชี้ทางด้วยการชื่นชมนักเรียนที่มีพฤติกรรมต้นแบบที่ดีเพื่อให้นักเรียนคนอื่นๆได้มองเห็นได้อีกด้วย ทฤษฎีพัฒนาจริยธรรมของโคลเบิร์ก (Kolberg) โคลเบิร์ก (Kolberg) เป็นนักจิตวิทยากลุ่มปัญญานิยม (cognitivism) ซึ่งมีความเชื่อพื้นฐานว่า มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีสมอง สามารถเกิดการเรียนรู้ เพื่อการปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมได้ เชื่อว่า จริยธรรมนั้นมีพัฒนาการตามระดับวุฒิภาวะ เพราะจริยธรรมของมนุษย์เกิดจากกระบวนการทางปัญญา เมื่อมนุษย์มีการเรียนรู้มากขึ้น โครงสร้างทางปัญญาเพิ่มพูนขึ้น จริยธรรมก็พัฒนาตามวุฒิภาวะนั่นเอง โดยโคลเบิร์ก ได้ศึกษาการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมของเยาวชนอเมริกัน อายุ 10 -16 ปี และได้แบ่งพัฒนาการทางจริยธรรมออกเป็น 3 ระดับ (Levels) แต่ละระดับแบ่งออกเป็น 2 ขั้น (Stages) ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์กมีทั้งหมด 6 ขั้น ได้แก่ ระดับที่ 1 ระดับก่อนกฏเกณฑ์สังคม จะพบในเด็ก 2-10 ปี -ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง -ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ระดับที่ 2 ระดับจริยธรรมตามกฎเกณฑ์สังคม จะพบในวัยรุ่นอายุ 10 -16 ปี -ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม -ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม ระดับที่ 3 ระดับจริยธรรมอย่างมีวิจารณญาณ -ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา -ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล โคลเบิร์ก ได้ทำการวิเคราะห์เหตุผลเชิงจริยธรรม โดยทำการวิเคราะห์คำตอบของเยาวชนอเมริกันอายุ 10-16 ปี และแบ่งประเภทเหตุผลเชิงจริยธรรมไว้ 6 ประเภทคือ ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง ในขั้นนี้เด็กจะใช้ผลตามของพฤติกรรมเป็นเครื่องชี้ว่า พฤติกรรมของตน “ถูก” หรือ “ผิด” ถ้าเด็กถูกทำโทษก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ผิด” พฤติกรรมใดที่มีผลตามด้วยรางวัลหรือคำชม เด็กก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ถูก” ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ในขั้นนี้เด็กจะสนใจทำตามกฎข้อบังคับ เพื่อประโยชน์หรือความพอใจของตนเอง ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม ใช้เหตุผลเลือกทำในสิ่งที่กลุ่มยอมรับโดยเฉพาะเพื่อน เพื่อเป็นที่ชื่นชอบและยอมรับของเพื่อน ไม่เป็นตัวของตัวเอง คล้อยตามการชักจูงของผู้อื่น เพื่อต้องการรักษาสัมพันธภาพที่ดี ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม จะใช้หลักทำตามหน้าที่ของสังคม โดยปฏิบัติตามระเบียบของสังคมอย่างเคร่งครัด เรียนรู้การเป็นหน่วยหนึ่งของสังคม ปฏิบัติตามหน้าที่ของสังคมเพื่อดำรงไว้ซึ่งกฎเกณฑ์ในสังคม ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา ขั้นนี้เน้นถึงความสำคัญของมาตรฐานทางจริยธรรมที่ทุกคนหรือคนส่วนใหญ่ในสังคมยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ถูกสมควรที่จะปฏิบัติตาม ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล ในขั้นนี้สิ่งที่ “ถูก” และ “ผิด” เป็นสิ่งที่ขึ้นมโนธรรมของแต่ละบุคคลที่เลือกยึดถือ ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมจะมีความเกี่ยวข้องกับพัฒนาการทางด้านความคิดเป็นเหตุเป็นผล บุคคลจะมีพัฒนาการทางจริยธรรมเป็นไปตามลำดับ และไม่มีการข้ามขั้น การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก ทำให้ผู้สอนรู้ว่าการรับรู้ของเด็กในแต่ละวัยนั้นแตกต่างกัน เด็กเล็กจะมีการตอบสนองข้อขัดแย้งในเรื่องจริยธรรมแตกต่างจากเด็กโต ซึ่งในการจัดการเรียนรู้นั้นผู้สอนควรกระตุ้นให้เด็กได้สื่อแนวคิดนั้นๆ ออก มาโดยสร้างบรรยากาศที่สามารถกระตุ้นให้ผู้เรียนอภิปรายได้อย่างอิสระ และใช้สถานการณ์ตัวอย่างหรือเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในห้องเรียนมากระตุ้น ให้ผู้เรียนตระหนักถึงการมีจริยธรรมภายในห้องเรียนให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการยกตัวอย่าง การใช้สื่อเข้ามาช่วย รวมไปถึงการเปิดให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็น ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจท์ ทฤษฎีของเพียเจต์เชื่อว่า การเรียนรู้ของเด็กเป็นไปตามพัฒนาการทางสติปัญญาซึ่งจะมีพัฒนาการไปตามวัยต่างๆ เป็นลำดับขั้น พัฒนาการเป็นสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติไม่ควรที่จะเร่งเด็กให้ข้ามจากพัฒนาการจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่ง เพราะจะทำให้เกิดผลเสียแก่เด็ก แต่การจัดประสบการณ์ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในช่วงที่เด็กกำลังจะพัฒนาไปสู่ขั้นที่สูงกว่าสามารถช่วยให้เด็กพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว พัฒนาการทางสติปัญญาของบุคคลเป็นไปตามวัยต่างๆเป็นลำดับขั้น ดังนี้ ขั้นประสาทรับรู้และการเคลื่อนไหว (Sensori-Motor Stage) เริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 ปี พฤติกรรมของเด็กในวัยนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวเป็นส่วนใหญ่ ขั้นก่อนปฏิบัติการคิด (Preoperational Stage) เริ่มตั้งแต่อายุ 2-7 ปี ขั้นปฏิบัติการคิดด้านรูปธรรม (Concrete Operation Stage) เริ่มจากอายุ 7-11 ปี พัฒนาการทางด้านสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้สามารถสร้างกฎเกณฑ์และตั้งเกณฑ์ในการแบ่งสิ่งแวดล้อมออกเป็นหมวดหมู่ได้ ขั้นปฏิบัติการคิดด้วยนามธรรม (Formal Operational Stage) เริ่มจากอายุ 11-15 ปี ในขั้นนี้พัฒนาการทางสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้เป็นขั้นสุดยอด คือเด็กในวัยนี้จะเริ่มคิดแบบผู้ใหญ่ ความคิดแบบเด็กจะสิ้นสุดลง เด็กจะสามารถที่จะคิดหาเหตุผลนอกเหนือไปจากข้อมูลที่มีอยู่ พัฒนาการทางการรู้คิดของเด็กในช่วงอายุ 6 ปีแรกของชีวิต ซึ่งเพียเจต์ ได้ศึกษาไว้เป็นประสบการณ์สำคัญที่เด็กควรได้รับการส่งเสริม มี 6 ขั้น ได้แก่ ขั้นความรู้แตกต่าง (Absolute Differences) เด็กเริ่มรับรู้ในความแตกต่างของสิ่งของที่มองเห็น ขั้นรู้สิ่งตรงกันข้าม (Opposition) ขั้นนี้เด็กรู้ว่าของต่างๆ มีลักษณะตรงกันข้ามเป็น 2 ด้าน เช่น มี-ไม่มี หรือ เล็ก-ใหญ่ ขั้นรู้หลายระดับ (Discrete Degree) เด็กเริ่มรู้จักคิดสิ่งที่เกี่ยวกับลักษณะที่อยู่ตรงกลางระหว่างปลายสุดสอง ปลาย เช่น ปานกลาง น้อย ขั้นความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง (Variation) เด็กสามารถเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ เช่น บอกถึงความเจริญเติบโตของต้นไม้ ขั้นรู้ผลของการกระทำ (Function) ในขั้นนี้เด็กจะเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลง ขั้นการทดแทนอย่างลงตัว (Exact Compensation) เด็กจะรู้ว่าการกระทำให้ของสิ่งหนึ่งเปลี่ยนแปลงย่อมมีผลต่ออีกสิ่งหนึ่งอย่างทัดเทียมกัน การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เมื่อทำงานกับนักเรียน ผู้สอนควรคำนึงถึงพัฒนาการทางสติปัญญาของนักเรียนว่า นักเรียนที่มีอายุเท่ากันอาจมีขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่ควรเปรียบเทียบเด็ก ควรให้เด็กมีอิสระที่จะเรียนรู้และพัฒนาความสามารถของเขาไปตามระดับพัฒนาการของเขา ให้เน้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนโดยต้องเน้นให้นักเรียนใช้ศักยภาพของตนเองให้มากที่สุด สำหรับแนวทางการสอนที่ส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน เช่น -การหัดให้นักเรียนถามคำถามมากกว่าการให้คำตอบ – ครูผู้สอนควรจะพูดให้น้อยลง และฟังนักเรียนให้มากขึ้น – ควรให้เสรีภาพแก่นักเรียนที่จะเลือกเรียนกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเองมากขึ้น ทั้งนี้ผู้สอนต้องเข้าใจว่าระดับความสามารถของนักเรียนแต่ละคนนั้นแตกต่าง และนักเรียนจะมีความสามารถเพิ่มขึ้นในระดับความคิดขั้นต่อไป ดังนั้นการให้เวลาและความสนใจกับพวกเขาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของบรุนเนอร์ บรุนเนอร์ (Bruner) เชื่อว่ามนุษย์เลือกที่จะรับรู้สิ่งที่ตนเองสนใจและการเรียนรู้เกิดจากกระบวนการค้นพบด้วยตัวเอง (discovery learning) แนวคิดที่สำคัญ ๆ ของบรุนเนอร์ ได้แก่ 1) การจัดโครงสร้างของความรู้ให้มีความสัมพันธ์ และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก มีผลต่อการเรียนรู้ของเด็ก 2) การจัดหลักสูตรและการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับระดับความพร้อมของผู้เรียน และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนจะช่วยให้การเรียนรู้เกิดประสิทธิภาพ 3) การคิดแบบหยั่งรู้ (intuition) เป็นการคิดหาเหตุผลอย่างอิสระที่สามารถช่วยพัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ได้ 4) แรงจูงใจภายในเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เรียนประสบผลสำเร็จในการเรียนรู้ 5) ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของมนุษย์แบ่งได้เป็น 3 ขั้นใหญ่ ๆ คือ -ขั้นการเรียนรู้จากการกระทำ (Enactive Stage) คือ ขั้นของการเรียนรู้จากการใช้ประสาทสัมผัสรับรู้สิ่งต่าง ๆ การลงมือกระทำช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้ดี การเรียนรู้เกิดจากการกระทำ -ขั้นการเรียนรู้จากความคิด (Iconic Stage) เป็นขั้นที่เด็กสามารถสร้างมโนภาพในใจได้ และสามารถเรียนรู้จากภาพแทนของจริงได้ -ขั้นการเรียนรู้สัญลักษณ์และนามธรรม (Symbolic Stage) เป็นขั้นการเรียนรู้สิ่งที่ซับซ้อนและเป็นนามธรรมได้ 6) การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากการที่คนเราสามารถสร้างความคิดรวบยอด หรือสามารถจัดประเภทของสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 7) การเรียนรู้ที่ได้ผลดีที่สุด คือ การให้ผู้เรียนค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง (discovery learning) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน -ส่งเสริมกระบวนการค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเองกับผู้เรียน เพราะเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ดีมีความหมายสำหรับผู้เรียน -การวิเคราะห์และจัดโครงสร้างเนื้อหาสาระการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ต้องทำก่อนการสอน -ในการเรียนการสอนควรส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิดอย่างอิสระให้มากเพื่อช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน -การสร้างแรงจูงใจภายในให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน เป็นสิ่งจำเป็นในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แก่ผู้เรียน -การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น -การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้ค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี เช่นการทำกิจกรรมนอกตำรา หรือนอกห้องเรียน ให้เด็กได้ทดลองทำกิจกรรมใหม่ๆ เพื่ค้นหาในสิ่งที่ตัวเองชอบหรือถนัด เป็นต้น นอกจากทฤษฎีทั้ง 5 ที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างเพื่อการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างเหมาะสมแล้ว ก็ยังมีอีกหลายทฤษฎีที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้ เช่น ทฤษฎีหมวก6 ใบ ที่เป็นหนึ่งในทฤษฎีที่สามารถช่วยพัฒนาการคิดและตัดสินใจของผู้เรียน >>> ทฤษฎีหมวก 6 ใบกับการประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาผู้เรียน ขอบคุณข้อมูลจาก : http://yru58.blogspot.com/p/blog-page_5.html : http://oknation.nationtv.tv/blog/shitako/2009/09/14/entry-1 : https://sites.google.com/site/psychologybkf1/home/citwithya-phathnakar/thvsdi-cit-sangkhm-khxng-xi-rik-san : http://nattavut40.blogspot.com/p/kolberg-kolberg-cognitivism-piaget.html : http://gamlovenew.blogspot.com/2015/11/blog-post_11.html : https://www.baanjomyut.com/library_2/intellectual_development_theory/02.html ขอบคุณรูปภาพจาก : https://blog.sharetolearn.com/classroom-resources/five-aspects-of-classroom-management/ : https://www.roscommonchildcare.ie/category/aim/ : https://www.gettingsmart.com/2016/03/shift-to-digital-classroom-look-fors/ EZ Webmaster Related Posts สวนสุนันทา พัฒนา soft skills ทักษะวิศวกรสังคม ระดับผู้นำนักศึกษาให้เป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ คณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญบุรี เปิดรับสาขาการตลาด หลักสูตรเทียบโอน (ภาคพิเศษ) เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ สภามหาวิทยาลัยมอบเกียรติบัตรชื่นชมนักศึกษาสวนสุนันทา ที่สร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัย พยาบาลไทยได้เฮ มีโควตาไปทำงานที่เยอรมนีไม่ต่ำกว่า 200 ตำแหน่งต่อปี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สิ่งที่ยากที่สุดในการเป็นครูคืออะไร จากการสำรวจของ EDUZONES Post navigation PREVIOUS Previous post: แนะ 5 หนังสือสำหรับการเรียนรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษNEXT Next post: ข้อสอบ GED คืออะไร? สอบผ่านแล้วเข้ามหาวิทยาลัยได้เลยจริงหรือ? Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
สูตร หยิบ/คัด/แยก/เรียง ในการเลือกคณะ Admission EZ WebmasterMay 2, 2024 น้อง ๆ ที่จะเลือกคณะ #TCASรอบ3 แต่ถ้ายังเบลอ ไม่รู้ทำไรก่อนดี พี่แฮนด์แนะนำให้ใช้สูตร หยิบ/คัด/แยก/เรียง เพื่อเป็นตัวช่วยเบื้องต้นก่อนนะครับ . 1. เริ่มจาก #หยิบ ให้เลือกคณะทีชอบ ที่สนใจ เหมือนหยิบของใส่ตะกร้า ชอบอะไรหยิบใส่ไว้ก่อน อะไรสวย… งานเทศกาลกีตาร์คลาสสิก “4th Mahidol International Classical Guitar Forum” โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล EZ WebmasterMay 2, 2024 ประชาสัมพันธ์งานเทศกาลกีตาร์คลาสสิก โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 25 สิงหาคม 2567 ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ในชื่อ “4th Mahidol International Classical Guitar Forum”…
งานเทศกาลกีตาร์คลาสสิก “4th Mahidol International Classical Guitar Forum” โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล EZ WebmasterMay 2, 2024 ประชาสัมพันธ์งานเทศกาลกีตาร์คลาสสิก โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 25 สิงหาคม 2567 ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ในชื่อ “4th Mahidol International Classical Guitar Forum”…
สวนสุนันทา พัฒนา soft skills ทักษะวิศวกรสังคม ระดับผู้นำนักศึกษาให้เป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ tui sakrapeeMay 3, 2024 วันที่ 23 – 26 เมษายน 2567 ณ New Travel Beach Hotel จังหวัดจันทบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดยกองพัฒนานักศึกษาจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนา soft skills โดยใช้ทักษะวิศวกรสังคมระดับผู้นำนักศึกษา โดย… ม.หอการค้าไทย จัดแข่งบาสเกตบอลชิงถ้วยและเงินรางวัล “3×3 UTCC Championship 2024“ EZ WebmasterMay 3, 2024 หอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เชิญชวนเยาวชนร่วมการแข่งขันบาสเกตบอล แบบ 3 คน ในรายการ “3×3 UTCC Championship 2024” เฟ้นหานักกีฬาดาวรุ่งพัฒนาสู่ระดับอาชีพ และสร้างโอกาสสู่เวทีการแข่งขันระดับนานาชาติต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยได้รับการสนับสนุนจากหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่หอการค้าไทย (YEC) สมาคมกีฬา… งานเทศกาลกีตาร์คลาสสิก “4th Mahidol International Classical Guitar Forum” โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล EZ WebmasterMay 2, 2024 ประชาสัมพันธ์งานเทศกาลกีตาร์คลาสสิก โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 25 สิงหาคม 2567 ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ในชื่อ “4th Mahidol International Classical Guitar Forum”… วิศวะมหิดล จัดใหญ่ Mahidol Engineering Maker Expo 2024 โชว์สุดยอดไอเดียสร้างสรรค์จากผลงานนักศึกษาปี 4 EZ WebmasterMay 2, 2024 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเวที Mahidol Engineering Maker Expo 2024 “Capstone Project Presentation” โชว์ผลงานโครงงานวิศวกรรมของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และงานวิจัย รวมถึงเผยแพร่ผลงานวิจัยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การสร้างประโยชน์ต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ที่ครอบคลุมมากถึง… ทุนดีดี ขยายเวลารับทุนเรียนต่อป.โท ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว สหพันธรัฐรัสเซีย tui sakrapeeApril 24, 2024 ประกาศขยายเวลารับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว (Skolkovo Institute of Science and Technology: Skoltech) สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024) หลักสูตรภาษาอังกฤษ ตามที่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ… ม.เทคโนโลยีและการออกแบบแห่งสิงคโปร์ ให้ทุนคนไทยไปศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี tui sakrapeeApril 22, 2024 ประกาศ รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบ แห่งสิงคโปร์ (Singapore University of Technology and Design : SUTD) สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024)… รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH… ครู-อาจารย์ “สกสว. – สวทช” ปั้นกลุ่ม “ผู้จัดการงานวิจัยและนวัตกรรม” จาก 45 หน่วยงาน ผลักดันสู่บทบาทผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและงาน ววน. ของประเทศ EZ WebmasterMay 2, 2024 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมกับ สถาบันพัฒนาบุคลากรแห่งอนาคต สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดกิจกรรมพัฒนาผู้จัดการงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม หรือ RDI Manager เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ กลไกการทำงานระหว่างหน่วยงาน ให้สามารถเชื่อมโยงยกระดับการบริหารจัดการงานวิจัยและนวัตกรรมได้เหมาะสมกับบริบทของหน่วยงานในระบบ ววน. พร้อมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากร ความร่วมมือในการขยายผลการขับเคลื่อนผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งการส่วนร่วมออกแบบแนวทางการขับเคลื่อนมาตรฐานวิชาชีพของ RDI Managers และกิจกรรมศึกษาดูงาน “แนวทางการบริหารงานวิจัยเชิงพื้นที่” บทบาทของกลไกชุมชนและภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนงานเชิงระบบ… น้ำมันเชื้อเพลิงจากยีสต์! ผลงานวิจัยคณะวิทย์ฯ จุฬาฯ จ่อขยายการผลิตเพื่ออุตสาหกรรมอากาศยาน EZ WebmasterApril 30, 2024 นักวิจัย จุฬาฯ ใช้หญ้าอาหารสัตว์ เลี้ยงจุลินทรีย์เพื่อนำไขมันที่ได้มาเปลี่ยนเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ตั้งเป้าขยายการผลิตทดแทนน้ำมันจากปิโตรเลียม ลดผลกระทบทางสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ยีสต์เป็นจุลินทรีย์ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารและเครื่องดื่มหลายประเภท อาทิ ขนมปัง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ในอนาคต ยีสต์จะเป็นกำลังสำคัญในการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงทดแทนพลังงานที่มาจากฟอสซิล ปัจจุบัน นักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีขยายขนาดการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพอากาศยานจากยีสต์ ซึ่งเป็นการต่อยอดผลสำเร็จจากการวิจัยพบยีสต์สายพันธุ์ที่มีศักยภาพสูงในการผลิตไขมันเพื่อนำมาผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน โดยในกระบวนการผลิตน้ำมันจากยีสต์นั้น ยังได้ใช้ของเหลือทิ้งจากภาคการเกษตรมาเป็นอาหารเลี้ยงจุลินทรีย์ นับเป็นการลดปัญหาจากเผาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับของเหลือทิ้งภาคการเกษตรอีกทางหนึ่งด้วย ที่มางานวิจัยผลิตน้ำมันจากยีสต์… สสวท. ชวนครูคณิตศาสตร์มัธยมอบรมฟรี สมัครได้ถึง 30 เม.ย.นี้ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” EZ WebmasterApril 29, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เชิญครูผู้สอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาและผู้สนใจ อบรมหัวข้อ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” ในรูปแบบออนไลน์ สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 เมษายน 2567 อบรมระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2567 ลงทะเบียนและอบรมที่เว็บไซต์ระบบอบรมครู… ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี EZ WebmasterApril 26, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครูและเยาวชนสนุกเรียน สนุกรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี รับปิดเทอมนี้ที่ คลังความรู้ SciMath สสวท. พบสื่อหลากหลายทั้ง อีบุ๊กเพิ่มทักษะ คู่มือครู วีดิทัศน์ คลังภาพ โครงงาน บทเรียนน่ารู้ แผนการสอน แอปพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้พร้อมเกมฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหา เพลิดเพลินเรียนรู้ในโลกออนไลน์ฟรีที่คลังความรู้ SciMath สสวท. https://www.scimath.org กิจกรรม ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน EZ WebmasterMay 3, 2024 ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี! ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ทาง www.vec.go.th… ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search EZ Webmaster March 20, 2020 EZ Webmaster March 20, 2020 5 ทฤษฎีพัฒนากับการส่งเสริมการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับผู้เรียน หลังจากที่ทางเว็บไซต์ได้นำเสนอ 5 ทฤษฎี จาก 5 นักคิด เพื่อการนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนกันไปแล้ว วันนี้ทางเว็บไซต์ eduzones ก็ได้มีทฤษฎีที่สามารถนำมาส่งเสริมและใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้เช่นกันนั่นก็คือ “ทฤษฎีการพัฒนา” วันนี้เราจึงได้นำทฤษฎีพัฒนาจาก 5 นักคิดที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนเพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้อย่างเหมาะสมให้แก่ผู้เรียนสำหรับครูผู้สอนทุกท่านมาฝากกันค่ะ ทฤษฎีจิตสังคมของอีริกสัน นักคิดคนแรกสำหรับทฤษฎีพัฒนา ได้แก่ อิริคสัน นักจิตวิเคราะห์ที่มีชื่อของอเมริกา เป็นผู้วิเคราะห์เกี่ยวกับเด็กเป็นคนแรกในนครบอสตัน เขาเห็นว่าการจะทำความเข้าใจพฤติกรรมเด็ก จะต้องศึกษาจากการอบรมเลี้ยงดู สภาพสังคม และความเป็นอยู่ของเด็ก ปัญหาที่นำมาวิเคราะห์นั้นจะอธิบายเชื่อมโยงระหว่างจิตวิทยากับสังคมวิทยาใน รูปแบบของมนุษย์วิทยาซึ่งมีแนวความคิดว่ามนุษย์ต้องพึ่งสังคมและสังคมก็ต้องพึ่งมนุษย์มนุษย์มีวิวัฒนาการที่สลับซับซ้อนและผ่านขั้นตอนต่างๆ ของธรรมชาติหลายขั้นตอน โดยอีริกสันได้ แบ่งพัฒนาการด้านจิตสังคมของบุคคลเป็น 8 ขั้น ตามช่วงอายุดังนี้ ขั้นที่ 1 ระยะทารก (Infancy period) อายุ 0-2 ปี ในระยะขวบปีแรกทารกจะต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่นในการดูแลเอาใจใส่ทุกด้าน ตลอดจนความรัก และสอนให้ทารกพบกับสิ่งเร้าใหม่ๆ ขั้นที่ 2 วัยเริ่มต้น (Toddler period) อายุ 2-3 ปี ขั้นนี้เด็กเริ่มเรียนรู้ที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง หากได้รับการสนับสนุนและกระตุ้นให้เด็กได้กระทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเองตามสมควร ขั้นที่ 3 ระยะก่อนไปโรงเรียน (Preschool period) อายุ 3-6 ปี เป็นระยะที่เด็กมีการเรียนรู้อย่างกว้างขวาง มีความสัมพันธ์กับเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง มีความอยากรู้อยากเห็น ชอบลองอะไรใหม่ๆ ขั้นที่ 4 ระยะเข้าโรงเรียน (School period) อายุ 6-12 ปี ระยะนี้เด็กเรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์ มีความคิดและพยายามทำกิจกรรมด้วยตัวเอง หากได้รับการสนับสนุนก็ย่อมทำให้เด็กมีการพัฒนาที่ดี ขั้นที่ 5 ระยะวัยรุ่น (Adolescent period) อายุ 12-20 ปี เป็นระยะที่เริ่มสนใจเรื่องเพศ เข้าไปผูกพันกับสังคมและต้องการตำแหน่งทางสังคม ความรู้สึกเป็นอิสระและเป็นตัวของตัวเอง ขั้นที่ 6 ระยะต้นของวัยผู้ใหญ่ (Early adult period) อายุ 20-40 ระยะนี้จะเริ่มมีการนัดหมาย การแต่งงาน และชีวิตครอบครัว หรือทำงานกับผู้อื่นได้ หากสามารถบรรลุอัตลักษณ์ของตนเอง ก็จะสามารถสร้างและแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์อย่างสนิทสนมกับบุคคลอื่นได้ ขั้นที่ 7 ระยะผู้ใหญ่ (Adult period) อายุ 40-60 ปี เป็นระยะที่บุคคลหันมาสนใจกับโลกภายนอก ริเริ่มสร้างสรรค์งานต่างๆ เพื่อสังคม และคิดถึงผู้อื่น ขั้นที่ 8 ระยะวัยสูงอายุ (Aging period) อายุประมาณ 60 ปีขึ้นไป วัยนี้เป็นวัยสุขุม รอบคอบ บุคคลจะยอมรับความเป็นจริงของชีวิต ระลึกถึงความทรงจำในอดีต ถ้าหากประสบความสำเร็จในอดีตก็จะรู้สึกไว้วางใจผู้อื่นและตนเอง และมีความมั่นคงทางจิตใจ การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน สำหรับการประยุกต์ใช้ทฤษฎีพัฒนาการทางจิต สังคมของอีริกสันนั้น แนวคิดนี้ส่งผลให้วงการศึกษาตื่นตัวอย่างน้อยที่สุด 2 เรื่องคือ สัมพันธภาพระหว่างบุคคลและการรับรู้เกี่ยวกับตนเอง ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการพัฒนาแต่ละช่วงวัยของผู้เรียน โดยครูสามารถนำขั้นพัฒนาการตาม 8 ระยะข้างต้น มาส่งเสริมนักเรียนในแต่ละช่วงวัย โดยในการจัดการเรียนการสอนครูควรให้จัดให้มีกิจกรรมให้เด็กได้แสดงออกทั้งในด้านของความคิด ด้านสติปัญญา ด้านความสามารถ ให้อิสระทางความคิดต่อเด็ก ให้เด็กได้สร้างผลงานต่างๆ ด้วยตนเอง ให้เด็กเกิดความภูมิใจในตัวเอง ครูต้องให้ความเชื่อใจและไว้วางใจในตัวเด็ก เพื่อให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเอง มีความเชื่อว่าตัวเองสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ โดยการได้ทดลองได้เรียนรู้จะทำให้เด็กได้รู้จักตนเองว่าตนมีความชอบหรือมีความสนใจในด้านไหน และครูควรคอยส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาในสิ่งที่ตนชอบ ในการอยู่ร่วมกันในสังคมครูควรมีการจัดให้เด็กใช้กิจกรรมกลุ่มโดยให้เด็กแต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบของตนเอง เพื่อให้เด็กรู้สึกมีส่วนร่วมในสังคม ทฤษฎีพัฒนาการตามวัยของโรเบิร์ต เจ ฮาวิกเฮิร์ต โรเบิร์ต ฮาวิกเฮิร์ส เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนจะต้องทำงานตามวัย โดยเรียกสิ่งนี้ว่า “งานพัฒนาการ” หมายถึง งานที่ทุกคนจะต้องทำในแต่ละวัยของชีวิต ซึ่งสัมฤทธิ์ผลของงานพัฒนาการของงานแต่ละวัย มีความสำคัญมากเพราะเป็นของการเรียนรู้งานพัฒนาขั้นต่อไป โดยได้การแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ ออกเป็น 4 ด้านใหญ่ๆ ได้แก่ พัฒนาการทางกาย เป็นการแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ตามขั้นตอนในแต่ละวัน พัฒนาการทางด้านความคิดหรือสติปัญญา พัฒนาการทางด้านจิตใจ ซึ่งแบ่งย่อยเป็น 3.1 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-เพศ (Psychosexual Development) 3.2 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-สังคม (Psychosocial Development) พัฒนาการด้านจริยธรรม (Moral Development) ซึ่งพัฒนาการของมนุษย์นั้น แบ่งได้เป็น 6 ช่วงอายุ คือ วัยเด็กเล็ก-วัยเด็กตอนต้น (แรกเกิด- 6 ปี) วัยเด็กตอนกลาง (6-18 ปี) วัยรุ่น (12-18 ปี) วัยผู้ใหญ่ตอนต้น (18-35 ปี) วัยกลางคน (35-60 ปี) วัยชรา (อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เพราะการเรียนรู้ในแต่ละช่วงวัยนั้นมีความสำคัญอย่างมากสำหรับแนวคิดของโรเบิร์ตดังนั้น การจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยจึงสำคัญ ซึ่งหนึ่งในผู้ที่จะทำให้เด็กมองเห็นพฤติกรรมที่เหมาะได้หนึ่งในนั้นก็คือ “ครูผู้สอน” -โดยในห้องเรียนครูจะเป็นตัวแบบที่มีอิทธิพลมากที่สุด ครูควรคำนึงอยู่เสมอว่า การเรียนรู้โดยการสังเกตและเลียนแบบจะเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ว่าครูจะไม่ได้ตั้งวัตถุประสงค์ไว้ก็ตาม – การสอนแบบสาธิตปฏิบัติเป็นการสอนโดยใช้หลักการและขั้นตอนตามทฤษฎี ครูต้องแสดงตัวอย่างพฤติกรรมที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดการแสดงพฤติกรรมเลียนแบบที่มีประสิทธิภาพ เพราะหากครูเกิดความผิดพลาดแล้วบอกให้ผู้เรียนไม่ต้องทำตาม แต่การกระทำเหล่านั้นก็ผ่านการสังเกตและการรับรู้ของผู้เรียนไปแล้ว -นอกจากครูแล้ว ควรใช้ผู้เรียนด้วยกันเป็นตัวแบบได้ในบางกรณี โดยธรรมชาติเพื่อนในชั้นเรียนย่อมมีอิทธิพลต่อการเลียนแบบสูงอยู่แล้ว ครูควรพยายามใช้ทักษะจูงใจให้ผู้เรียนสนใจและเลียนแบบเพื่อนที่มีพฤติกรรมที่ดี โดยอาจเป็นการชี้ทางด้วยการชื่นชมนักเรียนที่มีพฤติกรรมต้นแบบที่ดีเพื่อให้นักเรียนคนอื่นๆได้มองเห็นได้อีกด้วย ทฤษฎีพัฒนาจริยธรรมของโคลเบิร์ก (Kolberg) โคลเบิร์ก (Kolberg) เป็นนักจิตวิทยากลุ่มปัญญานิยม (cognitivism) ซึ่งมีความเชื่อพื้นฐานว่า มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีสมอง สามารถเกิดการเรียนรู้ เพื่อการปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมได้ เชื่อว่า จริยธรรมนั้นมีพัฒนาการตามระดับวุฒิภาวะ เพราะจริยธรรมของมนุษย์เกิดจากกระบวนการทางปัญญา เมื่อมนุษย์มีการเรียนรู้มากขึ้น โครงสร้างทางปัญญาเพิ่มพูนขึ้น จริยธรรมก็พัฒนาตามวุฒิภาวะนั่นเอง โดยโคลเบิร์ก ได้ศึกษาการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมของเยาวชนอเมริกัน อายุ 10 -16 ปี และได้แบ่งพัฒนาการทางจริยธรรมออกเป็น 3 ระดับ (Levels) แต่ละระดับแบ่งออกเป็น 2 ขั้น (Stages) ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์กมีทั้งหมด 6 ขั้น ได้แก่ ระดับที่ 1 ระดับก่อนกฏเกณฑ์สังคม จะพบในเด็ก 2-10 ปี -ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง -ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ระดับที่ 2 ระดับจริยธรรมตามกฎเกณฑ์สังคม จะพบในวัยรุ่นอายุ 10 -16 ปี -ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม -ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม ระดับที่ 3 ระดับจริยธรรมอย่างมีวิจารณญาณ -ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา -ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล โคลเบิร์ก ได้ทำการวิเคราะห์เหตุผลเชิงจริยธรรม โดยทำการวิเคราะห์คำตอบของเยาวชนอเมริกันอายุ 10-16 ปี และแบ่งประเภทเหตุผลเชิงจริยธรรมไว้ 6 ประเภทคือ ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง ในขั้นนี้เด็กจะใช้ผลตามของพฤติกรรมเป็นเครื่องชี้ว่า พฤติกรรมของตน “ถูก” หรือ “ผิด” ถ้าเด็กถูกทำโทษก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ผิด” พฤติกรรมใดที่มีผลตามด้วยรางวัลหรือคำชม เด็กก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ถูก” ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ในขั้นนี้เด็กจะสนใจทำตามกฎข้อบังคับ เพื่อประโยชน์หรือความพอใจของตนเอง ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม ใช้เหตุผลเลือกทำในสิ่งที่กลุ่มยอมรับโดยเฉพาะเพื่อน เพื่อเป็นที่ชื่นชอบและยอมรับของเพื่อน ไม่เป็นตัวของตัวเอง คล้อยตามการชักจูงของผู้อื่น เพื่อต้องการรักษาสัมพันธภาพที่ดี ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม จะใช้หลักทำตามหน้าที่ของสังคม โดยปฏิบัติตามระเบียบของสังคมอย่างเคร่งครัด เรียนรู้การเป็นหน่วยหนึ่งของสังคม ปฏิบัติตามหน้าที่ของสังคมเพื่อดำรงไว้ซึ่งกฎเกณฑ์ในสังคม ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา ขั้นนี้เน้นถึงความสำคัญของมาตรฐานทางจริยธรรมที่ทุกคนหรือคนส่วนใหญ่ในสังคมยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ถูกสมควรที่จะปฏิบัติตาม ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล ในขั้นนี้สิ่งที่ “ถูก” และ “ผิด” เป็นสิ่งที่ขึ้นมโนธรรมของแต่ละบุคคลที่เลือกยึดถือ ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมจะมีความเกี่ยวข้องกับพัฒนาการทางด้านความคิดเป็นเหตุเป็นผล บุคคลจะมีพัฒนาการทางจริยธรรมเป็นไปตามลำดับ และไม่มีการข้ามขั้น การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก ทำให้ผู้สอนรู้ว่าการรับรู้ของเด็กในแต่ละวัยนั้นแตกต่างกัน เด็กเล็กจะมีการตอบสนองข้อขัดแย้งในเรื่องจริยธรรมแตกต่างจากเด็กโต ซึ่งในการจัดการเรียนรู้นั้นผู้สอนควรกระตุ้นให้เด็กได้สื่อแนวคิดนั้นๆ ออก มาโดยสร้างบรรยากาศที่สามารถกระตุ้นให้ผู้เรียนอภิปรายได้อย่างอิสระ และใช้สถานการณ์ตัวอย่างหรือเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในห้องเรียนมากระตุ้น ให้ผู้เรียนตระหนักถึงการมีจริยธรรมภายในห้องเรียนให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการยกตัวอย่าง การใช้สื่อเข้ามาช่วย รวมไปถึงการเปิดให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็น ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจท์ ทฤษฎีของเพียเจต์เชื่อว่า การเรียนรู้ของเด็กเป็นไปตามพัฒนาการทางสติปัญญาซึ่งจะมีพัฒนาการไปตามวัยต่างๆ เป็นลำดับขั้น พัฒนาการเป็นสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติไม่ควรที่จะเร่งเด็กให้ข้ามจากพัฒนาการจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่ง เพราะจะทำให้เกิดผลเสียแก่เด็ก แต่การจัดประสบการณ์ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในช่วงที่เด็กกำลังจะพัฒนาไปสู่ขั้นที่สูงกว่าสามารถช่วยให้เด็กพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว พัฒนาการทางสติปัญญาของบุคคลเป็นไปตามวัยต่างๆเป็นลำดับขั้น ดังนี้ ขั้นประสาทรับรู้และการเคลื่อนไหว (Sensori-Motor Stage) เริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 ปี พฤติกรรมของเด็กในวัยนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวเป็นส่วนใหญ่ ขั้นก่อนปฏิบัติการคิด (Preoperational Stage) เริ่มตั้งแต่อายุ 2-7 ปี ขั้นปฏิบัติการคิดด้านรูปธรรม (Concrete Operation Stage) เริ่มจากอายุ 7-11 ปี พัฒนาการทางด้านสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้สามารถสร้างกฎเกณฑ์และตั้งเกณฑ์ในการแบ่งสิ่งแวดล้อมออกเป็นหมวดหมู่ได้ ขั้นปฏิบัติการคิดด้วยนามธรรม (Formal Operational Stage) เริ่มจากอายุ 11-15 ปี ในขั้นนี้พัฒนาการทางสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้เป็นขั้นสุดยอด คือเด็กในวัยนี้จะเริ่มคิดแบบผู้ใหญ่ ความคิดแบบเด็กจะสิ้นสุดลง เด็กจะสามารถที่จะคิดหาเหตุผลนอกเหนือไปจากข้อมูลที่มีอยู่ พัฒนาการทางการรู้คิดของเด็กในช่วงอายุ 6 ปีแรกของชีวิต ซึ่งเพียเจต์ ได้ศึกษาไว้เป็นประสบการณ์สำคัญที่เด็กควรได้รับการส่งเสริม มี 6 ขั้น ได้แก่ ขั้นความรู้แตกต่าง (Absolute Differences) เด็กเริ่มรับรู้ในความแตกต่างของสิ่งของที่มองเห็น ขั้นรู้สิ่งตรงกันข้าม (Opposition) ขั้นนี้เด็กรู้ว่าของต่างๆ มีลักษณะตรงกันข้ามเป็น 2 ด้าน เช่น มี-ไม่มี หรือ เล็ก-ใหญ่ ขั้นรู้หลายระดับ (Discrete Degree) เด็กเริ่มรู้จักคิดสิ่งที่เกี่ยวกับลักษณะที่อยู่ตรงกลางระหว่างปลายสุดสอง ปลาย เช่น ปานกลาง น้อย ขั้นความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง (Variation) เด็กสามารถเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ เช่น บอกถึงความเจริญเติบโตของต้นไม้ ขั้นรู้ผลของการกระทำ (Function) ในขั้นนี้เด็กจะเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลง ขั้นการทดแทนอย่างลงตัว (Exact Compensation) เด็กจะรู้ว่าการกระทำให้ของสิ่งหนึ่งเปลี่ยนแปลงย่อมมีผลต่ออีกสิ่งหนึ่งอย่างทัดเทียมกัน การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เมื่อทำงานกับนักเรียน ผู้สอนควรคำนึงถึงพัฒนาการทางสติปัญญาของนักเรียนว่า นักเรียนที่มีอายุเท่ากันอาจมีขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่ควรเปรียบเทียบเด็ก ควรให้เด็กมีอิสระที่จะเรียนรู้และพัฒนาความสามารถของเขาไปตามระดับพัฒนาการของเขา ให้เน้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนโดยต้องเน้นให้นักเรียนใช้ศักยภาพของตนเองให้มากที่สุด สำหรับแนวทางการสอนที่ส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน เช่น -การหัดให้นักเรียนถามคำถามมากกว่าการให้คำตอบ – ครูผู้สอนควรจะพูดให้น้อยลง และฟังนักเรียนให้มากขึ้น – ควรให้เสรีภาพแก่นักเรียนที่จะเลือกเรียนกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเองมากขึ้น ทั้งนี้ผู้สอนต้องเข้าใจว่าระดับความสามารถของนักเรียนแต่ละคนนั้นแตกต่าง และนักเรียนจะมีความสามารถเพิ่มขึ้นในระดับความคิดขั้นต่อไป ดังนั้นการให้เวลาและความสนใจกับพวกเขาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของบรุนเนอร์ บรุนเนอร์ (Bruner) เชื่อว่ามนุษย์เลือกที่จะรับรู้สิ่งที่ตนเองสนใจและการเรียนรู้เกิดจากกระบวนการค้นพบด้วยตัวเอง (discovery learning) แนวคิดที่สำคัญ ๆ ของบรุนเนอร์ ได้แก่ 1) การจัดโครงสร้างของความรู้ให้มีความสัมพันธ์ และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก มีผลต่อการเรียนรู้ของเด็ก 2) การจัดหลักสูตรและการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับระดับความพร้อมของผู้เรียน และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนจะช่วยให้การเรียนรู้เกิดประสิทธิภาพ 3) การคิดแบบหยั่งรู้ (intuition) เป็นการคิดหาเหตุผลอย่างอิสระที่สามารถช่วยพัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ได้ 4) แรงจูงใจภายในเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เรียนประสบผลสำเร็จในการเรียนรู้ 5) ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของมนุษย์แบ่งได้เป็น 3 ขั้นใหญ่ ๆ คือ -ขั้นการเรียนรู้จากการกระทำ (Enactive Stage) คือ ขั้นของการเรียนรู้จากการใช้ประสาทสัมผัสรับรู้สิ่งต่าง ๆ การลงมือกระทำช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้ดี การเรียนรู้เกิดจากการกระทำ -ขั้นการเรียนรู้จากความคิด (Iconic Stage) เป็นขั้นที่เด็กสามารถสร้างมโนภาพในใจได้ และสามารถเรียนรู้จากภาพแทนของจริงได้ -ขั้นการเรียนรู้สัญลักษณ์และนามธรรม (Symbolic Stage) เป็นขั้นการเรียนรู้สิ่งที่ซับซ้อนและเป็นนามธรรมได้ 6) การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากการที่คนเราสามารถสร้างความคิดรวบยอด หรือสามารถจัดประเภทของสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 7) การเรียนรู้ที่ได้ผลดีที่สุด คือ การให้ผู้เรียนค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง (discovery learning) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน -ส่งเสริมกระบวนการค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเองกับผู้เรียน เพราะเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ดีมีความหมายสำหรับผู้เรียน -การวิเคราะห์และจัดโครงสร้างเนื้อหาสาระการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ต้องทำก่อนการสอน -ในการเรียนการสอนควรส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิดอย่างอิสระให้มากเพื่อช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน -การสร้างแรงจูงใจภายในให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน เป็นสิ่งจำเป็นในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แก่ผู้เรียน -การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น -การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้ค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี เช่นการทำกิจกรรมนอกตำรา หรือนอกห้องเรียน ให้เด็กได้ทดลองทำกิจกรรมใหม่ๆ เพื่ค้นหาในสิ่งที่ตัวเองชอบหรือถนัด เป็นต้น นอกจากทฤษฎีทั้ง 5 ที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างเพื่อการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างเหมาะสมแล้ว ก็ยังมีอีกหลายทฤษฎีที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้ เช่น ทฤษฎีหมวก6 ใบ ที่เป็นหนึ่งในทฤษฎีที่สามารถช่วยพัฒนาการคิดและตัดสินใจของผู้เรียน >>> ทฤษฎีหมวก 6 ใบกับการประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาผู้เรียน ขอบคุณข้อมูลจาก : http://yru58.blogspot.com/p/blog-page_5.html : http://oknation.nationtv.tv/blog/shitako/2009/09/14/entry-1 : https://sites.google.com/site/psychologybkf1/home/citwithya-phathnakar/thvsdi-cit-sangkhm-khxng-xi-rik-san : http://nattavut40.blogspot.com/p/kolberg-kolberg-cognitivism-piaget.html : http://gamlovenew.blogspot.com/2015/11/blog-post_11.html : https://www.baanjomyut.com/library_2/intellectual_development_theory/02.html ขอบคุณรูปภาพจาก : https://blog.sharetolearn.com/classroom-resources/five-aspects-of-classroom-management/ : https://www.roscommonchildcare.ie/category/aim/ : https://www.gettingsmart.com/2016/03/shift-to-digital-classroom-look-fors/ EZ Webmaster Related Posts สวนสุนันทา พัฒนา soft skills ทักษะวิศวกรสังคม ระดับผู้นำนักศึกษาให้เป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ คณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญบุรี เปิดรับสาขาการตลาด หลักสูตรเทียบโอน (ภาคพิเศษ) เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ สภามหาวิทยาลัยมอบเกียรติบัตรชื่นชมนักศึกษาสวนสุนันทา ที่สร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัย พยาบาลไทยได้เฮ มีโควตาไปทำงานที่เยอรมนีไม่ต่ำกว่า 200 ตำแหน่งต่อปี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สิ่งที่ยากที่สุดในการเป็นครูคืออะไร จากการสำรวจของ EDUZONES Post navigation PREVIOUS Previous post: แนะ 5 หนังสือสำหรับการเรียนรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษNEXT Next post: ข้อสอบ GED คืออะไร? สอบผ่านแล้วเข้ามหาวิทยาลัยได้เลยจริงหรือ? Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
ม.หอการค้าไทย จัดแข่งบาสเกตบอลชิงถ้วยและเงินรางวัล “3×3 UTCC Championship 2024“ EZ WebmasterMay 3, 2024 หอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เชิญชวนเยาวชนร่วมการแข่งขันบาสเกตบอล แบบ 3 คน ในรายการ “3×3 UTCC Championship 2024” เฟ้นหานักกีฬาดาวรุ่งพัฒนาสู่ระดับอาชีพ และสร้างโอกาสสู่เวทีการแข่งขันระดับนานาชาติต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยได้รับการสนับสนุนจากหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่หอการค้าไทย (YEC) สมาคมกีฬา… งานเทศกาลกีตาร์คลาสสิก “4th Mahidol International Classical Guitar Forum” โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล EZ WebmasterMay 2, 2024 ประชาสัมพันธ์งานเทศกาลกีตาร์คลาสสิก โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 25 สิงหาคม 2567 ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ในชื่อ “4th Mahidol International Classical Guitar Forum”… วิศวะมหิดล จัดใหญ่ Mahidol Engineering Maker Expo 2024 โชว์สุดยอดไอเดียสร้างสรรค์จากผลงานนักศึกษาปี 4 EZ WebmasterMay 2, 2024 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเวที Mahidol Engineering Maker Expo 2024 “Capstone Project Presentation” โชว์ผลงานโครงงานวิศวกรรมของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และงานวิจัย รวมถึงเผยแพร่ผลงานวิจัยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การสร้างประโยชน์ต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ที่ครอบคลุมมากถึง… ทุนดีดี ขยายเวลารับทุนเรียนต่อป.โท ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว สหพันธรัฐรัสเซีย tui sakrapeeApril 24, 2024 ประกาศขยายเวลารับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว (Skolkovo Institute of Science and Technology: Skoltech) สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024) หลักสูตรภาษาอังกฤษ ตามที่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ… ม.เทคโนโลยีและการออกแบบแห่งสิงคโปร์ ให้ทุนคนไทยไปศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี tui sakrapeeApril 22, 2024 ประกาศ รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบ แห่งสิงคโปร์ (Singapore University of Technology and Design : SUTD) สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024)… รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH… ครู-อาจารย์ “สกสว. – สวทช” ปั้นกลุ่ม “ผู้จัดการงานวิจัยและนวัตกรรม” จาก 45 หน่วยงาน ผลักดันสู่บทบาทผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและงาน ววน. ของประเทศ EZ WebmasterMay 2, 2024 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมกับ สถาบันพัฒนาบุคลากรแห่งอนาคต สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดกิจกรรมพัฒนาผู้จัดการงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม หรือ RDI Manager เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ กลไกการทำงานระหว่างหน่วยงาน ให้สามารถเชื่อมโยงยกระดับการบริหารจัดการงานวิจัยและนวัตกรรมได้เหมาะสมกับบริบทของหน่วยงานในระบบ ววน. พร้อมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากร ความร่วมมือในการขยายผลการขับเคลื่อนผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งการส่วนร่วมออกแบบแนวทางการขับเคลื่อนมาตรฐานวิชาชีพของ RDI Managers และกิจกรรมศึกษาดูงาน “แนวทางการบริหารงานวิจัยเชิงพื้นที่” บทบาทของกลไกชุมชนและภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนงานเชิงระบบ… น้ำมันเชื้อเพลิงจากยีสต์! ผลงานวิจัยคณะวิทย์ฯ จุฬาฯ จ่อขยายการผลิตเพื่ออุตสาหกรรมอากาศยาน EZ WebmasterApril 30, 2024 นักวิจัย จุฬาฯ ใช้หญ้าอาหารสัตว์ เลี้ยงจุลินทรีย์เพื่อนำไขมันที่ได้มาเปลี่ยนเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ตั้งเป้าขยายการผลิตทดแทนน้ำมันจากปิโตรเลียม ลดผลกระทบทางสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ยีสต์เป็นจุลินทรีย์ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารและเครื่องดื่มหลายประเภท อาทิ ขนมปัง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ในอนาคต ยีสต์จะเป็นกำลังสำคัญในการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงทดแทนพลังงานที่มาจากฟอสซิล ปัจจุบัน นักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีขยายขนาดการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพอากาศยานจากยีสต์ ซึ่งเป็นการต่อยอดผลสำเร็จจากการวิจัยพบยีสต์สายพันธุ์ที่มีศักยภาพสูงในการผลิตไขมันเพื่อนำมาผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน โดยในกระบวนการผลิตน้ำมันจากยีสต์นั้น ยังได้ใช้ของเหลือทิ้งจากภาคการเกษตรมาเป็นอาหารเลี้ยงจุลินทรีย์ นับเป็นการลดปัญหาจากเผาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับของเหลือทิ้งภาคการเกษตรอีกทางหนึ่งด้วย ที่มางานวิจัยผลิตน้ำมันจากยีสต์… สสวท. ชวนครูคณิตศาสตร์มัธยมอบรมฟรี สมัครได้ถึง 30 เม.ย.นี้ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” EZ WebmasterApril 29, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เชิญครูผู้สอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาและผู้สนใจ อบรมหัวข้อ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” ในรูปแบบออนไลน์ สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 เมษายน 2567 อบรมระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2567 ลงทะเบียนและอบรมที่เว็บไซต์ระบบอบรมครู… ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี EZ WebmasterApril 26, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครูและเยาวชนสนุกเรียน สนุกรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี รับปิดเทอมนี้ที่ คลังความรู้ SciMath สสวท. พบสื่อหลากหลายทั้ง อีบุ๊กเพิ่มทักษะ คู่มือครู วีดิทัศน์ คลังภาพ โครงงาน บทเรียนน่ารู้ แผนการสอน แอปพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้พร้อมเกมฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหา เพลิดเพลินเรียนรู้ในโลกออนไลน์ฟรีที่คลังความรู้ SciMath สสวท. https://www.scimath.org กิจกรรม ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน EZ WebmasterMay 3, 2024 ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี! ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ทาง www.vec.go.th… ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search EZ Webmaster March 20, 2020 EZ Webmaster March 20, 2020 5 ทฤษฎีพัฒนากับการส่งเสริมการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับผู้เรียน หลังจากที่ทางเว็บไซต์ได้นำเสนอ 5 ทฤษฎี จาก 5 นักคิด เพื่อการนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนกันไปแล้ว วันนี้ทางเว็บไซต์ eduzones ก็ได้มีทฤษฎีที่สามารถนำมาส่งเสริมและใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้เช่นกันนั่นก็คือ “ทฤษฎีการพัฒนา” วันนี้เราจึงได้นำทฤษฎีพัฒนาจาก 5 นักคิดที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนเพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้อย่างเหมาะสมให้แก่ผู้เรียนสำหรับครูผู้สอนทุกท่านมาฝากกันค่ะ ทฤษฎีจิตสังคมของอีริกสัน นักคิดคนแรกสำหรับทฤษฎีพัฒนา ได้แก่ อิริคสัน นักจิตวิเคราะห์ที่มีชื่อของอเมริกา เป็นผู้วิเคราะห์เกี่ยวกับเด็กเป็นคนแรกในนครบอสตัน เขาเห็นว่าการจะทำความเข้าใจพฤติกรรมเด็ก จะต้องศึกษาจากการอบรมเลี้ยงดู สภาพสังคม และความเป็นอยู่ของเด็ก ปัญหาที่นำมาวิเคราะห์นั้นจะอธิบายเชื่อมโยงระหว่างจิตวิทยากับสังคมวิทยาใน รูปแบบของมนุษย์วิทยาซึ่งมีแนวความคิดว่ามนุษย์ต้องพึ่งสังคมและสังคมก็ต้องพึ่งมนุษย์มนุษย์มีวิวัฒนาการที่สลับซับซ้อนและผ่านขั้นตอนต่างๆ ของธรรมชาติหลายขั้นตอน โดยอีริกสันได้ แบ่งพัฒนาการด้านจิตสังคมของบุคคลเป็น 8 ขั้น ตามช่วงอายุดังนี้ ขั้นที่ 1 ระยะทารก (Infancy period) อายุ 0-2 ปี ในระยะขวบปีแรกทารกจะต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่นในการดูแลเอาใจใส่ทุกด้าน ตลอดจนความรัก และสอนให้ทารกพบกับสิ่งเร้าใหม่ๆ ขั้นที่ 2 วัยเริ่มต้น (Toddler period) อายุ 2-3 ปี ขั้นนี้เด็กเริ่มเรียนรู้ที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง หากได้รับการสนับสนุนและกระตุ้นให้เด็กได้กระทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเองตามสมควร ขั้นที่ 3 ระยะก่อนไปโรงเรียน (Preschool period) อายุ 3-6 ปี เป็นระยะที่เด็กมีการเรียนรู้อย่างกว้างขวาง มีความสัมพันธ์กับเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง มีความอยากรู้อยากเห็น ชอบลองอะไรใหม่ๆ ขั้นที่ 4 ระยะเข้าโรงเรียน (School period) อายุ 6-12 ปี ระยะนี้เด็กเรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์ มีความคิดและพยายามทำกิจกรรมด้วยตัวเอง หากได้รับการสนับสนุนก็ย่อมทำให้เด็กมีการพัฒนาที่ดี ขั้นที่ 5 ระยะวัยรุ่น (Adolescent period) อายุ 12-20 ปี เป็นระยะที่เริ่มสนใจเรื่องเพศ เข้าไปผูกพันกับสังคมและต้องการตำแหน่งทางสังคม ความรู้สึกเป็นอิสระและเป็นตัวของตัวเอง ขั้นที่ 6 ระยะต้นของวัยผู้ใหญ่ (Early adult period) อายุ 20-40 ระยะนี้จะเริ่มมีการนัดหมาย การแต่งงาน และชีวิตครอบครัว หรือทำงานกับผู้อื่นได้ หากสามารถบรรลุอัตลักษณ์ของตนเอง ก็จะสามารถสร้างและแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์อย่างสนิทสนมกับบุคคลอื่นได้ ขั้นที่ 7 ระยะผู้ใหญ่ (Adult period) อายุ 40-60 ปี เป็นระยะที่บุคคลหันมาสนใจกับโลกภายนอก ริเริ่มสร้างสรรค์งานต่างๆ เพื่อสังคม และคิดถึงผู้อื่น ขั้นที่ 8 ระยะวัยสูงอายุ (Aging period) อายุประมาณ 60 ปีขึ้นไป วัยนี้เป็นวัยสุขุม รอบคอบ บุคคลจะยอมรับความเป็นจริงของชีวิต ระลึกถึงความทรงจำในอดีต ถ้าหากประสบความสำเร็จในอดีตก็จะรู้สึกไว้วางใจผู้อื่นและตนเอง และมีความมั่นคงทางจิตใจ การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน สำหรับการประยุกต์ใช้ทฤษฎีพัฒนาการทางจิต สังคมของอีริกสันนั้น แนวคิดนี้ส่งผลให้วงการศึกษาตื่นตัวอย่างน้อยที่สุด 2 เรื่องคือ สัมพันธภาพระหว่างบุคคลและการรับรู้เกี่ยวกับตนเอง ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการพัฒนาแต่ละช่วงวัยของผู้เรียน โดยครูสามารถนำขั้นพัฒนาการตาม 8 ระยะข้างต้น มาส่งเสริมนักเรียนในแต่ละช่วงวัย โดยในการจัดการเรียนการสอนครูควรให้จัดให้มีกิจกรรมให้เด็กได้แสดงออกทั้งในด้านของความคิด ด้านสติปัญญา ด้านความสามารถ ให้อิสระทางความคิดต่อเด็ก ให้เด็กได้สร้างผลงานต่างๆ ด้วยตนเอง ให้เด็กเกิดความภูมิใจในตัวเอง ครูต้องให้ความเชื่อใจและไว้วางใจในตัวเด็ก เพื่อให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเอง มีความเชื่อว่าตัวเองสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ โดยการได้ทดลองได้เรียนรู้จะทำให้เด็กได้รู้จักตนเองว่าตนมีความชอบหรือมีความสนใจในด้านไหน และครูควรคอยส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาในสิ่งที่ตนชอบ ในการอยู่ร่วมกันในสังคมครูควรมีการจัดให้เด็กใช้กิจกรรมกลุ่มโดยให้เด็กแต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบของตนเอง เพื่อให้เด็กรู้สึกมีส่วนร่วมในสังคม ทฤษฎีพัฒนาการตามวัยของโรเบิร์ต เจ ฮาวิกเฮิร์ต โรเบิร์ต ฮาวิกเฮิร์ส เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนจะต้องทำงานตามวัย โดยเรียกสิ่งนี้ว่า “งานพัฒนาการ” หมายถึง งานที่ทุกคนจะต้องทำในแต่ละวัยของชีวิต ซึ่งสัมฤทธิ์ผลของงานพัฒนาการของงานแต่ละวัย มีความสำคัญมากเพราะเป็นของการเรียนรู้งานพัฒนาขั้นต่อไป โดยได้การแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ ออกเป็น 4 ด้านใหญ่ๆ ได้แก่ พัฒนาการทางกาย เป็นการแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ตามขั้นตอนในแต่ละวัน พัฒนาการทางด้านความคิดหรือสติปัญญา พัฒนาการทางด้านจิตใจ ซึ่งแบ่งย่อยเป็น 3.1 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-เพศ (Psychosexual Development) 3.2 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-สังคม (Psychosocial Development) พัฒนาการด้านจริยธรรม (Moral Development) ซึ่งพัฒนาการของมนุษย์นั้น แบ่งได้เป็น 6 ช่วงอายุ คือ วัยเด็กเล็ก-วัยเด็กตอนต้น (แรกเกิด- 6 ปี) วัยเด็กตอนกลาง (6-18 ปี) วัยรุ่น (12-18 ปี) วัยผู้ใหญ่ตอนต้น (18-35 ปี) วัยกลางคน (35-60 ปี) วัยชรา (อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เพราะการเรียนรู้ในแต่ละช่วงวัยนั้นมีความสำคัญอย่างมากสำหรับแนวคิดของโรเบิร์ตดังนั้น การจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยจึงสำคัญ ซึ่งหนึ่งในผู้ที่จะทำให้เด็กมองเห็นพฤติกรรมที่เหมาะได้หนึ่งในนั้นก็คือ “ครูผู้สอน” -โดยในห้องเรียนครูจะเป็นตัวแบบที่มีอิทธิพลมากที่สุด ครูควรคำนึงอยู่เสมอว่า การเรียนรู้โดยการสังเกตและเลียนแบบจะเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ว่าครูจะไม่ได้ตั้งวัตถุประสงค์ไว้ก็ตาม – การสอนแบบสาธิตปฏิบัติเป็นการสอนโดยใช้หลักการและขั้นตอนตามทฤษฎี ครูต้องแสดงตัวอย่างพฤติกรรมที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดการแสดงพฤติกรรมเลียนแบบที่มีประสิทธิภาพ เพราะหากครูเกิดความผิดพลาดแล้วบอกให้ผู้เรียนไม่ต้องทำตาม แต่การกระทำเหล่านั้นก็ผ่านการสังเกตและการรับรู้ของผู้เรียนไปแล้ว -นอกจากครูแล้ว ควรใช้ผู้เรียนด้วยกันเป็นตัวแบบได้ในบางกรณี โดยธรรมชาติเพื่อนในชั้นเรียนย่อมมีอิทธิพลต่อการเลียนแบบสูงอยู่แล้ว ครูควรพยายามใช้ทักษะจูงใจให้ผู้เรียนสนใจและเลียนแบบเพื่อนที่มีพฤติกรรมที่ดี โดยอาจเป็นการชี้ทางด้วยการชื่นชมนักเรียนที่มีพฤติกรรมต้นแบบที่ดีเพื่อให้นักเรียนคนอื่นๆได้มองเห็นได้อีกด้วย ทฤษฎีพัฒนาจริยธรรมของโคลเบิร์ก (Kolberg) โคลเบิร์ก (Kolberg) เป็นนักจิตวิทยากลุ่มปัญญานิยม (cognitivism) ซึ่งมีความเชื่อพื้นฐานว่า มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีสมอง สามารถเกิดการเรียนรู้ เพื่อการปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมได้ เชื่อว่า จริยธรรมนั้นมีพัฒนาการตามระดับวุฒิภาวะ เพราะจริยธรรมของมนุษย์เกิดจากกระบวนการทางปัญญา เมื่อมนุษย์มีการเรียนรู้มากขึ้น โครงสร้างทางปัญญาเพิ่มพูนขึ้น จริยธรรมก็พัฒนาตามวุฒิภาวะนั่นเอง โดยโคลเบิร์ก ได้ศึกษาการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมของเยาวชนอเมริกัน อายุ 10 -16 ปี และได้แบ่งพัฒนาการทางจริยธรรมออกเป็น 3 ระดับ (Levels) แต่ละระดับแบ่งออกเป็น 2 ขั้น (Stages) ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์กมีทั้งหมด 6 ขั้น ได้แก่ ระดับที่ 1 ระดับก่อนกฏเกณฑ์สังคม จะพบในเด็ก 2-10 ปี -ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง -ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ระดับที่ 2 ระดับจริยธรรมตามกฎเกณฑ์สังคม จะพบในวัยรุ่นอายุ 10 -16 ปี -ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม -ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม ระดับที่ 3 ระดับจริยธรรมอย่างมีวิจารณญาณ -ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา -ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล โคลเบิร์ก ได้ทำการวิเคราะห์เหตุผลเชิงจริยธรรม โดยทำการวิเคราะห์คำตอบของเยาวชนอเมริกันอายุ 10-16 ปี และแบ่งประเภทเหตุผลเชิงจริยธรรมไว้ 6 ประเภทคือ ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง ในขั้นนี้เด็กจะใช้ผลตามของพฤติกรรมเป็นเครื่องชี้ว่า พฤติกรรมของตน “ถูก” หรือ “ผิด” ถ้าเด็กถูกทำโทษก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ผิด” พฤติกรรมใดที่มีผลตามด้วยรางวัลหรือคำชม เด็กก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ถูก” ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ในขั้นนี้เด็กจะสนใจทำตามกฎข้อบังคับ เพื่อประโยชน์หรือความพอใจของตนเอง ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม ใช้เหตุผลเลือกทำในสิ่งที่กลุ่มยอมรับโดยเฉพาะเพื่อน เพื่อเป็นที่ชื่นชอบและยอมรับของเพื่อน ไม่เป็นตัวของตัวเอง คล้อยตามการชักจูงของผู้อื่น เพื่อต้องการรักษาสัมพันธภาพที่ดี ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม จะใช้หลักทำตามหน้าที่ของสังคม โดยปฏิบัติตามระเบียบของสังคมอย่างเคร่งครัด เรียนรู้การเป็นหน่วยหนึ่งของสังคม ปฏิบัติตามหน้าที่ของสังคมเพื่อดำรงไว้ซึ่งกฎเกณฑ์ในสังคม ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา ขั้นนี้เน้นถึงความสำคัญของมาตรฐานทางจริยธรรมที่ทุกคนหรือคนส่วนใหญ่ในสังคมยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ถูกสมควรที่จะปฏิบัติตาม ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล ในขั้นนี้สิ่งที่ “ถูก” และ “ผิด” เป็นสิ่งที่ขึ้นมโนธรรมของแต่ละบุคคลที่เลือกยึดถือ ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมจะมีความเกี่ยวข้องกับพัฒนาการทางด้านความคิดเป็นเหตุเป็นผล บุคคลจะมีพัฒนาการทางจริยธรรมเป็นไปตามลำดับ และไม่มีการข้ามขั้น การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก ทำให้ผู้สอนรู้ว่าการรับรู้ของเด็กในแต่ละวัยนั้นแตกต่างกัน เด็กเล็กจะมีการตอบสนองข้อขัดแย้งในเรื่องจริยธรรมแตกต่างจากเด็กโต ซึ่งในการจัดการเรียนรู้นั้นผู้สอนควรกระตุ้นให้เด็กได้สื่อแนวคิดนั้นๆ ออก มาโดยสร้างบรรยากาศที่สามารถกระตุ้นให้ผู้เรียนอภิปรายได้อย่างอิสระ และใช้สถานการณ์ตัวอย่างหรือเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในห้องเรียนมากระตุ้น ให้ผู้เรียนตระหนักถึงการมีจริยธรรมภายในห้องเรียนให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการยกตัวอย่าง การใช้สื่อเข้ามาช่วย รวมไปถึงการเปิดให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็น ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจท์ ทฤษฎีของเพียเจต์เชื่อว่า การเรียนรู้ของเด็กเป็นไปตามพัฒนาการทางสติปัญญาซึ่งจะมีพัฒนาการไปตามวัยต่างๆ เป็นลำดับขั้น พัฒนาการเป็นสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติไม่ควรที่จะเร่งเด็กให้ข้ามจากพัฒนาการจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่ง เพราะจะทำให้เกิดผลเสียแก่เด็ก แต่การจัดประสบการณ์ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในช่วงที่เด็กกำลังจะพัฒนาไปสู่ขั้นที่สูงกว่าสามารถช่วยให้เด็กพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว พัฒนาการทางสติปัญญาของบุคคลเป็นไปตามวัยต่างๆเป็นลำดับขั้น ดังนี้ ขั้นประสาทรับรู้และการเคลื่อนไหว (Sensori-Motor Stage) เริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 ปี พฤติกรรมของเด็กในวัยนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวเป็นส่วนใหญ่ ขั้นก่อนปฏิบัติการคิด (Preoperational Stage) เริ่มตั้งแต่อายุ 2-7 ปี ขั้นปฏิบัติการคิดด้านรูปธรรม (Concrete Operation Stage) เริ่มจากอายุ 7-11 ปี พัฒนาการทางด้านสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้สามารถสร้างกฎเกณฑ์และตั้งเกณฑ์ในการแบ่งสิ่งแวดล้อมออกเป็นหมวดหมู่ได้ ขั้นปฏิบัติการคิดด้วยนามธรรม (Formal Operational Stage) เริ่มจากอายุ 11-15 ปี ในขั้นนี้พัฒนาการทางสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้เป็นขั้นสุดยอด คือเด็กในวัยนี้จะเริ่มคิดแบบผู้ใหญ่ ความคิดแบบเด็กจะสิ้นสุดลง เด็กจะสามารถที่จะคิดหาเหตุผลนอกเหนือไปจากข้อมูลที่มีอยู่ พัฒนาการทางการรู้คิดของเด็กในช่วงอายุ 6 ปีแรกของชีวิต ซึ่งเพียเจต์ ได้ศึกษาไว้เป็นประสบการณ์สำคัญที่เด็กควรได้รับการส่งเสริม มี 6 ขั้น ได้แก่ ขั้นความรู้แตกต่าง (Absolute Differences) เด็กเริ่มรับรู้ในความแตกต่างของสิ่งของที่มองเห็น ขั้นรู้สิ่งตรงกันข้าม (Opposition) ขั้นนี้เด็กรู้ว่าของต่างๆ มีลักษณะตรงกันข้ามเป็น 2 ด้าน เช่น มี-ไม่มี หรือ เล็ก-ใหญ่ ขั้นรู้หลายระดับ (Discrete Degree) เด็กเริ่มรู้จักคิดสิ่งที่เกี่ยวกับลักษณะที่อยู่ตรงกลางระหว่างปลายสุดสอง ปลาย เช่น ปานกลาง น้อย ขั้นความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง (Variation) เด็กสามารถเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ เช่น บอกถึงความเจริญเติบโตของต้นไม้ ขั้นรู้ผลของการกระทำ (Function) ในขั้นนี้เด็กจะเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลง ขั้นการทดแทนอย่างลงตัว (Exact Compensation) เด็กจะรู้ว่าการกระทำให้ของสิ่งหนึ่งเปลี่ยนแปลงย่อมมีผลต่ออีกสิ่งหนึ่งอย่างทัดเทียมกัน การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เมื่อทำงานกับนักเรียน ผู้สอนควรคำนึงถึงพัฒนาการทางสติปัญญาของนักเรียนว่า นักเรียนที่มีอายุเท่ากันอาจมีขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่ควรเปรียบเทียบเด็ก ควรให้เด็กมีอิสระที่จะเรียนรู้และพัฒนาความสามารถของเขาไปตามระดับพัฒนาการของเขา ให้เน้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนโดยต้องเน้นให้นักเรียนใช้ศักยภาพของตนเองให้มากที่สุด สำหรับแนวทางการสอนที่ส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน เช่น -การหัดให้นักเรียนถามคำถามมากกว่าการให้คำตอบ – ครูผู้สอนควรจะพูดให้น้อยลง และฟังนักเรียนให้มากขึ้น – ควรให้เสรีภาพแก่นักเรียนที่จะเลือกเรียนกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเองมากขึ้น ทั้งนี้ผู้สอนต้องเข้าใจว่าระดับความสามารถของนักเรียนแต่ละคนนั้นแตกต่าง และนักเรียนจะมีความสามารถเพิ่มขึ้นในระดับความคิดขั้นต่อไป ดังนั้นการให้เวลาและความสนใจกับพวกเขาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของบรุนเนอร์ บรุนเนอร์ (Bruner) เชื่อว่ามนุษย์เลือกที่จะรับรู้สิ่งที่ตนเองสนใจและการเรียนรู้เกิดจากกระบวนการค้นพบด้วยตัวเอง (discovery learning) แนวคิดที่สำคัญ ๆ ของบรุนเนอร์ ได้แก่ 1) การจัดโครงสร้างของความรู้ให้มีความสัมพันธ์ และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก มีผลต่อการเรียนรู้ของเด็ก 2) การจัดหลักสูตรและการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับระดับความพร้อมของผู้เรียน และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนจะช่วยให้การเรียนรู้เกิดประสิทธิภาพ 3) การคิดแบบหยั่งรู้ (intuition) เป็นการคิดหาเหตุผลอย่างอิสระที่สามารถช่วยพัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ได้ 4) แรงจูงใจภายในเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เรียนประสบผลสำเร็จในการเรียนรู้ 5) ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของมนุษย์แบ่งได้เป็น 3 ขั้นใหญ่ ๆ คือ -ขั้นการเรียนรู้จากการกระทำ (Enactive Stage) คือ ขั้นของการเรียนรู้จากการใช้ประสาทสัมผัสรับรู้สิ่งต่าง ๆ การลงมือกระทำช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้ดี การเรียนรู้เกิดจากการกระทำ -ขั้นการเรียนรู้จากความคิด (Iconic Stage) เป็นขั้นที่เด็กสามารถสร้างมโนภาพในใจได้ และสามารถเรียนรู้จากภาพแทนของจริงได้ -ขั้นการเรียนรู้สัญลักษณ์และนามธรรม (Symbolic Stage) เป็นขั้นการเรียนรู้สิ่งที่ซับซ้อนและเป็นนามธรรมได้ 6) การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากการที่คนเราสามารถสร้างความคิดรวบยอด หรือสามารถจัดประเภทของสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 7) การเรียนรู้ที่ได้ผลดีที่สุด คือ การให้ผู้เรียนค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง (discovery learning) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน -ส่งเสริมกระบวนการค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเองกับผู้เรียน เพราะเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ดีมีความหมายสำหรับผู้เรียน -การวิเคราะห์และจัดโครงสร้างเนื้อหาสาระการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ต้องทำก่อนการสอน -ในการเรียนการสอนควรส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิดอย่างอิสระให้มากเพื่อช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน -การสร้างแรงจูงใจภายในให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน เป็นสิ่งจำเป็นในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แก่ผู้เรียน -การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น -การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้ค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี เช่นการทำกิจกรรมนอกตำรา หรือนอกห้องเรียน ให้เด็กได้ทดลองทำกิจกรรมใหม่ๆ เพื่ค้นหาในสิ่งที่ตัวเองชอบหรือถนัด เป็นต้น นอกจากทฤษฎีทั้ง 5 ที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างเพื่อการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างเหมาะสมแล้ว ก็ยังมีอีกหลายทฤษฎีที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้ เช่น ทฤษฎีหมวก6 ใบ ที่เป็นหนึ่งในทฤษฎีที่สามารถช่วยพัฒนาการคิดและตัดสินใจของผู้เรียน >>> ทฤษฎีหมวก 6 ใบกับการประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาผู้เรียน ขอบคุณข้อมูลจาก : http://yru58.blogspot.com/p/blog-page_5.html : http://oknation.nationtv.tv/blog/shitako/2009/09/14/entry-1 : https://sites.google.com/site/psychologybkf1/home/citwithya-phathnakar/thvsdi-cit-sangkhm-khxng-xi-rik-san : http://nattavut40.blogspot.com/p/kolberg-kolberg-cognitivism-piaget.html : http://gamlovenew.blogspot.com/2015/11/blog-post_11.html : https://www.baanjomyut.com/library_2/intellectual_development_theory/02.html ขอบคุณรูปภาพจาก : https://blog.sharetolearn.com/classroom-resources/five-aspects-of-classroom-management/ : https://www.roscommonchildcare.ie/category/aim/ : https://www.gettingsmart.com/2016/03/shift-to-digital-classroom-look-fors/ EZ Webmaster Related Posts สวนสุนันทา พัฒนา soft skills ทักษะวิศวกรสังคม ระดับผู้นำนักศึกษาให้เป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ คณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญบุรี เปิดรับสาขาการตลาด หลักสูตรเทียบโอน (ภาคพิเศษ) เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ สภามหาวิทยาลัยมอบเกียรติบัตรชื่นชมนักศึกษาสวนสุนันทา ที่สร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัย พยาบาลไทยได้เฮ มีโควตาไปทำงานที่เยอรมนีไม่ต่ำกว่า 200 ตำแหน่งต่อปี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สิ่งที่ยากที่สุดในการเป็นครูคืออะไร จากการสำรวจของ EDUZONES Post navigation PREVIOUS Previous post: แนะ 5 หนังสือสำหรับการเรียนรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษNEXT Next post: ข้อสอบ GED คืออะไร? สอบผ่านแล้วเข้ามหาวิทยาลัยได้เลยจริงหรือ? Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
งานเทศกาลกีตาร์คลาสสิก “4th Mahidol International Classical Guitar Forum” โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล EZ WebmasterMay 2, 2024 ประชาสัมพันธ์งานเทศกาลกีตาร์คลาสสิก โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 25 สิงหาคม 2567 ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ในชื่อ “4th Mahidol International Classical Guitar Forum”… วิศวะมหิดล จัดใหญ่ Mahidol Engineering Maker Expo 2024 โชว์สุดยอดไอเดียสร้างสรรค์จากผลงานนักศึกษาปี 4 EZ WebmasterMay 2, 2024 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเวที Mahidol Engineering Maker Expo 2024 “Capstone Project Presentation” โชว์ผลงานโครงงานวิศวกรรมของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และงานวิจัย รวมถึงเผยแพร่ผลงานวิจัยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การสร้างประโยชน์ต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ที่ครอบคลุมมากถึง…
วิศวะมหิดล จัดใหญ่ Mahidol Engineering Maker Expo 2024 โชว์สุดยอดไอเดียสร้างสรรค์จากผลงานนักศึกษาปี 4 EZ WebmasterMay 2, 2024 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเวที Mahidol Engineering Maker Expo 2024 “Capstone Project Presentation” โชว์ผลงานโครงงานวิศวกรรมของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และงานวิจัย รวมถึงเผยแพร่ผลงานวิจัยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การสร้างประโยชน์ต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ที่ครอบคลุมมากถึง…
ขยายเวลารับทุนเรียนต่อป.โท ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว สหพันธรัฐรัสเซีย tui sakrapeeApril 24, 2024 ประกาศขยายเวลารับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว (Skolkovo Institute of Science and Technology: Skoltech) สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024) หลักสูตรภาษาอังกฤษ ตามที่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ… ม.เทคโนโลยีและการออกแบบแห่งสิงคโปร์ ให้ทุนคนไทยไปศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี tui sakrapeeApril 22, 2024 ประกาศ รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบ แห่งสิงคโปร์ (Singapore University of Technology and Design : SUTD) สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024)… รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH… ครู-อาจารย์ “สกสว. – สวทช” ปั้นกลุ่ม “ผู้จัดการงานวิจัยและนวัตกรรม” จาก 45 หน่วยงาน ผลักดันสู่บทบาทผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและงาน ววน. ของประเทศ EZ WebmasterMay 2, 2024 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมกับ สถาบันพัฒนาบุคลากรแห่งอนาคต สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดกิจกรรมพัฒนาผู้จัดการงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม หรือ RDI Manager เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ กลไกการทำงานระหว่างหน่วยงาน ให้สามารถเชื่อมโยงยกระดับการบริหารจัดการงานวิจัยและนวัตกรรมได้เหมาะสมกับบริบทของหน่วยงานในระบบ ววน. พร้อมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากร ความร่วมมือในการขยายผลการขับเคลื่อนผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งการส่วนร่วมออกแบบแนวทางการขับเคลื่อนมาตรฐานวิชาชีพของ RDI Managers และกิจกรรมศึกษาดูงาน “แนวทางการบริหารงานวิจัยเชิงพื้นที่” บทบาทของกลไกชุมชนและภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนงานเชิงระบบ… น้ำมันเชื้อเพลิงจากยีสต์! ผลงานวิจัยคณะวิทย์ฯ จุฬาฯ จ่อขยายการผลิตเพื่ออุตสาหกรรมอากาศยาน EZ WebmasterApril 30, 2024 นักวิจัย จุฬาฯ ใช้หญ้าอาหารสัตว์ เลี้ยงจุลินทรีย์เพื่อนำไขมันที่ได้มาเปลี่ยนเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ตั้งเป้าขยายการผลิตทดแทนน้ำมันจากปิโตรเลียม ลดผลกระทบทางสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ยีสต์เป็นจุลินทรีย์ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารและเครื่องดื่มหลายประเภท อาทิ ขนมปัง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ในอนาคต ยีสต์จะเป็นกำลังสำคัญในการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงทดแทนพลังงานที่มาจากฟอสซิล ปัจจุบัน นักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีขยายขนาดการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพอากาศยานจากยีสต์ ซึ่งเป็นการต่อยอดผลสำเร็จจากการวิจัยพบยีสต์สายพันธุ์ที่มีศักยภาพสูงในการผลิตไขมันเพื่อนำมาผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน โดยในกระบวนการผลิตน้ำมันจากยีสต์นั้น ยังได้ใช้ของเหลือทิ้งจากภาคการเกษตรมาเป็นอาหารเลี้ยงจุลินทรีย์ นับเป็นการลดปัญหาจากเผาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับของเหลือทิ้งภาคการเกษตรอีกทางหนึ่งด้วย ที่มางานวิจัยผลิตน้ำมันจากยีสต์… สสวท. ชวนครูคณิตศาสตร์มัธยมอบรมฟรี สมัครได้ถึง 30 เม.ย.นี้ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” EZ WebmasterApril 29, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เชิญครูผู้สอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาและผู้สนใจ อบรมหัวข้อ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” ในรูปแบบออนไลน์ สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 เมษายน 2567 อบรมระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2567 ลงทะเบียนและอบรมที่เว็บไซต์ระบบอบรมครู… ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี EZ WebmasterApril 26, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครูและเยาวชนสนุกเรียน สนุกรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี รับปิดเทอมนี้ที่ คลังความรู้ SciMath สสวท. พบสื่อหลากหลายทั้ง อีบุ๊กเพิ่มทักษะ คู่มือครู วีดิทัศน์ คลังภาพ โครงงาน บทเรียนน่ารู้ แผนการสอน แอปพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้พร้อมเกมฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหา เพลิดเพลินเรียนรู้ในโลกออนไลน์ฟรีที่คลังความรู้ SciMath สสวท. https://www.scimath.org กิจกรรม ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน EZ WebmasterMay 3, 2024 ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี! ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ทาง www.vec.go.th… ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search EZ Webmaster March 20, 2020 EZ Webmaster March 20, 2020 5 ทฤษฎีพัฒนากับการส่งเสริมการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับผู้เรียน หลังจากที่ทางเว็บไซต์ได้นำเสนอ 5 ทฤษฎี จาก 5 นักคิด เพื่อการนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนกันไปแล้ว วันนี้ทางเว็บไซต์ eduzones ก็ได้มีทฤษฎีที่สามารถนำมาส่งเสริมและใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้เช่นกันนั่นก็คือ “ทฤษฎีการพัฒนา” วันนี้เราจึงได้นำทฤษฎีพัฒนาจาก 5 นักคิดที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนเพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้อย่างเหมาะสมให้แก่ผู้เรียนสำหรับครูผู้สอนทุกท่านมาฝากกันค่ะ ทฤษฎีจิตสังคมของอีริกสัน นักคิดคนแรกสำหรับทฤษฎีพัฒนา ได้แก่ อิริคสัน นักจิตวิเคราะห์ที่มีชื่อของอเมริกา เป็นผู้วิเคราะห์เกี่ยวกับเด็กเป็นคนแรกในนครบอสตัน เขาเห็นว่าการจะทำความเข้าใจพฤติกรรมเด็ก จะต้องศึกษาจากการอบรมเลี้ยงดู สภาพสังคม และความเป็นอยู่ของเด็ก ปัญหาที่นำมาวิเคราะห์นั้นจะอธิบายเชื่อมโยงระหว่างจิตวิทยากับสังคมวิทยาใน รูปแบบของมนุษย์วิทยาซึ่งมีแนวความคิดว่ามนุษย์ต้องพึ่งสังคมและสังคมก็ต้องพึ่งมนุษย์มนุษย์มีวิวัฒนาการที่สลับซับซ้อนและผ่านขั้นตอนต่างๆ ของธรรมชาติหลายขั้นตอน โดยอีริกสันได้ แบ่งพัฒนาการด้านจิตสังคมของบุคคลเป็น 8 ขั้น ตามช่วงอายุดังนี้ ขั้นที่ 1 ระยะทารก (Infancy period) อายุ 0-2 ปี ในระยะขวบปีแรกทารกจะต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่นในการดูแลเอาใจใส่ทุกด้าน ตลอดจนความรัก และสอนให้ทารกพบกับสิ่งเร้าใหม่ๆ ขั้นที่ 2 วัยเริ่มต้น (Toddler period) อายุ 2-3 ปี ขั้นนี้เด็กเริ่มเรียนรู้ที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง หากได้รับการสนับสนุนและกระตุ้นให้เด็กได้กระทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเองตามสมควร ขั้นที่ 3 ระยะก่อนไปโรงเรียน (Preschool period) อายุ 3-6 ปี เป็นระยะที่เด็กมีการเรียนรู้อย่างกว้างขวาง มีความสัมพันธ์กับเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง มีความอยากรู้อยากเห็น ชอบลองอะไรใหม่ๆ ขั้นที่ 4 ระยะเข้าโรงเรียน (School period) อายุ 6-12 ปี ระยะนี้เด็กเรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์ มีความคิดและพยายามทำกิจกรรมด้วยตัวเอง หากได้รับการสนับสนุนก็ย่อมทำให้เด็กมีการพัฒนาที่ดี ขั้นที่ 5 ระยะวัยรุ่น (Adolescent period) อายุ 12-20 ปี เป็นระยะที่เริ่มสนใจเรื่องเพศ เข้าไปผูกพันกับสังคมและต้องการตำแหน่งทางสังคม ความรู้สึกเป็นอิสระและเป็นตัวของตัวเอง ขั้นที่ 6 ระยะต้นของวัยผู้ใหญ่ (Early adult period) อายุ 20-40 ระยะนี้จะเริ่มมีการนัดหมาย การแต่งงาน และชีวิตครอบครัว หรือทำงานกับผู้อื่นได้ หากสามารถบรรลุอัตลักษณ์ของตนเอง ก็จะสามารถสร้างและแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์อย่างสนิทสนมกับบุคคลอื่นได้ ขั้นที่ 7 ระยะผู้ใหญ่ (Adult period) อายุ 40-60 ปี เป็นระยะที่บุคคลหันมาสนใจกับโลกภายนอก ริเริ่มสร้างสรรค์งานต่างๆ เพื่อสังคม และคิดถึงผู้อื่น ขั้นที่ 8 ระยะวัยสูงอายุ (Aging period) อายุประมาณ 60 ปีขึ้นไป วัยนี้เป็นวัยสุขุม รอบคอบ บุคคลจะยอมรับความเป็นจริงของชีวิต ระลึกถึงความทรงจำในอดีต ถ้าหากประสบความสำเร็จในอดีตก็จะรู้สึกไว้วางใจผู้อื่นและตนเอง และมีความมั่นคงทางจิตใจ การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน สำหรับการประยุกต์ใช้ทฤษฎีพัฒนาการทางจิต สังคมของอีริกสันนั้น แนวคิดนี้ส่งผลให้วงการศึกษาตื่นตัวอย่างน้อยที่สุด 2 เรื่องคือ สัมพันธภาพระหว่างบุคคลและการรับรู้เกี่ยวกับตนเอง ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการพัฒนาแต่ละช่วงวัยของผู้เรียน โดยครูสามารถนำขั้นพัฒนาการตาม 8 ระยะข้างต้น มาส่งเสริมนักเรียนในแต่ละช่วงวัย โดยในการจัดการเรียนการสอนครูควรให้จัดให้มีกิจกรรมให้เด็กได้แสดงออกทั้งในด้านของความคิด ด้านสติปัญญา ด้านความสามารถ ให้อิสระทางความคิดต่อเด็ก ให้เด็กได้สร้างผลงานต่างๆ ด้วยตนเอง ให้เด็กเกิดความภูมิใจในตัวเอง ครูต้องให้ความเชื่อใจและไว้วางใจในตัวเด็ก เพื่อให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเอง มีความเชื่อว่าตัวเองสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ โดยการได้ทดลองได้เรียนรู้จะทำให้เด็กได้รู้จักตนเองว่าตนมีความชอบหรือมีความสนใจในด้านไหน และครูควรคอยส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาในสิ่งที่ตนชอบ ในการอยู่ร่วมกันในสังคมครูควรมีการจัดให้เด็กใช้กิจกรรมกลุ่มโดยให้เด็กแต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบของตนเอง เพื่อให้เด็กรู้สึกมีส่วนร่วมในสังคม ทฤษฎีพัฒนาการตามวัยของโรเบิร์ต เจ ฮาวิกเฮิร์ต โรเบิร์ต ฮาวิกเฮิร์ส เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนจะต้องทำงานตามวัย โดยเรียกสิ่งนี้ว่า “งานพัฒนาการ” หมายถึง งานที่ทุกคนจะต้องทำในแต่ละวัยของชีวิต ซึ่งสัมฤทธิ์ผลของงานพัฒนาการของงานแต่ละวัย มีความสำคัญมากเพราะเป็นของการเรียนรู้งานพัฒนาขั้นต่อไป โดยได้การแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ ออกเป็น 4 ด้านใหญ่ๆ ได้แก่ พัฒนาการทางกาย เป็นการแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ตามขั้นตอนในแต่ละวัน พัฒนาการทางด้านความคิดหรือสติปัญญา พัฒนาการทางด้านจิตใจ ซึ่งแบ่งย่อยเป็น 3.1 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-เพศ (Psychosexual Development) 3.2 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-สังคม (Psychosocial Development) พัฒนาการด้านจริยธรรม (Moral Development) ซึ่งพัฒนาการของมนุษย์นั้น แบ่งได้เป็น 6 ช่วงอายุ คือ วัยเด็กเล็ก-วัยเด็กตอนต้น (แรกเกิด- 6 ปี) วัยเด็กตอนกลาง (6-18 ปี) วัยรุ่น (12-18 ปี) วัยผู้ใหญ่ตอนต้น (18-35 ปี) วัยกลางคน (35-60 ปี) วัยชรา (อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เพราะการเรียนรู้ในแต่ละช่วงวัยนั้นมีความสำคัญอย่างมากสำหรับแนวคิดของโรเบิร์ตดังนั้น การจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยจึงสำคัญ ซึ่งหนึ่งในผู้ที่จะทำให้เด็กมองเห็นพฤติกรรมที่เหมาะได้หนึ่งในนั้นก็คือ “ครูผู้สอน” -โดยในห้องเรียนครูจะเป็นตัวแบบที่มีอิทธิพลมากที่สุด ครูควรคำนึงอยู่เสมอว่า การเรียนรู้โดยการสังเกตและเลียนแบบจะเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ว่าครูจะไม่ได้ตั้งวัตถุประสงค์ไว้ก็ตาม – การสอนแบบสาธิตปฏิบัติเป็นการสอนโดยใช้หลักการและขั้นตอนตามทฤษฎี ครูต้องแสดงตัวอย่างพฤติกรรมที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดการแสดงพฤติกรรมเลียนแบบที่มีประสิทธิภาพ เพราะหากครูเกิดความผิดพลาดแล้วบอกให้ผู้เรียนไม่ต้องทำตาม แต่การกระทำเหล่านั้นก็ผ่านการสังเกตและการรับรู้ของผู้เรียนไปแล้ว -นอกจากครูแล้ว ควรใช้ผู้เรียนด้วยกันเป็นตัวแบบได้ในบางกรณี โดยธรรมชาติเพื่อนในชั้นเรียนย่อมมีอิทธิพลต่อการเลียนแบบสูงอยู่แล้ว ครูควรพยายามใช้ทักษะจูงใจให้ผู้เรียนสนใจและเลียนแบบเพื่อนที่มีพฤติกรรมที่ดี โดยอาจเป็นการชี้ทางด้วยการชื่นชมนักเรียนที่มีพฤติกรรมต้นแบบที่ดีเพื่อให้นักเรียนคนอื่นๆได้มองเห็นได้อีกด้วย ทฤษฎีพัฒนาจริยธรรมของโคลเบิร์ก (Kolberg) โคลเบิร์ก (Kolberg) เป็นนักจิตวิทยากลุ่มปัญญานิยม (cognitivism) ซึ่งมีความเชื่อพื้นฐานว่า มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีสมอง สามารถเกิดการเรียนรู้ เพื่อการปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมได้ เชื่อว่า จริยธรรมนั้นมีพัฒนาการตามระดับวุฒิภาวะ เพราะจริยธรรมของมนุษย์เกิดจากกระบวนการทางปัญญา เมื่อมนุษย์มีการเรียนรู้มากขึ้น โครงสร้างทางปัญญาเพิ่มพูนขึ้น จริยธรรมก็พัฒนาตามวุฒิภาวะนั่นเอง โดยโคลเบิร์ก ได้ศึกษาการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมของเยาวชนอเมริกัน อายุ 10 -16 ปี และได้แบ่งพัฒนาการทางจริยธรรมออกเป็น 3 ระดับ (Levels) แต่ละระดับแบ่งออกเป็น 2 ขั้น (Stages) ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์กมีทั้งหมด 6 ขั้น ได้แก่ ระดับที่ 1 ระดับก่อนกฏเกณฑ์สังคม จะพบในเด็ก 2-10 ปี -ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง -ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ระดับที่ 2 ระดับจริยธรรมตามกฎเกณฑ์สังคม จะพบในวัยรุ่นอายุ 10 -16 ปี -ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม -ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม ระดับที่ 3 ระดับจริยธรรมอย่างมีวิจารณญาณ -ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา -ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล โคลเบิร์ก ได้ทำการวิเคราะห์เหตุผลเชิงจริยธรรม โดยทำการวิเคราะห์คำตอบของเยาวชนอเมริกันอายุ 10-16 ปี และแบ่งประเภทเหตุผลเชิงจริยธรรมไว้ 6 ประเภทคือ ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง ในขั้นนี้เด็กจะใช้ผลตามของพฤติกรรมเป็นเครื่องชี้ว่า พฤติกรรมของตน “ถูก” หรือ “ผิด” ถ้าเด็กถูกทำโทษก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ผิด” พฤติกรรมใดที่มีผลตามด้วยรางวัลหรือคำชม เด็กก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ถูก” ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ในขั้นนี้เด็กจะสนใจทำตามกฎข้อบังคับ เพื่อประโยชน์หรือความพอใจของตนเอง ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม ใช้เหตุผลเลือกทำในสิ่งที่กลุ่มยอมรับโดยเฉพาะเพื่อน เพื่อเป็นที่ชื่นชอบและยอมรับของเพื่อน ไม่เป็นตัวของตัวเอง คล้อยตามการชักจูงของผู้อื่น เพื่อต้องการรักษาสัมพันธภาพที่ดี ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม จะใช้หลักทำตามหน้าที่ของสังคม โดยปฏิบัติตามระเบียบของสังคมอย่างเคร่งครัด เรียนรู้การเป็นหน่วยหนึ่งของสังคม ปฏิบัติตามหน้าที่ของสังคมเพื่อดำรงไว้ซึ่งกฎเกณฑ์ในสังคม ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา ขั้นนี้เน้นถึงความสำคัญของมาตรฐานทางจริยธรรมที่ทุกคนหรือคนส่วนใหญ่ในสังคมยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ถูกสมควรที่จะปฏิบัติตาม ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล ในขั้นนี้สิ่งที่ “ถูก” และ “ผิด” เป็นสิ่งที่ขึ้นมโนธรรมของแต่ละบุคคลที่เลือกยึดถือ ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมจะมีความเกี่ยวข้องกับพัฒนาการทางด้านความคิดเป็นเหตุเป็นผล บุคคลจะมีพัฒนาการทางจริยธรรมเป็นไปตามลำดับ และไม่มีการข้ามขั้น การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก ทำให้ผู้สอนรู้ว่าการรับรู้ของเด็กในแต่ละวัยนั้นแตกต่างกัน เด็กเล็กจะมีการตอบสนองข้อขัดแย้งในเรื่องจริยธรรมแตกต่างจากเด็กโต ซึ่งในการจัดการเรียนรู้นั้นผู้สอนควรกระตุ้นให้เด็กได้สื่อแนวคิดนั้นๆ ออก มาโดยสร้างบรรยากาศที่สามารถกระตุ้นให้ผู้เรียนอภิปรายได้อย่างอิสระ และใช้สถานการณ์ตัวอย่างหรือเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในห้องเรียนมากระตุ้น ให้ผู้เรียนตระหนักถึงการมีจริยธรรมภายในห้องเรียนให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการยกตัวอย่าง การใช้สื่อเข้ามาช่วย รวมไปถึงการเปิดให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็น ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจท์ ทฤษฎีของเพียเจต์เชื่อว่า การเรียนรู้ของเด็กเป็นไปตามพัฒนาการทางสติปัญญาซึ่งจะมีพัฒนาการไปตามวัยต่างๆ เป็นลำดับขั้น พัฒนาการเป็นสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติไม่ควรที่จะเร่งเด็กให้ข้ามจากพัฒนาการจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่ง เพราะจะทำให้เกิดผลเสียแก่เด็ก แต่การจัดประสบการณ์ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในช่วงที่เด็กกำลังจะพัฒนาไปสู่ขั้นที่สูงกว่าสามารถช่วยให้เด็กพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว พัฒนาการทางสติปัญญาของบุคคลเป็นไปตามวัยต่างๆเป็นลำดับขั้น ดังนี้ ขั้นประสาทรับรู้และการเคลื่อนไหว (Sensori-Motor Stage) เริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 ปี พฤติกรรมของเด็กในวัยนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวเป็นส่วนใหญ่ ขั้นก่อนปฏิบัติการคิด (Preoperational Stage) เริ่มตั้งแต่อายุ 2-7 ปี ขั้นปฏิบัติการคิดด้านรูปธรรม (Concrete Operation Stage) เริ่มจากอายุ 7-11 ปี พัฒนาการทางด้านสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้สามารถสร้างกฎเกณฑ์และตั้งเกณฑ์ในการแบ่งสิ่งแวดล้อมออกเป็นหมวดหมู่ได้ ขั้นปฏิบัติการคิดด้วยนามธรรม (Formal Operational Stage) เริ่มจากอายุ 11-15 ปี ในขั้นนี้พัฒนาการทางสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้เป็นขั้นสุดยอด คือเด็กในวัยนี้จะเริ่มคิดแบบผู้ใหญ่ ความคิดแบบเด็กจะสิ้นสุดลง เด็กจะสามารถที่จะคิดหาเหตุผลนอกเหนือไปจากข้อมูลที่มีอยู่ พัฒนาการทางการรู้คิดของเด็กในช่วงอายุ 6 ปีแรกของชีวิต ซึ่งเพียเจต์ ได้ศึกษาไว้เป็นประสบการณ์สำคัญที่เด็กควรได้รับการส่งเสริม มี 6 ขั้น ได้แก่ ขั้นความรู้แตกต่าง (Absolute Differences) เด็กเริ่มรับรู้ในความแตกต่างของสิ่งของที่มองเห็น ขั้นรู้สิ่งตรงกันข้าม (Opposition) ขั้นนี้เด็กรู้ว่าของต่างๆ มีลักษณะตรงกันข้ามเป็น 2 ด้าน เช่น มี-ไม่มี หรือ เล็ก-ใหญ่ ขั้นรู้หลายระดับ (Discrete Degree) เด็กเริ่มรู้จักคิดสิ่งที่เกี่ยวกับลักษณะที่อยู่ตรงกลางระหว่างปลายสุดสอง ปลาย เช่น ปานกลาง น้อย ขั้นความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง (Variation) เด็กสามารถเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ เช่น บอกถึงความเจริญเติบโตของต้นไม้ ขั้นรู้ผลของการกระทำ (Function) ในขั้นนี้เด็กจะเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลง ขั้นการทดแทนอย่างลงตัว (Exact Compensation) เด็กจะรู้ว่าการกระทำให้ของสิ่งหนึ่งเปลี่ยนแปลงย่อมมีผลต่ออีกสิ่งหนึ่งอย่างทัดเทียมกัน การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เมื่อทำงานกับนักเรียน ผู้สอนควรคำนึงถึงพัฒนาการทางสติปัญญาของนักเรียนว่า นักเรียนที่มีอายุเท่ากันอาจมีขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่ควรเปรียบเทียบเด็ก ควรให้เด็กมีอิสระที่จะเรียนรู้และพัฒนาความสามารถของเขาไปตามระดับพัฒนาการของเขา ให้เน้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนโดยต้องเน้นให้นักเรียนใช้ศักยภาพของตนเองให้มากที่สุด สำหรับแนวทางการสอนที่ส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน เช่น -การหัดให้นักเรียนถามคำถามมากกว่าการให้คำตอบ – ครูผู้สอนควรจะพูดให้น้อยลง และฟังนักเรียนให้มากขึ้น – ควรให้เสรีภาพแก่นักเรียนที่จะเลือกเรียนกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเองมากขึ้น ทั้งนี้ผู้สอนต้องเข้าใจว่าระดับความสามารถของนักเรียนแต่ละคนนั้นแตกต่าง และนักเรียนจะมีความสามารถเพิ่มขึ้นในระดับความคิดขั้นต่อไป ดังนั้นการให้เวลาและความสนใจกับพวกเขาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของบรุนเนอร์ บรุนเนอร์ (Bruner) เชื่อว่ามนุษย์เลือกที่จะรับรู้สิ่งที่ตนเองสนใจและการเรียนรู้เกิดจากกระบวนการค้นพบด้วยตัวเอง (discovery learning) แนวคิดที่สำคัญ ๆ ของบรุนเนอร์ ได้แก่ 1) การจัดโครงสร้างของความรู้ให้มีความสัมพันธ์ และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก มีผลต่อการเรียนรู้ของเด็ก 2) การจัดหลักสูตรและการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับระดับความพร้อมของผู้เรียน และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนจะช่วยให้การเรียนรู้เกิดประสิทธิภาพ 3) การคิดแบบหยั่งรู้ (intuition) เป็นการคิดหาเหตุผลอย่างอิสระที่สามารถช่วยพัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ได้ 4) แรงจูงใจภายในเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เรียนประสบผลสำเร็จในการเรียนรู้ 5) ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของมนุษย์แบ่งได้เป็น 3 ขั้นใหญ่ ๆ คือ -ขั้นการเรียนรู้จากการกระทำ (Enactive Stage) คือ ขั้นของการเรียนรู้จากการใช้ประสาทสัมผัสรับรู้สิ่งต่าง ๆ การลงมือกระทำช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้ดี การเรียนรู้เกิดจากการกระทำ -ขั้นการเรียนรู้จากความคิด (Iconic Stage) เป็นขั้นที่เด็กสามารถสร้างมโนภาพในใจได้ และสามารถเรียนรู้จากภาพแทนของจริงได้ -ขั้นการเรียนรู้สัญลักษณ์และนามธรรม (Symbolic Stage) เป็นขั้นการเรียนรู้สิ่งที่ซับซ้อนและเป็นนามธรรมได้ 6) การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากการที่คนเราสามารถสร้างความคิดรวบยอด หรือสามารถจัดประเภทของสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 7) การเรียนรู้ที่ได้ผลดีที่สุด คือ การให้ผู้เรียนค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง (discovery learning) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน -ส่งเสริมกระบวนการค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเองกับผู้เรียน เพราะเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ดีมีความหมายสำหรับผู้เรียน -การวิเคราะห์และจัดโครงสร้างเนื้อหาสาระการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ต้องทำก่อนการสอน -ในการเรียนการสอนควรส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิดอย่างอิสระให้มากเพื่อช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน -การสร้างแรงจูงใจภายในให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน เป็นสิ่งจำเป็นในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แก่ผู้เรียน -การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น -การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้ค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี เช่นการทำกิจกรรมนอกตำรา หรือนอกห้องเรียน ให้เด็กได้ทดลองทำกิจกรรมใหม่ๆ เพื่ค้นหาในสิ่งที่ตัวเองชอบหรือถนัด เป็นต้น นอกจากทฤษฎีทั้ง 5 ที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างเพื่อการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างเหมาะสมแล้ว ก็ยังมีอีกหลายทฤษฎีที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้ เช่น ทฤษฎีหมวก6 ใบ ที่เป็นหนึ่งในทฤษฎีที่สามารถช่วยพัฒนาการคิดและตัดสินใจของผู้เรียน >>> ทฤษฎีหมวก 6 ใบกับการประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาผู้เรียน ขอบคุณข้อมูลจาก : http://yru58.blogspot.com/p/blog-page_5.html : http://oknation.nationtv.tv/blog/shitako/2009/09/14/entry-1 : https://sites.google.com/site/psychologybkf1/home/citwithya-phathnakar/thvsdi-cit-sangkhm-khxng-xi-rik-san : http://nattavut40.blogspot.com/p/kolberg-kolberg-cognitivism-piaget.html : http://gamlovenew.blogspot.com/2015/11/blog-post_11.html : https://www.baanjomyut.com/library_2/intellectual_development_theory/02.html ขอบคุณรูปภาพจาก : https://blog.sharetolearn.com/classroom-resources/five-aspects-of-classroom-management/ : https://www.roscommonchildcare.ie/category/aim/ : https://www.gettingsmart.com/2016/03/shift-to-digital-classroom-look-fors/ EZ Webmaster Related Posts สวนสุนันทา พัฒนา soft skills ทักษะวิศวกรสังคม ระดับผู้นำนักศึกษาให้เป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ คณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญบุรี เปิดรับสาขาการตลาด หลักสูตรเทียบโอน (ภาคพิเศษ) เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ สภามหาวิทยาลัยมอบเกียรติบัตรชื่นชมนักศึกษาสวนสุนันทา ที่สร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัย พยาบาลไทยได้เฮ มีโควตาไปทำงานที่เยอรมนีไม่ต่ำกว่า 200 ตำแหน่งต่อปี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สิ่งที่ยากที่สุดในการเป็นครูคืออะไร จากการสำรวจของ EDUZONES Post navigation PREVIOUS Previous post: แนะ 5 หนังสือสำหรับการเรียนรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษNEXT Next post: ข้อสอบ GED คืออะไร? สอบผ่านแล้วเข้ามหาวิทยาลัยได้เลยจริงหรือ? Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
ม.เทคโนโลยีและการออกแบบแห่งสิงคโปร์ ให้ทุนคนไทยไปศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี tui sakrapeeApril 22, 2024 ประกาศ รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบ แห่งสิงคโปร์ (Singapore University of Technology and Design : SUTD) สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024)… รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH… ครู-อาจารย์ “สกสว. – สวทช” ปั้นกลุ่ม “ผู้จัดการงานวิจัยและนวัตกรรม” จาก 45 หน่วยงาน ผลักดันสู่บทบาทผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและงาน ววน. ของประเทศ EZ WebmasterMay 2, 2024 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมกับ สถาบันพัฒนาบุคลากรแห่งอนาคต สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดกิจกรรมพัฒนาผู้จัดการงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม หรือ RDI Manager เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ กลไกการทำงานระหว่างหน่วยงาน ให้สามารถเชื่อมโยงยกระดับการบริหารจัดการงานวิจัยและนวัตกรรมได้เหมาะสมกับบริบทของหน่วยงานในระบบ ววน. พร้อมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากร ความร่วมมือในการขยายผลการขับเคลื่อนผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งการส่วนร่วมออกแบบแนวทางการขับเคลื่อนมาตรฐานวิชาชีพของ RDI Managers และกิจกรรมศึกษาดูงาน “แนวทางการบริหารงานวิจัยเชิงพื้นที่” บทบาทของกลไกชุมชนและภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนงานเชิงระบบ… น้ำมันเชื้อเพลิงจากยีสต์! ผลงานวิจัยคณะวิทย์ฯ จุฬาฯ จ่อขยายการผลิตเพื่ออุตสาหกรรมอากาศยาน EZ WebmasterApril 30, 2024 นักวิจัย จุฬาฯ ใช้หญ้าอาหารสัตว์ เลี้ยงจุลินทรีย์เพื่อนำไขมันที่ได้มาเปลี่ยนเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ตั้งเป้าขยายการผลิตทดแทนน้ำมันจากปิโตรเลียม ลดผลกระทบทางสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ยีสต์เป็นจุลินทรีย์ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารและเครื่องดื่มหลายประเภท อาทิ ขนมปัง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ในอนาคต ยีสต์จะเป็นกำลังสำคัญในการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงทดแทนพลังงานที่มาจากฟอสซิล ปัจจุบัน นักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีขยายขนาดการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพอากาศยานจากยีสต์ ซึ่งเป็นการต่อยอดผลสำเร็จจากการวิจัยพบยีสต์สายพันธุ์ที่มีศักยภาพสูงในการผลิตไขมันเพื่อนำมาผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน โดยในกระบวนการผลิตน้ำมันจากยีสต์นั้น ยังได้ใช้ของเหลือทิ้งจากภาคการเกษตรมาเป็นอาหารเลี้ยงจุลินทรีย์ นับเป็นการลดปัญหาจากเผาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับของเหลือทิ้งภาคการเกษตรอีกทางหนึ่งด้วย ที่มางานวิจัยผลิตน้ำมันจากยีสต์… สสวท. ชวนครูคณิตศาสตร์มัธยมอบรมฟรี สมัครได้ถึง 30 เม.ย.นี้ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” EZ WebmasterApril 29, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เชิญครูผู้สอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาและผู้สนใจ อบรมหัวข้อ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” ในรูปแบบออนไลน์ สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 เมษายน 2567 อบรมระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2567 ลงทะเบียนและอบรมที่เว็บไซต์ระบบอบรมครู… ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี EZ WebmasterApril 26, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครูและเยาวชนสนุกเรียน สนุกรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี รับปิดเทอมนี้ที่ คลังความรู้ SciMath สสวท. พบสื่อหลากหลายทั้ง อีบุ๊กเพิ่มทักษะ คู่มือครู วีดิทัศน์ คลังภาพ โครงงาน บทเรียนน่ารู้ แผนการสอน แอปพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้พร้อมเกมฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหา เพลิดเพลินเรียนรู้ในโลกออนไลน์ฟรีที่คลังความรู้ SciMath สสวท. https://www.scimath.org กิจกรรม ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน EZ WebmasterMay 3, 2024 ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี! ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ทาง www.vec.go.th… ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search EZ Webmaster March 20, 2020 EZ Webmaster March 20, 2020 5 ทฤษฎีพัฒนากับการส่งเสริมการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับผู้เรียน หลังจากที่ทางเว็บไซต์ได้นำเสนอ 5 ทฤษฎี จาก 5 นักคิด เพื่อการนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนกันไปแล้ว วันนี้ทางเว็บไซต์ eduzones ก็ได้มีทฤษฎีที่สามารถนำมาส่งเสริมและใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้เช่นกันนั่นก็คือ “ทฤษฎีการพัฒนา” วันนี้เราจึงได้นำทฤษฎีพัฒนาจาก 5 นักคิดที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนเพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้อย่างเหมาะสมให้แก่ผู้เรียนสำหรับครูผู้สอนทุกท่านมาฝากกันค่ะ ทฤษฎีจิตสังคมของอีริกสัน นักคิดคนแรกสำหรับทฤษฎีพัฒนา ได้แก่ อิริคสัน นักจิตวิเคราะห์ที่มีชื่อของอเมริกา เป็นผู้วิเคราะห์เกี่ยวกับเด็กเป็นคนแรกในนครบอสตัน เขาเห็นว่าการจะทำความเข้าใจพฤติกรรมเด็ก จะต้องศึกษาจากการอบรมเลี้ยงดู สภาพสังคม และความเป็นอยู่ของเด็ก ปัญหาที่นำมาวิเคราะห์นั้นจะอธิบายเชื่อมโยงระหว่างจิตวิทยากับสังคมวิทยาใน รูปแบบของมนุษย์วิทยาซึ่งมีแนวความคิดว่ามนุษย์ต้องพึ่งสังคมและสังคมก็ต้องพึ่งมนุษย์มนุษย์มีวิวัฒนาการที่สลับซับซ้อนและผ่านขั้นตอนต่างๆ ของธรรมชาติหลายขั้นตอน โดยอีริกสันได้ แบ่งพัฒนาการด้านจิตสังคมของบุคคลเป็น 8 ขั้น ตามช่วงอายุดังนี้ ขั้นที่ 1 ระยะทารก (Infancy period) อายุ 0-2 ปี ในระยะขวบปีแรกทารกจะต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่นในการดูแลเอาใจใส่ทุกด้าน ตลอดจนความรัก และสอนให้ทารกพบกับสิ่งเร้าใหม่ๆ ขั้นที่ 2 วัยเริ่มต้น (Toddler period) อายุ 2-3 ปี ขั้นนี้เด็กเริ่มเรียนรู้ที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง หากได้รับการสนับสนุนและกระตุ้นให้เด็กได้กระทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเองตามสมควร ขั้นที่ 3 ระยะก่อนไปโรงเรียน (Preschool period) อายุ 3-6 ปี เป็นระยะที่เด็กมีการเรียนรู้อย่างกว้างขวาง มีความสัมพันธ์กับเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง มีความอยากรู้อยากเห็น ชอบลองอะไรใหม่ๆ ขั้นที่ 4 ระยะเข้าโรงเรียน (School period) อายุ 6-12 ปี ระยะนี้เด็กเรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์ มีความคิดและพยายามทำกิจกรรมด้วยตัวเอง หากได้รับการสนับสนุนก็ย่อมทำให้เด็กมีการพัฒนาที่ดี ขั้นที่ 5 ระยะวัยรุ่น (Adolescent period) อายุ 12-20 ปี เป็นระยะที่เริ่มสนใจเรื่องเพศ เข้าไปผูกพันกับสังคมและต้องการตำแหน่งทางสังคม ความรู้สึกเป็นอิสระและเป็นตัวของตัวเอง ขั้นที่ 6 ระยะต้นของวัยผู้ใหญ่ (Early adult period) อายุ 20-40 ระยะนี้จะเริ่มมีการนัดหมาย การแต่งงาน และชีวิตครอบครัว หรือทำงานกับผู้อื่นได้ หากสามารถบรรลุอัตลักษณ์ของตนเอง ก็จะสามารถสร้างและแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์อย่างสนิทสนมกับบุคคลอื่นได้ ขั้นที่ 7 ระยะผู้ใหญ่ (Adult period) อายุ 40-60 ปี เป็นระยะที่บุคคลหันมาสนใจกับโลกภายนอก ริเริ่มสร้างสรรค์งานต่างๆ เพื่อสังคม และคิดถึงผู้อื่น ขั้นที่ 8 ระยะวัยสูงอายุ (Aging period) อายุประมาณ 60 ปีขึ้นไป วัยนี้เป็นวัยสุขุม รอบคอบ บุคคลจะยอมรับความเป็นจริงของชีวิต ระลึกถึงความทรงจำในอดีต ถ้าหากประสบความสำเร็จในอดีตก็จะรู้สึกไว้วางใจผู้อื่นและตนเอง และมีความมั่นคงทางจิตใจ การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน สำหรับการประยุกต์ใช้ทฤษฎีพัฒนาการทางจิต สังคมของอีริกสันนั้น แนวคิดนี้ส่งผลให้วงการศึกษาตื่นตัวอย่างน้อยที่สุด 2 เรื่องคือ สัมพันธภาพระหว่างบุคคลและการรับรู้เกี่ยวกับตนเอง ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการพัฒนาแต่ละช่วงวัยของผู้เรียน โดยครูสามารถนำขั้นพัฒนาการตาม 8 ระยะข้างต้น มาส่งเสริมนักเรียนในแต่ละช่วงวัย โดยในการจัดการเรียนการสอนครูควรให้จัดให้มีกิจกรรมให้เด็กได้แสดงออกทั้งในด้านของความคิด ด้านสติปัญญา ด้านความสามารถ ให้อิสระทางความคิดต่อเด็ก ให้เด็กได้สร้างผลงานต่างๆ ด้วยตนเอง ให้เด็กเกิดความภูมิใจในตัวเอง ครูต้องให้ความเชื่อใจและไว้วางใจในตัวเด็ก เพื่อให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเอง มีความเชื่อว่าตัวเองสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ โดยการได้ทดลองได้เรียนรู้จะทำให้เด็กได้รู้จักตนเองว่าตนมีความชอบหรือมีความสนใจในด้านไหน และครูควรคอยส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาในสิ่งที่ตนชอบ ในการอยู่ร่วมกันในสังคมครูควรมีการจัดให้เด็กใช้กิจกรรมกลุ่มโดยให้เด็กแต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบของตนเอง เพื่อให้เด็กรู้สึกมีส่วนร่วมในสังคม ทฤษฎีพัฒนาการตามวัยของโรเบิร์ต เจ ฮาวิกเฮิร์ต โรเบิร์ต ฮาวิกเฮิร์ส เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนจะต้องทำงานตามวัย โดยเรียกสิ่งนี้ว่า “งานพัฒนาการ” หมายถึง งานที่ทุกคนจะต้องทำในแต่ละวัยของชีวิต ซึ่งสัมฤทธิ์ผลของงานพัฒนาการของงานแต่ละวัย มีความสำคัญมากเพราะเป็นของการเรียนรู้งานพัฒนาขั้นต่อไป โดยได้การแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ ออกเป็น 4 ด้านใหญ่ๆ ได้แก่ พัฒนาการทางกาย เป็นการแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ตามขั้นตอนในแต่ละวัน พัฒนาการทางด้านความคิดหรือสติปัญญา พัฒนาการทางด้านจิตใจ ซึ่งแบ่งย่อยเป็น 3.1 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-เพศ (Psychosexual Development) 3.2 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-สังคม (Psychosocial Development) พัฒนาการด้านจริยธรรม (Moral Development) ซึ่งพัฒนาการของมนุษย์นั้น แบ่งได้เป็น 6 ช่วงอายุ คือ วัยเด็กเล็ก-วัยเด็กตอนต้น (แรกเกิด- 6 ปี) วัยเด็กตอนกลาง (6-18 ปี) วัยรุ่น (12-18 ปี) วัยผู้ใหญ่ตอนต้น (18-35 ปี) วัยกลางคน (35-60 ปี) วัยชรา (อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เพราะการเรียนรู้ในแต่ละช่วงวัยนั้นมีความสำคัญอย่างมากสำหรับแนวคิดของโรเบิร์ตดังนั้น การจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยจึงสำคัญ ซึ่งหนึ่งในผู้ที่จะทำให้เด็กมองเห็นพฤติกรรมที่เหมาะได้หนึ่งในนั้นก็คือ “ครูผู้สอน” -โดยในห้องเรียนครูจะเป็นตัวแบบที่มีอิทธิพลมากที่สุด ครูควรคำนึงอยู่เสมอว่า การเรียนรู้โดยการสังเกตและเลียนแบบจะเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ว่าครูจะไม่ได้ตั้งวัตถุประสงค์ไว้ก็ตาม – การสอนแบบสาธิตปฏิบัติเป็นการสอนโดยใช้หลักการและขั้นตอนตามทฤษฎี ครูต้องแสดงตัวอย่างพฤติกรรมที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดการแสดงพฤติกรรมเลียนแบบที่มีประสิทธิภาพ เพราะหากครูเกิดความผิดพลาดแล้วบอกให้ผู้เรียนไม่ต้องทำตาม แต่การกระทำเหล่านั้นก็ผ่านการสังเกตและการรับรู้ของผู้เรียนไปแล้ว -นอกจากครูแล้ว ควรใช้ผู้เรียนด้วยกันเป็นตัวแบบได้ในบางกรณี โดยธรรมชาติเพื่อนในชั้นเรียนย่อมมีอิทธิพลต่อการเลียนแบบสูงอยู่แล้ว ครูควรพยายามใช้ทักษะจูงใจให้ผู้เรียนสนใจและเลียนแบบเพื่อนที่มีพฤติกรรมที่ดี โดยอาจเป็นการชี้ทางด้วยการชื่นชมนักเรียนที่มีพฤติกรรมต้นแบบที่ดีเพื่อให้นักเรียนคนอื่นๆได้มองเห็นได้อีกด้วย ทฤษฎีพัฒนาจริยธรรมของโคลเบิร์ก (Kolberg) โคลเบิร์ก (Kolberg) เป็นนักจิตวิทยากลุ่มปัญญานิยม (cognitivism) ซึ่งมีความเชื่อพื้นฐานว่า มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีสมอง สามารถเกิดการเรียนรู้ เพื่อการปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมได้ เชื่อว่า จริยธรรมนั้นมีพัฒนาการตามระดับวุฒิภาวะ เพราะจริยธรรมของมนุษย์เกิดจากกระบวนการทางปัญญา เมื่อมนุษย์มีการเรียนรู้มากขึ้น โครงสร้างทางปัญญาเพิ่มพูนขึ้น จริยธรรมก็พัฒนาตามวุฒิภาวะนั่นเอง โดยโคลเบิร์ก ได้ศึกษาการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมของเยาวชนอเมริกัน อายุ 10 -16 ปี และได้แบ่งพัฒนาการทางจริยธรรมออกเป็น 3 ระดับ (Levels) แต่ละระดับแบ่งออกเป็น 2 ขั้น (Stages) ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์กมีทั้งหมด 6 ขั้น ได้แก่ ระดับที่ 1 ระดับก่อนกฏเกณฑ์สังคม จะพบในเด็ก 2-10 ปี -ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง -ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ระดับที่ 2 ระดับจริยธรรมตามกฎเกณฑ์สังคม จะพบในวัยรุ่นอายุ 10 -16 ปี -ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม -ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม ระดับที่ 3 ระดับจริยธรรมอย่างมีวิจารณญาณ -ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา -ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล โคลเบิร์ก ได้ทำการวิเคราะห์เหตุผลเชิงจริยธรรม โดยทำการวิเคราะห์คำตอบของเยาวชนอเมริกันอายุ 10-16 ปี และแบ่งประเภทเหตุผลเชิงจริยธรรมไว้ 6 ประเภทคือ ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง ในขั้นนี้เด็กจะใช้ผลตามของพฤติกรรมเป็นเครื่องชี้ว่า พฤติกรรมของตน “ถูก” หรือ “ผิด” ถ้าเด็กถูกทำโทษก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ผิด” พฤติกรรมใดที่มีผลตามด้วยรางวัลหรือคำชม เด็กก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ถูก” ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ในขั้นนี้เด็กจะสนใจทำตามกฎข้อบังคับ เพื่อประโยชน์หรือความพอใจของตนเอง ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม ใช้เหตุผลเลือกทำในสิ่งที่กลุ่มยอมรับโดยเฉพาะเพื่อน เพื่อเป็นที่ชื่นชอบและยอมรับของเพื่อน ไม่เป็นตัวของตัวเอง คล้อยตามการชักจูงของผู้อื่น เพื่อต้องการรักษาสัมพันธภาพที่ดี ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม จะใช้หลักทำตามหน้าที่ของสังคม โดยปฏิบัติตามระเบียบของสังคมอย่างเคร่งครัด เรียนรู้การเป็นหน่วยหนึ่งของสังคม ปฏิบัติตามหน้าที่ของสังคมเพื่อดำรงไว้ซึ่งกฎเกณฑ์ในสังคม ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา ขั้นนี้เน้นถึงความสำคัญของมาตรฐานทางจริยธรรมที่ทุกคนหรือคนส่วนใหญ่ในสังคมยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ถูกสมควรที่จะปฏิบัติตาม ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล ในขั้นนี้สิ่งที่ “ถูก” และ “ผิด” เป็นสิ่งที่ขึ้นมโนธรรมของแต่ละบุคคลที่เลือกยึดถือ ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมจะมีความเกี่ยวข้องกับพัฒนาการทางด้านความคิดเป็นเหตุเป็นผล บุคคลจะมีพัฒนาการทางจริยธรรมเป็นไปตามลำดับ และไม่มีการข้ามขั้น การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก ทำให้ผู้สอนรู้ว่าการรับรู้ของเด็กในแต่ละวัยนั้นแตกต่างกัน เด็กเล็กจะมีการตอบสนองข้อขัดแย้งในเรื่องจริยธรรมแตกต่างจากเด็กโต ซึ่งในการจัดการเรียนรู้นั้นผู้สอนควรกระตุ้นให้เด็กได้สื่อแนวคิดนั้นๆ ออก มาโดยสร้างบรรยากาศที่สามารถกระตุ้นให้ผู้เรียนอภิปรายได้อย่างอิสระ และใช้สถานการณ์ตัวอย่างหรือเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในห้องเรียนมากระตุ้น ให้ผู้เรียนตระหนักถึงการมีจริยธรรมภายในห้องเรียนให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการยกตัวอย่าง การใช้สื่อเข้ามาช่วย รวมไปถึงการเปิดให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็น ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจท์ ทฤษฎีของเพียเจต์เชื่อว่า การเรียนรู้ของเด็กเป็นไปตามพัฒนาการทางสติปัญญาซึ่งจะมีพัฒนาการไปตามวัยต่างๆ เป็นลำดับขั้น พัฒนาการเป็นสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติไม่ควรที่จะเร่งเด็กให้ข้ามจากพัฒนาการจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่ง เพราะจะทำให้เกิดผลเสียแก่เด็ก แต่การจัดประสบการณ์ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในช่วงที่เด็กกำลังจะพัฒนาไปสู่ขั้นที่สูงกว่าสามารถช่วยให้เด็กพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว พัฒนาการทางสติปัญญาของบุคคลเป็นไปตามวัยต่างๆเป็นลำดับขั้น ดังนี้ ขั้นประสาทรับรู้และการเคลื่อนไหว (Sensori-Motor Stage) เริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 ปี พฤติกรรมของเด็กในวัยนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวเป็นส่วนใหญ่ ขั้นก่อนปฏิบัติการคิด (Preoperational Stage) เริ่มตั้งแต่อายุ 2-7 ปี ขั้นปฏิบัติการคิดด้านรูปธรรม (Concrete Operation Stage) เริ่มจากอายุ 7-11 ปี พัฒนาการทางด้านสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้สามารถสร้างกฎเกณฑ์และตั้งเกณฑ์ในการแบ่งสิ่งแวดล้อมออกเป็นหมวดหมู่ได้ ขั้นปฏิบัติการคิดด้วยนามธรรม (Formal Operational Stage) เริ่มจากอายุ 11-15 ปี ในขั้นนี้พัฒนาการทางสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้เป็นขั้นสุดยอด คือเด็กในวัยนี้จะเริ่มคิดแบบผู้ใหญ่ ความคิดแบบเด็กจะสิ้นสุดลง เด็กจะสามารถที่จะคิดหาเหตุผลนอกเหนือไปจากข้อมูลที่มีอยู่ พัฒนาการทางการรู้คิดของเด็กในช่วงอายุ 6 ปีแรกของชีวิต ซึ่งเพียเจต์ ได้ศึกษาไว้เป็นประสบการณ์สำคัญที่เด็กควรได้รับการส่งเสริม มี 6 ขั้น ได้แก่ ขั้นความรู้แตกต่าง (Absolute Differences) เด็กเริ่มรับรู้ในความแตกต่างของสิ่งของที่มองเห็น ขั้นรู้สิ่งตรงกันข้าม (Opposition) ขั้นนี้เด็กรู้ว่าของต่างๆ มีลักษณะตรงกันข้ามเป็น 2 ด้าน เช่น มี-ไม่มี หรือ เล็ก-ใหญ่ ขั้นรู้หลายระดับ (Discrete Degree) เด็กเริ่มรู้จักคิดสิ่งที่เกี่ยวกับลักษณะที่อยู่ตรงกลางระหว่างปลายสุดสอง ปลาย เช่น ปานกลาง น้อย ขั้นความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง (Variation) เด็กสามารถเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ เช่น บอกถึงความเจริญเติบโตของต้นไม้ ขั้นรู้ผลของการกระทำ (Function) ในขั้นนี้เด็กจะเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลง ขั้นการทดแทนอย่างลงตัว (Exact Compensation) เด็กจะรู้ว่าการกระทำให้ของสิ่งหนึ่งเปลี่ยนแปลงย่อมมีผลต่ออีกสิ่งหนึ่งอย่างทัดเทียมกัน การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เมื่อทำงานกับนักเรียน ผู้สอนควรคำนึงถึงพัฒนาการทางสติปัญญาของนักเรียนว่า นักเรียนที่มีอายุเท่ากันอาจมีขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่ควรเปรียบเทียบเด็ก ควรให้เด็กมีอิสระที่จะเรียนรู้และพัฒนาความสามารถของเขาไปตามระดับพัฒนาการของเขา ให้เน้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนโดยต้องเน้นให้นักเรียนใช้ศักยภาพของตนเองให้มากที่สุด สำหรับแนวทางการสอนที่ส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน เช่น -การหัดให้นักเรียนถามคำถามมากกว่าการให้คำตอบ – ครูผู้สอนควรจะพูดให้น้อยลง และฟังนักเรียนให้มากขึ้น – ควรให้เสรีภาพแก่นักเรียนที่จะเลือกเรียนกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเองมากขึ้น ทั้งนี้ผู้สอนต้องเข้าใจว่าระดับความสามารถของนักเรียนแต่ละคนนั้นแตกต่าง และนักเรียนจะมีความสามารถเพิ่มขึ้นในระดับความคิดขั้นต่อไป ดังนั้นการให้เวลาและความสนใจกับพวกเขาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของบรุนเนอร์ บรุนเนอร์ (Bruner) เชื่อว่ามนุษย์เลือกที่จะรับรู้สิ่งที่ตนเองสนใจและการเรียนรู้เกิดจากกระบวนการค้นพบด้วยตัวเอง (discovery learning) แนวคิดที่สำคัญ ๆ ของบรุนเนอร์ ได้แก่ 1) การจัดโครงสร้างของความรู้ให้มีความสัมพันธ์ และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก มีผลต่อการเรียนรู้ของเด็ก 2) การจัดหลักสูตรและการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับระดับความพร้อมของผู้เรียน และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนจะช่วยให้การเรียนรู้เกิดประสิทธิภาพ 3) การคิดแบบหยั่งรู้ (intuition) เป็นการคิดหาเหตุผลอย่างอิสระที่สามารถช่วยพัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ได้ 4) แรงจูงใจภายในเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เรียนประสบผลสำเร็จในการเรียนรู้ 5) ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของมนุษย์แบ่งได้เป็น 3 ขั้นใหญ่ ๆ คือ -ขั้นการเรียนรู้จากการกระทำ (Enactive Stage) คือ ขั้นของการเรียนรู้จากการใช้ประสาทสัมผัสรับรู้สิ่งต่าง ๆ การลงมือกระทำช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้ดี การเรียนรู้เกิดจากการกระทำ -ขั้นการเรียนรู้จากความคิด (Iconic Stage) เป็นขั้นที่เด็กสามารถสร้างมโนภาพในใจได้ และสามารถเรียนรู้จากภาพแทนของจริงได้ -ขั้นการเรียนรู้สัญลักษณ์และนามธรรม (Symbolic Stage) เป็นขั้นการเรียนรู้สิ่งที่ซับซ้อนและเป็นนามธรรมได้ 6) การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากการที่คนเราสามารถสร้างความคิดรวบยอด หรือสามารถจัดประเภทของสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 7) การเรียนรู้ที่ได้ผลดีที่สุด คือ การให้ผู้เรียนค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง (discovery learning) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน -ส่งเสริมกระบวนการค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเองกับผู้เรียน เพราะเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ดีมีความหมายสำหรับผู้เรียน -การวิเคราะห์และจัดโครงสร้างเนื้อหาสาระการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ต้องทำก่อนการสอน -ในการเรียนการสอนควรส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิดอย่างอิสระให้มากเพื่อช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน -การสร้างแรงจูงใจภายในให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน เป็นสิ่งจำเป็นในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แก่ผู้เรียน -การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น -การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้ค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี เช่นการทำกิจกรรมนอกตำรา หรือนอกห้องเรียน ให้เด็กได้ทดลองทำกิจกรรมใหม่ๆ เพื่ค้นหาในสิ่งที่ตัวเองชอบหรือถนัด เป็นต้น นอกจากทฤษฎีทั้ง 5 ที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างเพื่อการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างเหมาะสมแล้ว ก็ยังมีอีกหลายทฤษฎีที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้ เช่น ทฤษฎีหมวก6 ใบ ที่เป็นหนึ่งในทฤษฎีที่สามารถช่วยพัฒนาการคิดและตัดสินใจของผู้เรียน >>> ทฤษฎีหมวก 6 ใบกับการประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาผู้เรียน ขอบคุณข้อมูลจาก : http://yru58.blogspot.com/p/blog-page_5.html : http://oknation.nationtv.tv/blog/shitako/2009/09/14/entry-1 : https://sites.google.com/site/psychologybkf1/home/citwithya-phathnakar/thvsdi-cit-sangkhm-khxng-xi-rik-san : http://nattavut40.blogspot.com/p/kolberg-kolberg-cognitivism-piaget.html : http://gamlovenew.blogspot.com/2015/11/blog-post_11.html : https://www.baanjomyut.com/library_2/intellectual_development_theory/02.html ขอบคุณรูปภาพจาก : https://blog.sharetolearn.com/classroom-resources/five-aspects-of-classroom-management/ : https://www.roscommonchildcare.ie/category/aim/ : https://www.gettingsmart.com/2016/03/shift-to-digital-classroom-look-fors/ EZ Webmaster Related Posts สวนสุนันทา พัฒนา soft skills ทักษะวิศวกรสังคม ระดับผู้นำนักศึกษาให้เป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ คณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญบุรี เปิดรับสาขาการตลาด หลักสูตรเทียบโอน (ภาคพิเศษ) เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ สภามหาวิทยาลัยมอบเกียรติบัตรชื่นชมนักศึกษาสวนสุนันทา ที่สร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัย พยาบาลไทยได้เฮ มีโควตาไปทำงานที่เยอรมนีไม่ต่ำกว่า 200 ตำแหน่งต่อปี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สิ่งที่ยากที่สุดในการเป็นครูคืออะไร จากการสำรวจของ EDUZONES Post navigation PREVIOUS Previous post: แนะ 5 หนังสือสำหรับการเรียนรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษNEXT Next post: ข้อสอบ GED คืออะไร? สอบผ่านแล้วเข้ามหาวิทยาลัยได้เลยจริงหรือ? Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH…
ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH…
“สกสว. – สวทช” ปั้นกลุ่ม “ผู้จัดการงานวิจัยและนวัตกรรม” จาก 45 หน่วยงาน ผลักดันสู่บทบาทผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและงาน ววน. ของประเทศ EZ WebmasterMay 2, 2024 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมกับ สถาบันพัฒนาบุคลากรแห่งอนาคต สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดกิจกรรมพัฒนาผู้จัดการงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม หรือ RDI Manager เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ กลไกการทำงานระหว่างหน่วยงาน ให้สามารถเชื่อมโยงยกระดับการบริหารจัดการงานวิจัยและนวัตกรรมได้เหมาะสมกับบริบทของหน่วยงานในระบบ ววน. พร้อมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากร ความร่วมมือในการขยายผลการขับเคลื่อนผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งการส่วนร่วมออกแบบแนวทางการขับเคลื่อนมาตรฐานวิชาชีพของ RDI Managers และกิจกรรมศึกษาดูงาน “แนวทางการบริหารงานวิจัยเชิงพื้นที่” บทบาทของกลไกชุมชนและภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนงานเชิงระบบ… น้ำมันเชื้อเพลิงจากยีสต์! ผลงานวิจัยคณะวิทย์ฯ จุฬาฯ จ่อขยายการผลิตเพื่ออุตสาหกรรมอากาศยาน EZ WebmasterApril 30, 2024 นักวิจัย จุฬาฯ ใช้หญ้าอาหารสัตว์ เลี้ยงจุลินทรีย์เพื่อนำไขมันที่ได้มาเปลี่ยนเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ตั้งเป้าขยายการผลิตทดแทนน้ำมันจากปิโตรเลียม ลดผลกระทบทางสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ยีสต์เป็นจุลินทรีย์ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารและเครื่องดื่มหลายประเภท อาทิ ขนมปัง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ในอนาคต ยีสต์จะเป็นกำลังสำคัญในการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงทดแทนพลังงานที่มาจากฟอสซิล ปัจจุบัน นักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีขยายขนาดการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพอากาศยานจากยีสต์ ซึ่งเป็นการต่อยอดผลสำเร็จจากการวิจัยพบยีสต์สายพันธุ์ที่มีศักยภาพสูงในการผลิตไขมันเพื่อนำมาผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน โดยในกระบวนการผลิตน้ำมันจากยีสต์นั้น ยังได้ใช้ของเหลือทิ้งจากภาคการเกษตรมาเป็นอาหารเลี้ยงจุลินทรีย์ นับเป็นการลดปัญหาจากเผาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับของเหลือทิ้งภาคการเกษตรอีกทางหนึ่งด้วย ที่มางานวิจัยผลิตน้ำมันจากยีสต์… สสวท. ชวนครูคณิตศาสตร์มัธยมอบรมฟรี สมัครได้ถึง 30 เม.ย.นี้ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” EZ WebmasterApril 29, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เชิญครูผู้สอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาและผู้สนใจ อบรมหัวข้อ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” ในรูปแบบออนไลน์ สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 เมษายน 2567 อบรมระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2567 ลงทะเบียนและอบรมที่เว็บไซต์ระบบอบรมครู… ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี EZ WebmasterApril 26, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครูและเยาวชนสนุกเรียน สนุกรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี รับปิดเทอมนี้ที่ คลังความรู้ SciMath สสวท. พบสื่อหลากหลายทั้ง อีบุ๊กเพิ่มทักษะ คู่มือครู วีดิทัศน์ คลังภาพ โครงงาน บทเรียนน่ารู้ แผนการสอน แอปพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้พร้อมเกมฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหา เพลิดเพลินเรียนรู้ในโลกออนไลน์ฟรีที่คลังความรู้ SciMath สสวท. https://www.scimath.org กิจกรรม ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน EZ WebmasterMay 3, 2024 ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี! ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ทาง www.vec.go.th… ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search EZ Webmaster March 20, 2020 EZ Webmaster March 20, 2020 5 ทฤษฎีพัฒนากับการส่งเสริมการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับผู้เรียน หลังจากที่ทางเว็บไซต์ได้นำเสนอ 5 ทฤษฎี จาก 5 นักคิด เพื่อการนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนกันไปแล้ว วันนี้ทางเว็บไซต์ eduzones ก็ได้มีทฤษฎีที่สามารถนำมาส่งเสริมและใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้เช่นกันนั่นก็คือ “ทฤษฎีการพัฒนา” วันนี้เราจึงได้นำทฤษฎีพัฒนาจาก 5 นักคิดที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนเพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้อย่างเหมาะสมให้แก่ผู้เรียนสำหรับครูผู้สอนทุกท่านมาฝากกันค่ะ ทฤษฎีจิตสังคมของอีริกสัน นักคิดคนแรกสำหรับทฤษฎีพัฒนา ได้แก่ อิริคสัน นักจิตวิเคราะห์ที่มีชื่อของอเมริกา เป็นผู้วิเคราะห์เกี่ยวกับเด็กเป็นคนแรกในนครบอสตัน เขาเห็นว่าการจะทำความเข้าใจพฤติกรรมเด็ก จะต้องศึกษาจากการอบรมเลี้ยงดู สภาพสังคม และความเป็นอยู่ของเด็ก ปัญหาที่นำมาวิเคราะห์นั้นจะอธิบายเชื่อมโยงระหว่างจิตวิทยากับสังคมวิทยาใน รูปแบบของมนุษย์วิทยาซึ่งมีแนวความคิดว่ามนุษย์ต้องพึ่งสังคมและสังคมก็ต้องพึ่งมนุษย์มนุษย์มีวิวัฒนาการที่สลับซับซ้อนและผ่านขั้นตอนต่างๆ ของธรรมชาติหลายขั้นตอน โดยอีริกสันได้ แบ่งพัฒนาการด้านจิตสังคมของบุคคลเป็น 8 ขั้น ตามช่วงอายุดังนี้ ขั้นที่ 1 ระยะทารก (Infancy period) อายุ 0-2 ปี ในระยะขวบปีแรกทารกจะต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่นในการดูแลเอาใจใส่ทุกด้าน ตลอดจนความรัก และสอนให้ทารกพบกับสิ่งเร้าใหม่ๆ ขั้นที่ 2 วัยเริ่มต้น (Toddler period) อายุ 2-3 ปี ขั้นนี้เด็กเริ่มเรียนรู้ที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง หากได้รับการสนับสนุนและกระตุ้นให้เด็กได้กระทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเองตามสมควร ขั้นที่ 3 ระยะก่อนไปโรงเรียน (Preschool period) อายุ 3-6 ปี เป็นระยะที่เด็กมีการเรียนรู้อย่างกว้างขวาง มีความสัมพันธ์กับเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง มีความอยากรู้อยากเห็น ชอบลองอะไรใหม่ๆ ขั้นที่ 4 ระยะเข้าโรงเรียน (School period) อายุ 6-12 ปี ระยะนี้เด็กเรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์ มีความคิดและพยายามทำกิจกรรมด้วยตัวเอง หากได้รับการสนับสนุนก็ย่อมทำให้เด็กมีการพัฒนาที่ดี ขั้นที่ 5 ระยะวัยรุ่น (Adolescent period) อายุ 12-20 ปี เป็นระยะที่เริ่มสนใจเรื่องเพศ เข้าไปผูกพันกับสังคมและต้องการตำแหน่งทางสังคม ความรู้สึกเป็นอิสระและเป็นตัวของตัวเอง ขั้นที่ 6 ระยะต้นของวัยผู้ใหญ่ (Early adult period) อายุ 20-40 ระยะนี้จะเริ่มมีการนัดหมาย การแต่งงาน และชีวิตครอบครัว หรือทำงานกับผู้อื่นได้ หากสามารถบรรลุอัตลักษณ์ของตนเอง ก็จะสามารถสร้างและแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์อย่างสนิทสนมกับบุคคลอื่นได้ ขั้นที่ 7 ระยะผู้ใหญ่ (Adult period) อายุ 40-60 ปี เป็นระยะที่บุคคลหันมาสนใจกับโลกภายนอก ริเริ่มสร้างสรรค์งานต่างๆ เพื่อสังคม และคิดถึงผู้อื่น ขั้นที่ 8 ระยะวัยสูงอายุ (Aging period) อายุประมาณ 60 ปีขึ้นไป วัยนี้เป็นวัยสุขุม รอบคอบ บุคคลจะยอมรับความเป็นจริงของชีวิต ระลึกถึงความทรงจำในอดีต ถ้าหากประสบความสำเร็จในอดีตก็จะรู้สึกไว้วางใจผู้อื่นและตนเอง และมีความมั่นคงทางจิตใจ การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน สำหรับการประยุกต์ใช้ทฤษฎีพัฒนาการทางจิต สังคมของอีริกสันนั้น แนวคิดนี้ส่งผลให้วงการศึกษาตื่นตัวอย่างน้อยที่สุด 2 เรื่องคือ สัมพันธภาพระหว่างบุคคลและการรับรู้เกี่ยวกับตนเอง ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการพัฒนาแต่ละช่วงวัยของผู้เรียน โดยครูสามารถนำขั้นพัฒนาการตาม 8 ระยะข้างต้น มาส่งเสริมนักเรียนในแต่ละช่วงวัย โดยในการจัดการเรียนการสอนครูควรให้จัดให้มีกิจกรรมให้เด็กได้แสดงออกทั้งในด้านของความคิด ด้านสติปัญญา ด้านความสามารถ ให้อิสระทางความคิดต่อเด็ก ให้เด็กได้สร้างผลงานต่างๆ ด้วยตนเอง ให้เด็กเกิดความภูมิใจในตัวเอง ครูต้องให้ความเชื่อใจและไว้วางใจในตัวเด็ก เพื่อให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเอง มีความเชื่อว่าตัวเองสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ โดยการได้ทดลองได้เรียนรู้จะทำให้เด็กได้รู้จักตนเองว่าตนมีความชอบหรือมีความสนใจในด้านไหน และครูควรคอยส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาในสิ่งที่ตนชอบ ในการอยู่ร่วมกันในสังคมครูควรมีการจัดให้เด็กใช้กิจกรรมกลุ่มโดยให้เด็กแต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบของตนเอง เพื่อให้เด็กรู้สึกมีส่วนร่วมในสังคม ทฤษฎีพัฒนาการตามวัยของโรเบิร์ต เจ ฮาวิกเฮิร์ต โรเบิร์ต ฮาวิกเฮิร์ส เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนจะต้องทำงานตามวัย โดยเรียกสิ่งนี้ว่า “งานพัฒนาการ” หมายถึง งานที่ทุกคนจะต้องทำในแต่ละวัยของชีวิต ซึ่งสัมฤทธิ์ผลของงานพัฒนาการของงานแต่ละวัย มีความสำคัญมากเพราะเป็นของการเรียนรู้งานพัฒนาขั้นต่อไป โดยได้การแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ ออกเป็น 4 ด้านใหญ่ๆ ได้แก่ พัฒนาการทางกาย เป็นการแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ตามขั้นตอนในแต่ละวัน พัฒนาการทางด้านความคิดหรือสติปัญญา พัฒนาการทางด้านจิตใจ ซึ่งแบ่งย่อยเป็น 3.1 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-เพศ (Psychosexual Development) 3.2 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-สังคม (Psychosocial Development) พัฒนาการด้านจริยธรรม (Moral Development) ซึ่งพัฒนาการของมนุษย์นั้น แบ่งได้เป็น 6 ช่วงอายุ คือ วัยเด็กเล็ก-วัยเด็กตอนต้น (แรกเกิด- 6 ปี) วัยเด็กตอนกลาง (6-18 ปี) วัยรุ่น (12-18 ปี) วัยผู้ใหญ่ตอนต้น (18-35 ปี) วัยกลางคน (35-60 ปี) วัยชรา (อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เพราะการเรียนรู้ในแต่ละช่วงวัยนั้นมีความสำคัญอย่างมากสำหรับแนวคิดของโรเบิร์ตดังนั้น การจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยจึงสำคัญ ซึ่งหนึ่งในผู้ที่จะทำให้เด็กมองเห็นพฤติกรรมที่เหมาะได้หนึ่งในนั้นก็คือ “ครูผู้สอน” -โดยในห้องเรียนครูจะเป็นตัวแบบที่มีอิทธิพลมากที่สุด ครูควรคำนึงอยู่เสมอว่า การเรียนรู้โดยการสังเกตและเลียนแบบจะเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ว่าครูจะไม่ได้ตั้งวัตถุประสงค์ไว้ก็ตาม – การสอนแบบสาธิตปฏิบัติเป็นการสอนโดยใช้หลักการและขั้นตอนตามทฤษฎี ครูต้องแสดงตัวอย่างพฤติกรรมที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดการแสดงพฤติกรรมเลียนแบบที่มีประสิทธิภาพ เพราะหากครูเกิดความผิดพลาดแล้วบอกให้ผู้เรียนไม่ต้องทำตาม แต่การกระทำเหล่านั้นก็ผ่านการสังเกตและการรับรู้ของผู้เรียนไปแล้ว -นอกจากครูแล้ว ควรใช้ผู้เรียนด้วยกันเป็นตัวแบบได้ในบางกรณี โดยธรรมชาติเพื่อนในชั้นเรียนย่อมมีอิทธิพลต่อการเลียนแบบสูงอยู่แล้ว ครูควรพยายามใช้ทักษะจูงใจให้ผู้เรียนสนใจและเลียนแบบเพื่อนที่มีพฤติกรรมที่ดี โดยอาจเป็นการชี้ทางด้วยการชื่นชมนักเรียนที่มีพฤติกรรมต้นแบบที่ดีเพื่อให้นักเรียนคนอื่นๆได้มองเห็นได้อีกด้วย ทฤษฎีพัฒนาจริยธรรมของโคลเบิร์ก (Kolberg) โคลเบิร์ก (Kolberg) เป็นนักจิตวิทยากลุ่มปัญญานิยม (cognitivism) ซึ่งมีความเชื่อพื้นฐานว่า มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีสมอง สามารถเกิดการเรียนรู้ เพื่อการปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมได้ เชื่อว่า จริยธรรมนั้นมีพัฒนาการตามระดับวุฒิภาวะ เพราะจริยธรรมของมนุษย์เกิดจากกระบวนการทางปัญญา เมื่อมนุษย์มีการเรียนรู้มากขึ้น โครงสร้างทางปัญญาเพิ่มพูนขึ้น จริยธรรมก็พัฒนาตามวุฒิภาวะนั่นเอง โดยโคลเบิร์ก ได้ศึกษาการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมของเยาวชนอเมริกัน อายุ 10 -16 ปี และได้แบ่งพัฒนาการทางจริยธรรมออกเป็น 3 ระดับ (Levels) แต่ละระดับแบ่งออกเป็น 2 ขั้น (Stages) ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์กมีทั้งหมด 6 ขั้น ได้แก่ ระดับที่ 1 ระดับก่อนกฏเกณฑ์สังคม จะพบในเด็ก 2-10 ปี -ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง -ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ระดับที่ 2 ระดับจริยธรรมตามกฎเกณฑ์สังคม จะพบในวัยรุ่นอายุ 10 -16 ปี -ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม -ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม ระดับที่ 3 ระดับจริยธรรมอย่างมีวิจารณญาณ -ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา -ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล โคลเบิร์ก ได้ทำการวิเคราะห์เหตุผลเชิงจริยธรรม โดยทำการวิเคราะห์คำตอบของเยาวชนอเมริกันอายุ 10-16 ปี และแบ่งประเภทเหตุผลเชิงจริยธรรมไว้ 6 ประเภทคือ ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง ในขั้นนี้เด็กจะใช้ผลตามของพฤติกรรมเป็นเครื่องชี้ว่า พฤติกรรมของตน “ถูก” หรือ “ผิด” ถ้าเด็กถูกทำโทษก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ผิด” พฤติกรรมใดที่มีผลตามด้วยรางวัลหรือคำชม เด็กก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ถูก” ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ในขั้นนี้เด็กจะสนใจทำตามกฎข้อบังคับ เพื่อประโยชน์หรือความพอใจของตนเอง ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม ใช้เหตุผลเลือกทำในสิ่งที่กลุ่มยอมรับโดยเฉพาะเพื่อน เพื่อเป็นที่ชื่นชอบและยอมรับของเพื่อน ไม่เป็นตัวของตัวเอง คล้อยตามการชักจูงของผู้อื่น เพื่อต้องการรักษาสัมพันธภาพที่ดี ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม จะใช้หลักทำตามหน้าที่ของสังคม โดยปฏิบัติตามระเบียบของสังคมอย่างเคร่งครัด เรียนรู้การเป็นหน่วยหนึ่งของสังคม ปฏิบัติตามหน้าที่ของสังคมเพื่อดำรงไว้ซึ่งกฎเกณฑ์ในสังคม ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา ขั้นนี้เน้นถึงความสำคัญของมาตรฐานทางจริยธรรมที่ทุกคนหรือคนส่วนใหญ่ในสังคมยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ถูกสมควรที่จะปฏิบัติตาม ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล ในขั้นนี้สิ่งที่ “ถูก” และ “ผิด” เป็นสิ่งที่ขึ้นมโนธรรมของแต่ละบุคคลที่เลือกยึดถือ ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมจะมีความเกี่ยวข้องกับพัฒนาการทางด้านความคิดเป็นเหตุเป็นผล บุคคลจะมีพัฒนาการทางจริยธรรมเป็นไปตามลำดับ และไม่มีการข้ามขั้น การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก ทำให้ผู้สอนรู้ว่าการรับรู้ของเด็กในแต่ละวัยนั้นแตกต่างกัน เด็กเล็กจะมีการตอบสนองข้อขัดแย้งในเรื่องจริยธรรมแตกต่างจากเด็กโต ซึ่งในการจัดการเรียนรู้นั้นผู้สอนควรกระตุ้นให้เด็กได้สื่อแนวคิดนั้นๆ ออก มาโดยสร้างบรรยากาศที่สามารถกระตุ้นให้ผู้เรียนอภิปรายได้อย่างอิสระ และใช้สถานการณ์ตัวอย่างหรือเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในห้องเรียนมากระตุ้น ให้ผู้เรียนตระหนักถึงการมีจริยธรรมภายในห้องเรียนให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการยกตัวอย่าง การใช้สื่อเข้ามาช่วย รวมไปถึงการเปิดให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็น ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจท์ ทฤษฎีของเพียเจต์เชื่อว่า การเรียนรู้ของเด็กเป็นไปตามพัฒนาการทางสติปัญญาซึ่งจะมีพัฒนาการไปตามวัยต่างๆ เป็นลำดับขั้น พัฒนาการเป็นสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติไม่ควรที่จะเร่งเด็กให้ข้ามจากพัฒนาการจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่ง เพราะจะทำให้เกิดผลเสียแก่เด็ก แต่การจัดประสบการณ์ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในช่วงที่เด็กกำลังจะพัฒนาไปสู่ขั้นที่สูงกว่าสามารถช่วยให้เด็กพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว พัฒนาการทางสติปัญญาของบุคคลเป็นไปตามวัยต่างๆเป็นลำดับขั้น ดังนี้ ขั้นประสาทรับรู้และการเคลื่อนไหว (Sensori-Motor Stage) เริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 ปี พฤติกรรมของเด็กในวัยนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวเป็นส่วนใหญ่ ขั้นก่อนปฏิบัติการคิด (Preoperational Stage) เริ่มตั้งแต่อายุ 2-7 ปี ขั้นปฏิบัติการคิดด้านรูปธรรม (Concrete Operation Stage) เริ่มจากอายุ 7-11 ปี พัฒนาการทางด้านสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้สามารถสร้างกฎเกณฑ์และตั้งเกณฑ์ในการแบ่งสิ่งแวดล้อมออกเป็นหมวดหมู่ได้ ขั้นปฏิบัติการคิดด้วยนามธรรม (Formal Operational Stage) เริ่มจากอายุ 11-15 ปี ในขั้นนี้พัฒนาการทางสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้เป็นขั้นสุดยอด คือเด็กในวัยนี้จะเริ่มคิดแบบผู้ใหญ่ ความคิดแบบเด็กจะสิ้นสุดลง เด็กจะสามารถที่จะคิดหาเหตุผลนอกเหนือไปจากข้อมูลที่มีอยู่ พัฒนาการทางการรู้คิดของเด็กในช่วงอายุ 6 ปีแรกของชีวิต ซึ่งเพียเจต์ ได้ศึกษาไว้เป็นประสบการณ์สำคัญที่เด็กควรได้รับการส่งเสริม มี 6 ขั้น ได้แก่ ขั้นความรู้แตกต่าง (Absolute Differences) เด็กเริ่มรับรู้ในความแตกต่างของสิ่งของที่มองเห็น ขั้นรู้สิ่งตรงกันข้าม (Opposition) ขั้นนี้เด็กรู้ว่าของต่างๆ มีลักษณะตรงกันข้ามเป็น 2 ด้าน เช่น มี-ไม่มี หรือ เล็ก-ใหญ่ ขั้นรู้หลายระดับ (Discrete Degree) เด็กเริ่มรู้จักคิดสิ่งที่เกี่ยวกับลักษณะที่อยู่ตรงกลางระหว่างปลายสุดสอง ปลาย เช่น ปานกลาง น้อย ขั้นความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง (Variation) เด็กสามารถเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ เช่น บอกถึงความเจริญเติบโตของต้นไม้ ขั้นรู้ผลของการกระทำ (Function) ในขั้นนี้เด็กจะเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลง ขั้นการทดแทนอย่างลงตัว (Exact Compensation) เด็กจะรู้ว่าการกระทำให้ของสิ่งหนึ่งเปลี่ยนแปลงย่อมมีผลต่ออีกสิ่งหนึ่งอย่างทัดเทียมกัน การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เมื่อทำงานกับนักเรียน ผู้สอนควรคำนึงถึงพัฒนาการทางสติปัญญาของนักเรียนว่า นักเรียนที่มีอายุเท่ากันอาจมีขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่ควรเปรียบเทียบเด็ก ควรให้เด็กมีอิสระที่จะเรียนรู้และพัฒนาความสามารถของเขาไปตามระดับพัฒนาการของเขา ให้เน้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนโดยต้องเน้นให้นักเรียนใช้ศักยภาพของตนเองให้มากที่สุด สำหรับแนวทางการสอนที่ส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน เช่น -การหัดให้นักเรียนถามคำถามมากกว่าการให้คำตอบ – ครูผู้สอนควรจะพูดให้น้อยลง และฟังนักเรียนให้มากขึ้น – ควรให้เสรีภาพแก่นักเรียนที่จะเลือกเรียนกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเองมากขึ้น ทั้งนี้ผู้สอนต้องเข้าใจว่าระดับความสามารถของนักเรียนแต่ละคนนั้นแตกต่าง และนักเรียนจะมีความสามารถเพิ่มขึ้นในระดับความคิดขั้นต่อไป ดังนั้นการให้เวลาและความสนใจกับพวกเขาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของบรุนเนอร์ บรุนเนอร์ (Bruner) เชื่อว่ามนุษย์เลือกที่จะรับรู้สิ่งที่ตนเองสนใจและการเรียนรู้เกิดจากกระบวนการค้นพบด้วยตัวเอง (discovery learning) แนวคิดที่สำคัญ ๆ ของบรุนเนอร์ ได้แก่ 1) การจัดโครงสร้างของความรู้ให้มีความสัมพันธ์ และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก มีผลต่อการเรียนรู้ของเด็ก 2) การจัดหลักสูตรและการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับระดับความพร้อมของผู้เรียน และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนจะช่วยให้การเรียนรู้เกิดประสิทธิภาพ 3) การคิดแบบหยั่งรู้ (intuition) เป็นการคิดหาเหตุผลอย่างอิสระที่สามารถช่วยพัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ได้ 4) แรงจูงใจภายในเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เรียนประสบผลสำเร็จในการเรียนรู้ 5) ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของมนุษย์แบ่งได้เป็น 3 ขั้นใหญ่ ๆ คือ -ขั้นการเรียนรู้จากการกระทำ (Enactive Stage) คือ ขั้นของการเรียนรู้จากการใช้ประสาทสัมผัสรับรู้สิ่งต่าง ๆ การลงมือกระทำช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้ดี การเรียนรู้เกิดจากการกระทำ -ขั้นการเรียนรู้จากความคิด (Iconic Stage) เป็นขั้นที่เด็กสามารถสร้างมโนภาพในใจได้ และสามารถเรียนรู้จากภาพแทนของจริงได้ -ขั้นการเรียนรู้สัญลักษณ์และนามธรรม (Symbolic Stage) เป็นขั้นการเรียนรู้สิ่งที่ซับซ้อนและเป็นนามธรรมได้ 6) การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากการที่คนเราสามารถสร้างความคิดรวบยอด หรือสามารถจัดประเภทของสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 7) การเรียนรู้ที่ได้ผลดีที่สุด คือ การให้ผู้เรียนค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง (discovery learning) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน -ส่งเสริมกระบวนการค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเองกับผู้เรียน เพราะเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ดีมีความหมายสำหรับผู้เรียน -การวิเคราะห์และจัดโครงสร้างเนื้อหาสาระการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ต้องทำก่อนการสอน -ในการเรียนการสอนควรส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิดอย่างอิสระให้มากเพื่อช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน -การสร้างแรงจูงใจภายในให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน เป็นสิ่งจำเป็นในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แก่ผู้เรียน -การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น -การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้ค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี เช่นการทำกิจกรรมนอกตำรา หรือนอกห้องเรียน ให้เด็กได้ทดลองทำกิจกรรมใหม่ๆ เพื่ค้นหาในสิ่งที่ตัวเองชอบหรือถนัด เป็นต้น นอกจากทฤษฎีทั้ง 5 ที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างเพื่อการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างเหมาะสมแล้ว ก็ยังมีอีกหลายทฤษฎีที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้ เช่น ทฤษฎีหมวก6 ใบ ที่เป็นหนึ่งในทฤษฎีที่สามารถช่วยพัฒนาการคิดและตัดสินใจของผู้เรียน >>> ทฤษฎีหมวก 6 ใบกับการประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาผู้เรียน ขอบคุณข้อมูลจาก : http://yru58.blogspot.com/p/blog-page_5.html : http://oknation.nationtv.tv/blog/shitako/2009/09/14/entry-1 : https://sites.google.com/site/psychologybkf1/home/citwithya-phathnakar/thvsdi-cit-sangkhm-khxng-xi-rik-san : http://nattavut40.blogspot.com/p/kolberg-kolberg-cognitivism-piaget.html : http://gamlovenew.blogspot.com/2015/11/blog-post_11.html : https://www.baanjomyut.com/library_2/intellectual_development_theory/02.html ขอบคุณรูปภาพจาก : https://blog.sharetolearn.com/classroom-resources/five-aspects-of-classroom-management/ : https://www.roscommonchildcare.ie/category/aim/ : https://www.gettingsmart.com/2016/03/shift-to-digital-classroom-look-fors/ EZ Webmaster Related Posts สวนสุนันทา พัฒนา soft skills ทักษะวิศวกรสังคม ระดับผู้นำนักศึกษาให้เป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ คณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญบุรี เปิดรับสาขาการตลาด หลักสูตรเทียบโอน (ภาคพิเศษ) เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ สภามหาวิทยาลัยมอบเกียรติบัตรชื่นชมนักศึกษาสวนสุนันทา ที่สร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัย พยาบาลไทยได้เฮ มีโควตาไปทำงานที่เยอรมนีไม่ต่ำกว่า 200 ตำแหน่งต่อปี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สิ่งที่ยากที่สุดในการเป็นครูคืออะไร จากการสำรวจของ EDUZONES Post navigation PREVIOUS Previous post: แนะ 5 หนังสือสำหรับการเรียนรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษNEXT Next post: ข้อสอบ GED คืออะไร? สอบผ่านแล้วเข้ามหาวิทยาลัยได้เลยจริงหรือ? Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
น้ำมันเชื้อเพลิงจากยีสต์! ผลงานวิจัยคณะวิทย์ฯ จุฬาฯ จ่อขยายการผลิตเพื่ออุตสาหกรรมอากาศยาน EZ WebmasterApril 30, 2024 นักวิจัย จุฬาฯ ใช้หญ้าอาหารสัตว์ เลี้ยงจุลินทรีย์เพื่อนำไขมันที่ได้มาเปลี่ยนเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ตั้งเป้าขยายการผลิตทดแทนน้ำมันจากปิโตรเลียม ลดผลกระทบทางสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ยีสต์เป็นจุลินทรีย์ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารและเครื่องดื่มหลายประเภท อาทิ ขนมปัง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ในอนาคต ยีสต์จะเป็นกำลังสำคัญในการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงทดแทนพลังงานที่มาจากฟอสซิล ปัจจุบัน นักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีขยายขนาดการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพอากาศยานจากยีสต์ ซึ่งเป็นการต่อยอดผลสำเร็จจากการวิจัยพบยีสต์สายพันธุ์ที่มีศักยภาพสูงในการผลิตไขมันเพื่อนำมาผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน โดยในกระบวนการผลิตน้ำมันจากยีสต์นั้น ยังได้ใช้ของเหลือทิ้งจากภาคการเกษตรมาเป็นอาหารเลี้ยงจุลินทรีย์ นับเป็นการลดปัญหาจากเผาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับของเหลือทิ้งภาคการเกษตรอีกทางหนึ่งด้วย ที่มางานวิจัยผลิตน้ำมันจากยีสต์… สสวท. ชวนครูคณิตศาสตร์มัธยมอบรมฟรี สมัครได้ถึง 30 เม.ย.นี้ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” EZ WebmasterApril 29, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เชิญครูผู้สอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาและผู้สนใจ อบรมหัวข้อ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” ในรูปแบบออนไลน์ สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 เมษายน 2567 อบรมระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2567 ลงทะเบียนและอบรมที่เว็บไซต์ระบบอบรมครู… ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี EZ WebmasterApril 26, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครูและเยาวชนสนุกเรียน สนุกรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี รับปิดเทอมนี้ที่ คลังความรู้ SciMath สสวท. พบสื่อหลากหลายทั้ง อีบุ๊กเพิ่มทักษะ คู่มือครู วีดิทัศน์ คลังภาพ โครงงาน บทเรียนน่ารู้ แผนการสอน แอปพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้พร้อมเกมฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหา เพลิดเพลินเรียนรู้ในโลกออนไลน์ฟรีที่คลังความรู้ SciMath สสวท. https://www.scimath.org กิจกรรม ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน EZ WebmasterMay 3, 2024 ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี! ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ทาง www.vec.go.th… ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search EZ Webmaster March 20, 2020 EZ Webmaster March 20, 2020 5 ทฤษฎีพัฒนากับการส่งเสริมการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับผู้เรียน หลังจากที่ทางเว็บไซต์ได้นำเสนอ 5 ทฤษฎี จาก 5 นักคิด เพื่อการนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนกันไปแล้ว วันนี้ทางเว็บไซต์ eduzones ก็ได้มีทฤษฎีที่สามารถนำมาส่งเสริมและใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้เช่นกันนั่นก็คือ “ทฤษฎีการพัฒนา” วันนี้เราจึงได้นำทฤษฎีพัฒนาจาก 5 นักคิดที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนเพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้อย่างเหมาะสมให้แก่ผู้เรียนสำหรับครูผู้สอนทุกท่านมาฝากกันค่ะ ทฤษฎีจิตสังคมของอีริกสัน นักคิดคนแรกสำหรับทฤษฎีพัฒนา ได้แก่ อิริคสัน นักจิตวิเคราะห์ที่มีชื่อของอเมริกา เป็นผู้วิเคราะห์เกี่ยวกับเด็กเป็นคนแรกในนครบอสตัน เขาเห็นว่าการจะทำความเข้าใจพฤติกรรมเด็ก จะต้องศึกษาจากการอบรมเลี้ยงดู สภาพสังคม และความเป็นอยู่ของเด็ก ปัญหาที่นำมาวิเคราะห์นั้นจะอธิบายเชื่อมโยงระหว่างจิตวิทยากับสังคมวิทยาใน รูปแบบของมนุษย์วิทยาซึ่งมีแนวความคิดว่ามนุษย์ต้องพึ่งสังคมและสังคมก็ต้องพึ่งมนุษย์มนุษย์มีวิวัฒนาการที่สลับซับซ้อนและผ่านขั้นตอนต่างๆ ของธรรมชาติหลายขั้นตอน โดยอีริกสันได้ แบ่งพัฒนาการด้านจิตสังคมของบุคคลเป็น 8 ขั้น ตามช่วงอายุดังนี้ ขั้นที่ 1 ระยะทารก (Infancy period) อายุ 0-2 ปี ในระยะขวบปีแรกทารกจะต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่นในการดูแลเอาใจใส่ทุกด้าน ตลอดจนความรัก และสอนให้ทารกพบกับสิ่งเร้าใหม่ๆ ขั้นที่ 2 วัยเริ่มต้น (Toddler period) อายุ 2-3 ปี ขั้นนี้เด็กเริ่มเรียนรู้ที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง หากได้รับการสนับสนุนและกระตุ้นให้เด็กได้กระทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเองตามสมควร ขั้นที่ 3 ระยะก่อนไปโรงเรียน (Preschool period) อายุ 3-6 ปี เป็นระยะที่เด็กมีการเรียนรู้อย่างกว้างขวาง มีความสัมพันธ์กับเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง มีความอยากรู้อยากเห็น ชอบลองอะไรใหม่ๆ ขั้นที่ 4 ระยะเข้าโรงเรียน (School period) อายุ 6-12 ปี ระยะนี้เด็กเรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์ มีความคิดและพยายามทำกิจกรรมด้วยตัวเอง หากได้รับการสนับสนุนก็ย่อมทำให้เด็กมีการพัฒนาที่ดี ขั้นที่ 5 ระยะวัยรุ่น (Adolescent period) อายุ 12-20 ปี เป็นระยะที่เริ่มสนใจเรื่องเพศ เข้าไปผูกพันกับสังคมและต้องการตำแหน่งทางสังคม ความรู้สึกเป็นอิสระและเป็นตัวของตัวเอง ขั้นที่ 6 ระยะต้นของวัยผู้ใหญ่ (Early adult period) อายุ 20-40 ระยะนี้จะเริ่มมีการนัดหมาย การแต่งงาน และชีวิตครอบครัว หรือทำงานกับผู้อื่นได้ หากสามารถบรรลุอัตลักษณ์ของตนเอง ก็จะสามารถสร้างและแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์อย่างสนิทสนมกับบุคคลอื่นได้ ขั้นที่ 7 ระยะผู้ใหญ่ (Adult period) อายุ 40-60 ปี เป็นระยะที่บุคคลหันมาสนใจกับโลกภายนอก ริเริ่มสร้างสรรค์งานต่างๆ เพื่อสังคม และคิดถึงผู้อื่น ขั้นที่ 8 ระยะวัยสูงอายุ (Aging period) อายุประมาณ 60 ปีขึ้นไป วัยนี้เป็นวัยสุขุม รอบคอบ บุคคลจะยอมรับความเป็นจริงของชีวิต ระลึกถึงความทรงจำในอดีต ถ้าหากประสบความสำเร็จในอดีตก็จะรู้สึกไว้วางใจผู้อื่นและตนเอง และมีความมั่นคงทางจิตใจ การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน สำหรับการประยุกต์ใช้ทฤษฎีพัฒนาการทางจิต สังคมของอีริกสันนั้น แนวคิดนี้ส่งผลให้วงการศึกษาตื่นตัวอย่างน้อยที่สุด 2 เรื่องคือ สัมพันธภาพระหว่างบุคคลและการรับรู้เกี่ยวกับตนเอง ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการพัฒนาแต่ละช่วงวัยของผู้เรียน โดยครูสามารถนำขั้นพัฒนาการตาม 8 ระยะข้างต้น มาส่งเสริมนักเรียนในแต่ละช่วงวัย โดยในการจัดการเรียนการสอนครูควรให้จัดให้มีกิจกรรมให้เด็กได้แสดงออกทั้งในด้านของความคิด ด้านสติปัญญา ด้านความสามารถ ให้อิสระทางความคิดต่อเด็ก ให้เด็กได้สร้างผลงานต่างๆ ด้วยตนเอง ให้เด็กเกิดความภูมิใจในตัวเอง ครูต้องให้ความเชื่อใจและไว้วางใจในตัวเด็ก เพื่อให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเอง มีความเชื่อว่าตัวเองสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ โดยการได้ทดลองได้เรียนรู้จะทำให้เด็กได้รู้จักตนเองว่าตนมีความชอบหรือมีความสนใจในด้านไหน และครูควรคอยส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาในสิ่งที่ตนชอบ ในการอยู่ร่วมกันในสังคมครูควรมีการจัดให้เด็กใช้กิจกรรมกลุ่มโดยให้เด็กแต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบของตนเอง เพื่อให้เด็กรู้สึกมีส่วนร่วมในสังคม ทฤษฎีพัฒนาการตามวัยของโรเบิร์ต เจ ฮาวิกเฮิร์ต โรเบิร์ต ฮาวิกเฮิร์ส เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนจะต้องทำงานตามวัย โดยเรียกสิ่งนี้ว่า “งานพัฒนาการ” หมายถึง งานที่ทุกคนจะต้องทำในแต่ละวัยของชีวิต ซึ่งสัมฤทธิ์ผลของงานพัฒนาการของงานแต่ละวัย มีความสำคัญมากเพราะเป็นของการเรียนรู้งานพัฒนาขั้นต่อไป โดยได้การแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ ออกเป็น 4 ด้านใหญ่ๆ ได้แก่ พัฒนาการทางกาย เป็นการแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ตามขั้นตอนในแต่ละวัน พัฒนาการทางด้านความคิดหรือสติปัญญา พัฒนาการทางด้านจิตใจ ซึ่งแบ่งย่อยเป็น 3.1 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-เพศ (Psychosexual Development) 3.2 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-สังคม (Psychosocial Development) พัฒนาการด้านจริยธรรม (Moral Development) ซึ่งพัฒนาการของมนุษย์นั้น แบ่งได้เป็น 6 ช่วงอายุ คือ วัยเด็กเล็ก-วัยเด็กตอนต้น (แรกเกิด- 6 ปี) วัยเด็กตอนกลาง (6-18 ปี) วัยรุ่น (12-18 ปี) วัยผู้ใหญ่ตอนต้น (18-35 ปี) วัยกลางคน (35-60 ปี) วัยชรา (อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เพราะการเรียนรู้ในแต่ละช่วงวัยนั้นมีความสำคัญอย่างมากสำหรับแนวคิดของโรเบิร์ตดังนั้น การจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยจึงสำคัญ ซึ่งหนึ่งในผู้ที่จะทำให้เด็กมองเห็นพฤติกรรมที่เหมาะได้หนึ่งในนั้นก็คือ “ครูผู้สอน” -โดยในห้องเรียนครูจะเป็นตัวแบบที่มีอิทธิพลมากที่สุด ครูควรคำนึงอยู่เสมอว่า การเรียนรู้โดยการสังเกตและเลียนแบบจะเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ว่าครูจะไม่ได้ตั้งวัตถุประสงค์ไว้ก็ตาม – การสอนแบบสาธิตปฏิบัติเป็นการสอนโดยใช้หลักการและขั้นตอนตามทฤษฎี ครูต้องแสดงตัวอย่างพฤติกรรมที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดการแสดงพฤติกรรมเลียนแบบที่มีประสิทธิภาพ เพราะหากครูเกิดความผิดพลาดแล้วบอกให้ผู้เรียนไม่ต้องทำตาม แต่การกระทำเหล่านั้นก็ผ่านการสังเกตและการรับรู้ของผู้เรียนไปแล้ว -นอกจากครูแล้ว ควรใช้ผู้เรียนด้วยกันเป็นตัวแบบได้ในบางกรณี โดยธรรมชาติเพื่อนในชั้นเรียนย่อมมีอิทธิพลต่อการเลียนแบบสูงอยู่แล้ว ครูควรพยายามใช้ทักษะจูงใจให้ผู้เรียนสนใจและเลียนแบบเพื่อนที่มีพฤติกรรมที่ดี โดยอาจเป็นการชี้ทางด้วยการชื่นชมนักเรียนที่มีพฤติกรรมต้นแบบที่ดีเพื่อให้นักเรียนคนอื่นๆได้มองเห็นได้อีกด้วย ทฤษฎีพัฒนาจริยธรรมของโคลเบิร์ก (Kolberg) โคลเบิร์ก (Kolberg) เป็นนักจิตวิทยากลุ่มปัญญานิยม (cognitivism) ซึ่งมีความเชื่อพื้นฐานว่า มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีสมอง สามารถเกิดการเรียนรู้ เพื่อการปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมได้ เชื่อว่า จริยธรรมนั้นมีพัฒนาการตามระดับวุฒิภาวะ เพราะจริยธรรมของมนุษย์เกิดจากกระบวนการทางปัญญา เมื่อมนุษย์มีการเรียนรู้มากขึ้น โครงสร้างทางปัญญาเพิ่มพูนขึ้น จริยธรรมก็พัฒนาตามวุฒิภาวะนั่นเอง โดยโคลเบิร์ก ได้ศึกษาการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมของเยาวชนอเมริกัน อายุ 10 -16 ปี และได้แบ่งพัฒนาการทางจริยธรรมออกเป็น 3 ระดับ (Levels) แต่ละระดับแบ่งออกเป็น 2 ขั้น (Stages) ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์กมีทั้งหมด 6 ขั้น ได้แก่ ระดับที่ 1 ระดับก่อนกฏเกณฑ์สังคม จะพบในเด็ก 2-10 ปี -ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง -ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ระดับที่ 2 ระดับจริยธรรมตามกฎเกณฑ์สังคม จะพบในวัยรุ่นอายุ 10 -16 ปี -ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม -ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม ระดับที่ 3 ระดับจริยธรรมอย่างมีวิจารณญาณ -ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา -ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล โคลเบิร์ก ได้ทำการวิเคราะห์เหตุผลเชิงจริยธรรม โดยทำการวิเคราะห์คำตอบของเยาวชนอเมริกันอายุ 10-16 ปี และแบ่งประเภทเหตุผลเชิงจริยธรรมไว้ 6 ประเภทคือ ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง ในขั้นนี้เด็กจะใช้ผลตามของพฤติกรรมเป็นเครื่องชี้ว่า พฤติกรรมของตน “ถูก” หรือ “ผิด” ถ้าเด็กถูกทำโทษก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ผิด” พฤติกรรมใดที่มีผลตามด้วยรางวัลหรือคำชม เด็กก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ถูก” ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ในขั้นนี้เด็กจะสนใจทำตามกฎข้อบังคับ เพื่อประโยชน์หรือความพอใจของตนเอง ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม ใช้เหตุผลเลือกทำในสิ่งที่กลุ่มยอมรับโดยเฉพาะเพื่อน เพื่อเป็นที่ชื่นชอบและยอมรับของเพื่อน ไม่เป็นตัวของตัวเอง คล้อยตามการชักจูงของผู้อื่น เพื่อต้องการรักษาสัมพันธภาพที่ดี ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม จะใช้หลักทำตามหน้าที่ของสังคม โดยปฏิบัติตามระเบียบของสังคมอย่างเคร่งครัด เรียนรู้การเป็นหน่วยหนึ่งของสังคม ปฏิบัติตามหน้าที่ของสังคมเพื่อดำรงไว้ซึ่งกฎเกณฑ์ในสังคม ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา ขั้นนี้เน้นถึงความสำคัญของมาตรฐานทางจริยธรรมที่ทุกคนหรือคนส่วนใหญ่ในสังคมยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ถูกสมควรที่จะปฏิบัติตาม ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล ในขั้นนี้สิ่งที่ “ถูก” และ “ผิด” เป็นสิ่งที่ขึ้นมโนธรรมของแต่ละบุคคลที่เลือกยึดถือ ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมจะมีความเกี่ยวข้องกับพัฒนาการทางด้านความคิดเป็นเหตุเป็นผล บุคคลจะมีพัฒนาการทางจริยธรรมเป็นไปตามลำดับ และไม่มีการข้ามขั้น การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก ทำให้ผู้สอนรู้ว่าการรับรู้ของเด็กในแต่ละวัยนั้นแตกต่างกัน เด็กเล็กจะมีการตอบสนองข้อขัดแย้งในเรื่องจริยธรรมแตกต่างจากเด็กโต ซึ่งในการจัดการเรียนรู้นั้นผู้สอนควรกระตุ้นให้เด็กได้สื่อแนวคิดนั้นๆ ออก มาโดยสร้างบรรยากาศที่สามารถกระตุ้นให้ผู้เรียนอภิปรายได้อย่างอิสระ และใช้สถานการณ์ตัวอย่างหรือเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในห้องเรียนมากระตุ้น ให้ผู้เรียนตระหนักถึงการมีจริยธรรมภายในห้องเรียนให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการยกตัวอย่าง การใช้สื่อเข้ามาช่วย รวมไปถึงการเปิดให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็น ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจท์ ทฤษฎีของเพียเจต์เชื่อว่า การเรียนรู้ของเด็กเป็นไปตามพัฒนาการทางสติปัญญาซึ่งจะมีพัฒนาการไปตามวัยต่างๆ เป็นลำดับขั้น พัฒนาการเป็นสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติไม่ควรที่จะเร่งเด็กให้ข้ามจากพัฒนาการจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่ง เพราะจะทำให้เกิดผลเสียแก่เด็ก แต่การจัดประสบการณ์ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในช่วงที่เด็กกำลังจะพัฒนาไปสู่ขั้นที่สูงกว่าสามารถช่วยให้เด็กพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว พัฒนาการทางสติปัญญาของบุคคลเป็นไปตามวัยต่างๆเป็นลำดับขั้น ดังนี้ ขั้นประสาทรับรู้และการเคลื่อนไหว (Sensori-Motor Stage) เริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 ปี พฤติกรรมของเด็กในวัยนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวเป็นส่วนใหญ่ ขั้นก่อนปฏิบัติการคิด (Preoperational Stage) เริ่มตั้งแต่อายุ 2-7 ปี ขั้นปฏิบัติการคิดด้านรูปธรรม (Concrete Operation Stage) เริ่มจากอายุ 7-11 ปี พัฒนาการทางด้านสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้สามารถสร้างกฎเกณฑ์และตั้งเกณฑ์ในการแบ่งสิ่งแวดล้อมออกเป็นหมวดหมู่ได้ ขั้นปฏิบัติการคิดด้วยนามธรรม (Formal Operational Stage) เริ่มจากอายุ 11-15 ปี ในขั้นนี้พัฒนาการทางสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้เป็นขั้นสุดยอด คือเด็กในวัยนี้จะเริ่มคิดแบบผู้ใหญ่ ความคิดแบบเด็กจะสิ้นสุดลง เด็กจะสามารถที่จะคิดหาเหตุผลนอกเหนือไปจากข้อมูลที่มีอยู่ พัฒนาการทางการรู้คิดของเด็กในช่วงอายุ 6 ปีแรกของชีวิต ซึ่งเพียเจต์ ได้ศึกษาไว้เป็นประสบการณ์สำคัญที่เด็กควรได้รับการส่งเสริม มี 6 ขั้น ได้แก่ ขั้นความรู้แตกต่าง (Absolute Differences) เด็กเริ่มรับรู้ในความแตกต่างของสิ่งของที่มองเห็น ขั้นรู้สิ่งตรงกันข้าม (Opposition) ขั้นนี้เด็กรู้ว่าของต่างๆ มีลักษณะตรงกันข้ามเป็น 2 ด้าน เช่น มี-ไม่มี หรือ เล็ก-ใหญ่ ขั้นรู้หลายระดับ (Discrete Degree) เด็กเริ่มรู้จักคิดสิ่งที่เกี่ยวกับลักษณะที่อยู่ตรงกลางระหว่างปลายสุดสอง ปลาย เช่น ปานกลาง น้อย ขั้นความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง (Variation) เด็กสามารถเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ เช่น บอกถึงความเจริญเติบโตของต้นไม้ ขั้นรู้ผลของการกระทำ (Function) ในขั้นนี้เด็กจะเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลง ขั้นการทดแทนอย่างลงตัว (Exact Compensation) เด็กจะรู้ว่าการกระทำให้ของสิ่งหนึ่งเปลี่ยนแปลงย่อมมีผลต่ออีกสิ่งหนึ่งอย่างทัดเทียมกัน การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เมื่อทำงานกับนักเรียน ผู้สอนควรคำนึงถึงพัฒนาการทางสติปัญญาของนักเรียนว่า นักเรียนที่มีอายุเท่ากันอาจมีขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่ควรเปรียบเทียบเด็ก ควรให้เด็กมีอิสระที่จะเรียนรู้และพัฒนาความสามารถของเขาไปตามระดับพัฒนาการของเขา ให้เน้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนโดยต้องเน้นให้นักเรียนใช้ศักยภาพของตนเองให้มากที่สุด สำหรับแนวทางการสอนที่ส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน เช่น -การหัดให้นักเรียนถามคำถามมากกว่าการให้คำตอบ – ครูผู้สอนควรจะพูดให้น้อยลง และฟังนักเรียนให้มากขึ้น – ควรให้เสรีภาพแก่นักเรียนที่จะเลือกเรียนกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเองมากขึ้น ทั้งนี้ผู้สอนต้องเข้าใจว่าระดับความสามารถของนักเรียนแต่ละคนนั้นแตกต่าง และนักเรียนจะมีความสามารถเพิ่มขึ้นในระดับความคิดขั้นต่อไป ดังนั้นการให้เวลาและความสนใจกับพวกเขาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของบรุนเนอร์ บรุนเนอร์ (Bruner) เชื่อว่ามนุษย์เลือกที่จะรับรู้สิ่งที่ตนเองสนใจและการเรียนรู้เกิดจากกระบวนการค้นพบด้วยตัวเอง (discovery learning) แนวคิดที่สำคัญ ๆ ของบรุนเนอร์ ได้แก่ 1) การจัดโครงสร้างของความรู้ให้มีความสัมพันธ์ และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก มีผลต่อการเรียนรู้ของเด็ก 2) การจัดหลักสูตรและการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับระดับความพร้อมของผู้เรียน และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนจะช่วยให้การเรียนรู้เกิดประสิทธิภาพ 3) การคิดแบบหยั่งรู้ (intuition) เป็นการคิดหาเหตุผลอย่างอิสระที่สามารถช่วยพัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ได้ 4) แรงจูงใจภายในเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เรียนประสบผลสำเร็จในการเรียนรู้ 5) ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของมนุษย์แบ่งได้เป็น 3 ขั้นใหญ่ ๆ คือ -ขั้นการเรียนรู้จากการกระทำ (Enactive Stage) คือ ขั้นของการเรียนรู้จากการใช้ประสาทสัมผัสรับรู้สิ่งต่าง ๆ การลงมือกระทำช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้ดี การเรียนรู้เกิดจากการกระทำ -ขั้นการเรียนรู้จากความคิด (Iconic Stage) เป็นขั้นที่เด็กสามารถสร้างมโนภาพในใจได้ และสามารถเรียนรู้จากภาพแทนของจริงได้ -ขั้นการเรียนรู้สัญลักษณ์และนามธรรม (Symbolic Stage) เป็นขั้นการเรียนรู้สิ่งที่ซับซ้อนและเป็นนามธรรมได้ 6) การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากการที่คนเราสามารถสร้างความคิดรวบยอด หรือสามารถจัดประเภทของสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 7) การเรียนรู้ที่ได้ผลดีที่สุด คือ การให้ผู้เรียนค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง (discovery learning) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน -ส่งเสริมกระบวนการค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเองกับผู้เรียน เพราะเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ดีมีความหมายสำหรับผู้เรียน -การวิเคราะห์และจัดโครงสร้างเนื้อหาสาระการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ต้องทำก่อนการสอน -ในการเรียนการสอนควรส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิดอย่างอิสระให้มากเพื่อช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน -การสร้างแรงจูงใจภายในให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน เป็นสิ่งจำเป็นในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แก่ผู้เรียน -การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น -การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้ค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี เช่นการทำกิจกรรมนอกตำรา หรือนอกห้องเรียน ให้เด็กได้ทดลองทำกิจกรรมใหม่ๆ เพื่ค้นหาในสิ่งที่ตัวเองชอบหรือถนัด เป็นต้น นอกจากทฤษฎีทั้ง 5 ที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างเพื่อการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างเหมาะสมแล้ว ก็ยังมีอีกหลายทฤษฎีที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้ เช่น ทฤษฎีหมวก6 ใบ ที่เป็นหนึ่งในทฤษฎีที่สามารถช่วยพัฒนาการคิดและตัดสินใจของผู้เรียน >>> ทฤษฎีหมวก 6 ใบกับการประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาผู้เรียน ขอบคุณข้อมูลจาก : http://yru58.blogspot.com/p/blog-page_5.html : http://oknation.nationtv.tv/blog/shitako/2009/09/14/entry-1 : https://sites.google.com/site/psychologybkf1/home/citwithya-phathnakar/thvsdi-cit-sangkhm-khxng-xi-rik-san : http://nattavut40.blogspot.com/p/kolberg-kolberg-cognitivism-piaget.html : http://gamlovenew.blogspot.com/2015/11/blog-post_11.html : https://www.baanjomyut.com/library_2/intellectual_development_theory/02.html ขอบคุณรูปภาพจาก : https://blog.sharetolearn.com/classroom-resources/five-aspects-of-classroom-management/ : https://www.roscommonchildcare.ie/category/aim/ : https://www.gettingsmart.com/2016/03/shift-to-digital-classroom-look-fors/ EZ Webmaster Related Posts สวนสุนันทา พัฒนา soft skills ทักษะวิศวกรสังคม ระดับผู้นำนักศึกษาให้เป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ คณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญบุรี เปิดรับสาขาการตลาด หลักสูตรเทียบโอน (ภาคพิเศษ) เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ สภามหาวิทยาลัยมอบเกียรติบัตรชื่นชมนักศึกษาสวนสุนันทา ที่สร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัย พยาบาลไทยได้เฮ มีโควตาไปทำงานที่เยอรมนีไม่ต่ำกว่า 200 ตำแหน่งต่อปี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สิ่งที่ยากที่สุดในการเป็นครูคืออะไร จากการสำรวจของ EDUZONES Post navigation PREVIOUS Previous post: แนะ 5 หนังสือสำหรับการเรียนรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษNEXT Next post: ข้อสอบ GED คืออะไร? สอบผ่านแล้วเข้ามหาวิทยาลัยได้เลยจริงหรือ? Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
สสวท. ชวนครูคณิตศาสตร์มัธยมอบรมฟรี สมัครได้ถึง 30 เม.ย.นี้ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” EZ WebmasterApril 29, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เชิญครูผู้สอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาและผู้สนใจ อบรมหัวข้อ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” ในรูปแบบออนไลน์ สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 เมษายน 2567 อบรมระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2567 ลงทะเบียนและอบรมที่เว็บไซต์ระบบอบรมครู… ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี EZ WebmasterApril 26, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครูและเยาวชนสนุกเรียน สนุกรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี รับปิดเทอมนี้ที่ คลังความรู้ SciMath สสวท. พบสื่อหลากหลายทั้ง อีบุ๊กเพิ่มทักษะ คู่มือครู วีดิทัศน์ คลังภาพ โครงงาน บทเรียนน่ารู้ แผนการสอน แอปพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้พร้อมเกมฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหา เพลิดเพลินเรียนรู้ในโลกออนไลน์ฟรีที่คลังความรู้ SciMath สสวท. https://www.scimath.org
ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี EZ WebmasterApril 26, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครูและเยาวชนสนุกเรียน สนุกรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี รับปิดเทอมนี้ที่ คลังความรู้ SciMath สสวท. พบสื่อหลากหลายทั้ง อีบุ๊กเพิ่มทักษะ คู่มือครู วีดิทัศน์ คลังภาพ โครงงาน บทเรียนน่ารู้ แผนการสอน แอปพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้พร้อมเกมฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหา เพลิดเพลินเรียนรู้ในโลกออนไลน์ฟรีที่คลังความรู้ SciMath สสวท. https://www.scimath.org
ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน EZ WebmasterMay 3, 2024 ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี! ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ทาง www.vec.go.th… ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search EZ Webmaster March 20, 2020 EZ Webmaster March 20, 2020 5 ทฤษฎีพัฒนากับการส่งเสริมการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับผู้เรียน หลังจากที่ทางเว็บไซต์ได้นำเสนอ 5 ทฤษฎี จาก 5 นักคิด เพื่อการนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนกันไปแล้ว วันนี้ทางเว็บไซต์ eduzones ก็ได้มีทฤษฎีที่สามารถนำมาส่งเสริมและใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้เช่นกันนั่นก็คือ “ทฤษฎีการพัฒนา” วันนี้เราจึงได้นำทฤษฎีพัฒนาจาก 5 นักคิดที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนเพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้อย่างเหมาะสมให้แก่ผู้เรียนสำหรับครูผู้สอนทุกท่านมาฝากกันค่ะ ทฤษฎีจิตสังคมของอีริกสัน นักคิดคนแรกสำหรับทฤษฎีพัฒนา ได้แก่ อิริคสัน นักจิตวิเคราะห์ที่มีชื่อของอเมริกา เป็นผู้วิเคราะห์เกี่ยวกับเด็กเป็นคนแรกในนครบอสตัน เขาเห็นว่าการจะทำความเข้าใจพฤติกรรมเด็ก จะต้องศึกษาจากการอบรมเลี้ยงดู สภาพสังคม และความเป็นอยู่ของเด็ก ปัญหาที่นำมาวิเคราะห์นั้นจะอธิบายเชื่อมโยงระหว่างจิตวิทยากับสังคมวิทยาใน รูปแบบของมนุษย์วิทยาซึ่งมีแนวความคิดว่ามนุษย์ต้องพึ่งสังคมและสังคมก็ต้องพึ่งมนุษย์มนุษย์มีวิวัฒนาการที่สลับซับซ้อนและผ่านขั้นตอนต่างๆ ของธรรมชาติหลายขั้นตอน โดยอีริกสันได้ แบ่งพัฒนาการด้านจิตสังคมของบุคคลเป็น 8 ขั้น ตามช่วงอายุดังนี้ ขั้นที่ 1 ระยะทารก (Infancy period) อายุ 0-2 ปี ในระยะขวบปีแรกทารกจะต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่นในการดูแลเอาใจใส่ทุกด้าน ตลอดจนความรัก และสอนให้ทารกพบกับสิ่งเร้าใหม่ๆ ขั้นที่ 2 วัยเริ่มต้น (Toddler period) อายุ 2-3 ปี ขั้นนี้เด็กเริ่มเรียนรู้ที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง หากได้รับการสนับสนุนและกระตุ้นให้เด็กได้กระทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเองตามสมควร ขั้นที่ 3 ระยะก่อนไปโรงเรียน (Preschool period) อายุ 3-6 ปี เป็นระยะที่เด็กมีการเรียนรู้อย่างกว้างขวาง มีความสัมพันธ์กับเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง มีความอยากรู้อยากเห็น ชอบลองอะไรใหม่ๆ ขั้นที่ 4 ระยะเข้าโรงเรียน (School period) อายุ 6-12 ปี ระยะนี้เด็กเรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์ มีความคิดและพยายามทำกิจกรรมด้วยตัวเอง หากได้รับการสนับสนุนก็ย่อมทำให้เด็กมีการพัฒนาที่ดี ขั้นที่ 5 ระยะวัยรุ่น (Adolescent period) อายุ 12-20 ปี เป็นระยะที่เริ่มสนใจเรื่องเพศ เข้าไปผูกพันกับสังคมและต้องการตำแหน่งทางสังคม ความรู้สึกเป็นอิสระและเป็นตัวของตัวเอง ขั้นที่ 6 ระยะต้นของวัยผู้ใหญ่ (Early adult period) อายุ 20-40 ระยะนี้จะเริ่มมีการนัดหมาย การแต่งงาน และชีวิตครอบครัว หรือทำงานกับผู้อื่นได้ หากสามารถบรรลุอัตลักษณ์ของตนเอง ก็จะสามารถสร้างและแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์อย่างสนิทสนมกับบุคคลอื่นได้ ขั้นที่ 7 ระยะผู้ใหญ่ (Adult period) อายุ 40-60 ปี เป็นระยะที่บุคคลหันมาสนใจกับโลกภายนอก ริเริ่มสร้างสรรค์งานต่างๆ เพื่อสังคม และคิดถึงผู้อื่น ขั้นที่ 8 ระยะวัยสูงอายุ (Aging period) อายุประมาณ 60 ปีขึ้นไป วัยนี้เป็นวัยสุขุม รอบคอบ บุคคลจะยอมรับความเป็นจริงของชีวิต ระลึกถึงความทรงจำในอดีต ถ้าหากประสบความสำเร็จในอดีตก็จะรู้สึกไว้วางใจผู้อื่นและตนเอง และมีความมั่นคงทางจิตใจ การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน สำหรับการประยุกต์ใช้ทฤษฎีพัฒนาการทางจิต สังคมของอีริกสันนั้น แนวคิดนี้ส่งผลให้วงการศึกษาตื่นตัวอย่างน้อยที่สุด 2 เรื่องคือ สัมพันธภาพระหว่างบุคคลและการรับรู้เกี่ยวกับตนเอง ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการพัฒนาแต่ละช่วงวัยของผู้เรียน โดยครูสามารถนำขั้นพัฒนาการตาม 8 ระยะข้างต้น มาส่งเสริมนักเรียนในแต่ละช่วงวัย โดยในการจัดการเรียนการสอนครูควรให้จัดให้มีกิจกรรมให้เด็กได้แสดงออกทั้งในด้านของความคิด ด้านสติปัญญา ด้านความสามารถ ให้อิสระทางความคิดต่อเด็ก ให้เด็กได้สร้างผลงานต่างๆ ด้วยตนเอง ให้เด็กเกิดความภูมิใจในตัวเอง ครูต้องให้ความเชื่อใจและไว้วางใจในตัวเด็ก เพื่อให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเอง มีความเชื่อว่าตัวเองสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ โดยการได้ทดลองได้เรียนรู้จะทำให้เด็กได้รู้จักตนเองว่าตนมีความชอบหรือมีความสนใจในด้านไหน และครูควรคอยส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาในสิ่งที่ตนชอบ ในการอยู่ร่วมกันในสังคมครูควรมีการจัดให้เด็กใช้กิจกรรมกลุ่มโดยให้เด็กแต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบของตนเอง เพื่อให้เด็กรู้สึกมีส่วนร่วมในสังคม ทฤษฎีพัฒนาการตามวัยของโรเบิร์ต เจ ฮาวิกเฮิร์ต โรเบิร์ต ฮาวิกเฮิร์ส เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนจะต้องทำงานตามวัย โดยเรียกสิ่งนี้ว่า “งานพัฒนาการ” หมายถึง งานที่ทุกคนจะต้องทำในแต่ละวัยของชีวิต ซึ่งสัมฤทธิ์ผลของงานพัฒนาการของงานแต่ละวัย มีความสำคัญมากเพราะเป็นของการเรียนรู้งานพัฒนาขั้นต่อไป โดยได้การแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ ออกเป็น 4 ด้านใหญ่ๆ ได้แก่ พัฒนาการทางกาย เป็นการแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ตามขั้นตอนในแต่ละวัน พัฒนาการทางด้านความคิดหรือสติปัญญา พัฒนาการทางด้านจิตใจ ซึ่งแบ่งย่อยเป็น 3.1 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-เพศ (Psychosexual Development) 3.2 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-สังคม (Psychosocial Development) พัฒนาการด้านจริยธรรม (Moral Development) ซึ่งพัฒนาการของมนุษย์นั้น แบ่งได้เป็น 6 ช่วงอายุ คือ วัยเด็กเล็ก-วัยเด็กตอนต้น (แรกเกิด- 6 ปี) วัยเด็กตอนกลาง (6-18 ปี) วัยรุ่น (12-18 ปี) วัยผู้ใหญ่ตอนต้น (18-35 ปี) วัยกลางคน (35-60 ปี) วัยชรา (อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เพราะการเรียนรู้ในแต่ละช่วงวัยนั้นมีความสำคัญอย่างมากสำหรับแนวคิดของโรเบิร์ตดังนั้น การจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยจึงสำคัญ ซึ่งหนึ่งในผู้ที่จะทำให้เด็กมองเห็นพฤติกรรมที่เหมาะได้หนึ่งในนั้นก็คือ “ครูผู้สอน” -โดยในห้องเรียนครูจะเป็นตัวแบบที่มีอิทธิพลมากที่สุด ครูควรคำนึงอยู่เสมอว่า การเรียนรู้โดยการสังเกตและเลียนแบบจะเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ว่าครูจะไม่ได้ตั้งวัตถุประสงค์ไว้ก็ตาม – การสอนแบบสาธิตปฏิบัติเป็นการสอนโดยใช้หลักการและขั้นตอนตามทฤษฎี ครูต้องแสดงตัวอย่างพฤติกรรมที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดการแสดงพฤติกรรมเลียนแบบที่มีประสิทธิภาพ เพราะหากครูเกิดความผิดพลาดแล้วบอกให้ผู้เรียนไม่ต้องทำตาม แต่การกระทำเหล่านั้นก็ผ่านการสังเกตและการรับรู้ของผู้เรียนไปแล้ว -นอกจากครูแล้ว ควรใช้ผู้เรียนด้วยกันเป็นตัวแบบได้ในบางกรณี โดยธรรมชาติเพื่อนในชั้นเรียนย่อมมีอิทธิพลต่อการเลียนแบบสูงอยู่แล้ว ครูควรพยายามใช้ทักษะจูงใจให้ผู้เรียนสนใจและเลียนแบบเพื่อนที่มีพฤติกรรมที่ดี โดยอาจเป็นการชี้ทางด้วยการชื่นชมนักเรียนที่มีพฤติกรรมต้นแบบที่ดีเพื่อให้นักเรียนคนอื่นๆได้มองเห็นได้อีกด้วย ทฤษฎีพัฒนาจริยธรรมของโคลเบิร์ก (Kolberg) โคลเบิร์ก (Kolberg) เป็นนักจิตวิทยากลุ่มปัญญานิยม (cognitivism) ซึ่งมีความเชื่อพื้นฐานว่า มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีสมอง สามารถเกิดการเรียนรู้ เพื่อการปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมได้ เชื่อว่า จริยธรรมนั้นมีพัฒนาการตามระดับวุฒิภาวะ เพราะจริยธรรมของมนุษย์เกิดจากกระบวนการทางปัญญา เมื่อมนุษย์มีการเรียนรู้มากขึ้น โครงสร้างทางปัญญาเพิ่มพูนขึ้น จริยธรรมก็พัฒนาตามวุฒิภาวะนั่นเอง โดยโคลเบิร์ก ได้ศึกษาการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมของเยาวชนอเมริกัน อายุ 10 -16 ปี และได้แบ่งพัฒนาการทางจริยธรรมออกเป็น 3 ระดับ (Levels) แต่ละระดับแบ่งออกเป็น 2 ขั้น (Stages) ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์กมีทั้งหมด 6 ขั้น ได้แก่ ระดับที่ 1 ระดับก่อนกฏเกณฑ์สังคม จะพบในเด็ก 2-10 ปี -ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง -ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ระดับที่ 2 ระดับจริยธรรมตามกฎเกณฑ์สังคม จะพบในวัยรุ่นอายุ 10 -16 ปี -ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม -ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม ระดับที่ 3 ระดับจริยธรรมอย่างมีวิจารณญาณ -ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา -ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล โคลเบิร์ก ได้ทำการวิเคราะห์เหตุผลเชิงจริยธรรม โดยทำการวิเคราะห์คำตอบของเยาวชนอเมริกันอายุ 10-16 ปี และแบ่งประเภทเหตุผลเชิงจริยธรรมไว้ 6 ประเภทคือ ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง ในขั้นนี้เด็กจะใช้ผลตามของพฤติกรรมเป็นเครื่องชี้ว่า พฤติกรรมของตน “ถูก” หรือ “ผิด” ถ้าเด็กถูกทำโทษก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ผิด” พฤติกรรมใดที่มีผลตามด้วยรางวัลหรือคำชม เด็กก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ถูก” ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ในขั้นนี้เด็กจะสนใจทำตามกฎข้อบังคับ เพื่อประโยชน์หรือความพอใจของตนเอง ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม ใช้เหตุผลเลือกทำในสิ่งที่กลุ่มยอมรับโดยเฉพาะเพื่อน เพื่อเป็นที่ชื่นชอบและยอมรับของเพื่อน ไม่เป็นตัวของตัวเอง คล้อยตามการชักจูงของผู้อื่น เพื่อต้องการรักษาสัมพันธภาพที่ดี ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม จะใช้หลักทำตามหน้าที่ของสังคม โดยปฏิบัติตามระเบียบของสังคมอย่างเคร่งครัด เรียนรู้การเป็นหน่วยหนึ่งของสังคม ปฏิบัติตามหน้าที่ของสังคมเพื่อดำรงไว้ซึ่งกฎเกณฑ์ในสังคม ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา ขั้นนี้เน้นถึงความสำคัญของมาตรฐานทางจริยธรรมที่ทุกคนหรือคนส่วนใหญ่ในสังคมยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ถูกสมควรที่จะปฏิบัติตาม ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล ในขั้นนี้สิ่งที่ “ถูก” และ “ผิด” เป็นสิ่งที่ขึ้นมโนธรรมของแต่ละบุคคลที่เลือกยึดถือ ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมจะมีความเกี่ยวข้องกับพัฒนาการทางด้านความคิดเป็นเหตุเป็นผล บุคคลจะมีพัฒนาการทางจริยธรรมเป็นไปตามลำดับ และไม่มีการข้ามขั้น การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก ทำให้ผู้สอนรู้ว่าการรับรู้ของเด็กในแต่ละวัยนั้นแตกต่างกัน เด็กเล็กจะมีการตอบสนองข้อขัดแย้งในเรื่องจริยธรรมแตกต่างจากเด็กโต ซึ่งในการจัดการเรียนรู้นั้นผู้สอนควรกระตุ้นให้เด็กได้สื่อแนวคิดนั้นๆ ออก มาโดยสร้างบรรยากาศที่สามารถกระตุ้นให้ผู้เรียนอภิปรายได้อย่างอิสระ และใช้สถานการณ์ตัวอย่างหรือเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในห้องเรียนมากระตุ้น ให้ผู้เรียนตระหนักถึงการมีจริยธรรมภายในห้องเรียนให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการยกตัวอย่าง การใช้สื่อเข้ามาช่วย รวมไปถึงการเปิดให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็น ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจท์ ทฤษฎีของเพียเจต์เชื่อว่า การเรียนรู้ของเด็กเป็นไปตามพัฒนาการทางสติปัญญาซึ่งจะมีพัฒนาการไปตามวัยต่างๆ เป็นลำดับขั้น พัฒนาการเป็นสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติไม่ควรที่จะเร่งเด็กให้ข้ามจากพัฒนาการจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่ง เพราะจะทำให้เกิดผลเสียแก่เด็ก แต่การจัดประสบการณ์ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในช่วงที่เด็กกำลังจะพัฒนาไปสู่ขั้นที่สูงกว่าสามารถช่วยให้เด็กพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว พัฒนาการทางสติปัญญาของบุคคลเป็นไปตามวัยต่างๆเป็นลำดับขั้น ดังนี้ ขั้นประสาทรับรู้และการเคลื่อนไหว (Sensori-Motor Stage) เริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 ปี พฤติกรรมของเด็กในวัยนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวเป็นส่วนใหญ่ ขั้นก่อนปฏิบัติการคิด (Preoperational Stage) เริ่มตั้งแต่อายุ 2-7 ปี ขั้นปฏิบัติการคิดด้านรูปธรรม (Concrete Operation Stage) เริ่มจากอายุ 7-11 ปี พัฒนาการทางด้านสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้สามารถสร้างกฎเกณฑ์และตั้งเกณฑ์ในการแบ่งสิ่งแวดล้อมออกเป็นหมวดหมู่ได้ ขั้นปฏิบัติการคิดด้วยนามธรรม (Formal Operational Stage) เริ่มจากอายุ 11-15 ปี ในขั้นนี้พัฒนาการทางสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้เป็นขั้นสุดยอด คือเด็กในวัยนี้จะเริ่มคิดแบบผู้ใหญ่ ความคิดแบบเด็กจะสิ้นสุดลง เด็กจะสามารถที่จะคิดหาเหตุผลนอกเหนือไปจากข้อมูลที่มีอยู่ พัฒนาการทางการรู้คิดของเด็กในช่วงอายุ 6 ปีแรกของชีวิต ซึ่งเพียเจต์ ได้ศึกษาไว้เป็นประสบการณ์สำคัญที่เด็กควรได้รับการส่งเสริม มี 6 ขั้น ได้แก่ ขั้นความรู้แตกต่าง (Absolute Differences) เด็กเริ่มรับรู้ในความแตกต่างของสิ่งของที่มองเห็น ขั้นรู้สิ่งตรงกันข้าม (Opposition) ขั้นนี้เด็กรู้ว่าของต่างๆ มีลักษณะตรงกันข้ามเป็น 2 ด้าน เช่น มี-ไม่มี หรือ เล็ก-ใหญ่ ขั้นรู้หลายระดับ (Discrete Degree) เด็กเริ่มรู้จักคิดสิ่งที่เกี่ยวกับลักษณะที่อยู่ตรงกลางระหว่างปลายสุดสอง ปลาย เช่น ปานกลาง น้อย ขั้นความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง (Variation) เด็กสามารถเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ เช่น บอกถึงความเจริญเติบโตของต้นไม้ ขั้นรู้ผลของการกระทำ (Function) ในขั้นนี้เด็กจะเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลง ขั้นการทดแทนอย่างลงตัว (Exact Compensation) เด็กจะรู้ว่าการกระทำให้ของสิ่งหนึ่งเปลี่ยนแปลงย่อมมีผลต่ออีกสิ่งหนึ่งอย่างทัดเทียมกัน การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เมื่อทำงานกับนักเรียน ผู้สอนควรคำนึงถึงพัฒนาการทางสติปัญญาของนักเรียนว่า นักเรียนที่มีอายุเท่ากันอาจมีขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่ควรเปรียบเทียบเด็ก ควรให้เด็กมีอิสระที่จะเรียนรู้และพัฒนาความสามารถของเขาไปตามระดับพัฒนาการของเขา ให้เน้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนโดยต้องเน้นให้นักเรียนใช้ศักยภาพของตนเองให้มากที่สุด สำหรับแนวทางการสอนที่ส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน เช่น -การหัดให้นักเรียนถามคำถามมากกว่าการให้คำตอบ – ครูผู้สอนควรจะพูดให้น้อยลง และฟังนักเรียนให้มากขึ้น – ควรให้เสรีภาพแก่นักเรียนที่จะเลือกเรียนกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเองมากขึ้น ทั้งนี้ผู้สอนต้องเข้าใจว่าระดับความสามารถของนักเรียนแต่ละคนนั้นแตกต่าง และนักเรียนจะมีความสามารถเพิ่มขึ้นในระดับความคิดขั้นต่อไป ดังนั้นการให้เวลาและความสนใจกับพวกเขาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของบรุนเนอร์ บรุนเนอร์ (Bruner) เชื่อว่ามนุษย์เลือกที่จะรับรู้สิ่งที่ตนเองสนใจและการเรียนรู้เกิดจากกระบวนการค้นพบด้วยตัวเอง (discovery learning) แนวคิดที่สำคัญ ๆ ของบรุนเนอร์ ได้แก่ 1) การจัดโครงสร้างของความรู้ให้มีความสัมพันธ์ และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก มีผลต่อการเรียนรู้ของเด็ก 2) การจัดหลักสูตรและการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับระดับความพร้อมของผู้เรียน และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนจะช่วยให้การเรียนรู้เกิดประสิทธิภาพ 3) การคิดแบบหยั่งรู้ (intuition) เป็นการคิดหาเหตุผลอย่างอิสระที่สามารถช่วยพัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ได้ 4) แรงจูงใจภายในเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เรียนประสบผลสำเร็จในการเรียนรู้ 5) ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของมนุษย์แบ่งได้เป็น 3 ขั้นใหญ่ ๆ คือ -ขั้นการเรียนรู้จากการกระทำ (Enactive Stage) คือ ขั้นของการเรียนรู้จากการใช้ประสาทสัมผัสรับรู้สิ่งต่าง ๆ การลงมือกระทำช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้ดี การเรียนรู้เกิดจากการกระทำ -ขั้นการเรียนรู้จากความคิด (Iconic Stage) เป็นขั้นที่เด็กสามารถสร้างมโนภาพในใจได้ และสามารถเรียนรู้จากภาพแทนของจริงได้ -ขั้นการเรียนรู้สัญลักษณ์และนามธรรม (Symbolic Stage) เป็นขั้นการเรียนรู้สิ่งที่ซับซ้อนและเป็นนามธรรมได้ 6) การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากการที่คนเราสามารถสร้างความคิดรวบยอด หรือสามารถจัดประเภทของสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 7) การเรียนรู้ที่ได้ผลดีที่สุด คือ การให้ผู้เรียนค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง (discovery learning) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน -ส่งเสริมกระบวนการค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเองกับผู้เรียน เพราะเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ดีมีความหมายสำหรับผู้เรียน -การวิเคราะห์และจัดโครงสร้างเนื้อหาสาระการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ต้องทำก่อนการสอน -ในการเรียนการสอนควรส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิดอย่างอิสระให้มากเพื่อช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน -การสร้างแรงจูงใจภายในให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน เป็นสิ่งจำเป็นในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แก่ผู้เรียน -การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น -การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้ค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี เช่นการทำกิจกรรมนอกตำรา หรือนอกห้องเรียน ให้เด็กได้ทดลองทำกิจกรรมใหม่ๆ เพื่ค้นหาในสิ่งที่ตัวเองชอบหรือถนัด เป็นต้น นอกจากทฤษฎีทั้ง 5 ที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างเพื่อการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างเหมาะสมแล้ว ก็ยังมีอีกหลายทฤษฎีที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้ เช่น ทฤษฎีหมวก6 ใบ ที่เป็นหนึ่งในทฤษฎีที่สามารถช่วยพัฒนาการคิดและตัดสินใจของผู้เรียน >>> ทฤษฎีหมวก 6 ใบกับการประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาผู้เรียน ขอบคุณข้อมูลจาก : http://yru58.blogspot.com/p/blog-page_5.html : http://oknation.nationtv.tv/blog/shitako/2009/09/14/entry-1 : https://sites.google.com/site/psychologybkf1/home/citwithya-phathnakar/thvsdi-cit-sangkhm-khxng-xi-rik-san : http://nattavut40.blogspot.com/p/kolberg-kolberg-cognitivism-piaget.html : http://gamlovenew.blogspot.com/2015/11/blog-post_11.html : https://www.baanjomyut.com/library_2/intellectual_development_theory/02.html ขอบคุณรูปภาพจาก : https://blog.sharetolearn.com/classroom-resources/five-aspects-of-classroom-management/ : https://www.roscommonchildcare.ie/category/aim/ : https://www.gettingsmart.com/2016/03/shift-to-digital-classroom-look-fors/ EZ Webmaster Related Posts สวนสุนันทา พัฒนา soft skills ทักษะวิศวกรสังคม ระดับผู้นำนักศึกษาให้เป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ คณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญบุรี เปิดรับสาขาการตลาด หลักสูตรเทียบโอน (ภาคพิเศษ) เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ สภามหาวิทยาลัยมอบเกียรติบัตรชื่นชมนักศึกษาสวนสุนันทา ที่สร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัย พยาบาลไทยได้เฮ มีโควตาไปทำงานที่เยอรมนีไม่ต่ำกว่า 200 ตำแหน่งต่อปี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สิ่งที่ยากที่สุดในการเป็นครูคืออะไร จากการสำรวจของ EDUZONES Post navigation PREVIOUS Previous post: แนะ 5 หนังสือสำหรับการเรียนรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษNEXT Next post: ข้อสอบ GED คืออะไร? สอบผ่านแล้วเข้ามหาวิทยาลัยได้เลยจริงหรือ? Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search
ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา…
สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา…
EZ Webmaster March 20, 2020 EZ Webmaster March 20, 2020 5 ทฤษฎีพัฒนากับการส่งเสริมการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับผู้เรียน หลังจากที่ทางเว็บไซต์ได้นำเสนอ 5 ทฤษฎี จาก 5 นักคิด เพื่อการนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนกันไปแล้ว วันนี้ทางเว็บไซต์ eduzones ก็ได้มีทฤษฎีที่สามารถนำมาส่งเสริมและใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้เช่นกันนั่นก็คือ “ทฤษฎีการพัฒนา” วันนี้เราจึงได้นำทฤษฎีพัฒนาจาก 5 นักคิดที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนเพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้อย่างเหมาะสมให้แก่ผู้เรียนสำหรับครูผู้สอนทุกท่านมาฝากกันค่ะ ทฤษฎีจิตสังคมของอีริกสัน นักคิดคนแรกสำหรับทฤษฎีพัฒนา ได้แก่ อิริคสัน นักจิตวิเคราะห์ที่มีชื่อของอเมริกา เป็นผู้วิเคราะห์เกี่ยวกับเด็กเป็นคนแรกในนครบอสตัน เขาเห็นว่าการจะทำความเข้าใจพฤติกรรมเด็ก จะต้องศึกษาจากการอบรมเลี้ยงดู สภาพสังคม และความเป็นอยู่ของเด็ก ปัญหาที่นำมาวิเคราะห์นั้นจะอธิบายเชื่อมโยงระหว่างจิตวิทยากับสังคมวิทยาใน รูปแบบของมนุษย์วิทยาซึ่งมีแนวความคิดว่ามนุษย์ต้องพึ่งสังคมและสังคมก็ต้องพึ่งมนุษย์มนุษย์มีวิวัฒนาการที่สลับซับซ้อนและผ่านขั้นตอนต่างๆ ของธรรมชาติหลายขั้นตอน โดยอีริกสันได้ แบ่งพัฒนาการด้านจิตสังคมของบุคคลเป็น 8 ขั้น ตามช่วงอายุดังนี้ ขั้นที่ 1 ระยะทารก (Infancy period) อายุ 0-2 ปี ในระยะขวบปีแรกทารกจะต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่นในการดูแลเอาใจใส่ทุกด้าน ตลอดจนความรัก และสอนให้ทารกพบกับสิ่งเร้าใหม่ๆ ขั้นที่ 2 วัยเริ่มต้น (Toddler period) อายุ 2-3 ปี ขั้นนี้เด็กเริ่มเรียนรู้ที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง หากได้รับการสนับสนุนและกระตุ้นให้เด็กได้กระทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเองตามสมควร ขั้นที่ 3 ระยะก่อนไปโรงเรียน (Preschool period) อายุ 3-6 ปี เป็นระยะที่เด็กมีการเรียนรู้อย่างกว้างขวาง มีความสัมพันธ์กับเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง มีความอยากรู้อยากเห็น ชอบลองอะไรใหม่ๆ ขั้นที่ 4 ระยะเข้าโรงเรียน (School period) อายุ 6-12 ปี ระยะนี้เด็กเรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์ มีความคิดและพยายามทำกิจกรรมด้วยตัวเอง หากได้รับการสนับสนุนก็ย่อมทำให้เด็กมีการพัฒนาที่ดี ขั้นที่ 5 ระยะวัยรุ่น (Adolescent period) อายุ 12-20 ปี เป็นระยะที่เริ่มสนใจเรื่องเพศ เข้าไปผูกพันกับสังคมและต้องการตำแหน่งทางสังคม ความรู้สึกเป็นอิสระและเป็นตัวของตัวเอง ขั้นที่ 6 ระยะต้นของวัยผู้ใหญ่ (Early adult period) อายุ 20-40 ระยะนี้จะเริ่มมีการนัดหมาย การแต่งงาน และชีวิตครอบครัว หรือทำงานกับผู้อื่นได้ หากสามารถบรรลุอัตลักษณ์ของตนเอง ก็จะสามารถสร้างและแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์อย่างสนิทสนมกับบุคคลอื่นได้ ขั้นที่ 7 ระยะผู้ใหญ่ (Adult period) อายุ 40-60 ปี เป็นระยะที่บุคคลหันมาสนใจกับโลกภายนอก ริเริ่มสร้างสรรค์งานต่างๆ เพื่อสังคม และคิดถึงผู้อื่น ขั้นที่ 8 ระยะวัยสูงอายุ (Aging period) อายุประมาณ 60 ปีขึ้นไป วัยนี้เป็นวัยสุขุม รอบคอบ บุคคลจะยอมรับความเป็นจริงของชีวิต ระลึกถึงความทรงจำในอดีต ถ้าหากประสบความสำเร็จในอดีตก็จะรู้สึกไว้วางใจผู้อื่นและตนเอง และมีความมั่นคงทางจิตใจ การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน สำหรับการประยุกต์ใช้ทฤษฎีพัฒนาการทางจิต สังคมของอีริกสันนั้น แนวคิดนี้ส่งผลให้วงการศึกษาตื่นตัวอย่างน้อยที่สุด 2 เรื่องคือ สัมพันธภาพระหว่างบุคคลและการรับรู้เกี่ยวกับตนเอง ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการพัฒนาแต่ละช่วงวัยของผู้เรียน โดยครูสามารถนำขั้นพัฒนาการตาม 8 ระยะข้างต้น มาส่งเสริมนักเรียนในแต่ละช่วงวัย โดยในการจัดการเรียนการสอนครูควรให้จัดให้มีกิจกรรมให้เด็กได้แสดงออกทั้งในด้านของความคิด ด้านสติปัญญา ด้านความสามารถ ให้อิสระทางความคิดต่อเด็ก ให้เด็กได้สร้างผลงานต่างๆ ด้วยตนเอง ให้เด็กเกิดความภูมิใจในตัวเอง ครูต้องให้ความเชื่อใจและไว้วางใจในตัวเด็ก เพื่อให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเอง มีความเชื่อว่าตัวเองสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ โดยการได้ทดลองได้เรียนรู้จะทำให้เด็กได้รู้จักตนเองว่าตนมีความชอบหรือมีความสนใจในด้านไหน และครูควรคอยส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาในสิ่งที่ตนชอบ ในการอยู่ร่วมกันในสังคมครูควรมีการจัดให้เด็กใช้กิจกรรมกลุ่มโดยให้เด็กแต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบของตนเอง เพื่อให้เด็กรู้สึกมีส่วนร่วมในสังคม ทฤษฎีพัฒนาการตามวัยของโรเบิร์ต เจ ฮาวิกเฮิร์ต โรเบิร์ต ฮาวิกเฮิร์ส เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนจะต้องทำงานตามวัย โดยเรียกสิ่งนี้ว่า “งานพัฒนาการ” หมายถึง งานที่ทุกคนจะต้องทำในแต่ละวัยของชีวิต ซึ่งสัมฤทธิ์ผลของงานพัฒนาการของงานแต่ละวัย มีความสำคัญมากเพราะเป็นของการเรียนรู้งานพัฒนาขั้นต่อไป โดยได้การแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ ออกเป็น 4 ด้านใหญ่ๆ ได้แก่ พัฒนาการทางกาย เป็นการแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ตามขั้นตอนในแต่ละวัน พัฒนาการทางด้านความคิดหรือสติปัญญา พัฒนาการทางด้านจิตใจ ซึ่งแบ่งย่อยเป็น 3.1 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-เพศ (Psychosexual Development) 3.2 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-สังคม (Psychosocial Development) พัฒนาการด้านจริยธรรม (Moral Development) ซึ่งพัฒนาการของมนุษย์นั้น แบ่งได้เป็น 6 ช่วงอายุ คือ วัยเด็กเล็ก-วัยเด็กตอนต้น (แรกเกิด- 6 ปี) วัยเด็กตอนกลาง (6-18 ปี) วัยรุ่น (12-18 ปี) วัยผู้ใหญ่ตอนต้น (18-35 ปี) วัยกลางคน (35-60 ปี) วัยชรา (อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เพราะการเรียนรู้ในแต่ละช่วงวัยนั้นมีความสำคัญอย่างมากสำหรับแนวคิดของโรเบิร์ตดังนั้น การจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยจึงสำคัญ ซึ่งหนึ่งในผู้ที่จะทำให้เด็กมองเห็นพฤติกรรมที่เหมาะได้หนึ่งในนั้นก็คือ “ครูผู้สอน” -โดยในห้องเรียนครูจะเป็นตัวแบบที่มีอิทธิพลมากที่สุด ครูควรคำนึงอยู่เสมอว่า การเรียนรู้โดยการสังเกตและเลียนแบบจะเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ว่าครูจะไม่ได้ตั้งวัตถุประสงค์ไว้ก็ตาม – การสอนแบบสาธิตปฏิบัติเป็นการสอนโดยใช้หลักการและขั้นตอนตามทฤษฎี ครูต้องแสดงตัวอย่างพฤติกรรมที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดการแสดงพฤติกรรมเลียนแบบที่มีประสิทธิภาพ เพราะหากครูเกิดความผิดพลาดแล้วบอกให้ผู้เรียนไม่ต้องทำตาม แต่การกระทำเหล่านั้นก็ผ่านการสังเกตและการรับรู้ของผู้เรียนไปแล้ว -นอกจากครูแล้ว ควรใช้ผู้เรียนด้วยกันเป็นตัวแบบได้ในบางกรณี โดยธรรมชาติเพื่อนในชั้นเรียนย่อมมีอิทธิพลต่อการเลียนแบบสูงอยู่แล้ว ครูควรพยายามใช้ทักษะจูงใจให้ผู้เรียนสนใจและเลียนแบบเพื่อนที่มีพฤติกรรมที่ดี โดยอาจเป็นการชี้ทางด้วยการชื่นชมนักเรียนที่มีพฤติกรรมต้นแบบที่ดีเพื่อให้นักเรียนคนอื่นๆได้มองเห็นได้อีกด้วย ทฤษฎีพัฒนาจริยธรรมของโคลเบิร์ก (Kolberg) โคลเบิร์ก (Kolberg) เป็นนักจิตวิทยากลุ่มปัญญานิยม (cognitivism) ซึ่งมีความเชื่อพื้นฐานว่า มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีสมอง สามารถเกิดการเรียนรู้ เพื่อการปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมได้ เชื่อว่า จริยธรรมนั้นมีพัฒนาการตามระดับวุฒิภาวะ เพราะจริยธรรมของมนุษย์เกิดจากกระบวนการทางปัญญา เมื่อมนุษย์มีการเรียนรู้มากขึ้น โครงสร้างทางปัญญาเพิ่มพูนขึ้น จริยธรรมก็พัฒนาตามวุฒิภาวะนั่นเอง โดยโคลเบิร์ก ได้ศึกษาการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมของเยาวชนอเมริกัน อายุ 10 -16 ปี และได้แบ่งพัฒนาการทางจริยธรรมออกเป็น 3 ระดับ (Levels) แต่ละระดับแบ่งออกเป็น 2 ขั้น (Stages) ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์กมีทั้งหมด 6 ขั้น ได้แก่ ระดับที่ 1 ระดับก่อนกฏเกณฑ์สังคม จะพบในเด็ก 2-10 ปี -ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง -ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ระดับที่ 2 ระดับจริยธรรมตามกฎเกณฑ์สังคม จะพบในวัยรุ่นอายุ 10 -16 ปี -ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม -ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม ระดับที่ 3 ระดับจริยธรรมอย่างมีวิจารณญาณ -ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา -ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล โคลเบิร์ก ได้ทำการวิเคราะห์เหตุผลเชิงจริยธรรม โดยทำการวิเคราะห์คำตอบของเยาวชนอเมริกันอายุ 10-16 ปี และแบ่งประเภทเหตุผลเชิงจริยธรรมไว้ 6 ประเภทคือ ขั้นที่ 1 การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง ในขั้นนี้เด็กจะใช้ผลตามของพฤติกรรมเป็นเครื่องชี้ว่า พฤติกรรมของตน “ถูก” หรือ “ผิด” ถ้าเด็กถูกทำโทษก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ผิด” พฤติกรรมใดที่มีผลตามด้วยรางวัลหรือคำชม เด็กก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนทำ “ถูก” ขั้นที่ 2 กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน ในขั้นนี้เด็กจะสนใจทำตามกฎข้อบังคับ เพื่อประโยชน์หรือความพอใจของตนเอง ขั้นที่ 3 การยอมรับของกลุ่มหรือสังคม ใช้เหตุผลเลือกทำในสิ่งที่กลุ่มยอมรับโดยเฉพาะเพื่อน เพื่อเป็นที่ชื่นชอบและยอมรับของเพื่อน ไม่เป็นตัวของตัวเอง คล้อยตามการชักจูงของผู้อื่น เพื่อต้องการรักษาสัมพันธภาพที่ดี ขั้นที่ 4 กฎและระเบียบของสังคม จะใช้หลักทำตามหน้าที่ของสังคม โดยปฏิบัติตามระเบียบของสังคมอย่างเคร่งครัด เรียนรู้การเป็นหน่วยหนึ่งของสังคม ปฏิบัติตามหน้าที่ของสังคมเพื่อดำรงไว้ซึ่งกฎเกณฑ์ในสังคม ขั้นที่ 5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่นสัญญา ขั้นนี้เน้นถึงความสำคัญของมาตรฐานทางจริยธรรมที่ทุกคนหรือคนส่วนใหญ่ในสังคมยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ถูกสมควรที่จะปฏิบัติตาม ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล ในขั้นนี้สิ่งที่ “ถูก” และ “ผิด” เป็นสิ่งที่ขึ้นมโนธรรมของแต่ละบุคคลที่เลือกยึดถือ ดังนั้น พัฒนาการทางจริยธรรมจะมีความเกี่ยวข้องกับพัฒนาการทางด้านความคิดเป็นเหตุเป็นผล บุคคลจะมีพัฒนาการทางจริยธรรมเป็นไปตามลำดับ และไม่มีการข้ามขั้น การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก ทำให้ผู้สอนรู้ว่าการรับรู้ของเด็กในแต่ละวัยนั้นแตกต่างกัน เด็กเล็กจะมีการตอบสนองข้อขัดแย้งในเรื่องจริยธรรมแตกต่างจากเด็กโต ซึ่งในการจัดการเรียนรู้นั้นผู้สอนควรกระตุ้นให้เด็กได้สื่อแนวคิดนั้นๆ ออก มาโดยสร้างบรรยากาศที่สามารถกระตุ้นให้ผู้เรียนอภิปรายได้อย่างอิสระ และใช้สถานการณ์ตัวอย่างหรือเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในห้องเรียนมากระตุ้น ให้ผู้เรียนตระหนักถึงการมีจริยธรรมภายในห้องเรียนให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการยกตัวอย่าง การใช้สื่อเข้ามาช่วย รวมไปถึงการเปิดให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็น ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจท์ ทฤษฎีของเพียเจต์เชื่อว่า การเรียนรู้ของเด็กเป็นไปตามพัฒนาการทางสติปัญญาซึ่งจะมีพัฒนาการไปตามวัยต่างๆ เป็นลำดับขั้น พัฒนาการเป็นสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติไม่ควรที่จะเร่งเด็กให้ข้ามจากพัฒนาการจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่ง เพราะจะทำให้เกิดผลเสียแก่เด็ก แต่การจัดประสบการณ์ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในช่วงที่เด็กกำลังจะพัฒนาไปสู่ขั้นที่สูงกว่าสามารถช่วยให้เด็กพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว พัฒนาการทางสติปัญญาของบุคคลเป็นไปตามวัยต่างๆเป็นลำดับขั้น ดังนี้ ขั้นประสาทรับรู้และการเคลื่อนไหว (Sensori-Motor Stage) เริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 ปี พฤติกรรมของเด็กในวัยนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวเป็นส่วนใหญ่ ขั้นก่อนปฏิบัติการคิด (Preoperational Stage) เริ่มตั้งแต่อายุ 2-7 ปี ขั้นปฏิบัติการคิดด้านรูปธรรม (Concrete Operation Stage) เริ่มจากอายุ 7-11 ปี พัฒนาการทางด้านสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้สามารถสร้างกฎเกณฑ์และตั้งเกณฑ์ในการแบ่งสิ่งแวดล้อมออกเป็นหมวดหมู่ได้ ขั้นปฏิบัติการคิดด้วยนามธรรม (Formal Operational Stage) เริ่มจากอายุ 11-15 ปี ในขั้นนี้พัฒนาการทางสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้เป็นขั้นสุดยอด คือเด็กในวัยนี้จะเริ่มคิดแบบผู้ใหญ่ ความคิดแบบเด็กจะสิ้นสุดลง เด็กจะสามารถที่จะคิดหาเหตุผลนอกเหนือไปจากข้อมูลที่มีอยู่ พัฒนาการทางการรู้คิดของเด็กในช่วงอายุ 6 ปีแรกของชีวิต ซึ่งเพียเจต์ ได้ศึกษาไว้เป็นประสบการณ์สำคัญที่เด็กควรได้รับการส่งเสริม มี 6 ขั้น ได้แก่ ขั้นความรู้แตกต่าง (Absolute Differences) เด็กเริ่มรับรู้ในความแตกต่างของสิ่งของที่มองเห็น ขั้นรู้สิ่งตรงกันข้าม (Opposition) ขั้นนี้เด็กรู้ว่าของต่างๆ มีลักษณะตรงกันข้ามเป็น 2 ด้าน เช่น มี-ไม่มี หรือ เล็ก-ใหญ่ ขั้นรู้หลายระดับ (Discrete Degree) เด็กเริ่มรู้จักคิดสิ่งที่เกี่ยวกับลักษณะที่อยู่ตรงกลางระหว่างปลายสุดสอง ปลาย เช่น ปานกลาง น้อย ขั้นความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง (Variation) เด็กสามารถเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ เช่น บอกถึงความเจริญเติบโตของต้นไม้ ขั้นรู้ผลของการกระทำ (Function) ในขั้นนี้เด็กจะเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลง ขั้นการทดแทนอย่างลงตัว (Exact Compensation) เด็กจะรู้ว่าการกระทำให้ของสิ่งหนึ่งเปลี่ยนแปลงย่อมมีผลต่ออีกสิ่งหนึ่งอย่างทัดเทียมกัน การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน เมื่อทำงานกับนักเรียน ผู้สอนควรคำนึงถึงพัฒนาการทางสติปัญญาของนักเรียนว่า นักเรียนที่มีอายุเท่ากันอาจมีขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่ควรเปรียบเทียบเด็ก ควรให้เด็กมีอิสระที่จะเรียนรู้และพัฒนาความสามารถของเขาไปตามระดับพัฒนาการของเขา ให้เน้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนโดยต้องเน้นให้นักเรียนใช้ศักยภาพของตนเองให้มากที่สุด สำหรับแนวทางการสอนที่ส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน เช่น -การหัดให้นักเรียนถามคำถามมากกว่าการให้คำตอบ – ครูผู้สอนควรจะพูดให้น้อยลง และฟังนักเรียนให้มากขึ้น – ควรให้เสรีภาพแก่นักเรียนที่จะเลือกเรียนกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเองมากขึ้น ทั้งนี้ผู้สอนต้องเข้าใจว่าระดับความสามารถของนักเรียนแต่ละคนนั้นแตกต่าง และนักเรียนจะมีความสามารถเพิ่มขึ้นในระดับความคิดขั้นต่อไป ดังนั้นการให้เวลาและความสนใจกับพวกเขาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของบรุนเนอร์ บรุนเนอร์ (Bruner) เชื่อว่ามนุษย์เลือกที่จะรับรู้สิ่งที่ตนเองสนใจและการเรียนรู้เกิดจากกระบวนการค้นพบด้วยตัวเอง (discovery learning) แนวคิดที่สำคัญ ๆ ของบรุนเนอร์ ได้แก่ 1) การจัดโครงสร้างของความรู้ให้มีความสัมพันธ์ และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก มีผลต่อการเรียนรู้ของเด็ก 2) การจัดหลักสูตรและการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับระดับความพร้อมของผู้เรียน และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนจะช่วยให้การเรียนรู้เกิดประสิทธิภาพ 3) การคิดแบบหยั่งรู้ (intuition) เป็นการคิดหาเหตุผลอย่างอิสระที่สามารถช่วยพัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ได้ 4) แรงจูงใจภายในเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เรียนประสบผลสำเร็จในการเรียนรู้ 5) ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของมนุษย์แบ่งได้เป็น 3 ขั้นใหญ่ ๆ คือ -ขั้นการเรียนรู้จากการกระทำ (Enactive Stage) คือ ขั้นของการเรียนรู้จากการใช้ประสาทสัมผัสรับรู้สิ่งต่าง ๆ การลงมือกระทำช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้ดี การเรียนรู้เกิดจากการกระทำ -ขั้นการเรียนรู้จากความคิด (Iconic Stage) เป็นขั้นที่เด็กสามารถสร้างมโนภาพในใจได้ และสามารถเรียนรู้จากภาพแทนของจริงได้ -ขั้นการเรียนรู้สัญลักษณ์และนามธรรม (Symbolic Stage) เป็นขั้นการเรียนรู้สิ่งที่ซับซ้อนและเป็นนามธรรมได้ 6) การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากการที่คนเราสามารถสร้างความคิดรวบยอด หรือสามารถจัดประเภทของสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 7) การเรียนรู้ที่ได้ผลดีที่สุด คือ การให้ผู้เรียนค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง (discovery learning) การนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน -ส่งเสริมกระบวนการค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเองกับผู้เรียน เพราะเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ดีมีความหมายสำหรับผู้เรียน -การวิเคราะห์และจัดโครงสร้างเนื้อหาสาระการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ต้องทำก่อนการสอน -ในการเรียนการสอนควรส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิดอย่างอิสระให้มากเพื่อช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน -การสร้างแรงจูงใจภายในให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน เป็นสิ่งจำเป็นในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แก่ผู้เรียน -การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น -การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้ค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี เช่นการทำกิจกรรมนอกตำรา หรือนอกห้องเรียน ให้เด็กได้ทดลองทำกิจกรรมใหม่ๆ เพื่ค้นหาในสิ่งที่ตัวเองชอบหรือถนัด เป็นต้น นอกจากทฤษฎีทั้ง 5 ที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างเพื่อการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างเหมาะสมแล้ว ก็ยังมีอีกหลายทฤษฎีที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้ เช่น ทฤษฎีหมวก6 ใบ ที่เป็นหนึ่งในทฤษฎีที่สามารถช่วยพัฒนาการคิดและตัดสินใจของผู้เรียน >>> ทฤษฎีหมวก 6 ใบกับการประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาผู้เรียน ขอบคุณข้อมูลจาก : http://yru58.blogspot.com/p/blog-page_5.html : http://oknation.nationtv.tv/blog/shitako/2009/09/14/entry-1 : https://sites.google.com/site/psychologybkf1/home/citwithya-phathnakar/thvsdi-cit-sangkhm-khxng-xi-rik-san : http://nattavut40.blogspot.com/p/kolberg-kolberg-cognitivism-piaget.html : http://gamlovenew.blogspot.com/2015/11/blog-post_11.html : https://www.baanjomyut.com/library_2/intellectual_development_theory/02.html ขอบคุณรูปภาพจาก : https://blog.sharetolearn.com/classroom-resources/five-aspects-of-classroom-management/ : https://www.roscommonchildcare.ie/category/aim/ : https://www.gettingsmart.com/2016/03/shift-to-digital-classroom-look-fors/