สรุป! วิธีการสมัคร TCAS รอบ 3 EZ WebmasterApril 29, 2024 ก๊อก ก๊อก ก๊อก~ ใกล้เข้ามาแล้วนะคะสำหรับการสมัคร TCAS รอบ 3 ที่จะถึงในวันที่ 6-12 พ.ค. นี้ แล้วน้อง ๆ รู้หรือยังว่าการสมัครในครั้งนี้มีขั้นตอนอะไรยังไงบ้างน้า? แต่ถ้าใครยังไม่รู้ล่ะก็ Eduzones ได้สรุปวิธีการสมัครมาให้น้อง ๆ ได้ทำความเข้าใจกันแล้วค่ะ^^… ที่นั่งเหลือน้อย “โลจิสติกส์ สวนสุนันทา” เปิดรับภาคพิเศษ เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ จบป.ตรีได้ใน 2 ปีครึ่ง tui sakrapeeApril 29, 2024 เปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ (ภาคพิเศษ) รอบที่ 2 หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์ (ภาคพิเศษ) วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา วิทยาเขตนครปฐม สมัครเรียน คลิกเลย https://cls.ssru.ac.th/page/course8 10 สิ่งที่ #Dek67 ต้องรู้ !! ก่อนการสมัคร #TCAS67 รอบที่3 EZ WebmasterApril 26, 2024 1. น้องๆสามารถเลือกคณะ/สาขาวิชาที่สนใจได้ถึง 20 อันดับ เพื่อมาเปรียบเทียบความสนใจของเรา . 2. หลังจากนั้นให้น้องๆนำมาจัดอันดับใหม่ โดยให้เลือกคณะที่เราสนใจมากที่สุดไว้เป็นอันดับแรก และคณะที่สนใจรองลงมาไว้ตามลำดับเรื่อยๆ โดยเราสามารถเลือกได้สูงสุดถึง 10 อันดับในการสมัคร โดยให้เลือกคณะที่เราสนใจมากที่สุดไว้เป็นอันดับแรก และคณะที่สนใจรองลงมาไว้ตามลำดับเรื่อยๆ โดยเราสามารถเลือกได้สูงสุดถึง 10 อันดับในการสมัคร… GATE PROJECT 8 The Infinity ติวฟรีติดมัธยม ปลุกพลังจากศิษย์เก่าที่สำเร็จหลากหลายสถาบันชั้นนำ EZ WebmasterApril 26, 2024 โครงการ Gate Project 8 #ติวฟรีติดมัธยม #เสาวนากับอาจารย์รร.ชื่อดัง ปลุกพลังจากศิษย์เก่าที่สำเร็จหลากหลายสถาบันชั้นนำ เปิดรับลงทะเบียนวันนี้เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป รับสมัครเพียง 1,000 ที่นั่ง หากเต็มปิดรับทันที สามารถลงทะ’เบียนตามลิงก์ด้านล่างหรือสแกน QR ได้เลย… นักศึกษา เปิดเรื่องราวบนเส้นทางแห่งความสำเร็จของหญิงไทย ผู้ได้รับทุน Women in STEM จากบริติช เคานซิล สู่แวดวงการทำงานในองค์กรระดับโลก EZ WebmasterApril 29, 2024 ในปัจจุบันไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเทคโนโลยีทั่วโลกมีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และเข้ามามีบทบาทสำคัญกับทุกคนบนโลก ทำให้ภาคธุรกิจต่างเร่งพัฒนาและปรับตัวเพื่อวิ่งตามเทรนด์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจนนำไปสู่การแข่งขันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันมีสาขาวิชาและสายอาชีพที่เป็นที่สนใจและได้รับความนิยมเกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในนั้นคือสาขาวิชา สะเต็มศึกษา (Science, Technology, Engineering and Mathematics: STEM) หรือการศึกษาในสาขาวิชาด้าน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์… สรุป! วิธีการสมัคร TCAS รอบ 3 EZ WebmasterApril 29, 2024 ก๊อก ก๊อก ก๊อก~ ใกล้เข้ามาแล้วนะคะสำหรับการสมัคร TCAS รอบ 3 ที่จะถึงในวันที่ 6-12 พ.ค. นี้ แล้วน้อง ๆ รู้หรือยังว่าการสมัครในครั้งนี้มีขั้นตอนอะไรยังไงบ้างน้า? แต่ถ้าใครยังไม่รู้ล่ะก็ Eduzones ได้สรุปวิธีการสมัครมาให้น้อง ๆ ได้ทำความเข้าใจกันแล้วค่ะ^^… นักศึกษาวิทยาลัยดุสิตธานี ร่วมทีมคว้าชัยการแข่งขันระดับนานาชาติ THE-ICE GRM Challenge 2024 EZ WebmasterApril 29, 2024 เป็นเวทีระดับนานาชาติที่จัดการแข่งขันขึ้นเป็นประจำทุกปี สำหรับการแข่งขัน THE-ICE GRM Challenge ที่จัดโดย THE-ICE องค์กรสากลซึ่งพันธมิตรจากทั่วทุกมุมโลกร่วมกันก่อตั้งขึ้น เพื่อกำหนดเกณฑ์มาตรฐานสำหรับการศึกษาด้านการบริการ โดยต้องผ่านการพิจารณา ทบทวน และรับรองจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญทางด้านอุตสาหกรรมการบริการจากนานาประเทศ THE-ICE GRM Challenge 2024 เป็นการแข่งขันที่มอบโจทย์ท้าทายเกี่ยวกับการสร้างรายได้สูงสุดให้แก่โรงแรม โดยจำลองสถานการณ์ให้ผู้เข้าแข่งขันเสมือนเป็นผู้ดูแลด้านรายได้ของโรงแรมว่า… คณะพยาบาลศาสตร์ ม.รังสิต เปิดหลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต (การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ) EZ WebmasterApril 26, 2024 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดหลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต (การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ) M.N.S. (Adult and Gerontological Nursing) โดยเปิดสอนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เรียนวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นการเรียนออนไลน์ร่วมกับการเรียนในชั้นเรียน สามารถฝึกปฏิบัติในหน่วยงานของนักศึกษา จำนวน 36 หน่วยกิต โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาด้านวิชาการดูแลนักศึกษาตลอดระยะเวลาที่เรียน สามารถสำเร็จการศึกษาใน 2 ถึง 2.5 ปี ภายใต้การบริหารจัดการที่ดี และสามารถเลือกเรียนเป็นรายวิชาและเทียบโอนได้เมื่อสมัครเข้าศึกษาในหลักสูตร ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรประมาณ 250,000 บาท กรณียังไม่สำเร็จการศึกษาตามเวลาของหลักสูตร ชำระค่ารักษาสถานภาพ… ทุนดีดี ขยายเวลารับทุนเรียนต่อป.โท ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว สหพันธรัฐรัสเซีย tui sakrapeeApril 24, 2024 ประกาศขยายเวลารับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว (Skolkovo Institute of Science and Technology: Skoltech) สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024) หลักสูตรภาษาอังกฤษ ตามที่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ… ม.เทคโนโลยีและการออกแบบแห่งสิงคโปร์ ให้ทุนคนไทยไปศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี tui sakrapeeApril 22, 2024 ประกาศ รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบ แห่งสิงคโปร์ (Singapore University of Technology and Design : SUTD) สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024)… รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH… ครู-อาจารย์ สสวท. ชวนครูคณิตศาสตร์มัธยมอบรมฟรี สมัครได้ถึง 30 เม.ย.นี้ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” EZ WebmasterApril 29, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เชิญครูผู้สอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาและผู้สนใจ อบรมหัวข้อ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” ในรูปแบบออนไลน์ สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 เมษายน 2567 อบรมระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2567 ลงทะเบียนและอบรมที่เว็บไซต์ระบบอบรมครู… ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี EZ WebmasterApril 26, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครูและเยาวชนสนุกเรียน สนุกรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี รับปิดเทอมนี้ที่ คลังความรู้ SciMath สสวท. พบสื่อหลากหลายทั้ง อีบุ๊กเพิ่มทักษะ คู่มือครู วีดิทัศน์ คลังภาพ โครงงาน บทเรียนน่ารู้ แผนการสอน แอปพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้พร้อมเกมฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหา เพลิดเพลินเรียนรู้ในโลกออนไลน์ฟรีที่คลังความรู้ SciMath สสวท. https://www.scimath.org สวัสดิการครูที่คุณครูควรมีคืออะไร จากการสำรวจของ EDUZONES EZ WebmasterApril 22, 2024 อาชีพครูเป็นอาชีพที่ถูกสังคมมองว่าเป็น “ผู้เสียสละ” ที่ต้องทำงานอุทิศตนเพื่อให้ลูกศิษย์ไปถึงฝั่งฝัน ซึ่งนอกจากงานด้านการสอนแล้วยังมีภาระงานอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานด้านเอกสาร การอบรม การทำกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หรือเตรียมการประเมินต่าง ๆ ในทางกลับกันสวัสดิการครูที่ควรได้รับกลับไม่สอดคล้องกับภาระงานของครู ซึ่งสวัสดิการข้าราชการ คือ ค่าตอบแทนที่ทางราชการจัดให้แก่ราชการในฐานะที่เป็นสมาชิกขององค์กร เพื่อช่วยให้ความมั่นคง และเป็นขวัญกำลังใจของข้าราชการในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล วันนี้เราได้รวบรวมความคิดเห็นของคุณครูในชุมชน EDUZONES หัวข้อ… สพฐ. จับมือ สสวท. อบรมครูออนไลน์เลือกได้ 3 หลักสูตร “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” รุ่นที่ 5 EZ WebmasterApril 18, 2024 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครู บุคลากรทางการศึกษาและผู้สนใจอบรมด้วยตนเองแบบออนไลน์ “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” (Coding for Teacher Plus: C4T Plus) รุ่นที่ 5 เลือกอบรมได้ 3 หลักสูตร คือ 1. การเขียนโปรแกรม Scratch 2. การเขียนโปรแกรมภาษา Python และ 3. วิทยาการข้อมูล… กิจกรรม ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี เวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation Disney ครั้งแรกในประเทศไทย EZ WebmasterApril 9, 2024 ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีกับเวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation ของ Disney กับงานแสดงนิทรรศการ Immersive Disney Animation ครั้งแรกในประเทศไทย (กรุงเทพฯ, 8 เมษายน 2567) เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางเพื่อออกไปผจญภัยครั้งสำคัญของชีวิตผ่านโลกที่น่าทึ่งของการ์ตูนดิสนีย์กับนิทรรศการที่น่าตื่นเต้นมากที่สุด Immersive… Search for: Search EZ Webmaster May 4, 2020 EZ Webmaster May 4, 2020 เคลียร์ทุกเรื่อง ที่มา/วิธีการคัดเลือก/วิธีการจัดอันดับ/อะไรคือปัจจัยเสี่ยง Admission 2563 แอดมิชชัน ถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตของน้องๆ ม.6 ในทุกๆปีนะครับ เพราะถือว่าเป็นสะพานในการพาน้องๆไปสู่ความฝันหรือเป้าหมายที่ต้องการหลังจากฝ่าฝันสอบมาอย่างดุเดือดตลอดปีการศึกษาของ ม.6 ซึ่งแน่นอนว่าน้องๆแต่ละคนก็ต้องการความกระจ่างและความมั่นใจมากที่สุดก่อนที่จะทำการเลือกคณะ ซึ่งก็มีหลากหลายคำถามเข้ามาที่พี่แฮนด์มากมายทั้งวิธีการการเลือก แนวโน้มแต่ละคณะ และคำถามอื่นๆ พี่แฮนด์จึงเขียนบทความเพื่อไขข้อสงสัยในหลายเรื่องสำหรับแอดมิชชัน แอดมิชชัน หรือน้องๆอาจจะเรียกว่าแอดกลาง ก็คือการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา (Central University Admissions System – CUAS ) จัดการคัดเลือกโดย ทปอ. นำมาใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2549 แทนการคัดเลือกแบบเอนทรานซ์นั่นเอง ซึ่งจุดประสงค์หลักที่นำระบบแอดมิชชันมาใช้แทนระบบเก่าอย่างเอนทรานซ์ก็เพราะว่า การเอนทรานซ์ จะเน้นในการสอบเพียงอย่างเดียว ทำให้เด็กๆทิ้งการเรียนในห้องเรียน ไปมุ่งมั่นติวกันเพียงอย่างเดียว แต่การแอดมิชชันจะมีการนำเกรดเฉลี่ยในโรงเรียนมาใช้ด้วย ทำให้เด็กๆต้องสนใจวิชาในห้องเรียนไม่สามารถทิ้งได้(แต่สุดท้ายเด็กไทยก็ยังติวกันเหมือนเดิมนะครับ อิๆ) องค์ประกอบของแอดมิชชัน แอดมิชชันจะมีคะแนนรวมทั้ง 30,000 คะแนน จากองค์ประกอบ4ตัว ดังต่อไปนี้ 1.GPAX คือเกรดเฉลี่ยสะสม 6 ภาคเรียน ตลอดหลักสูตรมัธยมปลาย ม.4-ม.6 ของนักเรียน โดย GPAX ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 20% หรือ6,000คะแนนทุกคณะ 2. O-NET (Ordinary National Education Test) หรือการสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน เป็นการสอบพร้อมทั้งหมดของเด็ก ม.6 ทั่วประเทศ จะมีการสอบทั้งหมด 5 วิชาได้แก่ คณิตศาสตร์,ภาษาอังกฤษ,ภาษาไทย,สังคม.วิทยาศาสตร์ โดย O-NET ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 30% หรือ9,000คะแนนทุกคณะ 3. GAT (Genetal Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทั่วไป คะแนนเต็ม 300 คะแนน ข้อสอบGAT ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ GAT ไทย ซึ่งจะเน้นเนื้อหาทางด้าน การอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ และ GAT ภาษาอังกฤษ อย่างละ 150 คะแนน โดย GAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 10-50% หรือ3,000-15,000คะแนนแล้วแต่คณะ 4. PAT (Professional Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทางวิชาชีพ เป็นข้อสอบที่ยากเพราะเป็นเนื่อหาที่ไม่มีสอนในโรงเรียน โดยจะมรทั้งหมด 7 PAT ด้วยกัน ได้แก่ PAT1 คณิตศาสตร์ PAT2 วิทยาศาสตร์ PAT3 พื้นฐานวิศวกรรม PAT4 พื้นฐานสถาปัตยกรรม PAT5 พื้นฐานความเป็นครู PAT6 ศิลปกรรม และPAT7วิชาด้านภาษาอื่นๆนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ โดย PAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 0-40% หรือ0-12,000คะแนนแล้วแต่คณะ สัดส่วนองค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะ สัดส่วนองค์ประกอบของแอดมิชชันจะแบ่งเป็น 13 กลุ่มดังนี้ **จุดสังเกตขององค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะขอให้น้องๆจำง่ายๆว่า GPAX(20%) และ O-NET(30%) มีสัดส่วนคงที่ทุกกลุ่มคณะ แต่ละกลุ่มแตกต่างกันตรง GAT และ PAT เท่านั้น สถิติผู้สมัครและสอบติดแอดมิชชัน พี่แฮนด์เอาสถิติตั้งแต่ปี 53 ที่เริ่มใช้ GAT PAT เป็นปีแรก มาให้ดูกันนะครับ ปี 53 จำนวนผู้สมัคร 98,143 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,003 คน หลุดแอดมิชชัน 28,140 คน ปี 54 จำนวนผู้สมัคร 123,260 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 78,096 คน หลุดแอดมิชชัน 45,164 คน ปี 55 จำนวนผู้สมัคร 122,169 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 82,102 คน หลุดแอดมิชชัน 40,067 คน ปี 56 จำนวนผู้สมัคร 113,400 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 83,955 คน หลุดแอดมิชชัน 29,445 คน ปี 57 จำนวนผู้สมัคร 99,767 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 80,880 คน หลุดแอดมิชชัน 18,887 คน ปี 58 จำนวนผู้สมัคร 124,648 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 91,813 คน หลุดแอดมิชชัน 32,835 คน ปี 59 จำนวนผู้สมัคร 105,046 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 85,834 คน หลุดแอดมิชชัน 19,212 คน ปี 60 จำนวนผู้สมัคร 81,232 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,689 คน หลุดแอดมิชชัน 10,543 คน ปี 61 จำนวนผู้สมัคร 54,782 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 44,476 คน หลุดแอดมิชชัน 10,306 คน ปี 62 จำนวนผู้สมัคร 122,523 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 52,315 คน หลุดแอดมิชชัน 20,093 คน เห็นจำนวนสถิติอย่างงี้ก็เพิ่งอย่าไปเครียดอะไรนะครับ เพราะที่จริงแล้วยอดผู้สมัครทุกปีนั้น น้อยกว่ายอดรับตามระเบียบการทุกปี แต่ที่มีคนไม่ติดนั้นก็เพราะว่า ส่วนใหญ่ก็จะไปเลือกคณะเดียวกันซะเยอะ ทำให้มีคนหลุดแอดทุกปี และที่สำคัญจะเห็นเลยว่าจำนวนนั้นลดลงเรื่อยๆทุกปี การคิดคะแนนแอดมิชชัน การคิดคะแนน GPAX ใช้ GPAX ร้อยละ 20 GPAX ให้คิดเทียบคะแนนเต็มเป็น 300 คะแนน วิธีคิด 1. ให้นํา GPAX คูณกับ 75 เพื่อแปลงค่าผลการเรียนเฉลี่ยเป็นคะแนนเต็ม 300 คะแนน 2. ให้นําคะแนน GPAX ที่แปลงค่าเป็นคะแนนแล้วคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด จะได้เป็นคะแนน GPAX ตัวอย่าง ผู้สมัครมีผลการเรียนเฉลี่ย (GPAX) = 2.93 วิธีคิด ขั้นที่ 1 ใ ให้นํา GPAX คูณด้วย 75 จะได้คะแนนดังนี้ คะแนน GPAX (2.93 × 75) = 219.75 คะแนน ขั้นที่ 2 นําคะแนน GPAX คูณด้วยค่าน้ําหนักที่กําหนดไว้ คือ 20% คะแนน GPAX (219.75 × 20) = 4,395 คะแนน จากคะแนนเต็ม 6,000 คะแนน วิธีการคิดคะแนน O-NET 1. ให้นําคะแนนสอบวิชา O-NET แต่ละวิชาของผู้สมัครคูณกับ 3 (กําหนด ให้คะแนนเต็มแต่ละวิชาเท่ากับ 300) 2. นําคะแนนในข้อ 1 คูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 3. นําคะแนนแต่ละวิชาในข้อ 2 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ O-NET ตัวอย่าง ผู้มัครมีคะแนน O-NET ดังนี้ วิชา 01 = 63.00, 02 = 75.00, 03 = 71.00, 04 = 81.00 05 = 87.00 ขั้นที่ 1 นําคะแนนแต่ละวิชาของผู้สมัครคูณด้วย 3(ยกเว้นวิชา 06 ไม่ต่องคูณ) ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (63.00 × 3) = 189 วิชา 02 (75.00 × 3) = 225 วิชา 03 (71.00 × 3) = 213 วิชา 04 (81.00 × 3) = 243 วิชา 05 (87.00 × 3) = 261 ขั้นที่ 2 นําคะแนนที่คูณด้วย 3 คูณด้วยค่าน้ําหนัก ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (189 × 6) = 1,134 วิชา 02 (225 × 6) = 1,350 วิชา 03 (213 × 6) = 1,278 วิชา 04 (261 × 6) = 1,458 วิชา 05 (261 × 6) = 1,566 ขั้นที่ 3 นําคะแนน O-NET ที่คูณด้วยค่าน้ําหนักแล้ว มารวมกันดังนี้ คะแนน O-NET (1,134 + 1,350 + 1,278 + 1,458 + 1,566) คะแนนรวม O-NET = 6,786 คะแนน (จากคะแนน 9,000 คะแนน) วิธีการคิดคะแนน GAT, PAT 1. นําคะแนนสอบ GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 2. นําคะแนนแต่ละวิชาจากข้อ 1 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ GAT และ/ PATตัวอย่าง วิธีการคิดคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ต้องการเลือกคณะวิศวกรรมศาสตร์ กําหนดให้สอบ O-NET 5 กลุ่มสาระฯ คือ รหัส 01,02,03,04 และ 05 แต่ละวิชาให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 6 วิชา GAT (รหัส 85) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 2 (รหัส 72) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 3 (รหัส 73) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 20 ผู้สมัครมีคะแนนแต่ละวิชาดังนี้ วิธีคิดขั้นที่ 1 นําคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนัก คะแนน GAT (265 × 15) = 3,975 คะแนน คะแนน PAT 2 (210 × 15) = 3,150คะแนน คะแนน PAT 3 (250 × 20) = 5,000คะแนน คะแนนรวม GAT และ PAT (3,975 + 3,150 + 5,000) = 12,125 คะแนนการคิดคะแนนรวม คะแนนรวม = คะแนน GPAX + คะแนน O-NET + คะแนน GAT และ/หรือ คะแนน PAT(นำคะแนนทุกอย่างมาบวกกัน) นี่ก็คือวิธีการคิดคะแนนที่ใช้ในการคัดเลือกในระบบแอดมิชชันนะครับ น้องๆคนไหนอยากคิดคะแนนตัวเองก็ลองคิดได้เลยนะครับ แต่อย่าไปคิดบวกเกินให้ตัวเองละ มันไม่ดีเน้อ อิอิ การยื่นเลือกคณะ การยื่นเลือกคณะของแอดมิชชันนั้น ปีนี้จะเลือกกัน หลังจากที่น้องๆม.6 ได้ทราบผลคะแนนทุกตัวที่ใช้เป็นองค์ประกอบแล้ว โดยน้องๆจะสามารถเลือกได้ทั้งหมด 4 อันดับ จะเลือกคณะอะไรมหาวิทยาลัยใดก็ได้ มหาวิทยาลัยเดียวกันก็ได้ โดยจะสมัครทางเว๊บไซท์ http:/mytcas.com/โดยวิธีการคิดเลือกคณะจะเป็นดังนี้1.ระบบจะรวบรวมคะแนนอันดับ1 ของน้องๆ ทุกคนมาเรียงไว้จากมากไปหาน้อย เช่น คณะวิศวะ จุฬา รับ100 คน ระบบก็จะนำคนที่เลือกคณะวิศวะจุฬาทั้งหมดนำคะแนนมาเรียงกัน ใครอยู่อันดับ1-100 ก็คือติดไป *คนที่ไม่เลือกไม่มีสิทธิ์ติดนะครับ*2.ระบบจะเลือกคนที่มีคะแนนมากที่สุด เข้าสู่แต่ละคณะให้ครบตามจำนวนที่รับ คนที่คะแนนไม่ติดคณะใดเลย ถือว่าตกพิจารณาในอันดับแรก ก็จะถูกพิจารณาคะแนนในอันดับที่2 ต่อไป3.เมื่อพิจารณาแล้วพบว่าคะแนนในอันดับ2 สูงกว่าคนที่ผ่านการพิจารณาในรอบแรก คะแนนใหม่ก็จะนำมาแทรก ดังนั้นคนที่ได้คะแนนต่ำสุดในรอบแรกของแต่ละคณะก็จะตกไปถ้าน้องไม่ติดอันดับ 1 ระบบก็จะนำคะแนนของน้องไปแข่งที่อันดับต่อไป ไม่ติดก็จะนำไปอันดับต่อไปเรื่อยๆ จนถึงอันดับ4 โดยถ้าคะแนนถึงอันดับไหนก็จะติดอันดับนั้นเลย ไม่นำคะแนนไปแข่งในอันดับถัดไปและที่สำคัญ จำไว้เลยว่าคะแนนสำคัญกว่าอันดับ ถึงแม้เราเลือกคณะเดียวกับคู่แข่ง แต่เราอันดับ3 คู่แข่งเค้าเลือกไว้อันดับ 1 ถ้าเราไม่ได้ติดอันดับ 1และ 2 จนมาถึงอันดับ3 ถ้าเราคะแนนมากกว่าก็ไม่ต้องกังวลอะไรครับ เราก็ติดก่อนแน่นอน แม้ว่าเราจะเลือกคณะนี้ไว้เป็นอันดับ3ก็ตาม ** เพราะฉะนั้นอันดับแรกเลยของการเลือกคณะคือเลือกคณะที่เราอยากเรียนมากที่สุด อยากเข้าไปที่สุด ไว้อันดับ1 เท่านั้น!! เรียกว่าเลือกตามความฝันไปเลยครับ ไม่ต้องห่วงคะแนน อะไรใดๆทั้งสิ้น เพราะหากติดคณะที่เราไม่อยากเรียน จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ เพราะโอกาสมาจากการเลือก ถ้าเราไม่เลือกก็คือไม่มีโอกาส ถึงแม้บางคนจะมองว่าโอกาสจะน้อยนิด แต่ก็ยังถือว่ามีโอกาส ถ้าไม่เลือกเลยโอกาสคือเท่ากับ 0 ครับ!! – การเลือกคณะที่เรียงลงมานั้น ต้องเริ่มคำนึงถึงโอกาสสอบติดมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นการรองรับกัน ให้น้องๆลองนึกภาพถึงการตกจากที่สูงนะครับ คือตกลงมาแล้ว เบาะชั้น1 รับไม่อยู่ก็ยังมีชั้น2 ชั้น3 ชั้น4 รองรับต่อๆกัน ทำให้ไม่ตกถึงฟื้น(หลุดแอด) โดยการดูโอกาสสอบติดดูได้จากอะไร ส่วนมากที่น้องๆดูก็จะมีคะแนนขั้นต่ำของปีที่ผ่านๆมา แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้น้องๆสามารถนำคะแนนของน้องๆมาประเมินได้จากโปรแกรมประเมินโอกาสต่างๆที่ตอนนี้มีอยู่หลายเว๊บ ซึ่งในอนา่คตรับรองว่าจะมีของ dek ad แน่นอนครับ ยกตัวอย่างการเรียงอันดับ อันดับ1 อย่างที่บอก เลือกไปเลยครับ คณะที่ชอบที่รักที่สุด ไม่ต้องสนใจโอกาสสอบติด ส่วนคณะที่ตามมา ต้องเลือกคณะที่่โอกาสสอบติดเปอร์เซ็นสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่น อันดับ2 50% อันดับ3ควร 70-80% อันดับ4ควร 90% ขึ้นไป เอาให้ปลอดภัยที่สุด ให้นอนหลับสบาย แบบไร้กังวลมากที่สุด ประมาณนี้ครับ เพื่อเป็นการรองรับกันและความปลอดภัยป้องกันไม่ให้เกิดการหลุดแอด แต่ถ้าถามว่าถ้าอยากเสี่ยงได้ไหม ก็ต้องแยกเป็นกรณีๆไปเช่นกรณีเด็กซิ่ว มีที่เรียนมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว แต่อาจไม่ได้เรียนในคณะที่ชอบอยากมาซิ่วใหม่ ก็เสี่ยงไปเลยครับเต็มที่ หรือน้องๆที่อาจจะติดรับตรงไปแล้วแต่ยังสามารถมาแอดได้ ก็สามารถจัดการความเสี่ยงได้ด้วยตัวเองเต็มที่เช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญสุดไม่ว่าพร้อมเสี่ยงหรือไม่พร้อมเสี่ยงก็คือการวางอันดับ อย่างน้อยๆก็ควรวางอันดับให้เป็นไปตามโอกาสที่น่าจะติด เพราะถ้าวางไปมั่วๆมันก็จะเป็นการเสียอันดับและเสียโอกาสโดยใช่เหตุครับ มาถึงอีกคำถามที่น้องๆถามมามากที่สุดก็คือเรื่องแนวโน้มต่างๆกับจะเช็คได้อย่างไรว่าคณะไหนมีความเสี่ยงมากน้อยเท่าไหร่ เลือกคณะดูแต่คะแนนต่ำสุดได้มั้ย ดูได้ครับ แต่อย่าลืมว่าคะแนนต่ำสุดของคณะต่างๆเมื่อปีแล้ว ไม่ได้เป็นคะแนนที่ตั้งไว้นิ่งๆมันสามารถขยับไปขยับมาได้ เพราะคะแนนมันมาจากการเลือก เพราะฉะนั้นคะแนนมันสามารถขึ้นๆลงๆได้ตลอด ซึ่งสิ่งที่เป็นปัจจัยทำให้คะแนนเปลี่ยนไปจะได้แก่ . 1.คะแนนสอบในแต่ละปี คะแนนสอบในที่นี้หมายถึงคะแนนสอบในแต่ละปีของ O-NET หรือ GAT PAT เพราะถ้าคะแนนเฉลี่ยตัวไหนขึ้นโดดเด่นก็จะพอคาดการณ์ได้เลยครับว่าคณะที่ใช้คะแนนตั้งนั้นในสัดส่วนก็จะมีโอกาสที่คะแนนสอบจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน . 2.จำนวนผู้สมัคร(คนเลือกเยอะ) แน่นอนครับคณะไหนหากมีการแข่งขันสูงคือมีผู้สมัครเยอะ คณะนั้นก็จะกลายเป็นคณะยอดฮิตมีคะแนนสูงขึ้นอย่างแน่นอน หรือแค่การดูจำนวนผู้สมัครในบางวิชาเราก็พอจะคาดการณ์ได้แล้วว่าคณะไหนมีแนวโน้มที่คะแนนจะขึ้น . 3.จำนวนการรับนักศึกษา จำนวนรับก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจะส่งผลถึงคะแนนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะคณะที่มีการปรับจำนวนการรับให้น้อยลงจากปีก่อนเยอะ ก็มีแนวโน้มที่คะแนนปีนี้จะสูงขึ้นอย่างแน่นอน . 4.คณะที่มีการเปลี่ยนเกณฑ์ ในทุกๆปีที่มีคณะที่มีการเปลียนเกณฑ์จะมีการสวิงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นคณะพยาบาลเมื่อตอนปี57 ที่มีปรับสัดส่วนการใช้ PAT2 ให้มากขึ้น10% ทำให้คะแนนในปีนั้นพยาบาลต่ำลงมากค่อนข้างเยอะ และส่งมาถึงปีที่ผ่านมาที่ทำให้คะแนนของคณะพยาบาลสวิงขึ้นมาเพราะคนแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนต่ำนั่นเอง อย่างปีหน้าก็จะมีเปลี่ยนเกณฑ์ของคณะสัตวแพทย์ อันนี้ก็จะมีผลแน่นอน . 5.คณะที่มีคะแนนสวิง(คะแนนต่ำสุดปีที่ผ่านมา ขึ้นๆลงๆ) ถามว่าคณะที่มีคะแนนสวิงจะเกี่ยวอะไร จะเกี่ยวก็ตรงมันมีผลทางจิตวิทยาที่แหละครับ บางคณะที่คะแนนสูงมากๆสูงเกินไปที่ใจเด็กในปีนั้นจะยอมรับก็อาจจะลงลงต่ำเรี่ยดินได้ เพราะว่าการเจียมตัวที่น้องๆเห็นว่าคะแนนสูง คงจะเอื้อมไม่ถึงก็เลยเลือกที่จะมาเลือก ซึ่งตัวอย่างอย่างนี้ก็จะมีให้เห็นแทบทุกปีนะครับ หรือคณะที่คะแนนต่ำมากๆ ก็อาจจะสวิงขึ้นมาสูงปรี๊ดเลยก็ได้เพราะคนจะแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนมันต่ำมากนั่นเอง . 6.เทรนด์ เทรนด์ในที่นี้ก็จะหมายถึงกระแสความฮิตของวัยรุ่นน้องวัยแอดในแต่ละปีว่ามีความนิยมเรื่องอะไร เรื่องมีความนิยมในคณะอะไร ซึ่งในสมัยก่อนก็จะอาจจะเคยเห็นว่ากระแสคณะนิเทศมาแรงมากๆ หรือในช่วงแอดปี4-5ปีก่อนกระแสคณะในอาชีพเสรีอาเซียนจะกลายเป็นคณะฮิตขึ้นมา ซึ่งในช่วงนี้เท่าที่พี่แฮนด์ดูก็จะเป็นคณะทางสายครูกับทางคณะทางด้านภาษาอังกฤษ หรือเกี่ยวกับกระแสดิจิทัล ที่คนจะสมัครเยอะมีคะแนนสูงขึ้นมา >>>> น้องๆสามารถ ปรึกษาการเลือกคณะแอดมิชชัน ด้วยวิธีง่ายๆเพียง 1. เข้าไปใช้โปรแกรม EZ (EZ ADMISSION) โปรแกรมช่วย ADMISSION ที่มีความแม่นยำสูง ที่สำคัญ ใช้ฟรี!! ได้ที่ >> http://ezadmissions.eduzones.com/ 2. เซฟรูปผลการคำนวณเลือกคณะของน้องๆ 3. นำไปโพสต์ขอคำปรึกษาจากพี่แฮนด์ที่ Line@ P’Hand Eduzones แอดเลยที่ >> @handyeduzones ง่ายๆเพียงเท่านี้ รับรองแอดมิชชั่นปีนี้ น้องๆไม่หลุดชัวร์!!! ครับ ———————————————————————————————————– EZ Webmaster Related Posts สรุป! วิธีการสมัคร TCAS รอบ 3 ที่นั่งเหลือน้อย “โลจิสติกส์ สวนสุนันทา” เปิดรับภาคพิเศษ เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ จบป.ตรีได้ใน 2 ปีครึ่ง 10 สิ่งที่ #Dek67 ต้องรู้ !! ก่อนการสมัคร #TCAS67 รอบที่3 GATE PROJECT 8 The Infinity ติวฟรีติดมัธยม ปลุกพลังจากศิษย์เก่าที่สำเร็จหลากหลายสถาบันชั้นนำ ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี Post navigation PREVIOUS Previous post: ผู้นำนักศึกษา มจพ. ขานรับการจัดการเรียนการสอนออนไลน์สู้เชื้อโรค COVID-19NEXT Next post: E-Book Talk Like A Pro โดย อาจารย์วิริยะ ฤๅชัยพาณิชย์
ที่นั่งเหลือน้อย “โลจิสติกส์ สวนสุนันทา” เปิดรับภาคพิเศษ เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ จบป.ตรีได้ใน 2 ปีครึ่ง tui sakrapeeApril 29, 2024 เปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ (ภาคพิเศษ) รอบที่ 2 หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์ (ภาคพิเศษ) วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา วิทยาเขตนครปฐม สมัครเรียน คลิกเลย https://cls.ssru.ac.th/page/course8 10 สิ่งที่ #Dek67 ต้องรู้ !! ก่อนการสมัคร #TCAS67 รอบที่3 EZ WebmasterApril 26, 2024 1. น้องๆสามารถเลือกคณะ/สาขาวิชาที่สนใจได้ถึง 20 อันดับ เพื่อมาเปรียบเทียบความสนใจของเรา . 2. หลังจากนั้นให้น้องๆนำมาจัดอันดับใหม่ โดยให้เลือกคณะที่เราสนใจมากที่สุดไว้เป็นอันดับแรก และคณะที่สนใจรองลงมาไว้ตามลำดับเรื่อยๆ โดยเราสามารถเลือกได้สูงสุดถึง 10 อันดับในการสมัคร โดยให้เลือกคณะที่เราสนใจมากที่สุดไว้เป็นอันดับแรก และคณะที่สนใจรองลงมาไว้ตามลำดับเรื่อยๆ โดยเราสามารถเลือกได้สูงสุดถึง 10 อันดับในการสมัคร… GATE PROJECT 8 The Infinity ติวฟรีติดมัธยม ปลุกพลังจากศิษย์เก่าที่สำเร็จหลากหลายสถาบันชั้นนำ EZ WebmasterApril 26, 2024 โครงการ Gate Project 8 #ติวฟรีติดมัธยม #เสาวนากับอาจารย์รร.ชื่อดัง ปลุกพลังจากศิษย์เก่าที่สำเร็จหลากหลายสถาบันชั้นนำ เปิดรับลงทะเบียนวันนี้เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป รับสมัครเพียง 1,000 ที่นั่ง หากเต็มปิดรับทันที สามารถลงทะ’เบียนตามลิงก์ด้านล่างหรือสแกน QR ได้เลย… นักศึกษา เปิดเรื่องราวบนเส้นทางแห่งความสำเร็จของหญิงไทย ผู้ได้รับทุน Women in STEM จากบริติช เคานซิล สู่แวดวงการทำงานในองค์กรระดับโลก EZ WebmasterApril 29, 2024 ในปัจจุบันไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเทคโนโลยีทั่วโลกมีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และเข้ามามีบทบาทสำคัญกับทุกคนบนโลก ทำให้ภาคธุรกิจต่างเร่งพัฒนาและปรับตัวเพื่อวิ่งตามเทรนด์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจนนำไปสู่การแข่งขันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันมีสาขาวิชาและสายอาชีพที่เป็นที่สนใจและได้รับความนิยมเกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในนั้นคือสาขาวิชา สะเต็มศึกษา (Science, Technology, Engineering and Mathematics: STEM) หรือการศึกษาในสาขาวิชาด้าน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์… สรุป! วิธีการสมัคร TCAS รอบ 3 EZ WebmasterApril 29, 2024 ก๊อก ก๊อก ก๊อก~ ใกล้เข้ามาแล้วนะคะสำหรับการสมัคร TCAS รอบ 3 ที่จะถึงในวันที่ 6-12 พ.ค. นี้ แล้วน้อง ๆ รู้หรือยังว่าการสมัครในครั้งนี้มีขั้นตอนอะไรยังไงบ้างน้า? แต่ถ้าใครยังไม่รู้ล่ะก็ Eduzones ได้สรุปวิธีการสมัครมาให้น้อง ๆ ได้ทำความเข้าใจกันแล้วค่ะ^^… นักศึกษาวิทยาลัยดุสิตธานี ร่วมทีมคว้าชัยการแข่งขันระดับนานาชาติ THE-ICE GRM Challenge 2024 EZ WebmasterApril 29, 2024 เป็นเวทีระดับนานาชาติที่จัดการแข่งขันขึ้นเป็นประจำทุกปี สำหรับการแข่งขัน THE-ICE GRM Challenge ที่จัดโดย THE-ICE องค์กรสากลซึ่งพันธมิตรจากทั่วทุกมุมโลกร่วมกันก่อตั้งขึ้น เพื่อกำหนดเกณฑ์มาตรฐานสำหรับการศึกษาด้านการบริการ โดยต้องผ่านการพิจารณา ทบทวน และรับรองจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญทางด้านอุตสาหกรรมการบริการจากนานาประเทศ THE-ICE GRM Challenge 2024 เป็นการแข่งขันที่มอบโจทย์ท้าทายเกี่ยวกับการสร้างรายได้สูงสุดให้แก่โรงแรม โดยจำลองสถานการณ์ให้ผู้เข้าแข่งขันเสมือนเป็นผู้ดูแลด้านรายได้ของโรงแรมว่า… คณะพยาบาลศาสตร์ ม.รังสิต เปิดหลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต (การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ) EZ WebmasterApril 26, 2024 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดหลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต (การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ) M.N.S. (Adult and Gerontological Nursing) โดยเปิดสอนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เรียนวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นการเรียนออนไลน์ร่วมกับการเรียนในชั้นเรียน สามารถฝึกปฏิบัติในหน่วยงานของนักศึกษา จำนวน 36 หน่วยกิต โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาด้านวิชาการดูแลนักศึกษาตลอดระยะเวลาที่เรียน สามารถสำเร็จการศึกษาใน 2 ถึง 2.5 ปี ภายใต้การบริหารจัดการที่ดี และสามารถเลือกเรียนเป็นรายวิชาและเทียบโอนได้เมื่อสมัครเข้าศึกษาในหลักสูตร ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรประมาณ 250,000 บาท กรณียังไม่สำเร็จการศึกษาตามเวลาของหลักสูตร ชำระค่ารักษาสถานภาพ… ทุนดีดี ขยายเวลารับทุนเรียนต่อป.โท ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว สหพันธรัฐรัสเซีย tui sakrapeeApril 24, 2024 ประกาศขยายเวลารับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว (Skolkovo Institute of Science and Technology: Skoltech) สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024) หลักสูตรภาษาอังกฤษ ตามที่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ… ม.เทคโนโลยีและการออกแบบแห่งสิงคโปร์ ให้ทุนคนไทยไปศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี tui sakrapeeApril 22, 2024 ประกาศ รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบ แห่งสิงคโปร์ (Singapore University of Technology and Design : SUTD) สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024)… รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH… ครู-อาจารย์ สสวท. ชวนครูคณิตศาสตร์มัธยมอบรมฟรี สมัครได้ถึง 30 เม.ย.นี้ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” EZ WebmasterApril 29, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เชิญครูผู้สอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาและผู้สนใจ อบรมหัวข้อ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” ในรูปแบบออนไลน์ สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 เมษายน 2567 อบรมระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2567 ลงทะเบียนและอบรมที่เว็บไซต์ระบบอบรมครู… ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี EZ WebmasterApril 26, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครูและเยาวชนสนุกเรียน สนุกรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี รับปิดเทอมนี้ที่ คลังความรู้ SciMath สสวท. พบสื่อหลากหลายทั้ง อีบุ๊กเพิ่มทักษะ คู่มือครู วีดิทัศน์ คลังภาพ โครงงาน บทเรียนน่ารู้ แผนการสอน แอปพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้พร้อมเกมฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหา เพลิดเพลินเรียนรู้ในโลกออนไลน์ฟรีที่คลังความรู้ SciMath สสวท. https://www.scimath.org สวัสดิการครูที่คุณครูควรมีคืออะไร จากการสำรวจของ EDUZONES EZ WebmasterApril 22, 2024 อาชีพครูเป็นอาชีพที่ถูกสังคมมองว่าเป็น “ผู้เสียสละ” ที่ต้องทำงานอุทิศตนเพื่อให้ลูกศิษย์ไปถึงฝั่งฝัน ซึ่งนอกจากงานด้านการสอนแล้วยังมีภาระงานอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานด้านเอกสาร การอบรม การทำกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หรือเตรียมการประเมินต่าง ๆ ในทางกลับกันสวัสดิการครูที่ควรได้รับกลับไม่สอดคล้องกับภาระงานของครู ซึ่งสวัสดิการข้าราชการ คือ ค่าตอบแทนที่ทางราชการจัดให้แก่ราชการในฐานะที่เป็นสมาชิกขององค์กร เพื่อช่วยให้ความมั่นคง และเป็นขวัญกำลังใจของข้าราชการในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล วันนี้เราได้รวบรวมความคิดเห็นของคุณครูในชุมชน EDUZONES หัวข้อ… สพฐ. จับมือ สสวท. อบรมครูออนไลน์เลือกได้ 3 หลักสูตร “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” รุ่นที่ 5 EZ WebmasterApril 18, 2024 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครู บุคลากรทางการศึกษาและผู้สนใจอบรมด้วยตนเองแบบออนไลน์ “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” (Coding for Teacher Plus: C4T Plus) รุ่นที่ 5 เลือกอบรมได้ 3 หลักสูตร คือ 1. การเขียนโปรแกรม Scratch 2. การเขียนโปรแกรมภาษา Python และ 3. วิทยาการข้อมูล… กิจกรรม ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี เวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation Disney ครั้งแรกในประเทศไทย EZ WebmasterApril 9, 2024 ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีกับเวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation ของ Disney กับงานแสดงนิทรรศการ Immersive Disney Animation ครั้งแรกในประเทศไทย (กรุงเทพฯ, 8 เมษายน 2567) เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางเพื่อออกไปผจญภัยครั้งสำคัญของชีวิตผ่านโลกที่น่าทึ่งของการ์ตูนดิสนีย์กับนิทรรศการที่น่าตื่นเต้นมากที่สุด Immersive… Search for: Search EZ Webmaster May 4, 2020 EZ Webmaster May 4, 2020 เคลียร์ทุกเรื่อง ที่มา/วิธีการคัดเลือก/วิธีการจัดอันดับ/อะไรคือปัจจัยเสี่ยง Admission 2563 แอดมิชชัน ถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตของน้องๆ ม.6 ในทุกๆปีนะครับ เพราะถือว่าเป็นสะพานในการพาน้องๆไปสู่ความฝันหรือเป้าหมายที่ต้องการหลังจากฝ่าฝันสอบมาอย่างดุเดือดตลอดปีการศึกษาของ ม.6 ซึ่งแน่นอนว่าน้องๆแต่ละคนก็ต้องการความกระจ่างและความมั่นใจมากที่สุดก่อนที่จะทำการเลือกคณะ ซึ่งก็มีหลากหลายคำถามเข้ามาที่พี่แฮนด์มากมายทั้งวิธีการการเลือก แนวโน้มแต่ละคณะ และคำถามอื่นๆ พี่แฮนด์จึงเขียนบทความเพื่อไขข้อสงสัยในหลายเรื่องสำหรับแอดมิชชัน แอดมิชชัน หรือน้องๆอาจจะเรียกว่าแอดกลาง ก็คือการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา (Central University Admissions System – CUAS ) จัดการคัดเลือกโดย ทปอ. นำมาใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2549 แทนการคัดเลือกแบบเอนทรานซ์นั่นเอง ซึ่งจุดประสงค์หลักที่นำระบบแอดมิชชันมาใช้แทนระบบเก่าอย่างเอนทรานซ์ก็เพราะว่า การเอนทรานซ์ จะเน้นในการสอบเพียงอย่างเดียว ทำให้เด็กๆทิ้งการเรียนในห้องเรียน ไปมุ่งมั่นติวกันเพียงอย่างเดียว แต่การแอดมิชชันจะมีการนำเกรดเฉลี่ยในโรงเรียนมาใช้ด้วย ทำให้เด็กๆต้องสนใจวิชาในห้องเรียนไม่สามารถทิ้งได้(แต่สุดท้ายเด็กไทยก็ยังติวกันเหมือนเดิมนะครับ อิๆ) องค์ประกอบของแอดมิชชัน แอดมิชชันจะมีคะแนนรวมทั้ง 30,000 คะแนน จากองค์ประกอบ4ตัว ดังต่อไปนี้ 1.GPAX คือเกรดเฉลี่ยสะสม 6 ภาคเรียน ตลอดหลักสูตรมัธยมปลาย ม.4-ม.6 ของนักเรียน โดย GPAX ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 20% หรือ6,000คะแนนทุกคณะ 2. O-NET (Ordinary National Education Test) หรือการสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน เป็นการสอบพร้อมทั้งหมดของเด็ก ม.6 ทั่วประเทศ จะมีการสอบทั้งหมด 5 วิชาได้แก่ คณิตศาสตร์,ภาษาอังกฤษ,ภาษาไทย,สังคม.วิทยาศาสตร์ โดย O-NET ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 30% หรือ9,000คะแนนทุกคณะ 3. GAT (Genetal Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทั่วไป คะแนนเต็ม 300 คะแนน ข้อสอบGAT ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ GAT ไทย ซึ่งจะเน้นเนื้อหาทางด้าน การอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ และ GAT ภาษาอังกฤษ อย่างละ 150 คะแนน โดย GAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 10-50% หรือ3,000-15,000คะแนนแล้วแต่คณะ 4. PAT (Professional Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทางวิชาชีพ เป็นข้อสอบที่ยากเพราะเป็นเนื่อหาที่ไม่มีสอนในโรงเรียน โดยจะมรทั้งหมด 7 PAT ด้วยกัน ได้แก่ PAT1 คณิตศาสตร์ PAT2 วิทยาศาสตร์ PAT3 พื้นฐานวิศวกรรม PAT4 พื้นฐานสถาปัตยกรรม PAT5 พื้นฐานความเป็นครู PAT6 ศิลปกรรม และPAT7วิชาด้านภาษาอื่นๆนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ โดย PAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 0-40% หรือ0-12,000คะแนนแล้วแต่คณะ สัดส่วนองค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะ สัดส่วนองค์ประกอบของแอดมิชชันจะแบ่งเป็น 13 กลุ่มดังนี้ **จุดสังเกตขององค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะขอให้น้องๆจำง่ายๆว่า GPAX(20%) และ O-NET(30%) มีสัดส่วนคงที่ทุกกลุ่มคณะ แต่ละกลุ่มแตกต่างกันตรง GAT และ PAT เท่านั้น สถิติผู้สมัครและสอบติดแอดมิชชัน พี่แฮนด์เอาสถิติตั้งแต่ปี 53 ที่เริ่มใช้ GAT PAT เป็นปีแรก มาให้ดูกันนะครับ ปี 53 จำนวนผู้สมัคร 98,143 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,003 คน หลุดแอดมิชชัน 28,140 คน ปี 54 จำนวนผู้สมัคร 123,260 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 78,096 คน หลุดแอดมิชชัน 45,164 คน ปี 55 จำนวนผู้สมัคร 122,169 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 82,102 คน หลุดแอดมิชชัน 40,067 คน ปี 56 จำนวนผู้สมัคร 113,400 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 83,955 คน หลุดแอดมิชชัน 29,445 คน ปี 57 จำนวนผู้สมัคร 99,767 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 80,880 คน หลุดแอดมิชชัน 18,887 คน ปี 58 จำนวนผู้สมัคร 124,648 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 91,813 คน หลุดแอดมิชชัน 32,835 คน ปี 59 จำนวนผู้สมัคร 105,046 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 85,834 คน หลุดแอดมิชชัน 19,212 คน ปี 60 จำนวนผู้สมัคร 81,232 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,689 คน หลุดแอดมิชชัน 10,543 คน ปี 61 จำนวนผู้สมัคร 54,782 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 44,476 คน หลุดแอดมิชชัน 10,306 คน ปี 62 จำนวนผู้สมัคร 122,523 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 52,315 คน หลุดแอดมิชชัน 20,093 คน เห็นจำนวนสถิติอย่างงี้ก็เพิ่งอย่าไปเครียดอะไรนะครับ เพราะที่จริงแล้วยอดผู้สมัครทุกปีนั้น น้อยกว่ายอดรับตามระเบียบการทุกปี แต่ที่มีคนไม่ติดนั้นก็เพราะว่า ส่วนใหญ่ก็จะไปเลือกคณะเดียวกันซะเยอะ ทำให้มีคนหลุดแอดทุกปี และที่สำคัญจะเห็นเลยว่าจำนวนนั้นลดลงเรื่อยๆทุกปี การคิดคะแนนแอดมิชชัน การคิดคะแนน GPAX ใช้ GPAX ร้อยละ 20 GPAX ให้คิดเทียบคะแนนเต็มเป็น 300 คะแนน วิธีคิด 1. ให้นํา GPAX คูณกับ 75 เพื่อแปลงค่าผลการเรียนเฉลี่ยเป็นคะแนนเต็ม 300 คะแนน 2. ให้นําคะแนน GPAX ที่แปลงค่าเป็นคะแนนแล้วคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด จะได้เป็นคะแนน GPAX ตัวอย่าง ผู้สมัครมีผลการเรียนเฉลี่ย (GPAX) = 2.93 วิธีคิด ขั้นที่ 1 ใ ให้นํา GPAX คูณด้วย 75 จะได้คะแนนดังนี้ คะแนน GPAX (2.93 × 75) = 219.75 คะแนน ขั้นที่ 2 นําคะแนน GPAX คูณด้วยค่าน้ําหนักที่กําหนดไว้ คือ 20% คะแนน GPAX (219.75 × 20) = 4,395 คะแนน จากคะแนนเต็ม 6,000 คะแนน วิธีการคิดคะแนน O-NET 1. ให้นําคะแนนสอบวิชา O-NET แต่ละวิชาของผู้สมัครคูณกับ 3 (กําหนด ให้คะแนนเต็มแต่ละวิชาเท่ากับ 300) 2. นําคะแนนในข้อ 1 คูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 3. นําคะแนนแต่ละวิชาในข้อ 2 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ O-NET ตัวอย่าง ผู้มัครมีคะแนน O-NET ดังนี้ วิชา 01 = 63.00, 02 = 75.00, 03 = 71.00, 04 = 81.00 05 = 87.00 ขั้นที่ 1 นําคะแนนแต่ละวิชาของผู้สมัครคูณด้วย 3(ยกเว้นวิชา 06 ไม่ต่องคูณ) ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (63.00 × 3) = 189 วิชา 02 (75.00 × 3) = 225 วิชา 03 (71.00 × 3) = 213 วิชา 04 (81.00 × 3) = 243 วิชา 05 (87.00 × 3) = 261 ขั้นที่ 2 นําคะแนนที่คูณด้วย 3 คูณด้วยค่าน้ําหนัก ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (189 × 6) = 1,134 วิชา 02 (225 × 6) = 1,350 วิชา 03 (213 × 6) = 1,278 วิชา 04 (261 × 6) = 1,458 วิชา 05 (261 × 6) = 1,566 ขั้นที่ 3 นําคะแนน O-NET ที่คูณด้วยค่าน้ําหนักแล้ว มารวมกันดังนี้ คะแนน O-NET (1,134 + 1,350 + 1,278 + 1,458 + 1,566) คะแนนรวม O-NET = 6,786 คะแนน (จากคะแนน 9,000 คะแนน) วิธีการคิดคะแนน GAT, PAT 1. นําคะแนนสอบ GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 2. นําคะแนนแต่ละวิชาจากข้อ 1 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ GAT และ/ PATตัวอย่าง วิธีการคิดคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ต้องการเลือกคณะวิศวกรรมศาสตร์ กําหนดให้สอบ O-NET 5 กลุ่มสาระฯ คือ รหัส 01,02,03,04 และ 05 แต่ละวิชาให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 6 วิชา GAT (รหัส 85) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 2 (รหัส 72) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 3 (รหัส 73) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 20 ผู้สมัครมีคะแนนแต่ละวิชาดังนี้ วิธีคิดขั้นที่ 1 นําคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนัก คะแนน GAT (265 × 15) = 3,975 คะแนน คะแนน PAT 2 (210 × 15) = 3,150คะแนน คะแนน PAT 3 (250 × 20) = 5,000คะแนน คะแนนรวม GAT และ PAT (3,975 + 3,150 + 5,000) = 12,125 คะแนนการคิดคะแนนรวม คะแนนรวม = คะแนน GPAX + คะแนน O-NET + คะแนน GAT และ/หรือ คะแนน PAT(นำคะแนนทุกอย่างมาบวกกัน) นี่ก็คือวิธีการคิดคะแนนที่ใช้ในการคัดเลือกในระบบแอดมิชชันนะครับ น้องๆคนไหนอยากคิดคะแนนตัวเองก็ลองคิดได้เลยนะครับ แต่อย่าไปคิดบวกเกินให้ตัวเองละ มันไม่ดีเน้อ อิอิ การยื่นเลือกคณะ การยื่นเลือกคณะของแอดมิชชันนั้น ปีนี้จะเลือกกัน หลังจากที่น้องๆม.6 ได้ทราบผลคะแนนทุกตัวที่ใช้เป็นองค์ประกอบแล้ว โดยน้องๆจะสามารถเลือกได้ทั้งหมด 4 อันดับ จะเลือกคณะอะไรมหาวิทยาลัยใดก็ได้ มหาวิทยาลัยเดียวกันก็ได้ โดยจะสมัครทางเว๊บไซท์ http:/mytcas.com/โดยวิธีการคิดเลือกคณะจะเป็นดังนี้1.ระบบจะรวบรวมคะแนนอันดับ1 ของน้องๆ ทุกคนมาเรียงไว้จากมากไปหาน้อย เช่น คณะวิศวะ จุฬา รับ100 คน ระบบก็จะนำคนที่เลือกคณะวิศวะจุฬาทั้งหมดนำคะแนนมาเรียงกัน ใครอยู่อันดับ1-100 ก็คือติดไป *คนที่ไม่เลือกไม่มีสิทธิ์ติดนะครับ*2.ระบบจะเลือกคนที่มีคะแนนมากที่สุด เข้าสู่แต่ละคณะให้ครบตามจำนวนที่รับ คนที่คะแนนไม่ติดคณะใดเลย ถือว่าตกพิจารณาในอันดับแรก ก็จะถูกพิจารณาคะแนนในอันดับที่2 ต่อไป3.เมื่อพิจารณาแล้วพบว่าคะแนนในอันดับ2 สูงกว่าคนที่ผ่านการพิจารณาในรอบแรก คะแนนใหม่ก็จะนำมาแทรก ดังนั้นคนที่ได้คะแนนต่ำสุดในรอบแรกของแต่ละคณะก็จะตกไปถ้าน้องไม่ติดอันดับ 1 ระบบก็จะนำคะแนนของน้องไปแข่งที่อันดับต่อไป ไม่ติดก็จะนำไปอันดับต่อไปเรื่อยๆ จนถึงอันดับ4 โดยถ้าคะแนนถึงอันดับไหนก็จะติดอันดับนั้นเลย ไม่นำคะแนนไปแข่งในอันดับถัดไปและที่สำคัญ จำไว้เลยว่าคะแนนสำคัญกว่าอันดับ ถึงแม้เราเลือกคณะเดียวกับคู่แข่ง แต่เราอันดับ3 คู่แข่งเค้าเลือกไว้อันดับ 1 ถ้าเราไม่ได้ติดอันดับ 1และ 2 จนมาถึงอันดับ3 ถ้าเราคะแนนมากกว่าก็ไม่ต้องกังวลอะไรครับ เราก็ติดก่อนแน่นอน แม้ว่าเราจะเลือกคณะนี้ไว้เป็นอันดับ3ก็ตาม ** เพราะฉะนั้นอันดับแรกเลยของการเลือกคณะคือเลือกคณะที่เราอยากเรียนมากที่สุด อยากเข้าไปที่สุด ไว้อันดับ1 เท่านั้น!! เรียกว่าเลือกตามความฝันไปเลยครับ ไม่ต้องห่วงคะแนน อะไรใดๆทั้งสิ้น เพราะหากติดคณะที่เราไม่อยากเรียน จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ เพราะโอกาสมาจากการเลือก ถ้าเราไม่เลือกก็คือไม่มีโอกาส ถึงแม้บางคนจะมองว่าโอกาสจะน้อยนิด แต่ก็ยังถือว่ามีโอกาส ถ้าไม่เลือกเลยโอกาสคือเท่ากับ 0 ครับ!! – การเลือกคณะที่เรียงลงมานั้น ต้องเริ่มคำนึงถึงโอกาสสอบติดมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นการรองรับกัน ให้น้องๆลองนึกภาพถึงการตกจากที่สูงนะครับ คือตกลงมาแล้ว เบาะชั้น1 รับไม่อยู่ก็ยังมีชั้น2 ชั้น3 ชั้น4 รองรับต่อๆกัน ทำให้ไม่ตกถึงฟื้น(หลุดแอด) โดยการดูโอกาสสอบติดดูได้จากอะไร ส่วนมากที่น้องๆดูก็จะมีคะแนนขั้นต่ำของปีที่ผ่านๆมา แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้น้องๆสามารถนำคะแนนของน้องๆมาประเมินได้จากโปรแกรมประเมินโอกาสต่างๆที่ตอนนี้มีอยู่หลายเว๊บ ซึ่งในอนา่คตรับรองว่าจะมีของ dek ad แน่นอนครับ ยกตัวอย่างการเรียงอันดับ อันดับ1 อย่างที่บอก เลือกไปเลยครับ คณะที่ชอบที่รักที่สุด ไม่ต้องสนใจโอกาสสอบติด ส่วนคณะที่ตามมา ต้องเลือกคณะที่่โอกาสสอบติดเปอร์เซ็นสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่น อันดับ2 50% อันดับ3ควร 70-80% อันดับ4ควร 90% ขึ้นไป เอาให้ปลอดภัยที่สุด ให้นอนหลับสบาย แบบไร้กังวลมากที่สุด ประมาณนี้ครับ เพื่อเป็นการรองรับกันและความปลอดภัยป้องกันไม่ให้เกิดการหลุดแอด แต่ถ้าถามว่าถ้าอยากเสี่ยงได้ไหม ก็ต้องแยกเป็นกรณีๆไปเช่นกรณีเด็กซิ่ว มีที่เรียนมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว แต่อาจไม่ได้เรียนในคณะที่ชอบอยากมาซิ่วใหม่ ก็เสี่ยงไปเลยครับเต็มที่ หรือน้องๆที่อาจจะติดรับตรงไปแล้วแต่ยังสามารถมาแอดได้ ก็สามารถจัดการความเสี่ยงได้ด้วยตัวเองเต็มที่เช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญสุดไม่ว่าพร้อมเสี่ยงหรือไม่พร้อมเสี่ยงก็คือการวางอันดับ อย่างน้อยๆก็ควรวางอันดับให้เป็นไปตามโอกาสที่น่าจะติด เพราะถ้าวางไปมั่วๆมันก็จะเป็นการเสียอันดับและเสียโอกาสโดยใช่เหตุครับ มาถึงอีกคำถามที่น้องๆถามมามากที่สุดก็คือเรื่องแนวโน้มต่างๆกับจะเช็คได้อย่างไรว่าคณะไหนมีความเสี่ยงมากน้อยเท่าไหร่ เลือกคณะดูแต่คะแนนต่ำสุดได้มั้ย ดูได้ครับ แต่อย่าลืมว่าคะแนนต่ำสุดของคณะต่างๆเมื่อปีแล้ว ไม่ได้เป็นคะแนนที่ตั้งไว้นิ่งๆมันสามารถขยับไปขยับมาได้ เพราะคะแนนมันมาจากการเลือก เพราะฉะนั้นคะแนนมันสามารถขึ้นๆลงๆได้ตลอด ซึ่งสิ่งที่เป็นปัจจัยทำให้คะแนนเปลี่ยนไปจะได้แก่ . 1.คะแนนสอบในแต่ละปี คะแนนสอบในที่นี้หมายถึงคะแนนสอบในแต่ละปีของ O-NET หรือ GAT PAT เพราะถ้าคะแนนเฉลี่ยตัวไหนขึ้นโดดเด่นก็จะพอคาดการณ์ได้เลยครับว่าคณะที่ใช้คะแนนตั้งนั้นในสัดส่วนก็จะมีโอกาสที่คะแนนสอบจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน . 2.จำนวนผู้สมัคร(คนเลือกเยอะ) แน่นอนครับคณะไหนหากมีการแข่งขันสูงคือมีผู้สมัครเยอะ คณะนั้นก็จะกลายเป็นคณะยอดฮิตมีคะแนนสูงขึ้นอย่างแน่นอน หรือแค่การดูจำนวนผู้สมัครในบางวิชาเราก็พอจะคาดการณ์ได้แล้วว่าคณะไหนมีแนวโน้มที่คะแนนจะขึ้น . 3.จำนวนการรับนักศึกษา จำนวนรับก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจะส่งผลถึงคะแนนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะคณะที่มีการปรับจำนวนการรับให้น้อยลงจากปีก่อนเยอะ ก็มีแนวโน้มที่คะแนนปีนี้จะสูงขึ้นอย่างแน่นอน . 4.คณะที่มีการเปลี่ยนเกณฑ์ ในทุกๆปีที่มีคณะที่มีการเปลียนเกณฑ์จะมีการสวิงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นคณะพยาบาลเมื่อตอนปี57 ที่มีปรับสัดส่วนการใช้ PAT2 ให้มากขึ้น10% ทำให้คะแนนในปีนั้นพยาบาลต่ำลงมากค่อนข้างเยอะ และส่งมาถึงปีที่ผ่านมาที่ทำให้คะแนนของคณะพยาบาลสวิงขึ้นมาเพราะคนแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนต่ำนั่นเอง อย่างปีหน้าก็จะมีเปลี่ยนเกณฑ์ของคณะสัตวแพทย์ อันนี้ก็จะมีผลแน่นอน . 5.คณะที่มีคะแนนสวิง(คะแนนต่ำสุดปีที่ผ่านมา ขึ้นๆลงๆ) ถามว่าคณะที่มีคะแนนสวิงจะเกี่ยวอะไร จะเกี่ยวก็ตรงมันมีผลทางจิตวิทยาที่แหละครับ บางคณะที่คะแนนสูงมากๆสูงเกินไปที่ใจเด็กในปีนั้นจะยอมรับก็อาจจะลงลงต่ำเรี่ยดินได้ เพราะว่าการเจียมตัวที่น้องๆเห็นว่าคะแนนสูง คงจะเอื้อมไม่ถึงก็เลยเลือกที่จะมาเลือก ซึ่งตัวอย่างอย่างนี้ก็จะมีให้เห็นแทบทุกปีนะครับ หรือคณะที่คะแนนต่ำมากๆ ก็อาจจะสวิงขึ้นมาสูงปรี๊ดเลยก็ได้เพราะคนจะแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนมันต่ำมากนั่นเอง . 6.เทรนด์ เทรนด์ในที่นี้ก็จะหมายถึงกระแสความฮิตของวัยรุ่นน้องวัยแอดในแต่ละปีว่ามีความนิยมเรื่องอะไร เรื่องมีความนิยมในคณะอะไร ซึ่งในสมัยก่อนก็จะอาจจะเคยเห็นว่ากระแสคณะนิเทศมาแรงมากๆ หรือในช่วงแอดปี4-5ปีก่อนกระแสคณะในอาชีพเสรีอาเซียนจะกลายเป็นคณะฮิตขึ้นมา ซึ่งในช่วงนี้เท่าที่พี่แฮนด์ดูก็จะเป็นคณะทางสายครูกับทางคณะทางด้านภาษาอังกฤษ หรือเกี่ยวกับกระแสดิจิทัล ที่คนจะสมัครเยอะมีคะแนนสูงขึ้นมา >>>> น้องๆสามารถ ปรึกษาการเลือกคณะแอดมิชชัน ด้วยวิธีง่ายๆเพียง 1. เข้าไปใช้โปรแกรม EZ (EZ ADMISSION) โปรแกรมช่วย ADMISSION ที่มีความแม่นยำสูง ที่สำคัญ ใช้ฟรี!! ได้ที่ >> http://ezadmissions.eduzones.com/ 2. เซฟรูปผลการคำนวณเลือกคณะของน้องๆ 3. นำไปโพสต์ขอคำปรึกษาจากพี่แฮนด์ที่ Line@ P’Hand Eduzones แอดเลยที่ >> @handyeduzones ง่ายๆเพียงเท่านี้ รับรองแอดมิชชั่นปีนี้ น้องๆไม่หลุดชัวร์!!! ครับ ———————————————————————————————————– EZ Webmaster Related Posts สรุป! วิธีการสมัคร TCAS รอบ 3 ที่นั่งเหลือน้อย “โลจิสติกส์ สวนสุนันทา” เปิดรับภาคพิเศษ เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ จบป.ตรีได้ใน 2 ปีครึ่ง 10 สิ่งที่ #Dek67 ต้องรู้ !! ก่อนการสมัคร #TCAS67 รอบที่3 GATE PROJECT 8 The Infinity ติวฟรีติดมัธยม ปลุกพลังจากศิษย์เก่าที่สำเร็จหลากหลายสถาบันชั้นนำ ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี Post navigation PREVIOUS Previous post: ผู้นำนักศึกษา มจพ. ขานรับการจัดการเรียนการสอนออนไลน์สู้เชื้อโรค COVID-19NEXT Next post: E-Book Talk Like A Pro โดย อาจารย์วิริยะ ฤๅชัยพาณิชย์
10 สิ่งที่ #Dek67 ต้องรู้ !! ก่อนการสมัคร #TCAS67 รอบที่3 EZ WebmasterApril 26, 2024 1. น้องๆสามารถเลือกคณะ/สาขาวิชาที่สนใจได้ถึง 20 อันดับ เพื่อมาเปรียบเทียบความสนใจของเรา . 2. หลังจากนั้นให้น้องๆนำมาจัดอันดับใหม่ โดยให้เลือกคณะที่เราสนใจมากที่สุดไว้เป็นอันดับแรก และคณะที่สนใจรองลงมาไว้ตามลำดับเรื่อยๆ โดยเราสามารถเลือกได้สูงสุดถึง 10 อันดับในการสมัคร โดยให้เลือกคณะที่เราสนใจมากที่สุดไว้เป็นอันดับแรก และคณะที่สนใจรองลงมาไว้ตามลำดับเรื่อยๆ โดยเราสามารถเลือกได้สูงสุดถึง 10 อันดับในการสมัคร… GATE PROJECT 8 The Infinity ติวฟรีติดมัธยม ปลุกพลังจากศิษย์เก่าที่สำเร็จหลากหลายสถาบันชั้นนำ EZ WebmasterApril 26, 2024 โครงการ Gate Project 8 #ติวฟรีติดมัธยม #เสาวนากับอาจารย์รร.ชื่อดัง ปลุกพลังจากศิษย์เก่าที่สำเร็จหลากหลายสถาบันชั้นนำ เปิดรับลงทะเบียนวันนี้เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป รับสมัครเพียง 1,000 ที่นั่ง หากเต็มปิดรับทันที สามารถลงทะ’เบียนตามลิงก์ด้านล่างหรือสแกน QR ได้เลย…
GATE PROJECT 8 The Infinity ติวฟรีติดมัธยม ปลุกพลังจากศิษย์เก่าที่สำเร็จหลากหลายสถาบันชั้นนำ EZ WebmasterApril 26, 2024 โครงการ Gate Project 8 #ติวฟรีติดมัธยม #เสาวนากับอาจารย์รร.ชื่อดัง ปลุกพลังจากศิษย์เก่าที่สำเร็จหลากหลายสถาบันชั้นนำ เปิดรับลงทะเบียนวันนี้เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป รับสมัครเพียง 1,000 ที่นั่ง หากเต็มปิดรับทันที สามารถลงทะ’เบียนตามลิงก์ด้านล่างหรือสแกน QR ได้เลย…
เปิดเรื่องราวบนเส้นทางแห่งความสำเร็จของหญิงไทย ผู้ได้รับทุน Women in STEM จากบริติช เคานซิล สู่แวดวงการทำงานในองค์กรระดับโลก EZ WebmasterApril 29, 2024 ในปัจจุบันไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเทคโนโลยีทั่วโลกมีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และเข้ามามีบทบาทสำคัญกับทุกคนบนโลก ทำให้ภาคธุรกิจต่างเร่งพัฒนาและปรับตัวเพื่อวิ่งตามเทรนด์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจนนำไปสู่การแข่งขันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันมีสาขาวิชาและสายอาชีพที่เป็นที่สนใจและได้รับความนิยมเกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในนั้นคือสาขาวิชา สะเต็มศึกษา (Science, Technology, Engineering and Mathematics: STEM) หรือการศึกษาในสาขาวิชาด้าน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์… สรุป! วิธีการสมัคร TCAS รอบ 3 EZ WebmasterApril 29, 2024 ก๊อก ก๊อก ก๊อก~ ใกล้เข้ามาแล้วนะคะสำหรับการสมัคร TCAS รอบ 3 ที่จะถึงในวันที่ 6-12 พ.ค. นี้ แล้วน้อง ๆ รู้หรือยังว่าการสมัครในครั้งนี้มีขั้นตอนอะไรยังไงบ้างน้า? แต่ถ้าใครยังไม่รู้ล่ะก็ Eduzones ได้สรุปวิธีการสมัครมาให้น้อง ๆ ได้ทำความเข้าใจกันแล้วค่ะ^^… นักศึกษาวิทยาลัยดุสิตธานี ร่วมทีมคว้าชัยการแข่งขันระดับนานาชาติ THE-ICE GRM Challenge 2024 EZ WebmasterApril 29, 2024 เป็นเวทีระดับนานาชาติที่จัดการแข่งขันขึ้นเป็นประจำทุกปี สำหรับการแข่งขัน THE-ICE GRM Challenge ที่จัดโดย THE-ICE องค์กรสากลซึ่งพันธมิตรจากทั่วทุกมุมโลกร่วมกันก่อตั้งขึ้น เพื่อกำหนดเกณฑ์มาตรฐานสำหรับการศึกษาด้านการบริการ โดยต้องผ่านการพิจารณา ทบทวน และรับรองจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญทางด้านอุตสาหกรรมการบริการจากนานาประเทศ THE-ICE GRM Challenge 2024 เป็นการแข่งขันที่มอบโจทย์ท้าทายเกี่ยวกับการสร้างรายได้สูงสุดให้แก่โรงแรม โดยจำลองสถานการณ์ให้ผู้เข้าแข่งขันเสมือนเป็นผู้ดูแลด้านรายได้ของโรงแรมว่า… คณะพยาบาลศาสตร์ ม.รังสิต เปิดหลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต (การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ) EZ WebmasterApril 26, 2024 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดหลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต (การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ) M.N.S. (Adult and Gerontological Nursing) โดยเปิดสอนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เรียนวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นการเรียนออนไลน์ร่วมกับการเรียนในชั้นเรียน สามารถฝึกปฏิบัติในหน่วยงานของนักศึกษา จำนวน 36 หน่วยกิต โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาด้านวิชาการดูแลนักศึกษาตลอดระยะเวลาที่เรียน สามารถสำเร็จการศึกษาใน 2 ถึง 2.5 ปี ภายใต้การบริหารจัดการที่ดี และสามารถเลือกเรียนเป็นรายวิชาและเทียบโอนได้เมื่อสมัครเข้าศึกษาในหลักสูตร ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรประมาณ 250,000 บาท กรณียังไม่สำเร็จการศึกษาตามเวลาของหลักสูตร ชำระค่ารักษาสถานภาพ… ทุนดีดี ขยายเวลารับทุนเรียนต่อป.โท ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว สหพันธรัฐรัสเซีย tui sakrapeeApril 24, 2024 ประกาศขยายเวลารับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว (Skolkovo Institute of Science and Technology: Skoltech) สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024) หลักสูตรภาษาอังกฤษ ตามที่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ… ม.เทคโนโลยีและการออกแบบแห่งสิงคโปร์ ให้ทุนคนไทยไปศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี tui sakrapeeApril 22, 2024 ประกาศ รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบ แห่งสิงคโปร์ (Singapore University of Technology and Design : SUTD) สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024)… รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH… ครู-อาจารย์ สสวท. ชวนครูคณิตศาสตร์มัธยมอบรมฟรี สมัครได้ถึง 30 เม.ย.นี้ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” EZ WebmasterApril 29, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เชิญครูผู้สอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาและผู้สนใจ อบรมหัวข้อ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” ในรูปแบบออนไลน์ สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 เมษายน 2567 อบรมระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2567 ลงทะเบียนและอบรมที่เว็บไซต์ระบบอบรมครู… ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี EZ WebmasterApril 26, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครูและเยาวชนสนุกเรียน สนุกรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี รับปิดเทอมนี้ที่ คลังความรู้ SciMath สสวท. พบสื่อหลากหลายทั้ง อีบุ๊กเพิ่มทักษะ คู่มือครู วีดิทัศน์ คลังภาพ โครงงาน บทเรียนน่ารู้ แผนการสอน แอปพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้พร้อมเกมฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหา เพลิดเพลินเรียนรู้ในโลกออนไลน์ฟรีที่คลังความรู้ SciMath สสวท. https://www.scimath.org สวัสดิการครูที่คุณครูควรมีคืออะไร จากการสำรวจของ EDUZONES EZ WebmasterApril 22, 2024 อาชีพครูเป็นอาชีพที่ถูกสังคมมองว่าเป็น “ผู้เสียสละ” ที่ต้องทำงานอุทิศตนเพื่อให้ลูกศิษย์ไปถึงฝั่งฝัน ซึ่งนอกจากงานด้านการสอนแล้วยังมีภาระงานอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานด้านเอกสาร การอบรม การทำกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หรือเตรียมการประเมินต่าง ๆ ในทางกลับกันสวัสดิการครูที่ควรได้รับกลับไม่สอดคล้องกับภาระงานของครู ซึ่งสวัสดิการข้าราชการ คือ ค่าตอบแทนที่ทางราชการจัดให้แก่ราชการในฐานะที่เป็นสมาชิกขององค์กร เพื่อช่วยให้ความมั่นคง และเป็นขวัญกำลังใจของข้าราชการในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล วันนี้เราได้รวบรวมความคิดเห็นของคุณครูในชุมชน EDUZONES หัวข้อ… สพฐ. จับมือ สสวท. อบรมครูออนไลน์เลือกได้ 3 หลักสูตร “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” รุ่นที่ 5 EZ WebmasterApril 18, 2024 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครู บุคลากรทางการศึกษาและผู้สนใจอบรมด้วยตนเองแบบออนไลน์ “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” (Coding for Teacher Plus: C4T Plus) รุ่นที่ 5 เลือกอบรมได้ 3 หลักสูตร คือ 1. การเขียนโปรแกรม Scratch 2. การเขียนโปรแกรมภาษา Python และ 3. วิทยาการข้อมูล… กิจกรรม ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี เวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation Disney ครั้งแรกในประเทศไทย EZ WebmasterApril 9, 2024 ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีกับเวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation ของ Disney กับงานแสดงนิทรรศการ Immersive Disney Animation ครั้งแรกในประเทศไทย (กรุงเทพฯ, 8 เมษายน 2567) เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางเพื่อออกไปผจญภัยครั้งสำคัญของชีวิตผ่านโลกที่น่าทึ่งของการ์ตูนดิสนีย์กับนิทรรศการที่น่าตื่นเต้นมากที่สุด Immersive… Search for: Search EZ Webmaster May 4, 2020 EZ Webmaster May 4, 2020 เคลียร์ทุกเรื่อง ที่มา/วิธีการคัดเลือก/วิธีการจัดอันดับ/อะไรคือปัจจัยเสี่ยง Admission 2563 แอดมิชชัน ถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตของน้องๆ ม.6 ในทุกๆปีนะครับ เพราะถือว่าเป็นสะพานในการพาน้องๆไปสู่ความฝันหรือเป้าหมายที่ต้องการหลังจากฝ่าฝันสอบมาอย่างดุเดือดตลอดปีการศึกษาของ ม.6 ซึ่งแน่นอนว่าน้องๆแต่ละคนก็ต้องการความกระจ่างและความมั่นใจมากที่สุดก่อนที่จะทำการเลือกคณะ ซึ่งก็มีหลากหลายคำถามเข้ามาที่พี่แฮนด์มากมายทั้งวิธีการการเลือก แนวโน้มแต่ละคณะ และคำถามอื่นๆ พี่แฮนด์จึงเขียนบทความเพื่อไขข้อสงสัยในหลายเรื่องสำหรับแอดมิชชัน แอดมิชชัน หรือน้องๆอาจจะเรียกว่าแอดกลาง ก็คือการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา (Central University Admissions System – CUAS ) จัดการคัดเลือกโดย ทปอ. นำมาใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2549 แทนการคัดเลือกแบบเอนทรานซ์นั่นเอง ซึ่งจุดประสงค์หลักที่นำระบบแอดมิชชันมาใช้แทนระบบเก่าอย่างเอนทรานซ์ก็เพราะว่า การเอนทรานซ์ จะเน้นในการสอบเพียงอย่างเดียว ทำให้เด็กๆทิ้งการเรียนในห้องเรียน ไปมุ่งมั่นติวกันเพียงอย่างเดียว แต่การแอดมิชชันจะมีการนำเกรดเฉลี่ยในโรงเรียนมาใช้ด้วย ทำให้เด็กๆต้องสนใจวิชาในห้องเรียนไม่สามารถทิ้งได้(แต่สุดท้ายเด็กไทยก็ยังติวกันเหมือนเดิมนะครับ อิๆ) องค์ประกอบของแอดมิชชัน แอดมิชชันจะมีคะแนนรวมทั้ง 30,000 คะแนน จากองค์ประกอบ4ตัว ดังต่อไปนี้ 1.GPAX คือเกรดเฉลี่ยสะสม 6 ภาคเรียน ตลอดหลักสูตรมัธยมปลาย ม.4-ม.6 ของนักเรียน โดย GPAX ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 20% หรือ6,000คะแนนทุกคณะ 2. O-NET (Ordinary National Education Test) หรือการสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน เป็นการสอบพร้อมทั้งหมดของเด็ก ม.6 ทั่วประเทศ จะมีการสอบทั้งหมด 5 วิชาได้แก่ คณิตศาสตร์,ภาษาอังกฤษ,ภาษาไทย,สังคม.วิทยาศาสตร์ โดย O-NET ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 30% หรือ9,000คะแนนทุกคณะ 3. GAT (Genetal Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทั่วไป คะแนนเต็ม 300 คะแนน ข้อสอบGAT ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ GAT ไทย ซึ่งจะเน้นเนื้อหาทางด้าน การอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ และ GAT ภาษาอังกฤษ อย่างละ 150 คะแนน โดย GAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 10-50% หรือ3,000-15,000คะแนนแล้วแต่คณะ 4. PAT (Professional Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทางวิชาชีพ เป็นข้อสอบที่ยากเพราะเป็นเนื่อหาที่ไม่มีสอนในโรงเรียน โดยจะมรทั้งหมด 7 PAT ด้วยกัน ได้แก่ PAT1 คณิตศาสตร์ PAT2 วิทยาศาสตร์ PAT3 พื้นฐานวิศวกรรม PAT4 พื้นฐานสถาปัตยกรรม PAT5 พื้นฐานความเป็นครู PAT6 ศิลปกรรม และPAT7วิชาด้านภาษาอื่นๆนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ โดย PAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 0-40% หรือ0-12,000คะแนนแล้วแต่คณะ สัดส่วนองค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะ สัดส่วนองค์ประกอบของแอดมิชชันจะแบ่งเป็น 13 กลุ่มดังนี้ **จุดสังเกตขององค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะขอให้น้องๆจำง่ายๆว่า GPAX(20%) และ O-NET(30%) มีสัดส่วนคงที่ทุกกลุ่มคณะ แต่ละกลุ่มแตกต่างกันตรง GAT และ PAT เท่านั้น สถิติผู้สมัครและสอบติดแอดมิชชัน พี่แฮนด์เอาสถิติตั้งแต่ปี 53 ที่เริ่มใช้ GAT PAT เป็นปีแรก มาให้ดูกันนะครับ ปี 53 จำนวนผู้สมัคร 98,143 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,003 คน หลุดแอดมิชชัน 28,140 คน ปี 54 จำนวนผู้สมัคร 123,260 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 78,096 คน หลุดแอดมิชชัน 45,164 คน ปี 55 จำนวนผู้สมัคร 122,169 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 82,102 คน หลุดแอดมิชชัน 40,067 คน ปี 56 จำนวนผู้สมัคร 113,400 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 83,955 คน หลุดแอดมิชชัน 29,445 คน ปี 57 จำนวนผู้สมัคร 99,767 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 80,880 คน หลุดแอดมิชชัน 18,887 คน ปี 58 จำนวนผู้สมัคร 124,648 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 91,813 คน หลุดแอดมิชชัน 32,835 คน ปี 59 จำนวนผู้สมัคร 105,046 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 85,834 คน หลุดแอดมิชชัน 19,212 คน ปี 60 จำนวนผู้สมัคร 81,232 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,689 คน หลุดแอดมิชชัน 10,543 คน ปี 61 จำนวนผู้สมัคร 54,782 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 44,476 คน หลุดแอดมิชชัน 10,306 คน ปี 62 จำนวนผู้สมัคร 122,523 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 52,315 คน หลุดแอดมิชชัน 20,093 คน เห็นจำนวนสถิติอย่างงี้ก็เพิ่งอย่าไปเครียดอะไรนะครับ เพราะที่จริงแล้วยอดผู้สมัครทุกปีนั้น น้อยกว่ายอดรับตามระเบียบการทุกปี แต่ที่มีคนไม่ติดนั้นก็เพราะว่า ส่วนใหญ่ก็จะไปเลือกคณะเดียวกันซะเยอะ ทำให้มีคนหลุดแอดทุกปี และที่สำคัญจะเห็นเลยว่าจำนวนนั้นลดลงเรื่อยๆทุกปี การคิดคะแนนแอดมิชชัน การคิดคะแนน GPAX ใช้ GPAX ร้อยละ 20 GPAX ให้คิดเทียบคะแนนเต็มเป็น 300 คะแนน วิธีคิด 1. ให้นํา GPAX คูณกับ 75 เพื่อแปลงค่าผลการเรียนเฉลี่ยเป็นคะแนนเต็ม 300 คะแนน 2. ให้นําคะแนน GPAX ที่แปลงค่าเป็นคะแนนแล้วคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด จะได้เป็นคะแนน GPAX ตัวอย่าง ผู้สมัครมีผลการเรียนเฉลี่ย (GPAX) = 2.93 วิธีคิด ขั้นที่ 1 ใ ให้นํา GPAX คูณด้วย 75 จะได้คะแนนดังนี้ คะแนน GPAX (2.93 × 75) = 219.75 คะแนน ขั้นที่ 2 นําคะแนน GPAX คูณด้วยค่าน้ําหนักที่กําหนดไว้ คือ 20% คะแนน GPAX (219.75 × 20) = 4,395 คะแนน จากคะแนนเต็ม 6,000 คะแนน วิธีการคิดคะแนน O-NET 1. ให้นําคะแนนสอบวิชา O-NET แต่ละวิชาของผู้สมัครคูณกับ 3 (กําหนด ให้คะแนนเต็มแต่ละวิชาเท่ากับ 300) 2. นําคะแนนในข้อ 1 คูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 3. นําคะแนนแต่ละวิชาในข้อ 2 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ O-NET ตัวอย่าง ผู้มัครมีคะแนน O-NET ดังนี้ วิชา 01 = 63.00, 02 = 75.00, 03 = 71.00, 04 = 81.00 05 = 87.00 ขั้นที่ 1 นําคะแนนแต่ละวิชาของผู้สมัครคูณด้วย 3(ยกเว้นวิชา 06 ไม่ต่องคูณ) ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (63.00 × 3) = 189 วิชา 02 (75.00 × 3) = 225 วิชา 03 (71.00 × 3) = 213 วิชา 04 (81.00 × 3) = 243 วิชา 05 (87.00 × 3) = 261 ขั้นที่ 2 นําคะแนนที่คูณด้วย 3 คูณด้วยค่าน้ําหนัก ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (189 × 6) = 1,134 วิชา 02 (225 × 6) = 1,350 วิชา 03 (213 × 6) = 1,278 วิชา 04 (261 × 6) = 1,458 วิชา 05 (261 × 6) = 1,566 ขั้นที่ 3 นําคะแนน O-NET ที่คูณด้วยค่าน้ําหนักแล้ว มารวมกันดังนี้ คะแนน O-NET (1,134 + 1,350 + 1,278 + 1,458 + 1,566) คะแนนรวม O-NET = 6,786 คะแนน (จากคะแนน 9,000 คะแนน) วิธีการคิดคะแนน GAT, PAT 1. นําคะแนนสอบ GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 2. นําคะแนนแต่ละวิชาจากข้อ 1 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ GAT และ/ PATตัวอย่าง วิธีการคิดคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ต้องการเลือกคณะวิศวกรรมศาสตร์ กําหนดให้สอบ O-NET 5 กลุ่มสาระฯ คือ รหัส 01,02,03,04 และ 05 แต่ละวิชาให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 6 วิชา GAT (รหัส 85) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 2 (รหัส 72) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 3 (รหัส 73) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 20 ผู้สมัครมีคะแนนแต่ละวิชาดังนี้ วิธีคิดขั้นที่ 1 นําคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนัก คะแนน GAT (265 × 15) = 3,975 คะแนน คะแนน PAT 2 (210 × 15) = 3,150คะแนน คะแนน PAT 3 (250 × 20) = 5,000คะแนน คะแนนรวม GAT และ PAT (3,975 + 3,150 + 5,000) = 12,125 คะแนนการคิดคะแนนรวม คะแนนรวม = คะแนน GPAX + คะแนน O-NET + คะแนน GAT และ/หรือ คะแนน PAT(นำคะแนนทุกอย่างมาบวกกัน) นี่ก็คือวิธีการคิดคะแนนที่ใช้ในการคัดเลือกในระบบแอดมิชชันนะครับ น้องๆคนไหนอยากคิดคะแนนตัวเองก็ลองคิดได้เลยนะครับ แต่อย่าไปคิดบวกเกินให้ตัวเองละ มันไม่ดีเน้อ อิอิ การยื่นเลือกคณะ การยื่นเลือกคณะของแอดมิชชันนั้น ปีนี้จะเลือกกัน หลังจากที่น้องๆม.6 ได้ทราบผลคะแนนทุกตัวที่ใช้เป็นองค์ประกอบแล้ว โดยน้องๆจะสามารถเลือกได้ทั้งหมด 4 อันดับ จะเลือกคณะอะไรมหาวิทยาลัยใดก็ได้ มหาวิทยาลัยเดียวกันก็ได้ โดยจะสมัครทางเว๊บไซท์ http:/mytcas.com/โดยวิธีการคิดเลือกคณะจะเป็นดังนี้1.ระบบจะรวบรวมคะแนนอันดับ1 ของน้องๆ ทุกคนมาเรียงไว้จากมากไปหาน้อย เช่น คณะวิศวะ จุฬา รับ100 คน ระบบก็จะนำคนที่เลือกคณะวิศวะจุฬาทั้งหมดนำคะแนนมาเรียงกัน ใครอยู่อันดับ1-100 ก็คือติดไป *คนที่ไม่เลือกไม่มีสิทธิ์ติดนะครับ*2.ระบบจะเลือกคนที่มีคะแนนมากที่สุด เข้าสู่แต่ละคณะให้ครบตามจำนวนที่รับ คนที่คะแนนไม่ติดคณะใดเลย ถือว่าตกพิจารณาในอันดับแรก ก็จะถูกพิจารณาคะแนนในอันดับที่2 ต่อไป3.เมื่อพิจารณาแล้วพบว่าคะแนนในอันดับ2 สูงกว่าคนที่ผ่านการพิจารณาในรอบแรก คะแนนใหม่ก็จะนำมาแทรก ดังนั้นคนที่ได้คะแนนต่ำสุดในรอบแรกของแต่ละคณะก็จะตกไปถ้าน้องไม่ติดอันดับ 1 ระบบก็จะนำคะแนนของน้องไปแข่งที่อันดับต่อไป ไม่ติดก็จะนำไปอันดับต่อไปเรื่อยๆ จนถึงอันดับ4 โดยถ้าคะแนนถึงอันดับไหนก็จะติดอันดับนั้นเลย ไม่นำคะแนนไปแข่งในอันดับถัดไปและที่สำคัญ จำไว้เลยว่าคะแนนสำคัญกว่าอันดับ ถึงแม้เราเลือกคณะเดียวกับคู่แข่ง แต่เราอันดับ3 คู่แข่งเค้าเลือกไว้อันดับ 1 ถ้าเราไม่ได้ติดอันดับ 1และ 2 จนมาถึงอันดับ3 ถ้าเราคะแนนมากกว่าก็ไม่ต้องกังวลอะไรครับ เราก็ติดก่อนแน่นอน แม้ว่าเราจะเลือกคณะนี้ไว้เป็นอันดับ3ก็ตาม ** เพราะฉะนั้นอันดับแรกเลยของการเลือกคณะคือเลือกคณะที่เราอยากเรียนมากที่สุด อยากเข้าไปที่สุด ไว้อันดับ1 เท่านั้น!! เรียกว่าเลือกตามความฝันไปเลยครับ ไม่ต้องห่วงคะแนน อะไรใดๆทั้งสิ้น เพราะหากติดคณะที่เราไม่อยากเรียน จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ เพราะโอกาสมาจากการเลือก ถ้าเราไม่เลือกก็คือไม่มีโอกาส ถึงแม้บางคนจะมองว่าโอกาสจะน้อยนิด แต่ก็ยังถือว่ามีโอกาส ถ้าไม่เลือกเลยโอกาสคือเท่ากับ 0 ครับ!! – การเลือกคณะที่เรียงลงมานั้น ต้องเริ่มคำนึงถึงโอกาสสอบติดมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นการรองรับกัน ให้น้องๆลองนึกภาพถึงการตกจากที่สูงนะครับ คือตกลงมาแล้ว เบาะชั้น1 รับไม่อยู่ก็ยังมีชั้น2 ชั้น3 ชั้น4 รองรับต่อๆกัน ทำให้ไม่ตกถึงฟื้น(หลุดแอด) โดยการดูโอกาสสอบติดดูได้จากอะไร ส่วนมากที่น้องๆดูก็จะมีคะแนนขั้นต่ำของปีที่ผ่านๆมา แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้น้องๆสามารถนำคะแนนของน้องๆมาประเมินได้จากโปรแกรมประเมินโอกาสต่างๆที่ตอนนี้มีอยู่หลายเว๊บ ซึ่งในอนา่คตรับรองว่าจะมีของ dek ad แน่นอนครับ ยกตัวอย่างการเรียงอันดับ อันดับ1 อย่างที่บอก เลือกไปเลยครับ คณะที่ชอบที่รักที่สุด ไม่ต้องสนใจโอกาสสอบติด ส่วนคณะที่ตามมา ต้องเลือกคณะที่่โอกาสสอบติดเปอร์เซ็นสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่น อันดับ2 50% อันดับ3ควร 70-80% อันดับ4ควร 90% ขึ้นไป เอาให้ปลอดภัยที่สุด ให้นอนหลับสบาย แบบไร้กังวลมากที่สุด ประมาณนี้ครับ เพื่อเป็นการรองรับกันและความปลอดภัยป้องกันไม่ให้เกิดการหลุดแอด แต่ถ้าถามว่าถ้าอยากเสี่ยงได้ไหม ก็ต้องแยกเป็นกรณีๆไปเช่นกรณีเด็กซิ่ว มีที่เรียนมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว แต่อาจไม่ได้เรียนในคณะที่ชอบอยากมาซิ่วใหม่ ก็เสี่ยงไปเลยครับเต็มที่ หรือน้องๆที่อาจจะติดรับตรงไปแล้วแต่ยังสามารถมาแอดได้ ก็สามารถจัดการความเสี่ยงได้ด้วยตัวเองเต็มที่เช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญสุดไม่ว่าพร้อมเสี่ยงหรือไม่พร้อมเสี่ยงก็คือการวางอันดับ อย่างน้อยๆก็ควรวางอันดับให้เป็นไปตามโอกาสที่น่าจะติด เพราะถ้าวางไปมั่วๆมันก็จะเป็นการเสียอันดับและเสียโอกาสโดยใช่เหตุครับ มาถึงอีกคำถามที่น้องๆถามมามากที่สุดก็คือเรื่องแนวโน้มต่างๆกับจะเช็คได้อย่างไรว่าคณะไหนมีความเสี่ยงมากน้อยเท่าไหร่ เลือกคณะดูแต่คะแนนต่ำสุดได้มั้ย ดูได้ครับ แต่อย่าลืมว่าคะแนนต่ำสุดของคณะต่างๆเมื่อปีแล้ว ไม่ได้เป็นคะแนนที่ตั้งไว้นิ่งๆมันสามารถขยับไปขยับมาได้ เพราะคะแนนมันมาจากการเลือก เพราะฉะนั้นคะแนนมันสามารถขึ้นๆลงๆได้ตลอด ซึ่งสิ่งที่เป็นปัจจัยทำให้คะแนนเปลี่ยนไปจะได้แก่ . 1.คะแนนสอบในแต่ละปี คะแนนสอบในที่นี้หมายถึงคะแนนสอบในแต่ละปีของ O-NET หรือ GAT PAT เพราะถ้าคะแนนเฉลี่ยตัวไหนขึ้นโดดเด่นก็จะพอคาดการณ์ได้เลยครับว่าคณะที่ใช้คะแนนตั้งนั้นในสัดส่วนก็จะมีโอกาสที่คะแนนสอบจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน . 2.จำนวนผู้สมัคร(คนเลือกเยอะ) แน่นอนครับคณะไหนหากมีการแข่งขันสูงคือมีผู้สมัครเยอะ คณะนั้นก็จะกลายเป็นคณะยอดฮิตมีคะแนนสูงขึ้นอย่างแน่นอน หรือแค่การดูจำนวนผู้สมัครในบางวิชาเราก็พอจะคาดการณ์ได้แล้วว่าคณะไหนมีแนวโน้มที่คะแนนจะขึ้น . 3.จำนวนการรับนักศึกษา จำนวนรับก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจะส่งผลถึงคะแนนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะคณะที่มีการปรับจำนวนการรับให้น้อยลงจากปีก่อนเยอะ ก็มีแนวโน้มที่คะแนนปีนี้จะสูงขึ้นอย่างแน่นอน . 4.คณะที่มีการเปลี่ยนเกณฑ์ ในทุกๆปีที่มีคณะที่มีการเปลียนเกณฑ์จะมีการสวิงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นคณะพยาบาลเมื่อตอนปี57 ที่มีปรับสัดส่วนการใช้ PAT2 ให้มากขึ้น10% ทำให้คะแนนในปีนั้นพยาบาลต่ำลงมากค่อนข้างเยอะ และส่งมาถึงปีที่ผ่านมาที่ทำให้คะแนนของคณะพยาบาลสวิงขึ้นมาเพราะคนแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนต่ำนั่นเอง อย่างปีหน้าก็จะมีเปลี่ยนเกณฑ์ของคณะสัตวแพทย์ อันนี้ก็จะมีผลแน่นอน . 5.คณะที่มีคะแนนสวิง(คะแนนต่ำสุดปีที่ผ่านมา ขึ้นๆลงๆ) ถามว่าคณะที่มีคะแนนสวิงจะเกี่ยวอะไร จะเกี่ยวก็ตรงมันมีผลทางจิตวิทยาที่แหละครับ บางคณะที่คะแนนสูงมากๆสูงเกินไปที่ใจเด็กในปีนั้นจะยอมรับก็อาจจะลงลงต่ำเรี่ยดินได้ เพราะว่าการเจียมตัวที่น้องๆเห็นว่าคะแนนสูง คงจะเอื้อมไม่ถึงก็เลยเลือกที่จะมาเลือก ซึ่งตัวอย่างอย่างนี้ก็จะมีให้เห็นแทบทุกปีนะครับ หรือคณะที่คะแนนต่ำมากๆ ก็อาจจะสวิงขึ้นมาสูงปรี๊ดเลยก็ได้เพราะคนจะแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนมันต่ำมากนั่นเอง . 6.เทรนด์ เทรนด์ในที่นี้ก็จะหมายถึงกระแสความฮิตของวัยรุ่นน้องวัยแอดในแต่ละปีว่ามีความนิยมเรื่องอะไร เรื่องมีความนิยมในคณะอะไร ซึ่งในสมัยก่อนก็จะอาจจะเคยเห็นว่ากระแสคณะนิเทศมาแรงมากๆ หรือในช่วงแอดปี4-5ปีก่อนกระแสคณะในอาชีพเสรีอาเซียนจะกลายเป็นคณะฮิตขึ้นมา ซึ่งในช่วงนี้เท่าที่พี่แฮนด์ดูก็จะเป็นคณะทางสายครูกับทางคณะทางด้านภาษาอังกฤษ หรือเกี่ยวกับกระแสดิจิทัล ที่คนจะสมัครเยอะมีคะแนนสูงขึ้นมา >>>> น้องๆสามารถ ปรึกษาการเลือกคณะแอดมิชชัน ด้วยวิธีง่ายๆเพียง 1. เข้าไปใช้โปรแกรม EZ (EZ ADMISSION) โปรแกรมช่วย ADMISSION ที่มีความแม่นยำสูง ที่สำคัญ ใช้ฟรี!! ได้ที่ >> http://ezadmissions.eduzones.com/ 2. เซฟรูปผลการคำนวณเลือกคณะของน้องๆ 3. นำไปโพสต์ขอคำปรึกษาจากพี่แฮนด์ที่ Line@ P’Hand Eduzones แอดเลยที่ >> @handyeduzones ง่ายๆเพียงเท่านี้ รับรองแอดมิชชั่นปีนี้ น้องๆไม่หลุดชัวร์!!! ครับ ———————————————————————————————————– EZ Webmaster Related Posts สรุป! วิธีการสมัคร TCAS รอบ 3 ที่นั่งเหลือน้อย “โลจิสติกส์ สวนสุนันทา” เปิดรับภาคพิเศษ เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ จบป.ตรีได้ใน 2 ปีครึ่ง 10 สิ่งที่ #Dek67 ต้องรู้ !! ก่อนการสมัคร #TCAS67 รอบที่3 GATE PROJECT 8 The Infinity ติวฟรีติดมัธยม ปลุกพลังจากศิษย์เก่าที่สำเร็จหลากหลายสถาบันชั้นนำ ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี Post navigation PREVIOUS Previous post: ผู้นำนักศึกษา มจพ. ขานรับการจัดการเรียนการสอนออนไลน์สู้เชื้อโรค COVID-19NEXT Next post: E-Book Talk Like A Pro โดย อาจารย์วิริยะ ฤๅชัยพาณิชย์
สรุป! วิธีการสมัคร TCAS รอบ 3 EZ WebmasterApril 29, 2024 ก๊อก ก๊อก ก๊อก~ ใกล้เข้ามาแล้วนะคะสำหรับการสมัคร TCAS รอบ 3 ที่จะถึงในวันที่ 6-12 พ.ค. นี้ แล้วน้อง ๆ รู้หรือยังว่าการสมัครในครั้งนี้มีขั้นตอนอะไรยังไงบ้างน้า? แต่ถ้าใครยังไม่รู้ล่ะก็ Eduzones ได้สรุปวิธีการสมัครมาให้น้อง ๆ ได้ทำความเข้าใจกันแล้วค่ะ^^… นักศึกษาวิทยาลัยดุสิตธานี ร่วมทีมคว้าชัยการแข่งขันระดับนานาชาติ THE-ICE GRM Challenge 2024 EZ WebmasterApril 29, 2024 เป็นเวทีระดับนานาชาติที่จัดการแข่งขันขึ้นเป็นประจำทุกปี สำหรับการแข่งขัน THE-ICE GRM Challenge ที่จัดโดย THE-ICE องค์กรสากลซึ่งพันธมิตรจากทั่วทุกมุมโลกร่วมกันก่อตั้งขึ้น เพื่อกำหนดเกณฑ์มาตรฐานสำหรับการศึกษาด้านการบริการ โดยต้องผ่านการพิจารณา ทบทวน และรับรองจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญทางด้านอุตสาหกรรมการบริการจากนานาประเทศ THE-ICE GRM Challenge 2024 เป็นการแข่งขันที่มอบโจทย์ท้าทายเกี่ยวกับการสร้างรายได้สูงสุดให้แก่โรงแรม โดยจำลองสถานการณ์ให้ผู้เข้าแข่งขันเสมือนเป็นผู้ดูแลด้านรายได้ของโรงแรมว่า… คณะพยาบาลศาสตร์ ม.รังสิต เปิดหลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต (การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ) EZ WebmasterApril 26, 2024 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดหลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต (การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ) M.N.S. (Adult and Gerontological Nursing) โดยเปิดสอนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เรียนวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นการเรียนออนไลน์ร่วมกับการเรียนในชั้นเรียน สามารถฝึกปฏิบัติในหน่วยงานของนักศึกษา จำนวน 36 หน่วยกิต โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาด้านวิชาการดูแลนักศึกษาตลอดระยะเวลาที่เรียน สามารถสำเร็จการศึกษาใน 2 ถึง 2.5 ปี ภายใต้การบริหารจัดการที่ดี และสามารถเลือกเรียนเป็นรายวิชาและเทียบโอนได้เมื่อสมัครเข้าศึกษาในหลักสูตร ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรประมาณ 250,000 บาท กรณียังไม่สำเร็จการศึกษาตามเวลาของหลักสูตร ชำระค่ารักษาสถานภาพ… ทุนดีดี ขยายเวลารับทุนเรียนต่อป.โท ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว สหพันธรัฐรัสเซีย tui sakrapeeApril 24, 2024 ประกาศขยายเวลารับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว (Skolkovo Institute of Science and Technology: Skoltech) สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024) หลักสูตรภาษาอังกฤษ ตามที่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ… ม.เทคโนโลยีและการออกแบบแห่งสิงคโปร์ ให้ทุนคนไทยไปศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี tui sakrapeeApril 22, 2024 ประกาศ รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบ แห่งสิงคโปร์ (Singapore University of Technology and Design : SUTD) สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024)… รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH… ครู-อาจารย์ สสวท. ชวนครูคณิตศาสตร์มัธยมอบรมฟรี สมัครได้ถึง 30 เม.ย.นี้ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” EZ WebmasterApril 29, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เชิญครูผู้สอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาและผู้สนใจ อบรมหัวข้อ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” ในรูปแบบออนไลน์ สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 เมษายน 2567 อบรมระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2567 ลงทะเบียนและอบรมที่เว็บไซต์ระบบอบรมครู… ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี EZ WebmasterApril 26, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครูและเยาวชนสนุกเรียน สนุกรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี รับปิดเทอมนี้ที่ คลังความรู้ SciMath สสวท. พบสื่อหลากหลายทั้ง อีบุ๊กเพิ่มทักษะ คู่มือครู วีดิทัศน์ คลังภาพ โครงงาน บทเรียนน่ารู้ แผนการสอน แอปพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้พร้อมเกมฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหา เพลิดเพลินเรียนรู้ในโลกออนไลน์ฟรีที่คลังความรู้ SciMath สสวท. https://www.scimath.org สวัสดิการครูที่คุณครูควรมีคืออะไร จากการสำรวจของ EDUZONES EZ WebmasterApril 22, 2024 อาชีพครูเป็นอาชีพที่ถูกสังคมมองว่าเป็น “ผู้เสียสละ” ที่ต้องทำงานอุทิศตนเพื่อให้ลูกศิษย์ไปถึงฝั่งฝัน ซึ่งนอกจากงานด้านการสอนแล้วยังมีภาระงานอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานด้านเอกสาร การอบรม การทำกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หรือเตรียมการประเมินต่าง ๆ ในทางกลับกันสวัสดิการครูที่ควรได้รับกลับไม่สอดคล้องกับภาระงานของครู ซึ่งสวัสดิการข้าราชการ คือ ค่าตอบแทนที่ทางราชการจัดให้แก่ราชการในฐานะที่เป็นสมาชิกขององค์กร เพื่อช่วยให้ความมั่นคง และเป็นขวัญกำลังใจของข้าราชการในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล วันนี้เราได้รวบรวมความคิดเห็นของคุณครูในชุมชน EDUZONES หัวข้อ… สพฐ. จับมือ สสวท. อบรมครูออนไลน์เลือกได้ 3 หลักสูตร “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” รุ่นที่ 5 EZ WebmasterApril 18, 2024 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครู บุคลากรทางการศึกษาและผู้สนใจอบรมด้วยตนเองแบบออนไลน์ “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” (Coding for Teacher Plus: C4T Plus) รุ่นที่ 5 เลือกอบรมได้ 3 หลักสูตร คือ 1. การเขียนโปรแกรม Scratch 2. การเขียนโปรแกรมภาษา Python และ 3. วิทยาการข้อมูล… กิจกรรม ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี เวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation Disney ครั้งแรกในประเทศไทย EZ WebmasterApril 9, 2024 ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีกับเวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation ของ Disney กับงานแสดงนิทรรศการ Immersive Disney Animation ครั้งแรกในประเทศไทย (กรุงเทพฯ, 8 เมษายน 2567) เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางเพื่อออกไปผจญภัยครั้งสำคัญของชีวิตผ่านโลกที่น่าทึ่งของการ์ตูนดิสนีย์กับนิทรรศการที่น่าตื่นเต้นมากที่สุด Immersive… Search for: Search EZ Webmaster May 4, 2020 EZ Webmaster May 4, 2020 เคลียร์ทุกเรื่อง ที่มา/วิธีการคัดเลือก/วิธีการจัดอันดับ/อะไรคือปัจจัยเสี่ยง Admission 2563 แอดมิชชัน ถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตของน้องๆ ม.6 ในทุกๆปีนะครับ เพราะถือว่าเป็นสะพานในการพาน้องๆไปสู่ความฝันหรือเป้าหมายที่ต้องการหลังจากฝ่าฝันสอบมาอย่างดุเดือดตลอดปีการศึกษาของ ม.6 ซึ่งแน่นอนว่าน้องๆแต่ละคนก็ต้องการความกระจ่างและความมั่นใจมากที่สุดก่อนที่จะทำการเลือกคณะ ซึ่งก็มีหลากหลายคำถามเข้ามาที่พี่แฮนด์มากมายทั้งวิธีการการเลือก แนวโน้มแต่ละคณะ และคำถามอื่นๆ พี่แฮนด์จึงเขียนบทความเพื่อไขข้อสงสัยในหลายเรื่องสำหรับแอดมิชชัน แอดมิชชัน หรือน้องๆอาจจะเรียกว่าแอดกลาง ก็คือการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา (Central University Admissions System – CUAS ) จัดการคัดเลือกโดย ทปอ. นำมาใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2549 แทนการคัดเลือกแบบเอนทรานซ์นั่นเอง ซึ่งจุดประสงค์หลักที่นำระบบแอดมิชชันมาใช้แทนระบบเก่าอย่างเอนทรานซ์ก็เพราะว่า การเอนทรานซ์ จะเน้นในการสอบเพียงอย่างเดียว ทำให้เด็กๆทิ้งการเรียนในห้องเรียน ไปมุ่งมั่นติวกันเพียงอย่างเดียว แต่การแอดมิชชันจะมีการนำเกรดเฉลี่ยในโรงเรียนมาใช้ด้วย ทำให้เด็กๆต้องสนใจวิชาในห้องเรียนไม่สามารถทิ้งได้(แต่สุดท้ายเด็กไทยก็ยังติวกันเหมือนเดิมนะครับ อิๆ) องค์ประกอบของแอดมิชชัน แอดมิชชันจะมีคะแนนรวมทั้ง 30,000 คะแนน จากองค์ประกอบ4ตัว ดังต่อไปนี้ 1.GPAX คือเกรดเฉลี่ยสะสม 6 ภาคเรียน ตลอดหลักสูตรมัธยมปลาย ม.4-ม.6 ของนักเรียน โดย GPAX ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 20% หรือ6,000คะแนนทุกคณะ 2. O-NET (Ordinary National Education Test) หรือการสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน เป็นการสอบพร้อมทั้งหมดของเด็ก ม.6 ทั่วประเทศ จะมีการสอบทั้งหมด 5 วิชาได้แก่ คณิตศาสตร์,ภาษาอังกฤษ,ภาษาไทย,สังคม.วิทยาศาสตร์ โดย O-NET ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 30% หรือ9,000คะแนนทุกคณะ 3. GAT (Genetal Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทั่วไป คะแนนเต็ม 300 คะแนน ข้อสอบGAT ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ GAT ไทย ซึ่งจะเน้นเนื้อหาทางด้าน การอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ และ GAT ภาษาอังกฤษ อย่างละ 150 คะแนน โดย GAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 10-50% หรือ3,000-15,000คะแนนแล้วแต่คณะ 4. PAT (Professional Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทางวิชาชีพ เป็นข้อสอบที่ยากเพราะเป็นเนื่อหาที่ไม่มีสอนในโรงเรียน โดยจะมรทั้งหมด 7 PAT ด้วยกัน ได้แก่ PAT1 คณิตศาสตร์ PAT2 วิทยาศาสตร์ PAT3 พื้นฐานวิศวกรรม PAT4 พื้นฐานสถาปัตยกรรม PAT5 พื้นฐานความเป็นครู PAT6 ศิลปกรรม และPAT7วิชาด้านภาษาอื่นๆนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ โดย PAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 0-40% หรือ0-12,000คะแนนแล้วแต่คณะ สัดส่วนองค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะ สัดส่วนองค์ประกอบของแอดมิชชันจะแบ่งเป็น 13 กลุ่มดังนี้ **จุดสังเกตขององค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะขอให้น้องๆจำง่ายๆว่า GPAX(20%) และ O-NET(30%) มีสัดส่วนคงที่ทุกกลุ่มคณะ แต่ละกลุ่มแตกต่างกันตรง GAT และ PAT เท่านั้น สถิติผู้สมัครและสอบติดแอดมิชชัน พี่แฮนด์เอาสถิติตั้งแต่ปี 53 ที่เริ่มใช้ GAT PAT เป็นปีแรก มาให้ดูกันนะครับ ปี 53 จำนวนผู้สมัคร 98,143 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,003 คน หลุดแอดมิชชัน 28,140 คน ปี 54 จำนวนผู้สมัคร 123,260 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 78,096 คน หลุดแอดมิชชัน 45,164 คน ปี 55 จำนวนผู้สมัคร 122,169 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 82,102 คน หลุดแอดมิชชัน 40,067 คน ปี 56 จำนวนผู้สมัคร 113,400 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 83,955 คน หลุดแอดมิชชัน 29,445 คน ปี 57 จำนวนผู้สมัคร 99,767 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 80,880 คน หลุดแอดมิชชัน 18,887 คน ปี 58 จำนวนผู้สมัคร 124,648 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 91,813 คน หลุดแอดมิชชัน 32,835 คน ปี 59 จำนวนผู้สมัคร 105,046 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 85,834 คน หลุดแอดมิชชัน 19,212 คน ปี 60 จำนวนผู้สมัคร 81,232 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,689 คน หลุดแอดมิชชัน 10,543 คน ปี 61 จำนวนผู้สมัคร 54,782 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 44,476 คน หลุดแอดมิชชัน 10,306 คน ปี 62 จำนวนผู้สมัคร 122,523 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 52,315 คน หลุดแอดมิชชัน 20,093 คน เห็นจำนวนสถิติอย่างงี้ก็เพิ่งอย่าไปเครียดอะไรนะครับ เพราะที่จริงแล้วยอดผู้สมัครทุกปีนั้น น้อยกว่ายอดรับตามระเบียบการทุกปี แต่ที่มีคนไม่ติดนั้นก็เพราะว่า ส่วนใหญ่ก็จะไปเลือกคณะเดียวกันซะเยอะ ทำให้มีคนหลุดแอดทุกปี และที่สำคัญจะเห็นเลยว่าจำนวนนั้นลดลงเรื่อยๆทุกปี การคิดคะแนนแอดมิชชัน การคิดคะแนน GPAX ใช้ GPAX ร้อยละ 20 GPAX ให้คิดเทียบคะแนนเต็มเป็น 300 คะแนน วิธีคิด 1. ให้นํา GPAX คูณกับ 75 เพื่อแปลงค่าผลการเรียนเฉลี่ยเป็นคะแนนเต็ม 300 คะแนน 2. ให้นําคะแนน GPAX ที่แปลงค่าเป็นคะแนนแล้วคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด จะได้เป็นคะแนน GPAX ตัวอย่าง ผู้สมัครมีผลการเรียนเฉลี่ย (GPAX) = 2.93 วิธีคิด ขั้นที่ 1 ใ ให้นํา GPAX คูณด้วย 75 จะได้คะแนนดังนี้ คะแนน GPAX (2.93 × 75) = 219.75 คะแนน ขั้นที่ 2 นําคะแนน GPAX คูณด้วยค่าน้ําหนักที่กําหนดไว้ คือ 20% คะแนน GPAX (219.75 × 20) = 4,395 คะแนน จากคะแนนเต็ม 6,000 คะแนน วิธีการคิดคะแนน O-NET 1. ให้นําคะแนนสอบวิชา O-NET แต่ละวิชาของผู้สมัครคูณกับ 3 (กําหนด ให้คะแนนเต็มแต่ละวิชาเท่ากับ 300) 2. นําคะแนนในข้อ 1 คูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 3. นําคะแนนแต่ละวิชาในข้อ 2 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ O-NET ตัวอย่าง ผู้มัครมีคะแนน O-NET ดังนี้ วิชา 01 = 63.00, 02 = 75.00, 03 = 71.00, 04 = 81.00 05 = 87.00 ขั้นที่ 1 นําคะแนนแต่ละวิชาของผู้สมัครคูณด้วย 3(ยกเว้นวิชา 06 ไม่ต่องคูณ) ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (63.00 × 3) = 189 วิชา 02 (75.00 × 3) = 225 วิชา 03 (71.00 × 3) = 213 วิชา 04 (81.00 × 3) = 243 วิชา 05 (87.00 × 3) = 261 ขั้นที่ 2 นําคะแนนที่คูณด้วย 3 คูณด้วยค่าน้ําหนัก ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (189 × 6) = 1,134 วิชา 02 (225 × 6) = 1,350 วิชา 03 (213 × 6) = 1,278 วิชา 04 (261 × 6) = 1,458 วิชา 05 (261 × 6) = 1,566 ขั้นที่ 3 นําคะแนน O-NET ที่คูณด้วยค่าน้ําหนักแล้ว มารวมกันดังนี้ คะแนน O-NET (1,134 + 1,350 + 1,278 + 1,458 + 1,566) คะแนนรวม O-NET = 6,786 คะแนน (จากคะแนน 9,000 คะแนน) วิธีการคิดคะแนน GAT, PAT 1. นําคะแนนสอบ GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 2. นําคะแนนแต่ละวิชาจากข้อ 1 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ GAT และ/ PATตัวอย่าง วิธีการคิดคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ต้องการเลือกคณะวิศวกรรมศาสตร์ กําหนดให้สอบ O-NET 5 กลุ่มสาระฯ คือ รหัส 01,02,03,04 และ 05 แต่ละวิชาให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 6 วิชา GAT (รหัส 85) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 2 (รหัส 72) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 3 (รหัส 73) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 20 ผู้สมัครมีคะแนนแต่ละวิชาดังนี้ วิธีคิดขั้นที่ 1 นําคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนัก คะแนน GAT (265 × 15) = 3,975 คะแนน คะแนน PAT 2 (210 × 15) = 3,150คะแนน คะแนน PAT 3 (250 × 20) = 5,000คะแนน คะแนนรวม GAT และ PAT (3,975 + 3,150 + 5,000) = 12,125 คะแนนการคิดคะแนนรวม คะแนนรวม = คะแนน GPAX + คะแนน O-NET + คะแนน GAT และ/หรือ คะแนน PAT(นำคะแนนทุกอย่างมาบวกกัน) นี่ก็คือวิธีการคิดคะแนนที่ใช้ในการคัดเลือกในระบบแอดมิชชันนะครับ น้องๆคนไหนอยากคิดคะแนนตัวเองก็ลองคิดได้เลยนะครับ แต่อย่าไปคิดบวกเกินให้ตัวเองละ มันไม่ดีเน้อ อิอิ การยื่นเลือกคณะ การยื่นเลือกคณะของแอดมิชชันนั้น ปีนี้จะเลือกกัน หลังจากที่น้องๆม.6 ได้ทราบผลคะแนนทุกตัวที่ใช้เป็นองค์ประกอบแล้ว โดยน้องๆจะสามารถเลือกได้ทั้งหมด 4 อันดับ จะเลือกคณะอะไรมหาวิทยาลัยใดก็ได้ มหาวิทยาลัยเดียวกันก็ได้ โดยจะสมัครทางเว๊บไซท์ http:/mytcas.com/โดยวิธีการคิดเลือกคณะจะเป็นดังนี้1.ระบบจะรวบรวมคะแนนอันดับ1 ของน้องๆ ทุกคนมาเรียงไว้จากมากไปหาน้อย เช่น คณะวิศวะ จุฬา รับ100 คน ระบบก็จะนำคนที่เลือกคณะวิศวะจุฬาทั้งหมดนำคะแนนมาเรียงกัน ใครอยู่อันดับ1-100 ก็คือติดไป *คนที่ไม่เลือกไม่มีสิทธิ์ติดนะครับ*2.ระบบจะเลือกคนที่มีคะแนนมากที่สุด เข้าสู่แต่ละคณะให้ครบตามจำนวนที่รับ คนที่คะแนนไม่ติดคณะใดเลย ถือว่าตกพิจารณาในอันดับแรก ก็จะถูกพิจารณาคะแนนในอันดับที่2 ต่อไป3.เมื่อพิจารณาแล้วพบว่าคะแนนในอันดับ2 สูงกว่าคนที่ผ่านการพิจารณาในรอบแรก คะแนนใหม่ก็จะนำมาแทรก ดังนั้นคนที่ได้คะแนนต่ำสุดในรอบแรกของแต่ละคณะก็จะตกไปถ้าน้องไม่ติดอันดับ 1 ระบบก็จะนำคะแนนของน้องไปแข่งที่อันดับต่อไป ไม่ติดก็จะนำไปอันดับต่อไปเรื่อยๆ จนถึงอันดับ4 โดยถ้าคะแนนถึงอันดับไหนก็จะติดอันดับนั้นเลย ไม่นำคะแนนไปแข่งในอันดับถัดไปและที่สำคัญ จำไว้เลยว่าคะแนนสำคัญกว่าอันดับ ถึงแม้เราเลือกคณะเดียวกับคู่แข่ง แต่เราอันดับ3 คู่แข่งเค้าเลือกไว้อันดับ 1 ถ้าเราไม่ได้ติดอันดับ 1และ 2 จนมาถึงอันดับ3 ถ้าเราคะแนนมากกว่าก็ไม่ต้องกังวลอะไรครับ เราก็ติดก่อนแน่นอน แม้ว่าเราจะเลือกคณะนี้ไว้เป็นอันดับ3ก็ตาม ** เพราะฉะนั้นอันดับแรกเลยของการเลือกคณะคือเลือกคณะที่เราอยากเรียนมากที่สุด อยากเข้าไปที่สุด ไว้อันดับ1 เท่านั้น!! เรียกว่าเลือกตามความฝันไปเลยครับ ไม่ต้องห่วงคะแนน อะไรใดๆทั้งสิ้น เพราะหากติดคณะที่เราไม่อยากเรียน จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ เพราะโอกาสมาจากการเลือก ถ้าเราไม่เลือกก็คือไม่มีโอกาส ถึงแม้บางคนจะมองว่าโอกาสจะน้อยนิด แต่ก็ยังถือว่ามีโอกาส ถ้าไม่เลือกเลยโอกาสคือเท่ากับ 0 ครับ!! – การเลือกคณะที่เรียงลงมานั้น ต้องเริ่มคำนึงถึงโอกาสสอบติดมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นการรองรับกัน ให้น้องๆลองนึกภาพถึงการตกจากที่สูงนะครับ คือตกลงมาแล้ว เบาะชั้น1 รับไม่อยู่ก็ยังมีชั้น2 ชั้น3 ชั้น4 รองรับต่อๆกัน ทำให้ไม่ตกถึงฟื้น(หลุดแอด) โดยการดูโอกาสสอบติดดูได้จากอะไร ส่วนมากที่น้องๆดูก็จะมีคะแนนขั้นต่ำของปีที่ผ่านๆมา แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้น้องๆสามารถนำคะแนนของน้องๆมาประเมินได้จากโปรแกรมประเมินโอกาสต่างๆที่ตอนนี้มีอยู่หลายเว๊บ ซึ่งในอนา่คตรับรองว่าจะมีของ dek ad แน่นอนครับ ยกตัวอย่างการเรียงอันดับ อันดับ1 อย่างที่บอก เลือกไปเลยครับ คณะที่ชอบที่รักที่สุด ไม่ต้องสนใจโอกาสสอบติด ส่วนคณะที่ตามมา ต้องเลือกคณะที่่โอกาสสอบติดเปอร์เซ็นสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่น อันดับ2 50% อันดับ3ควร 70-80% อันดับ4ควร 90% ขึ้นไป เอาให้ปลอดภัยที่สุด ให้นอนหลับสบาย แบบไร้กังวลมากที่สุด ประมาณนี้ครับ เพื่อเป็นการรองรับกันและความปลอดภัยป้องกันไม่ให้เกิดการหลุดแอด แต่ถ้าถามว่าถ้าอยากเสี่ยงได้ไหม ก็ต้องแยกเป็นกรณีๆไปเช่นกรณีเด็กซิ่ว มีที่เรียนมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว แต่อาจไม่ได้เรียนในคณะที่ชอบอยากมาซิ่วใหม่ ก็เสี่ยงไปเลยครับเต็มที่ หรือน้องๆที่อาจจะติดรับตรงไปแล้วแต่ยังสามารถมาแอดได้ ก็สามารถจัดการความเสี่ยงได้ด้วยตัวเองเต็มที่เช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญสุดไม่ว่าพร้อมเสี่ยงหรือไม่พร้อมเสี่ยงก็คือการวางอันดับ อย่างน้อยๆก็ควรวางอันดับให้เป็นไปตามโอกาสที่น่าจะติด เพราะถ้าวางไปมั่วๆมันก็จะเป็นการเสียอันดับและเสียโอกาสโดยใช่เหตุครับ มาถึงอีกคำถามที่น้องๆถามมามากที่สุดก็คือเรื่องแนวโน้มต่างๆกับจะเช็คได้อย่างไรว่าคณะไหนมีความเสี่ยงมากน้อยเท่าไหร่ เลือกคณะดูแต่คะแนนต่ำสุดได้มั้ย ดูได้ครับ แต่อย่าลืมว่าคะแนนต่ำสุดของคณะต่างๆเมื่อปีแล้ว ไม่ได้เป็นคะแนนที่ตั้งไว้นิ่งๆมันสามารถขยับไปขยับมาได้ เพราะคะแนนมันมาจากการเลือก เพราะฉะนั้นคะแนนมันสามารถขึ้นๆลงๆได้ตลอด ซึ่งสิ่งที่เป็นปัจจัยทำให้คะแนนเปลี่ยนไปจะได้แก่ . 1.คะแนนสอบในแต่ละปี คะแนนสอบในที่นี้หมายถึงคะแนนสอบในแต่ละปีของ O-NET หรือ GAT PAT เพราะถ้าคะแนนเฉลี่ยตัวไหนขึ้นโดดเด่นก็จะพอคาดการณ์ได้เลยครับว่าคณะที่ใช้คะแนนตั้งนั้นในสัดส่วนก็จะมีโอกาสที่คะแนนสอบจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน . 2.จำนวนผู้สมัคร(คนเลือกเยอะ) แน่นอนครับคณะไหนหากมีการแข่งขันสูงคือมีผู้สมัครเยอะ คณะนั้นก็จะกลายเป็นคณะยอดฮิตมีคะแนนสูงขึ้นอย่างแน่นอน หรือแค่การดูจำนวนผู้สมัครในบางวิชาเราก็พอจะคาดการณ์ได้แล้วว่าคณะไหนมีแนวโน้มที่คะแนนจะขึ้น . 3.จำนวนการรับนักศึกษา จำนวนรับก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจะส่งผลถึงคะแนนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะคณะที่มีการปรับจำนวนการรับให้น้อยลงจากปีก่อนเยอะ ก็มีแนวโน้มที่คะแนนปีนี้จะสูงขึ้นอย่างแน่นอน . 4.คณะที่มีการเปลี่ยนเกณฑ์ ในทุกๆปีที่มีคณะที่มีการเปลียนเกณฑ์จะมีการสวิงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นคณะพยาบาลเมื่อตอนปี57 ที่มีปรับสัดส่วนการใช้ PAT2 ให้มากขึ้น10% ทำให้คะแนนในปีนั้นพยาบาลต่ำลงมากค่อนข้างเยอะ และส่งมาถึงปีที่ผ่านมาที่ทำให้คะแนนของคณะพยาบาลสวิงขึ้นมาเพราะคนแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนต่ำนั่นเอง อย่างปีหน้าก็จะมีเปลี่ยนเกณฑ์ของคณะสัตวแพทย์ อันนี้ก็จะมีผลแน่นอน . 5.คณะที่มีคะแนนสวิง(คะแนนต่ำสุดปีที่ผ่านมา ขึ้นๆลงๆ) ถามว่าคณะที่มีคะแนนสวิงจะเกี่ยวอะไร จะเกี่ยวก็ตรงมันมีผลทางจิตวิทยาที่แหละครับ บางคณะที่คะแนนสูงมากๆสูงเกินไปที่ใจเด็กในปีนั้นจะยอมรับก็อาจจะลงลงต่ำเรี่ยดินได้ เพราะว่าการเจียมตัวที่น้องๆเห็นว่าคะแนนสูง คงจะเอื้อมไม่ถึงก็เลยเลือกที่จะมาเลือก ซึ่งตัวอย่างอย่างนี้ก็จะมีให้เห็นแทบทุกปีนะครับ หรือคณะที่คะแนนต่ำมากๆ ก็อาจจะสวิงขึ้นมาสูงปรี๊ดเลยก็ได้เพราะคนจะแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนมันต่ำมากนั่นเอง . 6.เทรนด์ เทรนด์ในที่นี้ก็จะหมายถึงกระแสความฮิตของวัยรุ่นน้องวัยแอดในแต่ละปีว่ามีความนิยมเรื่องอะไร เรื่องมีความนิยมในคณะอะไร ซึ่งในสมัยก่อนก็จะอาจจะเคยเห็นว่ากระแสคณะนิเทศมาแรงมากๆ หรือในช่วงแอดปี4-5ปีก่อนกระแสคณะในอาชีพเสรีอาเซียนจะกลายเป็นคณะฮิตขึ้นมา ซึ่งในช่วงนี้เท่าที่พี่แฮนด์ดูก็จะเป็นคณะทางสายครูกับทางคณะทางด้านภาษาอังกฤษ หรือเกี่ยวกับกระแสดิจิทัล ที่คนจะสมัครเยอะมีคะแนนสูงขึ้นมา >>>> น้องๆสามารถ ปรึกษาการเลือกคณะแอดมิชชัน ด้วยวิธีง่ายๆเพียง 1. เข้าไปใช้โปรแกรม EZ (EZ ADMISSION) โปรแกรมช่วย ADMISSION ที่มีความแม่นยำสูง ที่สำคัญ ใช้ฟรี!! ได้ที่ >> http://ezadmissions.eduzones.com/ 2. เซฟรูปผลการคำนวณเลือกคณะของน้องๆ 3. นำไปโพสต์ขอคำปรึกษาจากพี่แฮนด์ที่ Line@ P’Hand Eduzones แอดเลยที่ >> @handyeduzones ง่ายๆเพียงเท่านี้ รับรองแอดมิชชั่นปีนี้ น้องๆไม่หลุดชัวร์!!! ครับ ———————————————————————————————————– EZ Webmaster Related Posts สรุป! วิธีการสมัคร TCAS รอบ 3 ที่นั่งเหลือน้อย “โลจิสติกส์ สวนสุนันทา” เปิดรับภาคพิเศษ เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ จบป.ตรีได้ใน 2 ปีครึ่ง 10 สิ่งที่ #Dek67 ต้องรู้ !! ก่อนการสมัคร #TCAS67 รอบที่3 GATE PROJECT 8 The Infinity ติวฟรีติดมัธยม ปลุกพลังจากศิษย์เก่าที่สำเร็จหลากหลายสถาบันชั้นนำ ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี Post navigation PREVIOUS Previous post: ผู้นำนักศึกษา มจพ. ขานรับการจัดการเรียนการสอนออนไลน์สู้เชื้อโรค COVID-19NEXT Next post: E-Book Talk Like A Pro โดย อาจารย์วิริยะ ฤๅชัยพาณิชย์
นักศึกษาวิทยาลัยดุสิตธานี ร่วมทีมคว้าชัยการแข่งขันระดับนานาชาติ THE-ICE GRM Challenge 2024 EZ WebmasterApril 29, 2024 เป็นเวทีระดับนานาชาติที่จัดการแข่งขันขึ้นเป็นประจำทุกปี สำหรับการแข่งขัน THE-ICE GRM Challenge ที่จัดโดย THE-ICE องค์กรสากลซึ่งพันธมิตรจากทั่วทุกมุมโลกร่วมกันก่อตั้งขึ้น เพื่อกำหนดเกณฑ์มาตรฐานสำหรับการศึกษาด้านการบริการ โดยต้องผ่านการพิจารณา ทบทวน และรับรองจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญทางด้านอุตสาหกรรมการบริการจากนานาประเทศ THE-ICE GRM Challenge 2024 เป็นการแข่งขันที่มอบโจทย์ท้าทายเกี่ยวกับการสร้างรายได้สูงสุดให้แก่โรงแรม โดยจำลองสถานการณ์ให้ผู้เข้าแข่งขันเสมือนเป็นผู้ดูแลด้านรายได้ของโรงแรมว่า… คณะพยาบาลศาสตร์ ม.รังสิต เปิดหลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต (การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ) EZ WebmasterApril 26, 2024 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดหลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต (การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ) M.N.S. (Adult and Gerontological Nursing) โดยเปิดสอนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เรียนวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นการเรียนออนไลน์ร่วมกับการเรียนในชั้นเรียน สามารถฝึกปฏิบัติในหน่วยงานของนักศึกษา จำนวน 36 หน่วยกิต โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาด้านวิชาการดูแลนักศึกษาตลอดระยะเวลาที่เรียน สามารถสำเร็จการศึกษาใน 2 ถึง 2.5 ปี ภายใต้การบริหารจัดการที่ดี และสามารถเลือกเรียนเป็นรายวิชาและเทียบโอนได้เมื่อสมัครเข้าศึกษาในหลักสูตร ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรประมาณ 250,000 บาท กรณียังไม่สำเร็จการศึกษาตามเวลาของหลักสูตร ชำระค่ารักษาสถานภาพ…
คณะพยาบาลศาสตร์ ม.รังสิต เปิดหลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต (การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ) EZ WebmasterApril 26, 2024 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดหลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต (การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ) M.N.S. (Adult and Gerontological Nursing) โดยเปิดสอนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เรียนวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นการเรียนออนไลน์ร่วมกับการเรียนในชั้นเรียน สามารถฝึกปฏิบัติในหน่วยงานของนักศึกษา จำนวน 36 หน่วยกิต โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาด้านวิชาการดูแลนักศึกษาตลอดระยะเวลาที่เรียน สามารถสำเร็จการศึกษาใน 2 ถึง 2.5 ปี ภายใต้การบริหารจัดการที่ดี และสามารถเลือกเรียนเป็นรายวิชาและเทียบโอนได้เมื่อสมัครเข้าศึกษาในหลักสูตร ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรประมาณ 250,000 บาท กรณียังไม่สำเร็จการศึกษาตามเวลาของหลักสูตร ชำระค่ารักษาสถานภาพ…
ขยายเวลารับทุนเรียนต่อป.โท ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว สหพันธรัฐรัสเซีย tui sakrapeeApril 24, 2024 ประกาศขยายเวลารับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว (Skolkovo Institute of Science and Technology: Skoltech) สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024) หลักสูตรภาษาอังกฤษ ตามที่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ… ม.เทคโนโลยีและการออกแบบแห่งสิงคโปร์ ให้ทุนคนไทยไปศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี tui sakrapeeApril 22, 2024 ประกาศ รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบ แห่งสิงคโปร์ (Singapore University of Technology and Design : SUTD) สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024)… รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH… ครู-อาจารย์ สสวท. ชวนครูคณิตศาสตร์มัธยมอบรมฟรี สมัครได้ถึง 30 เม.ย.นี้ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” EZ WebmasterApril 29, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เชิญครูผู้สอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาและผู้สนใจ อบรมหัวข้อ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” ในรูปแบบออนไลน์ สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 เมษายน 2567 อบรมระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2567 ลงทะเบียนและอบรมที่เว็บไซต์ระบบอบรมครู… ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี EZ WebmasterApril 26, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครูและเยาวชนสนุกเรียน สนุกรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี รับปิดเทอมนี้ที่ คลังความรู้ SciMath สสวท. พบสื่อหลากหลายทั้ง อีบุ๊กเพิ่มทักษะ คู่มือครู วีดิทัศน์ คลังภาพ โครงงาน บทเรียนน่ารู้ แผนการสอน แอปพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้พร้อมเกมฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหา เพลิดเพลินเรียนรู้ในโลกออนไลน์ฟรีที่คลังความรู้ SciMath สสวท. https://www.scimath.org สวัสดิการครูที่คุณครูควรมีคืออะไร จากการสำรวจของ EDUZONES EZ WebmasterApril 22, 2024 อาชีพครูเป็นอาชีพที่ถูกสังคมมองว่าเป็น “ผู้เสียสละ” ที่ต้องทำงานอุทิศตนเพื่อให้ลูกศิษย์ไปถึงฝั่งฝัน ซึ่งนอกจากงานด้านการสอนแล้วยังมีภาระงานอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานด้านเอกสาร การอบรม การทำกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หรือเตรียมการประเมินต่าง ๆ ในทางกลับกันสวัสดิการครูที่ควรได้รับกลับไม่สอดคล้องกับภาระงานของครู ซึ่งสวัสดิการข้าราชการ คือ ค่าตอบแทนที่ทางราชการจัดให้แก่ราชการในฐานะที่เป็นสมาชิกขององค์กร เพื่อช่วยให้ความมั่นคง และเป็นขวัญกำลังใจของข้าราชการในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล วันนี้เราได้รวบรวมความคิดเห็นของคุณครูในชุมชน EDUZONES หัวข้อ… สพฐ. จับมือ สสวท. อบรมครูออนไลน์เลือกได้ 3 หลักสูตร “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” รุ่นที่ 5 EZ WebmasterApril 18, 2024 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครู บุคลากรทางการศึกษาและผู้สนใจอบรมด้วยตนเองแบบออนไลน์ “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” (Coding for Teacher Plus: C4T Plus) รุ่นที่ 5 เลือกอบรมได้ 3 หลักสูตร คือ 1. การเขียนโปรแกรม Scratch 2. การเขียนโปรแกรมภาษา Python และ 3. วิทยาการข้อมูล… กิจกรรม ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี เวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation Disney ครั้งแรกในประเทศไทย EZ WebmasterApril 9, 2024 ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีกับเวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation ของ Disney กับงานแสดงนิทรรศการ Immersive Disney Animation ครั้งแรกในประเทศไทย (กรุงเทพฯ, 8 เมษายน 2567) เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางเพื่อออกไปผจญภัยครั้งสำคัญของชีวิตผ่านโลกที่น่าทึ่งของการ์ตูนดิสนีย์กับนิทรรศการที่น่าตื่นเต้นมากที่สุด Immersive… Search for: Search EZ Webmaster May 4, 2020 EZ Webmaster May 4, 2020 เคลียร์ทุกเรื่อง ที่มา/วิธีการคัดเลือก/วิธีการจัดอันดับ/อะไรคือปัจจัยเสี่ยง Admission 2563 แอดมิชชัน ถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตของน้องๆ ม.6 ในทุกๆปีนะครับ เพราะถือว่าเป็นสะพานในการพาน้องๆไปสู่ความฝันหรือเป้าหมายที่ต้องการหลังจากฝ่าฝันสอบมาอย่างดุเดือดตลอดปีการศึกษาของ ม.6 ซึ่งแน่นอนว่าน้องๆแต่ละคนก็ต้องการความกระจ่างและความมั่นใจมากที่สุดก่อนที่จะทำการเลือกคณะ ซึ่งก็มีหลากหลายคำถามเข้ามาที่พี่แฮนด์มากมายทั้งวิธีการการเลือก แนวโน้มแต่ละคณะ และคำถามอื่นๆ พี่แฮนด์จึงเขียนบทความเพื่อไขข้อสงสัยในหลายเรื่องสำหรับแอดมิชชัน แอดมิชชัน หรือน้องๆอาจจะเรียกว่าแอดกลาง ก็คือการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา (Central University Admissions System – CUAS ) จัดการคัดเลือกโดย ทปอ. นำมาใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2549 แทนการคัดเลือกแบบเอนทรานซ์นั่นเอง ซึ่งจุดประสงค์หลักที่นำระบบแอดมิชชันมาใช้แทนระบบเก่าอย่างเอนทรานซ์ก็เพราะว่า การเอนทรานซ์ จะเน้นในการสอบเพียงอย่างเดียว ทำให้เด็กๆทิ้งการเรียนในห้องเรียน ไปมุ่งมั่นติวกันเพียงอย่างเดียว แต่การแอดมิชชันจะมีการนำเกรดเฉลี่ยในโรงเรียนมาใช้ด้วย ทำให้เด็กๆต้องสนใจวิชาในห้องเรียนไม่สามารถทิ้งได้(แต่สุดท้ายเด็กไทยก็ยังติวกันเหมือนเดิมนะครับ อิๆ) องค์ประกอบของแอดมิชชัน แอดมิชชันจะมีคะแนนรวมทั้ง 30,000 คะแนน จากองค์ประกอบ4ตัว ดังต่อไปนี้ 1.GPAX คือเกรดเฉลี่ยสะสม 6 ภาคเรียน ตลอดหลักสูตรมัธยมปลาย ม.4-ม.6 ของนักเรียน โดย GPAX ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 20% หรือ6,000คะแนนทุกคณะ 2. O-NET (Ordinary National Education Test) หรือการสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน เป็นการสอบพร้อมทั้งหมดของเด็ก ม.6 ทั่วประเทศ จะมีการสอบทั้งหมด 5 วิชาได้แก่ คณิตศาสตร์,ภาษาอังกฤษ,ภาษาไทย,สังคม.วิทยาศาสตร์ โดย O-NET ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 30% หรือ9,000คะแนนทุกคณะ 3. GAT (Genetal Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทั่วไป คะแนนเต็ม 300 คะแนน ข้อสอบGAT ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ GAT ไทย ซึ่งจะเน้นเนื้อหาทางด้าน การอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ และ GAT ภาษาอังกฤษ อย่างละ 150 คะแนน โดย GAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 10-50% หรือ3,000-15,000คะแนนแล้วแต่คณะ 4. PAT (Professional Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทางวิชาชีพ เป็นข้อสอบที่ยากเพราะเป็นเนื่อหาที่ไม่มีสอนในโรงเรียน โดยจะมรทั้งหมด 7 PAT ด้วยกัน ได้แก่ PAT1 คณิตศาสตร์ PAT2 วิทยาศาสตร์ PAT3 พื้นฐานวิศวกรรม PAT4 พื้นฐานสถาปัตยกรรม PAT5 พื้นฐานความเป็นครู PAT6 ศิลปกรรม และPAT7วิชาด้านภาษาอื่นๆนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ โดย PAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 0-40% หรือ0-12,000คะแนนแล้วแต่คณะ สัดส่วนองค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะ สัดส่วนองค์ประกอบของแอดมิชชันจะแบ่งเป็น 13 กลุ่มดังนี้ **จุดสังเกตขององค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะขอให้น้องๆจำง่ายๆว่า GPAX(20%) และ O-NET(30%) มีสัดส่วนคงที่ทุกกลุ่มคณะ แต่ละกลุ่มแตกต่างกันตรง GAT และ PAT เท่านั้น สถิติผู้สมัครและสอบติดแอดมิชชัน พี่แฮนด์เอาสถิติตั้งแต่ปี 53 ที่เริ่มใช้ GAT PAT เป็นปีแรก มาให้ดูกันนะครับ ปี 53 จำนวนผู้สมัคร 98,143 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,003 คน หลุดแอดมิชชัน 28,140 คน ปี 54 จำนวนผู้สมัคร 123,260 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 78,096 คน หลุดแอดมิชชัน 45,164 คน ปี 55 จำนวนผู้สมัคร 122,169 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 82,102 คน หลุดแอดมิชชัน 40,067 คน ปี 56 จำนวนผู้สมัคร 113,400 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 83,955 คน หลุดแอดมิชชัน 29,445 คน ปี 57 จำนวนผู้สมัคร 99,767 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 80,880 คน หลุดแอดมิชชัน 18,887 คน ปี 58 จำนวนผู้สมัคร 124,648 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 91,813 คน หลุดแอดมิชชัน 32,835 คน ปี 59 จำนวนผู้สมัคร 105,046 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 85,834 คน หลุดแอดมิชชัน 19,212 คน ปี 60 จำนวนผู้สมัคร 81,232 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,689 คน หลุดแอดมิชชัน 10,543 คน ปี 61 จำนวนผู้สมัคร 54,782 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 44,476 คน หลุดแอดมิชชัน 10,306 คน ปี 62 จำนวนผู้สมัคร 122,523 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 52,315 คน หลุดแอดมิชชัน 20,093 คน เห็นจำนวนสถิติอย่างงี้ก็เพิ่งอย่าไปเครียดอะไรนะครับ เพราะที่จริงแล้วยอดผู้สมัครทุกปีนั้น น้อยกว่ายอดรับตามระเบียบการทุกปี แต่ที่มีคนไม่ติดนั้นก็เพราะว่า ส่วนใหญ่ก็จะไปเลือกคณะเดียวกันซะเยอะ ทำให้มีคนหลุดแอดทุกปี และที่สำคัญจะเห็นเลยว่าจำนวนนั้นลดลงเรื่อยๆทุกปี การคิดคะแนนแอดมิชชัน การคิดคะแนน GPAX ใช้ GPAX ร้อยละ 20 GPAX ให้คิดเทียบคะแนนเต็มเป็น 300 คะแนน วิธีคิด 1. ให้นํา GPAX คูณกับ 75 เพื่อแปลงค่าผลการเรียนเฉลี่ยเป็นคะแนนเต็ม 300 คะแนน 2. ให้นําคะแนน GPAX ที่แปลงค่าเป็นคะแนนแล้วคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด จะได้เป็นคะแนน GPAX ตัวอย่าง ผู้สมัครมีผลการเรียนเฉลี่ย (GPAX) = 2.93 วิธีคิด ขั้นที่ 1 ใ ให้นํา GPAX คูณด้วย 75 จะได้คะแนนดังนี้ คะแนน GPAX (2.93 × 75) = 219.75 คะแนน ขั้นที่ 2 นําคะแนน GPAX คูณด้วยค่าน้ําหนักที่กําหนดไว้ คือ 20% คะแนน GPAX (219.75 × 20) = 4,395 คะแนน จากคะแนนเต็ม 6,000 คะแนน วิธีการคิดคะแนน O-NET 1. ให้นําคะแนนสอบวิชา O-NET แต่ละวิชาของผู้สมัครคูณกับ 3 (กําหนด ให้คะแนนเต็มแต่ละวิชาเท่ากับ 300) 2. นําคะแนนในข้อ 1 คูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 3. นําคะแนนแต่ละวิชาในข้อ 2 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ O-NET ตัวอย่าง ผู้มัครมีคะแนน O-NET ดังนี้ วิชา 01 = 63.00, 02 = 75.00, 03 = 71.00, 04 = 81.00 05 = 87.00 ขั้นที่ 1 นําคะแนนแต่ละวิชาของผู้สมัครคูณด้วย 3(ยกเว้นวิชา 06 ไม่ต่องคูณ) ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (63.00 × 3) = 189 วิชา 02 (75.00 × 3) = 225 วิชา 03 (71.00 × 3) = 213 วิชา 04 (81.00 × 3) = 243 วิชา 05 (87.00 × 3) = 261 ขั้นที่ 2 นําคะแนนที่คูณด้วย 3 คูณด้วยค่าน้ําหนัก ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (189 × 6) = 1,134 วิชา 02 (225 × 6) = 1,350 วิชา 03 (213 × 6) = 1,278 วิชา 04 (261 × 6) = 1,458 วิชา 05 (261 × 6) = 1,566 ขั้นที่ 3 นําคะแนน O-NET ที่คูณด้วยค่าน้ําหนักแล้ว มารวมกันดังนี้ คะแนน O-NET (1,134 + 1,350 + 1,278 + 1,458 + 1,566) คะแนนรวม O-NET = 6,786 คะแนน (จากคะแนน 9,000 คะแนน) วิธีการคิดคะแนน GAT, PAT 1. นําคะแนนสอบ GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 2. นําคะแนนแต่ละวิชาจากข้อ 1 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ GAT และ/ PATตัวอย่าง วิธีการคิดคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ต้องการเลือกคณะวิศวกรรมศาสตร์ กําหนดให้สอบ O-NET 5 กลุ่มสาระฯ คือ รหัส 01,02,03,04 และ 05 แต่ละวิชาให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 6 วิชา GAT (รหัส 85) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 2 (รหัส 72) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 3 (รหัส 73) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 20 ผู้สมัครมีคะแนนแต่ละวิชาดังนี้ วิธีคิดขั้นที่ 1 นําคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนัก คะแนน GAT (265 × 15) = 3,975 คะแนน คะแนน PAT 2 (210 × 15) = 3,150คะแนน คะแนน PAT 3 (250 × 20) = 5,000คะแนน คะแนนรวม GAT และ PAT (3,975 + 3,150 + 5,000) = 12,125 คะแนนการคิดคะแนนรวม คะแนนรวม = คะแนน GPAX + คะแนน O-NET + คะแนน GAT และ/หรือ คะแนน PAT(นำคะแนนทุกอย่างมาบวกกัน) นี่ก็คือวิธีการคิดคะแนนที่ใช้ในการคัดเลือกในระบบแอดมิชชันนะครับ น้องๆคนไหนอยากคิดคะแนนตัวเองก็ลองคิดได้เลยนะครับ แต่อย่าไปคิดบวกเกินให้ตัวเองละ มันไม่ดีเน้อ อิอิ การยื่นเลือกคณะ การยื่นเลือกคณะของแอดมิชชันนั้น ปีนี้จะเลือกกัน หลังจากที่น้องๆม.6 ได้ทราบผลคะแนนทุกตัวที่ใช้เป็นองค์ประกอบแล้ว โดยน้องๆจะสามารถเลือกได้ทั้งหมด 4 อันดับ จะเลือกคณะอะไรมหาวิทยาลัยใดก็ได้ มหาวิทยาลัยเดียวกันก็ได้ โดยจะสมัครทางเว๊บไซท์ http:/mytcas.com/โดยวิธีการคิดเลือกคณะจะเป็นดังนี้1.ระบบจะรวบรวมคะแนนอันดับ1 ของน้องๆ ทุกคนมาเรียงไว้จากมากไปหาน้อย เช่น คณะวิศวะ จุฬา รับ100 คน ระบบก็จะนำคนที่เลือกคณะวิศวะจุฬาทั้งหมดนำคะแนนมาเรียงกัน ใครอยู่อันดับ1-100 ก็คือติดไป *คนที่ไม่เลือกไม่มีสิทธิ์ติดนะครับ*2.ระบบจะเลือกคนที่มีคะแนนมากที่สุด เข้าสู่แต่ละคณะให้ครบตามจำนวนที่รับ คนที่คะแนนไม่ติดคณะใดเลย ถือว่าตกพิจารณาในอันดับแรก ก็จะถูกพิจารณาคะแนนในอันดับที่2 ต่อไป3.เมื่อพิจารณาแล้วพบว่าคะแนนในอันดับ2 สูงกว่าคนที่ผ่านการพิจารณาในรอบแรก คะแนนใหม่ก็จะนำมาแทรก ดังนั้นคนที่ได้คะแนนต่ำสุดในรอบแรกของแต่ละคณะก็จะตกไปถ้าน้องไม่ติดอันดับ 1 ระบบก็จะนำคะแนนของน้องไปแข่งที่อันดับต่อไป ไม่ติดก็จะนำไปอันดับต่อไปเรื่อยๆ จนถึงอันดับ4 โดยถ้าคะแนนถึงอันดับไหนก็จะติดอันดับนั้นเลย ไม่นำคะแนนไปแข่งในอันดับถัดไปและที่สำคัญ จำไว้เลยว่าคะแนนสำคัญกว่าอันดับ ถึงแม้เราเลือกคณะเดียวกับคู่แข่ง แต่เราอันดับ3 คู่แข่งเค้าเลือกไว้อันดับ 1 ถ้าเราไม่ได้ติดอันดับ 1และ 2 จนมาถึงอันดับ3 ถ้าเราคะแนนมากกว่าก็ไม่ต้องกังวลอะไรครับ เราก็ติดก่อนแน่นอน แม้ว่าเราจะเลือกคณะนี้ไว้เป็นอันดับ3ก็ตาม ** เพราะฉะนั้นอันดับแรกเลยของการเลือกคณะคือเลือกคณะที่เราอยากเรียนมากที่สุด อยากเข้าไปที่สุด ไว้อันดับ1 เท่านั้น!! เรียกว่าเลือกตามความฝันไปเลยครับ ไม่ต้องห่วงคะแนน อะไรใดๆทั้งสิ้น เพราะหากติดคณะที่เราไม่อยากเรียน จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ เพราะโอกาสมาจากการเลือก ถ้าเราไม่เลือกก็คือไม่มีโอกาส ถึงแม้บางคนจะมองว่าโอกาสจะน้อยนิด แต่ก็ยังถือว่ามีโอกาส ถ้าไม่เลือกเลยโอกาสคือเท่ากับ 0 ครับ!! – การเลือกคณะที่เรียงลงมานั้น ต้องเริ่มคำนึงถึงโอกาสสอบติดมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นการรองรับกัน ให้น้องๆลองนึกภาพถึงการตกจากที่สูงนะครับ คือตกลงมาแล้ว เบาะชั้น1 รับไม่อยู่ก็ยังมีชั้น2 ชั้น3 ชั้น4 รองรับต่อๆกัน ทำให้ไม่ตกถึงฟื้น(หลุดแอด) โดยการดูโอกาสสอบติดดูได้จากอะไร ส่วนมากที่น้องๆดูก็จะมีคะแนนขั้นต่ำของปีที่ผ่านๆมา แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้น้องๆสามารถนำคะแนนของน้องๆมาประเมินได้จากโปรแกรมประเมินโอกาสต่างๆที่ตอนนี้มีอยู่หลายเว๊บ ซึ่งในอนา่คตรับรองว่าจะมีของ dek ad แน่นอนครับ ยกตัวอย่างการเรียงอันดับ อันดับ1 อย่างที่บอก เลือกไปเลยครับ คณะที่ชอบที่รักที่สุด ไม่ต้องสนใจโอกาสสอบติด ส่วนคณะที่ตามมา ต้องเลือกคณะที่่โอกาสสอบติดเปอร์เซ็นสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่น อันดับ2 50% อันดับ3ควร 70-80% อันดับ4ควร 90% ขึ้นไป เอาให้ปลอดภัยที่สุด ให้นอนหลับสบาย แบบไร้กังวลมากที่สุด ประมาณนี้ครับ เพื่อเป็นการรองรับกันและความปลอดภัยป้องกันไม่ให้เกิดการหลุดแอด แต่ถ้าถามว่าถ้าอยากเสี่ยงได้ไหม ก็ต้องแยกเป็นกรณีๆไปเช่นกรณีเด็กซิ่ว มีที่เรียนมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว แต่อาจไม่ได้เรียนในคณะที่ชอบอยากมาซิ่วใหม่ ก็เสี่ยงไปเลยครับเต็มที่ หรือน้องๆที่อาจจะติดรับตรงไปแล้วแต่ยังสามารถมาแอดได้ ก็สามารถจัดการความเสี่ยงได้ด้วยตัวเองเต็มที่เช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญสุดไม่ว่าพร้อมเสี่ยงหรือไม่พร้อมเสี่ยงก็คือการวางอันดับ อย่างน้อยๆก็ควรวางอันดับให้เป็นไปตามโอกาสที่น่าจะติด เพราะถ้าวางไปมั่วๆมันก็จะเป็นการเสียอันดับและเสียโอกาสโดยใช่เหตุครับ มาถึงอีกคำถามที่น้องๆถามมามากที่สุดก็คือเรื่องแนวโน้มต่างๆกับจะเช็คได้อย่างไรว่าคณะไหนมีความเสี่ยงมากน้อยเท่าไหร่ เลือกคณะดูแต่คะแนนต่ำสุดได้มั้ย ดูได้ครับ แต่อย่าลืมว่าคะแนนต่ำสุดของคณะต่างๆเมื่อปีแล้ว ไม่ได้เป็นคะแนนที่ตั้งไว้นิ่งๆมันสามารถขยับไปขยับมาได้ เพราะคะแนนมันมาจากการเลือก เพราะฉะนั้นคะแนนมันสามารถขึ้นๆลงๆได้ตลอด ซึ่งสิ่งที่เป็นปัจจัยทำให้คะแนนเปลี่ยนไปจะได้แก่ . 1.คะแนนสอบในแต่ละปี คะแนนสอบในที่นี้หมายถึงคะแนนสอบในแต่ละปีของ O-NET หรือ GAT PAT เพราะถ้าคะแนนเฉลี่ยตัวไหนขึ้นโดดเด่นก็จะพอคาดการณ์ได้เลยครับว่าคณะที่ใช้คะแนนตั้งนั้นในสัดส่วนก็จะมีโอกาสที่คะแนนสอบจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน . 2.จำนวนผู้สมัคร(คนเลือกเยอะ) แน่นอนครับคณะไหนหากมีการแข่งขันสูงคือมีผู้สมัครเยอะ คณะนั้นก็จะกลายเป็นคณะยอดฮิตมีคะแนนสูงขึ้นอย่างแน่นอน หรือแค่การดูจำนวนผู้สมัครในบางวิชาเราก็พอจะคาดการณ์ได้แล้วว่าคณะไหนมีแนวโน้มที่คะแนนจะขึ้น . 3.จำนวนการรับนักศึกษา จำนวนรับก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจะส่งผลถึงคะแนนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะคณะที่มีการปรับจำนวนการรับให้น้อยลงจากปีก่อนเยอะ ก็มีแนวโน้มที่คะแนนปีนี้จะสูงขึ้นอย่างแน่นอน . 4.คณะที่มีการเปลี่ยนเกณฑ์ ในทุกๆปีที่มีคณะที่มีการเปลียนเกณฑ์จะมีการสวิงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นคณะพยาบาลเมื่อตอนปี57 ที่มีปรับสัดส่วนการใช้ PAT2 ให้มากขึ้น10% ทำให้คะแนนในปีนั้นพยาบาลต่ำลงมากค่อนข้างเยอะ และส่งมาถึงปีที่ผ่านมาที่ทำให้คะแนนของคณะพยาบาลสวิงขึ้นมาเพราะคนแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนต่ำนั่นเอง อย่างปีหน้าก็จะมีเปลี่ยนเกณฑ์ของคณะสัตวแพทย์ อันนี้ก็จะมีผลแน่นอน . 5.คณะที่มีคะแนนสวิง(คะแนนต่ำสุดปีที่ผ่านมา ขึ้นๆลงๆ) ถามว่าคณะที่มีคะแนนสวิงจะเกี่ยวอะไร จะเกี่ยวก็ตรงมันมีผลทางจิตวิทยาที่แหละครับ บางคณะที่คะแนนสูงมากๆสูงเกินไปที่ใจเด็กในปีนั้นจะยอมรับก็อาจจะลงลงต่ำเรี่ยดินได้ เพราะว่าการเจียมตัวที่น้องๆเห็นว่าคะแนนสูง คงจะเอื้อมไม่ถึงก็เลยเลือกที่จะมาเลือก ซึ่งตัวอย่างอย่างนี้ก็จะมีให้เห็นแทบทุกปีนะครับ หรือคณะที่คะแนนต่ำมากๆ ก็อาจจะสวิงขึ้นมาสูงปรี๊ดเลยก็ได้เพราะคนจะแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนมันต่ำมากนั่นเอง . 6.เทรนด์ เทรนด์ในที่นี้ก็จะหมายถึงกระแสความฮิตของวัยรุ่นน้องวัยแอดในแต่ละปีว่ามีความนิยมเรื่องอะไร เรื่องมีความนิยมในคณะอะไร ซึ่งในสมัยก่อนก็จะอาจจะเคยเห็นว่ากระแสคณะนิเทศมาแรงมากๆ หรือในช่วงแอดปี4-5ปีก่อนกระแสคณะในอาชีพเสรีอาเซียนจะกลายเป็นคณะฮิตขึ้นมา ซึ่งในช่วงนี้เท่าที่พี่แฮนด์ดูก็จะเป็นคณะทางสายครูกับทางคณะทางด้านภาษาอังกฤษ หรือเกี่ยวกับกระแสดิจิทัล ที่คนจะสมัครเยอะมีคะแนนสูงขึ้นมา >>>> น้องๆสามารถ ปรึกษาการเลือกคณะแอดมิชชัน ด้วยวิธีง่ายๆเพียง 1. เข้าไปใช้โปรแกรม EZ (EZ ADMISSION) โปรแกรมช่วย ADMISSION ที่มีความแม่นยำสูง ที่สำคัญ ใช้ฟรี!! ได้ที่ >> http://ezadmissions.eduzones.com/ 2. เซฟรูปผลการคำนวณเลือกคณะของน้องๆ 3. นำไปโพสต์ขอคำปรึกษาจากพี่แฮนด์ที่ Line@ P’Hand Eduzones แอดเลยที่ >> @handyeduzones ง่ายๆเพียงเท่านี้ รับรองแอดมิชชั่นปีนี้ น้องๆไม่หลุดชัวร์!!! ครับ ———————————————————————————————————– EZ Webmaster Related Posts สรุป! วิธีการสมัคร TCAS รอบ 3 ที่นั่งเหลือน้อย “โลจิสติกส์ สวนสุนันทา” เปิดรับภาคพิเศษ เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ จบป.ตรีได้ใน 2 ปีครึ่ง 10 สิ่งที่ #Dek67 ต้องรู้ !! ก่อนการสมัคร #TCAS67 รอบที่3 GATE PROJECT 8 The Infinity ติวฟรีติดมัธยม ปลุกพลังจากศิษย์เก่าที่สำเร็จหลากหลายสถาบันชั้นนำ ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี Post navigation PREVIOUS Previous post: ผู้นำนักศึกษา มจพ. ขานรับการจัดการเรียนการสอนออนไลน์สู้เชื้อโรค COVID-19NEXT Next post: E-Book Talk Like A Pro โดย อาจารย์วิริยะ ฤๅชัยพาณิชย์
ม.เทคโนโลยีและการออกแบบแห่งสิงคโปร์ ให้ทุนคนไทยไปศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี tui sakrapeeApril 22, 2024 ประกาศ รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบ แห่งสิงคโปร์ (Singapore University of Technology and Design : SUTD) สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024)… รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH… ครู-อาจารย์ สสวท. ชวนครูคณิตศาสตร์มัธยมอบรมฟรี สมัครได้ถึง 30 เม.ย.นี้ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” EZ WebmasterApril 29, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เชิญครูผู้สอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาและผู้สนใจ อบรมหัวข้อ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” ในรูปแบบออนไลน์ สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 เมษายน 2567 อบรมระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2567 ลงทะเบียนและอบรมที่เว็บไซต์ระบบอบรมครู… ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี EZ WebmasterApril 26, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครูและเยาวชนสนุกเรียน สนุกรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี รับปิดเทอมนี้ที่ คลังความรู้ SciMath สสวท. พบสื่อหลากหลายทั้ง อีบุ๊กเพิ่มทักษะ คู่มือครู วีดิทัศน์ คลังภาพ โครงงาน บทเรียนน่ารู้ แผนการสอน แอปพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้พร้อมเกมฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหา เพลิดเพลินเรียนรู้ในโลกออนไลน์ฟรีที่คลังความรู้ SciMath สสวท. https://www.scimath.org สวัสดิการครูที่คุณครูควรมีคืออะไร จากการสำรวจของ EDUZONES EZ WebmasterApril 22, 2024 อาชีพครูเป็นอาชีพที่ถูกสังคมมองว่าเป็น “ผู้เสียสละ” ที่ต้องทำงานอุทิศตนเพื่อให้ลูกศิษย์ไปถึงฝั่งฝัน ซึ่งนอกจากงานด้านการสอนแล้วยังมีภาระงานอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานด้านเอกสาร การอบรม การทำกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หรือเตรียมการประเมินต่าง ๆ ในทางกลับกันสวัสดิการครูที่ควรได้รับกลับไม่สอดคล้องกับภาระงานของครู ซึ่งสวัสดิการข้าราชการ คือ ค่าตอบแทนที่ทางราชการจัดให้แก่ราชการในฐานะที่เป็นสมาชิกขององค์กร เพื่อช่วยให้ความมั่นคง และเป็นขวัญกำลังใจของข้าราชการในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล วันนี้เราได้รวบรวมความคิดเห็นของคุณครูในชุมชน EDUZONES หัวข้อ… สพฐ. จับมือ สสวท. อบรมครูออนไลน์เลือกได้ 3 หลักสูตร “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” รุ่นที่ 5 EZ WebmasterApril 18, 2024 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครู บุคลากรทางการศึกษาและผู้สนใจอบรมด้วยตนเองแบบออนไลน์ “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” (Coding for Teacher Plus: C4T Plus) รุ่นที่ 5 เลือกอบรมได้ 3 หลักสูตร คือ 1. การเขียนโปรแกรม Scratch 2. การเขียนโปรแกรมภาษา Python และ 3. วิทยาการข้อมูล… กิจกรรม ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี เวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation Disney ครั้งแรกในประเทศไทย EZ WebmasterApril 9, 2024 ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีกับเวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation ของ Disney กับงานแสดงนิทรรศการ Immersive Disney Animation ครั้งแรกในประเทศไทย (กรุงเทพฯ, 8 เมษายน 2567) เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางเพื่อออกไปผจญภัยครั้งสำคัญของชีวิตผ่านโลกที่น่าทึ่งของการ์ตูนดิสนีย์กับนิทรรศการที่น่าตื่นเต้นมากที่สุด Immersive… Search for: Search EZ Webmaster May 4, 2020 EZ Webmaster May 4, 2020 เคลียร์ทุกเรื่อง ที่มา/วิธีการคัดเลือก/วิธีการจัดอันดับ/อะไรคือปัจจัยเสี่ยง Admission 2563 แอดมิชชัน ถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตของน้องๆ ม.6 ในทุกๆปีนะครับ เพราะถือว่าเป็นสะพานในการพาน้องๆไปสู่ความฝันหรือเป้าหมายที่ต้องการหลังจากฝ่าฝันสอบมาอย่างดุเดือดตลอดปีการศึกษาของ ม.6 ซึ่งแน่นอนว่าน้องๆแต่ละคนก็ต้องการความกระจ่างและความมั่นใจมากที่สุดก่อนที่จะทำการเลือกคณะ ซึ่งก็มีหลากหลายคำถามเข้ามาที่พี่แฮนด์มากมายทั้งวิธีการการเลือก แนวโน้มแต่ละคณะ และคำถามอื่นๆ พี่แฮนด์จึงเขียนบทความเพื่อไขข้อสงสัยในหลายเรื่องสำหรับแอดมิชชัน แอดมิชชัน หรือน้องๆอาจจะเรียกว่าแอดกลาง ก็คือการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา (Central University Admissions System – CUAS ) จัดการคัดเลือกโดย ทปอ. นำมาใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2549 แทนการคัดเลือกแบบเอนทรานซ์นั่นเอง ซึ่งจุดประสงค์หลักที่นำระบบแอดมิชชันมาใช้แทนระบบเก่าอย่างเอนทรานซ์ก็เพราะว่า การเอนทรานซ์ จะเน้นในการสอบเพียงอย่างเดียว ทำให้เด็กๆทิ้งการเรียนในห้องเรียน ไปมุ่งมั่นติวกันเพียงอย่างเดียว แต่การแอดมิชชันจะมีการนำเกรดเฉลี่ยในโรงเรียนมาใช้ด้วย ทำให้เด็กๆต้องสนใจวิชาในห้องเรียนไม่สามารถทิ้งได้(แต่สุดท้ายเด็กไทยก็ยังติวกันเหมือนเดิมนะครับ อิๆ) องค์ประกอบของแอดมิชชัน แอดมิชชันจะมีคะแนนรวมทั้ง 30,000 คะแนน จากองค์ประกอบ4ตัว ดังต่อไปนี้ 1.GPAX คือเกรดเฉลี่ยสะสม 6 ภาคเรียน ตลอดหลักสูตรมัธยมปลาย ม.4-ม.6 ของนักเรียน โดย GPAX ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 20% หรือ6,000คะแนนทุกคณะ 2. O-NET (Ordinary National Education Test) หรือการสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน เป็นการสอบพร้อมทั้งหมดของเด็ก ม.6 ทั่วประเทศ จะมีการสอบทั้งหมด 5 วิชาได้แก่ คณิตศาสตร์,ภาษาอังกฤษ,ภาษาไทย,สังคม.วิทยาศาสตร์ โดย O-NET ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 30% หรือ9,000คะแนนทุกคณะ 3. GAT (Genetal Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทั่วไป คะแนนเต็ม 300 คะแนน ข้อสอบGAT ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ GAT ไทย ซึ่งจะเน้นเนื้อหาทางด้าน การอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ และ GAT ภาษาอังกฤษ อย่างละ 150 คะแนน โดย GAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 10-50% หรือ3,000-15,000คะแนนแล้วแต่คณะ 4. PAT (Professional Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทางวิชาชีพ เป็นข้อสอบที่ยากเพราะเป็นเนื่อหาที่ไม่มีสอนในโรงเรียน โดยจะมรทั้งหมด 7 PAT ด้วยกัน ได้แก่ PAT1 คณิตศาสตร์ PAT2 วิทยาศาสตร์ PAT3 พื้นฐานวิศวกรรม PAT4 พื้นฐานสถาปัตยกรรม PAT5 พื้นฐานความเป็นครู PAT6 ศิลปกรรม และPAT7วิชาด้านภาษาอื่นๆนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ โดย PAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 0-40% หรือ0-12,000คะแนนแล้วแต่คณะ สัดส่วนองค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะ สัดส่วนองค์ประกอบของแอดมิชชันจะแบ่งเป็น 13 กลุ่มดังนี้ **จุดสังเกตขององค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะขอให้น้องๆจำง่ายๆว่า GPAX(20%) และ O-NET(30%) มีสัดส่วนคงที่ทุกกลุ่มคณะ แต่ละกลุ่มแตกต่างกันตรง GAT และ PAT เท่านั้น สถิติผู้สมัครและสอบติดแอดมิชชัน พี่แฮนด์เอาสถิติตั้งแต่ปี 53 ที่เริ่มใช้ GAT PAT เป็นปีแรก มาให้ดูกันนะครับ ปี 53 จำนวนผู้สมัคร 98,143 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,003 คน หลุดแอดมิชชัน 28,140 คน ปี 54 จำนวนผู้สมัคร 123,260 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 78,096 คน หลุดแอดมิชชัน 45,164 คน ปี 55 จำนวนผู้สมัคร 122,169 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 82,102 คน หลุดแอดมิชชัน 40,067 คน ปี 56 จำนวนผู้สมัคร 113,400 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 83,955 คน หลุดแอดมิชชัน 29,445 คน ปี 57 จำนวนผู้สมัคร 99,767 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 80,880 คน หลุดแอดมิชชัน 18,887 คน ปี 58 จำนวนผู้สมัคร 124,648 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 91,813 คน หลุดแอดมิชชัน 32,835 คน ปี 59 จำนวนผู้สมัคร 105,046 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 85,834 คน หลุดแอดมิชชัน 19,212 คน ปี 60 จำนวนผู้สมัคร 81,232 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,689 คน หลุดแอดมิชชัน 10,543 คน ปี 61 จำนวนผู้สมัคร 54,782 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 44,476 คน หลุดแอดมิชชัน 10,306 คน ปี 62 จำนวนผู้สมัคร 122,523 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 52,315 คน หลุดแอดมิชชัน 20,093 คน เห็นจำนวนสถิติอย่างงี้ก็เพิ่งอย่าไปเครียดอะไรนะครับ เพราะที่จริงแล้วยอดผู้สมัครทุกปีนั้น น้อยกว่ายอดรับตามระเบียบการทุกปี แต่ที่มีคนไม่ติดนั้นก็เพราะว่า ส่วนใหญ่ก็จะไปเลือกคณะเดียวกันซะเยอะ ทำให้มีคนหลุดแอดทุกปี และที่สำคัญจะเห็นเลยว่าจำนวนนั้นลดลงเรื่อยๆทุกปี การคิดคะแนนแอดมิชชัน การคิดคะแนน GPAX ใช้ GPAX ร้อยละ 20 GPAX ให้คิดเทียบคะแนนเต็มเป็น 300 คะแนน วิธีคิด 1. ให้นํา GPAX คูณกับ 75 เพื่อแปลงค่าผลการเรียนเฉลี่ยเป็นคะแนนเต็ม 300 คะแนน 2. ให้นําคะแนน GPAX ที่แปลงค่าเป็นคะแนนแล้วคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด จะได้เป็นคะแนน GPAX ตัวอย่าง ผู้สมัครมีผลการเรียนเฉลี่ย (GPAX) = 2.93 วิธีคิด ขั้นที่ 1 ใ ให้นํา GPAX คูณด้วย 75 จะได้คะแนนดังนี้ คะแนน GPAX (2.93 × 75) = 219.75 คะแนน ขั้นที่ 2 นําคะแนน GPAX คูณด้วยค่าน้ําหนักที่กําหนดไว้ คือ 20% คะแนน GPAX (219.75 × 20) = 4,395 คะแนน จากคะแนนเต็ม 6,000 คะแนน วิธีการคิดคะแนน O-NET 1. ให้นําคะแนนสอบวิชา O-NET แต่ละวิชาของผู้สมัครคูณกับ 3 (กําหนด ให้คะแนนเต็มแต่ละวิชาเท่ากับ 300) 2. นําคะแนนในข้อ 1 คูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 3. นําคะแนนแต่ละวิชาในข้อ 2 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ O-NET ตัวอย่าง ผู้มัครมีคะแนน O-NET ดังนี้ วิชา 01 = 63.00, 02 = 75.00, 03 = 71.00, 04 = 81.00 05 = 87.00 ขั้นที่ 1 นําคะแนนแต่ละวิชาของผู้สมัครคูณด้วย 3(ยกเว้นวิชา 06 ไม่ต่องคูณ) ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (63.00 × 3) = 189 วิชา 02 (75.00 × 3) = 225 วิชา 03 (71.00 × 3) = 213 วิชา 04 (81.00 × 3) = 243 วิชา 05 (87.00 × 3) = 261 ขั้นที่ 2 นําคะแนนที่คูณด้วย 3 คูณด้วยค่าน้ําหนัก ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (189 × 6) = 1,134 วิชา 02 (225 × 6) = 1,350 วิชา 03 (213 × 6) = 1,278 วิชา 04 (261 × 6) = 1,458 วิชา 05 (261 × 6) = 1,566 ขั้นที่ 3 นําคะแนน O-NET ที่คูณด้วยค่าน้ําหนักแล้ว มารวมกันดังนี้ คะแนน O-NET (1,134 + 1,350 + 1,278 + 1,458 + 1,566) คะแนนรวม O-NET = 6,786 คะแนน (จากคะแนน 9,000 คะแนน) วิธีการคิดคะแนน GAT, PAT 1. นําคะแนนสอบ GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 2. นําคะแนนแต่ละวิชาจากข้อ 1 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ GAT และ/ PATตัวอย่าง วิธีการคิดคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ต้องการเลือกคณะวิศวกรรมศาสตร์ กําหนดให้สอบ O-NET 5 กลุ่มสาระฯ คือ รหัส 01,02,03,04 และ 05 แต่ละวิชาให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 6 วิชา GAT (รหัส 85) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 2 (รหัส 72) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 3 (รหัส 73) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 20 ผู้สมัครมีคะแนนแต่ละวิชาดังนี้ วิธีคิดขั้นที่ 1 นําคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนัก คะแนน GAT (265 × 15) = 3,975 คะแนน คะแนน PAT 2 (210 × 15) = 3,150คะแนน คะแนน PAT 3 (250 × 20) = 5,000คะแนน คะแนนรวม GAT และ PAT (3,975 + 3,150 + 5,000) = 12,125 คะแนนการคิดคะแนนรวม คะแนนรวม = คะแนน GPAX + คะแนน O-NET + คะแนน GAT และ/หรือ คะแนน PAT(นำคะแนนทุกอย่างมาบวกกัน) นี่ก็คือวิธีการคิดคะแนนที่ใช้ในการคัดเลือกในระบบแอดมิชชันนะครับ น้องๆคนไหนอยากคิดคะแนนตัวเองก็ลองคิดได้เลยนะครับ แต่อย่าไปคิดบวกเกินให้ตัวเองละ มันไม่ดีเน้อ อิอิ การยื่นเลือกคณะ การยื่นเลือกคณะของแอดมิชชันนั้น ปีนี้จะเลือกกัน หลังจากที่น้องๆม.6 ได้ทราบผลคะแนนทุกตัวที่ใช้เป็นองค์ประกอบแล้ว โดยน้องๆจะสามารถเลือกได้ทั้งหมด 4 อันดับ จะเลือกคณะอะไรมหาวิทยาลัยใดก็ได้ มหาวิทยาลัยเดียวกันก็ได้ โดยจะสมัครทางเว๊บไซท์ http:/mytcas.com/โดยวิธีการคิดเลือกคณะจะเป็นดังนี้1.ระบบจะรวบรวมคะแนนอันดับ1 ของน้องๆ ทุกคนมาเรียงไว้จากมากไปหาน้อย เช่น คณะวิศวะ จุฬา รับ100 คน ระบบก็จะนำคนที่เลือกคณะวิศวะจุฬาทั้งหมดนำคะแนนมาเรียงกัน ใครอยู่อันดับ1-100 ก็คือติดไป *คนที่ไม่เลือกไม่มีสิทธิ์ติดนะครับ*2.ระบบจะเลือกคนที่มีคะแนนมากที่สุด เข้าสู่แต่ละคณะให้ครบตามจำนวนที่รับ คนที่คะแนนไม่ติดคณะใดเลย ถือว่าตกพิจารณาในอันดับแรก ก็จะถูกพิจารณาคะแนนในอันดับที่2 ต่อไป3.เมื่อพิจารณาแล้วพบว่าคะแนนในอันดับ2 สูงกว่าคนที่ผ่านการพิจารณาในรอบแรก คะแนนใหม่ก็จะนำมาแทรก ดังนั้นคนที่ได้คะแนนต่ำสุดในรอบแรกของแต่ละคณะก็จะตกไปถ้าน้องไม่ติดอันดับ 1 ระบบก็จะนำคะแนนของน้องไปแข่งที่อันดับต่อไป ไม่ติดก็จะนำไปอันดับต่อไปเรื่อยๆ จนถึงอันดับ4 โดยถ้าคะแนนถึงอันดับไหนก็จะติดอันดับนั้นเลย ไม่นำคะแนนไปแข่งในอันดับถัดไปและที่สำคัญ จำไว้เลยว่าคะแนนสำคัญกว่าอันดับ ถึงแม้เราเลือกคณะเดียวกับคู่แข่ง แต่เราอันดับ3 คู่แข่งเค้าเลือกไว้อันดับ 1 ถ้าเราไม่ได้ติดอันดับ 1และ 2 จนมาถึงอันดับ3 ถ้าเราคะแนนมากกว่าก็ไม่ต้องกังวลอะไรครับ เราก็ติดก่อนแน่นอน แม้ว่าเราจะเลือกคณะนี้ไว้เป็นอันดับ3ก็ตาม ** เพราะฉะนั้นอันดับแรกเลยของการเลือกคณะคือเลือกคณะที่เราอยากเรียนมากที่สุด อยากเข้าไปที่สุด ไว้อันดับ1 เท่านั้น!! เรียกว่าเลือกตามความฝันไปเลยครับ ไม่ต้องห่วงคะแนน อะไรใดๆทั้งสิ้น เพราะหากติดคณะที่เราไม่อยากเรียน จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ เพราะโอกาสมาจากการเลือก ถ้าเราไม่เลือกก็คือไม่มีโอกาส ถึงแม้บางคนจะมองว่าโอกาสจะน้อยนิด แต่ก็ยังถือว่ามีโอกาส ถ้าไม่เลือกเลยโอกาสคือเท่ากับ 0 ครับ!! – การเลือกคณะที่เรียงลงมานั้น ต้องเริ่มคำนึงถึงโอกาสสอบติดมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นการรองรับกัน ให้น้องๆลองนึกภาพถึงการตกจากที่สูงนะครับ คือตกลงมาแล้ว เบาะชั้น1 รับไม่อยู่ก็ยังมีชั้น2 ชั้น3 ชั้น4 รองรับต่อๆกัน ทำให้ไม่ตกถึงฟื้น(หลุดแอด) โดยการดูโอกาสสอบติดดูได้จากอะไร ส่วนมากที่น้องๆดูก็จะมีคะแนนขั้นต่ำของปีที่ผ่านๆมา แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้น้องๆสามารถนำคะแนนของน้องๆมาประเมินได้จากโปรแกรมประเมินโอกาสต่างๆที่ตอนนี้มีอยู่หลายเว๊บ ซึ่งในอนา่คตรับรองว่าจะมีของ dek ad แน่นอนครับ ยกตัวอย่างการเรียงอันดับ อันดับ1 อย่างที่บอก เลือกไปเลยครับ คณะที่ชอบที่รักที่สุด ไม่ต้องสนใจโอกาสสอบติด ส่วนคณะที่ตามมา ต้องเลือกคณะที่่โอกาสสอบติดเปอร์เซ็นสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่น อันดับ2 50% อันดับ3ควร 70-80% อันดับ4ควร 90% ขึ้นไป เอาให้ปลอดภัยที่สุด ให้นอนหลับสบาย แบบไร้กังวลมากที่สุด ประมาณนี้ครับ เพื่อเป็นการรองรับกันและความปลอดภัยป้องกันไม่ให้เกิดการหลุดแอด แต่ถ้าถามว่าถ้าอยากเสี่ยงได้ไหม ก็ต้องแยกเป็นกรณีๆไปเช่นกรณีเด็กซิ่ว มีที่เรียนมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว แต่อาจไม่ได้เรียนในคณะที่ชอบอยากมาซิ่วใหม่ ก็เสี่ยงไปเลยครับเต็มที่ หรือน้องๆที่อาจจะติดรับตรงไปแล้วแต่ยังสามารถมาแอดได้ ก็สามารถจัดการความเสี่ยงได้ด้วยตัวเองเต็มที่เช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญสุดไม่ว่าพร้อมเสี่ยงหรือไม่พร้อมเสี่ยงก็คือการวางอันดับ อย่างน้อยๆก็ควรวางอันดับให้เป็นไปตามโอกาสที่น่าจะติด เพราะถ้าวางไปมั่วๆมันก็จะเป็นการเสียอันดับและเสียโอกาสโดยใช่เหตุครับ มาถึงอีกคำถามที่น้องๆถามมามากที่สุดก็คือเรื่องแนวโน้มต่างๆกับจะเช็คได้อย่างไรว่าคณะไหนมีความเสี่ยงมากน้อยเท่าไหร่ เลือกคณะดูแต่คะแนนต่ำสุดได้มั้ย ดูได้ครับ แต่อย่าลืมว่าคะแนนต่ำสุดของคณะต่างๆเมื่อปีแล้ว ไม่ได้เป็นคะแนนที่ตั้งไว้นิ่งๆมันสามารถขยับไปขยับมาได้ เพราะคะแนนมันมาจากการเลือก เพราะฉะนั้นคะแนนมันสามารถขึ้นๆลงๆได้ตลอด ซึ่งสิ่งที่เป็นปัจจัยทำให้คะแนนเปลี่ยนไปจะได้แก่ . 1.คะแนนสอบในแต่ละปี คะแนนสอบในที่นี้หมายถึงคะแนนสอบในแต่ละปีของ O-NET หรือ GAT PAT เพราะถ้าคะแนนเฉลี่ยตัวไหนขึ้นโดดเด่นก็จะพอคาดการณ์ได้เลยครับว่าคณะที่ใช้คะแนนตั้งนั้นในสัดส่วนก็จะมีโอกาสที่คะแนนสอบจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน . 2.จำนวนผู้สมัคร(คนเลือกเยอะ) แน่นอนครับคณะไหนหากมีการแข่งขันสูงคือมีผู้สมัครเยอะ คณะนั้นก็จะกลายเป็นคณะยอดฮิตมีคะแนนสูงขึ้นอย่างแน่นอน หรือแค่การดูจำนวนผู้สมัครในบางวิชาเราก็พอจะคาดการณ์ได้แล้วว่าคณะไหนมีแนวโน้มที่คะแนนจะขึ้น . 3.จำนวนการรับนักศึกษา จำนวนรับก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจะส่งผลถึงคะแนนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะคณะที่มีการปรับจำนวนการรับให้น้อยลงจากปีก่อนเยอะ ก็มีแนวโน้มที่คะแนนปีนี้จะสูงขึ้นอย่างแน่นอน . 4.คณะที่มีการเปลี่ยนเกณฑ์ ในทุกๆปีที่มีคณะที่มีการเปลียนเกณฑ์จะมีการสวิงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นคณะพยาบาลเมื่อตอนปี57 ที่มีปรับสัดส่วนการใช้ PAT2 ให้มากขึ้น10% ทำให้คะแนนในปีนั้นพยาบาลต่ำลงมากค่อนข้างเยอะ และส่งมาถึงปีที่ผ่านมาที่ทำให้คะแนนของคณะพยาบาลสวิงขึ้นมาเพราะคนแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนต่ำนั่นเอง อย่างปีหน้าก็จะมีเปลี่ยนเกณฑ์ของคณะสัตวแพทย์ อันนี้ก็จะมีผลแน่นอน . 5.คณะที่มีคะแนนสวิง(คะแนนต่ำสุดปีที่ผ่านมา ขึ้นๆลงๆ) ถามว่าคณะที่มีคะแนนสวิงจะเกี่ยวอะไร จะเกี่ยวก็ตรงมันมีผลทางจิตวิทยาที่แหละครับ บางคณะที่คะแนนสูงมากๆสูงเกินไปที่ใจเด็กในปีนั้นจะยอมรับก็อาจจะลงลงต่ำเรี่ยดินได้ เพราะว่าการเจียมตัวที่น้องๆเห็นว่าคะแนนสูง คงจะเอื้อมไม่ถึงก็เลยเลือกที่จะมาเลือก ซึ่งตัวอย่างอย่างนี้ก็จะมีให้เห็นแทบทุกปีนะครับ หรือคณะที่คะแนนต่ำมากๆ ก็อาจจะสวิงขึ้นมาสูงปรี๊ดเลยก็ได้เพราะคนจะแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนมันต่ำมากนั่นเอง . 6.เทรนด์ เทรนด์ในที่นี้ก็จะหมายถึงกระแสความฮิตของวัยรุ่นน้องวัยแอดในแต่ละปีว่ามีความนิยมเรื่องอะไร เรื่องมีความนิยมในคณะอะไร ซึ่งในสมัยก่อนก็จะอาจจะเคยเห็นว่ากระแสคณะนิเทศมาแรงมากๆ หรือในช่วงแอดปี4-5ปีก่อนกระแสคณะในอาชีพเสรีอาเซียนจะกลายเป็นคณะฮิตขึ้นมา ซึ่งในช่วงนี้เท่าที่พี่แฮนด์ดูก็จะเป็นคณะทางสายครูกับทางคณะทางด้านภาษาอังกฤษ หรือเกี่ยวกับกระแสดิจิทัล ที่คนจะสมัครเยอะมีคะแนนสูงขึ้นมา >>>> น้องๆสามารถ ปรึกษาการเลือกคณะแอดมิชชัน ด้วยวิธีง่ายๆเพียง 1. เข้าไปใช้โปรแกรม EZ (EZ ADMISSION) โปรแกรมช่วย ADMISSION ที่มีความแม่นยำสูง ที่สำคัญ ใช้ฟรี!! ได้ที่ >> http://ezadmissions.eduzones.com/ 2. เซฟรูปผลการคำนวณเลือกคณะของน้องๆ 3. นำไปโพสต์ขอคำปรึกษาจากพี่แฮนด์ที่ Line@ P’Hand Eduzones แอดเลยที่ >> @handyeduzones ง่ายๆเพียงเท่านี้ รับรองแอดมิชชั่นปีนี้ น้องๆไม่หลุดชัวร์!!! ครับ ———————————————————————————————————– EZ Webmaster Related Posts สรุป! วิธีการสมัคร TCAS รอบ 3 ที่นั่งเหลือน้อย “โลจิสติกส์ สวนสุนันทา” เปิดรับภาคพิเศษ เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ จบป.ตรีได้ใน 2 ปีครึ่ง 10 สิ่งที่ #Dek67 ต้องรู้ !! ก่อนการสมัคร #TCAS67 รอบที่3 GATE PROJECT 8 The Infinity ติวฟรีติดมัธยม ปลุกพลังจากศิษย์เก่าที่สำเร็จหลากหลายสถาบันชั้นนำ ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี Post navigation PREVIOUS Previous post: ผู้นำนักศึกษา มจพ. ขานรับการจัดการเรียนการสอนออนไลน์สู้เชื้อโรค COVID-19NEXT Next post: E-Book Talk Like A Pro โดย อาจารย์วิริยะ ฤๅชัยพาณิชย์
รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH…
ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH…
สสวท. ชวนครูคณิตศาสตร์มัธยมอบรมฟรี สมัครได้ถึง 30 เม.ย.นี้ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” EZ WebmasterApril 29, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เชิญครูผู้สอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาและผู้สนใจ อบรมหัวข้อ “การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป GeoGebra เรื่อง เรขาคณิต” ในรูปแบบออนไลน์ สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 เมษายน 2567 อบรมระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2567 ลงทะเบียนและอบรมที่เว็บไซต์ระบบอบรมครู… ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี EZ WebmasterApril 26, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครูและเยาวชนสนุกเรียน สนุกรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี รับปิดเทอมนี้ที่ คลังความรู้ SciMath สสวท. พบสื่อหลากหลายทั้ง อีบุ๊กเพิ่มทักษะ คู่มือครู วีดิทัศน์ คลังภาพ โครงงาน บทเรียนน่ารู้ แผนการสอน แอปพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้พร้อมเกมฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหา เพลิดเพลินเรียนรู้ในโลกออนไลน์ฟรีที่คลังความรู้ SciMath สสวท. https://www.scimath.org สวัสดิการครูที่คุณครูควรมีคืออะไร จากการสำรวจของ EDUZONES EZ WebmasterApril 22, 2024 อาชีพครูเป็นอาชีพที่ถูกสังคมมองว่าเป็น “ผู้เสียสละ” ที่ต้องทำงานอุทิศตนเพื่อให้ลูกศิษย์ไปถึงฝั่งฝัน ซึ่งนอกจากงานด้านการสอนแล้วยังมีภาระงานอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานด้านเอกสาร การอบรม การทำกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หรือเตรียมการประเมินต่าง ๆ ในทางกลับกันสวัสดิการครูที่ควรได้รับกลับไม่สอดคล้องกับภาระงานของครู ซึ่งสวัสดิการข้าราชการ คือ ค่าตอบแทนที่ทางราชการจัดให้แก่ราชการในฐานะที่เป็นสมาชิกขององค์กร เพื่อช่วยให้ความมั่นคง และเป็นขวัญกำลังใจของข้าราชการในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล วันนี้เราได้รวบรวมความคิดเห็นของคุณครูในชุมชน EDUZONES หัวข้อ… สพฐ. จับมือ สสวท. อบรมครูออนไลน์เลือกได้ 3 หลักสูตร “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” รุ่นที่ 5 EZ WebmasterApril 18, 2024 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครู บุคลากรทางการศึกษาและผู้สนใจอบรมด้วยตนเองแบบออนไลน์ “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” (Coding for Teacher Plus: C4T Plus) รุ่นที่ 5 เลือกอบรมได้ 3 หลักสูตร คือ 1. การเขียนโปรแกรม Scratch 2. การเขียนโปรแกรมภาษา Python และ 3. วิทยาการข้อมูล… กิจกรรม ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี เวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation Disney ครั้งแรกในประเทศไทย EZ WebmasterApril 9, 2024 ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีกับเวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation ของ Disney กับงานแสดงนิทรรศการ Immersive Disney Animation ครั้งแรกในประเทศไทย (กรุงเทพฯ, 8 เมษายน 2567) เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางเพื่อออกไปผจญภัยครั้งสำคัญของชีวิตผ่านโลกที่น่าทึ่งของการ์ตูนดิสนีย์กับนิทรรศการที่น่าตื่นเต้นมากที่สุด Immersive… Search for: Search EZ Webmaster May 4, 2020 EZ Webmaster May 4, 2020 เคลียร์ทุกเรื่อง ที่มา/วิธีการคัดเลือก/วิธีการจัดอันดับ/อะไรคือปัจจัยเสี่ยง Admission 2563 แอดมิชชัน ถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตของน้องๆ ม.6 ในทุกๆปีนะครับ เพราะถือว่าเป็นสะพานในการพาน้องๆไปสู่ความฝันหรือเป้าหมายที่ต้องการหลังจากฝ่าฝันสอบมาอย่างดุเดือดตลอดปีการศึกษาของ ม.6 ซึ่งแน่นอนว่าน้องๆแต่ละคนก็ต้องการความกระจ่างและความมั่นใจมากที่สุดก่อนที่จะทำการเลือกคณะ ซึ่งก็มีหลากหลายคำถามเข้ามาที่พี่แฮนด์มากมายทั้งวิธีการการเลือก แนวโน้มแต่ละคณะ และคำถามอื่นๆ พี่แฮนด์จึงเขียนบทความเพื่อไขข้อสงสัยในหลายเรื่องสำหรับแอดมิชชัน แอดมิชชัน หรือน้องๆอาจจะเรียกว่าแอดกลาง ก็คือการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา (Central University Admissions System – CUAS ) จัดการคัดเลือกโดย ทปอ. นำมาใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2549 แทนการคัดเลือกแบบเอนทรานซ์นั่นเอง ซึ่งจุดประสงค์หลักที่นำระบบแอดมิชชันมาใช้แทนระบบเก่าอย่างเอนทรานซ์ก็เพราะว่า การเอนทรานซ์ จะเน้นในการสอบเพียงอย่างเดียว ทำให้เด็กๆทิ้งการเรียนในห้องเรียน ไปมุ่งมั่นติวกันเพียงอย่างเดียว แต่การแอดมิชชันจะมีการนำเกรดเฉลี่ยในโรงเรียนมาใช้ด้วย ทำให้เด็กๆต้องสนใจวิชาในห้องเรียนไม่สามารถทิ้งได้(แต่สุดท้ายเด็กไทยก็ยังติวกันเหมือนเดิมนะครับ อิๆ) องค์ประกอบของแอดมิชชัน แอดมิชชันจะมีคะแนนรวมทั้ง 30,000 คะแนน จากองค์ประกอบ4ตัว ดังต่อไปนี้ 1.GPAX คือเกรดเฉลี่ยสะสม 6 ภาคเรียน ตลอดหลักสูตรมัธยมปลาย ม.4-ม.6 ของนักเรียน โดย GPAX ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 20% หรือ6,000คะแนนทุกคณะ 2. O-NET (Ordinary National Education Test) หรือการสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน เป็นการสอบพร้อมทั้งหมดของเด็ก ม.6 ทั่วประเทศ จะมีการสอบทั้งหมด 5 วิชาได้แก่ คณิตศาสตร์,ภาษาอังกฤษ,ภาษาไทย,สังคม.วิทยาศาสตร์ โดย O-NET ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 30% หรือ9,000คะแนนทุกคณะ 3. GAT (Genetal Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทั่วไป คะแนนเต็ม 300 คะแนน ข้อสอบGAT ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ GAT ไทย ซึ่งจะเน้นเนื้อหาทางด้าน การอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ และ GAT ภาษาอังกฤษ อย่างละ 150 คะแนน โดย GAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 10-50% หรือ3,000-15,000คะแนนแล้วแต่คณะ 4. PAT (Professional Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทางวิชาชีพ เป็นข้อสอบที่ยากเพราะเป็นเนื่อหาที่ไม่มีสอนในโรงเรียน โดยจะมรทั้งหมด 7 PAT ด้วยกัน ได้แก่ PAT1 คณิตศาสตร์ PAT2 วิทยาศาสตร์ PAT3 พื้นฐานวิศวกรรม PAT4 พื้นฐานสถาปัตยกรรม PAT5 พื้นฐานความเป็นครู PAT6 ศิลปกรรม และPAT7วิชาด้านภาษาอื่นๆนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ โดย PAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 0-40% หรือ0-12,000คะแนนแล้วแต่คณะ สัดส่วนองค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะ สัดส่วนองค์ประกอบของแอดมิชชันจะแบ่งเป็น 13 กลุ่มดังนี้ **จุดสังเกตขององค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะขอให้น้องๆจำง่ายๆว่า GPAX(20%) และ O-NET(30%) มีสัดส่วนคงที่ทุกกลุ่มคณะ แต่ละกลุ่มแตกต่างกันตรง GAT และ PAT เท่านั้น สถิติผู้สมัครและสอบติดแอดมิชชัน พี่แฮนด์เอาสถิติตั้งแต่ปี 53 ที่เริ่มใช้ GAT PAT เป็นปีแรก มาให้ดูกันนะครับ ปี 53 จำนวนผู้สมัคร 98,143 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,003 คน หลุดแอดมิชชัน 28,140 คน ปี 54 จำนวนผู้สมัคร 123,260 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 78,096 คน หลุดแอดมิชชัน 45,164 คน ปี 55 จำนวนผู้สมัคร 122,169 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 82,102 คน หลุดแอดมิชชัน 40,067 คน ปี 56 จำนวนผู้สมัคร 113,400 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 83,955 คน หลุดแอดมิชชัน 29,445 คน ปี 57 จำนวนผู้สมัคร 99,767 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 80,880 คน หลุดแอดมิชชัน 18,887 คน ปี 58 จำนวนผู้สมัคร 124,648 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 91,813 คน หลุดแอดมิชชัน 32,835 คน ปี 59 จำนวนผู้สมัคร 105,046 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 85,834 คน หลุดแอดมิชชัน 19,212 คน ปี 60 จำนวนผู้สมัคร 81,232 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,689 คน หลุดแอดมิชชัน 10,543 คน ปี 61 จำนวนผู้สมัคร 54,782 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 44,476 คน หลุดแอดมิชชัน 10,306 คน ปี 62 จำนวนผู้สมัคร 122,523 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 52,315 คน หลุดแอดมิชชัน 20,093 คน เห็นจำนวนสถิติอย่างงี้ก็เพิ่งอย่าไปเครียดอะไรนะครับ เพราะที่จริงแล้วยอดผู้สมัครทุกปีนั้น น้อยกว่ายอดรับตามระเบียบการทุกปี แต่ที่มีคนไม่ติดนั้นก็เพราะว่า ส่วนใหญ่ก็จะไปเลือกคณะเดียวกันซะเยอะ ทำให้มีคนหลุดแอดทุกปี และที่สำคัญจะเห็นเลยว่าจำนวนนั้นลดลงเรื่อยๆทุกปี การคิดคะแนนแอดมิชชัน การคิดคะแนน GPAX ใช้ GPAX ร้อยละ 20 GPAX ให้คิดเทียบคะแนนเต็มเป็น 300 คะแนน วิธีคิด 1. ให้นํา GPAX คูณกับ 75 เพื่อแปลงค่าผลการเรียนเฉลี่ยเป็นคะแนนเต็ม 300 คะแนน 2. ให้นําคะแนน GPAX ที่แปลงค่าเป็นคะแนนแล้วคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด จะได้เป็นคะแนน GPAX ตัวอย่าง ผู้สมัครมีผลการเรียนเฉลี่ย (GPAX) = 2.93 วิธีคิด ขั้นที่ 1 ใ ให้นํา GPAX คูณด้วย 75 จะได้คะแนนดังนี้ คะแนน GPAX (2.93 × 75) = 219.75 คะแนน ขั้นที่ 2 นําคะแนน GPAX คูณด้วยค่าน้ําหนักที่กําหนดไว้ คือ 20% คะแนน GPAX (219.75 × 20) = 4,395 คะแนน จากคะแนนเต็ม 6,000 คะแนน วิธีการคิดคะแนน O-NET 1. ให้นําคะแนนสอบวิชา O-NET แต่ละวิชาของผู้สมัครคูณกับ 3 (กําหนด ให้คะแนนเต็มแต่ละวิชาเท่ากับ 300) 2. นําคะแนนในข้อ 1 คูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 3. นําคะแนนแต่ละวิชาในข้อ 2 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ O-NET ตัวอย่าง ผู้มัครมีคะแนน O-NET ดังนี้ วิชา 01 = 63.00, 02 = 75.00, 03 = 71.00, 04 = 81.00 05 = 87.00 ขั้นที่ 1 นําคะแนนแต่ละวิชาของผู้สมัครคูณด้วย 3(ยกเว้นวิชา 06 ไม่ต่องคูณ) ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (63.00 × 3) = 189 วิชา 02 (75.00 × 3) = 225 วิชา 03 (71.00 × 3) = 213 วิชา 04 (81.00 × 3) = 243 วิชา 05 (87.00 × 3) = 261 ขั้นที่ 2 นําคะแนนที่คูณด้วย 3 คูณด้วยค่าน้ําหนัก ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (189 × 6) = 1,134 วิชา 02 (225 × 6) = 1,350 วิชา 03 (213 × 6) = 1,278 วิชา 04 (261 × 6) = 1,458 วิชา 05 (261 × 6) = 1,566 ขั้นที่ 3 นําคะแนน O-NET ที่คูณด้วยค่าน้ําหนักแล้ว มารวมกันดังนี้ คะแนน O-NET (1,134 + 1,350 + 1,278 + 1,458 + 1,566) คะแนนรวม O-NET = 6,786 คะแนน (จากคะแนน 9,000 คะแนน) วิธีการคิดคะแนน GAT, PAT 1. นําคะแนนสอบ GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 2. นําคะแนนแต่ละวิชาจากข้อ 1 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ GAT และ/ PATตัวอย่าง วิธีการคิดคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ต้องการเลือกคณะวิศวกรรมศาสตร์ กําหนดให้สอบ O-NET 5 กลุ่มสาระฯ คือ รหัส 01,02,03,04 และ 05 แต่ละวิชาให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 6 วิชา GAT (รหัส 85) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 2 (รหัส 72) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 3 (รหัส 73) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 20 ผู้สมัครมีคะแนนแต่ละวิชาดังนี้ วิธีคิดขั้นที่ 1 นําคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนัก คะแนน GAT (265 × 15) = 3,975 คะแนน คะแนน PAT 2 (210 × 15) = 3,150คะแนน คะแนน PAT 3 (250 × 20) = 5,000คะแนน คะแนนรวม GAT และ PAT (3,975 + 3,150 + 5,000) = 12,125 คะแนนการคิดคะแนนรวม คะแนนรวม = คะแนน GPAX + คะแนน O-NET + คะแนน GAT และ/หรือ คะแนน PAT(นำคะแนนทุกอย่างมาบวกกัน) นี่ก็คือวิธีการคิดคะแนนที่ใช้ในการคัดเลือกในระบบแอดมิชชันนะครับ น้องๆคนไหนอยากคิดคะแนนตัวเองก็ลองคิดได้เลยนะครับ แต่อย่าไปคิดบวกเกินให้ตัวเองละ มันไม่ดีเน้อ อิอิ การยื่นเลือกคณะ การยื่นเลือกคณะของแอดมิชชันนั้น ปีนี้จะเลือกกัน หลังจากที่น้องๆม.6 ได้ทราบผลคะแนนทุกตัวที่ใช้เป็นองค์ประกอบแล้ว โดยน้องๆจะสามารถเลือกได้ทั้งหมด 4 อันดับ จะเลือกคณะอะไรมหาวิทยาลัยใดก็ได้ มหาวิทยาลัยเดียวกันก็ได้ โดยจะสมัครทางเว๊บไซท์ http:/mytcas.com/โดยวิธีการคิดเลือกคณะจะเป็นดังนี้1.ระบบจะรวบรวมคะแนนอันดับ1 ของน้องๆ ทุกคนมาเรียงไว้จากมากไปหาน้อย เช่น คณะวิศวะ จุฬา รับ100 คน ระบบก็จะนำคนที่เลือกคณะวิศวะจุฬาทั้งหมดนำคะแนนมาเรียงกัน ใครอยู่อันดับ1-100 ก็คือติดไป *คนที่ไม่เลือกไม่มีสิทธิ์ติดนะครับ*2.ระบบจะเลือกคนที่มีคะแนนมากที่สุด เข้าสู่แต่ละคณะให้ครบตามจำนวนที่รับ คนที่คะแนนไม่ติดคณะใดเลย ถือว่าตกพิจารณาในอันดับแรก ก็จะถูกพิจารณาคะแนนในอันดับที่2 ต่อไป3.เมื่อพิจารณาแล้วพบว่าคะแนนในอันดับ2 สูงกว่าคนที่ผ่านการพิจารณาในรอบแรก คะแนนใหม่ก็จะนำมาแทรก ดังนั้นคนที่ได้คะแนนต่ำสุดในรอบแรกของแต่ละคณะก็จะตกไปถ้าน้องไม่ติดอันดับ 1 ระบบก็จะนำคะแนนของน้องไปแข่งที่อันดับต่อไป ไม่ติดก็จะนำไปอันดับต่อไปเรื่อยๆ จนถึงอันดับ4 โดยถ้าคะแนนถึงอันดับไหนก็จะติดอันดับนั้นเลย ไม่นำคะแนนไปแข่งในอันดับถัดไปและที่สำคัญ จำไว้เลยว่าคะแนนสำคัญกว่าอันดับ ถึงแม้เราเลือกคณะเดียวกับคู่แข่ง แต่เราอันดับ3 คู่แข่งเค้าเลือกไว้อันดับ 1 ถ้าเราไม่ได้ติดอันดับ 1และ 2 จนมาถึงอันดับ3 ถ้าเราคะแนนมากกว่าก็ไม่ต้องกังวลอะไรครับ เราก็ติดก่อนแน่นอน แม้ว่าเราจะเลือกคณะนี้ไว้เป็นอันดับ3ก็ตาม ** เพราะฉะนั้นอันดับแรกเลยของการเลือกคณะคือเลือกคณะที่เราอยากเรียนมากที่สุด อยากเข้าไปที่สุด ไว้อันดับ1 เท่านั้น!! เรียกว่าเลือกตามความฝันไปเลยครับ ไม่ต้องห่วงคะแนน อะไรใดๆทั้งสิ้น เพราะหากติดคณะที่เราไม่อยากเรียน จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ เพราะโอกาสมาจากการเลือก ถ้าเราไม่เลือกก็คือไม่มีโอกาส ถึงแม้บางคนจะมองว่าโอกาสจะน้อยนิด แต่ก็ยังถือว่ามีโอกาส ถ้าไม่เลือกเลยโอกาสคือเท่ากับ 0 ครับ!! – การเลือกคณะที่เรียงลงมานั้น ต้องเริ่มคำนึงถึงโอกาสสอบติดมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นการรองรับกัน ให้น้องๆลองนึกภาพถึงการตกจากที่สูงนะครับ คือตกลงมาแล้ว เบาะชั้น1 รับไม่อยู่ก็ยังมีชั้น2 ชั้น3 ชั้น4 รองรับต่อๆกัน ทำให้ไม่ตกถึงฟื้น(หลุดแอด) โดยการดูโอกาสสอบติดดูได้จากอะไร ส่วนมากที่น้องๆดูก็จะมีคะแนนขั้นต่ำของปีที่ผ่านๆมา แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้น้องๆสามารถนำคะแนนของน้องๆมาประเมินได้จากโปรแกรมประเมินโอกาสต่างๆที่ตอนนี้มีอยู่หลายเว๊บ ซึ่งในอนา่คตรับรองว่าจะมีของ dek ad แน่นอนครับ ยกตัวอย่างการเรียงอันดับ อันดับ1 อย่างที่บอก เลือกไปเลยครับ คณะที่ชอบที่รักที่สุด ไม่ต้องสนใจโอกาสสอบติด ส่วนคณะที่ตามมา ต้องเลือกคณะที่่โอกาสสอบติดเปอร์เซ็นสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่น อันดับ2 50% อันดับ3ควร 70-80% อันดับ4ควร 90% ขึ้นไป เอาให้ปลอดภัยที่สุด ให้นอนหลับสบาย แบบไร้กังวลมากที่สุด ประมาณนี้ครับ เพื่อเป็นการรองรับกันและความปลอดภัยป้องกันไม่ให้เกิดการหลุดแอด แต่ถ้าถามว่าถ้าอยากเสี่ยงได้ไหม ก็ต้องแยกเป็นกรณีๆไปเช่นกรณีเด็กซิ่ว มีที่เรียนมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว แต่อาจไม่ได้เรียนในคณะที่ชอบอยากมาซิ่วใหม่ ก็เสี่ยงไปเลยครับเต็มที่ หรือน้องๆที่อาจจะติดรับตรงไปแล้วแต่ยังสามารถมาแอดได้ ก็สามารถจัดการความเสี่ยงได้ด้วยตัวเองเต็มที่เช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญสุดไม่ว่าพร้อมเสี่ยงหรือไม่พร้อมเสี่ยงก็คือการวางอันดับ อย่างน้อยๆก็ควรวางอันดับให้เป็นไปตามโอกาสที่น่าจะติด เพราะถ้าวางไปมั่วๆมันก็จะเป็นการเสียอันดับและเสียโอกาสโดยใช่เหตุครับ มาถึงอีกคำถามที่น้องๆถามมามากที่สุดก็คือเรื่องแนวโน้มต่างๆกับจะเช็คได้อย่างไรว่าคณะไหนมีความเสี่ยงมากน้อยเท่าไหร่ เลือกคณะดูแต่คะแนนต่ำสุดได้มั้ย ดูได้ครับ แต่อย่าลืมว่าคะแนนต่ำสุดของคณะต่างๆเมื่อปีแล้ว ไม่ได้เป็นคะแนนที่ตั้งไว้นิ่งๆมันสามารถขยับไปขยับมาได้ เพราะคะแนนมันมาจากการเลือก เพราะฉะนั้นคะแนนมันสามารถขึ้นๆลงๆได้ตลอด ซึ่งสิ่งที่เป็นปัจจัยทำให้คะแนนเปลี่ยนไปจะได้แก่ . 1.คะแนนสอบในแต่ละปี คะแนนสอบในที่นี้หมายถึงคะแนนสอบในแต่ละปีของ O-NET หรือ GAT PAT เพราะถ้าคะแนนเฉลี่ยตัวไหนขึ้นโดดเด่นก็จะพอคาดการณ์ได้เลยครับว่าคณะที่ใช้คะแนนตั้งนั้นในสัดส่วนก็จะมีโอกาสที่คะแนนสอบจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน . 2.จำนวนผู้สมัคร(คนเลือกเยอะ) แน่นอนครับคณะไหนหากมีการแข่งขันสูงคือมีผู้สมัครเยอะ คณะนั้นก็จะกลายเป็นคณะยอดฮิตมีคะแนนสูงขึ้นอย่างแน่นอน หรือแค่การดูจำนวนผู้สมัครในบางวิชาเราก็พอจะคาดการณ์ได้แล้วว่าคณะไหนมีแนวโน้มที่คะแนนจะขึ้น . 3.จำนวนการรับนักศึกษา จำนวนรับก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจะส่งผลถึงคะแนนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะคณะที่มีการปรับจำนวนการรับให้น้อยลงจากปีก่อนเยอะ ก็มีแนวโน้มที่คะแนนปีนี้จะสูงขึ้นอย่างแน่นอน . 4.คณะที่มีการเปลี่ยนเกณฑ์ ในทุกๆปีที่มีคณะที่มีการเปลียนเกณฑ์จะมีการสวิงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นคณะพยาบาลเมื่อตอนปี57 ที่มีปรับสัดส่วนการใช้ PAT2 ให้มากขึ้น10% ทำให้คะแนนในปีนั้นพยาบาลต่ำลงมากค่อนข้างเยอะ และส่งมาถึงปีที่ผ่านมาที่ทำให้คะแนนของคณะพยาบาลสวิงขึ้นมาเพราะคนแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนต่ำนั่นเอง อย่างปีหน้าก็จะมีเปลี่ยนเกณฑ์ของคณะสัตวแพทย์ อันนี้ก็จะมีผลแน่นอน . 5.คณะที่มีคะแนนสวิง(คะแนนต่ำสุดปีที่ผ่านมา ขึ้นๆลงๆ) ถามว่าคณะที่มีคะแนนสวิงจะเกี่ยวอะไร จะเกี่ยวก็ตรงมันมีผลทางจิตวิทยาที่แหละครับ บางคณะที่คะแนนสูงมากๆสูงเกินไปที่ใจเด็กในปีนั้นจะยอมรับก็อาจจะลงลงต่ำเรี่ยดินได้ เพราะว่าการเจียมตัวที่น้องๆเห็นว่าคะแนนสูง คงจะเอื้อมไม่ถึงก็เลยเลือกที่จะมาเลือก ซึ่งตัวอย่างอย่างนี้ก็จะมีให้เห็นแทบทุกปีนะครับ หรือคณะที่คะแนนต่ำมากๆ ก็อาจจะสวิงขึ้นมาสูงปรี๊ดเลยก็ได้เพราะคนจะแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนมันต่ำมากนั่นเอง . 6.เทรนด์ เทรนด์ในที่นี้ก็จะหมายถึงกระแสความฮิตของวัยรุ่นน้องวัยแอดในแต่ละปีว่ามีความนิยมเรื่องอะไร เรื่องมีความนิยมในคณะอะไร ซึ่งในสมัยก่อนก็จะอาจจะเคยเห็นว่ากระแสคณะนิเทศมาแรงมากๆ หรือในช่วงแอดปี4-5ปีก่อนกระแสคณะในอาชีพเสรีอาเซียนจะกลายเป็นคณะฮิตขึ้นมา ซึ่งในช่วงนี้เท่าที่พี่แฮนด์ดูก็จะเป็นคณะทางสายครูกับทางคณะทางด้านภาษาอังกฤษ หรือเกี่ยวกับกระแสดิจิทัล ที่คนจะสมัครเยอะมีคะแนนสูงขึ้นมา >>>> น้องๆสามารถ ปรึกษาการเลือกคณะแอดมิชชัน ด้วยวิธีง่ายๆเพียง 1. เข้าไปใช้โปรแกรม EZ (EZ ADMISSION) โปรแกรมช่วย ADMISSION ที่มีความแม่นยำสูง ที่สำคัญ ใช้ฟรี!! ได้ที่ >> http://ezadmissions.eduzones.com/ 2. เซฟรูปผลการคำนวณเลือกคณะของน้องๆ 3. นำไปโพสต์ขอคำปรึกษาจากพี่แฮนด์ที่ Line@ P’Hand Eduzones แอดเลยที่ >> @handyeduzones ง่ายๆเพียงเท่านี้ รับรองแอดมิชชั่นปีนี้ น้องๆไม่หลุดชัวร์!!! ครับ ———————————————————————————————————– EZ Webmaster Related Posts สรุป! วิธีการสมัคร TCAS รอบ 3 ที่นั่งเหลือน้อย “โลจิสติกส์ สวนสุนันทา” เปิดรับภาคพิเศษ เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ จบป.ตรีได้ใน 2 ปีครึ่ง 10 สิ่งที่ #Dek67 ต้องรู้ !! ก่อนการสมัคร #TCAS67 รอบที่3 GATE PROJECT 8 The Infinity ติวฟรีติดมัธยม ปลุกพลังจากศิษย์เก่าที่สำเร็จหลากหลายสถาบันชั้นนำ ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี Post navigation PREVIOUS Previous post: ผู้นำนักศึกษา มจพ. ขานรับการจัดการเรียนการสอนออนไลน์สู้เชื้อโรค COVID-19NEXT Next post: E-Book Talk Like A Pro โดย อาจารย์วิริยะ ฤๅชัยพาณิชย์
ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี EZ WebmasterApril 26, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครูและเยาวชนสนุกเรียน สนุกรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี รับปิดเทอมนี้ที่ คลังความรู้ SciMath สสวท. พบสื่อหลากหลายทั้ง อีบุ๊กเพิ่มทักษะ คู่มือครู วีดิทัศน์ คลังภาพ โครงงาน บทเรียนน่ารู้ แผนการสอน แอปพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้พร้อมเกมฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหา เพลิดเพลินเรียนรู้ในโลกออนไลน์ฟรีที่คลังความรู้ SciMath สสวท. https://www.scimath.org สวัสดิการครูที่คุณครูควรมีคืออะไร จากการสำรวจของ EDUZONES EZ WebmasterApril 22, 2024 อาชีพครูเป็นอาชีพที่ถูกสังคมมองว่าเป็น “ผู้เสียสละ” ที่ต้องทำงานอุทิศตนเพื่อให้ลูกศิษย์ไปถึงฝั่งฝัน ซึ่งนอกจากงานด้านการสอนแล้วยังมีภาระงานอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานด้านเอกสาร การอบรม การทำกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หรือเตรียมการประเมินต่าง ๆ ในทางกลับกันสวัสดิการครูที่ควรได้รับกลับไม่สอดคล้องกับภาระงานของครู ซึ่งสวัสดิการข้าราชการ คือ ค่าตอบแทนที่ทางราชการจัดให้แก่ราชการในฐานะที่เป็นสมาชิกขององค์กร เพื่อช่วยให้ความมั่นคง และเป็นขวัญกำลังใจของข้าราชการในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล วันนี้เราได้รวบรวมความคิดเห็นของคุณครูในชุมชน EDUZONES หัวข้อ… สพฐ. จับมือ สสวท. อบรมครูออนไลน์เลือกได้ 3 หลักสูตร “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” รุ่นที่ 5 EZ WebmasterApril 18, 2024 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครู บุคลากรทางการศึกษาและผู้สนใจอบรมด้วยตนเองแบบออนไลน์ “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” (Coding for Teacher Plus: C4T Plus) รุ่นที่ 5 เลือกอบรมได้ 3 หลักสูตร คือ 1. การเขียนโปรแกรม Scratch 2. การเขียนโปรแกรมภาษา Python และ 3. วิทยาการข้อมูล… กิจกรรม ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี เวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation Disney ครั้งแรกในประเทศไทย EZ WebmasterApril 9, 2024 ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีกับเวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation ของ Disney กับงานแสดงนิทรรศการ Immersive Disney Animation ครั้งแรกในประเทศไทย (กรุงเทพฯ, 8 เมษายน 2567) เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางเพื่อออกไปผจญภัยครั้งสำคัญของชีวิตผ่านโลกที่น่าทึ่งของการ์ตูนดิสนีย์กับนิทรรศการที่น่าตื่นเต้นมากที่สุด Immersive… Search for: Search EZ Webmaster May 4, 2020 EZ Webmaster May 4, 2020 เคลียร์ทุกเรื่อง ที่มา/วิธีการคัดเลือก/วิธีการจัดอันดับ/อะไรคือปัจจัยเสี่ยง Admission 2563 แอดมิชชัน ถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตของน้องๆ ม.6 ในทุกๆปีนะครับ เพราะถือว่าเป็นสะพานในการพาน้องๆไปสู่ความฝันหรือเป้าหมายที่ต้องการหลังจากฝ่าฝันสอบมาอย่างดุเดือดตลอดปีการศึกษาของ ม.6 ซึ่งแน่นอนว่าน้องๆแต่ละคนก็ต้องการความกระจ่างและความมั่นใจมากที่สุดก่อนที่จะทำการเลือกคณะ ซึ่งก็มีหลากหลายคำถามเข้ามาที่พี่แฮนด์มากมายทั้งวิธีการการเลือก แนวโน้มแต่ละคณะ และคำถามอื่นๆ พี่แฮนด์จึงเขียนบทความเพื่อไขข้อสงสัยในหลายเรื่องสำหรับแอดมิชชัน แอดมิชชัน หรือน้องๆอาจจะเรียกว่าแอดกลาง ก็คือการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา (Central University Admissions System – CUAS ) จัดการคัดเลือกโดย ทปอ. นำมาใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2549 แทนการคัดเลือกแบบเอนทรานซ์นั่นเอง ซึ่งจุดประสงค์หลักที่นำระบบแอดมิชชันมาใช้แทนระบบเก่าอย่างเอนทรานซ์ก็เพราะว่า การเอนทรานซ์ จะเน้นในการสอบเพียงอย่างเดียว ทำให้เด็กๆทิ้งการเรียนในห้องเรียน ไปมุ่งมั่นติวกันเพียงอย่างเดียว แต่การแอดมิชชันจะมีการนำเกรดเฉลี่ยในโรงเรียนมาใช้ด้วย ทำให้เด็กๆต้องสนใจวิชาในห้องเรียนไม่สามารถทิ้งได้(แต่สุดท้ายเด็กไทยก็ยังติวกันเหมือนเดิมนะครับ อิๆ) องค์ประกอบของแอดมิชชัน แอดมิชชันจะมีคะแนนรวมทั้ง 30,000 คะแนน จากองค์ประกอบ4ตัว ดังต่อไปนี้ 1.GPAX คือเกรดเฉลี่ยสะสม 6 ภาคเรียน ตลอดหลักสูตรมัธยมปลาย ม.4-ม.6 ของนักเรียน โดย GPAX ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 20% หรือ6,000คะแนนทุกคณะ 2. O-NET (Ordinary National Education Test) หรือการสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน เป็นการสอบพร้อมทั้งหมดของเด็ก ม.6 ทั่วประเทศ จะมีการสอบทั้งหมด 5 วิชาได้แก่ คณิตศาสตร์,ภาษาอังกฤษ,ภาษาไทย,สังคม.วิทยาศาสตร์ โดย O-NET ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 30% หรือ9,000คะแนนทุกคณะ 3. GAT (Genetal Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทั่วไป คะแนนเต็ม 300 คะแนน ข้อสอบGAT ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ GAT ไทย ซึ่งจะเน้นเนื้อหาทางด้าน การอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ และ GAT ภาษาอังกฤษ อย่างละ 150 คะแนน โดย GAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 10-50% หรือ3,000-15,000คะแนนแล้วแต่คณะ 4. PAT (Professional Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทางวิชาชีพ เป็นข้อสอบที่ยากเพราะเป็นเนื่อหาที่ไม่มีสอนในโรงเรียน โดยจะมรทั้งหมด 7 PAT ด้วยกัน ได้แก่ PAT1 คณิตศาสตร์ PAT2 วิทยาศาสตร์ PAT3 พื้นฐานวิศวกรรม PAT4 พื้นฐานสถาปัตยกรรม PAT5 พื้นฐานความเป็นครู PAT6 ศิลปกรรม และPAT7วิชาด้านภาษาอื่นๆนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ โดย PAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 0-40% หรือ0-12,000คะแนนแล้วแต่คณะ สัดส่วนองค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะ สัดส่วนองค์ประกอบของแอดมิชชันจะแบ่งเป็น 13 กลุ่มดังนี้ **จุดสังเกตขององค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะขอให้น้องๆจำง่ายๆว่า GPAX(20%) และ O-NET(30%) มีสัดส่วนคงที่ทุกกลุ่มคณะ แต่ละกลุ่มแตกต่างกันตรง GAT และ PAT เท่านั้น สถิติผู้สมัครและสอบติดแอดมิชชัน พี่แฮนด์เอาสถิติตั้งแต่ปี 53 ที่เริ่มใช้ GAT PAT เป็นปีแรก มาให้ดูกันนะครับ ปี 53 จำนวนผู้สมัคร 98,143 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,003 คน หลุดแอดมิชชัน 28,140 คน ปี 54 จำนวนผู้สมัคร 123,260 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 78,096 คน หลุดแอดมิชชัน 45,164 คน ปี 55 จำนวนผู้สมัคร 122,169 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 82,102 คน หลุดแอดมิชชัน 40,067 คน ปี 56 จำนวนผู้สมัคร 113,400 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 83,955 คน หลุดแอดมิชชัน 29,445 คน ปี 57 จำนวนผู้สมัคร 99,767 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 80,880 คน หลุดแอดมิชชัน 18,887 คน ปี 58 จำนวนผู้สมัคร 124,648 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 91,813 คน หลุดแอดมิชชัน 32,835 คน ปี 59 จำนวนผู้สมัคร 105,046 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 85,834 คน หลุดแอดมิชชัน 19,212 คน ปี 60 จำนวนผู้สมัคร 81,232 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,689 คน หลุดแอดมิชชัน 10,543 คน ปี 61 จำนวนผู้สมัคร 54,782 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 44,476 คน หลุดแอดมิชชัน 10,306 คน ปี 62 จำนวนผู้สมัคร 122,523 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 52,315 คน หลุดแอดมิชชัน 20,093 คน เห็นจำนวนสถิติอย่างงี้ก็เพิ่งอย่าไปเครียดอะไรนะครับ เพราะที่จริงแล้วยอดผู้สมัครทุกปีนั้น น้อยกว่ายอดรับตามระเบียบการทุกปี แต่ที่มีคนไม่ติดนั้นก็เพราะว่า ส่วนใหญ่ก็จะไปเลือกคณะเดียวกันซะเยอะ ทำให้มีคนหลุดแอดทุกปี และที่สำคัญจะเห็นเลยว่าจำนวนนั้นลดลงเรื่อยๆทุกปี การคิดคะแนนแอดมิชชัน การคิดคะแนน GPAX ใช้ GPAX ร้อยละ 20 GPAX ให้คิดเทียบคะแนนเต็มเป็น 300 คะแนน วิธีคิด 1. ให้นํา GPAX คูณกับ 75 เพื่อแปลงค่าผลการเรียนเฉลี่ยเป็นคะแนนเต็ม 300 คะแนน 2. ให้นําคะแนน GPAX ที่แปลงค่าเป็นคะแนนแล้วคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด จะได้เป็นคะแนน GPAX ตัวอย่าง ผู้สมัครมีผลการเรียนเฉลี่ย (GPAX) = 2.93 วิธีคิด ขั้นที่ 1 ใ ให้นํา GPAX คูณด้วย 75 จะได้คะแนนดังนี้ คะแนน GPAX (2.93 × 75) = 219.75 คะแนน ขั้นที่ 2 นําคะแนน GPAX คูณด้วยค่าน้ําหนักที่กําหนดไว้ คือ 20% คะแนน GPAX (219.75 × 20) = 4,395 คะแนน จากคะแนนเต็ม 6,000 คะแนน วิธีการคิดคะแนน O-NET 1. ให้นําคะแนนสอบวิชา O-NET แต่ละวิชาของผู้สมัครคูณกับ 3 (กําหนด ให้คะแนนเต็มแต่ละวิชาเท่ากับ 300) 2. นําคะแนนในข้อ 1 คูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 3. นําคะแนนแต่ละวิชาในข้อ 2 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ O-NET ตัวอย่าง ผู้มัครมีคะแนน O-NET ดังนี้ วิชา 01 = 63.00, 02 = 75.00, 03 = 71.00, 04 = 81.00 05 = 87.00 ขั้นที่ 1 นําคะแนนแต่ละวิชาของผู้สมัครคูณด้วย 3(ยกเว้นวิชา 06 ไม่ต่องคูณ) ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (63.00 × 3) = 189 วิชา 02 (75.00 × 3) = 225 วิชา 03 (71.00 × 3) = 213 วิชา 04 (81.00 × 3) = 243 วิชา 05 (87.00 × 3) = 261 ขั้นที่ 2 นําคะแนนที่คูณด้วย 3 คูณด้วยค่าน้ําหนัก ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (189 × 6) = 1,134 วิชา 02 (225 × 6) = 1,350 วิชา 03 (213 × 6) = 1,278 วิชา 04 (261 × 6) = 1,458 วิชา 05 (261 × 6) = 1,566 ขั้นที่ 3 นําคะแนน O-NET ที่คูณด้วยค่าน้ําหนักแล้ว มารวมกันดังนี้ คะแนน O-NET (1,134 + 1,350 + 1,278 + 1,458 + 1,566) คะแนนรวม O-NET = 6,786 คะแนน (จากคะแนน 9,000 คะแนน) วิธีการคิดคะแนน GAT, PAT 1. นําคะแนนสอบ GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 2. นําคะแนนแต่ละวิชาจากข้อ 1 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ GAT และ/ PATตัวอย่าง วิธีการคิดคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ต้องการเลือกคณะวิศวกรรมศาสตร์ กําหนดให้สอบ O-NET 5 กลุ่มสาระฯ คือ รหัส 01,02,03,04 และ 05 แต่ละวิชาให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 6 วิชา GAT (รหัส 85) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 2 (รหัส 72) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 3 (รหัส 73) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 20 ผู้สมัครมีคะแนนแต่ละวิชาดังนี้ วิธีคิดขั้นที่ 1 นําคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนัก คะแนน GAT (265 × 15) = 3,975 คะแนน คะแนน PAT 2 (210 × 15) = 3,150คะแนน คะแนน PAT 3 (250 × 20) = 5,000คะแนน คะแนนรวม GAT และ PAT (3,975 + 3,150 + 5,000) = 12,125 คะแนนการคิดคะแนนรวม คะแนนรวม = คะแนน GPAX + คะแนน O-NET + คะแนน GAT และ/หรือ คะแนน PAT(นำคะแนนทุกอย่างมาบวกกัน) นี่ก็คือวิธีการคิดคะแนนที่ใช้ในการคัดเลือกในระบบแอดมิชชันนะครับ น้องๆคนไหนอยากคิดคะแนนตัวเองก็ลองคิดได้เลยนะครับ แต่อย่าไปคิดบวกเกินให้ตัวเองละ มันไม่ดีเน้อ อิอิ การยื่นเลือกคณะ การยื่นเลือกคณะของแอดมิชชันนั้น ปีนี้จะเลือกกัน หลังจากที่น้องๆม.6 ได้ทราบผลคะแนนทุกตัวที่ใช้เป็นองค์ประกอบแล้ว โดยน้องๆจะสามารถเลือกได้ทั้งหมด 4 อันดับ จะเลือกคณะอะไรมหาวิทยาลัยใดก็ได้ มหาวิทยาลัยเดียวกันก็ได้ โดยจะสมัครทางเว๊บไซท์ http:/mytcas.com/โดยวิธีการคิดเลือกคณะจะเป็นดังนี้1.ระบบจะรวบรวมคะแนนอันดับ1 ของน้องๆ ทุกคนมาเรียงไว้จากมากไปหาน้อย เช่น คณะวิศวะ จุฬา รับ100 คน ระบบก็จะนำคนที่เลือกคณะวิศวะจุฬาทั้งหมดนำคะแนนมาเรียงกัน ใครอยู่อันดับ1-100 ก็คือติดไป *คนที่ไม่เลือกไม่มีสิทธิ์ติดนะครับ*2.ระบบจะเลือกคนที่มีคะแนนมากที่สุด เข้าสู่แต่ละคณะให้ครบตามจำนวนที่รับ คนที่คะแนนไม่ติดคณะใดเลย ถือว่าตกพิจารณาในอันดับแรก ก็จะถูกพิจารณาคะแนนในอันดับที่2 ต่อไป3.เมื่อพิจารณาแล้วพบว่าคะแนนในอันดับ2 สูงกว่าคนที่ผ่านการพิจารณาในรอบแรก คะแนนใหม่ก็จะนำมาแทรก ดังนั้นคนที่ได้คะแนนต่ำสุดในรอบแรกของแต่ละคณะก็จะตกไปถ้าน้องไม่ติดอันดับ 1 ระบบก็จะนำคะแนนของน้องไปแข่งที่อันดับต่อไป ไม่ติดก็จะนำไปอันดับต่อไปเรื่อยๆ จนถึงอันดับ4 โดยถ้าคะแนนถึงอันดับไหนก็จะติดอันดับนั้นเลย ไม่นำคะแนนไปแข่งในอันดับถัดไปและที่สำคัญ จำไว้เลยว่าคะแนนสำคัญกว่าอันดับ ถึงแม้เราเลือกคณะเดียวกับคู่แข่ง แต่เราอันดับ3 คู่แข่งเค้าเลือกไว้อันดับ 1 ถ้าเราไม่ได้ติดอันดับ 1และ 2 จนมาถึงอันดับ3 ถ้าเราคะแนนมากกว่าก็ไม่ต้องกังวลอะไรครับ เราก็ติดก่อนแน่นอน แม้ว่าเราจะเลือกคณะนี้ไว้เป็นอันดับ3ก็ตาม ** เพราะฉะนั้นอันดับแรกเลยของการเลือกคณะคือเลือกคณะที่เราอยากเรียนมากที่สุด อยากเข้าไปที่สุด ไว้อันดับ1 เท่านั้น!! เรียกว่าเลือกตามความฝันไปเลยครับ ไม่ต้องห่วงคะแนน อะไรใดๆทั้งสิ้น เพราะหากติดคณะที่เราไม่อยากเรียน จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ เพราะโอกาสมาจากการเลือก ถ้าเราไม่เลือกก็คือไม่มีโอกาส ถึงแม้บางคนจะมองว่าโอกาสจะน้อยนิด แต่ก็ยังถือว่ามีโอกาส ถ้าไม่เลือกเลยโอกาสคือเท่ากับ 0 ครับ!! – การเลือกคณะที่เรียงลงมานั้น ต้องเริ่มคำนึงถึงโอกาสสอบติดมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นการรองรับกัน ให้น้องๆลองนึกภาพถึงการตกจากที่สูงนะครับ คือตกลงมาแล้ว เบาะชั้น1 รับไม่อยู่ก็ยังมีชั้น2 ชั้น3 ชั้น4 รองรับต่อๆกัน ทำให้ไม่ตกถึงฟื้น(หลุดแอด) โดยการดูโอกาสสอบติดดูได้จากอะไร ส่วนมากที่น้องๆดูก็จะมีคะแนนขั้นต่ำของปีที่ผ่านๆมา แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้น้องๆสามารถนำคะแนนของน้องๆมาประเมินได้จากโปรแกรมประเมินโอกาสต่างๆที่ตอนนี้มีอยู่หลายเว๊บ ซึ่งในอนา่คตรับรองว่าจะมีของ dek ad แน่นอนครับ ยกตัวอย่างการเรียงอันดับ อันดับ1 อย่างที่บอก เลือกไปเลยครับ คณะที่ชอบที่รักที่สุด ไม่ต้องสนใจโอกาสสอบติด ส่วนคณะที่ตามมา ต้องเลือกคณะที่่โอกาสสอบติดเปอร์เซ็นสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่น อันดับ2 50% อันดับ3ควร 70-80% อันดับ4ควร 90% ขึ้นไป เอาให้ปลอดภัยที่สุด ให้นอนหลับสบาย แบบไร้กังวลมากที่สุด ประมาณนี้ครับ เพื่อเป็นการรองรับกันและความปลอดภัยป้องกันไม่ให้เกิดการหลุดแอด แต่ถ้าถามว่าถ้าอยากเสี่ยงได้ไหม ก็ต้องแยกเป็นกรณีๆไปเช่นกรณีเด็กซิ่ว มีที่เรียนมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว แต่อาจไม่ได้เรียนในคณะที่ชอบอยากมาซิ่วใหม่ ก็เสี่ยงไปเลยครับเต็มที่ หรือน้องๆที่อาจจะติดรับตรงไปแล้วแต่ยังสามารถมาแอดได้ ก็สามารถจัดการความเสี่ยงได้ด้วยตัวเองเต็มที่เช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญสุดไม่ว่าพร้อมเสี่ยงหรือไม่พร้อมเสี่ยงก็คือการวางอันดับ อย่างน้อยๆก็ควรวางอันดับให้เป็นไปตามโอกาสที่น่าจะติด เพราะถ้าวางไปมั่วๆมันก็จะเป็นการเสียอันดับและเสียโอกาสโดยใช่เหตุครับ มาถึงอีกคำถามที่น้องๆถามมามากที่สุดก็คือเรื่องแนวโน้มต่างๆกับจะเช็คได้อย่างไรว่าคณะไหนมีความเสี่ยงมากน้อยเท่าไหร่ เลือกคณะดูแต่คะแนนต่ำสุดได้มั้ย ดูได้ครับ แต่อย่าลืมว่าคะแนนต่ำสุดของคณะต่างๆเมื่อปีแล้ว ไม่ได้เป็นคะแนนที่ตั้งไว้นิ่งๆมันสามารถขยับไปขยับมาได้ เพราะคะแนนมันมาจากการเลือก เพราะฉะนั้นคะแนนมันสามารถขึ้นๆลงๆได้ตลอด ซึ่งสิ่งที่เป็นปัจจัยทำให้คะแนนเปลี่ยนไปจะได้แก่ . 1.คะแนนสอบในแต่ละปี คะแนนสอบในที่นี้หมายถึงคะแนนสอบในแต่ละปีของ O-NET หรือ GAT PAT เพราะถ้าคะแนนเฉลี่ยตัวไหนขึ้นโดดเด่นก็จะพอคาดการณ์ได้เลยครับว่าคณะที่ใช้คะแนนตั้งนั้นในสัดส่วนก็จะมีโอกาสที่คะแนนสอบจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน . 2.จำนวนผู้สมัคร(คนเลือกเยอะ) แน่นอนครับคณะไหนหากมีการแข่งขันสูงคือมีผู้สมัครเยอะ คณะนั้นก็จะกลายเป็นคณะยอดฮิตมีคะแนนสูงขึ้นอย่างแน่นอน หรือแค่การดูจำนวนผู้สมัครในบางวิชาเราก็พอจะคาดการณ์ได้แล้วว่าคณะไหนมีแนวโน้มที่คะแนนจะขึ้น . 3.จำนวนการรับนักศึกษา จำนวนรับก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจะส่งผลถึงคะแนนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะคณะที่มีการปรับจำนวนการรับให้น้อยลงจากปีก่อนเยอะ ก็มีแนวโน้มที่คะแนนปีนี้จะสูงขึ้นอย่างแน่นอน . 4.คณะที่มีการเปลี่ยนเกณฑ์ ในทุกๆปีที่มีคณะที่มีการเปลียนเกณฑ์จะมีการสวิงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นคณะพยาบาลเมื่อตอนปี57 ที่มีปรับสัดส่วนการใช้ PAT2 ให้มากขึ้น10% ทำให้คะแนนในปีนั้นพยาบาลต่ำลงมากค่อนข้างเยอะ และส่งมาถึงปีที่ผ่านมาที่ทำให้คะแนนของคณะพยาบาลสวิงขึ้นมาเพราะคนแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนต่ำนั่นเอง อย่างปีหน้าก็จะมีเปลี่ยนเกณฑ์ของคณะสัตวแพทย์ อันนี้ก็จะมีผลแน่นอน . 5.คณะที่มีคะแนนสวิง(คะแนนต่ำสุดปีที่ผ่านมา ขึ้นๆลงๆ) ถามว่าคณะที่มีคะแนนสวิงจะเกี่ยวอะไร จะเกี่ยวก็ตรงมันมีผลทางจิตวิทยาที่แหละครับ บางคณะที่คะแนนสูงมากๆสูงเกินไปที่ใจเด็กในปีนั้นจะยอมรับก็อาจจะลงลงต่ำเรี่ยดินได้ เพราะว่าการเจียมตัวที่น้องๆเห็นว่าคะแนนสูง คงจะเอื้อมไม่ถึงก็เลยเลือกที่จะมาเลือก ซึ่งตัวอย่างอย่างนี้ก็จะมีให้เห็นแทบทุกปีนะครับ หรือคณะที่คะแนนต่ำมากๆ ก็อาจจะสวิงขึ้นมาสูงปรี๊ดเลยก็ได้เพราะคนจะแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนมันต่ำมากนั่นเอง . 6.เทรนด์ เทรนด์ในที่นี้ก็จะหมายถึงกระแสความฮิตของวัยรุ่นน้องวัยแอดในแต่ละปีว่ามีความนิยมเรื่องอะไร เรื่องมีความนิยมในคณะอะไร ซึ่งในสมัยก่อนก็จะอาจจะเคยเห็นว่ากระแสคณะนิเทศมาแรงมากๆ หรือในช่วงแอดปี4-5ปีก่อนกระแสคณะในอาชีพเสรีอาเซียนจะกลายเป็นคณะฮิตขึ้นมา ซึ่งในช่วงนี้เท่าที่พี่แฮนด์ดูก็จะเป็นคณะทางสายครูกับทางคณะทางด้านภาษาอังกฤษ หรือเกี่ยวกับกระแสดิจิทัล ที่คนจะสมัครเยอะมีคะแนนสูงขึ้นมา >>>> น้องๆสามารถ ปรึกษาการเลือกคณะแอดมิชชัน ด้วยวิธีง่ายๆเพียง 1. เข้าไปใช้โปรแกรม EZ (EZ ADMISSION) โปรแกรมช่วย ADMISSION ที่มีความแม่นยำสูง ที่สำคัญ ใช้ฟรี!! ได้ที่ >> http://ezadmissions.eduzones.com/ 2. เซฟรูปผลการคำนวณเลือกคณะของน้องๆ 3. นำไปโพสต์ขอคำปรึกษาจากพี่แฮนด์ที่ Line@ P’Hand Eduzones แอดเลยที่ >> @handyeduzones ง่ายๆเพียงเท่านี้ รับรองแอดมิชชั่นปีนี้ น้องๆไม่หลุดชัวร์!!! ครับ ———————————————————————————————————– EZ Webmaster Related Posts สรุป! วิธีการสมัคร TCAS รอบ 3 ที่นั่งเหลือน้อย “โลจิสติกส์ สวนสุนันทา” เปิดรับภาคพิเศษ เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ จบป.ตรีได้ใน 2 ปีครึ่ง 10 สิ่งที่ #Dek67 ต้องรู้ !! ก่อนการสมัคร #TCAS67 รอบที่3 GATE PROJECT 8 The Infinity ติวฟรีติดมัธยม ปลุกพลังจากศิษย์เก่าที่สำเร็จหลากหลายสถาบันชั้นนำ ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี Post navigation PREVIOUS Previous post: ผู้นำนักศึกษา มจพ. ขานรับการจัดการเรียนการสอนออนไลน์สู้เชื้อโรค COVID-19NEXT Next post: E-Book Talk Like A Pro โดย อาจารย์วิริยะ ฤๅชัยพาณิชย์
สวัสดิการครูที่คุณครูควรมีคืออะไร จากการสำรวจของ EDUZONES EZ WebmasterApril 22, 2024 อาชีพครูเป็นอาชีพที่ถูกสังคมมองว่าเป็น “ผู้เสียสละ” ที่ต้องทำงานอุทิศตนเพื่อให้ลูกศิษย์ไปถึงฝั่งฝัน ซึ่งนอกจากงานด้านการสอนแล้วยังมีภาระงานอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานด้านเอกสาร การอบรม การทำกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หรือเตรียมการประเมินต่าง ๆ ในทางกลับกันสวัสดิการครูที่ควรได้รับกลับไม่สอดคล้องกับภาระงานของครู ซึ่งสวัสดิการข้าราชการ คือ ค่าตอบแทนที่ทางราชการจัดให้แก่ราชการในฐานะที่เป็นสมาชิกขององค์กร เพื่อช่วยให้ความมั่นคง และเป็นขวัญกำลังใจของข้าราชการในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล วันนี้เราได้รวบรวมความคิดเห็นของคุณครูในชุมชน EDUZONES หัวข้อ… สพฐ. จับมือ สสวท. อบรมครูออนไลน์เลือกได้ 3 หลักสูตร “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” รุ่นที่ 5 EZ WebmasterApril 18, 2024 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครู บุคลากรทางการศึกษาและผู้สนใจอบรมด้วยตนเองแบบออนไลน์ “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” (Coding for Teacher Plus: C4T Plus) รุ่นที่ 5 เลือกอบรมได้ 3 หลักสูตร คือ 1. การเขียนโปรแกรม Scratch 2. การเขียนโปรแกรมภาษา Python และ 3. วิทยาการข้อมูล…
สพฐ. จับมือ สสวท. อบรมครูออนไลน์เลือกได้ 3 หลักสูตร “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” รุ่นที่ 5 EZ WebmasterApril 18, 2024 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเชิญครู บุคลากรทางการศึกษาและผู้สนใจอบรมด้วยตนเองแบบออนไลน์ “การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง” (Coding for Teacher Plus: C4T Plus) รุ่นที่ 5 เลือกอบรมได้ 3 หลักสูตร คือ 1. การเขียนโปรแกรม Scratch 2. การเขียนโปรแกรมภาษา Python และ 3. วิทยาการข้อมูล…
ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี เวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation Disney ครั้งแรกในประเทศไทย EZ WebmasterApril 9, 2024 ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีกับเวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation ของ Disney กับงานแสดงนิทรรศการ Immersive Disney Animation ครั้งแรกในประเทศไทย (กรุงเทพฯ, 8 เมษายน 2567) เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางเพื่อออกไปผจญภัยครั้งสำคัญของชีวิตผ่านโลกที่น่าทึ่งของการ์ตูนดิสนีย์กับนิทรรศการที่น่าตื่นเต้นมากที่สุด Immersive… Search for: Search EZ Webmaster May 4, 2020 EZ Webmaster May 4, 2020 เคลียร์ทุกเรื่อง ที่มา/วิธีการคัดเลือก/วิธีการจัดอันดับ/อะไรคือปัจจัยเสี่ยง Admission 2563 แอดมิชชัน ถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตของน้องๆ ม.6 ในทุกๆปีนะครับ เพราะถือว่าเป็นสะพานในการพาน้องๆไปสู่ความฝันหรือเป้าหมายที่ต้องการหลังจากฝ่าฝันสอบมาอย่างดุเดือดตลอดปีการศึกษาของ ม.6 ซึ่งแน่นอนว่าน้องๆแต่ละคนก็ต้องการความกระจ่างและความมั่นใจมากที่สุดก่อนที่จะทำการเลือกคณะ ซึ่งก็มีหลากหลายคำถามเข้ามาที่พี่แฮนด์มากมายทั้งวิธีการการเลือก แนวโน้มแต่ละคณะ และคำถามอื่นๆ พี่แฮนด์จึงเขียนบทความเพื่อไขข้อสงสัยในหลายเรื่องสำหรับแอดมิชชัน แอดมิชชัน หรือน้องๆอาจจะเรียกว่าแอดกลาง ก็คือการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา (Central University Admissions System – CUAS ) จัดการคัดเลือกโดย ทปอ. นำมาใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2549 แทนการคัดเลือกแบบเอนทรานซ์นั่นเอง ซึ่งจุดประสงค์หลักที่นำระบบแอดมิชชันมาใช้แทนระบบเก่าอย่างเอนทรานซ์ก็เพราะว่า การเอนทรานซ์ จะเน้นในการสอบเพียงอย่างเดียว ทำให้เด็กๆทิ้งการเรียนในห้องเรียน ไปมุ่งมั่นติวกันเพียงอย่างเดียว แต่การแอดมิชชันจะมีการนำเกรดเฉลี่ยในโรงเรียนมาใช้ด้วย ทำให้เด็กๆต้องสนใจวิชาในห้องเรียนไม่สามารถทิ้งได้(แต่สุดท้ายเด็กไทยก็ยังติวกันเหมือนเดิมนะครับ อิๆ) องค์ประกอบของแอดมิชชัน แอดมิชชันจะมีคะแนนรวมทั้ง 30,000 คะแนน จากองค์ประกอบ4ตัว ดังต่อไปนี้ 1.GPAX คือเกรดเฉลี่ยสะสม 6 ภาคเรียน ตลอดหลักสูตรมัธยมปลาย ม.4-ม.6 ของนักเรียน โดย GPAX ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 20% หรือ6,000คะแนนทุกคณะ 2. O-NET (Ordinary National Education Test) หรือการสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน เป็นการสอบพร้อมทั้งหมดของเด็ก ม.6 ทั่วประเทศ จะมีการสอบทั้งหมด 5 วิชาได้แก่ คณิตศาสตร์,ภาษาอังกฤษ,ภาษาไทย,สังคม.วิทยาศาสตร์ โดย O-NET ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 30% หรือ9,000คะแนนทุกคณะ 3. GAT (Genetal Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทั่วไป คะแนนเต็ม 300 คะแนน ข้อสอบGAT ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ GAT ไทย ซึ่งจะเน้นเนื้อหาทางด้าน การอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ และ GAT ภาษาอังกฤษ อย่างละ 150 คะแนน โดย GAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 10-50% หรือ3,000-15,000คะแนนแล้วแต่คณะ 4. PAT (Professional Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทางวิชาชีพ เป็นข้อสอบที่ยากเพราะเป็นเนื่อหาที่ไม่มีสอนในโรงเรียน โดยจะมรทั้งหมด 7 PAT ด้วยกัน ได้แก่ PAT1 คณิตศาสตร์ PAT2 วิทยาศาสตร์ PAT3 พื้นฐานวิศวกรรม PAT4 พื้นฐานสถาปัตยกรรม PAT5 พื้นฐานความเป็นครู PAT6 ศิลปกรรม และPAT7วิชาด้านภาษาอื่นๆนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ โดย PAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 0-40% หรือ0-12,000คะแนนแล้วแต่คณะ สัดส่วนองค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะ สัดส่วนองค์ประกอบของแอดมิชชันจะแบ่งเป็น 13 กลุ่มดังนี้ **จุดสังเกตขององค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะขอให้น้องๆจำง่ายๆว่า GPAX(20%) และ O-NET(30%) มีสัดส่วนคงที่ทุกกลุ่มคณะ แต่ละกลุ่มแตกต่างกันตรง GAT และ PAT เท่านั้น สถิติผู้สมัครและสอบติดแอดมิชชัน พี่แฮนด์เอาสถิติตั้งแต่ปี 53 ที่เริ่มใช้ GAT PAT เป็นปีแรก มาให้ดูกันนะครับ ปี 53 จำนวนผู้สมัคร 98,143 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,003 คน หลุดแอดมิชชัน 28,140 คน ปี 54 จำนวนผู้สมัคร 123,260 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 78,096 คน หลุดแอดมิชชัน 45,164 คน ปี 55 จำนวนผู้สมัคร 122,169 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 82,102 คน หลุดแอดมิชชัน 40,067 คน ปี 56 จำนวนผู้สมัคร 113,400 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 83,955 คน หลุดแอดมิชชัน 29,445 คน ปี 57 จำนวนผู้สมัคร 99,767 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 80,880 คน หลุดแอดมิชชัน 18,887 คน ปี 58 จำนวนผู้สมัคร 124,648 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 91,813 คน หลุดแอดมิชชัน 32,835 คน ปี 59 จำนวนผู้สมัคร 105,046 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 85,834 คน หลุดแอดมิชชัน 19,212 คน ปี 60 จำนวนผู้สมัคร 81,232 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,689 คน หลุดแอดมิชชัน 10,543 คน ปี 61 จำนวนผู้สมัคร 54,782 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 44,476 คน หลุดแอดมิชชัน 10,306 คน ปี 62 จำนวนผู้สมัคร 122,523 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 52,315 คน หลุดแอดมิชชัน 20,093 คน เห็นจำนวนสถิติอย่างงี้ก็เพิ่งอย่าไปเครียดอะไรนะครับ เพราะที่จริงแล้วยอดผู้สมัครทุกปีนั้น น้อยกว่ายอดรับตามระเบียบการทุกปี แต่ที่มีคนไม่ติดนั้นก็เพราะว่า ส่วนใหญ่ก็จะไปเลือกคณะเดียวกันซะเยอะ ทำให้มีคนหลุดแอดทุกปี และที่สำคัญจะเห็นเลยว่าจำนวนนั้นลดลงเรื่อยๆทุกปี การคิดคะแนนแอดมิชชัน การคิดคะแนน GPAX ใช้ GPAX ร้อยละ 20 GPAX ให้คิดเทียบคะแนนเต็มเป็น 300 คะแนน วิธีคิด 1. ให้นํา GPAX คูณกับ 75 เพื่อแปลงค่าผลการเรียนเฉลี่ยเป็นคะแนนเต็ม 300 คะแนน 2. ให้นําคะแนน GPAX ที่แปลงค่าเป็นคะแนนแล้วคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด จะได้เป็นคะแนน GPAX ตัวอย่าง ผู้สมัครมีผลการเรียนเฉลี่ย (GPAX) = 2.93 วิธีคิด ขั้นที่ 1 ใ ให้นํา GPAX คูณด้วย 75 จะได้คะแนนดังนี้ คะแนน GPAX (2.93 × 75) = 219.75 คะแนน ขั้นที่ 2 นําคะแนน GPAX คูณด้วยค่าน้ําหนักที่กําหนดไว้ คือ 20% คะแนน GPAX (219.75 × 20) = 4,395 คะแนน จากคะแนนเต็ม 6,000 คะแนน วิธีการคิดคะแนน O-NET 1. ให้นําคะแนนสอบวิชา O-NET แต่ละวิชาของผู้สมัครคูณกับ 3 (กําหนด ให้คะแนนเต็มแต่ละวิชาเท่ากับ 300) 2. นําคะแนนในข้อ 1 คูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 3. นําคะแนนแต่ละวิชาในข้อ 2 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ O-NET ตัวอย่าง ผู้มัครมีคะแนน O-NET ดังนี้ วิชา 01 = 63.00, 02 = 75.00, 03 = 71.00, 04 = 81.00 05 = 87.00 ขั้นที่ 1 นําคะแนนแต่ละวิชาของผู้สมัครคูณด้วย 3(ยกเว้นวิชา 06 ไม่ต่องคูณ) ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (63.00 × 3) = 189 วิชา 02 (75.00 × 3) = 225 วิชา 03 (71.00 × 3) = 213 วิชา 04 (81.00 × 3) = 243 วิชา 05 (87.00 × 3) = 261 ขั้นที่ 2 นําคะแนนที่คูณด้วย 3 คูณด้วยค่าน้ําหนัก ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (189 × 6) = 1,134 วิชา 02 (225 × 6) = 1,350 วิชา 03 (213 × 6) = 1,278 วิชา 04 (261 × 6) = 1,458 วิชา 05 (261 × 6) = 1,566 ขั้นที่ 3 นําคะแนน O-NET ที่คูณด้วยค่าน้ําหนักแล้ว มารวมกันดังนี้ คะแนน O-NET (1,134 + 1,350 + 1,278 + 1,458 + 1,566) คะแนนรวม O-NET = 6,786 คะแนน (จากคะแนน 9,000 คะแนน) วิธีการคิดคะแนน GAT, PAT 1. นําคะแนนสอบ GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 2. นําคะแนนแต่ละวิชาจากข้อ 1 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ GAT และ/ PATตัวอย่าง วิธีการคิดคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ต้องการเลือกคณะวิศวกรรมศาสตร์ กําหนดให้สอบ O-NET 5 กลุ่มสาระฯ คือ รหัส 01,02,03,04 และ 05 แต่ละวิชาให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 6 วิชา GAT (รหัส 85) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 2 (รหัส 72) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 3 (รหัส 73) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 20 ผู้สมัครมีคะแนนแต่ละวิชาดังนี้ วิธีคิดขั้นที่ 1 นําคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนัก คะแนน GAT (265 × 15) = 3,975 คะแนน คะแนน PAT 2 (210 × 15) = 3,150คะแนน คะแนน PAT 3 (250 × 20) = 5,000คะแนน คะแนนรวม GAT และ PAT (3,975 + 3,150 + 5,000) = 12,125 คะแนนการคิดคะแนนรวม คะแนนรวม = คะแนน GPAX + คะแนน O-NET + คะแนน GAT และ/หรือ คะแนน PAT(นำคะแนนทุกอย่างมาบวกกัน) นี่ก็คือวิธีการคิดคะแนนที่ใช้ในการคัดเลือกในระบบแอดมิชชันนะครับ น้องๆคนไหนอยากคิดคะแนนตัวเองก็ลองคิดได้เลยนะครับ แต่อย่าไปคิดบวกเกินให้ตัวเองละ มันไม่ดีเน้อ อิอิ การยื่นเลือกคณะ การยื่นเลือกคณะของแอดมิชชันนั้น ปีนี้จะเลือกกัน หลังจากที่น้องๆม.6 ได้ทราบผลคะแนนทุกตัวที่ใช้เป็นองค์ประกอบแล้ว โดยน้องๆจะสามารถเลือกได้ทั้งหมด 4 อันดับ จะเลือกคณะอะไรมหาวิทยาลัยใดก็ได้ มหาวิทยาลัยเดียวกันก็ได้ โดยจะสมัครทางเว๊บไซท์ http:/mytcas.com/โดยวิธีการคิดเลือกคณะจะเป็นดังนี้1.ระบบจะรวบรวมคะแนนอันดับ1 ของน้องๆ ทุกคนมาเรียงไว้จากมากไปหาน้อย เช่น คณะวิศวะ จุฬา รับ100 คน ระบบก็จะนำคนที่เลือกคณะวิศวะจุฬาทั้งหมดนำคะแนนมาเรียงกัน ใครอยู่อันดับ1-100 ก็คือติดไป *คนที่ไม่เลือกไม่มีสิทธิ์ติดนะครับ*2.ระบบจะเลือกคนที่มีคะแนนมากที่สุด เข้าสู่แต่ละคณะให้ครบตามจำนวนที่รับ คนที่คะแนนไม่ติดคณะใดเลย ถือว่าตกพิจารณาในอันดับแรก ก็จะถูกพิจารณาคะแนนในอันดับที่2 ต่อไป3.เมื่อพิจารณาแล้วพบว่าคะแนนในอันดับ2 สูงกว่าคนที่ผ่านการพิจารณาในรอบแรก คะแนนใหม่ก็จะนำมาแทรก ดังนั้นคนที่ได้คะแนนต่ำสุดในรอบแรกของแต่ละคณะก็จะตกไปถ้าน้องไม่ติดอันดับ 1 ระบบก็จะนำคะแนนของน้องไปแข่งที่อันดับต่อไป ไม่ติดก็จะนำไปอันดับต่อไปเรื่อยๆ จนถึงอันดับ4 โดยถ้าคะแนนถึงอันดับไหนก็จะติดอันดับนั้นเลย ไม่นำคะแนนไปแข่งในอันดับถัดไปและที่สำคัญ จำไว้เลยว่าคะแนนสำคัญกว่าอันดับ ถึงแม้เราเลือกคณะเดียวกับคู่แข่ง แต่เราอันดับ3 คู่แข่งเค้าเลือกไว้อันดับ 1 ถ้าเราไม่ได้ติดอันดับ 1และ 2 จนมาถึงอันดับ3 ถ้าเราคะแนนมากกว่าก็ไม่ต้องกังวลอะไรครับ เราก็ติดก่อนแน่นอน แม้ว่าเราจะเลือกคณะนี้ไว้เป็นอันดับ3ก็ตาม ** เพราะฉะนั้นอันดับแรกเลยของการเลือกคณะคือเลือกคณะที่เราอยากเรียนมากที่สุด อยากเข้าไปที่สุด ไว้อันดับ1 เท่านั้น!! เรียกว่าเลือกตามความฝันไปเลยครับ ไม่ต้องห่วงคะแนน อะไรใดๆทั้งสิ้น เพราะหากติดคณะที่เราไม่อยากเรียน จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ เพราะโอกาสมาจากการเลือก ถ้าเราไม่เลือกก็คือไม่มีโอกาส ถึงแม้บางคนจะมองว่าโอกาสจะน้อยนิด แต่ก็ยังถือว่ามีโอกาส ถ้าไม่เลือกเลยโอกาสคือเท่ากับ 0 ครับ!! – การเลือกคณะที่เรียงลงมานั้น ต้องเริ่มคำนึงถึงโอกาสสอบติดมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นการรองรับกัน ให้น้องๆลองนึกภาพถึงการตกจากที่สูงนะครับ คือตกลงมาแล้ว เบาะชั้น1 รับไม่อยู่ก็ยังมีชั้น2 ชั้น3 ชั้น4 รองรับต่อๆกัน ทำให้ไม่ตกถึงฟื้น(หลุดแอด) โดยการดูโอกาสสอบติดดูได้จากอะไร ส่วนมากที่น้องๆดูก็จะมีคะแนนขั้นต่ำของปีที่ผ่านๆมา แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้น้องๆสามารถนำคะแนนของน้องๆมาประเมินได้จากโปรแกรมประเมินโอกาสต่างๆที่ตอนนี้มีอยู่หลายเว๊บ ซึ่งในอนา่คตรับรองว่าจะมีของ dek ad แน่นอนครับ ยกตัวอย่างการเรียงอันดับ อันดับ1 อย่างที่บอก เลือกไปเลยครับ คณะที่ชอบที่รักที่สุด ไม่ต้องสนใจโอกาสสอบติด ส่วนคณะที่ตามมา ต้องเลือกคณะที่่โอกาสสอบติดเปอร์เซ็นสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่น อันดับ2 50% อันดับ3ควร 70-80% อันดับ4ควร 90% ขึ้นไป เอาให้ปลอดภัยที่สุด ให้นอนหลับสบาย แบบไร้กังวลมากที่สุด ประมาณนี้ครับ เพื่อเป็นการรองรับกันและความปลอดภัยป้องกันไม่ให้เกิดการหลุดแอด แต่ถ้าถามว่าถ้าอยากเสี่ยงได้ไหม ก็ต้องแยกเป็นกรณีๆไปเช่นกรณีเด็กซิ่ว มีที่เรียนมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว แต่อาจไม่ได้เรียนในคณะที่ชอบอยากมาซิ่วใหม่ ก็เสี่ยงไปเลยครับเต็มที่ หรือน้องๆที่อาจจะติดรับตรงไปแล้วแต่ยังสามารถมาแอดได้ ก็สามารถจัดการความเสี่ยงได้ด้วยตัวเองเต็มที่เช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญสุดไม่ว่าพร้อมเสี่ยงหรือไม่พร้อมเสี่ยงก็คือการวางอันดับ อย่างน้อยๆก็ควรวางอันดับให้เป็นไปตามโอกาสที่น่าจะติด เพราะถ้าวางไปมั่วๆมันก็จะเป็นการเสียอันดับและเสียโอกาสโดยใช่เหตุครับ มาถึงอีกคำถามที่น้องๆถามมามากที่สุดก็คือเรื่องแนวโน้มต่างๆกับจะเช็คได้อย่างไรว่าคณะไหนมีความเสี่ยงมากน้อยเท่าไหร่ เลือกคณะดูแต่คะแนนต่ำสุดได้มั้ย ดูได้ครับ แต่อย่าลืมว่าคะแนนต่ำสุดของคณะต่างๆเมื่อปีแล้ว ไม่ได้เป็นคะแนนที่ตั้งไว้นิ่งๆมันสามารถขยับไปขยับมาได้ เพราะคะแนนมันมาจากการเลือก เพราะฉะนั้นคะแนนมันสามารถขึ้นๆลงๆได้ตลอด ซึ่งสิ่งที่เป็นปัจจัยทำให้คะแนนเปลี่ยนไปจะได้แก่ . 1.คะแนนสอบในแต่ละปี คะแนนสอบในที่นี้หมายถึงคะแนนสอบในแต่ละปีของ O-NET หรือ GAT PAT เพราะถ้าคะแนนเฉลี่ยตัวไหนขึ้นโดดเด่นก็จะพอคาดการณ์ได้เลยครับว่าคณะที่ใช้คะแนนตั้งนั้นในสัดส่วนก็จะมีโอกาสที่คะแนนสอบจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน . 2.จำนวนผู้สมัคร(คนเลือกเยอะ) แน่นอนครับคณะไหนหากมีการแข่งขันสูงคือมีผู้สมัครเยอะ คณะนั้นก็จะกลายเป็นคณะยอดฮิตมีคะแนนสูงขึ้นอย่างแน่นอน หรือแค่การดูจำนวนผู้สมัครในบางวิชาเราก็พอจะคาดการณ์ได้แล้วว่าคณะไหนมีแนวโน้มที่คะแนนจะขึ้น . 3.จำนวนการรับนักศึกษา จำนวนรับก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจะส่งผลถึงคะแนนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะคณะที่มีการปรับจำนวนการรับให้น้อยลงจากปีก่อนเยอะ ก็มีแนวโน้มที่คะแนนปีนี้จะสูงขึ้นอย่างแน่นอน . 4.คณะที่มีการเปลี่ยนเกณฑ์ ในทุกๆปีที่มีคณะที่มีการเปลียนเกณฑ์จะมีการสวิงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นคณะพยาบาลเมื่อตอนปี57 ที่มีปรับสัดส่วนการใช้ PAT2 ให้มากขึ้น10% ทำให้คะแนนในปีนั้นพยาบาลต่ำลงมากค่อนข้างเยอะ และส่งมาถึงปีที่ผ่านมาที่ทำให้คะแนนของคณะพยาบาลสวิงขึ้นมาเพราะคนแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนต่ำนั่นเอง อย่างปีหน้าก็จะมีเปลี่ยนเกณฑ์ของคณะสัตวแพทย์ อันนี้ก็จะมีผลแน่นอน . 5.คณะที่มีคะแนนสวิง(คะแนนต่ำสุดปีที่ผ่านมา ขึ้นๆลงๆ) ถามว่าคณะที่มีคะแนนสวิงจะเกี่ยวอะไร จะเกี่ยวก็ตรงมันมีผลทางจิตวิทยาที่แหละครับ บางคณะที่คะแนนสูงมากๆสูงเกินไปที่ใจเด็กในปีนั้นจะยอมรับก็อาจจะลงลงต่ำเรี่ยดินได้ เพราะว่าการเจียมตัวที่น้องๆเห็นว่าคะแนนสูง คงจะเอื้อมไม่ถึงก็เลยเลือกที่จะมาเลือก ซึ่งตัวอย่างอย่างนี้ก็จะมีให้เห็นแทบทุกปีนะครับ หรือคณะที่คะแนนต่ำมากๆ ก็อาจจะสวิงขึ้นมาสูงปรี๊ดเลยก็ได้เพราะคนจะแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนมันต่ำมากนั่นเอง . 6.เทรนด์ เทรนด์ในที่นี้ก็จะหมายถึงกระแสความฮิตของวัยรุ่นน้องวัยแอดในแต่ละปีว่ามีความนิยมเรื่องอะไร เรื่องมีความนิยมในคณะอะไร ซึ่งในสมัยก่อนก็จะอาจจะเคยเห็นว่ากระแสคณะนิเทศมาแรงมากๆ หรือในช่วงแอดปี4-5ปีก่อนกระแสคณะในอาชีพเสรีอาเซียนจะกลายเป็นคณะฮิตขึ้นมา ซึ่งในช่วงนี้เท่าที่พี่แฮนด์ดูก็จะเป็นคณะทางสายครูกับทางคณะทางด้านภาษาอังกฤษ หรือเกี่ยวกับกระแสดิจิทัล ที่คนจะสมัครเยอะมีคะแนนสูงขึ้นมา >>>> น้องๆสามารถ ปรึกษาการเลือกคณะแอดมิชชัน ด้วยวิธีง่ายๆเพียง 1. เข้าไปใช้โปรแกรม EZ (EZ ADMISSION) โปรแกรมช่วย ADMISSION ที่มีความแม่นยำสูง ที่สำคัญ ใช้ฟรี!! ได้ที่ >> http://ezadmissions.eduzones.com/ 2. เซฟรูปผลการคำนวณเลือกคณะของน้องๆ 3. นำไปโพสต์ขอคำปรึกษาจากพี่แฮนด์ที่ Line@ P’Hand Eduzones แอดเลยที่ >> @handyeduzones ง่ายๆเพียงเท่านี้ รับรองแอดมิชชั่นปีนี้ น้องๆไม่หลุดชัวร์!!! ครับ ———————————————————————————————————– EZ Webmaster Related Posts สรุป! วิธีการสมัคร TCAS รอบ 3 ที่นั่งเหลือน้อย “โลจิสติกส์ สวนสุนันทา” เปิดรับภาคพิเศษ เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ จบป.ตรีได้ใน 2 ปีครึ่ง 10 สิ่งที่ #Dek67 ต้องรู้ !! ก่อนการสมัคร #TCAS67 รอบที่3 GATE PROJECT 8 The Infinity ติวฟรีติดมัธยม ปลุกพลังจากศิษย์เก่าที่สำเร็จหลากหลายสถาบันชั้นนำ ปิดเทอมนี้ สสวท. ชวนใช้ฟรีคลังความรู้ SciMath เพลิดเพลินเรียนรู้ คุณครูใช้ได้ เยาวชนใช้ดี Post navigation PREVIOUS Previous post: ผู้นำนักศึกษา มจพ. ขานรับการจัดการเรียนการสอนออนไลน์สู้เชื้อโรค COVID-19NEXT Next post: E-Book Talk Like A Pro โดย อาจารย์วิริยะ ฤๅชัยพาณิชย์
ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี เวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation Disney ครั้งแรกในประเทศไทย EZ WebmasterApril 9, 2024 ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีกับเวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation ของ Disney กับงานแสดงนิทรรศการ Immersive Disney Animation ครั้งแรกในประเทศไทย (กรุงเทพฯ, 8 เมษายน 2567) เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางเพื่อออกไปผจญภัยครั้งสำคัญของชีวิตผ่านโลกที่น่าทึ่งของการ์ตูนดิสนีย์กับนิทรรศการที่น่าตื่นเต้นมากที่สุด Immersive… Search for: Search
สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี เวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation Disney ครั้งแรกในประเทศไทย EZ WebmasterApril 9, 2024 ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีกับเวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation ของ Disney กับงานแสดงนิทรรศการ Immersive Disney Animation ครั้งแรกในประเทศไทย (กรุงเทพฯ, 8 เมษายน 2567) เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางเพื่อออกไปผจญภัยครั้งสำคัญของชีวิตผ่านโลกที่น่าทึ่งของการ์ตูนดิสนีย์กับนิทรรศการที่น่าตื่นเต้นมากที่สุด Immersive…
ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี เวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation Disney ครั้งแรกในประเทศไทย EZ WebmasterApril 9, 2024 ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีกับเวทมนตร์สุดมหัศจรรย์ในโลก Animation ของ Disney กับงานแสดงนิทรรศการ Immersive Disney Animation ครั้งแรกในประเทศไทย (กรุงเทพฯ, 8 เมษายน 2567) เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางเพื่อออกไปผจญภัยครั้งสำคัญของชีวิตผ่านโลกที่น่าทึ่งของการ์ตูนดิสนีย์กับนิทรรศการที่น่าตื่นเต้นมากที่สุด Immersive…
EZ Webmaster May 4, 2020 EZ Webmaster May 4, 2020 เคลียร์ทุกเรื่อง ที่มา/วิธีการคัดเลือก/วิธีการจัดอันดับ/อะไรคือปัจจัยเสี่ยง Admission 2563 แอดมิชชัน ถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตของน้องๆ ม.6 ในทุกๆปีนะครับ เพราะถือว่าเป็นสะพานในการพาน้องๆไปสู่ความฝันหรือเป้าหมายที่ต้องการหลังจากฝ่าฝันสอบมาอย่างดุเดือดตลอดปีการศึกษาของ ม.6 ซึ่งแน่นอนว่าน้องๆแต่ละคนก็ต้องการความกระจ่างและความมั่นใจมากที่สุดก่อนที่จะทำการเลือกคณะ ซึ่งก็มีหลากหลายคำถามเข้ามาที่พี่แฮนด์มากมายทั้งวิธีการการเลือก แนวโน้มแต่ละคณะ และคำถามอื่นๆ พี่แฮนด์จึงเขียนบทความเพื่อไขข้อสงสัยในหลายเรื่องสำหรับแอดมิชชัน แอดมิชชัน หรือน้องๆอาจจะเรียกว่าแอดกลาง ก็คือการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา (Central University Admissions System – CUAS ) จัดการคัดเลือกโดย ทปอ. นำมาใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2549 แทนการคัดเลือกแบบเอนทรานซ์นั่นเอง ซึ่งจุดประสงค์หลักที่นำระบบแอดมิชชันมาใช้แทนระบบเก่าอย่างเอนทรานซ์ก็เพราะว่า การเอนทรานซ์ จะเน้นในการสอบเพียงอย่างเดียว ทำให้เด็กๆทิ้งการเรียนในห้องเรียน ไปมุ่งมั่นติวกันเพียงอย่างเดียว แต่การแอดมิชชันจะมีการนำเกรดเฉลี่ยในโรงเรียนมาใช้ด้วย ทำให้เด็กๆต้องสนใจวิชาในห้องเรียนไม่สามารถทิ้งได้(แต่สุดท้ายเด็กไทยก็ยังติวกันเหมือนเดิมนะครับ อิๆ) องค์ประกอบของแอดมิชชัน แอดมิชชันจะมีคะแนนรวมทั้ง 30,000 คะแนน จากองค์ประกอบ4ตัว ดังต่อไปนี้ 1.GPAX คือเกรดเฉลี่ยสะสม 6 ภาคเรียน ตลอดหลักสูตรมัธยมปลาย ม.4-ม.6 ของนักเรียน โดย GPAX ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 20% หรือ6,000คะแนนทุกคณะ 2. O-NET (Ordinary National Education Test) หรือการสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน เป็นการสอบพร้อมทั้งหมดของเด็ก ม.6 ทั่วประเทศ จะมีการสอบทั้งหมด 5 วิชาได้แก่ คณิตศาสตร์,ภาษาอังกฤษ,ภาษาไทย,สังคม.วิทยาศาสตร์ โดย O-NET ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 30% หรือ9,000คะแนนทุกคณะ 3. GAT (Genetal Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทั่วไป คะแนนเต็ม 300 คะแนน ข้อสอบGAT ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ GAT ไทย ซึ่งจะเน้นเนื้อหาทางด้าน การอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ และ GAT ภาษาอังกฤษ อย่างละ 150 คะแนน โดย GAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 10-50% หรือ3,000-15,000คะแนนแล้วแต่คณะ 4. PAT (Professional Aptitude Test) หรือการสอบความถนัดทางวิชาชีพ เป็นข้อสอบที่ยากเพราะเป็นเนื่อหาที่ไม่มีสอนในโรงเรียน โดยจะมรทั้งหมด 7 PAT ด้วยกัน ได้แก่ PAT1 คณิตศาสตร์ PAT2 วิทยาศาสตร์ PAT3 พื้นฐานวิศวกรรม PAT4 พื้นฐานสถาปัตยกรรม PAT5 พื้นฐานความเป็นครู PAT6 ศิลปกรรม และPAT7วิชาด้านภาษาอื่นๆนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ โดย PAT ใช้เป็นสัดส่วนในแอดมิชชัน 0-40% หรือ0-12,000คะแนนแล้วแต่คณะ สัดส่วนองค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะ สัดส่วนองค์ประกอบของแอดมิชชันจะแบ่งเป็น 13 กลุ่มดังนี้ **จุดสังเกตขององค์ประกอบแต่ละกลุ่มคณะขอให้น้องๆจำง่ายๆว่า GPAX(20%) และ O-NET(30%) มีสัดส่วนคงที่ทุกกลุ่มคณะ แต่ละกลุ่มแตกต่างกันตรง GAT และ PAT เท่านั้น สถิติผู้สมัครและสอบติดแอดมิชชัน พี่แฮนด์เอาสถิติตั้งแต่ปี 53 ที่เริ่มใช้ GAT PAT เป็นปีแรก มาให้ดูกันนะครับ ปี 53 จำนวนผู้สมัคร 98,143 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,003 คน หลุดแอดมิชชัน 28,140 คน ปี 54 จำนวนผู้สมัคร 123,260 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 78,096 คน หลุดแอดมิชชัน 45,164 คน ปี 55 จำนวนผู้สมัคร 122,169 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 82,102 คน หลุดแอดมิชชัน 40,067 คน ปี 56 จำนวนผู้สมัคร 113,400 คน มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 83,955 คน หลุดแอดมิชชัน 29,445 คน ปี 57 จำนวนผู้สมัคร 99,767 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 80,880 คน หลุดแอดมิชชัน 18,887 คน ปี 58 จำนวนผู้สมัคร 124,648 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 91,813 คน หลุดแอดมิชชัน 32,835 คน ปี 59 จำนวนผู้สมัคร 105,046 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 85,834 คน หลุดแอดมิชชัน 19,212 คน ปี 60 จำนวนผู้สมัคร 81,232 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 70,689 คน หลุดแอดมิชชัน 10,543 คน ปี 61 จำนวนผู้สมัคร 54,782 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 44,476 คน หลุดแอดมิชชัน 10,306 คน ปี 62 จำนวนผู้สมัคร 122,523 คน แอดมิชชันติด มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ จำนวน 52,315 คน หลุดแอดมิชชัน 20,093 คน เห็นจำนวนสถิติอย่างงี้ก็เพิ่งอย่าไปเครียดอะไรนะครับ เพราะที่จริงแล้วยอดผู้สมัครทุกปีนั้น น้อยกว่ายอดรับตามระเบียบการทุกปี แต่ที่มีคนไม่ติดนั้นก็เพราะว่า ส่วนใหญ่ก็จะไปเลือกคณะเดียวกันซะเยอะ ทำให้มีคนหลุดแอดทุกปี และที่สำคัญจะเห็นเลยว่าจำนวนนั้นลดลงเรื่อยๆทุกปี การคิดคะแนนแอดมิชชัน การคิดคะแนน GPAX ใช้ GPAX ร้อยละ 20 GPAX ให้คิดเทียบคะแนนเต็มเป็น 300 คะแนน วิธีคิด 1. ให้นํา GPAX คูณกับ 75 เพื่อแปลงค่าผลการเรียนเฉลี่ยเป็นคะแนนเต็ม 300 คะแนน 2. ให้นําคะแนน GPAX ที่แปลงค่าเป็นคะแนนแล้วคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด จะได้เป็นคะแนน GPAX ตัวอย่าง ผู้สมัครมีผลการเรียนเฉลี่ย (GPAX) = 2.93 วิธีคิด ขั้นที่ 1 ใ ให้นํา GPAX คูณด้วย 75 จะได้คะแนนดังนี้ คะแนน GPAX (2.93 × 75) = 219.75 คะแนน ขั้นที่ 2 นําคะแนน GPAX คูณด้วยค่าน้ําหนักที่กําหนดไว้ คือ 20% คะแนน GPAX (219.75 × 20) = 4,395 คะแนน จากคะแนนเต็ม 6,000 คะแนน วิธีการคิดคะแนน O-NET 1. ให้นําคะแนนสอบวิชา O-NET แต่ละวิชาของผู้สมัครคูณกับ 3 (กําหนด ให้คะแนนเต็มแต่ละวิชาเท่ากับ 300) 2. นําคะแนนในข้อ 1 คูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 3. นําคะแนนแต่ละวิชาในข้อ 2 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ O-NET ตัวอย่าง ผู้มัครมีคะแนน O-NET ดังนี้ วิชา 01 = 63.00, 02 = 75.00, 03 = 71.00, 04 = 81.00 05 = 87.00 ขั้นที่ 1 นําคะแนนแต่ละวิชาของผู้สมัครคูณด้วย 3(ยกเว้นวิชา 06 ไม่ต่องคูณ) ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (63.00 × 3) = 189 วิชา 02 (75.00 × 3) = 225 วิชา 03 (71.00 × 3) = 213 วิชา 04 (81.00 × 3) = 243 วิชา 05 (87.00 × 3) = 261 ขั้นที่ 2 นําคะแนนที่คูณด้วย 3 คูณด้วยค่าน้ําหนัก ดังนี้ คะแนน O-NET วิชา 01 (189 × 6) = 1,134 วิชา 02 (225 × 6) = 1,350 วิชา 03 (213 × 6) = 1,278 วิชา 04 (261 × 6) = 1,458 วิชา 05 (261 × 6) = 1,566 ขั้นที่ 3 นําคะแนน O-NET ที่คูณด้วยค่าน้ําหนักแล้ว มารวมกันดังนี้ คะแนน O-NET (1,134 + 1,350 + 1,278 + 1,458 + 1,566) คะแนนรวม O-NET = 6,786 คะแนน (จากคะแนน 9,000 คะแนน) วิธีการคิดคะแนน GAT, PAT 1. นําคะแนนสอบ GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนักที่กําหนด 2. นําคะแนนแต่ละวิชาจากข้อ 1 มารวมกันจะได้คะแนนรวมของ GAT และ/ PATตัวอย่าง วิธีการคิดคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ต้องการเลือกคณะวิศวกรรมศาสตร์ กําหนดให้สอบ O-NET 5 กลุ่มสาระฯ คือ รหัส 01,02,03,04 และ 05 แต่ละวิชาให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 6 วิชา GAT (รหัส 85) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 2 (รหัส 72) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 15 วิชา PAT 3 (รหัส 73) ให้ค่าน้ําหนักร้อยละ 20 ผู้สมัครมีคะแนนแต่ละวิชาดังนี้ วิธีคิดขั้นที่ 1 นําคะแนน GAT และ PAT ของผู้สมัครคูณกับค่าน้ําหนัก คะแนน GAT (265 × 15) = 3,975 คะแนน คะแนน PAT 2 (210 × 15) = 3,150คะแนน คะแนน PAT 3 (250 × 20) = 5,000คะแนน คะแนนรวม GAT และ PAT (3,975 + 3,150 + 5,000) = 12,125 คะแนนการคิดคะแนนรวม คะแนนรวม = คะแนน GPAX + คะแนน O-NET + คะแนน GAT และ/หรือ คะแนน PAT(นำคะแนนทุกอย่างมาบวกกัน) นี่ก็คือวิธีการคิดคะแนนที่ใช้ในการคัดเลือกในระบบแอดมิชชันนะครับ น้องๆคนไหนอยากคิดคะแนนตัวเองก็ลองคิดได้เลยนะครับ แต่อย่าไปคิดบวกเกินให้ตัวเองละ มันไม่ดีเน้อ อิอิ การยื่นเลือกคณะ การยื่นเลือกคณะของแอดมิชชันนั้น ปีนี้จะเลือกกัน หลังจากที่น้องๆม.6 ได้ทราบผลคะแนนทุกตัวที่ใช้เป็นองค์ประกอบแล้ว โดยน้องๆจะสามารถเลือกได้ทั้งหมด 4 อันดับ จะเลือกคณะอะไรมหาวิทยาลัยใดก็ได้ มหาวิทยาลัยเดียวกันก็ได้ โดยจะสมัครทางเว๊บไซท์ http:/mytcas.com/โดยวิธีการคิดเลือกคณะจะเป็นดังนี้1.ระบบจะรวบรวมคะแนนอันดับ1 ของน้องๆ ทุกคนมาเรียงไว้จากมากไปหาน้อย เช่น คณะวิศวะ จุฬา รับ100 คน ระบบก็จะนำคนที่เลือกคณะวิศวะจุฬาทั้งหมดนำคะแนนมาเรียงกัน ใครอยู่อันดับ1-100 ก็คือติดไป *คนที่ไม่เลือกไม่มีสิทธิ์ติดนะครับ*2.ระบบจะเลือกคนที่มีคะแนนมากที่สุด เข้าสู่แต่ละคณะให้ครบตามจำนวนที่รับ คนที่คะแนนไม่ติดคณะใดเลย ถือว่าตกพิจารณาในอันดับแรก ก็จะถูกพิจารณาคะแนนในอันดับที่2 ต่อไป3.เมื่อพิจารณาแล้วพบว่าคะแนนในอันดับ2 สูงกว่าคนที่ผ่านการพิจารณาในรอบแรก คะแนนใหม่ก็จะนำมาแทรก ดังนั้นคนที่ได้คะแนนต่ำสุดในรอบแรกของแต่ละคณะก็จะตกไปถ้าน้องไม่ติดอันดับ 1 ระบบก็จะนำคะแนนของน้องไปแข่งที่อันดับต่อไป ไม่ติดก็จะนำไปอันดับต่อไปเรื่อยๆ จนถึงอันดับ4 โดยถ้าคะแนนถึงอันดับไหนก็จะติดอันดับนั้นเลย ไม่นำคะแนนไปแข่งในอันดับถัดไปและที่สำคัญ จำไว้เลยว่าคะแนนสำคัญกว่าอันดับ ถึงแม้เราเลือกคณะเดียวกับคู่แข่ง แต่เราอันดับ3 คู่แข่งเค้าเลือกไว้อันดับ 1 ถ้าเราไม่ได้ติดอันดับ 1และ 2 จนมาถึงอันดับ3 ถ้าเราคะแนนมากกว่าก็ไม่ต้องกังวลอะไรครับ เราก็ติดก่อนแน่นอน แม้ว่าเราจะเลือกคณะนี้ไว้เป็นอันดับ3ก็ตาม ** เพราะฉะนั้นอันดับแรกเลยของการเลือกคณะคือเลือกคณะที่เราอยากเรียนมากที่สุด อยากเข้าไปที่สุด ไว้อันดับ1 เท่านั้น!! เรียกว่าเลือกตามความฝันไปเลยครับ ไม่ต้องห่วงคะแนน อะไรใดๆทั้งสิ้น เพราะหากติดคณะที่เราไม่อยากเรียน จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ เพราะโอกาสมาจากการเลือก ถ้าเราไม่เลือกก็คือไม่มีโอกาส ถึงแม้บางคนจะมองว่าโอกาสจะน้อยนิด แต่ก็ยังถือว่ามีโอกาส ถ้าไม่เลือกเลยโอกาสคือเท่ากับ 0 ครับ!! – การเลือกคณะที่เรียงลงมานั้น ต้องเริ่มคำนึงถึงโอกาสสอบติดมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นการรองรับกัน ให้น้องๆลองนึกภาพถึงการตกจากที่สูงนะครับ คือตกลงมาแล้ว เบาะชั้น1 รับไม่อยู่ก็ยังมีชั้น2 ชั้น3 ชั้น4 รองรับต่อๆกัน ทำให้ไม่ตกถึงฟื้น(หลุดแอด) โดยการดูโอกาสสอบติดดูได้จากอะไร ส่วนมากที่น้องๆดูก็จะมีคะแนนขั้นต่ำของปีที่ผ่านๆมา แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้น้องๆสามารถนำคะแนนของน้องๆมาประเมินได้จากโปรแกรมประเมินโอกาสต่างๆที่ตอนนี้มีอยู่หลายเว๊บ ซึ่งในอนา่คตรับรองว่าจะมีของ dek ad แน่นอนครับ ยกตัวอย่างการเรียงอันดับ อันดับ1 อย่างที่บอก เลือกไปเลยครับ คณะที่ชอบที่รักที่สุด ไม่ต้องสนใจโอกาสสอบติด ส่วนคณะที่ตามมา ต้องเลือกคณะที่่โอกาสสอบติดเปอร์เซ็นสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่น อันดับ2 50% อันดับ3ควร 70-80% อันดับ4ควร 90% ขึ้นไป เอาให้ปลอดภัยที่สุด ให้นอนหลับสบาย แบบไร้กังวลมากที่สุด ประมาณนี้ครับ เพื่อเป็นการรองรับกันและความปลอดภัยป้องกันไม่ให้เกิดการหลุดแอด แต่ถ้าถามว่าถ้าอยากเสี่ยงได้ไหม ก็ต้องแยกเป็นกรณีๆไปเช่นกรณีเด็กซิ่ว มีที่เรียนมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว แต่อาจไม่ได้เรียนในคณะที่ชอบอยากมาซิ่วใหม่ ก็เสี่ยงไปเลยครับเต็มที่ หรือน้องๆที่อาจจะติดรับตรงไปแล้วแต่ยังสามารถมาแอดได้ ก็สามารถจัดการความเสี่ยงได้ด้วยตัวเองเต็มที่เช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญสุดไม่ว่าพร้อมเสี่ยงหรือไม่พร้อมเสี่ยงก็คือการวางอันดับ อย่างน้อยๆก็ควรวางอันดับให้เป็นไปตามโอกาสที่น่าจะติด เพราะถ้าวางไปมั่วๆมันก็จะเป็นการเสียอันดับและเสียโอกาสโดยใช่เหตุครับ มาถึงอีกคำถามที่น้องๆถามมามากที่สุดก็คือเรื่องแนวโน้มต่างๆกับจะเช็คได้อย่างไรว่าคณะไหนมีความเสี่ยงมากน้อยเท่าไหร่ เลือกคณะดูแต่คะแนนต่ำสุดได้มั้ย ดูได้ครับ แต่อย่าลืมว่าคะแนนต่ำสุดของคณะต่างๆเมื่อปีแล้ว ไม่ได้เป็นคะแนนที่ตั้งไว้นิ่งๆมันสามารถขยับไปขยับมาได้ เพราะคะแนนมันมาจากการเลือก เพราะฉะนั้นคะแนนมันสามารถขึ้นๆลงๆได้ตลอด ซึ่งสิ่งที่เป็นปัจจัยทำให้คะแนนเปลี่ยนไปจะได้แก่ . 1.คะแนนสอบในแต่ละปี คะแนนสอบในที่นี้หมายถึงคะแนนสอบในแต่ละปีของ O-NET หรือ GAT PAT เพราะถ้าคะแนนเฉลี่ยตัวไหนขึ้นโดดเด่นก็จะพอคาดการณ์ได้เลยครับว่าคณะที่ใช้คะแนนตั้งนั้นในสัดส่วนก็จะมีโอกาสที่คะแนนสอบจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน . 2.จำนวนผู้สมัคร(คนเลือกเยอะ) แน่นอนครับคณะไหนหากมีการแข่งขันสูงคือมีผู้สมัครเยอะ คณะนั้นก็จะกลายเป็นคณะยอดฮิตมีคะแนนสูงขึ้นอย่างแน่นอน หรือแค่การดูจำนวนผู้สมัครในบางวิชาเราก็พอจะคาดการณ์ได้แล้วว่าคณะไหนมีแนวโน้มที่คะแนนจะขึ้น . 3.จำนวนการรับนักศึกษา จำนวนรับก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจะส่งผลถึงคะแนนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะคณะที่มีการปรับจำนวนการรับให้น้อยลงจากปีก่อนเยอะ ก็มีแนวโน้มที่คะแนนปีนี้จะสูงขึ้นอย่างแน่นอน . 4.คณะที่มีการเปลี่ยนเกณฑ์ ในทุกๆปีที่มีคณะที่มีการเปลียนเกณฑ์จะมีการสวิงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นคณะพยาบาลเมื่อตอนปี57 ที่มีปรับสัดส่วนการใช้ PAT2 ให้มากขึ้น10% ทำให้คะแนนในปีนั้นพยาบาลต่ำลงมากค่อนข้างเยอะ และส่งมาถึงปีที่ผ่านมาที่ทำให้คะแนนของคณะพยาบาลสวิงขึ้นมาเพราะคนแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนต่ำนั่นเอง อย่างปีหน้าก็จะมีเปลี่ยนเกณฑ์ของคณะสัตวแพทย์ อันนี้ก็จะมีผลแน่นอน . 5.คณะที่มีคะแนนสวิง(คะแนนต่ำสุดปีที่ผ่านมา ขึ้นๆลงๆ) ถามว่าคณะที่มีคะแนนสวิงจะเกี่ยวอะไร จะเกี่ยวก็ตรงมันมีผลทางจิตวิทยาที่แหละครับ บางคณะที่คะแนนสูงมากๆสูงเกินไปที่ใจเด็กในปีนั้นจะยอมรับก็อาจจะลงลงต่ำเรี่ยดินได้ เพราะว่าการเจียมตัวที่น้องๆเห็นว่าคะแนนสูง คงจะเอื้อมไม่ถึงก็เลยเลือกที่จะมาเลือก ซึ่งตัวอย่างอย่างนี้ก็จะมีให้เห็นแทบทุกปีนะครับ หรือคณะที่คะแนนต่ำมากๆ ก็อาจจะสวิงขึ้นมาสูงปรี๊ดเลยก็ได้เพราะคนจะแห่กันเลือกเพราะเห็นว่าคะแนนมันต่ำมากนั่นเอง . 6.เทรนด์ เทรนด์ในที่นี้ก็จะหมายถึงกระแสความฮิตของวัยรุ่นน้องวัยแอดในแต่ละปีว่ามีความนิยมเรื่องอะไร เรื่องมีความนิยมในคณะอะไร ซึ่งในสมัยก่อนก็จะอาจจะเคยเห็นว่ากระแสคณะนิเทศมาแรงมากๆ หรือในช่วงแอดปี4-5ปีก่อนกระแสคณะในอาชีพเสรีอาเซียนจะกลายเป็นคณะฮิตขึ้นมา ซึ่งในช่วงนี้เท่าที่พี่แฮนด์ดูก็จะเป็นคณะทางสายครูกับทางคณะทางด้านภาษาอังกฤษ หรือเกี่ยวกับกระแสดิจิทัล ที่คนจะสมัครเยอะมีคะแนนสูงขึ้นมา >>>> น้องๆสามารถ ปรึกษาการเลือกคณะแอดมิชชัน ด้วยวิธีง่ายๆเพียง 1. เข้าไปใช้โปรแกรม EZ (EZ ADMISSION) โปรแกรมช่วย ADMISSION ที่มีความแม่นยำสูง ที่สำคัญ ใช้ฟรี!! ได้ที่ >> http://ezadmissions.eduzones.com/ 2. เซฟรูปผลการคำนวณเลือกคณะของน้องๆ 3. นำไปโพสต์ขอคำปรึกษาจากพี่แฮนด์ที่ Line@ P’Hand Eduzones แอดเลยที่ >> @handyeduzones ง่ายๆเพียงเท่านี้ รับรองแอดมิชชั่นปีนี้ น้องๆไม่หลุดชัวร์!!! ครับ ———————————————————————————————————–