สสวท. เชิญใช้ฟรี “คลังคำศัพท์” รับเปิดเทอมใหม่ มัดรวมศัพท์ในหนังสือเรียนวิชาที่ สสวท. พัฒนา EZ WebmasterJune 19, 2025 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เชิญครูนักเรียนใช้งาน “คลังคำศัพท์” วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี โดย สสวท.ได้จัดทำพจนานุกรมศัพท์วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี (escivocab) ฉบับอิเล็กทรอนิกส์ ที่ยึดหลักการเขียนและการใช้คำศัพท์ตามเกณฑ์ของราชบัณฑิตยสถาน ซึ่งได้รวบรวมคำศัพท์ที่อยู่ในหนังสือเรียนสาระการเรียนรู้วิชาต่าง ๆ ที่ สสวท.พัฒนาและเผยแพร่ในสถานศึกษา ประกอบด้วยศัพท์บัญญัติทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และคำอธิบาย คลิกใช้งานฟรีที่คลังความรู้ SciMath สสวท. https://www.scimath.org/escivocab 11 สาเหตุลึกซึ้ง ทำไมการศึกษาไทยยังตกต่ำ? เสียงสะท้อนจากครูชนบท สู่คำถามใหญ่ของสังคม EZ WebmasterJune 19, 2025 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตคุณภาพทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความพยายามปฏิรูปหลายครั้ง แต่กลับไม่สามารถยกระดับการเรียนรู้ให้เทียบเท่าประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างแท้จริงนายสานิตย์ พลศรี นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ ในหัวข้อ “สาเหตุของปัญหาคุณภาพด้านการศึกษาประเทศไทยที่ตกต่ำ” ซึ่งกำลังถูกส่งต่ออย่างกว้างขวางในโซเชียลมีเดียและกลุ่มไลน์ของคนในแวดวงการศึกษาเสียงสะท้อนจากผู้ที่อยู่ในภาคสนามจริงอย่างนายสานิตย์ ทำให้เราได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวนักเรียนหรือครูเพียงลำพัง แต่เป็นผลสะสมจากโครงสร้าง ระบบ และการบริหารที่ผิดทิศผิดทางมานานจึงเป็นการเปิดประเด็นให้สังคมได้ทบทวนร่วมกันว่า หากเราไม่เริ่ม “เปลี่ยนจริง” คุณภาพการศึกษาของไทยอาจยิ่งตกต่ำลงกว่าที่เป็นอยู่ 11… โครงการ TARO to SCHOOL 2025 ส่องอาชีพยุค AI เก่งแบบไหนจะไปรอด โรงเรียนธารทองพิทยาคม EZ WebmasterJune 19, 2025 อีกหนึ่งความทรงจำดีๆ ในโรงเรียนธารทองพทยาคม กับโครงการ Taro to school 2025 ส่องอาชีพยุค AI เก่งแบบไหนจะไปรอด ณ โรงเรียนธารทองพิทยาคม จ.บุรีรัมย์ วันที่ 13/06/68 โดยวิทยากร อ.สุกัญญา โสเก่าข่า… โครงการ TARO to SCHOOL 2025 ส่องอาชีพยุค AI เก่งแบบไหนจะไปรอด โรงเรียนแม่เมาะวิทยา EZ WebmasterJune 18, 2025 ความสุขเล็กๆ ในวันที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน โครงการ Taro to school 2025 ส่องอาชีพยุค AI เก่งแบบไหนจะไปรอด พากิจกรรมดีๆ มาถึงโรงเรียนแม่เมาะวิทยา จ.ลำปาง วันที่18/06/68 โดยวิทยากร อ.สุกัญญา โสเก่าข่า (ครูแอน)… นักศึกษา มธ. ปักหมุดหลักสูตร ‘AI Ethics’ หนุนบริบทใหม่ของห้องเรียนทันโลก สร้างจุดยืนคนรุ่นใหม่ ‘ใช้เอไออย่างมีจริยธรรม’ พร้อมเดินหน้าวางหมุดหมายระบบการศึกษาไทย กับการปลุกการใช้เทคฯ คู่ธรรมาภิบาล คาดเริ่มเปิดลงทะเบียนพร้อมเรียนจริง สิงหาคม 68 นี้ EZ WebmasterJune 19, 2025 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ตอกย้ำจุดยืนเชิงรุกต่อการเปลี่ยนผ่านของโลกยุคดิจิทัล ผ่านการพัฒนาหลักสูตร “AI Ethics” หรือจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ ภายใต้ยุทธศาสตร์ Thammasat Next Century เตรียมความพร้อมให้เยาวชนไทยมีทั้งความรู้ ความสามารถ และความรับผิดชอบในการใช้งานเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ปัญญาประดิษฐ์กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ทั้งในห้องเรียน ที่ทำงาน และบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ โดยหลักสูตรนี้ถูกวางให้เป็นรากฐานสำคัญของระบบการศึกษายุคใหม่ ที่ไม่เพียงเน้นทักษะด้านเทคนิคเท่านั้น แต่ยังปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้องในการอยู่ร่วมกับเทคโนโลยี พร้อมชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงของ AI ที่เกิดจาก… 11 สาเหตุลึกซึ้ง ทำไมการศึกษาไทยยังตกต่ำ? เสียงสะท้อนจากครูชนบท สู่คำถามใหญ่ของสังคม EZ WebmasterJune 19, 2025 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตคุณภาพทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความพยายามปฏิรูปหลายครั้ง แต่กลับไม่สามารถยกระดับการเรียนรู้ให้เทียบเท่าประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างแท้จริงนายสานิตย์ พลศรี นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ ในหัวข้อ “สาเหตุของปัญหาคุณภาพด้านการศึกษาประเทศไทยที่ตกต่ำ” ซึ่งกำลังถูกส่งต่ออย่างกว้างขวางในโซเชียลมีเดียและกลุ่มไลน์ของคนในแวดวงการศึกษาเสียงสะท้อนจากผู้ที่อยู่ในภาคสนามจริงอย่างนายสานิตย์ ทำให้เราได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวนักเรียนหรือครูเพียงลำพัง แต่เป็นผลสะสมจากโครงสร้าง ระบบ และการบริหารที่ผิดทิศผิดทางมานานจึงเป็นการเปิดประเด็นให้สังคมได้ทบทวนร่วมกันว่า หากเราไม่เริ่ม “เปลี่ยนจริง” คุณภาพการศึกษาของไทยอาจยิ่งตกต่ำลงกว่าที่เป็นอยู่ 11… ว.วิศวกรรมสังคีต สจล. ร่วมมือ บริษัท Sonos Libra ส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ สร้างเสริมประสบการณ์ให้นักศึกษา EZ WebmasterJune 18, 2025 วิทยาลัยวิศวกรรมสังคีต สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิทักษ์ ธรรมวาริน (คนที่ 4 จากซ้าย) คณบดีวิทยาลัยวิศวกรรมสังคีต สจล. และ Mr. Alfonso Martin (คนที่ 3… คณะมนุษยศาสตร์ ม.หอการค้าไทย จัดหลักสูตรรุกหน้าการันตี “เรียนภาษาให้ได้ดี มีรายได้หลักแสน!!” EZ WebmasterJune 18, 2025 “ภาษา” มิใช่เพียงเครื่องมือสื่อสารแต่เป็นกุญแจสำคัญในการเรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรม การคิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์นวัตกรรม ผู้ที่มีทักษะด้านภาษาที่แข็งแกร่งจะสามารถเป็นข้อได้เปรียบหรือประสบความสำเร็จได้ในโลกที่เปลี่ยนแปลงและผู้คนทั่วโลกเชื่อมโยงสื่อสารถึงกันได้ในพริบตาแม้จะต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม การเรียนรู้ฝึกฝนมีทักษะภาษาจึงมิใช่แค่รู้หรือพูดภาษานานาชาติได้เท่านั้น แต่การเรียนภาษาให้มีรายได้ดี มีอาชีพมั่นคง เป็นมนุษย์เงินเดือนอิสระ ถึงขั้นการันตีได้ว่า “เรียนภาษาให้ได้ดี มีรายได้หลักแสน !!! นั้นก็เป็นสิ่งเพิ่มมูลค่าและมีคุณค่าอย่างน่าภูมิใจ เฉกเช่นที่ล่าสุด Miss World… ทุนดีดี Kazan Global Youth Summit InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 19, 2025 เชิญเยาวชนสมัครคัดเลือกเข้าร่วมการประชุม Kazan Global Youth Summit ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 27 – 30 สิงหาคม 2568 ณ เมืองคาซาน สาธารณรัฐตาตาร์สตาน สหพันธรัฐรัสเซีย จัดโดยรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐตาตาร์สตาน… SEAMEO-Japan ESD Award InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 18, 2025 เชิญสถานศึกษาเข้าร่วมประกวดในหัวข้อ “Fostering Schools and Surrounding Communities’ Resilience through the Revitalisation of Local Wisdom in Disaster Risk Reduction” ชิงรางวัล SEAMEO-Japan ESD Award ประจำปี 2568 … ทุนMaster of Education InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 17, 2025 International Welcome Scholarships in Master of Education หรือทุนเรียนปริญญาโททางด้านการศึกษา สำหรับผู้เรียนจากนานาชาติ โดย Murdoch University ประเทศออสเตรเลีย ทุนมีมูลค่าเป็นส่วนลดค่าเรียน 25% เปิดรับใบสมัครถึง 30 สิงหาคม… 8 ทุนป.ตรีรัฐบาลคูเวต InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 15, 2025 ทุนการศึกษารัฐบาลรัฐคูเวต สำหรับนักเรียนไทยเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ณ มหาวิทยาลัคูเวต (Kuwait University) ประจำปีการศึกษา ค.ศ. 2025–2026 จำนวน 8 ทุน เปิดรับใบสมัครถึง 18 มิถุนายน 2025 โดยในจำนวนทุนที่ให้เป็นในคณะวิศวกรรมศาสตร์และปิโตรเลียม จำนวน 6 ทุน และคณะศิลปะศาสตร์(คณะชารีอะห์และอิสลามศึกษา/คณะครุศาสตร์ / สังคมศาสตร์ / อักษรศาสตร์)… ครู-อาจารย์ มทร.ธัญบุรี โชว์ผลงานเด่น คว้า 12 รางวัลเวทีนวัตกรรมระดับนานาชาติ เซี่ยงไฮ้ 2025 tui sakrapeeJune 19, 2025 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) สร้างชื่อระดับโลก เวที “The 8th China (Shanghai) International Invention & Innovation Expo 2025” คว้ารางวัลรวม 12 รายการ ตอกย้ำศักยภาพ… สจล. เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน EZ WebmasterJune 19, 2025 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ทางวิชาการกับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีความร่วมมือกันมานานกว่า 20 ปี เพื่อหารือขยายความร่วมมือเชิงลึกในสาขาวิศวกรรมขั้นสูง โดยเฉพาะด้าน Aerospace, Mechatronics, Automation และ Astronautics ซึ่ง HIT ถือเป็นสถาบันชั้นนำของจีนในด้านนี้ พร้อมทั้งหารือแนวทางความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนนักศึกษา นักวิจัย และการพัฒนาโครงการ Joint Degree ในอนาคต รองศาสตราจารย์… อธิการบดีนำทีมกรรมการส่งเสริมฯ สวนสุนันทา เยี่ยมชมโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำ เมืองชิงเต่า สาธารณรัฐประชาชนจีน มุ่งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้สู่มาตรฐานโลก tui sakrapeeJune 18, 2025 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา นำโดย รศ.ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ อธิการบดี พร้อมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย เดินทางเยือนโรงเรียนนานาชาติ Qingdao No.1 International School of Shandong Province (QISS) และ Qingdao University… กองกลาง มจพ. เยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ และจัดสัมมนาจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรรายบุคคล ประจำปี 2568 EZ WebmasterJune 18, 2025 ผศ.ดร.สราวุฒิ สืบแย้ม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการคลังและกิจการทั่วไป มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วยนางสาวรัตนา สุขเฉลิมศรี ผู้อำนวยการกองกลาง และบุคลากรกองกลาง เข้าเยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ มจพ. ณ ชั้น 3 สำนักงานหอสมุดกลาง โดยมีนางสาวพนารมย์ เกียรติลีลานันท์ และ… กิจกรรม กองอาคาร มจพ. จับมือสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพฯ อบรมการจัดการคัดแยกขยะมูลฝอยภายในหน่วยงาน EZ WebmasterJune 18, 2025 ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ นายกสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วยศ.ดร.ธานินทร์ ศิลป์จารุ อธิการบดี ร่วมพิธีโครงการอบรม เรื่อง การคัดแยกขยะมูลฝอยภายในหน่วยงาน โดยมี รศ.ดร.ณัฐพงศ์ มกระธัช รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนากิจการมหาวิทยาลัยเพื่อความยั่งยืน กล่าวเปิดการอบรม รศ.ดร.ศักดา กตเวทวารักษ์… “40 ปี เภสัชศิลปากร” หลากวงการ ร่วมแสดงความยินดี สู่บทบาทผู้นำด้านวิชาชีพเภสัชกรรม วิจัยนวัตกรรม และการสร้างสุขภาพอย่างยั่งยืน EZ WebmasterJune 13, 2025 วันที่ 6 มิถุนายน 2568 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งการสถาปนาอย่างสมเกียรติ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม ภายใต้ชื่องาน “Celebrating the 40th Anniversary:… ดีพร้อม ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้ายกระดับร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย หวังสร้างรายได้ชุมชนสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก EZ WebmasterJune 13, 2025 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้า “โครงการพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย (Local Chef Restaurant) ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก” ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” มุ่งหวังยกระดับร้านอาหารท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ โดดเด่น และสามารถแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ และการสร้างให้เกิดเครือข่ายเชฟชุมชนที่เข้มแข็ง และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น… ถอดแนวคิดความมั่นคงชายแดนจากมุมมอง นักศึกษา “วปอ.บอ.” 4 ด้าน สังคม-เศรษฐกิจ-การเมือง-การทหาร ร่วมสะท้อนเส้นแบ่งแห่งโอกาสและอนาคตร่วมกัน EZ WebmasterJune 10, 2025 ชายแดนไทย-เมียนมา ที่ทอดยาวกว่า 2,400 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของไทย ตั้งแต่เชียงรายไปจนถึงและระนอง ไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นแบ่งระหว่างรัฐ แต่คือเส้นเขตแดนที่เชื่อมโยงผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ วัฒนธรรม เครือข่ายเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาอย่างยาวนาน แต่ภายหลังสถานการณ์การเมืองในเมียนมาตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา พื้นที่ที่เคยเต็มไปด้วยโอกาสนี้ กลับกลายเป็นความท้าทายที่ส่งผลกระทบบางประเด็นมาถึงประเทศไทย ดังนั้น การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนจึงไม่ใช่เพียงแค่ภารกิจของกองทัพในเรื่องการปกป้องพรมแดนเท่านั้น แต่เป็นโจทย์เชิงยุทธศาสตร์ที่ต้องผสมผสานความเข้าใจในพื้นที่ สังคม วัฒนธรรม ผู้คน เศรษฐกิจ… Search for: Search EZ Webmaster February 13, 2023 EZ Webmaster February 13, 2023 กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! เทศกาลแห่งความรักวนกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็ต้องเคยมีความรักกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ ความรักที่พี่ออมพูดถึงนั้นไม่ได้หมายถึงแค่ในรูปแบบคนรักเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความรักแบบครอบครัว แบบเพื่อน หรือแบบอื่น ๆ วันนี้นะคะพี่ออมจะมาเล่าประวัติวันแห่งความรักว่ามีที่มายังไงแล้วทำไมถึงกลายเป็นวันสำคัญอย่างเช่นทุกวันนี้ได้ ไปดูกันเลย! . แต่เดิมวันที่ 14 กุมภาพันธ์ไม่ได้เป็นที่รู้จักในชื่อวันวาเลนไทน์หรือเทศกาลแห่งความรักอย่างเช่นทุกวันนี้ ในช่วงจักรวรรดิโรมัน วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันหยุดเพื่อให้เกียรติแด่เทพีจูโน ซึ่งถือเป็นราชินีของบรรดาเทพเจ้าโรมัน และชาวโรมยังเชื่อว่าเธอเป็นผู้ปกป้องผู้หญิง ทั้งชีวิตแต่งงาน เวลาคลอดบุตร จึงถือว่าเทพีจูโนเป็นเทพีแห่งผู้หญิงและการแต่งงาน (เทพีจูโน) . ถ้าถามว่าแล้วยุคนั้นมีการเฉลิมฉลองเกี่ยวกับความรักไหม? มีค่ะ ถึงแม้ว่าในสมัยนั้นวิถีชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน แต่ก็ยังมีเทศกาลคล้ายกับวันวาเลนไทน์อย่าง “ลูเพอร์คาร์เลีย” หรือ “ลูเปอร์คาลีอา” เป็นประเพณีเพื่อระลึกถึงโรมิวลุสและเรมุสซึ่งเชื่อกันว่าเป็นฝาแฝดผู้ก่อตั้งกรุงโรม จัดในระหว่างวันที่ 13 – 15 กุมภาพันธ์ แต่เทศกาลวาเลนไทน์เดิมนี้ไม่ได้สวยงามอย่างวาเลนไทน์ในปัจจุบันนะคะเพราะการเฉลิมฉลองในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างโหดร้ายเลยก็ว่าได้ค่ะ เริ่มตั้งแต่การสังเวยแพะ แกะ สุนัข โดยสุนัขต้องเป็นลูกสุนัขตัวเล็กน่ารัก ๆ เท่านั้น วิธีการคือนำสัตว์เหล่านี้เข้าไปในถ้ำก่อนที่จะรุมฆ่ามันอย่างไร้ปราณี ไม่หยุดอยู่เพียงการสังหารสัตว์เท่านั้น หลังจากที่ฆ่าสัตว์แล้ว นักบวชจะนำเลือดจากมีดที่เพิ่งฆ่าสัตว์ไปก่อนหน้านี้มาป้ายลงบนศีรษะของเด็กหนุ่มจากตระกูลผู้ดีสองคน จากนั้นก็นำขนสัตว์มาชุบด้วยน้ำนมเพื่อเช็ดศีรษะอีกครั้งพร้อมบังคับให้เด็กทั้งสองหัวเราะออกมาอย่างสุดเสียงในถ้ำมืด ๆ ก่อนจะให้พวกเขาแก้ผ้าพร้อมมอบอาวุธเป็นแส้หนังแพะ แส้หนังแพะนี้เรียกว่า “Februare” มาจาก “February” หรือเดือนกุมภาพันธ์นั่นเองค่ะ โดยตามความเชื่อของคนในสมัยถือว่ากิจกรรมทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นการชำระจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ หลังจากนั้นจะมีเด็กหนุ่มผู้ดีมากมายพร้อมใจกันแก้ผ้าทาน้ำมันตามตัวถือแส้หนังแพะไว้ในมือ ก่อนกวาดสายตาวิ่งฟาดผู้หญิงที่เข้าร่วมงาน น้อง ๆ อาจจะเอ๊ะขึ้นมาว่าแล้วผู้หญิงไม่ทำอะไรกลับหรอ? ต้องบอกก่อนว่าแม้พวกเธอจะเหมือนวิ่งหนีแต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้หญิงเหล่านั้นต่างยินยอมที่จะถูกตีค่ะ เพราะเชื่อกันว่าหนังสัตว์เหล่านั้นจะทำให้พวกเธอสืบพันธุ์และมีลูกได้ (เด็กหนุ่มเอาแส้แพะไล่ฟาดหญิงสาว) . พิธีกรรมแปลก ๆ ตามมุมมองของคนปัจจุบันอย่างเรายังมีอีกนะคะ แน่นอนว่าเทศกาลแบบนี้ต้องมีอาหารกินเลี้ยงเหมือนประเพณีอื่น ๆ ต่างกันตรงที่ในเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียนี้ นักบวชจะแขวนเครื่องในแพะบนต้นวิลโลว์ หรือ ต้นหลิว (Willow) เพื่อให้คนนำมาทำอาหารพร้อมทั้งทำเค้กเกลือ ที่คล้ายกับแพนเค้กไปย่างเกลือทำให้ออกรสชาติเค็ม ๆ ไหม้ ๆ ทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นเมนูยอดฮิตประจำเทศกาลนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีการแต่งเพลงโดยนำเอาพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของผู้อื่นมาขับร้องเป็นเนื้อเพลงเพราะเชื่อกันว่าความอับอายจะช่วยให้ผู้คนประพฤติตัวดีขึ้น แต่แน่นอนว่ากิจกรรมนี้ดูเหมือนจะให้ผลเสียมากกว่า เป็นเรา เราก็คงไม่พอใจที่คนอื่นเอาเรื่องราวของเรามาป่าวประกาศใช่ไหมคะ อีกหนึ่งกิจกรรมเด่นที่เป็นตัวชูโรงทำให้เทศกาลนี้ถูกมองว่าเป็นวาเลนไทน์เดิมคือวันก่อนงานเทศกาล จะมีการจับสลากของหนุ่มสาวเพื่อจับคู่เที่ยวตลอดงาน เล่ากันว่าฝ่ายหญิงจะเขียนชื่อของตนและใส่ไปในเหยือกหรือโถ ก่อนฝ่ายชายจะเป็นผู้จับฉลากชื่อนั้นขึ้นมา แน่นอนว่างานเทศกาลนี้ทำให้หนุ่มสาวหลายคู่เกิดพบรักกันและสานต่อความสัมพันธ์กัน ภายหลังวิธีการจับสลากแบบนี้ถูกเรียกว่า “สลากรัก” หรือ “สลากลูเปอร์คาลีอา” พูดง่าย ๆ ก็คงคล้ายกับการนัดบอดในยุคนี้แหละค่ะ น้อง ๆ อาจจะกำลังคิดว่ากิจกรรมหลังนี้ดูจะปกติดีใช่ไหมคะ แต่ไม่เลยค่ะ บางแห่งเล่าว่าการเขียนชื่อลงในเหยือกหรือโถนั้นไม่ได้ทำเพื่อให้หนุ่มสาวได้ทดลองใช้เวลาร่วมกันแต่เพื่อมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ไม่มีการเดท ไม่มีการพูดคุย ไม่มีความรักมาเกี่ยวข้อง เป้าหมายมีเพียงการเพศสัมพันธ์และให้ผู้หญิงตั้งครรภ์เท่านั้น ซึ่งหากไม่สำเร็จตามเป้าหมายก็สามารถกลับมาใหม่ได้ในปีถัดไป แต่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าจะต้องคู่กับผู้ชายคนเดิม หรือเริ่มจับสลากกันใหม่ในทุกปีค่ะ . ต่อมาในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ศาสนาคริสต์กลายมาเป็นศาสนาหลักของกรุงโรม สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสเข้ามามีบทบาทและตัดสินว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียและเทศกาลอื่น ๆ เป็นเทศกาลของลัทธินอกรีต อีกทั้งยังผิดศีลธรรม ในราว ค.ศ. 500 ซึ่งจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ก็เห็นดีเห็นงามเนื่องจากเป็นบุคคลที่มีจิตใจดุร้าย ชื่นชอบการทำสงคราม การนองเลือด และมองว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียจะทำให้ผู้ชายไม่อยากเข้าร่วมกองทัพ เพราะไม่อยากจากคนรักหรือครอบครัวไป ทำให้เกิดเป็นคำสั่งห้ามไม่ให้มีการจัดพิธีหมั้นและพิธีแต่งงานกันในโรมอย่างเด็ดขาด สลากที่เคยเป็นสื่อกลางแห่งความรักถูกปรับเปลี่ยนเป็นสลากนักบุญ จากการจับชื่อหญิงสาวในโถกลายเป็นการจับชื่อนักบุญแทน หากชายหนุ่มจับได้ชื่อนักบุญท่านไหนก็ต้องใช้ชีวิต ศึกษา เรียนรู้ตามวิถีชีวิตของนักบุญท่านนั้น (จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2) . มาถึงตรงนี้น้อง ๆ คงจะเริ่มสงสัยกันแล้วว่าตกลงแล้ววันวาเลนไทน์ที่เป็นวันแห่งความรักจะเริ่มต้นที่ตรงไหน? ในระหว่างนี้เองที่มีนักบุญผู้ลือกันว่าหน้าตาหล่อเหลา งดงาม ชื่อว่า “เซนต์วาเลนไทน์” หรือ “วาเลนตินัส” มีความเห็นอกเห็นใจในคู่รัก จึงแอบร่วมมือกับ “เซนต์มาริอัส” จัดพิธีแต่งงานลับ ๆ ให้แก่ชาวคริสต์หลายคู่ ทั้งพิธีจะมีเพียงเจ้าบ่าว เจ้าสาว และบาทหลวงเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง ทหารของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ได้เข้ามาเห็นพิธี ส่งผลให้เซนต์วาเลนไทน์ถูกควบคุมตัวไปลงโทษอย่างสาหัส เหล่าคู่รักที่เคยเข้าร่วมพิธีแต่งงานกับเขาผลัดกันมาเยี่ยมนักบุญท่านนี้อยู่เสมอ และขณะที่เป็นนักโทษ เขาก็ยังคงส่งคำอวยพรออกไปนอกคุกอยู่เสมอ เชื่อกันว่าตอนอยู่ในคุกนั้น เซนต์วาเลนไทน์ได้รับคำขอให้ช่วยรักษาลูกสาวตาบอดของผู้คุมแอสทีเรียสที่ชื่อว่า “จูเลีย” ทั้งสองต่างตกหลุมรักกันระหว่างการรักษา จนกระทั่งจูเลียกลับมามองเห็นได้ปกติ เธอก็มักจะมาเยี่ยมเยียนเซนต์วาเลนไทน์อยู่เสมอ คืนก่อนที่เซนต์วาเลนไทน์จะถูกประหารด้วยการตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลียโดยลงท้ายว่า “From Your Valentine” เป็นอันปิดตำนานของเซนต์วาเลนไทน์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ด้วยวัยเพียง 47 ปี (เซนต์วาเลนไทน์และจูเลีย) . ศพของเซนต์วาเลนไทน์ได้ถูกจัดเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม โดยจูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอนด์สีชมพูไว้ใกล้หลุมศพของเขา โดยเหตุนี้เอง “ดอกอัลมอนด์สีชมพู” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งวันวาเลนไทน์ ความรักนิรันดร์ ไม่ใช่ดอกกุหลาบอย่างที่น้อง ๆ หลายคนเข้าใจกัน แต่ดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพและการแบ่งใจน้ำใจค่ะ (ดอกอัลมอนด์สีชมพู) . แม้เรื่องเล่าความรักของนักบุญวาเลนไทน์ข้างต้นจะเป็นที่โด่งดัง แต่ยังมีหลายแห่งที่มีเรื่องเล่าในรูปแบบที่ต่างกัน เล่ากันว่า “วาเลนตินุส” หรือ “วาเลนไทน์” มี 2 ท่าน คือ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งโรม” และ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งเทอร์นี” ทั้งสองพลีชีพเพื่อศาสนา ก่อนที่เรื่องราวจะถูกแต่งเติมจนกลายเป็นเรื่องราวความรักของนักบุญวาเลนไทน์ โดยคาดเดากันว่าน่าจะถูกแต่งขึ้นในช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 5 – 6 ใช้ชื่อผลงานว่า Passio Marii et Marthae ดังที่พี่ออมได้เล่าให้ฟังไปข้างต้นค่ะ . ด้วยเหตุการณ์นี้ เรื่องราวโรแมนติกอันสงสารของทั้งคู่ทำให้เซนต์วาเลนไทน์กลายเป็นนักบุญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ตั้งแต่เมื่อ ค.ศ. 496 สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสที่ 1 กำหนดให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักและมีการปรับเปลี่ยนชื่อวันแห่งความรักเป็น “วันวาเลนไทน์” ตามชื่อตามชื่อนักบุญค่ะ แต่ก็ถูกตัดออกจากปฏิทินโรมันทั่วไปและให้ไปอยู่ในปฏิทินเฉพาะซึ่งถือเป็นเพียงปฎิทินท้องถิ่นหรือปฎิทินประจำชาติโดยสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 ในปี ค.ศ. 1969 เพราะเห็นว่านอกจากชื่อของเซนต์วาเลนไทน์แล้วก็ไม่มีข้อมูลนอกเหนือจากว่าศพของเขาถูกฝังไว้ที่เวียฟลามิเนียเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ แต่ถึงอย่างนั้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ก็ได้กลายเป็นวันแห่งความรักของสากลอย่างเช่นทุกวันนี้ค่ะ . นอกจากจะเล่าที่มาของวันวาเลนไทน์แล้ว วันนี้พี่ออมก็ยังมีเกร็ดเล็ก ๆ ที่น่าจะพอคลายความสงสัยของน้อง ๆ เกี่ยวกับวาเลนไทนและความรักกันได้ค่ะ . สัญลักษณ์รูปหัวใจมาจากไหน ? ถ้าพูดถึงเรื่องของความรักก็เป็นไปไม่ได้เลยนะคะที่จะไม่พูดถึงรูปร่างหัวใจ แล้วรูปร่างหัวใจนี้มาจากไหนกันล่ะ? น้อง ๆ อาจจะเดากันว่าก็มาจากหัวใจมนุษย์จริง ๆ นี่ คำตอบนี้ก็ถูกต้องค่ะแต่ไม่ใช่เพียงคำตอบเดียวเท่านั้น ที่มาของรูปหัวใจถูกแบ่งออกเป็น 2 ทฤษฎีหลัก ๆ ค่ะ – ทฤษฎีแรกคือรูปร่างหัวใจมาจากอวัยวะ ซึ่งก็คือหัวใจมนุษย์จริง ๆ เริ่มจากนักปราชญ์ของกรีก “อริสโตเติล” (Aristotle) และแพทย์ชาวโรมัน “กาเลน” (Galen) ทั้งสองได้ศึกษาระบบร่างกายมนุษย์และโครงสร้างของของสิ่งมีชีวิตหรือที่เรียกกันว่ากายวิภาคศาสตร์นั้นแหละค่ะ ทั้งสองได้บันทึกและวาดรูปหัวใจของมนุษย์ไว้ (รูปวาดหัวใจของอริสโตเติลและกาเลน) จนในช่วงศตวรรษที่ 14 ชาวยุโรปได้เริ่มศึกษากายวิภาคของมนุษย์ และนำรูปหัวใจที่อริสโตเติลและกาเลนวาดมาอ้างอิง พร้อมทั้งเชื่อว่าหัวใจเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก อารมณ์ และความรัก ทำให้ถูกดัดแปลงกลายมาจากหัวใจของคนสองคนมาประกบกัน จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แต่ก็ยังมีผู้ถกเถียงว่ารูปร่างหัวใจมาจากร่างกายมนุษย์จริง แต่อาจถูกสร้างตามสรีระของร่างกายในส่วนของบั้นท้ายค่ะ – ทฤษฎีที่ 2 นั้นเชื่อกันว่ารูปหัวใจมาจากพืช เป็นพืชโบราณที่ชื่อว่า “ซิลเฟียม” หรือ “ซิลฟีเนียม” (Silphium) เป็นดอกไม้ในตระกูลยี่หร่า โดยผลของดอกมันมีลักษณะคล้ายกับรูปหัวใจในปัจจุบัน แล้วทำไมถึงเลือกเอาผลของพืชชนิดนี้มาเป็นสัญลักษณ์? เพราะว่าในสมัยก่อนซิลเฟียมเติบโตบริเวณชายฝั่งแอฟริกาเหนือใกล้กับคิวเรเนหรือซิเรเน (Cyrene) ซึ่งเป็นเมืองกรีกโบราณโดยพืชชนิดนี้ถูกใช้เป็นเครื่องเทศ และใช้ในการคุมกำเนิดของคนในสมัยนั้นอีกด้วยค่ะ (ผลของดอกซิลเฟียม) แต่ก็มีการเสนอความเห็นกันว่ารูปหัวใจอาจจะมาจากต้นไอวี ในช่วงศตวรรษที่ 4 ใบของมันถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของสถานที่ซื้อขายเพศสัมพันธ์ในเมืองเอฟิซัส (Ephesus) ตั้งอยู่ที่ประเทศตุรกีในปัจจุบัน ด้วยเหตุผลที่ว่าต้นไอวีเป็นสัญลักษณ์ของเทพไดโอนิซัส (Dionysus) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งไวน์ ความอิ่มเอมทั้งกายใจ ต่อมาต้นไอวีจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการมีเพศสัมพันธ์ของคนในสมัยนั้นไปโดยปริยาย ในอีกแง่คือไอวีถือเป็นพืชที่มีความเขียวสดอยู่ตลอดทั้งปีจึงถูกใช้แทนความหมายในเรื่องของความซื่อสัตย์ ความมั่นคงในเรื่องของความรัก จนถูกนำมารวมกับสีแดงซึ่งเป็นสีแห่งความรักจนกลายเป็นรูปหัวใจในที่สุดค่ะ (ใบเถาของต้นไอวี) . เทพเจ้าแห่งความรักมีแต่คิวปิดหรอ? หากพูดถึงเทพเจ้าแห่งความรักแล้ว น้อง ๆ อาจมีภาพเด็กผู้ชายถือธนูอยู่ ในความคิด ความเป็นจริงแล้วยังมีเทพเจ้าอีกหลายองค์ที่ถูกนับว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรักค่ะ – “อโฟรไดท์” (Aphrodite) หรือ “วีนัส” (Venus) เทพีแห่งความรัก ความงาม และเพศสภาพของกรีก อโฟรไดท์มีความสามารถในการสะกดจิต ทำให้ผู้อื่นหลุ่มหลงในความงามของนาง ตามตำนานกรีกแล้วอโฟรไดท์ถือเป็นเทพีที่มีอารมณ์รุนแรงและมีเพศสัมพันธ์กับเทพหลายองค์ แม้กระทั่งกับคนธรรมดา ซึ่งอโฟรไดท์มีศักดิ์เป็นแม่แท้ ๆ ของคิวปิด (อโฟรไดท์หรือวีนัส) – “คิวปิด” (Qupid) หรือ “อีรอส” (Eros) เทพเจ้าแห่งความรัก ความปรารถนาของกรีก แท้จริงแล้วคิวปิดเป็นเทพแห่งความรักแบบกามอารมณ์ ไม่ใช่แบบบริสุทธิ์อย่างที่ทุกคนเข้าใจค่ะ คิวปิดถือเป็นเทพที่รูปร่างหน้าตาดีที่สุด อีกทั้งยังมีความสามารถในการยิงธนูที่สั่งให้ใครรักใครก็ได้ และอีกด้านของธนูสามารถยิงให้คนเกลียดกันได้ คิวปิดตกหลุมรักไซคีตอนที่อโฟรไดท์สั่งเขาไปยิงธนูให้ไซคีไปรักกับผู้ชายไม่ดี เพราะผู้คนหลงในความงามของไซคีจนลืมบูชาเทพแห่งความงามอย่างอโฟรไดท์ คิวปิดตะลึงในความงามของไซคีจนทำธนูทิ่มมือตัวเอง ทำให้ต่อมาทั้งสองได้ครองรักกันภายใต้เงื่อนไขที่ว่าไซคีต้องห้ามแอบมองว่าหน้าตาคิวปิดเป็นอย่างไร แต่ด้วยคำยุยงจากพี่สาวที่อิจฉาชีวิตของไซคีทำให้ไซคีแอบดู เป็นเหตุทำให้คิวปิดจากไปพร้อมบอกว่า “ความรักไม่อาจดำรงอยู่ได้ ถ้าปราศจากความไว้วางใจ” แม้ในท้ายที่สุดทั้งสองจะได้ครองรักกันแต่เรื่องราวของไซคีกับคิวปิดจึงกลายเป็นตัวแทนและคำสอนเกี่ยวกับความรักเรื่องของความเชื่อใจ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน (คิวปิดและไซคี) – แฮธอร์ (Hathor) เทพีแห่งความรัก ความสุข การแต่งงาน การเต้นรำ และความงดงามของอียิปต์ เชื่อกันว่านางเป็นผู้ควบคุมระบบการสืบพันธุ์ของมนุษย์ เป็นผู้ให้เสน่ห์แก่ผู้หญิง และทำให้เกิดอารมณ์ปรารถนา เป็นผู้ควบคุมเพศสัมพันธ์ มีอำนาจทำให้มนุษย์เสื่อมสมรรถภาพหรือหายจากอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ ทำให้เทวสถานของนางส่วนใหญ่เปิดรับคู่รักทุกเพศ ทุกวรรรณะเพราะพระนางชื่นชอบการแต่งงาน และความรักที่สมหวังเป็นอย่างมาก (แฮธอร์) – อินันนา (Inanna) เทพีความรัก ความงาม เพศ สงคราม ความยุติธรรม และอำนาจทางการเมืองของเมโสโปเตเมีย เชื่อกันว่านางมีหน้าที่ให้กำเนิดความรักและความต้องการทางเพศ และถูกมองว่าเป็นเทพีผู้บริสุทธิ์ (อินันนา) – เฟรย่า (Freyja) เทพีแห่งความรัก ความงาม เพศสัมพันธ์ ความอุดมสมบูรณ์ และความตายตามตำราของนอร์ส เล่ากันว่านางเป็นเทพีที่งดงามที่สุดในแอสการ์ด มีทั้งด้านที่อ่อนหวานและดุดัน (เฟรย่า) ยังมีเทพอีกหลายอันที่พี่ออมยังไม่ได้พูดถึงนะคะ แต่น้อง ๆ อาจจะสังเกตได้ว่าเทพแห่งความรักส่วนใหญ่มักเป็นผู้หญิง และมีการผูกเข้ากับเรื่องของอารมณ์ เพศสัมพันธ์และความงามค่ะ . ทำไมต้องให้ดอกกุหลาบในวันวาเลนไทน์? ช่วงวาเลนไทน์เป็นช่วงที่ดอกไม้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โดยเฉพาะกับดอกกุหลาบ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เจอเต็มไปหมด จริง ๆ แล้วนะคะธรรมเนียมการให้ดอกกุหลาบมาจากหลายตำนาน – เรื่องเล่าหลายเรื่องมักมีการเชื่อมโยงระหว่างกุหลาบกับอโฟรไดท์ โดยเป็นเรื่องราวของอโดนิสที่เชื่อกันว่าเป็นคนที่อโฟร์ไดท์รักที่สุดในบรรดาชายที่เธอเคยข้องเกี่ยวมา ยิ่งอโดนิสเป็นชายคนเดียวที่ไม่ตกเป็นทาสความสวยของเธอ ยิ่งทำให้อโฟร์ไดท์หลุ่มหลงชายผู้นี้เป็นอย่างมาก จนเกิดเป็นเรื่องเล่าที่ทำให้กุหลาบกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เช่น หลังจากอโดนิส (Adonis) ถูก “อาเรส” (Ares) คู่รักเก่าของอโรไดท์ในร่างหมูป่าฆ่าเพราะความหึงหวง น้ำตาของเธอไหลลงผสมกับเลือดของเขา หยดลงกลายเป็นดอกกุหลาบสีแดง บ้างก็ว่าอโฟร์ไดท์แทงตัวเองจนเลือดหยดลงสู่พื้นกลายเป็นกุหลาบ บ้างก็ว่านางรับไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียคนรักจึงเสกเลือดของอโดนิสให้กลายเป็นดอกไม้ ทำให้ชื่อแรกสุดของดอกไม้ชนิดนี้คือ “อโดนิส” หรือ “อะเนมโมนิ” (Anemone) (อโฟร์ไดท์กับอโดนิส) – “คลอริส” (Chloris) เทพธิดาแห่งดอกไม้ได้ยกเอาดอกกุหลาบเป็นราชินีของดอกไม้ ซึ่งต่อมาได้มอบกุหลาบให้แก่คิวปิดเทพเจ้าแห่งความรัก ทำให้กุหลาบถูกเชื่อมโยงไปกับเรื่องราวความรักไปในทันที – ในศาสนาคริสต์เชื่อว่าเลือดของพระเยซูในตอนที่ถูกตรึงอยู่บนไม้กางเขนได้หยดลงบนต้นหญ้ามอลส์เกิดเป็นต้นกุหลาบแดง เรียกกันว่ากุหลาบมอลส์ – ในประเทศไทยไม่มีระบุแน่ชัดว่ากุหลาบเข้ามาเป็นที่นิยมตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มีวรรณคดีเรื่อง “มัทนะพาธา” พระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นตำนานของดอกกุหลาบที่เกี่ยวกับข้องกับเรื่องของความงาม ความรัก ในปัจจุบันดอกไม้ที่มอบให้ระหว่างเทศกาลวาเลนไทน์มีความหลากหลายมากขึ้น ถ้าน้อง ๆ ยังสงสัยกันอยู่ทำไมต้องเป็นดอกไม้ จริง ๆ แล้วนะคะ มนุษย์ใช้ดอกไม้เป็นสื่อกลางแสดงความรักมานักต่อนักแล้วค่ะ อาจจะดอกรูปร่าง สีสัน และกลิ่นของมันทำให้เป้นสิ่งของที่ดีในการมอบให้แก่ใครสักคนค่ะ . ช็อกโกแลตกับวาเลนไทน์? นอกจากดอกกุหลาบแล้ว ช็อกโกแลตก็เป็นอีกหนึ่งของแทนใจยอดฮิตที่อาจจะมีน้อง ๆ บางคนลงทุนทำเองกับมือเพื่อมอบให้คนที่รักในวันวาเลนไทน์ใช่ไหมคะ ถ้าถามว่าช็อกโกแลตมีความเกี่ยวข้องยังไงกับเทศกาลแห่งความรักเช่นนี้ ก็คงต้องย้อนกลับในสมัยจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ช่วงที่ความรักของชายหญิงถือเป็นเรื่องต้องห้าม การเจอกันแต่ละครั้งจึงนิยมเอาของมามอบแทนความรัก ใช่แล้วค่ะ ของสิ่งนั้นก็คือช็อกโกแลต เพราะถือเป็นของหายากและมีราคาสูง ทำให้ช็อกโกแลตกลายเป็นของมีค่าที่คู่รักนิยมมอบให้แก่กันเพื่อแสดงความรักที่เต็มหัวใจค่ะ ในขณะเดียวกันก็มีบางคนเชื่อว่า การให้ช็อกโกแลตอาจเป็นเพียงการตลาดที่เกิดจาก Richard Cabury สมัยเพิ่งเข้าสืบทอดกิจการช็อกโกแลต Cabury ของประเทศอังกฤษ และด้วยความไฟแรงต้องการเพิ่มยอดขายของเขาทำให้เกิดการคิดค้นช็อกโกแลตรูปหัวใจ และออกแบบลวดลายบนกล่องให้มีรูปคิวปิดและดอกกุหลาบ แน่นอนว่าเป็นความคิดที่ประสบความสำเร็จและพลิกวงการของช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์มาจนถึงทุกวันนี้ . แหวน เครื่องประดับแทนใจของคู่รัก? ทำไมต้องใส่นิ้วนางข้างซ้าย? เมื่อเข้าร่วมพิธีแต่งงานกันทั้งฝ่ายจำเป็นที่จะสวมแหวนไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย ซึ่งกลายเป็นเครื่องประดับที่เราเห็นเมื่อไรก็ทราบได้ทันทีว่าคน ๆ นี้มีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว แล้วทำไมต้องเป็นแหวนล่ะ? การใส่แหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายมาจากชาวอียิปต์โบราณที่พบว่านิ้วนางข้างซ้ายเป็นนิ้วเดียวที่มีเส้นเลือดใหญ่วิ่งเข้าไปที่หัวใจ ซึ่งเรียกตามภาษาละตินว่า “เส้นเลือดแห่งความรัก” (Vena Amoris) จนกลายมาเป็นวัฒนธรรมที่คู่รักสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายเพราะเป็นตัวเชื่อมจากเส้นเลือดไปถึงหัวใจของทั้งสอง แต่ในสำหรับข้อเท็จจริงนะคะ ได้มีการพิสูจน์ในภายหลังว่าแต่ละนิ้วมีระบบเลือดไหลเวียนที่เหมือนกัน ทำให้นิ้วนางข้างขวามีการไหลเวียนของเลือดไม่ต่างจากนิ้วนางข้างซ้ายค่ะ . คำว่าแฟนมาจากไหน? แล้วก่อนหน้านี้ใช้คำว่าอะไร? คำว่า “แฟน” ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 (ออนไลน์) เป็นภาษาปาก หมายถึง ผู้นิยมชมชอบ เช่น แฟนเพลง แฟนภาพยนตร์ แฟนมวย, ผู้เป็นที่ชอบพอรักใคร่, คู่รัก, สามีหรือภรรยา. ซึ่งคำนี้มีที่มาจากคำในภาษาอังกฤษคือว่า “Fan” ย่อมาจาก “Fanatic” คลั่งไคล้ หลุ่มหลงในสิ่งใดมาก ๆ ถ้าเอาในยุคนี้ก็คงเหมือนกับคำว่า “คลั่งรัก” นั้นแหละค่ะ แล้วก่อนหน้าที่จะมีคำว่าแฟนล่ะ คนไทยใช้คำว่าอะไร? คนไทยใช้คำว่า “ชิ้น” แทนคู่รักในหน้าที่เดียวกับคำว่าแฟนเลยค่ะ ก่อนที่หลังสมัย พ.ศ. 2490 คนไทยจะเปลี่ยนมาใช้คำว่าแฟนตามปัจจุบันอ้างจากหนังสือมหาเหตุประเทศสยาม เล่ม 1 ของเอนก นาวิกมูลที่เขียนในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งอธิบายไว้ “แฟน” ไว้ว่าเป็นคำที่คนไทยในสมัยนั้นใช้กันอย่างแพร่หลาย ฟุ่มเฟื่อย . วันวาเลนไทน์เข้ามาในไทยเมื่อไหร่? วันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรักซึ่งมาจากวัฒนธรรมของต่างประเทศ ซึ่งเข้ามามีบทบาทในไทยในสมัยสงครามเวียดนาม ราวปี พ.ศ. 2508 – 2509 สหรัฐอเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพในเมืองไทยหลายแห่ง เช่น อุดรธานี มีผู้หญิงหลายคนในบริเวณฐานทัพรับเอาวันวาเลนไทน์นี้เข้ามา จนกระทั่งห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เป็นผู้ริเริ่มการจัดประเพณีวาเลนไทน์ในห้าง บ้างก็ว่ามาจากพนักงานที่ไปเรียนต่างประเทศมา บ้างก็ว่าเป็นลูกหลานของเจ้าของห้างแห่งนั้น ทำให้หลังจาก พ.ศ. 2510 ห้างสรรพสินค้าเกือบทุกแห่งนับเอาเทศกาลวันวาเลนไทน์มาเป็นอีกหนึ่งอีเวนต์หลักของทุกปีเลยก็ว่าได้ค่ะ . วันแห่งความรักของไทย ถึงแม้ว่าวันวาเลนไทน์จะเป็นวันแห่งความรักที่รู้จักกันเป็นสากล และได้รับความนิยมในทุกหนแห่งไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย แต่ประเทศไทยก็มีวันแห่งความรักเช่นกันค่ะ แต่อิงตามศาสนาพุทธนั้นก็คือ “วันมาฆบูชา” ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 โดยอ้างจากเหตุการณ์โอวาทปาฎิโมกข์ซึ่งถือเป็นวันแสดงความรักของพระพุทธเจ้าโดยการเทศนา เป็นความรักในแบบของการเมตตา และปรารถนาดีต่อผู้อื่นค่ะ . จบกันไปแล้วนะคะสำหรับเรื่องราวของวันแห่งความรักแบบนี้ ไม่ว่าจะความรักแบบไหนก็สวยงามไม่แพ้กันนะคะ แต่อีกหนึ่งคนสำคัญที่พี่ออมอยากให้น้อง ๆ รักก็คือตัวน้อง ๆ เองค่ะ อย่ามองข้ามการรักตัวเองค่ะ ความรักในรูปแบบนี้นับว่าเป็นความรักที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะการรักตัวเองจะทำให้น้อง ๆ มีความสุขกับชีวิตในแต่ละวัน และไม่ว่าน้อง ๆ จะรักใคร สิ่งที่สำคัญก็อย่ารักจนไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น หรือทำให้ผู้ใดเป็นทุกข์ แม้กระทั่งตัวเราเองนะคะ 🙂 EZ Webmaster Related Posts มทร.ธัญบุรี โชว์ผลงานเด่น คว้า 12 รางวัลเวทีนวัตกรรมระดับนานาชาติ เซี่ยงไฮ้ 2025 มธ. ปักหมุดหลักสูตร ‘AI Ethics’ หนุนบริบทใหม่ของห้องเรียนทันโลก สร้างจุดยืนคนรุ่นใหม่ ‘ใช้เอไออย่างมีจริยธรรม’ พร้อมเดินหน้าวางหมุดหมายระบบการศึกษาไทย กับการปลุกการใช้เทคฯ คู่ธรรมาภิบาล คาดเริ่มเปิดลงทะเบียนพร้อมเรียนจริง สิงหาคม 68 นี้ สสวท. เชิญใช้ฟรี “คลังคำศัพท์” รับเปิดเทอมใหม่ มัดรวมศัพท์ในหนังสือเรียนวิชาที่ สสวท. พัฒนา สจล. เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน 11 สาเหตุลึกซึ้ง ทำไมการศึกษาไทยยังตกต่ำ? เสียงสะท้อนจากครูชนบท สู่คำถามใหญ่ของสังคม Post navigation PREVIOUS Previous post: กมธ. อุดมศึกษาฯ วุฒิสภา ดูงานและติดตามความคืบหน้าชุดโครงการวิจัยการพัฒนาต้นแบบการจัดการเกษตรผสมผสาน และการจัดการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนวัตวิถีเชิงสร้างสรรค์ จังหวัดแพร่NEXT Next post: มหาวิทยาลัยนเรศวร ประกาศรับ #TCAS66 รอบ 2 #QUOTA แพทยศาสตรบัณฑิต #ผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
11 สาเหตุลึกซึ้ง ทำไมการศึกษาไทยยังตกต่ำ? เสียงสะท้อนจากครูชนบท สู่คำถามใหญ่ของสังคม EZ WebmasterJune 19, 2025 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตคุณภาพทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความพยายามปฏิรูปหลายครั้ง แต่กลับไม่สามารถยกระดับการเรียนรู้ให้เทียบเท่าประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างแท้จริงนายสานิตย์ พลศรี นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ ในหัวข้อ “สาเหตุของปัญหาคุณภาพด้านการศึกษาประเทศไทยที่ตกต่ำ” ซึ่งกำลังถูกส่งต่ออย่างกว้างขวางในโซเชียลมีเดียและกลุ่มไลน์ของคนในแวดวงการศึกษาเสียงสะท้อนจากผู้ที่อยู่ในภาคสนามจริงอย่างนายสานิตย์ ทำให้เราได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวนักเรียนหรือครูเพียงลำพัง แต่เป็นผลสะสมจากโครงสร้าง ระบบ และการบริหารที่ผิดทิศผิดทางมานานจึงเป็นการเปิดประเด็นให้สังคมได้ทบทวนร่วมกันว่า หากเราไม่เริ่ม “เปลี่ยนจริง” คุณภาพการศึกษาของไทยอาจยิ่งตกต่ำลงกว่าที่เป็นอยู่ 11… โครงการ TARO to SCHOOL 2025 ส่องอาชีพยุค AI เก่งแบบไหนจะไปรอด โรงเรียนธารทองพิทยาคม EZ WebmasterJune 19, 2025 อีกหนึ่งความทรงจำดีๆ ในโรงเรียนธารทองพทยาคม กับโครงการ Taro to school 2025 ส่องอาชีพยุค AI เก่งแบบไหนจะไปรอด ณ โรงเรียนธารทองพิทยาคม จ.บุรีรัมย์ วันที่ 13/06/68 โดยวิทยากร อ.สุกัญญา โสเก่าข่า… โครงการ TARO to SCHOOL 2025 ส่องอาชีพยุค AI เก่งแบบไหนจะไปรอด โรงเรียนแม่เมาะวิทยา EZ WebmasterJune 18, 2025 ความสุขเล็กๆ ในวันที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน โครงการ Taro to school 2025 ส่องอาชีพยุค AI เก่งแบบไหนจะไปรอด พากิจกรรมดีๆ มาถึงโรงเรียนแม่เมาะวิทยา จ.ลำปาง วันที่18/06/68 โดยวิทยากร อ.สุกัญญา โสเก่าข่า (ครูแอน)… นักศึกษา มธ. ปักหมุดหลักสูตร ‘AI Ethics’ หนุนบริบทใหม่ของห้องเรียนทันโลก สร้างจุดยืนคนรุ่นใหม่ ‘ใช้เอไออย่างมีจริยธรรม’ พร้อมเดินหน้าวางหมุดหมายระบบการศึกษาไทย กับการปลุกการใช้เทคฯ คู่ธรรมาภิบาล คาดเริ่มเปิดลงทะเบียนพร้อมเรียนจริง สิงหาคม 68 นี้ EZ WebmasterJune 19, 2025 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ตอกย้ำจุดยืนเชิงรุกต่อการเปลี่ยนผ่านของโลกยุคดิจิทัล ผ่านการพัฒนาหลักสูตร “AI Ethics” หรือจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ ภายใต้ยุทธศาสตร์ Thammasat Next Century เตรียมความพร้อมให้เยาวชนไทยมีทั้งความรู้ ความสามารถ และความรับผิดชอบในการใช้งานเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ปัญญาประดิษฐ์กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ทั้งในห้องเรียน ที่ทำงาน และบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ โดยหลักสูตรนี้ถูกวางให้เป็นรากฐานสำคัญของระบบการศึกษายุคใหม่ ที่ไม่เพียงเน้นทักษะด้านเทคนิคเท่านั้น แต่ยังปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้องในการอยู่ร่วมกับเทคโนโลยี พร้อมชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงของ AI ที่เกิดจาก… 11 สาเหตุลึกซึ้ง ทำไมการศึกษาไทยยังตกต่ำ? เสียงสะท้อนจากครูชนบท สู่คำถามใหญ่ของสังคม EZ WebmasterJune 19, 2025 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตคุณภาพทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความพยายามปฏิรูปหลายครั้ง แต่กลับไม่สามารถยกระดับการเรียนรู้ให้เทียบเท่าประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างแท้จริงนายสานิตย์ พลศรี นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ ในหัวข้อ “สาเหตุของปัญหาคุณภาพด้านการศึกษาประเทศไทยที่ตกต่ำ” ซึ่งกำลังถูกส่งต่ออย่างกว้างขวางในโซเชียลมีเดียและกลุ่มไลน์ของคนในแวดวงการศึกษาเสียงสะท้อนจากผู้ที่อยู่ในภาคสนามจริงอย่างนายสานิตย์ ทำให้เราได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวนักเรียนหรือครูเพียงลำพัง แต่เป็นผลสะสมจากโครงสร้าง ระบบ และการบริหารที่ผิดทิศผิดทางมานานจึงเป็นการเปิดประเด็นให้สังคมได้ทบทวนร่วมกันว่า หากเราไม่เริ่ม “เปลี่ยนจริง” คุณภาพการศึกษาของไทยอาจยิ่งตกต่ำลงกว่าที่เป็นอยู่ 11… ว.วิศวกรรมสังคีต สจล. ร่วมมือ บริษัท Sonos Libra ส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ สร้างเสริมประสบการณ์ให้นักศึกษา EZ WebmasterJune 18, 2025 วิทยาลัยวิศวกรรมสังคีต สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิทักษ์ ธรรมวาริน (คนที่ 4 จากซ้าย) คณบดีวิทยาลัยวิศวกรรมสังคีต สจล. และ Mr. Alfonso Martin (คนที่ 3… คณะมนุษยศาสตร์ ม.หอการค้าไทย จัดหลักสูตรรุกหน้าการันตี “เรียนภาษาให้ได้ดี มีรายได้หลักแสน!!” EZ WebmasterJune 18, 2025 “ภาษา” มิใช่เพียงเครื่องมือสื่อสารแต่เป็นกุญแจสำคัญในการเรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรม การคิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์นวัตกรรม ผู้ที่มีทักษะด้านภาษาที่แข็งแกร่งจะสามารถเป็นข้อได้เปรียบหรือประสบความสำเร็จได้ในโลกที่เปลี่ยนแปลงและผู้คนทั่วโลกเชื่อมโยงสื่อสารถึงกันได้ในพริบตาแม้จะต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม การเรียนรู้ฝึกฝนมีทักษะภาษาจึงมิใช่แค่รู้หรือพูดภาษานานาชาติได้เท่านั้น แต่การเรียนภาษาให้มีรายได้ดี มีอาชีพมั่นคง เป็นมนุษย์เงินเดือนอิสระ ถึงขั้นการันตีได้ว่า “เรียนภาษาให้ได้ดี มีรายได้หลักแสน !!! นั้นก็เป็นสิ่งเพิ่มมูลค่าและมีคุณค่าอย่างน่าภูมิใจ เฉกเช่นที่ล่าสุด Miss World… ทุนดีดี Kazan Global Youth Summit InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 19, 2025 เชิญเยาวชนสมัครคัดเลือกเข้าร่วมการประชุม Kazan Global Youth Summit ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 27 – 30 สิงหาคม 2568 ณ เมืองคาซาน สาธารณรัฐตาตาร์สตาน สหพันธรัฐรัสเซีย จัดโดยรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐตาตาร์สตาน… SEAMEO-Japan ESD Award InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 18, 2025 เชิญสถานศึกษาเข้าร่วมประกวดในหัวข้อ “Fostering Schools and Surrounding Communities’ Resilience through the Revitalisation of Local Wisdom in Disaster Risk Reduction” ชิงรางวัล SEAMEO-Japan ESD Award ประจำปี 2568 … ทุนMaster of Education InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 17, 2025 International Welcome Scholarships in Master of Education หรือทุนเรียนปริญญาโททางด้านการศึกษา สำหรับผู้เรียนจากนานาชาติ โดย Murdoch University ประเทศออสเตรเลีย ทุนมีมูลค่าเป็นส่วนลดค่าเรียน 25% เปิดรับใบสมัครถึง 30 สิงหาคม… 8 ทุนป.ตรีรัฐบาลคูเวต InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 15, 2025 ทุนการศึกษารัฐบาลรัฐคูเวต สำหรับนักเรียนไทยเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ณ มหาวิทยาลัคูเวต (Kuwait University) ประจำปีการศึกษา ค.ศ. 2025–2026 จำนวน 8 ทุน เปิดรับใบสมัครถึง 18 มิถุนายน 2025 โดยในจำนวนทุนที่ให้เป็นในคณะวิศวกรรมศาสตร์และปิโตรเลียม จำนวน 6 ทุน และคณะศิลปะศาสตร์(คณะชารีอะห์และอิสลามศึกษา/คณะครุศาสตร์ / สังคมศาสตร์ / อักษรศาสตร์)… ครู-อาจารย์ มทร.ธัญบุรี โชว์ผลงานเด่น คว้า 12 รางวัลเวทีนวัตกรรมระดับนานาชาติ เซี่ยงไฮ้ 2025 tui sakrapeeJune 19, 2025 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) สร้างชื่อระดับโลก เวที “The 8th China (Shanghai) International Invention & Innovation Expo 2025” คว้ารางวัลรวม 12 รายการ ตอกย้ำศักยภาพ… สจล. เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน EZ WebmasterJune 19, 2025 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ทางวิชาการกับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีความร่วมมือกันมานานกว่า 20 ปี เพื่อหารือขยายความร่วมมือเชิงลึกในสาขาวิศวกรรมขั้นสูง โดยเฉพาะด้าน Aerospace, Mechatronics, Automation และ Astronautics ซึ่ง HIT ถือเป็นสถาบันชั้นนำของจีนในด้านนี้ พร้อมทั้งหารือแนวทางความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนนักศึกษา นักวิจัย และการพัฒนาโครงการ Joint Degree ในอนาคต รองศาสตราจารย์… อธิการบดีนำทีมกรรมการส่งเสริมฯ สวนสุนันทา เยี่ยมชมโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำ เมืองชิงเต่า สาธารณรัฐประชาชนจีน มุ่งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้สู่มาตรฐานโลก tui sakrapeeJune 18, 2025 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา นำโดย รศ.ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ อธิการบดี พร้อมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย เดินทางเยือนโรงเรียนนานาชาติ Qingdao No.1 International School of Shandong Province (QISS) และ Qingdao University… กองกลาง มจพ. เยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ และจัดสัมมนาจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรรายบุคคล ประจำปี 2568 EZ WebmasterJune 18, 2025 ผศ.ดร.สราวุฒิ สืบแย้ม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการคลังและกิจการทั่วไป มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วยนางสาวรัตนา สุขเฉลิมศรี ผู้อำนวยการกองกลาง และบุคลากรกองกลาง เข้าเยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ มจพ. ณ ชั้น 3 สำนักงานหอสมุดกลาง โดยมีนางสาวพนารมย์ เกียรติลีลานันท์ และ… กิจกรรม กองอาคาร มจพ. จับมือสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพฯ อบรมการจัดการคัดแยกขยะมูลฝอยภายในหน่วยงาน EZ WebmasterJune 18, 2025 ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ นายกสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วยศ.ดร.ธานินทร์ ศิลป์จารุ อธิการบดี ร่วมพิธีโครงการอบรม เรื่อง การคัดแยกขยะมูลฝอยภายในหน่วยงาน โดยมี รศ.ดร.ณัฐพงศ์ มกระธัช รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนากิจการมหาวิทยาลัยเพื่อความยั่งยืน กล่าวเปิดการอบรม รศ.ดร.ศักดา กตเวทวารักษ์… “40 ปี เภสัชศิลปากร” หลากวงการ ร่วมแสดงความยินดี สู่บทบาทผู้นำด้านวิชาชีพเภสัชกรรม วิจัยนวัตกรรม และการสร้างสุขภาพอย่างยั่งยืน EZ WebmasterJune 13, 2025 วันที่ 6 มิถุนายน 2568 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งการสถาปนาอย่างสมเกียรติ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม ภายใต้ชื่องาน “Celebrating the 40th Anniversary:… ดีพร้อม ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้ายกระดับร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย หวังสร้างรายได้ชุมชนสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก EZ WebmasterJune 13, 2025 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้า “โครงการพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย (Local Chef Restaurant) ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก” ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” มุ่งหวังยกระดับร้านอาหารท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ โดดเด่น และสามารถแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ และการสร้างให้เกิดเครือข่ายเชฟชุมชนที่เข้มแข็ง และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น… ถอดแนวคิดความมั่นคงชายแดนจากมุมมอง นักศึกษา “วปอ.บอ.” 4 ด้าน สังคม-เศรษฐกิจ-การเมือง-การทหาร ร่วมสะท้อนเส้นแบ่งแห่งโอกาสและอนาคตร่วมกัน EZ WebmasterJune 10, 2025 ชายแดนไทย-เมียนมา ที่ทอดยาวกว่า 2,400 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของไทย ตั้งแต่เชียงรายไปจนถึงและระนอง ไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นแบ่งระหว่างรัฐ แต่คือเส้นเขตแดนที่เชื่อมโยงผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ วัฒนธรรม เครือข่ายเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาอย่างยาวนาน แต่ภายหลังสถานการณ์การเมืองในเมียนมาตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา พื้นที่ที่เคยเต็มไปด้วยโอกาสนี้ กลับกลายเป็นความท้าทายที่ส่งผลกระทบบางประเด็นมาถึงประเทศไทย ดังนั้น การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนจึงไม่ใช่เพียงแค่ภารกิจของกองทัพในเรื่องการปกป้องพรมแดนเท่านั้น แต่เป็นโจทย์เชิงยุทธศาสตร์ที่ต้องผสมผสานความเข้าใจในพื้นที่ สังคม วัฒนธรรม ผู้คน เศรษฐกิจ… Search for: Search EZ Webmaster February 13, 2023 EZ Webmaster February 13, 2023 กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! เทศกาลแห่งความรักวนกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็ต้องเคยมีความรักกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ ความรักที่พี่ออมพูดถึงนั้นไม่ได้หมายถึงแค่ในรูปแบบคนรักเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความรักแบบครอบครัว แบบเพื่อน หรือแบบอื่น ๆ วันนี้นะคะพี่ออมจะมาเล่าประวัติวันแห่งความรักว่ามีที่มายังไงแล้วทำไมถึงกลายเป็นวันสำคัญอย่างเช่นทุกวันนี้ได้ ไปดูกันเลย! . แต่เดิมวันที่ 14 กุมภาพันธ์ไม่ได้เป็นที่รู้จักในชื่อวันวาเลนไทน์หรือเทศกาลแห่งความรักอย่างเช่นทุกวันนี้ ในช่วงจักรวรรดิโรมัน วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันหยุดเพื่อให้เกียรติแด่เทพีจูโน ซึ่งถือเป็นราชินีของบรรดาเทพเจ้าโรมัน และชาวโรมยังเชื่อว่าเธอเป็นผู้ปกป้องผู้หญิง ทั้งชีวิตแต่งงาน เวลาคลอดบุตร จึงถือว่าเทพีจูโนเป็นเทพีแห่งผู้หญิงและการแต่งงาน (เทพีจูโน) . ถ้าถามว่าแล้วยุคนั้นมีการเฉลิมฉลองเกี่ยวกับความรักไหม? มีค่ะ ถึงแม้ว่าในสมัยนั้นวิถีชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน แต่ก็ยังมีเทศกาลคล้ายกับวันวาเลนไทน์อย่าง “ลูเพอร์คาร์เลีย” หรือ “ลูเปอร์คาลีอา” เป็นประเพณีเพื่อระลึกถึงโรมิวลุสและเรมุสซึ่งเชื่อกันว่าเป็นฝาแฝดผู้ก่อตั้งกรุงโรม จัดในระหว่างวันที่ 13 – 15 กุมภาพันธ์ แต่เทศกาลวาเลนไทน์เดิมนี้ไม่ได้สวยงามอย่างวาเลนไทน์ในปัจจุบันนะคะเพราะการเฉลิมฉลองในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างโหดร้ายเลยก็ว่าได้ค่ะ เริ่มตั้งแต่การสังเวยแพะ แกะ สุนัข โดยสุนัขต้องเป็นลูกสุนัขตัวเล็กน่ารัก ๆ เท่านั้น วิธีการคือนำสัตว์เหล่านี้เข้าไปในถ้ำก่อนที่จะรุมฆ่ามันอย่างไร้ปราณี ไม่หยุดอยู่เพียงการสังหารสัตว์เท่านั้น หลังจากที่ฆ่าสัตว์แล้ว นักบวชจะนำเลือดจากมีดที่เพิ่งฆ่าสัตว์ไปก่อนหน้านี้มาป้ายลงบนศีรษะของเด็กหนุ่มจากตระกูลผู้ดีสองคน จากนั้นก็นำขนสัตว์มาชุบด้วยน้ำนมเพื่อเช็ดศีรษะอีกครั้งพร้อมบังคับให้เด็กทั้งสองหัวเราะออกมาอย่างสุดเสียงในถ้ำมืด ๆ ก่อนจะให้พวกเขาแก้ผ้าพร้อมมอบอาวุธเป็นแส้หนังแพะ แส้หนังแพะนี้เรียกว่า “Februare” มาจาก “February” หรือเดือนกุมภาพันธ์นั่นเองค่ะ โดยตามความเชื่อของคนในสมัยถือว่ากิจกรรมทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นการชำระจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ หลังจากนั้นจะมีเด็กหนุ่มผู้ดีมากมายพร้อมใจกันแก้ผ้าทาน้ำมันตามตัวถือแส้หนังแพะไว้ในมือ ก่อนกวาดสายตาวิ่งฟาดผู้หญิงที่เข้าร่วมงาน น้อง ๆ อาจจะเอ๊ะขึ้นมาว่าแล้วผู้หญิงไม่ทำอะไรกลับหรอ? ต้องบอกก่อนว่าแม้พวกเธอจะเหมือนวิ่งหนีแต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้หญิงเหล่านั้นต่างยินยอมที่จะถูกตีค่ะ เพราะเชื่อกันว่าหนังสัตว์เหล่านั้นจะทำให้พวกเธอสืบพันธุ์และมีลูกได้ (เด็กหนุ่มเอาแส้แพะไล่ฟาดหญิงสาว) . พิธีกรรมแปลก ๆ ตามมุมมองของคนปัจจุบันอย่างเรายังมีอีกนะคะ แน่นอนว่าเทศกาลแบบนี้ต้องมีอาหารกินเลี้ยงเหมือนประเพณีอื่น ๆ ต่างกันตรงที่ในเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียนี้ นักบวชจะแขวนเครื่องในแพะบนต้นวิลโลว์ หรือ ต้นหลิว (Willow) เพื่อให้คนนำมาทำอาหารพร้อมทั้งทำเค้กเกลือ ที่คล้ายกับแพนเค้กไปย่างเกลือทำให้ออกรสชาติเค็ม ๆ ไหม้ ๆ ทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นเมนูยอดฮิตประจำเทศกาลนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีการแต่งเพลงโดยนำเอาพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของผู้อื่นมาขับร้องเป็นเนื้อเพลงเพราะเชื่อกันว่าความอับอายจะช่วยให้ผู้คนประพฤติตัวดีขึ้น แต่แน่นอนว่ากิจกรรมนี้ดูเหมือนจะให้ผลเสียมากกว่า เป็นเรา เราก็คงไม่พอใจที่คนอื่นเอาเรื่องราวของเรามาป่าวประกาศใช่ไหมคะ อีกหนึ่งกิจกรรมเด่นที่เป็นตัวชูโรงทำให้เทศกาลนี้ถูกมองว่าเป็นวาเลนไทน์เดิมคือวันก่อนงานเทศกาล จะมีการจับสลากของหนุ่มสาวเพื่อจับคู่เที่ยวตลอดงาน เล่ากันว่าฝ่ายหญิงจะเขียนชื่อของตนและใส่ไปในเหยือกหรือโถ ก่อนฝ่ายชายจะเป็นผู้จับฉลากชื่อนั้นขึ้นมา แน่นอนว่างานเทศกาลนี้ทำให้หนุ่มสาวหลายคู่เกิดพบรักกันและสานต่อความสัมพันธ์กัน ภายหลังวิธีการจับสลากแบบนี้ถูกเรียกว่า “สลากรัก” หรือ “สลากลูเปอร์คาลีอา” พูดง่าย ๆ ก็คงคล้ายกับการนัดบอดในยุคนี้แหละค่ะ น้อง ๆ อาจจะกำลังคิดว่ากิจกรรมหลังนี้ดูจะปกติดีใช่ไหมคะ แต่ไม่เลยค่ะ บางแห่งเล่าว่าการเขียนชื่อลงในเหยือกหรือโถนั้นไม่ได้ทำเพื่อให้หนุ่มสาวได้ทดลองใช้เวลาร่วมกันแต่เพื่อมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ไม่มีการเดท ไม่มีการพูดคุย ไม่มีความรักมาเกี่ยวข้อง เป้าหมายมีเพียงการเพศสัมพันธ์และให้ผู้หญิงตั้งครรภ์เท่านั้น ซึ่งหากไม่สำเร็จตามเป้าหมายก็สามารถกลับมาใหม่ได้ในปีถัดไป แต่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าจะต้องคู่กับผู้ชายคนเดิม หรือเริ่มจับสลากกันใหม่ในทุกปีค่ะ . ต่อมาในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ศาสนาคริสต์กลายมาเป็นศาสนาหลักของกรุงโรม สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสเข้ามามีบทบาทและตัดสินว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียและเทศกาลอื่น ๆ เป็นเทศกาลของลัทธินอกรีต อีกทั้งยังผิดศีลธรรม ในราว ค.ศ. 500 ซึ่งจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ก็เห็นดีเห็นงามเนื่องจากเป็นบุคคลที่มีจิตใจดุร้าย ชื่นชอบการทำสงคราม การนองเลือด และมองว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียจะทำให้ผู้ชายไม่อยากเข้าร่วมกองทัพ เพราะไม่อยากจากคนรักหรือครอบครัวไป ทำให้เกิดเป็นคำสั่งห้ามไม่ให้มีการจัดพิธีหมั้นและพิธีแต่งงานกันในโรมอย่างเด็ดขาด สลากที่เคยเป็นสื่อกลางแห่งความรักถูกปรับเปลี่ยนเป็นสลากนักบุญ จากการจับชื่อหญิงสาวในโถกลายเป็นการจับชื่อนักบุญแทน หากชายหนุ่มจับได้ชื่อนักบุญท่านไหนก็ต้องใช้ชีวิต ศึกษา เรียนรู้ตามวิถีชีวิตของนักบุญท่านนั้น (จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2) . มาถึงตรงนี้น้อง ๆ คงจะเริ่มสงสัยกันแล้วว่าตกลงแล้ววันวาเลนไทน์ที่เป็นวันแห่งความรักจะเริ่มต้นที่ตรงไหน? ในระหว่างนี้เองที่มีนักบุญผู้ลือกันว่าหน้าตาหล่อเหลา งดงาม ชื่อว่า “เซนต์วาเลนไทน์” หรือ “วาเลนตินัส” มีความเห็นอกเห็นใจในคู่รัก จึงแอบร่วมมือกับ “เซนต์มาริอัส” จัดพิธีแต่งงานลับ ๆ ให้แก่ชาวคริสต์หลายคู่ ทั้งพิธีจะมีเพียงเจ้าบ่าว เจ้าสาว และบาทหลวงเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง ทหารของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ได้เข้ามาเห็นพิธี ส่งผลให้เซนต์วาเลนไทน์ถูกควบคุมตัวไปลงโทษอย่างสาหัส เหล่าคู่รักที่เคยเข้าร่วมพิธีแต่งงานกับเขาผลัดกันมาเยี่ยมนักบุญท่านนี้อยู่เสมอ และขณะที่เป็นนักโทษ เขาก็ยังคงส่งคำอวยพรออกไปนอกคุกอยู่เสมอ เชื่อกันว่าตอนอยู่ในคุกนั้น เซนต์วาเลนไทน์ได้รับคำขอให้ช่วยรักษาลูกสาวตาบอดของผู้คุมแอสทีเรียสที่ชื่อว่า “จูเลีย” ทั้งสองต่างตกหลุมรักกันระหว่างการรักษา จนกระทั่งจูเลียกลับมามองเห็นได้ปกติ เธอก็มักจะมาเยี่ยมเยียนเซนต์วาเลนไทน์อยู่เสมอ คืนก่อนที่เซนต์วาเลนไทน์จะถูกประหารด้วยการตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลียโดยลงท้ายว่า “From Your Valentine” เป็นอันปิดตำนานของเซนต์วาเลนไทน์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ด้วยวัยเพียง 47 ปี (เซนต์วาเลนไทน์และจูเลีย) . ศพของเซนต์วาเลนไทน์ได้ถูกจัดเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม โดยจูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอนด์สีชมพูไว้ใกล้หลุมศพของเขา โดยเหตุนี้เอง “ดอกอัลมอนด์สีชมพู” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งวันวาเลนไทน์ ความรักนิรันดร์ ไม่ใช่ดอกกุหลาบอย่างที่น้อง ๆ หลายคนเข้าใจกัน แต่ดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพและการแบ่งใจน้ำใจค่ะ (ดอกอัลมอนด์สีชมพู) . แม้เรื่องเล่าความรักของนักบุญวาเลนไทน์ข้างต้นจะเป็นที่โด่งดัง แต่ยังมีหลายแห่งที่มีเรื่องเล่าในรูปแบบที่ต่างกัน เล่ากันว่า “วาเลนตินุส” หรือ “วาเลนไทน์” มี 2 ท่าน คือ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งโรม” และ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งเทอร์นี” ทั้งสองพลีชีพเพื่อศาสนา ก่อนที่เรื่องราวจะถูกแต่งเติมจนกลายเป็นเรื่องราวความรักของนักบุญวาเลนไทน์ โดยคาดเดากันว่าน่าจะถูกแต่งขึ้นในช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 5 – 6 ใช้ชื่อผลงานว่า Passio Marii et Marthae ดังที่พี่ออมได้เล่าให้ฟังไปข้างต้นค่ะ . ด้วยเหตุการณ์นี้ เรื่องราวโรแมนติกอันสงสารของทั้งคู่ทำให้เซนต์วาเลนไทน์กลายเป็นนักบุญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ตั้งแต่เมื่อ ค.ศ. 496 สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสที่ 1 กำหนดให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักและมีการปรับเปลี่ยนชื่อวันแห่งความรักเป็น “วันวาเลนไทน์” ตามชื่อตามชื่อนักบุญค่ะ แต่ก็ถูกตัดออกจากปฏิทินโรมันทั่วไปและให้ไปอยู่ในปฏิทินเฉพาะซึ่งถือเป็นเพียงปฎิทินท้องถิ่นหรือปฎิทินประจำชาติโดยสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 ในปี ค.ศ. 1969 เพราะเห็นว่านอกจากชื่อของเซนต์วาเลนไทน์แล้วก็ไม่มีข้อมูลนอกเหนือจากว่าศพของเขาถูกฝังไว้ที่เวียฟลามิเนียเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ แต่ถึงอย่างนั้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ก็ได้กลายเป็นวันแห่งความรักของสากลอย่างเช่นทุกวันนี้ค่ะ . นอกจากจะเล่าที่มาของวันวาเลนไทน์แล้ว วันนี้พี่ออมก็ยังมีเกร็ดเล็ก ๆ ที่น่าจะพอคลายความสงสัยของน้อง ๆ เกี่ยวกับวาเลนไทนและความรักกันได้ค่ะ . สัญลักษณ์รูปหัวใจมาจากไหน ? ถ้าพูดถึงเรื่องของความรักก็เป็นไปไม่ได้เลยนะคะที่จะไม่พูดถึงรูปร่างหัวใจ แล้วรูปร่างหัวใจนี้มาจากไหนกันล่ะ? น้อง ๆ อาจจะเดากันว่าก็มาจากหัวใจมนุษย์จริง ๆ นี่ คำตอบนี้ก็ถูกต้องค่ะแต่ไม่ใช่เพียงคำตอบเดียวเท่านั้น ที่มาของรูปหัวใจถูกแบ่งออกเป็น 2 ทฤษฎีหลัก ๆ ค่ะ – ทฤษฎีแรกคือรูปร่างหัวใจมาจากอวัยวะ ซึ่งก็คือหัวใจมนุษย์จริง ๆ เริ่มจากนักปราชญ์ของกรีก “อริสโตเติล” (Aristotle) และแพทย์ชาวโรมัน “กาเลน” (Galen) ทั้งสองได้ศึกษาระบบร่างกายมนุษย์และโครงสร้างของของสิ่งมีชีวิตหรือที่เรียกกันว่ากายวิภาคศาสตร์นั้นแหละค่ะ ทั้งสองได้บันทึกและวาดรูปหัวใจของมนุษย์ไว้ (รูปวาดหัวใจของอริสโตเติลและกาเลน) จนในช่วงศตวรรษที่ 14 ชาวยุโรปได้เริ่มศึกษากายวิภาคของมนุษย์ และนำรูปหัวใจที่อริสโตเติลและกาเลนวาดมาอ้างอิง พร้อมทั้งเชื่อว่าหัวใจเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก อารมณ์ และความรัก ทำให้ถูกดัดแปลงกลายมาจากหัวใจของคนสองคนมาประกบกัน จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แต่ก็ยังมีผู้ถกเถียงว่ารูปร่างหัวใจมาจากร่างกายมนุษย์จริง แต่อาจถูกสร้างตามสรีระของร่างกายในส่วนของบั้นท้ายค่ะ – ทฤษฎีที่ 2 นั้นเชื่อกันว่ารูปหัวใจมาจากพืช เป็นพืชโบราณที่ชื่อว่า “ซิลเฟียม” หรือ “ซิลฟีเนียม” (Silphium) เป็นดอกไม้ในตระกูลยี่หร่า โดยผลของดอกมันมีลักษณะคล้ายกับรูปหัวใจในปัจจุบัน แล้วทำไมถึงเลือกเอาผลของพืชชนิดนี้มาเป็นสัญลักษณ์? เพราะว่าในสมัยก่อนซิลเฟียมเติบโตบริเวณชายฝั่งแอฟริกาเหนือใกล้กับคิวเรเนหรือซิเรเน (Cyrene) ซึ่งเป็นเมืองกรีกโบราณโดยพืชชนิดนี้ถูกใช้เป็นเครื่องเทศ และใช้ในการคุมกำเนิดของคนในสมัยนั้นอีกด้วยค่ะ (ผลของดอกซิลเฟียม) แต่ก็มีการเสนอความเห็นกันว่ารูปหัวใจอาจจะมาจากต้นไอวี ในช่วงศตวรรษที่ 4 ใบของมันถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของสถานที่ซื้อขายเพศสัมพันธ์ในเมืองเอฟิซัส (Ephesus) ตั้งอยู่ที่ประเทศตุรกีในปัจจุบัน ด้วยเหตุผลที่ว่าต้นไอวีเป็นสัญลักษณ์ของเทพไดโอนิซัส (Dionysus) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งไวน์ ความอิ่มเอมทั้งกายใจ ต่อมาต้นไอวีจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการมีเพศสัมพันธ์ของคนในสมัยนั้นไปโดยปริยาย ในอีกแง่คือไอวีถือเป็นพืชที่มีความเขียวสดอยู่ตลอดทั้งปีจึงถูกใช้แทนความหมายในเรื่องของความซื่อสัตย์ ความมั่นคงในเรื่องของความรัก จนถูกนำมารวมกับสีแดงซึ่งเป็นสีแห่งความรักจนกลายเป็นรูปหัวใจในที่สุดค่ะ (ใบเถาของต้นไอวี) . เทพเจ้าแห่งความรักมีแต่คิวปิดหรอ? หากพูดถึงเทพเจ้าแห่งความรักแล้ว น้อง ๆ อาจมีภาพเด็กผู้ชายถือธนูอยู่ ในความคิด ความเป็นจริงแล้วยังมีเทพเจ้าอีกหลายองค์ที่ถูกนับว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรักค่ะ – “อโฟรไดท์” (Aphrodite) หรือ “วีนัส” (Venus) เทพีแห่งความรัก ความงาม และเพศสภาพของกรีก อโฟรไดท์มีความสามารถในการสะกดจิต ทำให้ผู้อื่นหลุ่มหลงในความงามของนาง ตามตำนานกรีกแล้วอโฟรไดท์ถือเป็นเทพีที่มีอารมณ์รุนแรงและมีเพศสัมพันธ์กับเทพหลายองค์ แม้กระทั่งกับคนธรรมดา ซึ่งอโฟรไดท์มีศักดิ์เป็นแม่แท้ ๆ ของคิวปิด (อโฟรไดท์หรือวีนัส) – “คิวปิด” (Qupid) หรือ “อีรอส” (Eros) เทพเจ้าแห่งความรัก ความปรารถนาของกรีก แท้จริงแล้วคิวปิดเป็นเทพแห่งความรักแบบกามอารมณ์ ไม่ใช่แบบบริสุทธิ์อย่างที่ทุกคนเข้าใจค่ะ คิวปิดถือเป็นเทพที่รูปร่างหน้าตาดีที่สุด อีกทั้งยังมีความสามารถในการยิงธนูที่สั่งให้ใครรักใครก็ได้ และอีกด้านของธนูสามารถยิงให้คนเกลียดกันได้ คิวปิดตกหลุมรักไซคีตอนที่อโฟรไดท์สั่งเขาไปยิงธนูให้ไซคีไปรักกับผู้ชายไม่ดี เพราะผู้คนหลงในความงามของไซคีจนลืมบูชาเทพแห่งความงามอย่างอโฟรไดท์ คิวปิดตะลึงในความงามของไซคีจนทำธนูทิ่มมือตัวเอง ทำให้ต่อมาทั้งสองได้ครองรักกันภายใต้เงื่อนไขที่ว่าไซคีต้องห้ามแอบมองว่าหน้าตาคิวปิดเป็นอย่างไร แต่ด้วยคำยุยงจากพี่สาวที่อิจฉาชีวิตของไซคีทำให้ไซคีแอบดู เป็นเหตุทำให้คิวปิดจากไปพร้อมบอกว่า “ความรักไม่อาจดำรงอยู่ได้ ถ้าปราศจากความไว้วางใจ” แม้ในท้ายที่สุดทั้งสองจะได้ครองรักกันแต่เรื่องราวของไซคีกับคิวปิดจึงกลายเป็นตัวแทนและคำสอนเกี่ยวกับความรักเรื่องของความเชื่อใจ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน (คิวปิดและไซคี) – แฮธอร์ (Hathor) เทพีแห่งความรัก ความสุข การแต่งงาน การเต้นรำ และความงดงามของอียิปต์ เชื่อกันว่านางเป็นผู้ควบคุมระบบการสืบพันธุ์ของมนุษย์ เป็นผู้ให้เสน่ห์แก่ผู้หญิง และทำให้เกิดอารมณ์ปรารถนา เป็นผู้ควบคุมเพศสัมพันธ์ มีอำนาจทำให้มนุษย์เสื่อมสมรรถภาพหรือหายจากอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ ทำให้เทวสถานของนางส่วนใหญ่เปิดรับคู่รักทุกเพศ ทุกวรรรณะเพราะพระนางชื่นชอบการแต่งงาน และความรักที่สมหวังเป็นอย่างมาก (แฮธอร์) – อินันนา (Inanna) เทพีความรัก ความงาม เพศ สงคราม ความยุติธรรม และอำนาจทางการเมืองของเมโสโปเตเมีย เชื่อกันว่านางมีหน้าที่ให้กำเนิดความรักและความต้องการทางเพศ และถูกมองว่าเป็นเทพีผู้บริสุทธิ์ (อินันนา) – เฟรย่า (Freyja) เทพีแห่งความรัก ความงาม เพศสัมพันธ์ ความอุดมสมบูรณ์ และความตายตามตำราของนอร์ส เล่ากันว่านางเป็นเทพีที่งดงามที่สุดในแอสการ์ด มีทั้งด้านที่อ่อนหวานและดุดัน (เฟรย่า) ยังมีเทพอีกหลายอันที่พี่ออมยังไม่ได้พูดถึงนะคะ แต่น้อง ๆ อาจจะสังเกตได้ว่าเทพแห่งความรักส่วนใหญ่มักเป็นผู้หญิง และมีการผูกเข้ากับเรื่องของอารมณ์ เพศสัมพันธ์และความงามค่ะ . ทำไมต้องให้ดอกกุหลาบในวันวาเลนไทน์? ช่วงวาเลนไทน์เป็นช่วงที่ดอกไม้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โดยเฉพาะกับดอกกุหลาบ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เจอเต็มไปหมด จริง ๆ แล้วนะคะธรรมเนียมการให้ดอกกุหลาบมาจากหลายตำนาน – เรื่องเล่าหลายเรื่องมักมีการเชื่อมโยงระหว่างกุหลาบกับอโฟรไดท์ โดยเป็นเรื่องราวของอโดนิสที่เชื่อกันว่าเป็นคนที่อโฟร์ไดท์รักที่สุดในบรรดาชายที่เธอเคยข้องเกี่ยวมา ยิ่งอโดนิสเป็นชายคนเดียวที่ไม่ตกเป็นทาสความสวยของเธอ ยิ่งทำให้อโฟร์ไดท์หลุ่มหลงชายผู้นี้เป็นอย่างมาก จนเกิดเป็นเรื่องเล่าที่ทำให้กุหลาบกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เช่น หลังจากอโดนิส (Adonis) ถูก “อาเรส” (Ares) คู่รักเก่าของอโรไดท์ในร่างหมูป่าฆ่าเพราะความหึงหวง น้ำตาของเธอไหลลงผสมกับเลือดของเขา หยดลงกลายเป็นดอกกุหลาบสีแดง บ้างก็ว่าอโฟร์ไดท์แทงตัวเองจนเลือดหยดลงสู่พื้นกลายเป็นกุหลาบ บ้างก็ว่านางรับไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียคนรักจึงเสกเลือดของอโดนิสให้กลายเป็นดอกไม้ ทำให้ชื่อแรกสุดของดอกไม้ชนิดนี้คือ “อโดนิส” หรือ “อะเนมโมนิ” (Anemone) (อโฟร์ไดท์กับอโดนิส) – “คลอริส” (Chloris) เทพธิดาแห่งดอกไม้ได้ยกเอาดอกกุหลาบเป็นราชินีของดอกไม้ ซึ่งต่อมาได้มอบกุหลาบให้แก่คิวปิดเทพเจ้าแห่งความรัก ทำให้กุหลาบถูกเชื่อมโยงไปกับเรื่องราวความรักไปในทันที – ในศาสนาคริสต์เชื่อว่าเลือดของพระเยซูในตอนที่ถูกตรึงอยู่บนไม้กางเขนได้หยดลงบนต้นหญ้ามอลส์เกิดเป็นต้นกุหลาบแดง เรียกกันว่ากุหลาบมอลส์ – ในประเทศไทยไม่มีระบุแน่ชัดว่ากุหลาบเข้ามาเป็นที่นิยมตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มีวรรณคดีเรื่อง “มัทนะพาธา” พระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นตำนานของดอกกุหลาบที่เกี่ยวกับข้องกับเรื่องของความงาม ความรัก ในปัจจุบันดอกไม้ที่มอบให้ระหว่างเทศกาลวาเลนไทน์มีความหลากหลายมากขึ้น ถ้าน้อง ๆ ยังสงสัยกันอยู่ทำไมต้องเป็นดอกไม้ จริง ๆ แล้วนะคะ มนุษย์ใช้ดอกไม้เป็นสื่อกลางแสดงความรักมานักต่อนักแล้วค่ะ อาจจะดอกรูปร่าง สีสัน และกลิ่นของมันทำให้เป้นสิ่งของที่ดีในการมอบให้แก่ใครสักคนค่ะ . ช็อกโกแลตกับวาเลนไทน์? นอกจากดอกกุหลาบแล้ว ช็อกโกแลตก็เป็นอีกหนึ่งของแทนใจยอดฮิตที่อาจจะมีน้อง ๆ บางคนลงทุนทำเองกับมือเพื่อมอบให้คนที่รักในวันวาเลนไทน์ใช่ไหมคะ ถ้าถามว่าช็อกโกแลตมีความเกี่ยวข้องยังไงกับเทศกาลแห่งความรักเช่นนี้ ก็คงต้องย้อนกลับในสมัยจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ช่วงที่ความรักของชายหญิงถือเป็นเรื่องต้องห้าม การเจอกันแต่ละครั้งจึงนิยมเอาของมามอบแทนความรัก ใช่แล้วค่ะ ของสิ่งนั้นก็คือช็อกโกแลต เพราะถือเป็นของหายากและมีราคาสูง ทำให้ช็อกโกแลตกลายเป็นของมีค่าที่คู่รักนิยมมอบให้แก่กันเพื่อแสดงความรักที่เต็มหัวใจค่ะ ในขณะเดียวกันก็มีบางคนเชื่อว่า การให้ช็อกโกแลตอาจเป็นเพียงการตลาดที่เกิดจาก Richard Cabury สมัยเพิ่งเข้าสืบทอดกิจการช็อกโกแลต Cabury ของประเทศอังกฤษ และด้วยความไฟแรงต้องการเพิ่มยอดขายของเขาทำให้เกิดการคิดค้นช็อกโกแลตรูปหัวใจ และออกแบบลวดลายบนกล่องให้มีรูปคิวปิดและดอกกุหลาบ แน่นอนว่าเป็นความคิดที่ประสบความสำเร็จและพลิกวงการของช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์มาจนถึงทุกวันนี้ . แหวน เครื่องประดับแทนใจของคู่รัก? ทำไมต้องใส่นิ้วนางข้างซ้าย? เมื่อเข้าร่วมพิธีแต่งงานกันทั้งฝ่ายจำเป็นที่จะสวมแหวนไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย ซึ่งกลายเป็นเครื่องประดับที่เราเห็นเมื่อไรก็ทราบได้ทันทีว่าคน ๆ นี้มีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว แล้วทำไมต้องเป็นแหวนล่ะ? การใส่แหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายมาจากชาวอียิปต์โบราณที่พบว่านิ้วนางข้างซ้ายเป็นนิ้วเดียวที่มีเส้นเลือดใหญ่วิ่งเข้าไปที่หัวใจ ซึ่งเรียกตามภาษาละตินว่า “เส้นเลือดแห่งความรัก” (Vena Amoris) จนกลายมาเป็นวัฒนธรรมที่คู่รักสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายเพราะเป็นตัวเชื่อมจากเส้นเลือดไปถึงหัวใจของทั้งสอง แต่ในสำหรับข้อเท็จจริงนะคะ ได้มีการพิสูจน์ในภายหลังว่าแต่ละนิ้วมีระบบเลือดไหลเวียนที่เหมือนกัน ทำให้นิ้วนางข้างขวามีการไหลเวียนของเลือดไม่ต่างจากนิ้วนางข้างซ้ายค่ะ . คำว่าแฟนมาจากไหน? แล้วก่อนหน้านี้ใช้คำว่าอะไร? คำว่า “แฟน” ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 (ออนไลน์) เป็นภาษาปาก หมายถึง ผู้นิยมชมชอบ เช่น แฟนเพลง แฟนภาพยนตร์ แฟนมวย, ผู้เป็นที่ชอบพอรักใคร่, คู่รัก, สามีหรือภรรยา. ซึ่งคำนี้มีที่มาจากคำในภาษาอังกฤษคือว่า “Fan” ย่อมาจาก “Fanatic” คลั่งไคล้ หลุ่มหลงในสิ่งใดมาก ๆ ถ้าเอาในยุคนี้ก็คงเหมือนกับคำว่า “คลั่งรัก” นั้นแหละค่ะ แล้วก่อนหน้าที่จะมีคำว่าแฟนล่ะ คนไทยใช้คำว่าอะไร? คนไทยใช้คำว่า “ชิ้น” แทนคู่รักในหน้าที่เดียวกับคำว่าแฟนเลยค่ะ ก่อนที่หลังสมัย พ.ศ. 2490 คนไทยจะเปลี่ยนมาใช้คำว่าแฟนตามปัจจุบันอ้างจากหนังสือมหาเหตุประเทศสยาม เล่ม 1 ของเอนก นาวิกมูลที่เขียนในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งอธิบายไว้ “แฟน” ไว้ว่าเป็นคำที่คนไทยในสมัยนั้นใช้กันอย่างแพร่หลาย ฟุ่มเฟื่อย . วันวาเลนไทน์เข้ามาในไทยเมื่อไหร่? วันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรักซึ่งมาจากวัฒนธรรมของต่างประเทศ ซึ่งเข้ามามีบทบาทในไทยในสมัยสงครามเวียดนาม ราวปี พ.ศ. 2508 – 2509 สหรัฐอเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพในเมืองไทยหลายแห่ง เช่น อุดรธานี มีผู้หญิงหลายคนในบริเวณฐานทัพรับเอาวันวาเลนไทน์นี้เข้ามา จนกระทั่งห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เป็นผู้ริเริ่มการจัดประเพณีวาเลนไทน์ในห้าง บ้างก็ว่ามาจากพนักงานที่ไปเรียนต่างประเทศมา บ้างก็ว่าเป็นลูกหลานของเจ้าของห้างแห่งนั้น ทำให้หลังจาก พ.ศ. 2510 ห้างสรรพสินค้าเกือบทุกแห่งนับเอาเทศกาลวันวาเลนไทน์มาเป็นอีกหนึ่งอีเวนต์หลักของทุกปีเลยก็ว่าได้ค่ะ . วันแห่งความรักของไทย ถึงแม้ว่าวันวาเลนไทน์จะเป็นวันแห่งความรักที่รู้จักกันเป็นสากล และได้รับความนิยมในทุกหนแห่งไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย แต่ประเทศไทยก็มีวันแห่งความรักเช่นกันค่ะ แต่อิงตามศาสนาพุทธนั้นก็คือ “วันมาฆบูชา” ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 โดยอ้างจากเหตุการณ์โอวาทปาฎิโมกข์ซึ่งถือเป็นวันแสดงความรักของพระพุทธเจ้าโดยการเทศนา เป็นความรักในแบบของการเมตตา และปรารถนาดีต่อผู้อื่นค่ะ . จบกันไปแล้วนะคะสำหรับเรื่องราวของวันแห่งความรักแบบนี้ ไม่ว่าจะความรักแบบไหนก็สวยงามไม่แพ้กันนะคะ แต่อีกหนึ่งคนสำคัญที่พี่ออมอยากให้น้อง ๆ รักก็คือตัวน้อง ๆ เองค่ะ อย่ามองข้ามการรักตัวเองค่ะ ความรักในรูปแบบนี้นับว่าเป็นความรักที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะการรักตัวเองจะทำให้น้อง ๆ มีความสุขกับชีวิตในแต่ละวัน และไม่ว่าน้อง ๆ จะรักใคร สิ่งที่สำคัญก็อย่ารักจนไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น หรือทำให้ผู้ใดเป็นทุกข์ แม้กระทั่งตัวเราเองนะคะ 🙂 EZ Webmaster Related Posts มทร.ธัญบุรี โชว์ผลงานเด่น คว้า 12 รางวัลเวทีนวัตกรรมระดับนานาชาติ เซี่ยงไฮ้ 2025 มธ. ปักหมุดหลักสูตร ‘AI Ethics’ หนุนบริบทใหม่ของห้องเรียนทันโลก สร้างจุดยืนคนรุ่นใหม่ ‘ใช้เอไออย่างมีจริยธรรม’ พร้อมเดินหน้าวางหมุดหมายระบบการศึกษาไทย กับการปลุกการใช้เทคฯ คู่ธรรมาภิบาล คาดเริ่มเปิดลงทะเบียนพร้อมเรียนจริง สิงหาคม 68 นี้ สสวท. เชิญใช้ฟรี “คลังคำศัพท์” รับเปิดเทอมใหม่ มัดรวมศัพท์ในหนังสือเรียนวิชาที่ สสวท. พัฒนา สจล. เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน 11 สาเหตุลึกซึ้ง ทำไมการศึกษาไทยยังตกต่ำ? เสียงสะท้อนจากครูชนบท สู่คำถามใหญ่ของสังคม Post navigation PREVIOUS Previous post: กมธ. อุดมศึกษาฯ วุฒิสภา ดูงานและติดตามความคืบหน้าชุดโครงการวิจัยการพัฒนาต้นแบบการจัดการเกษตรผสมผสาน และการจัดการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนวัตวิถีเชิงสร้างสรรค์ จังหวัดแพร่NEXT Next post: มหาวิทยาลัยนเรศวร ประกาศรับ #TCAS66 รอบ 2 #QUOTA แพทยศาสตรบัณฑิต #ผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
โครงการ TARO to SCHOOL 2025 ส่องอาชีพยุค AI เก่งแบบไหนจะไปรอด โรงเรียนธารทองพิทยาคม EZ WebmasterJune 19, 2025 อีกหนึ่งความทรงจำดีๆ ในโรงเรียนธารทองพทยาคม กับโครงการ Taro to school 2025 ส่องอาชีพยุค AI เก่งแบบไหนจะไปรอด ณ โรงเรียนธารทองพิทยาคม จ.บุรีรัมย์ วันที่ 13/06/68 โดยวิทยากร อ.สุกัญญา โสเก่าข่า… โครงการ TARO to SCHOOL 2025 ส่องอาชีพยุค AI เก่งแบบไหนจะไปรอด โรงเรียนแม่เมาะวิทยา EZ WebmasterJune 18, 2025 ความสุขเล็กๆ ในวันที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน โครงการ Taro to school 2025 ส่องอาชีพยุค AI เก่งแบบไหนจะไปรอด พากิจกรรมดีๆ มาถึงโรงเรียนแม่เมาะวิทยา จ.ลำปาง วันที่18/06/68 โดยวิทยากร อ.สุกัญญา โสเก่าข่า (ครูแอน)…
โครงการ TARO to SCHOOL 2025 ส่องอาชีพยุค AI เก่งแบบไหนจะไปรอด โรงเรียนแม่เมาะวิทยา EZ WebmasterJune 18, 2025 ความสุขเล็กๆ ในวันที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน โครงการ Taro to school 2025 ส่องอาชีพยุค AI เก่งแบบไหนจะไปรอด พากิจกรรมดีๆ มาถึงโรงเรียนแม่เมาะวิทยา จ.ลำปาง วันที่18/06/68 โดยวิทยากร อ.สุกัญญา โสเก่าข่า (ครูแอน)…
มธ. ปักหมุดหลักสูตร ‘AI Ethics’ หนุนบริบทใหม่ของห้องเรียนทันโลก สร้างจุดยืนคนรุ่นใหม่ ‘ใช้เอไออย่างมีจริยธรรม’ พร้อมเดินหน้าวางหมุดหมายระบบการศึกษาไทย กับการปลุกการใช้เทคฯ คู่ธรรมาภิบาล คาดเริ่มเปิดลงทะเบียนพร้อมเรียนจริง สิงหาคม 68 นี้ EZ WebmasterJune 19, 2025 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ตอกย้ำจุดยืนเชิงรุกต่อการเปลี่ยนผ่านของโลกยุคดิจิทัล ผ่านการพัฒนาหลักสูตร “AI Ethics” หรือจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ ภายใต้ยุทธศาสตร์ Thammasat Next Century เตรียมความพร้อมให้เยาวชนไทยมีทั้งความรู้ ความสามารถ และความรับผิดชอบในการใช้งานเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ปัญญาประดิษฐ์กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ทั้งในห้องเรียน ที่ทำงาน และบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ โดยหลักสูตรนี้ถูกวางให้เป็นรากฐานสำคัญของระบบการศึกษายุคใหม่ ที่ไม่เพียงเน้นทักษะด้านเทคนิคเท่านั้น แต่ยังปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้องในการอยู่ร่วมกับเทคโนโลยี พร้อมชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงของ AI ที่เกิดจาก… 11 สาเหตุลึกซึ้ง ทำไมการศึกษาไทยยังตกต่ำ? เสียงสะท้อนจากครูชนบท สู่คำถามใหญ่ของสังคม EZ WebmasterJune 19, 2025 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตคุณภาพทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความพยายามปฏิรูปหลายครั้ง แต่กลับไม่สามารถยกระดับการเรียนรู้ให้เทียบเท่าประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างแท้จริงนายสานิตย์ พลศรี นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ ในหัวข้อ “สาเหตุของปัญหาคุณภาพด้านการศึกษาประเทศไทยที่ตกต่ำ” ซึ่งกำลังถูกส่งต่ออย่างกว้างขวางในโซเชียลมีเดียและกลุ่มไลน์ของคนในแวดวงการศึกษาเสียงสะท้อนจากผู้ที่อยู่ในภาคสนามจริงอย่างนายสานิตย์ ทำให้เราได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวนักเรียนหรือครูเพียงลำพัง แต่เป็นผลสะสมจากโครงสร้าง ระบบ และการบริหารที่ผิดทิศผิดทางมานานจึงเป็นการเปิดประเด็นให้สังคมได้ทบทวนร่วมกันว่า หากเราไม่เริ่ม “เปลี่ยนจริง” คุณภาพการศึกษาของไทยอาจยิ่งตกต่ำลงกว่าที่เป็นอยู่ 11… ว.วิศวกรรมสังคีต สจล. ร่วมมือ บริษัท Sonos Libra ส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ สร้างเสริมประสบการณ์ให้นักศึกษา EZ WebmasterJune 18, 2025 วิทยาลัยวิศวกรรมสังคีต สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิทักษ์ ธรรมวาริน (คนที่ 4 จากซ้าย) คณบดีวิทยาลัยวิศวกรรมสังคีต สจล. และ Mr. Alfonso Martin (คนที่ 3… คณะมนุษยศาสตร์ ม.หอการค้าไทย จัดหลักสูตรรุกหน้าการันตี “เรียนภาษาให้ได้ดี มีรายได้หลักแสน!!” EZ WebmasterJune 18, 2025 “ภาษา” มิใช่เพียงเครื่องมือสื่อสารแต่เป็นกุญแจสำคัญในการเรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรม การคิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์นวัตกรรม ผู้ที่มีทักษะด้านภาษาที่แข็งแกร่งจะสามารถเป็นข้อได้เปรียบหรือประสบความสำเร็จได้ในโลกที่เปลี่ยนแปลงและผู้คนทั่วโลกเชื่อมโยงสื่อสารถึงกันได้ในพริบตาแม้จะต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม การเรียนรู้ฝึกฝนมีทักษะภาษาจึงมิใช่แค่รู้หรือพูดภาษานานาชาติได้เท่านั้น แต่การเรียนภาษาให้มีรายได้ดี มีอาชีพมั่นคง เป็นมนุษย์เงินเดือนอิสระ ถึงขั้นการันตีได้ว่า “เรียนภาษาให้ได้ดี มีรายได้หลักแสน !!! นั้นก็เป็นสิ่งเพิ่มมูลค่าและมีคุณค่าอย่างน่าภูมิใจ เฉกเช่นที่ล่าสุด Miss World… ทุนดีดี Kazan Global Youth Summit InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 19, 2025 เชิญเยาวชนสมัครคัดเลือกเข้าร่วมการประชุม Kazan Global Youth Summit ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 27 – 30 สิงหาคม 2568 ณ เมืองคาซาน สาธารณรัฐตาตาร์สตาน สหพันธรัฐรัสเซีย จัดโดยรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐตาตาร์สตาน… SEAMEO-Japan ESD Award InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 18, 2025 เชิญสถานศึกษาเข้าร่วมประกวดในหัวข้อ “Fostering Schools and Surrounding Communities’ Resilience through the Revitalisation of Local Wisdom in Disaster Risk Reduction” ชิงรางวัล SEAMEO-Japan ESD Award ประจำปี 2568 … ทุนMaster of Education InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 17, 2025 International Welcome Scholarships in Master of Education หรือทุนเรียนปริญญาโททางด้านการศึกษา สำหรับผู้เรียนจากนานาชาติ โดย Murdoch University ประเทศออสเตรเลีย ทุนมีมูลค่าเป็นส่วนลดค่าเรียน 25% เปิดรับใบสมัครถึง 30 สิงหาคม… 8 ทุนป.ตรีรัฐบาลคูเวต InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 15, 2025 ทุนการศึกษารัฐบาลรัฐคูเวต สำหรับนักเรียนไทยเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ณ มหาวิทยาลัคูเวต (Kuwait University) ประจำปีการศึกษา ค.ศ. 2025–2026 จำนวน 8 ทุน เปิดรับใบสมัครถึง 18 มิถุนายน 2025 โดยในจำนวนทุนที่ให้เป็นในคณะวิศวกรรมศาสตร์และปิโตรเลียม จำนวน 6 ทุน และคณะศิลปะศาสตร์(คณะชารีอะห์และอิสลามศึกษา/คณะครุศาสตร์ / สังคมศาสตร์ / อักษรศาสตร์)… ครู-อาจารย์ มทร.ธัญบุรี โชว์ผลงานเด่น คว้า 12 รางวัลเวทีนวัตกรรมระดับนานาชาติ เซี่ยงไฮ้ 2025 tui sakrapeeJune 19, 2025 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) สร้างชื่อระดับโลก เวที “The 8th China (Shanghai) International Invention & Innovation Expo 2025” คว้ารางวัลรวม 12 รายการ ตอกย้ำศักยภาพ… สจล. เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน EZ WebmasterJune 19, 2025 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ทางวิชาการกับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีความร่วมมือกันมานานกว่า 20 ปี เพื่อหารือขยายความร่วมมือเชิงลึกในสาขาวิศวกรรมขั้นสูง โดยเฉพาะด้าน Aerospace, Mechatronics, Automation และ Astronautics ซึ่ง HIT ถือเป็นสถาบันชั้นนำของจีนในด้านนี้ พร้อมทั้งหารือแนวทางความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนนักศึกษา นักวิจัย และการพัฒนาโครงการ Joint Degree ในอนาคต รองศาสตราจารย์… อธิการบดีนำทีมกรรมการส่งเสริมฯ สวนสุนันทา เยี่ยมชมโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำ เมืองชิงเต่า สาธารณรัฐประชาชนจีน มุ่งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้สู่มาตรฐานโลก tui sakrapeeJune 18, 2025 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา นำโดย รศ.ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ อธิการบดี พร้อมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย เดินทางเยือนโรงเรียนนานาชาติ Qingdao No.1 International School of Shandong Province (QISS) และ Qingdao University… กองกลาง มจพ. เยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ และจัดสัมมนาจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรรายบุคคล ประจำปี 2568 EZ WebmasterJune 18, 2025 ผศ.ดร.สราวุฒิ สืบแย้ม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการคลังและกิจการทั่วไป มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วยนางสาวรัตนา สุขเฉลิมศรี ผู้อำนวยการกองกลาง และบุคลากรกองกลาง เข้าเยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ มจพ. ณ ชั้น 3 สำนักงานหอสมุดกลาง โดยมีนางสาวพนารมย์ เกียรติลีลานันท์ และ… กิจกรรม กองอาคาร มจพ. จับมือสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพฯ อบรมการจัดการคัดแยกขยะมูลฝอยภายในหน่วยงาน EZ WebmasterJune 18, 2025 ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ นายกสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วยศ.ดร.ธานินทร์ ศิลป์จารุ อธิการบดี ร่วมพิธีโครงการอบรม เรื่อง การคัดแยกขยะมูลฝอยภายในหน่วยงาน โดยมี รศ.ดร.ณัฐพงศ์ มกระธัช รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนากิจการมหาวิทยาลัยเพื่อความยั่งยืน กล่าวเปิดการอบรม รศ.ดร.ศักดา กตเวทวารักษ์… “40 ปี เภสัชศิลปากร” หลากวงการ ร่วมแสดงความยินดี สู่บทบาทผู้นำด้านวิชาชีพเภสัชกรรม วิจัยนวัตกรรม และการสร้างสุขภาพอย่างยั่งยืน EZ WebmasterJune 13, 2025 วันที่ 6 มิถุนายน 2568 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งการสถาปนาอย่างสมเกียรติ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม ภายใต้ชื่องาน “Celebrating the 40th Anniversary:… ดีพร้อม ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้ายกระดับร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย หวังสร้างรายได้ชุมชนสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก EZ WebmasterJune 13, 2025 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้า “โครงการพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย (Local Chef Restaurant) ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก” ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” มุ่งหวังยกระดับร้านอาหารท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ โดดเด่น และสามารถแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ และการสร้างให้เกิดเครือข่ายเชฟชุมชนที่เข้มแข็ง และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น… ถอดแนวคิดความมั่นคงชายแดนจากมุมมอง นักศึกษา “วปอ.บอ.” 4 ด้าน สังคม-เศรษฐกิจ-การเมือง-การทหาร ร่วมสะท้อนเส้นแบ่งแห่งโอกาสและอนาคตร่วมกัน EZ WebmasterJune 10, 2025 ชายแดนไทย-เมียนมา ที่ทอดยาวกว่า 2,400 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของไทย ตั้งแต่เชียงรายไปจนถึงและระนอง ไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นแบ่งระหว่างรัฐ แต่คือเส้นเขตแดนที่เชื่อมโยงผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ วัฒนธรรม เครือข่ายเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาอย่างยาวนาน แต่ภายหลังสถานการณ์การเมืองในเมียนมาตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา พื้นที่ที่เคยเต็มไปด้วยโอกาสนี้ กลับกลายเป็นความท้าทายที่ส่งผลกระทบบางประเด็นมาถึงประเทศไทย ดังนั้น การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนจึงไม่ใช่เพียงแค่ภารกิจของกองทัพในเรื่องการปกป้องพรมแดนเท่านั้น แต่เป็นโจทย์เชิงยุทธศาสตร์ที่ต้องผสมผสานความเข้าใจในพื้นที่ สังคม วัฒนธรรม ผู้คน เศรษฐกิจ… Search for: Search EZ Webmaster February 13, 2023 EZ Webmaster February 13, 2023 กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! เทศกาลแห่งความรักวนกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็ต้องเคยมีความรักกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ ความรักที่พี่ออมพูดถึงนั้นไม่ได้หมายถึงแค่ในรูปแบบคนรักเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความรักแบบครอบครัว แบบเพื่อน หรือแบบอื่น ๆ วันนี้นะคะพี่ออมจะมาเล่าประวัติวันแห่งความรักว่ามีที่มายังไงแล้วทำไมถึงกลายเป็นวันสำคัญอย่างเช่นทุกวันนี้ได้ ไปดูกันเลย! . แต่เดิมวันที่ 14 กุมภาพันธ์ไม่ได้เป็นที่รู้จักในชื่อวันวาเลนไทน์หรือเทศกาลแห่งความรักอย่างเช่นทุกวันนี้ ในช่วงจักรวรรดิโรมัน วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันหยุดเพื่อให้เกียรติแด่เทพีจูโน ซึ่งถือเป็นราชินีของบรรดาเทพเจ้าโรมัน และชาวโรมยังเชื่อว่าเธอเป็นผู้ปกป้องผู้หญิง ทั้งชีวิตแต่งงาน เวลาคลอดบุตร จึงถือว่าเทพีจูโนเป็นเทพีแห่งผู้หญิงและการแต่งงาน (เทพีจูโน) . ถ้าถามว่าแล้วยุคนั้นมีการเฉลิมฉลองเกี่ยวกับความรักไหม? มีค่ะ ถึงแม้ว่าในสมัยนั้นวิถีชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน แต่ก็ยังมีเทศกาลคล้ายกับวันวาเลนไทน์อย่าง “ลูเพอร์คาร์เลีย” หรือ “ลูเปอร์คาลีอา” เป็นประเพณีเพื่อระลึกถึงโรมิวลุสและเรมุสซึ่งเชื่อกันว่าเป็นฝาแฝดผู้ก่อตั้งกรุงโรม จัดในระหว่างวันที่ 13 – 15 กุมภาพันธ์ แต่เทศกาลวาเลนไทน์เดิมนี้ไม่ได้สวยงามอย่างวาเลนไทน์ในปัจจุบันนะคะเพราะการเฉลิมฉลองในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างโหดร้ายเลยก็ว่าได้ค่ะ เริ่มตั้งแต่การสังเวยแพะ แกะ สุนัข โดยสุนัขต้องเป็นลูกสุนัขตัวเล็กน่ารัก ๆ เท่านั้น วิธีการคือนำสัตว์เหล่านี้เข้าไปในถ้ำก่อนที่จะรุมฆ่ามันอย่างไร้ปราณี ไม่หยุดอยู่เพียงการสังหารสัตว์เท่านั้น หลังจากที่ฆ่าสัตว์แล้ว นักบวชจะนำเลือดจากมีดที่เพิ่งฆ่าสัตว์ไปก่อนหน้านี้มาป้ายลงบนศีรษะของเด็กหนุ่มจากตระกูลผู้ดีสองคน จากนั้นก็นำขนสัตว์มาชุบด้วยน้ำนมเพื่อเช็ดศีรษะอีกครั้งพร้อมบังคับให้เด็กทั้งสองหัวเราะออกมาอย่างสุดเสียงในถ้ำมืด ๆ ก่อนจะให้พวกเขาแก้ผ้าพร้อมมอบอาวุธเป็นแส้หนังแพะ แส้หนังแพะนี้เรียกว่า “Februare” มาจาก “February” หรือเดือนกุมภาพันธ์นั่นเองค่ะ โดยตามความเชื่อของคนในสมัยถือว่ากิจกรรมทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นการชำระจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ หลังจากนั้นจะมีเด็กหนุ่มผู้ดีมากมายพร้อมใจกันแก้ผ้าทาน้ำมันตามตัวถือแส้หนังแพะไว้ในมือ ก่อนกวาดสายตาวิ่งฟาดผู้หญิงที่เข้าร่วมงาน น้อง ๆ อาจจะเอ๊ะขึ้นมาว่าแล้วผู้หญิงไม่ทำอะไรกลับหรอ? ต้องบอกก่อนว่าแม้พวกเธอจะเหมือนวิ่งหนีแต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้หญิงเหล่านั้นต่างยินยอมที่จะถูกตีค่ะ เพราะเชื่อกันว่าหนังสัตว์เหล่านั้นจะทำให้พวกเธอสืบพันธุ์และมีลูกได้ (เด็กหนุ่มเอาแส้แพะไล่ฟาดหญิงสาว) . พิธีกรรมแปลก ๆ ตามมุมมองของคนปัจจุบันอย่างเรายังมีอีกนะคะ แน่นอนว่าเทศกาลแบบนี้ต้องมีอาหารกินเลี้ยงเหมือนประเพณีอื่น ๆ ต่างกันตรงที่ในเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียนี้ นักบวชจะแขวนเครื่องในแพะบนต้นวิลโลว์ หรือ ต้นหลิว (Willow) เพื่อให้คนนำมาทำอาหารพร้อมทั้งทำเค้กเกลือ ที่คล้ายกับแพนเค้กไปย่างเกลือทำให้ออกรสชาติเค็ม ๆ ไหม้ ๆ ทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นเมนูยอดฮิตประจำเทศกาลนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีการแต่งเพลงโดยนำเอาพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของผู้อื่นมาขับร้องเป็นเนื้อเพลงเพราะเชื่อกันว่าความอับอายจะช่วยให้ผู้คนประพฤติตัวดีขึ้น แต่แน่นอนว่ากิจกรรมนี้ดูเหมือนจะให้ผลเสียมากกว่า เป็นเรา เราก็คงไม่พอใจที่คนอื่นเอาเรื่องราวของเรามาป่าวประกาศใช่ไหมคะ อีกหนึ่งกิจกรรมเด่นที่เป็นตัวชูโรงทำให้เทศกาลนี้ถูกมองว่าเป็นวาเลนไทน์เดิมคือวันก่อนงานเทศกาล จะมีการจับสลากของหนุ่มสาวเพื่อจับคู่เที่ยวตลอดงาน เล่ากันว่าฝ่ายหญิงจะเขียนชื่อของตนและใส่ไปในเหยือกหรือโถ ก่อนฝ่ายชายจะเป็นผู้จับฉลากชื่อนั้นขึ้นมา แน่นอนว่างานเทศกาลนี้ทำให้หนุ่มสาวหลายคู่เกิดพบรักกันและสานต่อความสัมพันธ์กัน ภายหลังวิธีการจับสลากแบบนี้ถูกเรียกว่า “สลากรัก” หรือ “สลากลูเปอร์คาลีอา” พูดง่าย ๆ ก็คงคล้ายกับการนัดบอดในยุคนี้แหละค่ะ น้อง ๆ อาจจะกำลังคิดว่ากิจกรรมหลังนี้ดูจะปกติดีใช่ไหมคะ แต่ไม่เลยค่ะ บางแห่งเล่าว่าการเขียนชื่อลงในเหยือกหรือโถนั้นไม่ได้ทำเพื่อให้หนุ่มสาวได้ทดลองใช้เวลาร่วมกันแต่เพื่อมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ไม่มีการเดท ไม่มีการพูดคุย ไม่มีความรักมาเกี่ยวข้อง เป้าหมายมีเพียงการเพศสัมพันธ์และให้ผู้หญิงตั้งครรภ์เท่านั้น ซึ่งหากไม่สำเร็จตามเป้าหมายก็สามารถกลับมาใหม่ได้ในปีถัดไป แต่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าจะต้องคู่กับผู้ชายคนเดิม หรือเริ่มจับสลากกันใหม่ในทุกปีค่ะ . ต่อมาในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ศาสนาคริสต์กลายมาเป็นศาสนาหลักของกรุงโรม สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสเข้ามามีบทบาทและตัดสินว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียและเทศกาลอื่น ๆ เป็นเทศกาลของลัทธินอกรีต อีกทั้งยังผิดศีลธรรม ในราว ค.ศ. 500 ซึ่งจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ก็เห็นดีเห็นงามเนื่องจากเป็นบุคคลที่มีจิตใจดุร้าย ชื่นชอบการทำสงคราม การนองเลือด และมองว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียจะทำให้ผู้ชายไม่อยากเข้าร่วมกองทัพ เพราะไม่อยากจากคนรักหรือครอบครัวไป ทำให้เกิดเป็นคำสั่งห้ามไม่ให้มีการจัดพิธีหมั้นและพิธีแต่งงานกันในโรมอย่างเด็ดขาด สลากที่เคยเป็นสื่อกลางแห่งความรักถูกปรับเปลี่ยนเป็นสลากนักบุญ จากการจับชื่อหญิงสาวในโถกลายเป็นการจับชื่อนักบุญแทน หากชายหนุ่มจับได้ชื่อนักบุญท่านไหนก็ต้องใช้ชีวิต ศึกษา เรียนรู้ตามวิถีชีวิตของนักบุญท่านนั้น (จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2) . มาถึงตรงนี้น้อง ๆ คงจะเริ่มสงสัยกันแล้วว่าตกลงแล้ววันวาเลนไทน์ที่เป็นวันแห่งความรักจะเริ่มต้นที่ตรงไหน? ในระหว่างนี้เองที่มีนักบุญผู้ลือกันว่าหน้าตาหล่อเหลา งดงาม ชื่อว่า “เซนต์วาเลนไทน์” หรือ “วาเลนตินัส” มีความเห็นอกเห็นใจในคู่รัก จึงแอบร่วมมือกับ “เซนต์มาริอัส” จัดพิธีแต่งงานลับ ๆ ให้แก่ชาวคริสต์หลายคู่ ทั้งพิธีจะมีเพียงเจ้าบ่าว เจ้าสาว และบาทหลวงเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง ทหารของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ได้เข้ามาเห็นพิธี ส่งผลให้เซนต์วาเลนไทน์ถูกควบคุมตัวไปลงโทษอย่างสาหัส เหล่าคู่รักที่เคยเข้าร่วมพิธีแต่งงานกับเขาผลัดกันมาเยี่ยมนักบุญท่านนี้อยู่เสมอ และขณะที่เป็นนักโทษ เขาก็ยังคงส่งคำอวยพรออกไปนอกคุกอยู่เสมอ เชื่อกันว่าตอนอยู่ในคุกนั้น เซนต์วาเลนไทน์ได้รับคำขอให้ช่วยรักษาลูกสาวตาบอดของผู้คุมแอสทีเรียสที่ชื่อว่า “จูเลีย” ทั้งสองต่างตกหลุมรักกันระหว่างการรักษา จนกระทั่งจูเลียกลับมามองเห็นได้ปกติ เธอก็มักจะมาเยี่ยมเยียนเซนต์วาเลนไทน์อยู่เสมอ คืนก่อนที่เซนต์วาเลนไทน์จะถูกประหารด้วยการตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลียโดยลงท้ายว่า “From Your Valentine” เป็นอันปิดตำนานของเซนต์วาเลนไทน์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ด้วยวัยเพียง 47 ปี (เซนต์วาเลนไทน์และจูเลีย) . ศพของเซนต์วาเลนไทน์ได้ถูกจัดเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม โดยจูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอนด์สีชมพูไว้ใกล้หลุมศพของเขา โดยเหตุนี้เอง “ดอกอัลมอนด์สีชมพู” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งวันวาเลนไทน์ ความรักนิรันดร์ ไม่ใช่ดอกกุหลาบอย่างที่น้อง ๆ หลายคนเข้าใจกัน แต่ดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพและการแบ่งใจน้ำใจค่ะ (ดอกอัลมอนด์สีชมพู) . แม้เรื่องเล่าความรักของนักบุญวาเลนไทน์ข้างต้นจะเป็นที่โด่งดัง แต่ยังมีหลายแห่งที่มีเรื่องเล่าในรูปแบบที่ต่างกัน เล่ากันว่า “วาเลนตินุส” หรือ “วาเลนไทน์” มี 2 ท่าน คือ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งโรม” และ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งเทอร์นี” ทั้งสองพลีชีพเพื่อศาสนา ก่อนที่เรื่องราวจะถูกแต่งเติมจนกลายเป็นเรื่องราวความรักของนักบุญวาเลนไทน์ โดยคาดเดากันว่าน่าจะถูกแต่งขึ้นในช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 5 – 6 ใช้ชื่อผลงานว่า Passio Marii et Marthae ดังที่พี่ออมได้เล่าให้ฟังไปข้างต้นค่ะ . ด้วยเหตุการณ์นี้ เรื่องราวโรแมนติกอันสงสารของทั้งคู่ทำให้เซนต์วาเลนไทน์กลายเป็นนักบุญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ตั้งแต่เมื่อ ค.ศ. 496 สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสที่ 1 กำหนดให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักและมีการปรับเปลี่ยนชื่อวันแห่งความรักเป็น “วันวาเลนไทน์” ตามชื่อตามชื่อนักบุญค่ะ แต่ก็ถูกตัดออกจากปฏิทินโรมันทั่วไปและให้ไปอยู่ในปฏิทินเฉพาะซึ่งถือเป็นเพียงปฎิทินท้องถิ่นหรือปฎิทินประจำชาติโดยสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 ในปี ค.ศ. 1969 เพราะเห็นว่านอกจากชื่อของเซนต์วาเลนไทน์แล้วก็ไม่มีข้อมูลนอกเหนือจากว่าศพของเขาถูกฝังไว้ที่เวียฟลามิเนียเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ แต่ถึงอย่างนั้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ก็ได้กลายเป็นวันแห่งความรักของสากลอย่างเช่นทุกวันนี้ค่ะ . นอกจากจะเล่าที่มาของวันวาเลนไทน์แล้ว วันนี้พี่ออมก็ยังมีเกร็ดเล็ก ๆ ที่น่าจะพอคลายความสงสัยของน้อง ๆ เกี่ยวกับวาเลนไทนและความรักกันได้ค่ะ . สัญลักษณ์รูปหัวใจมาจากไหน ? ถ้าพูดถึงเรื่องของความรักก็เป็นไปไม่ได้เลยนะคะที่จะไม่พูดถึงรูปร่างหัวใจ แล้วรูปร่างหัวใจนี้มาจากไหนกันล่ะ? น้อง ๆ อาจจะเดากันว่าก็มาจากหัวใจมนุษย์จริง ๆ นี่ คำตอบนี้ก็ถูกต้องค่ะแต่ไม่ใช่เพียงคำตอบเดียวเท่านั้น ที่มาของรูปหัวใจถูกแบ่งออกเป็น 2 ทฤษฎีหลัก ๆ ค่ะ – ทฤษฎีแรกคือรูปร่างหัวใจมาจากอวัยวะ ซึ่งก็คือหัวใจมนุษย์จริง ๆ เริ่มจากนักปราชญ์ของกรีก “อริสโตเติล” (Aristotle) และแพทย์ชาวโรมัน “กาเลน” (Galen) ทั้งสองได้ศึกษาระบบร่างกายมนุษย์และโครงสร้างของของสิ่งมีชีวิตหรือที่เรียกกันว่ากายวิภาคศาสตร์นั้นแหละค่ะ ทั้งสองได้บันทึกและวาดรูปหัวใจของมนุษย์ไว้ (รูปวาดหัวใจของอริสโตเติลและกาเลน) จนในช่วงศตวรรษที่ 14 ชาวยุโรปได้เริ่มศึกษากายวิภาคของมนุษย์ และนำรูปหัวใจที่อริสโตเติลและกาเลนวาดมาอ้างอิง พร้อมทั้งเชื่อว่าหัวใจเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก อารมณ์ และความรัก ทำให้ถูกดัดแปลงกลายมาจากหัวใจของคนสองคนมาประกบกัน จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แต่ก็ยังมีผู้ถกเถียงว่ารูปร่างหัวใจมาจากร่างกายมนุษย์จริง แต่อาจถูกสร้างตามสรีระของร่างกายในส่วนของบั้นท้ายค่ะ – ทฤษฎีที่ 2 นั้นเชื่อกันว่ารูปหัวใจมาจากพืช เป็นพืชโบราณที่ชื่อว่า “ซิลเฟียม” หรือ “ซิลฟีเนียม” (Silphium) เป็นดอกไม้ในตระกูลยี่หร่า โดยผลของดอกมันมีลักษณะคล้ายกับรูปหัวใจในปัจจุบัน แล้วทำไมถึงเลือกเอาผลของพืชชนิดนี้มาเป็นสัญลักษณ์? เพราะว่าในสมัยก่อนซิลเฟียมเติบโตบริเวณชายฝั่งแอฟริกาเหนือใกล้กับคิวเรเนหรือซิเรเน (Cyrene) ซึ่งเป็นเมืองกรีกโบราณโดยพืชชนิดนี้ถูกใช้เป็นเครื่องเทศ และใช้ในการคุมกำเนิดของคนในสมัยนั้นอีกด้วยค่ะ (ผลของดอกซิลเฟียม) แต่ก็มีการเสนอความเห็นกันว่ารูปหัวใจอาจจะมาจากต้นไอวี ในช่วงศตวรรษที่ 4 ใบของมันถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของสถานที่ซื้อขายเพศสัมพันธ์ในเมืองเอฟิซัส (Ephesus) ตั้งอยู่ที่ประเทศตุรกีในปัจจุบัน ด้วยเหตุผลที่ว่าต้นไอวีเป็นสัญลักษณ์ของเทพไดโอนิซัส (Dionysus) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งไวน์ ความอิ่มเอมทั้งกายใจ ต่อมาต้นไอวีจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการมีเพศสัมพันธ์ของคนในสมัยนั้นไปโดยปริยาย ในอีกแง่คือไอวีถือเป็นพืชที่มีความเขียวสดอยู่ตลอดทั้งปีจึงถูกใช้แทนความหมายในเรื่องของความซื่อสัตย์ ความมั่นคงในเรื่องของความรัก จนถูกนำมารวมกับสีแดงซึ่งเป็นสีแห่งความรักจนกลายเป็นรูปหัวใจในที่สุดค่ะ (ใบเถาของต้นไอวี) . เทพเจ้าแห่งความรักมีแต่คิวปิดหรอ? หากพูดถึงเทพเจ้าแห่งความรักแล้ว น้อง ๆ อาจมีภาพเด็กผู้ชายถือธนูอยู่ ในความคิด ความเป็นจริงแล้วยังมีเทพเจ้าอีกหลายองค์ที่ถูกนับว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรักค่ะ – “อโฟรไดท์” (Aphrodite) หรือ “วีนัส” (Venus) เทพีแห่งความรัก ความงาม และเพศสภาพของกรีก อโฟรไดท์มีความสามารถในการสะกดจิต ทำให้ผู้อื่นหลุ่มหลงในความงามของนาง ตามตำนานกรีกแล้วอโฟรไดท์ถือเป็นเทพีที่มีอารมณ์รุนแรงและมีเพศสัมพันธ์กับเทพหลายองค์ แม้กระทั่งกับคนธรรมดา ซึ่งอโฟรไดท์มีศักดิ์เป็นแม่แท้ ๆ ของคิวปิด (อโฟรไดท์หรือวีนัส) – “คิวปิด” (Qupid) หรือ “อีรอส” (Eros) เทพเจ้าแห่งความรัก ความปรารถนาของกรีก แท้จริงแล้วคิวปิดเป็นเทพแห่งความรักแบบกามอารมณ์ ไม่ใช่แบบบริสุทธิ์อย่างที่ทุกคนเข้าใจค่ะ คิวปิดถือเป็นเทพที่รูปร่างหน้าตาดีที่สุด อีกทั้งยังมีความสามารถในการยิงธนูที่สั่งให้ใครรักใครก็ได้ และอีกด้านของธนูสามารถยิงให้คนเกลียดกันได้ คิวปิดตกหลุมรักไซคีตอนที่อโฟรไดท์สั่งเขาไปยิงธนูให้ไซคีไปรักกับผู้ชายไม่ดี เพราะผู้คนหลงในความงามของไซคีจนลืมบูชาเทพแห่งความงามอย่างอโฟรไดท์ คิวปิดตะลึงในความงามของไซคีจนทำธนูทิ่มมือตัวเอง ทำให้ต่อมาทั้งสองได้ครองรักกันภายใต้เงื่อนไขที่ว่าไซคีต้องห้ามแอบมองว่าหน้าตาคิวปิดเป็นอย่างไร แต่ด้วยคำยุยงจากพี่สาวที่อิจฉาชีวิตของไซคีทำให้ไซคีแอบดู เป็นเหตุทำให้คิวปิดจากไปพร้อมบอกว่า “ความรักไม่อาจดำรงอยู่ได้ ถ้าปราศจากความไว้วางใจ” แม้ในท้ายที่สุดทั้งสองจะได้ครองรักกันแต่เรื่องราวของไซคีกับคิวปิดจึงกลายเป็นตัวแทนและคำสอนเกี่ยวกับความรักเรื่องของความเชื่อใจ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน (คิวปิดและไซคี) – แฮธอร์ (Hathor) เทพีแห่งความรัก ความสุข การแต่งงาน การเต้นรำ และความงดงามของอียิปต์ เชื่อกันว่านางเป็นผู้ควบคุมระบบการสืบพันธุ์ของมนุษย์ เป็นผู้ให้เสน่ห์แก่ผู้หญิง และทำให้เกิดอารมณ์ปรารถนา เป็นผู้ควบคุมเพศสัมพันธ์ มีอำนาจทำให้มนุษย์เสื่อมสมรรถภาพหรือหายจากอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ ทำให้เทวสถานของนางส่วนใหญ่เปิดรับคู่รักทุกเพศ ทุกวรรรณะเพราะพระนางชื่นชอบการแต่งงาน และความรักที่สมหวังเป็นอย่างมาก (แฮธอร์) – อินันนา (Inanna) เทพีความรัก ความงาม เพศ สงคราม ความยุติธรรม และอำนาจทางการเมืองของเมโสโปเตเมีย เชื่อกันว่านางมีหน้าที่ให้กำเนิดความรักและความต้องการทางเพศ และถูกมองว่าเป็นเทพีผู้บริสุทธิ์ (อินันนา) – เฟรย่า (Freyja) เทพีแห่งความรัก ความงาม เพศสัมพันธ์ ความอุดมสมบูรณ์ และความตายตามตำราของนอร์ส เล่ากันว่านางเป็นเทพีที่งดงามที่สุดในแอสการ์ด มีทั้งด้านที่อ่อนหวานและดุดัน (เฟรย่า) ยังมีเทพอีกหลายอันที่พี่ออมยังไม่ได้พูดถึงนะคะ แต่น้อง ๆ อาจจะสังเกตได้ว่าเทพแห่งความรักส่วนใหญ่มักเป็นผู้หญิง และมีการผูกเข้ากับเรื่องของอารมณ์ เพศสัมพันธ์และความงามค่ะ . ทำไมต้องให้ดอกกุหลาบในวันวาเลนไทน์? ช่วงวาเลนไทน์เป็นช่วงที่ดอกไม้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โดยเฉพาะกับดอกกุหลาบ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เจอเต็มไปหมด จริง ๆ แล้วนะคะธรรมเนียมการให้ดอกกุหลาบมาจากหลายตำนาน – เรื่องเล่าหลายเรื่องมักมีการเชื่อมโยงระหว่างกุหลาบกับอโฟรไดท์ โดยเป็นเรื่องราวของอโดนิสที่เชื่อกันว่าเป็นคนที่อโฟร์ไดท์รักที่สุดในบรรดาชายที่เธอเคยข้องเกี่ยวมา ยิ่งอโดนิสเป็นชายคนเดียวที่ไม่ตกเป็นทาสความสวยของเธอ ยิ่งทำให้อโฟร์ไดท์หลุ่มหลงชายผู้นี้เป็นอย่างมาก จนเกิดเป็นเรื่องเล่าที่ทำให้กุหลาบกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เช่น หลังจากอโดนิส (Adonis) ถูก “อาเรส” (Ares) คู่รักเก่าของอโรไดท์ในร่างหมูป่าฆ่าเพราะความหึงหวง น้ำตาของเธอไหลลงผสมกับเลือดของเขา หยดลงกลายเป็นดอกกุหลาบสีแดง บ้างก็ว่าอโฟร์ไดท์แทงตัวเองจนเลือดหยดลงสู่พื้นกลายเป็นกุหลาบ บ้างก็ว่านางรับไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียคนรักจึงเสกเลือดของอโดนิสให้กลายเป็นดอกไม้ ทำให้ชื่อแรกสุดของดอกไม้ชนิดนี้คือ “อโดนิส” หรือ “อะเนมโมนิ” (Anemone) (อโฟร์ไดท์กับอโดนิส) – “คลอริส” (Chloris) เทพธิดาแห่งดอกไม้ได้ยกเอาดอกกุหลาบเป็นราชินีของดอกไม้ ซึ่งต่อมาได้มอบกุหลาบให้แก่คิวปิดเทพเจ้าแห่งความรัก ทำให้กุหลาบถูกเชื่อมโยงไปกับเรื่องราวความรักไปในทันที – ในศาสนาคริสต์เชื่อว่าเลือดของพระเยซูในตอนที่ถูกตรึงอยู่บนไม้กางเขนได้หยดลงบนต้นหญ้ามอลส์เกิดเป็นต้นกุหลาบแดง เรียกกันว่ากุหลาบมอลส์ – ในประเทศไทยไม่มีระบุแน่ชัดว่ากุหลาบเข้ามาเป็นที่นิยมตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มีวรรณคดีเรื่อง “มัทนะพาธา” พระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นตำนานของดอกกุหลาบที่เกี่ยวกับข้องกับเรื่องของความงาม ความรัก ในปัจจุบันดอกไม้ที่มอบให้ระหว่างเทศกาลวาเลนไทน์มีความหลากหลายมากขึ้น ถ้าน้อง ๆ ยังสงสัยกันอยู่ทำไมต้องเป็นดอกไม้ จริง ๆ แล้วนะคะ มนุษย์ใช้ดอกไม้เป็นสื่อกลางแสดงความรักมานักต่อนักแล้วค่ะ อาจจะดอกรูปร่าง สีสัน และกลิ่นของมันทำให้เป้นสิ่งของที่ดีในการมอบให้แก่ใครสักคนค่ะ . ช็อกโกแลตกับวาเลนไทน์? นอกจากดอกกุหลาบแล้ว ช็อกโกแลตก็เป็นอีกหนึ่งของแทนใจยอดฮิตที่อาจจะมีน้อง ๆ บางคนลงทุนทำเองกับมือเพื่อมอบให้คนที่รักในวันวาเลนไทน์ใช่ไหมคะ ถ้าถามว่าช็อกโกแลตมีความเกี่ยวข้องยังไงกับเทศกาลแห่งความรักเช่นนี้ ก็คงต้องย้อนกลับในสมัยจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ช่วงที่ความรักของชายหญิงถือเป็นเรื่องต้องห้าม การเจอกันแต่ละครั้งจึงนิยมเอาของมามอบแทนความรัก ใช่แล้วค่ะ ของสิ่งนั้นก็คือช็อกโกแลต เพราะถือเป็นของหายากและมีราคาสูง ทำให้ช็อกโกแลตกลายเป็นของมีค่าที่คู่รักนิยมมอบให้แก่กันเพื่อแสดงความรักที่เต็มหัวใจค่ะ ในขณะเดียวกันก็มีบางคนเชื่อว่า การให้ช็อกโกแลตอาจเป็นเพียงการตลาดที่เกิดจาก Richard Cabury สมัยเพิ่งเข้าสืบทอดกิจการช็อกโกแลต Cabury ของประเทศอังกฤษ และด้วยความไฟแรงต้องการเพิ่มยอดขายของเขาทำให้เกิดการคิดค้นช็อกโกแลตรูปหัวใจ และออกแบบลวดลายบนกล่องให้มีรูปคิวปิดและดอกกุหลาบ แน่นอนว่าเป็นความคิดที่ประสบความสำเร็จและพลิกวงการของช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์มาจนถึงทุกวันนี้ . แหวน เครื่องประดับแทนใจของคู่รัก? ทำไมต้องใส่นิ้วนางข้างซ้าย? เมื่อเข้าร่วมพิธีแต่งงานกันทั้งฝ่ายจำเป็นที่จะสวมแหวนไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย ซึ่งกลายเป็นเครื่องประดับที่เราเห็นเมื่อไรก็ทราบได้ทันทีว่าคน ๆ นี้มีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว แล้วทำไมต้องเป็นแหวนล่ะ? การใส่แหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายมาจากชาวอียิปต์โบราณที่พบว่านิ้วนางข้างซ้ายเป็นนิ้วเดียวที่มีเส้นเลือดใหญ่วิ่งเข้าไปที่หัวใจ ซึ่งเรียกตามภาษาละตินว่า “เส้นเลือดแห่งความรัก” (Vena Amoris) จนกลายมาเป็นวัฒนธรรมที่คู่รักสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายเพราะเป็นตัวเชื่อมจากเส้นเลือดไปถึงหัวใจของทั้งสอง แต่ในสำหรับข้อเท็จจริงนะคะ ได้มีการพิสูจน์ในภายหลังว่าแต่ละนิ้วมีระบบเลือดไหลเวียนที่เหมือนกัน ทำให้นิ้วนางข้างขวามีการไหลเวียนของเลือดไม่ต่างจากนิ้วนางข้างซ้ายค่ะ . คำว่าแฟนมาจากไหน? แล้วก่อนหน้านี้ใช้คำว่าอะไร? คำว่า “แฟน” ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 (ออนไลน์) เป็นภาษาปาก หมายถึง ผู้นิยมชมชอบ เช่น แฟนเพลง แฟนภาพยนตร์ แฟนมวย, ผู้เป็นที่ชอบพอรักใคร่, คู่รัก, สามีหรือภรรยา. ซึ่งคำนี้มีที่มาจากคำในภาษาอังกฤษคือว่า “Fan” ย่อมาจาก “Fanatic” คลั่งไคล้ หลุ่มหลงในสิ่งใดมาก ๆ ถ้าเอาในยุคนี้ก็คงเหมือนกับคำว่า “คลั่งรัก” นั้นแหละค่ะ แล้วก่อนหน้าที่จะมีคำว่าแฟนล่ะ คนไทยใช้คำว่าอะไร? คนไทยใช้คำว่า “ชิ้น” แทนคู่รักในหน้าที่เดียวกับคำว่าแฟนเลยค่ะ ก่อนที่หลังสมัย พ.ศ. 2490 คนไทยจะเปลี่ยนมาใช้คำว่าแฟนตามปัจจุบันอ้างจากหนังสือมหาเหตุประเทศสยาม เล่ม 1 ของเอนก นาวิกมูลที่เขียนในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งอธิบายไว้ “แฟน” ไว้ว่าเป็นคำที่คนไทยในสมัยนั้นใช้กันอย่างแพร่หลาย ฟุ่มเฟื่อย . วันวาเลนไทน์เข้ามาในไทยเมื่อไหร่? วันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรักซึ่งมาจากวัฒนธรรมของต่างประเทศ ซึ่งเข้ามามีบทบาทในไทยในสมัยสงครามเวียดนาม ราวปี พ.ศ. 2508 – 2509 สหรัฐอเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพในเมืองไทยหลายแห่ง เช่น อุดรธานี มีผู้หญิงหลายคนในบริเวณฐานทัพรับเอาวันวาเลนไทน์นี้เข้ามา จนกระทั่งห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เป็นผู้ริเริ่มการจัดประเพณีวาเลนไทน์ในห้าง บ้างก็ว่ามาจากพนักงานที่ไปเรียนต่างประเทศมา บ้างก็ว่าเป็นลูกหลานของเจ้าของห้างแห่งนั้น ทำให้หลังจาก พ.ศ. 2510 ห้างสรรพสินค้าเกือบทุกแห่งนับเอาเทศกาลวันวาเลนไทน์มาเป็นอีกหนึ่งอีเวนต์หลักของทุกปีเลยก็ว่าได้ค่ะ . วันแห่งความรักของไทย ถึงแม้ว่าวันวาเลนไทน์จะเป็นวันแห่งความรักที่รู้จักกันเป็นสากล และได้รับความนิยมในทุกหนแห่งไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย แต่ประเทศไทยก็มีวันแห่งความรักเช่นกันค่ะ แต่อิงตามศาสนาพุทธนั้นก็คือ “วันมาฆบูชา” ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 โดยอ้างจากเหตุการณ์โอวาทปาฎิโมกข์ซึ่งถือเป็นวันแสดงความรักของพระพุทธเจ้าโดยการเทศนา เป็นความรักในแบบของการเมตตา และปรารถนาดีต่อผู้อื่นค่ะ . จบกันไปแล้วนะคะสำหรับเรื่องราวของวันแห่งความรักแบบนี้ ไม่ว่าจะความรักแบบไหนก็สวยงามไม่แพ้กันนะคะ แต่อีกหนึ่งคนสำคัญที่พี่ออมอยากให้น้อง ๆ รักก็คือตัวน้อง ๆ เองค่ะ อย่ามองข้ามการรักตัวเองค่ะ ความรักในรูปแบบนี้นับว่าเป็นความรักที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะการรักตัวเองจะทำให้น้อง ๆ มีความสุขกับชีวิตในแต่ละวัน และไม่ว่าน้อง ๆ จะรักใคร สิ่งที่สำคัญก็อย่ารักจนไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น หรือทำให้ผู้ใดเป็นทุกข์ แม้กระทั่งตัวเราเองนะคะ 🙂 EZ Webmaster Related Posts มทร.ธัญบุรี โชว์ผลงานเด่น คว้า 12 รางวัลเวทีนวัตกรรมระดับนานาชาติ เซี่ยงไฮ้ 2025 มธ. ปักหมุดหลักสูตร ‘AI Ethics’ หนุนบริบทใหม่ของห้องเรียนทันโลก สร้างจุดยืนคนรุ่นใหม่ ‘ใช้เอไออย่างมีจริยธรรม’ พร้อมเดินหน้าวางหมุดหมายระบบการศึกษาไทย กับการปลุกการใช้เทคฯ คู่ธรรมาภิบาล คาดเริ่มเปิดลงทะเบียนพร้อมเรียนจริง สิงหาคม 68 นี้ สสวท. เชิญใช้ฟรี “คลังคำศัพท์” รับเปิดเทอมใหม่ มัดรวมศัพท์ในหนังสือเรียนวิชาที่ สสวท. พัฒนา สจล. เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน 11 สาเหตุลึกซึ้ง ทำไมการศึกษาไทยยังตกต่ำ? เสียงสะท้อนจากครูชนบท สู่คำถามใหญ่ของสังคม Post navigation PREVIOUS Previous post: กมธ. อุดมศึกษาฯ วุฒิสภา ดูงานและติดตามความคืบหน้าชุดโครงการวิจัยการพัฒนาต้นแบบการจัดการเกษตรผสมผสาน และการจัดการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนวัตวิถีเชิงสร้างสรรค์ จังหวัดแพร่NEXT Next post: มหาวิทยาลัยนเรศวร ประกาศรับ #TCAS66 รอบ 2 #QUOTA แพทยศาสตรบัณฑิต #ผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
11 สาเหตุลึกซึ้ง ทำไมการศึกษาไทยยังตกต่ำ? เสียงสะท้อนจากครูชนบท สู่คำถามใหญ่ของสังคม EZ WebmasterJune 19, 2025 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตคุณภาพทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความพยายามปฏิรูปหลายครั้ง แต่กลับไม่สามารถยกระดับการเรียนรู้ให้เทียบเท่าประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างแท้จริงนายสานิตย์ พลศรี นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ ในหัวข้อ “สาเหตุของปัญหาคุณภาพด้านการศึกษาประเทศไทยที่ตกต่ำ” ซึ่งกำลังถูกส่งต่ออย่างกว้างขวางในโซเชียลมีเดียและกลุ่มไลน์ของคนในแวดวงการศึกษาเสียงสะท้อนจากผู้ที่อยู่ในภาคสนามจริงอย่างนายสานิตย์ ทำให้เราได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวนักเรียนหรือครูเพียงลำพัง แต่เป็นผลสะสมจากโครงสร้าง ระบบ และการบริหารที่ผิดทิศผิดทางมานานจึงเป็นการเปิดประเด็นให้สังคมได้ทบทวนร่วมกันว่า หากเราไม่เริ่ม “เปลี่ยนจริง” คุณภาพการศึกษาของไทยอาจยิ่งตกต่ำลงกว่าที่เป็นอยู่ 11… ว.วิศวกรรมสังคีต สจล. ร่วมมือ บริษัท Sonos Libra ส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ สร้างเสริมประสบการณ์ให้นักศึกษา EZ WebmasterJune 18, 2025 วิทยาลัยวิศวกรรมสังคีต สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิทักษ์ ธรรมวาริน (คนที่ 4 จากซ้าย) คณบดีวิทยาลัยวิศวกรรมสังคีต สจล. และ Mr. Alfonso Martin (คนที่ 3… คณะมนุษยศาสตร์ ม.หอการค้าไทย จัดหลักสูตรรุกหน้าการันตี “เรียนภาษาให้ได้ดี มีรายได้หลักแสน!!” EZ WebmasterJune 18, 2025 “ภาษา” มิใช่เพียงเครื่องมือสื่อสารแต่เป็นกุญแจสำคัญในการเรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรม การคิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์นวัตกรรม ผู้ที่มีทักษะด้านภาษาที่แข็งแกร่งจะสามารถเป็นข้อได้เปรียบหรือประสบความสำเร็จได้ในโลกที่เปลี่ยนแปลงและผู้คนทั่วโลกเชื่อมโยงสื่อสารถึงกันได้ในพริบตาแม้จะต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม การเรียนรู้ฝึกฝนมีทักษะภาษาจึงมิใช่แค่รู้หรือพูดภาษานานาชาติได้เท่านั้น แต่การเรียนภาษาให้มีรายได้ดี มีอาชีพมั่นคง เป็นมนุษย์เงินเดือนอิสระ ถึงขั้นการันตีได้ว่า “เรียนภาษาให้ได้ดี มีรายได้หลักแสน !!! นั้นก็เป็นสิ่งเพิ่มมูลค่าและมีคุณค่าอย่างน่าภูมิใจ เฉกเช่นที่ล่าสุด Miss World… ทุนดีดี Kazan Global Youth Summit InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 19, 2025 เชิญเยาวชนสมัครคัดเลือกเข้าร่วมการประชุม Kazan Global Youth Summit ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 27 – 30 สิงหาคม 2568 ณ เมืองคาซาน สาธารณรัฐตาตาร์สตาน สหพันธรัฐรัสเซีย จัดโดยรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐตาตาร์สตาน… SEAMEO-Japan ESD Award InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 18, 2025 เชิญสถานศึกษาเข้าร่วมประกวดในหัวข้อ “Fostering Schools and Surrounding Communities’ Resilience through the Revitalisation of Local Wisdom in Disaster Risk Reduction” ชิงรางวัล SEAMEO-Japan ESD Award ประจำปี 2568 … ทุนMaster of Education InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 17, 2025 International Welcome Scholarships in Master of Education หรือทุนเรียนปริญญาโททางด้านการศึกษา สำหรับผู้เรียนจากนานาชาติ โดย Murdoch University ประเทศออสเตรเลีย ทุนมีมูลค่าเป็นส่วนลดค่าเรียน 25% เปิดรับใบสมัครถึง 30 สิงหาคม… 8 ทุนป.ตรีรัฐบาลคูเวต InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 15, 2025 ทุนการศึกษารัฐบาลรัฐคูเวต สำหรับนักเรียนไทยเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ณ มหาวิทยาลัคูเวต (Kuwait University) ประจำปีการศึกษา ค.ศ. 2025–2026 จำนวน 8 ทุน เปิดรับใบสมัครถึง 18 มิถุนายน 2025 โดยในจำนวนทุนที่ให้เป็นในคณะวิศวกรรมศาสตร์และปิโตรเลียม จำนวน 6 ทุน และคณะศิลปะศาสตร์(คณะชารีอะห์และอิสลามศึกษา/คณะครุศาสตร์ / สังคมศาสตร์ / อักษรศาสตร์)… ครู-อาจารย์ มทร.ธัญบุรี โชว์ผลงานเด่น คว้า 12 รางวัลเวทีนวัตกรรมระดับนานาชาติ เซี่ยงไฮ้ 2025 tui sakrapeeJune 19, 2025 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) สร้างชื่อระดับโลก เวที “The 8th China (Shanghai) International Invention & Innovation Expo 2025” คว้ารางวัลรวม 12 รายการ ตอกย้ำศักยภาพ… สจล. เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน EZ WebmasterJune 19, 2025 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ทางวิชาการกับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีความร่วมมือกันมานานกว่า 20 ปี เพื่อหารือขยายความร่วมมือเชิงลึกในสาขาวิศวกรรมขั้นสูง โดยเฉพาะด้าน Aerospace, Mechatronics, Automation และ Astronautics ซึ่ง HIT ถือเป็นสถาบันชั้นนำของจีนในด้านนี้ พร้อมทั้งหารือแนวทางความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนนักศึกษา นักวิจัย และการพัฒนาโครงการ Joint Degree ในอนาคต รองศาสตราจารย์… อธิการบดีนำทีมกรรมการส่งเสริมฯ สวนสุนันทา เยี่ยมชมโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำ เมืองชิงเต่า สาธารณรัฐประชาชนจีน มุ่งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้สู่มาตรฐานโลก tui sakrapeeJune 18, 2025 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา นำโดย รศ.ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ อธิการบดี พร้อมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย เดินทางเยือนโรงเรียนนานาชาติ Qingdao No.1 International School of Shandong Province (QISS) และ Qingdao University… กองกลาง มจพ. เยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ และจัดสัมมนาจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรรายบุคคล ประจำปี 2568 EZ WebmasterJune 18, 2025 ผศ.ดร.สราวุฒิ สืบแย้ม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการคลังและกิจการทั่วไป มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วยนางสาวรัตนา สุขเฉลิมศรี ผู้อำนวยการกองกลาง และบุคลากรกองกลาง เข้าเยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ มจพ. ณ ชั้น 3 สำนักงานหอสมุดกลาง โดยมีนางสาวพนารมย์ เกียรติลีลานันท์ และ… กิจกรรม กองอาคาร มจพ. จับมือสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพฯ อบรมการจัดการคัดแยกขยะมูลฝอยภายในหน่วยงาน EZ WebmasterJune 18, 2025 ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ นายกสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วยศ.ดร.ธานินทร์ ศิลป์จารุ อธิการบดี ร่วมพิธีโครงการอบรม เรื่อง การคัดแยกขยะมูลฝอยภายในหน่วยงาน โดยมี รศ.ดร.ณัฐพงศ์ มกระธัช รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนากิจการมหาวิทยาลัยเพื่อความยั่งยืน กล่าวเปิดการอบรม รศ.ดร.ศักดา กตเวทวารักษ์… “40 ปี เภสัชศิลปากร” หลากวงการ ร่วมแสดงความยินดี สู่บทบาทผู้นำด้านวิชาชีพเภสัชกรรม วิจัยนวัตกรรม และการสร้างสุขภาพอย่างยั่งยืน EZ WebmasterJune 13, 2025 วันที่ 6 มิถุนายน 2568 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งการสถาปนาอย่างสมเกียรติ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม ภายใต้ชื่องาน “Celebrating the 40th Anniversary:… ดีพร้อม ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้ายกระดับร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย หวังสร้างรายได้ชุมชนสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก EZ WebmasterJune 13, 2025 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้า “โครงการพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย (Local Chef Restaurant) ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก” ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” มุ่งหวังยกระดับร้านอาหารท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ โดดเด่น และสามารถแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ และการสร้างให้เกิดเครือข่ายเชฟชุมชนที่เข้มแข็ง และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น… ถอดแนวคิดความมั่นคงชายแดนจากมุมมอง นักศึกษา “วปอ.บอ.” 4 ด้าน สังคม-เศรษฐกิจ-การเมือง-การทหาร ร่วมสะท้อนเส้นแบ่งแห่งโอกาสและอนาคตร่วมกัน EZ WebmasterJune 10, 2025 ชายแดนไทย-เมียนมา ที่ทอดยาวกว่า 2,400 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของไทย ตั้งแต่เชียงรายไปจนถึงและระนอง ไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นแบ่งระหว่างรัฐ แต่คือเส้นเขตแดนที่เชื่อมโยงผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ วัฒนธรรม เครือข่ายเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาอย่างยาวนาน แต่ภายหลังสถานการณ์การเมืองในเมียนมาตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา พื้นที่ที่เคยเต็มไปด้วยโอกาสนี้ กลับกลายเป็นความท้าทายที่ส่งผลกระทบบางประเด็นมาถึงประเทศไทย ดังนั้น การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนจึงไม่ใช่เพียงแค่ภารกิจของกองทัพในเรื่องการปกป้องพรมแดนเท่านั้น แต่เป็นโจทย์เชิงยุทธศาสตร์ที่ต้องผสมผสานความเข้าใจในพื้นที่ สังคม วัฒนธรรม ผู้คน เศรษฐกิจ… Search for: Search EZ Webmaster February 13, 2023 EZ Webmaster February 13, 2023 กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! เทศกาลแห่งความรักวนกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็ต้องเคยมีความรักกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ ความรักที่พี่ออมพูดถึงนั้นไม่ได้หมายถึงแค่ในรูปแบบคนรักเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความรักแบบครอบครัว แบบเพื่อน หรือแบบอื่น ๆ วันนี้นะคะพี่ออมจะมาเล่าประวัติวันแห่งความรักว่ามีที่มายังไงแล้วทำไมถึงกลายเป็นวันสำคัญอย่างเช่นทุกวันนี้ได้ ไปดูกันเลย! . แต่เดิมวันที่ 14 กุมภาพันธ์ไม่ได้เป็นที่รู้จักในชื่อวันวาเลนไทน์หรือเทศกาลแห่งความรักอย่างเช่นทุกวันนี้ ในช่วงจักรวรรดิโรมัน วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันหยุดเพื่อให้เกียรติแด่เทพีจูโน ซึ่งถือเป็นราชินีของบรรดาเทพเจ้าโรมัน และชาวโรมยังเชื่อว่าเธอเป็นผู้ปกป้องผู้หญิง ทั้งชีวิตแต่งงาน เวลาคลอดบุตร จึงถือว่าเทพีจูโนเป็นเทพีแห่งผู้หญิงและการแต่งงาน (เทพีจูโน) . ถ้าถามว่าแล้วยุคนั้นมีการเฉลิมฉลองเกี่ยวกับความรักไหม? มีค่ะ ถึงแม้ว่าในสมัยนั้นวิถีชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน แต่ก็ยังมีเทศกาลคล้ายกับวันวาเลนไทน์อย่าง “ลูเพอร์คาร์เลีย” หรือ “ลูเปอร์คาลีอา” เป็นประเพณีเพื่อระลึกถึงโรมิวลุสและเรมุสซึ่งเชื่อกันว่าเป็นฝาแฝดผู้ก่อตั้งกรุงโรม จัดในระหว่างวันที่ 13 – 15 กุมภาพันธ์ แต่เทศกาลวาเลนไทน์เดิมนี้ไม่ได้สวยงามอย่างวาเลนไทน์ในปัจจุบันนะคะเพราะการเฉลิมฉลองในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างโหดร้ายเลยก็ว่าได้ค่ะ เริ่มตั้งแต่การสังเวยแพะ แกะ สุนัข โดยสุนัขต้องเป็นลูกสุนัขตัวเล็กน่ารัก ๆ เท่านั้น วิธีการคือนำสัตว์เหล่านี้เข้าไปในถ้ำก่อนที่จะรุมฆ่ามันอย่างไร้ปราณี ไม่หยุดอยู่เพียงการสังหารสัตว์เท่านั้น หลังจากที่ฆ่าสัตว์แล้ว นักบวชจะนำเลือดจากมีดที่เพิ่งฆ่าสัตว์ไปก่อนหน้านี้มาป้ายลงบนศีรษะของเด็กหนุ่มจากตระกูลผู้ดีสองคน จากนั้นก็นำขนสัตว์มาชุบด้วยน้ำนมเพื่อเช็ดศีรษะอีกครั้งพร้อมบังคับให้เด็กทั้งสองหัวเราะออกมาอย่างสุดเสียงในถ้ำมืด ๆ ก่อนจะให้พวกเขาแก้ผ้าพร้อมมอบอาวุธเป็นแส้หนังแพะ แส้หนังแพะนี้เรียกว่า “Februare” มาจาก “February” หรือเดือนกุมภาพันธ์นั่นเองค่ะ โดยตามความเชื่อของคนในสมัยถือว่ากิจกรรมทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นการชำระจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ หลังจากนั้นจะมีเด็กหนุ่มผู้ดีมากมายพร้อมใจกันแก้ผ้าทาน้ำมันตามตัวถือแส้หนังแพะไว้ในมือ ก่อนกวาดสายตาวิ่งฟาดผู้หญิงที่เข้าร่วมงาน น้อง ๆ อาจจะเอ๊ะขึ้นมาว่าแล้วผู้หญิงไม่ทำอะไรกลับหรอ? ต้องบอกก่อนว่าแม้พวกเธอจะเหมือนวิ่งหนีแต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้หญิงเหล่านั้นต่างยินยอมที่จะถูกตีค่ะ เพราะเชื่อกันว่าหนังสัตว์เหล่านั้นจะทำให้พวกเธอสืบพันธุ์และมีลูกได้ (เด็กหนุ่มเอาแส้แพะไล่ฟาดหญิงสาว) . พิธีกรรมแปลก ๆ ตามมุมมองของคนปัจจุบันอย่างเรายังมีอีกนะคะ แน่นอนว่าเทศกาลแบบนี้ต้องมีอาหารกินเลี้ยงเหมือนประเพณีอื่น ๆ ต่างกันตรงที่ในเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียนี้ นักบวชจะแขวนเครื่องในแพะบนต้นวิลโลว์ หรือ ต้นหลิว (Willow) เพื่อให้คนนำมาทำอาหารพร้อมทั้งทำเค้กเกลือ ที่คล้ายกับแพนเค้กไปย่างเกลือทำให้ออกรสชาติเค็ม ๆ ไหม้ ๆ ทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นเมนูยอดฮิตประจำเทศกาลนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีการแต่งเพลงโดยนำเอาพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของผู้อื่นมาขับร้องเป็นเนื้อเพลงเพราะเชื่อกันว่าความอับอายจะช่วยให้ผู้คนประพฤติตัวดีขึ้น แต่แน่นอนว่ากิจกรรมนี้ดูเหมือนจะให้ผลเสียมากกว่า เป็นเรา เราก็คงไม่พอใจที่คนอื่นเอาเรื่องราวของเรามาป่าวประกาศใช่ไหมคะ อีกหนึ่งกิจกรรมเด่นที่เป็นตัวชูโรงทำให้เทศกาลนี้ถูกมองว่าเป็นวาเลนไทน์เดิมคือวันก่อนงานเทศกาล จะมีการจับสลากของหนุ่มสาวเพื่อจับคู่เที่ยวตลอดงาน เล่ากันว่าฝ่ายหญิงจะเขียนชื่อของตนและใส่ไปในเหยือกหรือโถ ก่อนฝ่ายชายจะเป็นผู้จับฉลากชื่อนั้นขึ้นมา แน่นอนว่างานเทศกาลนี้ทำให้หนุ่มสาวหลายคู่เกิดพบรักกันและสานต่อความสัมพันธ์กัน ภายหลังวิธีการจับสลากแบบนี้ถูกเรียกว่า “สลากรัก” หรือ “สลากลูเปอร์คาลีอา” พูดง่าย ๆ ก็คงคล้ายกับการนัดบอดในยุคนี้แหละค่ะ น้อง ๆ อาจจะกำลังคิดว่ากิจกรรมหลังนี้ดูจะปกติดีใช่ไหมคะ แต่ไม่เลยค่ะ บางแห่งเล่าว่าการเขียนชื่อลงในเหยือกหรือโถนั้นไม่ได้ทำเพื่อให้หนุ่มสาวได้ทดลองใช้เวลาร่วมกันแต่เพื่อมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ไม่มีการเดท ไม่มีการพูดคุย ไม่มีความรักมาเกี่ยวข้อง เป้าหมายมีเพียงการเพศสัมพันธ์และให้ผู้หญิงตั้งครรภ์เท่านั้น ซึ่งหากไม่สำเร็จตามเป้าหมายก็สามารถกลับมาใหม่ได้ในปีถัดไป แต่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าจะต้องคู่กับผู้ชายคนเดิม หรือเริ่มจับสลากกันใหม่ในทุกปีค่ะ . ต่อมาในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ศาสนาคริสต์กลายมาเป็นศาสนาหลักของกรุงโรม สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสเข้ามามีบทบาทและตัดสินว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียและเทศกาลอื่น ๆ เป็นเทศกาลของลัทธินอกรีต อีกทั้งยังผิดศีลธรรม ในราว ค.ศ. 500 ซึ่งจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ก็เห็นดีเห็นงามเนื่องจากเป็นบุคคลที่มีจิตใจดุร้าย ชื่นชอบการทำสงคราม การนองเลือด และมองว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียจะทำให้ผู้ชายไม่อยากเข้าร่วมกองทัพ เพราะไม่อยากจากคนรักหรือครอบครัวไป ทำให้เกิดเป็นคำสั่งห้ามไม่ให้มีการจัดพิธีหมั้นและพิธีแต่งงานกันในโรมอย่างเด็ดขาด สลากที่เคยเป็นสื่อกลางแห่งความรักถูกปรับเปลี่ยนเป็นสลากนักบุญ จากการจับชื่อหญิงสาวในโถกลายเป็นการจับชื่อนักบุญแทน หากชายหนุ่มจับได้ชื่อนักบุญท่านไหนก็ต้องใช้ชีวิต ศึกษา เรียนรู้ตามวิถีชีวิตของนักบุญท่านนั้น (จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2) . มาถึงตรงนี้น้อง ๆ คงจะเริ่มสงสัยกันแล้วว่าตกลงแล้ววันวาเลนไทน์ที่เป็นวันแห่งความรักจะเริ่มต้นที่ตรงไหน? ในระหว่างนี้เองที่มีนักบุญผู้ลือกันว่าหน้าตาหล่อเหลา งดงาม ชื่อว่า “เซนต์วาเลนไทน์” หรือ “วาเลนตินัส” มีความเห็นอกเห็นใจในคู่รัก จึงแอบร่วมมือกับ “เซนต์มาริอัส” จัดพิธีแต่งงานลับ ๆ ให้แก่ชาวคริสต์หลายคู่ ทั้งพิธีจะมีเพียงเจ้าบ่าว เจ้าสาว และบาทหลวงเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง ทหารของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ได้เข้ามาเห็นพิธี ส่งผลให้เซนต์วาเลนไทน์ถูกควบคุมตัวไปลงโทษอย่างสาหัส เหล่าคู่รักที่เคยเข้าร่วมพิธีแต่งงานกับเขาผลัดกันมาเยี่ยมนักบุญท่านนี้อยู่เสมอ และขณะที่เป็นนักโทษ เขาก็ยังคงส่งคำอวยพรออกไปนอกคุกอยู่เสมอ เชื่อกันว่าตอนอยู่ในคุกนั้น เซนต์วาเลนไทน์ได้รับคำขอให้ช่วยรักษาลูกสาวตาบอดของผู้คุมแอสทีเรียสที่ชื่อว่า “จูเลีย” ทั้งสองต่างตกหลุมรักกันระหว่างการรักษา จนกระทั่งจูเลียกลับมามองเห็นได้ปกติ เธอก็มักจะมาเยี่ยมเยียนเซนต์วาเลนไทน์อยู่เสมอ คืนก่อนที่เซนต์วาเลนไทน์จะถูกประหารด้วยการตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลียโดยลงท้ายว่า “From Your Valentine” เป็นอันปิดตำนานของเซนต์วาเลนไทน์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ด้วยวัยเพียง 47 ปี (เซนต์วาเลนไทน์และจูเลีย) . ศพของเซนต์วาเลนไทน์ได้ถูกจัดเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม โดยจูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอนด์สีชมพูไว้ใกล้หลุมศพของเขา โดยเหตุนี้เอง “ดอกอัลมอนด์สีชมพู” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งวันวาเลนไทน์ ความรักนิรันดร์ ไม่ใช่ดอกกุหลาบอย่างที่น้อง ๆ หลายคนเข้าใจกัน แต่ดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพและการแบ่งใจน้ำใจค่ะ (ดอกอัลมอนด์สีชมพู) . แม้เรื่องเล่าความรักของนักบุญวาเลนไทน์ข้างต้นจะเป็นที่โด่งดัง แต่ยังมีหลายแห่งที่มีเรื่องเล่าในรูปแบบที่ต่างกัน เล่ากันว่า “วาเลนตินุส” หรือ “วาเลนไทน์” มี 2 ท่าน คือ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งโรม” และ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งเทอร์นี” ทั้งสองพลีชีพเพื่อศาสนา ก่อนที่เรื่องราวจะถูกแต่งเติมจนกลายเป็นเรื่องราวความรักของนักบุญวาเลนไทน์ โดยคาดเดากันว่าน่าจะถูกแต่งขึ้นในช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 5 – 6 ใช้ชื่อผลงานว่า Passio Marii et Marthae ดังที่พี่ออมได้เล่าให้ฟังไปข้างต้นค่ะ . ด้วยเหตุการณ์นี้ เรื่องราวโรแมนติกอันสงสารของทั้งคู่ทำให้เซนต์วาเลนไทน์กลายเป็นนักบุญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ตั้งแต่เมื่อ ค.ศ. 496 สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสที่ 1 กำหนดให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักและมีการปรับเปลี่ยนชื่อวันแห่งความรักเป็น “วันวาเลนไทน์” ตามชื่อตามชื่อนักบุญค่ะ แต่ก็ถูกตัดออกจากปฏิทินโรมันทั่วไปและให้ไปอยู่ในปฏิทินเฉพาะซึ่งถือเป็นเพียงปฎิทินท้องถิ่นหรือปฎิทินประจำชาติโดยสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 ในปี ค.ศ. 1969 เพราะเห็นว่านอกจากชื่อของเซนต์วาเลนไทน์แล้วก็ไม่มีข้อมูลนอกเหนือจากว่าศพของเขาถูกฝังไว้ที่เวียฟลามิเนียเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ แต่ถึงอย่างนั้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ก็ได้กลายเป็นวันแห่งความรักของสากลอย่างเช่นทุกวันนี้ค่ะ . นอกจากจะเล่าที่มาของวันวาเลนไทน์แล้ว วันนี้พี่ออมก็ยังมีเกร็ดเล็ก ๆ ที่น่าจะพอคลายความสงสัยของน้อง ๆ เกี่ยวกับวาเลนไทนและความรักกันได้ค่ะ . สัญลักษณ์รูปหัวใจมาจากไหน ? ถ้าพูดถึงเรื่องของความรักก็เป็นไปไม่ได้เลยนะคะที่จะไม่พูดถึงรูปร่างหัวใจ แล้วรูปร่างหัวใจนี้มาจากไหนกันล่ะ? น้อง ๆ อาจจะเดากันว่าก็มาจากหัวใจมนุษย์จริง ๆ นี่ คำตอบนี้ก็ถูกต้องค่ะแต่ไม่ใช่เพียงคำตอบเดียวเท่านั้น ที่มาของรูปหัวใจถูกแบ่งออกเป็น 2 ทฤษฎีหลัก ๆ ค่ะ – ทฤษฎีแรกคือรูปร่างหัวใจมาจากอวัยวะ ซึ่งก็คือหัวใจมนุษย์จริง ๆ เริ่มจากนักปราชญ์ของกรีก “อริสโตเติล” (Aristotle) และแพทย์ชาวโรมัน “กาเลน” (Galen) ทั้งสองได้ศึกษาระบบร่างกายมนุษย์และโครงสร้างของของสิ่งมีชีวิตหรือที่เรียกกันว่ากายวิภาคศาสตร์นั้นแหละค่ะ ทั้งสองได้บันทึกและวาดรูปหัวใจของมนุษย์ไว้ (รูปวาดหัวใจของอริสโตเติลและกาเลน) จนในช่วงศตวรรษที่ 14 ชาวยุโรปได้เริ่มศึกษากายวิภาคของมนุษย์ และนำรูปหัวใจที่อริสโตเติลและกาเลนวาดมาอ้างอิง พร้อมทั้งเชื่อว่าหัวใจเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก อารมณ์ และความรัก ทำให้ถูกดัดแปลงกลายมาจากหัวใจของคนสองคนมาประกบกัน จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แต่ก็ยังมีผู้ถกเถียงว่ารูปร่างหัวใจมาจากร่างกายมนุษย์จริง แต่อาจถูกสร้างตามสรีระของร่างกายในส่วนของบั้นท้ายค่ะ – ทฤษฎีที่ 2 นั้นเชื่อกันว่ารูปหัวใจมาจากพืช เป็นพืชโบราณที่ชื่อว่า “ซิลเฟียม” หรือ “ซิลฟีเนียม” (Silphium) เป็นดอกไม้ในตระกูลยี่หร่า โดยผลของดอกมันมีลักษณะคล้ายกับรูปหัวใจในปัจจุบัน แล้วทำไมถึงเลือกเอาผลของพืชชนิดนี้มาเป็นสัญลักษณ์? เพราะว่าในสมัยก่อนซิลเฟียมเติบโตบริเวณชายฝั่งแอฟริกาเหนือใกล้กับคิวเรเนหรือซิเรเน (Cyrene) ซึ่งเป็นเมืองกรีกโบราณโดยพืชชนิดนี้ถูกใช้เป็นเครื่องเทศ และใช้ในการคุมกำเนิดของคนในสมัยนั้นอีกด้วยค่ะ (ผลของดอกซิลเฟียม) แต่ก็มีการเสนอความเห็นกันว่ารูปหัวใจอาจจะมาจากต้นไอวี ในช่วงศตวรรษที่ 4 ใบของมันถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของสถานที่ซื้อขายเพศสัมพันธ์ในเมืองเอฟิซัส (Ephesus) ตั้งอยู่ที่ประเทศตุรกีในปัจจุบัน ด้วยเหตุผลที่ว่าต้นไอวีเป็นสัญลักษณ์ของเทพไดโอนิซัส (Dionysus) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งไวน์ ความอิ่มเอมทั้งกายใจ ต่อมาต้นไอวีจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการมีเพศสัมพันธ์ของคนในสมัยนั้นไปโดยปริยาย ในอีกแง่คือไอวีถือเป็นพืชที่มีความเขียวสดอยู่ตลอดทั้งปีจึงถูกใช้แทนความหมายในเรื่องของความซื่อสัตย์ ความมั่นคงในเรื่องของความรัก จนถูกนำมารวมกับสีแดงซึ่งเป็นสีแห่งความรักจนกลายเป็นรูปหัวใจในที่สุดค่ะ (ใบเถาของต้นไอวี) . เทพเจ้าแห่งความรักมีแต่คิวปิดหรอ? หากพูดถึงเทพเจ้าแห่งความรักแล้ว น้อง ๆ อาจมีภาพเด็กผู้ชายถือธนูอยู่ ในความคิด ความเป็นจริงแล้วยังมีเทพเจ้าอีกหลายองค์ที่ถูกนับว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรักค่ะ – “อโฟรไดท์” (Aphrodite) หรือ “วีนัส” (Venus) เทพีแห่งความรัก ความงาม และเพศสภาพของกรีก อโฟรไดท์มีความสามารถในการสะกดจิต ทำให้ผู้อื่นหลุ่มหลงในความงามของนาง ตามตำนานกรีกแล้วอโฟรไดท์ถือเป็นเทพีที่มีอารมณ์รุนแรงและมีเพศสัมพันธ์กับเทพหลายองค์ แม้กระทั่งกับคนธรรมดา ซึ่งอโฟรไดท์มีศักดิ์เป็นแม่แท้ ๆ ของคิวปิด (อโฟรไดท์หรือวีนัส) – “คิวปิด” (Qupid) หรือ “อีรอส” (Eros) เทพเจ้าแห่งความรัก ความปรารถนาของกรีก แท้จริงแล้วคิวปิดเป็นเทพแห่งความรักแบบกามอารมณ์ ไม่ใช่แบบบริสุทธิ์อย่างที่ทุกคนเข้าใจค่ะ คิวปิดถือเป็นเทพที่รูปร่างหน้าตาดีที่สุด อีกทั้งยังมีความสามารถในการยิงธนูที่สั่งให้ใครรักใครก็ได้ และอีกด้านของธนูสามารถยิงให้คนเกลียดกันได้ คิวปิดตกหลุมรักไซคีตอนที่อโฟรไดท์สั่งเขาไปยิงธนูให้ไซคีไปรักกับผู้ชายไม่ดี เพราะผู้คนหลงในความงามของไซคีจนลืมบูชาเทพแห่งความงามอย่างอโฟรไดท์ คิวปิดตะลึงในความงามของไซคีจนทำธนูทิ่มมือตัวเอง ทำให้ต่อมาทั้งสองได้ครองรักกันภายใต้เงื่อนไขที่ว่าไซคีต้องห้ามแอบมองว่าหน้าตาคิวปิดเป็นอย่างไร แต่ด้วยคำยุยงจากพี่สาวที่อิจฉาชีวิตของไซคีทำให้ไซคีแอบดู เป็นเหตุทำให้คิวปิดจากไปพร้อมบอกว่า “ความรักไม่อาจดำรงอยู่ได้ ถ้าปราศจากความไว้วางใจ” แม้ในท้ายที่สุดทั้งสองจะได้ครองรักกันแต่เรื่องราวของไซคีกับคิวปิดจึงกลายเป็นตัวแทนและคำสอนเกี่ยวกับความรักเรื่องของความเชื่อใจ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน (คิวปิดและไซคี) – แฮธอร์ (Hathor) เทพีแห่งความรัก ความสุข การแต่งงาน การเต้นรำ และความงดงามของอียิปต์ เชื่อกันว่านางเป็นผู้ควบคุมระบบการสืบพันธุ์ของมนุษย์ เป็นผู้ให้เสน่ห์แก่ผู้หญิง และทำให้เกิดอารมณ์ปรารถนา เป็นผู้ควบคุมเพศสัมพันธ์ มีอำนาจทำให้มนุษย์เสื่อมสมรรถภาพหรือหายจากอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ ทำให้เทวสถานของนางส่วนใหญ่เปิดรับคู่รักทุกเพศ ทุกวรรรณะเพราะพระนางชื่นชอบการแต่งงาน และความรักที่สมหวังเป็นอย่างมาก (แฮธอร์) – อินันนา (Inanna) เทพีความรัก ความงาม เพศ สงคราม ความยุติธรรม และอำนาจทางการเมืองของเมโสโปเตเมีย เชื่อกันว่านางมีหน้าที่ให้กำเนิดความรักและความต้องการทางเพศ และถูกมองว่าเป็นเทพีผู้บริสุทธิ์ (อินันนา) – เฟรย่า (Freyja) เทพีแห่งความรัก ความงาม เพศสัมพันธ์ ความอุดมสมบูรณ์ และความตายตามตำราของนอร์ส เล่ากันว่านางเป็นเทพีที่งดงามที่สุดในแอสการ์ด มีทั้งด้านที่อ่อนหวานและดุดัน (เฟรย่า) ยังมีเทพอีกหลายอันที่พี่ออมยังไม่ได้พูดถึงนะคะ แต่น้อง ๆ อาจจะสังเกตได้ว่าเทพแห่งความรักส่วนใหญ่มักเป็นผู้หญิง และมีการผูกเข้ากับเรื่องของอารมณ์ เพศสัมพันธ์และความงามค่ะ . ทำไมต้องให้ดอกกุหลาบในวันวาเลนไทน์? ช่วงวาเลนไทน์เป็นช่วงที่ดอกไม้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โดยเฉพาะกับดอกกุหลาบ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เจอเต็มไปหมด จริง ๆ แล้วนะคะธรรมเนียมการให้ดอกกุหลาบมาจากหลายตำนาน – เรื่องเล่าหลายเรื่องมักมีการเชื่อมโยงระหว่างกุหลาบกับอโฟรไดท์ โดยเป็นเรื่องราวของอโดนิสที่เชื่อกันว่าเป็นคนที่อโฟร์ไดท์รักที่สุดในบรรดาชายที่เธอเคยข้องเกี่ยวมา ยิ่งอโดนิสเป็นชายคนเดียวที่ไม่ตกเป็นทาสความสวยของเธอ ยิ่งทำให้อโฟร์ไดท์หลุ่มหลงชายผู้นี้เป็นอย่างมาก จนเกิดเป็นเรื่องเล่าที่ทำให้กุหลาบกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เช่น หลังจากอโดนิส (Adonis) ถูก “อาเรส” (Ares) คู่รักเก่าของอโรไดท์ในร่างหมูป่าฆ่าเพราะความหึงหวง น้ำตาของเธอไหลลงผสมกับเลือดของเขา หยดลงกลายเป็นดอกกุหลาบสีแดง บ้างก็ว่าอโฟร์ไดท์แทงตัวเองจนเลือดหยดลงสู่พื้นกลายเป็นกุหลาบ บ้างก็ว่านางรับไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียคนรักจึงเสกเลือดของอโดนิสให้กลายเป็นดอกไม้ ทำให้ชื่อแรกสุดของดอกไม้ชนิดนี้คือ “อโดนิส” หรือ “อะเนมโมนิ” (Anemone) (อโฟร์ไดท์กับอโดนิส) – “คลอริส” (Chloris) เทพธิดาแห่งดอกไม้ได้ยกเอาดอกกุหลาบเป็นราชินีของดอกไม้ ซึ่งต่อมาได้มอบกุหลาบให้แก่คิวปิดเทพเจ้าแห่งความรัก ทำให้กุหลาบถูกเชื่อมโยงไปกับเรื่องราวความรักไปในทันที – ในศาสนาคริสต์เชื่อว่าเลือดของพระเยซูในตอนที่ถูกตรึงอยู่บนไม้กางเขนได้หยดลงบนต้นหญ้ามอลส์เกิดเป็นต้นกุหลาบแดง เรียกกันว่ากุหลาบมอลส์ – ในประเทศไทยไม่มีระบุแน่ชัดว่ากุหลาบเข้ามาเป็นที่นิยมตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มีวรรณคดีเรื่อง “มัทนะพาธา” พระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นตำนานของดอกกุหลาบที่เกี่ยวกับข้องกับเรื่องของความงาม ความรัก ในปัจจุบันดอกไม้ที่มอบให้ระหว่างเทศกาลวาเลนไทน์มีความหลากหลายมากขึ้น ถ้าน้อง ๆ ยังสงสัยกันอยู่ทำไมต้องเป็นดอกไม้ จริง ๆ แล้วนะคะ มนุษย์ใช้ดอกไม้เป็นสื่อกลางแสดงความรักมานักต่อนักแล้วค่ะ อาจจะดอกรูปร่าง สีสัน และกลิ่นของมันทำให้เป้นสิ่งของที่ดีในการมอบให้แก่ใครสักคนค่ะ . ช็อกโกแลตกับวาเลนไทน์? นอกจากดอกกุหลาบแล้ว ช็อกโกแลตก็เป็นอีกหนึ่งของแทนใจยอดฮิตที่อาจจะมีน้อง ๆ บางคนลงทุนทำเองกับมือเพื่อมอบให้คนที่รักในวันวาเลนไทน์ใช่ไหมคะ ถ้าถามว่าช็อกโกแลตมีความเกี่ยวข้องยังไงกับเทศกาลแห่งความรักเช่นนี้ ก็คงต้องย้อนกลับในสมัยจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ช่วงที่ความรักของชายหญิงถือเป็นเรื่องต้องห้าม การเจอกันแต่ละครั้งจึงนิยมเอาของมามอบแทนความรัก ใช่แล้วค่ะ ของสิ่งนั้นก็คือช็อกโกแลต เพราะถือเป็นของหายากและมีราคาสูง ทำให้ช็อกโกแลตกลายเป็นของมีค่าที่คู่รักนิยมมอบให้แก่กันเพื่อแสดงความรักที่เต็มหัวใจค่ะ ในขณะเดียวกันก็มีบางคนเชื่อว่า การให้ช็อกโกแลตอาจเป็นเพียงการตลาดที่เกิดจาก Richard Cabury สมัยเพิ่งเข้าสืบทอดกิจการช็อกโกแลต Cabury ของประเทศอังกฤษ และด้วยความไฟแรงต้องการเพิ่มยอดขายของเขาทำให้เกิดการคิดค้นช็อกโกแลตรูปหัวใจ และออกแบบลวดลายบนกล่องให้มีรูปคิวปิดและดอกกุหลาบ แน่นอนว่าเป็นความคิดที่ประสบความสำเร็จและพลิกวงการของช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์มาจนถึงทุกวันนี้ . แหวน เครื่องประดับแทนใจของคู่รัก? ทำไมต้องใส่นิ้วนางข้างซ้าย? เมื่อเข้าร่วมพิธีแต่งงานกันทั้งฝ่ายจำเป็นที่จะสวมแหวนไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย ซึ่งกลายเป็นเครื่องประดับที่เราเห็นเมื่อไรก็ทราบได้ทันทีว่าคน ๆ นี้มีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว แล้วทำไมต้องเป็นแหวนล่ะ? การใส่แหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายมาจากชาวอียิปต์โบราณที่พบว่านิ้วนางข้างซ้ายเป็นนิ้วเดียวที่มีเส้นเลือดใหญ่วิ่งเข้าไปที่หัวใจ ซึ่งเรียกตามภาษาละตินว่า “เส้นเลือดแห่งความรัก” (Vena Amoris) จนกลายมาเป็นวัฒนธรรมที่คู่รักสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายเพราะเป็นตัวเชื่อมจากเส้นเลือดไปถึงหัวใจของทั้งสอง แต่ในสำหรับข้อเท็จจริงนะคะ ได้มีการพิสูจน์ในภายหลังว่าแต่ละนิ้วมีระบบเลือดไหลเวียนที่เหมือนกัน ทำให้นิ้วนางข้างขวามีการไหลเวียนของเลือดไม่ต่างจากนิ้วนางข้างซ้ายค่ะ . คำว่าแฟนมาจากไหน? แล้วก่อนหน้านี้ใช้คำว่าอะไร? คำว่า “แฟน” ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 (ออนไลน์) เป็นภาษาปาก หมายถึง ผู้นิยมชมชอบ เช่น แฟนเพลง แฟนภาพยนตร์ แฟนมวย, ผู้เป็นที่ชอบพอรักใคร่, คู่รัก, สามีหรือภรรยา. ซึ่งคำนี้มีที่มาจากคำในภาษาอังกฤษคือว่า “Fan” ย่อมาจาก “Fanatic” คลั่งไคล้ หลุ่มหลงในสิ่งใดมาก ๆ ถ้าเอาในยุคนี้ก็คงเหมือนกับคำว่า “คลั่งรัก” นั้นแหละค่ะ แล้วก่อนหน้าที่จะมีคำว่าแฟนล่ะ คนไทยใช้คำว่าอะไร? คนไทยใช้คำว่า “ชิ้น” แทนคู่รักในหน้าที่เดียวกับคำว่าแฟนเลยค่ะ ก่อนที่หลังสมัย พ.ศ. 2490 คนไทยจะเปลี่ยนมาใช้คำว่าแฟนตามปัจจุบันอ้างจากหนังสือมหาเหตุประเทศสยาม เล่ม 1 ของเอนก นาวิกมูลที่เขียนในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งอธิบายไว้ “แฟน” ไว้ว่าเป็นคำที่คนไทยในสมัยนั้นใช้กันอย่างแพร่หลาย ฟุ่มเฟื่อย . วันวาเลนไทน์เข้ามาในไทยเมื่อไหร่? วันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรักซึ่งมาจากวัฒนธรรมของต่างประเทศ ซึ่งเข้ามามีบทบาทในไทยในสมัยสงครามเวียดนาม ราวปี พ.ศ. 2508 – 2509 สหรัฐอเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพในเมืองไทยหลายแห่ง เช่น อุดรธานี มีผู้หญิงหลายคนในบริเวณฐานทัพรับเอาวันวาเลนไทน์นี้เข้ามา จนกระทั่งห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เป็นผู้ริเริ่มการจัดประเพณีวาเลนไทน์ในห้าง บ้างก็ว่ามาจากพนักงานที่ไปเรียนต่างประเทศมา บ้างก็ว่าเป็นลูกหลานของเจ้าของห้างแห่งนั้น ทำให้หลังจาก พ.ศ. 2510 ห้างสรรพสินค้าเกือบทุกแห่งนับเอาเทศกาลวันวาเลนไทน์มาเป็นอีกหนึ่งอีเวนต์หลักของทุกปีเลยก็ว่าได้ค่ะ . วันแห่งความรักของไทย ถึงแม้ว่าวันวาเลนไทน์จะเป็นวันแห่งความรักที่รู้จักกันเป็นสากล และได้รับความนิยมในทุกหนแห่งไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย แต่ประเทศไทยก็มีวันแห่งความรักเช่นกันค่ะ แต่อิงตามศาสนาพุทธนั้นก็คือ “วันมาฆบูชา” ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 โดยอ้างจากเหตุการณ์โอวาทปาฎิโมกข์ซึ่งถือเป็นวันแสดงความรักของพระพุทธเจ้าโดยการเทศนา เป็นความรักในแบบของการเมตตา และปรารถนาดีต่อผู้อื่นค่ะ . จบกันไปแล้วนะคะสำหรับเรื่องราวของวันแห่งความรักแบบนี้ ไม่ว่าจะความรักแบบไหนก็สวยงามไม่แพ้กันนะคะ แต่อีกหนึ่งคนสำคัญที่พี่ออมอยากให้น้อง ๆ รักก็คือตัวน้อง ๆ เองค่ะ อย่ามองข้ามการรักตัวเองค่ะ ความรักในรูปแบบนี้นับว่าเป็นความรักที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะการรักตัวเองจะทำให้น้อง ๆ มีความสุขกับชีวิตในแต่ละวัน และไม่ว่าน้อง ๆ จะรักใคร สิ่งที่สำคัญก็อย่ารักจนไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น หรือทำให้ผู้ใดเป็นทุกข์ แม้กระทั่งตัวเราเองนะคะ 🙂 EZ Webmaster Related Posts มทร.ธัญบุรี โชว์ผลงานเด่น คว้า 12 รางวัลเวทีนวัตกรรมระดับนานาชาติ เซี่ยงไฮ้ 2025 มธ. ปักหมุดหลักสูตร ‘AI Ethics’ หนุนบริบทใหม่ของห้องเรียนทันโลก สร้างจุดยืนคนรุ่นใหม่ ‘ใช้เอไออย่างมีจริยธรรม’ พร้อมเดินหน้าวางหมุดหมายระบบการศึกษาไทย กับการปลุกการใช้เทคฯ คู่ธรรมาภิบาล คาดเริ่มเปิดลงทะเบียนพร้อมเรียนจริง สิงหาคม 68 นี้ สสวท. เชิญใช้ฟรี “คลังคำศัพท์” รับเปิดเทอมใหม่ มัดรวมศัพท์ในหนังสือเรียนวิชาที่ สสวท. พัฒนา สจล. เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน 11 สาเหตุลึกซึ้ง ทำไมการศึกษาไทยยังตกต่ำ? เสียงสะท้อนจากครูชนบท สู่คำถามใหญ่ของสังคม Post navigation PREVIOUS Previous post: กมธ. อุดมศึกษาฯ วุฒิสภา ดูงานและติดตามความคืบหน้าชุดโครงการวิจัยการพัฒนาต้นแบบการจัดการเกษตรผสมผสาน และการจัดการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนวัตวิถีเชิงสร้างสรรค์ จังหวัดแพร่NEXT Next post: มหาวิทยาลัยนเรศวร ประกาศรับ #TCAS66 รอบ 2 #QUOTA แพทยศาสตรบัณฑิต #ผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
ว.วิศวกรรมสังคีต สจล. ร่วมมือ บริษัท Sonos Libra ส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ สร้างเสริมประสบการณ์ให้นักศึกษา EZ WebmasterJune 18, 2025 วิทยาลัยวิศวกรรมสังคีต สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิทักษ์ ธรรมวาริน (คนที่ 4 จากซ้าย) คณบดีวิทยาลัยวิศวกรรมสังคีต สจล. และ Mr. Alfonso Martin (คนที่ 3… คณะมนุษยศาสตร์ ม.หอการค้าไทย จัดหลักสูตรรุกหน้าการันตี “เรียนภาษาให้ได้ดี มีรายได้หลักแสน!!” EZ WebmasterJune 18, 2025 “ภาษา” มิใช่เพียงเครื่องมือสื่อสารแต่เป็นกุญแจสำคัญในการเรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรม การคิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์นวัตกรรม ผู้ที่มีทักษะด้านภาษาที่แข็งแกร่งจะสามารถเป็นข้อได้เปรียบหรือประสบความสำเร็จได้ในโลกที่เปลี่ยนแปลงและผู้คนทั่วโลกเชื่อมโยงสื่อสารถึงกันได้ในพริบตาแม้จะต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม การเรียนรู้ฝึกฝนมีทักษะภาษาจึงมิใช่แค่รู้หรือพูดภาษานานาชาติได้เท่านั้น แต่การเรียนภาษาให้มีรายได้ดี มีอาชีพมั่นคง เป็นมนุษย์เงินเดือนอิสระ ถึงขั้นการันตีได้ว่า “เรียนภาษาให้ได้ดี มีรายได้หลักแสน !!! นั้นก็เป็นสิ่งเพิ่มมูลค่าและมีคุณค่าอย่างน่าภูมิใจ เฉกเช่นที่ล่าสุด Miss World…
คณะมนุษยศาสตร์ ม.หอการค้าไทย จัดหลักสูตรรุกหน้าการันตี “เรียนภาษาให้ได้ดี มีรายได้หลักแสน!!” EZ WebmasterJune 18, 2025 “ภาษา” มิใช่เพียงเครื่องมือสื่อสารแต่เป็นกุญแจสำคัญในการเรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรม การคิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์นวัตกรรม ผู้ที่มีทักษะด้านภาษาที่แข็งแกร่งจะสามารถเป็นข้อได้เปรียบหรือประสบความสำเร็จได้ในโลกที่เปลี่ยนแปลงและผู้คนทั่วโลกเชื่อมโยงสื่อสารถึงกันได้ในพริบตาแม้จะต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม การเรียนรู้ฝึกฝนมีทักษะภาษาจึงมิใช่แค่รู้หรือพูดภาษานานาชาติได้เท่านั้น แต่การเรียนภาษาให้มีรายได้ดี มีอาชีพมั่นคง เป็นมนุษย์เงินเดือนอิสระ ถึงขั้นการันตีได้ว่า “เรียนภาษาให้ได้ดี มีรายได้หลักแสน !!! นั้นก็เป็นสิ่งเพิ่มมูลค่าและมีคุณค่าอย่างน่าภูมิใจ เฉกเช่นที่ล่าสุด Miss World…
Kazan Global Youth Summit InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 19, 2025 เชิญเยาวชนสมัครคัดเลือกเข้าร่วมการประชุม Kazan Global Youth Summit ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 27 – 30 สิงหาคม 2568 ณ เมืองคาซาน สาธารณรัฐตาตาร์สตาน สหพันธรัฐรัสเซีย จัดโดยรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐตาตาร์สตาน… SEAMEO-Japan ESD Award InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 18, 2025 เชิญสถานศึกษาเข้าร่วมประกวดในหัวข้อ “Fostering Schools and Surrounding Communities’ Resilience through the Revitalisation of Local Wisdom in Disaster Risk Reduction” ชิงรางวัล SEAMEO-Japan ESD Award ประจำปี 2568 … ทุนMaster of Education InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 17, 2025 International Welcome Scholarships in Master of Education หรือทุนเรียนปริญญาโททางด้านการศึกษา สำหรับผู้เรียนจากนานาชาติ โดย Murdoch University ประเทศออสเตรเลีย ทุนมีมูลค่าเป็นส่วนลดค่าเรียน 25% เปิดรับใบสมัครถึง 30 สิงหาคม… 8 ทุนป.ตรีรัฐบาลคูเวต InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 15, 2025 ทุนการศึกษารัฐบาลรัฐคูเวต สำหรับนักเรียนไทยเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ณ มหาวิทยาลัคูเวต (Kuwait University) ประจำปีการศึกษา ค.ศ. 2025–2026 จำนวน 8 ทุน เปิดรับใบสมัครถึง 18 มิถุนายน 2025 โดยในจำนวนทุนที่ให้เป็นในคณะวิศวกรรมศาสตร์และปิโตรเลียม จำนวน 6 ทุน และคณะศิลปะศาสตร์(คณะชารีอะห์และอิสลามศึกษา/คณะครุศาสตร์ / สังคมศาสตร์ / อักษรศาสตร์)… ครู-อาจารย์ มทร.ธัญบุรี โชว์ผลงานเด่น คว้า 12 รางวัลเวทีนวัตกรรมระดับนานาชาติ เซี่ยงไฮ้ 2025 tui sakrapeeJune 19, 2025 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) สร้างชื่อระดับโลก เวที “The 8th China (Shanghai) International Invention & Innovation Expo 2025” คว้ารางวัลรวม 12 รายการ ตอกย้ำศักยภาพ… สจล. เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน EZ WebmasterJune 19, 2025 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ทางวิชาการกับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีความร่วมมือกันมานานกว่า 20 ปี เพื่อหารือขยายความร่วมมือเชิงลึกในสาขาวิศวกรรมขั้นสูง โดยเฉพาะด้าน Aerospace, Mechatronics, Automation และ Astronautics ซึ่ง HIT ถือเป็นสถาบันชั้นนำของจีนในด้านนี้ พร้อมทั้งหารือแนวทางความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนนักศึกษา นักวิจัย และการพัฒนาโครงการ Joint Degree ในอนาคต รองศาสตราจารย์… อธิการบดีนำทีมกรรมการส่งเสริมฯ สวนสุนันทา เยี่ยมชมโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำ เมืองชิงเต่า สาธารณรัฐประชาชนจีน มุ่งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้สู่มาตรฐานโลก tui sakrapeeJune 18, 2025 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา นำโดย รศ.ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ อธิการบดี พร้อมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย เดินทางเยือนโรงเรียนนานาชาติ Qingdao No.1 International School of Shandong Province (QISS) และ Qingdao University… กองกลาง มจพ. เยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ และจัดสัมมนาจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรรายบุคคล ประจำปี 2568 EZ WebmasterJune 18, 2025 ผศ.ดร.สราวุฒิ สืบแย้ม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการคลังและกิจการทั่วไป มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วยนางสาวรัตนา สุขเฉลิมศรี ผู้อำนวยการกองกลาง และบุคลากรกองกลาง เข้าเยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ มจพ. ณ ชั้น 3 สำนักงานหอสมุดกลาง โดยมีนางสาวพนารมย์ เกียรติลีลานันท์ และ… กิจกรรม กองอาคาร มจพ. จับมือสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพฯ อบรมการจัดการคัดแยกขยะมูลฝอยภายในหน่วยงาน EZ WebmasterJune 18, 2025 ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ นายกสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วยศ.ดร.ธานินทร์ ศิลป์จารุ อธิการบดี ร่วมพิธีโครงการอบรม เรื่อง การคัดแยกขยะมูลฝอยภายในหน่วยงาน โดยมี รศ.ดร.ณัฐพงศ์ มกระธัช รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนากิจการมหาวิทยาลัยเพื่อความยั่งยืน กล่าวเปิดการอบรม รศ.ดร.ศักดา กตเวทวารักษ์… “40 ปี เภสัชศิลปากร” หลากวงการ ร่วมแสดงความยินดี สู่บทบาทผู้นำด้านวิชาชีพเภสัชกรรม วิจัยนวัตกรรม และการสร้างสุขภาพอย่างยั่งยืน EZ WebmasterJune 13, 2025 วันที่ 6 มิถุนายน 2568 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งการสถาปนาอย่างสมเกียรติ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม ภายใต้ชื่องาน “Celebrating the 40th Anniversary:… ดีพร้อม ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้ายกระดับร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย หวังสร้างรายได้ชุมชนสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก EZ WebmasterJune 13, 2025 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้า “โครงการพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย (Local Chef Restaurant) ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก” ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” มุ่งหวังยกระดับร้านอาหารท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ โดดเด่น และสามารถแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ และการสร้างให้เกิดเครือข่ายเชฟชุมชนที่เข้มแข็ง และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น… ถอดแนวคิดความมั่นคงชายแดนจากมุมมอง นักศึกษา “วปอ.บอ.” 4 ด้าน สังคม-เศรษฐกิจ-การเมือง-การทหาร ร่วมสะท้อนเส้นแบ่งแห่งโอกาสและอนาคตร่วมกัน EZ WebmasterJune 10, 2025 ชายแดนไทย-เมียนมา ที่ทอดยาวกว่า 2,400 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของไทย ตั้งแต่เชียงรายไปจนถึงและระนอง ไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นแบ่งระหว่างรัฐ แต่คือเส้นเขตแดนที่เชื่อมโยงผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ วัฒนธรรม เครือข่ายเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาอย่างยาวนาน แต่ภายหลังสถานการณ์การเมืองในเมียนมาตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา พื้นที่ที่เคยเต็มไปด้วยโอกาสนี้ กลับกลายเป็นความท้าทายที่ส่งผลกระทบบางประเด็นมาถึงประเทศไทย ดังนั้น การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนจึงไม่ใช่เพียงแค่ภารกิจของกองทัพในเรื่องการปกป้องพรมแดนเท่านั้น แต่เป็นโจทย์เชิงยุทธศาสตร์ที่ต้องผสมผสานความเข้าใจในพื้นที่ สังคม วัฒนธรรม ผู้คน เศรษฐกิจ… Search for: Search EZ Webmaster February 13, 2023 EZ Webmaster February 13, 2023 กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! เทศกาลแห่งความรักวนกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็ต้องเคยมีความรักกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ ความรักที่พี่ออมพูดถึงนั้นไม่ได้หมายถึงแค่ในรูปแบบคนรักเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความรักแบบครอบครัว แบบเพื่อน หรือแบบอื่น ๆ วันนี้นะคะพี่ออมจะมาเล่าประวัติวันแห่งความรักว่ามีที่มายังไงแล้วทำไมถึงกลายเป็นวันสำคัญอย่างเช่นทุกวันนี้ได้ ไปดูกันเลย! . แต่เดิมวันที่ 14 กุมภาพันธ์ไม่ได้เป็นที่รู้จักในชื่อวันวาเลนไทน์หรือเทศกาลแห่งความรักอย่างเช่นทุกวันนี้ ในช่วงจักรวรรดิโรมัน วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันหยุดเพื่อให้เกียรติแด่เทพีจูโน ซึ่งถือเป็นราชินีของบรรดาเทพเจ้าโรมัน และชาวโรมยังเชื่อว่าเธอเป็นผู้ปกป้องผู้หญิง ทั้งชีวิตแต่งงาน เวลาคลอดบุตร จึงถือว่าเทพีจูโนเป็นเทพีแห่งผู้หญิงและการแต่งงาน (เทพีจูโน) . ถ้าถามว่าแล้วยุคนั้นมีการเฉลิมฉลองเกี่ยวกับความรักไหม? มีค่ะ ถึงแม้ว่าในสมัยนั้นวิถีชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน แต่ก็ยังมีเทศกาลคล้ายกับวันวาเลนไทน์อย่าง “ลูเพอร์คาร์เลีย” หรือ “ลูเปอร์คาลีอา” เป็นประเพณีเพื่อระลึกถึงโรมิวลุสและเรมุสซึ่งเชื่อกันว่าเป็นฝาแฝดผู้ก่อตั้งกรุงโรม จัดในระหว่างวันที่ 13 – 15 กุมภาพันธ์ แต่เทศกาลวาเลนไทน์เดิมนี้ไม่ได้สวยงามอย่างวาเลนไทน์ในปัจจุบันนะคะเพราะการเฉลิมฉลองในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างโหดร้ายเลยก็ว่าได้ค่ะ เริ่มตั้งแต่การสังเวยแพะ แกะ สุนัข โดยสุนัขต้องเป็นลูกสุนัขตัวเล็กน่ารัก ๆ เท่านั้น วิธีการคือนำสัตว์เหล่านี้เข้าไปในถ้ำก่อนที่จะรุมฆ่ามันอย่างไร้ปราณี ไม่หยุดอยู่เพียงการสังหารสัตว์เท่านั้น หลังจากที่ฆ่าสัตว์แล้ว นักบวชจะนำเลือดจากมีดที่เพิ่งฆ่าสัตว์ไปก่อนหน้านี้มาป้ายลงบนศีรษะของเด็กหนุ่มจากตระกูลผู้ดีสองคน จากนั้นก็นำขนสัตว์มาชุบด้วยน้ำนมเพื่อเช็ดศีรษะอีกครั้งพร้อมบังคับให้เด็กทั้งสองหัวเราะออกมาอย่างสุดเสียงในถ้ำมืด ๆ ก่อนจะให้พวกเขาแก้ผ้าพร้อมมอบอาวุธเป็นแส้หนังแพะ แส้หนังแพะนี้เรียกว่า “Februare” มาจาก “February” หรือเดือนกุมภาพันธ์นั่นเองค่ะ โดยตามความเชื่อของคนในสมัยถือว่ากิจกรรมทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นการชำระจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ หลังจากนั้นจะมีเด็กหนุ่มผู้ดีมากมายพร้อมใจกันแก้ผ้าทาน้ำมันตามตัวถือแส้หนังแพะไว้ในมือ ก่อนกวาดสายตาวิ่งฟาดผู้หญิงที่เข้าร่วมงาน น้อง ๆ อาจจะเอ๊ะขึ้นมาว่าแล้วผู้หญิงไม่ทำอะไรกลับหรอ? ต้องบอกก่อนว่าแม้พวกเธอจะเหมือนวิ่งหนีแต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้หญิงเหล่านั้นต่างยินยอมที่จะถูกตีค่ะ เพราะเชื่อกันว่าหนังสัตว์เหล่านั้นจะทำให้พวกเธอสืบพันธุ์และมีลูกได้ (เด็กหนุ่มเอาแส้แพะไล่ฟาดหญิงสาว) . พิธีกรรมแปลก ๆ ตามมุมมองของคนปัจจุบันอย่างเรายังมีอีกนะคะ แน่นอนว่าเทศกาลแบบนี้ต้องมีอาหารกินเลี้ยงเหมือนประเพณีอื่น ๆ ต่างกันตรงที่ในเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียนี้ นักบวชจะแขวนเครื่องในแพะบนต้นวิลโลว์ หรือ ต้นหลิว (Willow) เพื่อให้คนนำมาทำอาหารพร้อมทั้งทำเค้กเกลือ ที่คล้ายกับแพนเค้กไปย่างเกลือทำให้ออกรสชาติเค็ม ๆ ไหม้ ๆ ทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นเมนูยอดฮิตประจำเทศกาลนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีการแต่งเพลงโดยนำเอาพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของผู้อื่นมาขับร้องเป็นเนื้อเพลงเพราะเชื่อกันว่าความอับอายจะช่วยให้ผู้คนประพฤติตัวดีขึ้น แต่แน่นอนว่ากิจกรรมนี้ดูเหมือนจะให้ผลเสียมากกว่า เป็นเรา เราก็คงไม่พอใจที่คนอื่นเอาเรื่องราวของเรามาป่าวประกาศใช่ไหมคะ อีกหนึ่งกิจกรรมเด่นที่เป็นตัวชูโรงทำให้เทศกาลนี้ถูกมองว่าเป็นวาเลนไทน์เดิมคือวันก่อนงานเทศกาล จะมีการจับสลากของหนุ่มสาวเพื่อจับคู่เที่ยวตลอดงาน เล่ากันว่าฝ่ายหญิงจะเขียนชื่อของตนและใส่ไปในเหยือกหรือโถ ก่อนฝ่ายชายจะเป็นผู้จับฉลากชื่อนั้นขึ้นมา แน่นอนว่างานเทศกาลนี้ทำให้หนุ่มสาวหลายคู่เกิดพบรักกันและสานต่อความสัมพันธ์กัน ภายหลังวิธีการจับสลากแบบนี้ถูกเรียกว่า “สลากรัก” หรือ “สลากลูเปอร์คาลีอา” พูดง่าย ๆ ก็คงคล้ายกับการนัดบอดในยุคนี้แหละค่ะ น้อง ๆ อาจจะกำลังคิดว่ากิจกรรมหลังนี้ดูจะปกติดีใช่ไหมคะ แต่ไม่เลยค่ะ บางแห่งเล่าว่าการเขียนชื่อลงในเหยือกหรือโถนั้นไม่ได้ทำเพื่อให้หนุ่มสาวได้ทดลองใช้เวลาร่วมกันแต่เพื่อมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ไม่มีการเดท ไม่มีการพูดคุย ไม่มีความรักมาเกี่ยวข้อง เป้าหมายมีเพียงการเพศสัมพันธ์และให้ผู้หญิงตั้งครรภ์เท่านั้น ซึ่งหากไม่สำเร็จตามเป้าหมายก็สามารถกลับมาใหม่ได้ในปีถัดไป แต่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าจะต้องคู่กับผู้ชายคนเดิม หรือเริ่มจับสลากกันใหม่ในทุกปีค่ะ . ต่อมาในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ศาสนาคริสต์กลายมาเป็นศาสนาหลักของกรุงโรม สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสเข้ามามีบทบาทและตัดสินว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียและเทศกาลอื่น ๆ เป็นเทศกาลของลัทธินอกรีต อีกทั้งยังผิดศีลธรรม ในราว ค.ศ. 500 ซึ่งจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ก็เห็นดีเห็นงามเนื่องจากเป็นบุคคลที่มีจิตใจดุร้าย ชื่นชอบการทำสงคราม การนองเลือด และมองว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียจะทำให้ผู้ชายไม่อยากเข้าร่วมกองทัพ เพราะไม่อยากจากคนรักหรือครอบครัวไป ทำให้เกิดเป็นคำสั่งห้ามไม่ให้มีการจัดพิธีหมั้นและพิธีแต่งงานกันในโรมอย่างเด็ดขาด สลากที่เคยเป็นสื่อกลางแห่งความรักถูกปรับเปลี่ยนเป็นสลากนักบุญ จากการจับชื่อหญิงสาวในโถกลายเป็นการจับชื่อนักบุญแทน หากชายหนุ่มจับได้ชื่อนักบุญท่านไหนก็ต้องใช้ชีวิต ศึกษา เรียนรู้ตามวิถีชีวิตของนักบุญท่านนั้น (จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2) . มาถึงตรงนี้น้อง ๆ คงจะเริ่มสงสัยกันแล้วว่าตกลงแล้ววันวาเลนไทน์ที่เป็นวันแห่งความรักจะเริ่มต้นที่ตรงไหน? ในระหว่างนี้เองที่มีนักบุญผู้ลือกันว่าหน้าตาหล่อเหลา งดงาม ชื่อว่า “เซนต์วาเลนไทน์” หรือ “วาเลนตินัส” มีความเห็นอกเห็นใจในคู่รัก จึงแอบร่วมมือกับ “เซนต์มาริอัส” จัดพิธีแต่งงานลับ ๆ ให้แก่ชาวคริสต์หลายคู่ ทั้งพิธีจะมีเพียงเจ้าบ่าว เจ้าสาว และบาทหลวงเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง ทหารของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ได้เข้ามาเห็นพิธี ส่งผลให้เซนต์วาเลนไทน์ถูกควบคุมตัวไปลงโทษอย่างสาหัส เหล่าคู่รักที่เคยเข้าร่วมพิธีแต่งงานกับเขาผลัดกันมาเยี่ยมนักบุญท่านนี้อยู่เสมอ และขณะที่เป็นนักโทษ เขาก็ยังคงส่งคำอวยพรออกไปนอกคุกอยู่เสมอ เชื่อกันว่าตอนอยู่ในคุกนั้น เซนต์วาเลนไทน์ได้รับคำขอให้ช่วยรักษาลูกสาวตาบอดของผู้คุมแอสทีเรียสที่ชื่อว่า “จูเลีย” ทั้งสองต่างตกหลุมรักกันระหว่างการรักษา จนกระทั่งจูเลียกลับมามองเห็นได้ปกติ เธอก็มักจะมาเยี่ยมเยียนเซนต์วาเลนไทน์อยู่เสมอ คืนก่อนที่เซนต์วาเลนไทน์จะถูกประหารด้วยการตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลียโดยลงท้ายว่า “From Your Valentine” เป็นอันปิดตำนานของเซนต์วาเลนไทน์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ด้วยวัยเพียง 47 ปี (เซนต์วาเลนไทน์และจูเลีย) . ศพของเซนต์วาเลนไทน์ได้ถูกจัดเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม โดยจูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอนด์สีชมพูไว้ใกล้หลุมศพของเขา โดยเหตุนี้เอง “ดอกอัลมอนด์สีชมพู” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งวันวาเลนไทน์ ความรักนิรันดร์ ไม่ใช่ดอกกุหลาบอย่างที่น้อง ๆ หลายคนเข้าใจกัน แต่ดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพและการแบ่งใจน้ำใจค่ะ (ดอกอัลมอนด์สีชมพู) . แม้เรื่องเล่าความรักของนักบุญวาเลนไทน์ข้างต้นจะเป็นที่โด่งดัง แต่ยังมีหลายแห่งที่มีเรื่องเล่าในรูปแบบที่ต่างกัน เล่ากันว่า “วาเลนตินุส” หรือ “วาเลนไทน์” มี 2 ท่าน คือ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งโรม” และ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งเทอร์นี” ทั้งสองพลีชีพเพื่อศาสนา ก่อนที่เรื่องราวจะถูกแต่งเติมจนกลายเป็นเรื่องราวความรักของนักบุญวาเลนไทน์ โดยคาดเดากันว่าน่าจะถูกแต่งขึ้นในช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 5 – 6 ใช้ชื่อผลงานว่า Passio Marii et Marthae ดังที่พี่ออมได้เล่าให้ฟังไปข้างต้นค่ะ . ด้วยเหตุการณ์นี้ เรื่องราวโรแมนติกอันสงสารของทั้งคู่ทำให้เซนต์วาเลนไทน์กลายเป็นนักบุญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ตั้งแต่เมื่อ ค.ศ. 496 สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสที่ 1 กำหนดให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักและมีการปรับเปลี่ยนชื่อวันแห่งความรักเป็น “วันวาเลนไทน์” ตามชื่อตามชื่อนักบุญค่ะ แต่ก็ถูกตัดออกจากปฏิทินโรมันทั่วไปและให้ไปอยู่ในปฏิทินเฉพาะซึ่งถือเป็นเพียงปฎิทินท้องถิ่นหรือปฎิทินประจำชาติโดยสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 ในปี ค.ศ. 1969 เพราะเห็นว่านอกจากชื่อของเซนต์วาเลนไทน์แล้วก็ไม่มีข้อมูลนอกเหนือจากว่าศพของเขาถูกฝังไว้ที่เวียฟลามิเนียเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ แต่ถึงอย่างนั้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ก็ได้กลายเป็นวันแห่งความรักของสากลอย่างเช่นทุกวันนี้ค่ะ . นอกจากจะเล่าที่มาของวันวาเลนไทน์แล้ว วันนี้พี่ออมก็ยังมีเกร็ดเล็ก ๆ ที่น่าจะพอคลายความสงสัยของน้อง ๆ เกี่ยวกับวาเลนไทนและความรักกันได้ค่ะ . สัญลักษณ์รูปหัวใจมาจากไหน ? ถ้าพูดถึงเรื่องของความรักก็เป็นไปไม่ได้เลยนะคะที่จะไม่พูดถึงรูปร่างหัวใจ แล้วรูปร่างหัวใจนี้มาจากไหนกันล่ะ? น้อง ๆ อาจจะเดากันว่าก็มาจากหัวใจมนุษย์จริง ๆ นี่ คำตอบนี้ก็ถูกต้องค่ะแต่ไม่ใช่เพียงคำตอบเดียวเท่านั้น ที่มาของรูปหัวใจถูกแบ่งออกเป็น 2 ทฤษฎีหลัก ๆ ค่ะ – ทฤษฎีแรกคือรูปร่างหัวใจมาจากอวัยวะ ซึ่งก็คือหัวใจมนุษย์จริง ๆ เริ่มจากนักปราชญ์ของกรีก “อริสโตเติล” (Aristotle) และแพทย์ชาวโรมัน “กาเลน” (Galen) ทั้งสองได้ศึกษาระบบร่างกายมนุษย์และโครงสร้างของของสิ่งมีชีวิตหรือที่เรียกกันว่ากายวิภาคศาสตร์นั้นแหละค่ะ ทั้งสองได้บันทึกและวาดรูปหัวใจของมนุษย์ไว้ (รูปวาดหัวใจของอริสโตเติลและกาเลน) จนในช่วงศตวรรษที่ 14 ชาวยุโรปได้เริ่มศึกษากายวิภาคของมนุษย์ และนำรูปหัวใจที่อริสโตเติลและกาเลนวาดมาอ้างอิง พร้อมทั้งเชื่อว่าหัวใจเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก อารมณ์ และความรัก ทำให้ถูกดัดแปลงกลายมาจากหัวใจของคนสองคนมาประกบกัน จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แต่ก็ยังมีผู้ถกเถียงว่ารูปร่างหัวใจมาจากร่างกายมนุษย์จริง แต่อาจถูกสร้างตามสรีระของร่างกายในส่วนของบั้นท้ายค่ะ – ทฤษฎีที่ 2 นั้นเชื่อกันว่ารูปหัวใจมาจากพืช เป็นพืชโบราณที่ชื่อว่า “ซิลเฟียม” หรือ “ซิลฟีเนียม” (Silphium) เป็นดอกไม้ในตระกูลยี่หร่า โดยผลของดอกมันมีลักษณะคล้ายกับรูปหัวใจในปัจจุบัน แล้วทำไมถึงเลือกเอาผลของพืชชนิดนี้มาเป็นสัญลักษณ์? เพราะว่าในสมัยก่อนซิลเฟียมเติบโตบริเวณชายฝั่งแอฟริกาเหนือใกล้กับคิวเรเนหรือซิเรเน (Cyrene) ซึ่งเป็นเมืองกรีกโบราณโดยพืชชนิดนี้ถูกใช้เป็นเครื่องเทศ และใช้ในการคุมกำเนิดของคนในสมัยนั้นอีกด้วยค่ะ (ผลของดอกซิลเฟียม) แต่ก็มีการเสนอความเห็นกันว่ารูปหัวใจอาจจะมาจากต้นไอวี ในช่วงศตวรรษที่ 4 ใบของมันถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของสถานที่ซื้อขายเพศสัมพันธ์ในเมืองเอฟิซัส (Ephesus) ตั้งอยู่ที่ประเทศตุรกีในปัจจุบัน ด้วยเหตุผลที่ว่าต้นไอวีเป็นสัญลักษณ์ของเทพไดโอนิซัส (Dionysus) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งไวน์ ความอิ่มเอมทั้งกายใจ ต่อมาต้นไอวีจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการมีเพศสัมพันธ์ของคนในสมัยนั้นไปโดยปริยาย ในอีกแง่คือไอวีถือเป็นพืชที่มีความเขียวสดอยู่ตลอดทั้งปีจึงถูกใช้แทนความหมายในเรื่องของความซื่อสัตย์ ความมั่นคงในเรื่องของความรัก จนถูกนำมารวมกับสีแดงซึ่งเป็นสีแห่งความรักจนกลายเป็นรูปหัวใจในที่สุดค่ะ (ใบเถาของต้นไอวี) . เทพเจ้าแห่งความรักมีแต่คิวปิดหรอ? หากพูดถึงเทพเจ้าแห่งความรักแล้ว น้อง ๆ อาจมีภาพเด็กผู้ชายถือธนูอยู่ ในความคิด ความเป็นจริงแล้วยังมีเทพเจ้าอีกหลายองค์ที่ถูกนับว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรักค่ะ – “อโฟรไดท์” (Aphrodite) หรือ “วีนัส” (Venus) เทพีแห่งความรัก ความงาม และเพศสภาพของกรีก อโฟรไดท์มีความสามารถในการสะกดจิต ทำให้ผู้อื่นหลุ่มหลงในความงามของนาง ตามตำนานกรีกแล้วอโฟรไดท์ถือเป็นเทพีที่มีอารมณ์รุนแรงและมีเพศสัมพันธ์กับเทพหลายองค์ แม้กระทั่งกับคนธรรมดา ซึ่งอโฟรไดท์มีศักดิ์เป็นแม่แท้ ๆ ของคิวปิด (อโฟรไดท์หรือวีนัส) – “คิวปิด” (Qupid) หรือ “อีรอส” (Eros) เทพเจ้าแห่งความรัก ความปรารถนาของกรีก แท้จริงแล้วคิวปิดเป็นเทพแห่งความรักแบบกามอารมณ์ ไม่ใช่แบบบริสุทธิ์อย่างที่ทุกคนเข้าใจค่ะ คิวปิดถือเป็นเทพที่รูปร่างหน้าตาดีที่สุด อีกทั้งยังมีความสามารถในการยิงธนูที่สั่งให้ใครรักใครก็ได้ และอีกด้านของธนูสามารถยิงให้คนเกลียดกันได้ คิวปิดตกหลุมรักไซคีตอนที่อโฟรไดท์สั่งเขาไปยิงธนูให้ไซคีไปรักกับผู้ชายไม่ดี เพราะผู้คนหลงในความงามของไซคีจนลืมบูชาเทพแห่งความงามอย่างอโฟรไดท์ คิวปิดตะลึงในความงามของไซคีจนทำธนูทิ่มมือตัวเอง ทำให้ต่อมาทั้งสองได้ครองรักกันภายใต้เงื่อนไขที่ว่าไซคีต้องห้ามแอบมองว่าหน้าตาคิวปิดเป็นอย่างไร แต่ด้วยคำยุยงจากพี่สาวที่อิจฉาชีวิตของไซคีทำให้ไซคีแอบดู เป็นเหตุทำให้คิวปิดจากไปพร้อมบอกว่า “ความรักไม่อาจดำรงอยู่ได้ ถ้าปราศจากความไว้วางใจ” แม้ในท้ายที่สุดทั้งสองจะได้ครองรักกันแต่เรื่องราวของไซคีกับคิวปิดจึงกลายเป็นตัวแทนและคำสอนเกี่ยวกับความรักเรื่องของความเชื่อใจ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน (คิวปิดและไซคี) – แฮธอร์ (Hathor) เทพีแห่งความรัก ความสุข การแต่งงาน การเต้นรำ และความงดงามของอียิปต์ เชื่อกันว่านางเป็นผู้ควบคุมระบบการสืบพันธุ์ของมนุษย์ เป็นผู้ให้เสน่ห์แก่ผู้หญิง และทำให้เกิดอารมณ์ปรารถนา เป็นผู้ควบคุมเพศสัมพันธ์ มีอำนาจทำให้มนุษย์เสื่อมสมรรถภาพหรือหายจากอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ ทำให้เทวสถานของนางส่วนใหญ่เปิดรับคู่รักทุกเพศ ทุกวรรรณะเพราะพระนางชื่นชอบการแต่งงาน และความรักที่สมหวังเป็นอย่างมาก (แฮธอร์) – อินันนา (Inanna) เทพีความรัก ความงาม เพศ สงคราม ความยุติธรรม และอำนาจทางการเมืองของเมโสโปเตเมีย เชื่อกันว่านางมีหน้าที่ให้กำเนิดความรักและความต้องการทางเพศ และถูกมองว่าเป็นเทพีผู้บริสุทธิ์ (อินันนา) – เฟรย่า (Freyja) เทพีแห่งความรัก ความงาม เพศสัมพันธ์ ความอุดมสมบูรณ์ และความตายตามตำราของนอร์ส เล่ากันว่านางเป็นเทพีที่งดงามที่สุดในแอสการ์ด มีทั้งด้านที่อ่อนหวานและดุดัน (เฟรย่า) ยังมีเทพอีกหลายอันที่พี่ออมยังไม่ได้พูดถึงนะคะ แต่น้อง ๆ อาจจะสังเกตได้ว่าเทพแห่งความรักส่วนใหญ่มักเป็นผู้หญิง และมีการผูกเข้ากับเรื่องของอารมณ์ เพศสัมพันธ์และความงามค่ะ . ทำไมต้องให้ดอกกุหลาบในวันวาเลนไทน์? ช่วงวาเลนไทน์เป็นช่วงที่ดอกไม้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โดยเฉพาะกับดอกกุหลาบ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เจอเต็มไปหมด จริง ๆ แล้วนะคะธรรมเนียมการให้ดอกกุหลาบมาจากหลายตำนาน – เรื่องเล่าหลายเรื่องมักมีการเชื่อมโยงระหว่างกุหลาบกับอโฟรไดท์ โดยเป็นเรื่องราวของอโดนิสที่เชื่อกันว่าเป็นคนที่อโฟร์ไดท์รักที่สุดในบรรดาชายที่เธอเคยข้องเกี่ยวมา ยิ่งอโดนิสเป็นชายคนเดียวที่ไม่ตกเป็นทาสความสวยของเธอ ยิ่งทำให้อโฟร์ไดท์หลุ่มหลงชายผู้นี้เป็นอย่างมาก จนเกิดเป็นเรื่องเล่าที่ทำให้กุหลาบกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เช่น หลังจากอโดนิส (Adonis) ถูก “อาเรส” (Ares) คู่รักเก่าของอโรไดท์ในร่างหมูป่าฆ่าเพราะความหึงหวง น้ำตาของเธอไหลลงผสมกับเลือดของเขา หยดลงกลายเป็นดอกกุหลาบสีแดง บ้างก็ว่าอโฟร์ไดท์แทงตัวเองจนเลือดหยดลงสู่พื้นกลายเป็นกุหลาบ บ้างก็ว่านางรับไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียคนรักจึงเสกเลือดของอโดนิสให้กลายเป็นดอกไม้ ทำให้ชื่อแรกสุดของดอกไม้ชนิดนี้คือ “อโดนิส” หรือ “อะเนมโมนิ” (Anemone) (อโฟร์ไดท์กับอโดนิส) – “คลอริส” (Chloris) เทพธิดาแห่งดอกไม้ได้ยกเอาดอกกุหลาบเป็นราชินีของดอกไม้ ซึ่งต่อมาได้มอบกุหลาบให้แก่คิวปิดเทพเจ้าแห่งความรัก ทำให้กุหลาบถูกเชื่อมโยงไปกับเรื่องราวความรักไปในทันที – ในศาสนาคริสต์เชื่อว่าเลือดของพระเยซูในตอนที่ถูกตรึงอยู่บนไม้กางเขนได้หยดลงบนต้นหญ้ามอลส์เกิดเป็นต้นกุหลาบแดง เรียกกันว่ากุหลาบมอลส์ – ในประเทศไทยไม่มีระบุแน่ชัดว่ากุหลาบเข้ามาเป็นที่นิยมตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มีวรรณคดีเรื่อง “มัทนะพาธา” พระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นตำนานของดอกกุหลาบที่เกี่ยวกับข้องกับเรื่องของความงาม ความรัก ในปัจจุบันดอกไม้ที่มอบให้ระหว่างเทศกาลวาเลนไทน์มีความหลากหลายมากขึ้น ถ้าน้อง ๆ ยังสงสัยกันอยู่ทำไมต้องเป็นดอกไม้ จริง ๆ แล้วนะคะ มนุษย์ใช้ดอกไม้เป็นสื่อกลางแสดงความรักมานักต่อนักแล้วค่ะ อาจจะดอกรูปร่าง สีสัน และกลิ่นของมันทำให้เป้นสิ่งของที่ดีในการมอบให้แก่ใครสักคนค่ะ . ช็อกโกแลตกับวาเลนไทน์? นอกจากดอกกุหลาบแล้ว ช็อกโกแลตก็เป็นอีกหนึ่งของแทนใจยอดฮิตที่อาจจะมีน้อง ๆ บางคนลงทุนทำเองกับมือเพื่อมอบให้คนที่รักในวันวาเลนไทน์ใช่ไหมคะ ถ้าถามว่าช็อกโกแลตมีความเกี่ยวข้องยังไงกับเทศกาลแห่งความรักเช่นนี้ ก็คงต้องย้อนกลับในสมัยจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ช่วงที่ความรักของชายหญิงถือเป็นเรื่องต้องห้าม การเจอกันแต่ละครั้งจึงนิยมเอาของมามอบแทนความรัก ใช่แล้วค่ะ ของสิ่งนั้นก็คือช็อกโกแลต เพราะถือเป็นของหายากและมีราคาสูง ทำให้ช็อกโกแลตกลายเป็นของมีค่าที่คู่รักนิยมมอบให้แก่กันเพื่อแสดงความรักที่เต็มหัวใจค่ะ ในขณะเดียวกันก็มีบางคนเชื่อว่า การให้ช็อกโกแลตอาจเป็นเพียงการตลาดที่เกิดจาก Richard Cabury สมัยเพิ่งเข้าสืบทอดกิจการช็อกโกแลต Cabury ของประเทศอังกฤษ และด้วยความไฟแรงต้องการเพิ่มยอดขายของเขาทำให้เกิดการคิดค้นช็อกโกแลตรูปหัวใจ และออกแบบลวดลายบนกล่องให้มีรูปคิวปิดและดอกกุหลาบ แน่นอนว่าเป็นความคิดที่ประสบความสำเร็จและพลิกวงการของช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์มาจนถึงทุกวันนี้ . แหวน เครื่องประดับแทนใจของคู่รัก? ทำไมต้องใส่นิ้วนางข้างซ้าย? เมื่อเข้าร่วมพิธีแต่งงานกันทั้งฝ่ายจำเป็นที่จะสวมแหวนไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย ซึ่งกลายเป็นเครื่องประดับที่เราเห็นเมื่อไรก็ทราบได้ทันทีว่าคน ๆ นี้มีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว แล้วทำไมต้องเป็นแหวนล่ะ? การใส่แหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายมาจากชาวอียิปต์โบราณที่พบว่านิ้วนางข้างซ้ายเป็นนิ้วเดียวที่มีเส้นเลือดใหญ่วิ่งเข้าไปที่หัวใจ ซึ่งเรียกตามภาษาละตินว่า “เส้นเลือดแห่งความรัก” (Vena Amoris) จนกลายมาเป็นวัฒนธรรมที่คู่รักสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายเพราะเป็นตัวเชื่อมจากเส้นเลือดไปถึงหัวใจของทั้งสอง แต่ในสำหรับข้อเท็จจริงนะคะ ได้มีการพิสูจน์ในภายหลังว่าแต่ละนิ้วมีระบบเลือดไหลเวียนที่เหมือนกัน ทำให้นิ้วนางข้างขวามีการไหลเวียนของเลือดไม่ต่างจากนิ้วนางข้างซ้ายค่ะ . คำว่าแฟนมาจากไหน? แล้วก่อนหน้านี้ใช้คำว่าอะไร? คำว่า “แฟน” ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 (ออนไลน์) เป็นภาษาปาก หมายถึง ผู้นิยมชมชอบ เช่น แฟนเพลง แฟนภาพยนตร์ แฟนมวย, ผู้เป็นที่ชอบพอรักใคร่, คู่รัก, สามีหรือภรรยา. ซึ่งคำนี้มีที่มาจากคำในภาษาอังกฤษคือว่า “Fan” ย่อมาจาก “Fanatic” คลั่งไคล้ หลุ่มหลงในสิ่งใดมาก ๆ ถ้าเอาในยุคนี้ก็คงเหมือนกับคำว่า “คลั่งรัก” นั้นแหละค่ะ แล้วก่อนหน้าที่จะมีคำว่าแฟนล่ะ คนไทยใช้คำว่าอะไร? คนไทยใช้คำว่า “ชิ้น” แทนคู่รักในหน้าที่เดียวกับคำว่าแฟนเลยค่ะ ก่อนที่หลังสมัย พ.ศ. 2490 คนไทยจะเปลี่ยนมาใช้คำว่าแฟนตามปัจจุบันอ้างจากหนังสือมหาเหตุประเทศสยาม เล่ม 1 ของเอนก นาวิกมูลที่เขียนในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งอธิบายไว้ “แฟน” ไว้ว่าเป็นคำที่คนไทยในสมัยนั้นใช้กันอย่างแพร่หลาย ฟุ่มเฟื่อย . วันวาเลนไทน์เข้ามาในไทยเมื่อไหร่? วันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรักซึ่งมาจากวัฒนธรรมของต่างประเทศ ซึ่งเข้ามามีบทบาทในไทยในสมัยสงครามเวียดนาม ราวปี พ.ศ. 2508 – 2509 สหรัฐอเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพในเมืองไทยหลายแห่ง เช่น อุดรธานี มีผู้หญิงหลายคนในบริเวณฐานทัพรับเอาวันวาเลนไทน์นี้เข้ามา จนกระทั่งห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เป็นผู้ริเริ่มการจัดประเพณีวาเลนไทน์ในห้าง บ้างก็ว่ามาจากพนักงานที่ไปเรียนต่างประเทศมา บ้างก็ว่าเป็นลูกหลานของเจ้าของห้างแห่งนั้น ทำให้หลังจาก พ.ศ. 2510 ห้างสรรพสินค้าเกือบทุกแห่งนับเอาเทศกาลวันวาเลนไทน์มาเป็นอีกหนึ่งอีเวนต์หลักของทุกปีเลยก็ว่าได้ค่ะ . วันแห่งความรักของไทย ถึงแม้ว่าวันวาเลนไทน์จะเป็นวันแห่งความรักที่รู้จักกันเป็นสากล และได้รับความนิยมในทุกหนแห่งไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย แต่ประเทศไทยก็มีวันแห่งความรักเช่นกันค่ะ แต่อิงตามศาสนาพุทธนั้นก็คือ “วันมาฆบูชา” ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 โดยอ้างจากเหตุการณ์โอวาทปาฎิโมกข์ซึ่งถือเป็นวันแสดงความรักของพระพุทธเจ้าโดยการเทศนา เป็นความรักในแบบของการเมตตา และปรารถนาดีต่อผู้อื่นค่ะ . จบกันไปแล้วนะคะสำหรับเรื่องราวของวันแห่งความรักแบบนี้ ไม่ว่าจะความรักแบบไหนก็สวยงามไม่แพ้กันนะคะ แต่อีกหนึ่งคนสำคัญที่พี่ออมอยากให้น้อง ๆ รักก็คือตัวน้อง ๆ เองค่ะ อย่ามองข้ามการรักตัวเองค่ะ ความรักในรูปแบบนี้นับว่าเป็นความรักที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะการรักตัวเองจะทำให้น้อง ๆ มีความสุขกับชีวิตในแต่ละวัน และไม่ว่าน้อง ๆ จะรักใคร สิ่งที่สำคัญก็อย่ารักจนไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น หรือทำให้ผู้ใดเป็นทุกข์ แม้กระทั่งตัวเราเองนะคะ 🙂 EZ Webmaster Related Posts มทร.ธัญบุรี โชว์ผลงานเด่น คว้า 12 รางวัลเวทีนวัตกรรมระดับนานาชาติ เซี่ยงไฮ้ 2025 มธ. ปักหมุดหลักสูตร ‘AI Ethics’ หนุนบริบทใหม่ของห้องเรียนทันโลก สร้างจุดยืนคนรุ่นใหม่ ‘ใช้เอไออย่างมีจริยธรรม’ พร้อมเดินหน้าวางหมุดหมายระบบการศึกษาไทย กับการปลุกการใช้เทคฯ คู่ธรรมาภิบาล คาดเริ่มเปิดลงทะเบียนพร้อมเรียนจริง สิงหาคม 68 นี้ สสวท. เชิญใช้ฟรี “คลังคำศัพท์” รับเปิดเทอมใหม่ มัดรวมศัพท์ในหนังสือเรียนวิชาที่ สสวท. พัฒนา สจล. เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน 11 สาเหตุลึกซึ้ง ทำไมการศึกษาไทยยังตกต่ำ? เสียงสะท้อนจากครูชนบท สู่คำถามใหญ่ของสังคม Post navigation PREVIOUS Previous post: กมธ. อุดมศึกษาฯ วุฒิสภา ดูงานและติดตามความคืบหน้าชุดโครงการวิจัยการพัฒนาต้นแบบการจัดการเกษตรผสมผสาน และการจัดการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนวัตวิถีเชิงสร้างสรรค์ จังหวัดแพร่NEXT Next post: มหาวิทยาลัยนเรศวร ประกาศรับ #TCAS66 รอบ 2 #QUOTA แพทยศาสตรบัณฑิต #ผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
SEAMEO-Japan ESD Award InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 18, 2025 เชิญสถานศึกษาเข้าร่วมประกวดในหัวข้อ “Fostering Schools and Surrounding Communities’ Resilience through the Revitalisation of Local Wisdom in Disaster Risk Reduction” ชิงรางวัล SEAMEO-Japan ESD Award ประจำปี 2568 … ทุนMaster of Education InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 17, 2025 International Welcome Scholarships in Master of Education หรือทุนเรียนปริญญาโททางด้านการศึกษา สำหรับผู้เรียนจากนานาชาติ โดย Murdoch University ประเทศออสเตรเลีย ทุนมีมูลค่าเป็นส่วนลดค่าเรียน 25% เปิดรับใบสมัครถึง 30 สิงหาคม… 8 ทุนป.ตรีรัฐบาลคูเวต InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 15, 2025 ทุนการศึกษารัฐบาลรัฐคูเวต สำหรับนักเรียนไทยเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ณ มหาวิทยาลัคูเวต (Kuwait University) ประจำปีการศึกษา ค.ศ. 2025–2026 จำนวน 8 ทุน เปิดรับใบสมัครถึง 18 มิถุนายน 2025 โดยในจำนวนทุนที่ให้เป็นในคณะวิศวกรรมศาสตร์และปิโตรเลียม จำนวน 6 ทุน และคณะศิลปะศาสตร์(คณะชารีอะห์และอิสลามศึกษา/คณะครุศาสตร์ / สังคมศาสตร์ / อักษรศาสตร์)… ครู-อาจารย์ มทร.ธัญบุรี โชว์ผลงานเด่น คว้า 12 รางวัลเวทีนวัตกรรมระดับนานาชาติ เซี่ยงไฮ้ 2025 tui sakrapeeJune 19, 2025 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) สร้างชื่อระดับโลก เวที “The 8th China (Shanghai) International Invention & Innovation Expo 2025” คว้ารางวัลรวม 12 รายการ ตอกย้ำศักยภาพ… สจล. เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน EZ WebmasterJune 19, 2025 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ทางวิชาการกับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีความร่วมมือกันมานานกว่า 20 ปี เพื่อหารือขยายความร่วมมือเชิงลึกในสาขาวิศวกรรมขั้นสูง โดยเฉพาะด้าน Aerospace, Mechatronics, Automation และ Astronautics ซึ่ง HIT ถือเป็นสถาบันชั้นนำของจีนในด้านนี้ พร้อมทั้งหารือแนวทางความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนนักศึกษา นักวิจัย และการพัฒนาโครงการ Joint Degree ในอนาคต รองศาสตราจารย์… อธิการบดีนำทีมกรรมการส่งเสริมฯ สวนสุนันทา เยี่ยมชมโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำ เมืองชิงเต่า สาธารณรัฐประชาชนจีน มุ่งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้สู่มาตรฐานโลก tui sakrapeeJune 18, 2025 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา นำโดย รศ.ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ อธิการบดี พร้อมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย เดินทางเยือนโรงเรียนนานาชาติ Qingdao No.1 International School of Shandong Province (QISS) และ Qingdao University… กองกลาง มจพ. เยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ และจัดสัมมนาจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรรายบุคคล ประจำปี 2568 EZ WebmasterJune 18, 2025 ผศ.ดร.สราวุฒิ สืบแย้ม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการคลังและกิจการทั่วไป มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วยนางสาวรัตนา สุขเฉลิมศรี ผู้อำนวยการกองกลาง และบุคลากรกองกลาง เข้าเยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ มจพ. ณ ชั้น 3 สำนักงานหอสมุดกลาง โดยมีนางสาวพนารมย์ เกียรติลีลานันท์ และ… กิจกรรม กองอาคาร มจพ. จับมือสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพฯ อบรมการจัดการคัดแยกขยะมูลฝอยภายในหน่วยงาน EZ WebmasterJune 18, 2025 ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ นายกสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วยศ.ดร.ธานินทร์ ศิลป์จารุ อธิการบดี ร่วมพิธีโครงการอบรม เรื่อง การคัดแยกขยะมูลฝอยภายในหน่วยงาน โดยมี รศ.ดร.ณัฐพงศ์ มกระธัช รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนากิจการมหาวิทยาลัยเพื่อความยั่งยืน กล่าวเปิดการอบรม รศ.ดร.ศักดา กตเวทวารักษ์… “40 ปี เภสัชศิลปากร” หลากวงการ ร่วมแสดงความยินดี สู่บทบาทผู้นำด้านวิชาชีพเภสัชกรรม วิจัยนวัตกรรม และการสร้างสุขภาพอย่างยั่งยืน EZ WebmasterJune 13, 2025 วันที่ 6 มิถุนายน 2568 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งการสถาปนาอย่างสมเกียรติ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม ภายใต้ชื่องาน “Celebrating the 40th Anniversary:… ดีพร้อม ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้ายกระดับร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย หวังสร้างรายได้ชุมชนสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก EZ WebmasterJune 13, 2025 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้า “โครงการพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย (Local Chef Restaurant) ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก” ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” มุ่งหวังยกระดับร้านอาหารท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ โดดเด่น และสามารถแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ และการสร้างให้เกิดเครือข่ายเชฟชุมชนที่เข้มแข็ง และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น… ถอดแนวคิดความมั่นคงชายแดนจากมุมมอง นักศึกษา “วปอ.บอ.” 4 ด้าน สังคม-เศรษฐกิจ-การเมือง-การทหาร ร่วมสะท้อนเส้นแบ่งแห่งโอกาสและอนาคตร่วมกัน EZ WebmasterJune 10, 2025 ชายแดนไทย-เมียนมา ที่ทอดยาวกว่า 2,400 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของไทย ตั้งแต่เชียงรายไปจนถึงและระนอง ไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นแบ่งระหว่างรัฐ แต่คือเส้นเขตแดนที่เชื่อมโยงผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ วัฒนธรรม เครือข่ายเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาอย่างยาวนาน แต่ภายหลังสถานการณ์การเมืองในเมียนมาตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา พื้นที่ที่เคยเต็มไปด้วยโอกาสนี้ กลับกลายเป็นความท้าทายที่ส่งผลกระทบบางประเด็นมาถึงประเทศไทย ดังนั้น การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนจึงไม่ใช่เพียงแค่ภารกิจของกองทัพในเรื่องการปกป้องพรมแดนเท่านั้น แต่เป็นโจทย์เชิงยุทธศาสตร์ที่ต้องผสมผสานความเข้าใจในพื้นที่ สังคม วัฒนธรรม ผู้คน เศรษฐกิจ… Search for: Search EZ Webmaster February 13, 2023 EZ Webmaster February 13, 2023 กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! เทศกาลแห่งความรักวนกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็ต้องเคยมีความรักกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ ความรักที่พี่ออมพูดถึงนั้นไม่ได้หมายถึงแค่ในรูปแบบคนรักเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความรักแบบครอบครัว แบบเพื่อน หรือแบบอื่น ๆ วันนี้นะคะพี่ออมจะมาเล่าประวัติวันแห่งความรักว่ามีที่มายังไงแล้วทำไมถึงกลายเป็นวันสำคัญอย่างเช่นทุกวันนี้ได้ ไปดูกันเลย! . แต่เดิมวันที่ 14 กุมภาพันธ์ไม่ได้เป็นที่รู้จักในชื่อวันวาเลนไทน์หรือเทศกาลแห่งความรักอย่างเช่นทุกวันนี้ ในช่วงจักรวรรดิโรมัน วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันหยุดเพื่อให้เกียรติแด่เทพีจูโน ซึ่งถือเป็นราชินีของบรรดาเทพเจ้าโรมัน และชาวโรมยังเชื่อว่าเธอเป็นผู้ปกป้องผู้หญิง ทั้งชีวิตแต่งงาน เวลาคลอดบุตร จึงถือว่าเทพีจูโนเป็นเทพีแห่งผู้หญิงและการแต่งงาน (เทพีจูโน) . ถ้าถามว่าแล้วยุคนั้นมีการเฉลิมฉลองเกี่ยวกับความรักไหม? มีค่ะ ถึงแม้ว่าในสมัยนั้นวิถีชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน แต่ก็ยังมีเทศกาลคล้ายกับวันวาเลนไทน์อย่าง “ลูเพอร์คาร์เลีย” หรือ “ลูเปอร์คาลีอา” เป็นประเพณีเพื่อระลึกถึงโรมิวลุสและเรมุสซึ่งเชื่อกันว่าเป็นฝาแฝดผู้ก่อตั้งกรุงโรม จัดในระหว่างวันที่ 13 – 15 กุมภาพันธ์ แต่เทศกาลวาเลนไทน์เดิมนี้ไม่ได้สวยงามอย่างวาเลนไทน์ในปัจจุบันนะคะเพราะการเฉลิมฉลองในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างโหดร้ายเลยก็ว่าได้ค่ะ เริ่มตั้งแต่การสังเวยแพะ แกะ สุนัข โดยสุนัขต้องเป็นลูกสุนัขตัวเล็กน่ารัก ๆ เท่านั้น วิธีการคือนำสัตว์เหล่านี้เข้าไปในถ้ำก่อนที่จะรุมฆ่ามันอย่างไร้ปราณี ไม่หยุดอยู่เพียงการสังหารสัตว์เท่านั้น หลังจากที่ฆ่าสัตว์แล้ว นักบวชจะนำเลือดจากมีดที่เพิ่งฆ่าสัตว์ไปก่อนหน้านี้มาป้ายลงบนศีรษะของเด็กหนุ่มจากตระกูลผู้ดีสองคน จากนั้นก็นำขนสัตว์มาชุบด้วยน้ำนมเพื่อเช็ดศีรษะอีกครั้งพร้อมบังคับให้เด็กทั้งสองหัวเราะออกมาอย่างสุดเสียงในถ้ำมืด ๆ ก่อนจะให้พวกเขาแก้ผ้าพร้อมมอบอาวุธเป็นแส้หนังแพะ แส้หนังแพะนี้เรียกว่า “Februare” มาจาก “February” หรือเดือนกุมภาพันธ์นั่นเองค่ะ โดยตามความเชื่อของคนในสมัยถือว่ากิจกรรมทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นการชำระจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ หลังจากนั้นจะมีเด็กหนุ่มผู้ดีมากมายพร้อมใจกันแก้ผ้าทาน้ำมันตามตัวถือแส้หนังแพะไว้ในมือ ก่อนกวาดสายตาวิ่งฟาดผู้หญิงที่เข้าร่วมงาน น้อง ๆ อาจจะเอ๊ะขึ้นมาว่าแล้วผู้หญิงไม่ทำอะไรกลับหรอ? ต้องบอกก่อนว่าแม้พวกเธอจะเหมือนวิ่งหนีแต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้หญิงเหล่านั้นต่างยินยอมที่จะถูกตีค่ะ เพราะเชื่อกันว่าหนังสัตว์เหล่านั้นจะทำให้พวกเธอสืบพันธุ์และมีลูกได้ (เด็กหนุ่มเอาแส้แพะไล่ฟาดหญิงสาว) . พิธีกรรมแปลก ๆ ตามมุมมองของคนปัจจุบันอย่างเรายังมีอีกนะคะ แน่นอนว่าเทศกาลแบบนี้ต้องมีอาหารกินเลี้ยงเหมือนประเพณีอื่น ๆ ต่างกันตรงที่ในเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียนี้ นักบวชจะแขวนเครื่องในแพะบนต้นวิลโลว์ หรือ ต้นหลิว (Willow) เพื่อให้คนนำมาทำอาหารพร้อมทั้งทำเค้กเกลือ ที่คล้ายกับแพนเค้กไปย่างเกลือทำให้ออกรสชาติเค็ม ๆ ไหม้ ๆ ทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นเมนูยอดฮิตประจำเทศกาลนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีการแต่งเพลงโดยนำเอาพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของผู้อื่นมาขับร้องเป็นเนื้อเพลงเพราะเชื่อกันว่าความอับอายจะช่วยให้ผู้คนประพฤติตัวดีขึ้น แต่แน่นอนว่ากิจกรรมนี้ดูเหมือนจะให้ผลเสียมากกว่า เป็นเรา เราก็คงไม่พอใจที่คนอื่นเอาเรื่องราวของเรามาป่าวประกาศใช่ไหมคะ อีกหนึ่งกิจกรรมเด่นที่เป็นตัวชูโรงทำให้เทศกาลนี้ถูกมองว่าเป็นวาเลนไทน์เดิมคือวันก่อนงานเทศกาล จะมีการจับสลากของหนุ่มสาวเพื่อจับคู่เที่ยวตลอดงาน เล่ากันว่าฝ่ายหญิงจะเขียนชื่อของตนและใส่ไปในเหยือกหรือโถ ก่อนฝ่ายชายจะเป็นผู้จับฉลากชื่อนั้นขึ้นมา แน่นอนว่างานเทศกาลนี้ทำให้หนุ่มสาวหลายคู่เกิดพบรักกันและสานต่อความสัมพันธ์กัน ภายหลังวิธีการจับสลากแบบนี้ถูกเรียกว่า “สลากรัก” หรือ “สลากลูเปอร์คาลีอา” พูดง่าย ๆ ก็คงคล้ายกับการนัดบอดในยุคนี้แหละค่ะ น้อง ๆ อาจจะกำลังคิดว่ากิจกรรมหลังนี้ดูจะปกติดีใช่ไหมคะ แต่ไม่เลยค่ะ บางแห่งเล่าว่าการเขียนชื่อลงในเหยือกหรือโถนั้นไม่ได้ทำเพื่อให้หนุ่มสาวได้ทดลองใช้เวลาร่วมกันแต่เพื่อมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ไม่มีการเดท ไม่มีการพูดคุย ไม่มีความรักมาเกี่ยวข้อง เป้าหมายมีเพียงการเพศสัมพันธ์และให้ผู้หญิงตั้งครรภ์เท่านั้น ซึ่งหากไม่สำเร็จตามเป้าหมายก็สามารถกลับมาใหม่ได้ในปีถัดไป แต่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าจะต้องคู่กับผู้ชายคนเดิม หรือเริ่มจับสลากกันใหม่ในทุกปีค่ะ . ต่อมาในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ศาสนาคริสต์กลายมาเป็นศาสนาหลักของกรุงโรม สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสเข้ามามีบทบาทและตัดสินว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียและเทศกาลอื่น ๆ เป็นเทศกาลของลัทธินอกรีต อีกทั้งยังผิดศีลธรรม ในราว ค.ศ. 500 ซึ่งจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ก็เห็นดีเห็นงามเนื่องจากเป็นบุคคลที่มีจิตใจดุร้าย ชื่นชอบการทำสงคราม การนองเลือด และมองว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียจะทำให้ผู้ชายไม่อยากเข้าร่วมกองทัพ เพราะไม่อยากจากคนรักหรือครอบครัวไป ทำให้เกิดเป็นคำสั่งห้ามไม่ให้มีการจัดพิธีหมั้นและพิธีแต่งงานกันในโรมอย่างเด็ดขาด สลากที่เคยเป็นสื่อกลางแห่งความรักถูกปรับเปลี่ยนเป็นสลากนักบุญ จากการจับชื่อหญิงสาวในโถกลายเป็นการจับชื่อนักบุญแทน หากชายหนุ่มจับได้ชื่อนักบุญท่านไหนก็ต้องใช้ชีวิต ศึกษา เรียนรู้ตามวิถีชีวิตของนักบุญท่านนั้น (จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2) . มาถึงตรงนี้น้อง ๆ คงจะเริ่มสงสัยกันแล้วว่าตกลงแล้ววันวาเลนไทน์ที่เป็นวันแห่งความรักจะเริ่มต้นที่ตรงไหน? ในระหว่างนี้เองที่มีนักบุญผู้ลือกันว่าหน้าตาหล่อเหลา งดงาม ชื่อว่า “เซนต์วาเลนไทน์” หรือ “วาเลนตินัส” มีความเห็นอกเห็นใจในคู่รัก จึงแอบร่วมมือกับ “เซนต์มาริอัส” จัดพิธีแต่งงานลับ ๆ ให้แก่ชาวคริสต์หลายคู่ ทั้งพิธีจะมีเพียงเจ้าบ่าว เจ้าสาว และบาทหลวงเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง ทหารของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ได้เข้ามาเห็นพิธี ส่งผลให้เซนต์วาเลนไทน์ถูกควบคุมตัวไปลงโทษอย่างสาหัส เหล่าคู่รักที่เคยเข้าร่วมพิธีแต่งงานกับเขาผลัดกันมาเยี่ยมนักบุญท่านนี้อยู่เสมอ และขณะที่เป็นนักโทษ เขาก็ยังคงส่งคำอวยพรออกไปนอกคุกอยู่เสมอ เชื่อกันว่าตอนอยู่ในคุกนั้น เซนต์วาเลนไทน์ได้รับคำขอให้ช่วยรักษาลูกสาวตาบอดของผู้คุมแอสทีเรียสที่ชื่อว่า “จูเลีย” ทั้งสองต่างตกหลุมรักกันระหว่างการรักษา จนกระทั่งจูเลียกลับมามองเห็นได้ปกติ เธอก็มักจะมาเยี่ยมเยียนเซนต์วาเลนไทน์อยู่เสมอ คืนก่อนที่เซนต์วาเลนไทน์จะถูกประหารด้วยการตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลียโดยลงท้ายว่า “From Your Valentine” เป็นอันปิดตำนานของเซนต์วาเลนไทน์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ด้วยวัยเพียง 47 ปี (เซนต์วาเลนไทน์และจูเลีย) . ศพของเซนต์วาเลนไทน์ได้ถูกจัดเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม โดยจูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอนด์สีชมพูไว้ใกล้หลุมศพของเขา โดยเหตุนี้เอง “ดอกอัลมอนด์สีชมพู” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งวันวาเลนไทน์ ความรักนิรันดร์ ไม่ใช่ดอกกุหลาบอย่างที่น้อง ๆ หลายคนเข้าใจกัน แต่ดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพและการแบ่งใจน้ำใจค่ะ (ดอกอัลมอนด์สีชมพู) . แม้เรื่องเล่าความรักของนักบุญวาเลนไทน์ข้างต้นจะเป็นที่โด่งดัง แต่ยังมีหลายแห่งที่มีเรื่องเล่าในรูปแบบที่ต่างกัน เล่ากันว่า “วาเลนตินุส” หรือ “วาเลนไทน์” มี 2 ท่าน คือ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งโรม” และ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งเทอร์นี” ทั้งสองพลีชีพเพื่อศาสนา ก่อนที่เรื่องราวจะถูกแต่งเติมจนกลายเป็นเรื่องราวความรักของนักบุญวาเลนไทน์ โดยคาดเดากันว่าน่าจะถูกแต่งขึ้นในช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 5 – 6 ใช้ชื่อผลงานว่า Passio Marii et Marthae ดังที่พี่ออมได้เล่าให้ฟังไปข้างต้นค่ะ . ด้วยเหตุการณ์นี้ เรื่องราวโรแมนติกอันสงสารของทั้งคู่ทำให้เซนต์วาเลนไทน์กลายเป็นนักบุญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ตั้งแต่เมื่อ ค.ศ. 496 สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสที่ 1 กำหนดให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักและมีการปรับเปลี่ยนชื่อวันแห่งความรักเป็น “วันวาเลนไทน์” ตามชื่อตามชื่อนักบุญค่ะ แต่ก็ถูกตัดออกจากปฏิทินโรมันทั่วไปและให้ไปอยู่ในปฏิทินเฉพาะซึ่งถือเป็นเพียงปฎิทินท้องถิ่นหรือปฎิทินประจำชาติโดยสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 ในปี ค.ศ. 1969 เพราะเห็นว่านอกจากชื่อของเซนต์วาเลนไทน์แล้วก็ไม่มีข้อมูลนอกเหนือจากว่าศพของเขาถูกฝังไว้ที่เวียฟลามิเนียเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ แต่ถึงอย่างนั้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ก็ได้กลายเป็นวันแห่งความรักของสากลอย่างเช่นทุกวันนี้ค่ะ . นอกจากจะเล่าที่มาของวันวาเลนไทน์แล้ว วันนี้พี่ออมก็ยังมีเกร็ดเล็ก ๆ ที่น่าจะพอคลายความสงสัยของน้อง ๆ เกี่ยวกับวาเลนไทนและความรักกันได้ค่ะ . สัญลักษณ์รูปหัวใจมาจากไหน ? ถ้าพูดถึงเรื่องของความรักก็เป็นไปไม่ได้เลยนะคะที่จะไม่พูดถึงรูปร่างหัวใจ แล้วรูปร่างหัวใจนี้มาจากไหนกันล่ะ? น้อง ๆ อาจจะเดากันว่าก็มาจากหัวใจมนุษย์จริง ๆ นี่ คำตอบนี้ก็ถูกต้องค่ะแต่ไม่ใช่เพียงคำตอบเดียวเท่านั้น ที่มาของรูปหัวใจถูกแบ่งออกเป็น 2 ทฤษฎีหลัก ๆ ค่ะ – ทฤษฎีแรกคือรูปร่างหัวใจมาจากอวัยวะ ซึ่งก็คือหัวใจมนุษย์จริง ๆ เริ่มจากนักปราชญ์ของกรีก “อริสโตเติล” (Aristotle) และแพทย์ชาวโรมัน “กาเลน” (Galen) ทั้งสองได้ศึกษาระบบร่างกายมนุษย์และโครงสร้างของของสิ่งมีชีวิตหรือที่เรียกกันว่ากายวิภาคศาสตร์นั้นแหละค่ะ ทั้งสองได้บันทึกและวาดรูปหัวใจของมนุษย์ไว้ (รูปวาดหัวใจของอริสโตเติลและกาเลน) จนในช่วงศตวรรษที่ 14 ชาวยุโรปได้เริ่มศึกษากายวิภาคของมนุษย์ และนำรูปหัวใจที่อริสโตเติลและกาเลนวาดมาอ้างอิง พร้อมทั้งเชื่อว่าหัวใจเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก อารมณ์ และความรัก ทำให้ถูกดัดแปลงกลายมาจากหัวใจของคนสองคนมาประกบกัน จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แต่ก็ยังมีผู้ถกเถียงว่ารูปร่างหัวใจมาจากร่างกายมนุษย์จริง แต่อาจถูกสร้างตามสรีระของร่างกายในส่วนของบั้นท้ายค่ะ – ทฤษฎีที่ 2 นั้นเชื่อกันว่ารูปหัวใจมาจากพืช เป็นพืชโบราณที่ชื่อว่า “ซิลเฟียม” หรือ “ซิลฟีเนียม” (Silphium) เป็นดอกไม้ในตระกูลยี่หร่า โดยผลของดอกมันมีลักษณะคล้ายกับรูปหัวใจในปัจจุบัน แล้วทำไมถึงเลือกเอาผลของพืชชนิดนี้มาเป็นสัญลักษณ์? เพราะว่าในสมัยก่อนซิลเฟียมเติบโตบริเวณชายฝั่งแอฟริกาเหนือใกล้กับคิวเรเนหรือซิเรเน (Cyrene) ซึ่งเป็นเมืองกรีกโบราณโดยพืชชนิดนี้ถูกใช้เป็นเครื่องเทศ และใช้ในการคุมกำเนิดของคนในสมัยนั้นอีกด้วยค่ะ (ผลของดอกซิลเฟียม) แต่ก็มีการเสนอความเห็นกันว่ารูปหัวใจอาจจะมาจากต้นไอวี ในช่วงศตวรรษที่ 4 ใบของมันถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของสถานที่ซื้อขายเพศสัมพันธ์ในเมืองเอฟิซัส (Ephesus) ตั้งอยู่ที่ประเทศตุรกีในปัจจุบัน ด้วยเหตุผลที่ว่าต้นไอวีเป็นสัญลักษณ์ของเทพไดโอนิซัส (Dionysus) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งไวน์ ความอิ่มเอมทั้งกายใจ ต่อมาต้นไอวีจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการมีเพศสัมพันธ์ของคนในสมัยนั้นไปโดยปริยาย ในอีกแง่คือไอวีถือเป็นพืชที่มีความเขียวสดอยู่ตลอดทั้งปีจึงถูกใช้แทนความหมายในเรื่องของความซื่อสัตย์ ความมั่นคงในเรื่องของความรัก จนถูกนำมารวมกับสีแดงซึ่งเป็นสีแห่งความรักจนกลายเป็นรูปหัวใจในที่สุดค่ะ (ใบเถาของต้นไอวี) . เทพเจ้าแห่งความรักมีแต่คิวปิดหรอ? หากพูดถึงเทพเจ้าแห่งความรักแล้ว น้อง ๆ อาจมีภาพเด็กผู้ชายถือธนูอยู่ ในความคิด ความเป็นจริงแล้วยังมีเทพเจ้าอีกหลายองค์ที่ถูกนับว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรักค่ะ – “อโฟรไดท์” (Aphrodite) หรือ “วีนัส” (Venus) เทพีแห่งความรัก ความงาม และเพศสภาพของกรีก อโฟรไดท์มีความสามารถในการสะกดจิต ทำให้ผู้อื่นหลุ่มหลงในความงามของนาง ตามตำนานกรีกแล้วอโฟรไดท์ถือเป็นเทพีที่มีอารมณ์รุนแรงและมีเพศสัมพันธ์กับเทพหลายองค์ แม้กระทั่งกับคนธรรมดา ซึ่งอโฟรไดท์มีศักดิ์เป็นแม่แท้ ๆ ของคิวปิด (อโฟรไดท์หรือวีนัส) – “คิวปิด” (Qupid) หรือ “อีรอส” (Eros) เทพเจ้าแห่งความรัก ความปรารถนาของกรีก แท้จริงแล้วคิวปิดเป็นเทพแห่งความรักแบบกามอารมณ์ ไม่ใช่แบบบริสุทธิ์อย่างที่ทุกคนเข้าใจค่ะ คิวปิดถือเป็นเทพที่รูปร่างหน้าตาดีที่สุด อีกทั้งยังมีความสามารถในการยิงธนูที่สั่งให้ใครรักใครก็ได้ และอีกด้านของธนูสามารถยิงให้คนเกลียดกันได้ คิวปิดตกหลุมรักไซคีตอนที่อโฟรไดท์สั่งเขาไปยิงธนูให้ไซคีไปรักกับผู้ชายไม่ดี เพราะผู้คนหลงในความงามของไซคีจนลืมบูชาเทพแห่งความงามอย่างอโฟรไดท์ คิวปิดตะลึงในความงามของไซคีจนทำธนูทิ่มมือตัวเอง ทำให้ต่อมาทั้งสองได้ครองรักกันภายใต้เงื่อนไขที่ว่าไซคีต้องห้ามแอบมองว่าหน้าตาคิวปิดเป็นอย่างไร แต่ด้วยคำยุยงจากพี่สาวที่อิจฉาชีวิตของไซคีทำให้ไซคีแอบดู เป็นเหตุทำให้คิวปิดจากไปพร้อมบอกว่า “ความรักไม่อาจดำรงอยู่ได้ ถ้าปราศจากความไว้วางใจ” แม้ในท้ายที่สุดทั้งสองจะได้ครองรักกันแต่เรื่องราวของไซคีกับคิวปิดจึงกลายเป็นตัวแทนและคำสอนเกี่ยวกับความรักเรื่องของความเชื่อใจ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน (คิวปิดและไซคี) – แฮธอร์ (Hathor) เทพีแห่งความรัก ความสุข การแต่งงาน การเต้นรำ และความงดงามของอียิปต์ เชื่อกันว่านางเป็นผู้ควบคุมระบบการสืบพันธุ์ของมนุษย์ เป็นผู้ให้เสน่ห์แก่ผู้หญิง และทำให้เกิดอารมณ์ปรารถนา เป็นผู้ควบคุมเพศสัมพันธ์ มีอำนาจทำให้มนุษย์เสื่อมสมรรถภาพหรือหายจากอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ ทำให้เทวสถานของนางส่วนใหญ่เปิดรับคู่รักทุกเพศ ทุกวรรรณะเพราะพระนางชื่นชอบการแต่งงาน และความรักที่สมหวังเป็นอย่างมาก (แฮธอร์) – อินันนา (Inanna) เทพีความรัก ความงาม เพศ สงคราม ความยุติธรรม และอำนาจทางการเมืองของเมโสโปเตเมีย เชื่อกันว่านางมีหน้าที่ให้กำเนิดความรักและความต้องการทางเพศ และถูกมองว่าเป็นเทพีผู้บริสุทธิ์ (อินันนา) – เฟรย่า (Freyja) เทพีแห่งความรัก ความงาม เพศสัมพันธ์ ความอุดมสมบูรณ์ และความตายตามตำราของนอร์ส เล่ากันว่านางเป็นเทพีที่งดงามที่สุดในแอสการ์ด มีทั้งด้านที่อ่อนหวานและดุดัน (เฟรย่า) ยังมีเทพอีกหลายอันที่พี่ออมยังไม่ได้พูดถึงนะคะ แต่น้อง ๆ อาจจะสังเกตได้ว่าเทพแห่งความรักส่วนใหญ่มักเป็นผู้หญิง และมีการผูกเข้ากับเรื่องของอารมณ์ เพศสัมพันธ์และความงามค่ะ . ทำไมต้องให้ดอกกุหลาบในวันวาเลนไทน์? ช่วงวาเลนไทน์เป็นช่วงที่ดอกไม้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โดยเฉพาะกับดอกกุหลาบ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เจอเต็มไปหมด จริง ๆ แล้วนะคะธรรมเนียมการให้ดอกกุหลาบมาจากหลายตำนาน – เรื่องเล่าหลายเรื่องมักมีการเชื่อมโยงระหว่างกุหลาบกับอโฟรไดท์ โดยเป็นเรื่องราวของอโดนิสที่เชื่อกันว่าเป็นคนที่อโฟร์ไดท์รักที่สุดในบรรดาชายที่เธอเคยข้องเกี่ยวมา ยิ่งอโดนิสเป็นชายคนเดียวที่ไม่ตกเป็นทาสความสวยของเธอ ยิ่งทำให้อโฟร์ไดท์หลุ่มหลงชายผู้นี้เป็นอย่างมาก จนเกิดเป็นเรื่องเล่าที่ทำให้กุหลาบกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เช่น หลังจากอโดนิส (Adonis) ถูก “อาเรส” (Ares) คู่รักเก่าของอโรไดท์ในร่างหมูป่าฆ่าเพราะความหึงหวง น้ำตาของเธอไหลลงผสมกับเลือดของเขา หยดลงกลายเป็นดอกกุหลาบสีแดง บ้างก็ว่าอโฟร์ไดท์แทงตัวเองจนเลือดหยดลงสู่พื้นกลายเป็นกุหลาบ บ้างก็ว่านางรับไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียคนรักจึงเสกเลือดของอโดนิสให้กลายเป็นดอกไม้ ทำให้ชื่อแรกสุดของดอกไม้ชนิดนี้คือ “อโดนิส” หรือ “อะเนมโมนิ” (Anemone) (อโฟร์ไดท์กับอโดนิส) – “คลอริส” (Chloris) เทพธิดาแห่งดอกไม้ได้ยกเอาดอกกุหลาบเป็นราชินีของดอกไม้ ซึ่งต่อมาได้มอบกุหลาบให้แก่คิวปิดเทพเจ้าแห่งความรัก ทำให้กุหลาบถูกเชื่อมโยงไปกับเรื่องราวความรักไปในทันที – ในศาสนาคริสต์เชื่อว่าเลือดของพระเยซูในตอนที่ถูกตรึงอยู่บนไม้กางเขนได้หยดลงบนต้นหญ้ามอลส์เกิดเป็นต้นกุหลาบแดง เรียกกันว่ากุหลาบมอลส์ – ในประเทศไทยไม่มีระบุแน่ชัดว่ากุหลาบเข้ามาเป็นที่นิยมตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มีวรรณคดีเรื่อง “มัทนะพาธา” พระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นตำนานของดอกกุหลาบที่เกี่ยวกับข้องกับเรื่องของความงาม ความรัก ในปัจจุบันดอกไม้ที่มอบให้ระหว่างเทศกาลวาเลนไทน์มีความหลากหลายมากขึ้น ถ้าน้อง ๆ ยังสงสัยกันอยู่ทำไมต้องเป็นดอกไม้ จริง ๆ แล้วนะคะ มนุษย์ใช้ดอกไม้เป็นสื่อกลางแสดงความรักมานักต่อนักแล้วค่ะ อาจจะดอกรูปร่าง สีสัน และกลิ่นของมันทำให้เป้นสิ่งของที่ดีในการมอบให้แก่ใครสักคนค่ะ . ช็อกโกแลตกับวาเลนไทน์? นอกจากดอกกุหลาบแล้ว ช็อกโกแลตก็เป็นอีกหนึ่งของแทนใจยอดฮิตที่อาจจะมีน้อง ๆ บางคนลงทุนทำเองกับมือเพื่อมอบให้คนที่รักในวันวาเลนไทน์ใช่ไหมคะ ถ้าถามว่าช็อกโกแลตมีความเกี่ยวข้องยังไงกับเทศกาลแห่งความรักเช่นนี้ ก็คงต้องย้อนกลับในสมัยจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ช่วงที่ความรักของชายหญิงถือเป็นเรื่องต้องห้าม การเจอกันแต่ละครั้งจึงนิยมเอาของมามอบแทนความรัก ใช่แล้วค่ะ ของสิ่งนั้นก็คือช็อกโกแลต เพราะถือเป็นของหายากและมีราคาสูง ทำให้ช็อกโกแลตกลายเป็นของมีค่าที่คู่รักนิยมมอบให้แก่กันเพื่อแสดงความรักที่เต็มหัวใจค่ะ ในขณะเดียวกันก็มีบางคนเชื่อว่า การให้ช็อกโกแลตอาจเป็นเพียงการตลาดที่เกิดจาก Richard Cabury สมัยเพิ่งเข้าสืบทอดกิจการช็อกโกแลต Cabury ของประเทศอังกฤษ และด้วยความไฟแรงต้องการเพิ่มยอดขายของเขาทำให้เกิดการคิดค้นช็อกโกแลตรูปหัวใจ และออกแบบลวดลายบนกล่องให้มีรูปคิวปิดและดอกกุหลาบ แน่นอนว่าเป็นความคิดที่ประสบความสำเร็จและพลิกวงการของช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์มาจนถึงทุกวันนี้ . แหวน เครื่องประดับแทนใจของคู่รัก? ทำไมต้องใส่นิ้วนางข้างซ้าย? เมื่อเข้าร่วมพิธีแต่งงานกันทั้งฝ่ายจำเป็นที่จะสวมแหวนไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย ซึ่งกลายเป็นเครื่องประดับที่เราเห็นเมื่อไรก็ทราบได้ทันทีว่าคน ๆ นี้มีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว แล้วทำไมต้องเป็นแหวนล่ะ? การใส่แหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายมาจากชาวอียิปต์โบราณที่พบว่านิ้วนางข้างซ้ายเป็นนิ้วเดียวที่มีเส้นเลือดใหญ่วิ่งเข้าไปที่หัวใจ ซึ่งเรียกตามภาษาละตินว่า “เส้นเลือดแห่งความรัก” (Vena Amoris) จนกลายมาเป็นวัฒนธรรมที่คู่รักสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายเพราะเป็นตัวเชื่อมจากเส้นเลือดไปถึงหัวใจของทั้งสอง แต่ในสำหรับข้อเท็จจริงนะคะ ได้มีการพิสูจน์ในภายหลังว่าแต่ละนิ้วมีระบบเลือดไหลเวียนที่เหมือนกัน ทำให้นิ้วนางข้างขวามีการไหลเวียนของเลือดไม่ต่างจากนิ้วนางข้างซ้ายค่ะ . คำว่าแฟนมาจากไหน? แล้วก่อนหน้านี้ใช้คำว่าอะไร? คำว่า “แฟน” ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 (ออนไลน์) เป็นภาษาปาก หมายถึง ผู้นิยมชมชอบ เช่น แฟนเพลง แฟนภาพยนตร์ แฟนมวย, ผู้เป็นที่ชอบพอรักใคร่, คู่รัก, สามีหรือภรรยา. ซึ่งคำนี้มีที่มาจากคำในภาษาอังกฤษคือว่า “Fan” ย่อมาจาก “Fanatic” คลั่งไคล้ หลุ่มหลงในสิ่งใดมาก ๆ ถ้าเอาในยุคนี้ก็คงเหมือนกับคำว่า “คลั่งรัก” นั้นแหละค่ะ แล้วก่อนหน้าที่จะมีคำว่าแฟนล่ะ คนไทยใช้คำว่าอะไร? คนไทยใช้คำว่า “ชิ้น” แทนคู่รักในหน้าที่เดียวกับคำว่าแฟนเลยค่ะ ก่อนที่หลังสมัย พ.ศ. 2490 คนไทยจะเปลี่ยนมาใช้คำว่าแฟนตามปัจจุบันอ้างจากหนังสือมหาเหตุประเทศสยาม เล่ม 1 ของเอนก นาวิกมูลที่เขียนในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งอธิบายไว้ “แฟน” ไว้ว่าเป็นคำที่คนไทยในสมัยนั้นใช้กันอย่างแพร่หลาย ฟุ่มเฟื่อย . วันวาเลนไทน์เข้ามาในไทยเมื่อไหร่? วันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรักซึ่งมาจากวัฒนธรรมของต่างประเทศ ซึ่งเข้ามามีบทบาทในไทยในสมัยสงครามเวียดนาม ราวปี พ.ศ. 2508 – 2509 สหรัฐอเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพในเมืองไทยหลายแห่ง เช่น อุดรธานี มีผู้หญิงหลายคนในบริเวณฐานทัพรับเอาวันวาเลนไทน์นี้เข้ามา จนกระทั่งห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เป็นผู้ริเริ่มการจัดประเพณีวาเลนไทน์ในห้าง บ้างก็ว่ามาจากพนักงานที่ไปเรียนต่างประเทศมา บ้างก็ว่าเป็นลูกหลานของเจ้าของห้างแห่งนั้น ทำให้หลังจาก พ.ศ. 2510 ห้างสรรพสินค้าเกือบทุกแห่งนับเอาเทศกาลวันวาเลนไทน์มาเป็นอีกหนึ่งอีเวนต์หลักของทุกปีเลยก็ว่าได้ค่ะ . วันแห่งความรักของไทย ถึงแม้ว่าวันวาเลนไทน์จะเป็นวันแห่งความรักที่รู้จักกันเป็นสากล และได้รับความนิยมในทุกหนแห่งไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย แต่ประเทศไทยก็มีวันแห่งความรักเช่นกันค่ะ แต่อิงตามศาสนาพุทธนั้นก็คือ “วันมาฆบูชา” ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 โดยอ้างจากเหตุการณ์โอวาทปาฎิโมกข์ซึ่งถือเป็นวันแสดงความรักของพระพุทธเจ้าโดยการเทศนา เป็นความรักในแบบของการเมตตา และปรารถนาดีต่อผู้อื่นค่ะ . จบกันไปแล้วนะคะสำหรับเรื่องราวของวันแห่งความรักแบบนี้ ไม่ว่าจะความรักแบบไหนก็สวยงามไม่แพ้กันนะคะ แต่อีกหนึ่งคนสำคัญที่พี่ออมอยากให้น้อง ๆ รักก็คือตัวน้อง ๆ เองค่ะ อย่ามองข้ามการรักตัวเองค่ะ ความรักในรูปแบบนี้นับว่าเป็นความรักที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะการรักตัวเองจะทำให้น้อง ๆ มีความสุขกับชีวิตในแต่ละวัน และไม่ว่าน้อง ๆ จะรักใคร สิ่งที่สำคัญก็อย่ารักจนไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น หรือทำให้ผู้ใดเป็นทุกข์ แม้กระทั่งตัวเราเองนะคะ 🙂 EZ Webmaster Related Posts มทร.ธัญบุรี โชว์ผลงานเด่น คว้า 12 รางวัลเวทีนวัตกรรมระดับนานาชาติ เซี่ยงไฮ้ 2025 มธ. ปักหมุดหลักสูตร ‘AI Ethics’ หนุนบริบทใหม่ของห้องเรียนทันโลก สร้างจุดยืนคนรุ่นใหม่ ‘ใช้เอไออย่างมีจริยธรรม’ พร้อมเดินหน้าวางหมุดหมายระบบการศึกษาไทย กับการปลุกการใช้เทคฯ คู่ธรรมาภิบาล คาดเริ่มเปิดลงทะเบียนพร้อมเรียนจริง สิงหาคม 68 นี้ สสวท. เชิญใช้ฟรี “คลังคำศัพท์” รับเปิดเทอมใหม่ มัดรวมศัพท์ในหนังสือเรียนวิชาที่ สสวท. พัฒนา สจล. เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน 11 สาเหตุลึกซึ้ง ทำไมการศึกษาไทยยังตกต่ำ? เสียงสะท้อนจากครูชนบท สู่คำถามใหญ่ของสังคม Post navigation PREVIOUS Previous post: กมธ. อุดมศึกษาฯ วุฒิสภา ดูงานและติดตามความคืบหน้าชุดโครงการวิจัยการพัฒนาต้นแบบการจัดการเกษตรผสมผสาน และการจัดการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนวัตวิถีเชิงสร้างสรรค์ จังหวัดแพร่NEXT Next post: มหาวิทยาลัยนเรศวร ประกาศรับ #TCAS66 รอบ 2 #QUOTA แพทยศาสตรบัณฑิต #ผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
ทุนMaster of Education InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 17, 2025 International Welcome Scholarships in Master of Education หรือทุนเรียนปริญญาโททางด้านการศึกษา สำหรับผู้เรียนจากนานาชาติ โดย Murdoch University ประเทศออสเตรเลีย ทุนมีมูลค่าเป็นส่วนลดค่าเรียน 25% เปิดรับใบสมัครถึง 30 สิงหาคม… 8 ทุนป.ตรีรัฐบาลคูเวต InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 15, 2025 ทุนการศึกษารัฐบาลรัฐคูเวต สำหรับนักเรียนไทยเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ณ มหาวิทยาลัคูเวต (Kuwait University) ประจำปีการศึกษา ค.ศ. 2025–2026 จำนวน 8 ทุน เปิดรับใบสมัครถึง 18 มิถุนายน 2025 โดยในจำนวนทุนที่ให้เป็นในคณะวิศวกรรมศาสตร์และปิโตรเลียม จำนวน 6 ทุน และคณะศิลปะศาสตร์(คณะชารีอะห์และอิสลามศึกษา/คณะครุศาสตร์ / สังคมศาสตร์ / อักษรศาสตร์)…
8 ทุนป.ตรีรัฐบาลคูเวต InterScholarship ข่าวทุนการศึกษา เรียนต่อต่างประเทศJune 15, 2025 ทุนการศึกษารัฐบาลรัฐคูเวต สำหรับนักเรียนไทยเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ณ มหาวิทยาลัคูเวต (Kuwait University) ประจำปีการศึกษา ค.ศ. 2025–2026 จำนวน 8 ทุน เปิดรับใบสมัครถึง 18 มิถุนายน 2025 โดยในจำนวนทุนที่ให้เป็นในคณะวิศวกรรมศาสตร์และปิโตรเลียม จำนวน 6 ทุน และคณะศิลปะศาสตร์(คณะชารีอะห์และอิสลามศึกษา/คณะครุศาสตร์ / สังคมศาสตร์ / อักษรศาสตร์)…
มทร.ธัญบุรี โชว์ผลงานเด่น คว้า 12 รางวัลเวทีนวัตกรรมระดับนานาชาติ เซี่ยงไฮ้ 2025 tui sakrapeeJune 19, 2025 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) สร้างชื่อระดับโลก เวที “The 8th China (Shanghai) International Invention & Innovation Expo 2025” คว้ารางวัลรวม 12 รายการ ตอกย้ำศักยภาพ… สจล. เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน EZ WebmasterJune 19, 2025 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ทางวิชาการกับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีความร่วมมือกันมานานกว่า 20 ปี เพื่อหารือขยายความร่วมมือเชิงลึกในสาขาวิศวกรรมขั้นสูง โดยเฉพาะด้าน Aerospace, Mechatronics, Automation และ Astronautics ซึ่ง HIT ถือเป็นสถาบันชั้นนำของจีนในด้านนี้ พร้อมทั้งหารือแนวทางความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนนักศึกษา นักวิจัย และการพัฒนาโครงการ Joint Degree ในอนาคต รองศาสตราจารย์… อธิการบดีนำทีมกรรมการส่งเสริมฯ สวนสุนันทา เยี่ยมชมโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำ เมืองชิงเต่า สาธารณรัฐประชาชนจีน มุ่งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้สู่มาตรฐานโลก tui sakrapeeJune 18, 2025 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา นำโดย รศ.ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ อธิการบดี พร้อมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย เดินทางเยือนโรงเรียนนานาชาติ Qingdao No.1 International School of Shandong Province (QISS) และ Qingdao University… กองกลาง มจพ. เยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ และจัดสัมมนาจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรรายบุคคล ประจำปี 2568 EZ WebmasterJune 18, 2025 ผศ.ดร.สราวุฒิ สืบแย้ม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการคลังและกิจการทั่วไป มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วยนางสาวรัตนา สุขเฉลิมศรี ผู้อำนวยการกองกลาง และบุคลากรกองกลาง เข้าเยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ มจพ. ณ ชั้น 3 สำนักงานหอสมุดกลาง โดยมีนางสาวพนารมย์ เกียรติลีลานันท์ และ… กิจกรรม กองอาคาร มจพ. จับมือสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพฯ อบรมการจัดการคัดแยกขยะมูลฝอยภายในหน่วยงาน EZ WebmasterJune 18, 2025 ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ นายกสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วยศ.ดร.ธานินทร์ ศิลป์จารุ อธิการบดี ร่วมพิธีโครงการอบรม เรื่อง การคัดแยกขยะมูลฝอยภายในหน่วยงาน โดยมี รศ.ดร.ณัฐพงศ์ มกระธัช รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนากิจการมหาวิทยาลัยเพื่อความยั่งยืน กล่าวเปิดการอบรม รศ.ดร.ศักดา กตเวทวารักษ์… “40 ปี เภสัชศิลปากร” หลากวงการ ร่วมแสดงความยินดี สู่บทบาทผู้นำด้านวิชาชีพเภสัชกรรม วิจัยนวัตกรรม และการสร้างสุขภาพอย่างยั่งยืน EZ WebmasterJune 13, 2025 วันที่ 6 มิถุนายน 2568 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งการสถาปนาอย่างสมเกียรติ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม ภายใต้ชื่องาน “Celebrating the 40th Anniversary:… ดีพร้อม ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้ายกระดับร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย หวังสร้างรายได้ชุมชนสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก EZ WebmasterJune 13, 2025 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้า “โครงการพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย (Local Chef Restaurant) ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก” ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” มุ่งหวังยกระดับร้านอาหารท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ โดดเด่น และสามารถแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ และการสร้างให้เกิดเครือข่ายเชฟชุมชนที่เข้มแข็ง และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น… ถอดแนวคิดความมั่นคงชายแดนจากมุมมอง นักศึกษา “วปอ.บอ.” 4 ด้าน สังคม-เศรษฐกิจ-การเมือง-การทหาร ร่วมสะท้อนเส้นแบ่งแห่งโอกาสและอนาคตร่วมกัน EZ WebmasterJune 10, 2025 ชายแดนไทย-เมียนมา ที่ทอดยาวกว่า 2,400 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของไทย ตั้งแต่เชียงรายไปจนถึงและระนอง ไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นแบ่งระหว่างรัฐ แต่คือเส้นเขตแดนที่เชื่อมโยงผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ วัฒนธรรม เครือข่ายเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาอย่างยาวนาน แต่ภายหลังสถานการณ์การเมืองในเมียนมาตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา พื้นที่ที่เคยเต็มไปด้วยโอกาสนี้ กลับกลายเป็นความท้าทายที่ส่งผลกระทบบางประเด็นมาถึงประเทศไทย ดังนั้น การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนจึงไม่ใช่เพียงแค่ภารกิจของกองทัพในเรื่องการปกป้องพรมแดนเท่านั้น แต่เป็นโจทย์เชิงยุทธศาสตร์ที่ต้องผสมผสานความเข้าใจในพื้นที่ สังคม วัฒนธรรม ผู้คน เศรษฐกิจ… Search for: Search EZ Webmaster February 13, 2023 EZ Webmaster February 13, 2023 กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! เทศกาลแห่งความรักวนกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็ต้องเคยมีความรักกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ ความรักที่พี่ออมพูดถึงนั้นไม่ได้หมายถึงแค่ในรูปแบบคนรักเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความรักแบบครอบครัว แบบเพื่อน หรือแบบอื่น ๆ วันนี้นะคะพี่ออมจะมาเล่าประวัติวันแห่งความรักว่ามีที่มายังไงแล้วทำไมถึงกลายเป็นวันสำคัญอย่างเช่นทุกวันนี้ได้ ไปดูกันเลย! . แต่เดิมวันที่ 14 กุมภาพันธ์ไม่ได้เป็นที่รู้จักในชื่อวันวาเลนไทน์หรือเทศกาลแห่งความรักอย่างเช่นทุกวันนี้ ในช่วงจักรวรรดิโรมัน วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันหยุดเพื่อให้เกียรติแด่เทพีจูโน ซึ่งถือเป็นราชินีของบรรดาเทพเจ้าโรมัน และชาวโรมยังเชื่อว่าเธอเป็นผู้ปกป้องผู้หญิง ทั้งชีวิตแต่งงาน เวลาคลอดบุตร จึงถือว่าเทพีจูโนเป็นเทพีแห่งผู้หญิงและการแต่งงาน (เทพีจูโน) . ถ้าถามว่าแล้วยุคนั้นมีการเฉลิมฉลองเกี่ยวกับความรักไหม? มีค่ะ ถึงแม้ว่าในสมัยนั้นวิถีชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน แต่ก็ยังมีเทศกาลคล้ายกับวันวาเลนไทน์อย่าง “ลูเพอร์คาร์เลีย” หรือ “ลูเปอร์คาลีอา” เป็นประเพณีเพื่อระลึกถึงโรมิวลุสและเรมุสซึ่งเชื่อกันว่าเป็นฝาแฝดผู้ก่อตั้งกรุงโรม จัดในระหว่างวันที่ 13 – 15 กุมภาพันธ์ แต่เทศกาลวาเลนไทน์เดิมนี้ไม่ได้สวยงามอย่างวาเลนไทน์ในปัจจุบันนะคะเพราะการเฉลิมฉลองในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างโหดร้ายเลยก็ว่าได้ค่ะ เริ่มตั้งแต่การสังเวยแพะ แกะ สุนัข โดยสุนัขต้องเป็นลูกสุนัขตัวเล็กน่ารัก ๆ เท่านั้น วิธีการคือนำสัตว์เหล่านี้เข้าไปในถ้ำก่อนที่จะรุมฆ่ามันอย่างไร้ปราณี ไม่หยุดอยู่เพียงการสังหารสัตว์เท่านั้น หลังจากที่ฆ่าสัตว์แล้ว นักบวชจะนำเลือดจากมีดที่เพิ่งฆ่าสัตว์ไปก่อนหน้านี้มาป้ายลงบนศีรษะของเด็กหนุ่มจากตระกูลผู้ดีสองคน จากนั้นก็นำขนสัตว์มาชุบด้วยน้ำนมเพื่อเช็ดศีรษะอีกครั้งพร้อมบังคับให้เด็กทั้งสองหัวเราะออกมาอย่างสุดเสียงในถ้ำมืด ๆ ก่อนจะให้พวกเขาแก้ผ้าพร้อมมอบอาวุธเป็นแส้หนังแพะ แส้หนังแพะนี้เรียกว่า “Februare” มาจาก “February” หรือเดือนกุมภาพันธ์นั่นเองค่ะ โดยตามความเชื่อของคนในสมัยถือว่ากิจกรรมทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นการชำระจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ หลังจากนั้นจะมีเด็กหนุ่มผู้ดีมากมายพร้อมใจกันแก้ผ้าทาน้ำมันตามตัวถือแส้หนังแพะไว้ในมือ ก่อนกวาดสายตาวิ่งฟาดผู้หญิงที่เข้าร่วมงาน น้อง ๆ อาจจะเอ๊ะขึ้นมาว่าแล้วผู้หญิงไม่ทำอะไรกลับหรอ? ต้องบอกก่อนว่าแม้พวกเธอจะเหมือนวิ่งหนีแต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้หญิงเหล่านั้นต่างยินยอมที่จะถูกตีค่ะ เพราะเชื่อกันว่าหนังสัตว์เหล่านั้นจะทำให้พวกเธอสืบพันธุ์และมีลูกได้ (เด็กหนุ่มเอาแส้แพะไล่ฟาดหญิงสาว) . พิธีกรรมแปลก ๆ ตามมุมมองของคนปัจจุบันอย่างเรายังมีอีกนะคะ แน่นอนว่าเทศกาลแบบนี้ต้องมีอาหารกินเลี้ยงเหมือนประเพณีอื่น ๆ ต่างกันตรงที่ในเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียนี้ นักบวชจะแขวนเครื่องในแพะบนต้นวิลโลว์ หรือ ต้นหลิว (Willow) เพื่อให้คนนำมาทำอาหารพร้อมทั้งทำเค้กเกลือ ที่คล้ายกับแพนเค้กไปย่างเกลือทำให้ออกรสชาติเค็ม ๆ ไหม้ ๆ ทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นเมนูยอดฮิตประจำเทศกาลนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีการแต่งเพลงโดยนำเอาพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของผู้อื่นมาขับร้องเป็นเนื้อเพลงเพราะเชื่อกันว่าความอับอายจะช่วยให้ผู้คนประพฤติตัวดีขึ้น แต่แน่นอนว่ากิจกรรมนี้ดูเหมือนจะให้ผลเสียมากกว่า เป็นเรา เราก็คงไม่พอใจที่คนอื่นเอาเรื่องราวของเรามาป่าวประกาศใช่ไหมคะ อีกหนึ่งกิจกรรมเด่นที่เป็นตัวชูโรงทำให้เทศกาลนี้ถูกมองว่าเป็นวาเลนไทน์เดิมคือวันก่อนงานเทศกาล จะมีการจับสลากของหนุ่มสาวเพื่อจับคู่เที่ยวตลอดงาน เล่ากันว่าฝ่ายหญิงจะเขียนชื่อของตนและใส่ไปในเหยือกหรือโถ ก่อนฝ่ายชายจะเป็นผู้จับฉลากชื่อนั้นขึ้นมา แน่นอนว่างานเทศกาลนี้ทำให้หนุ่มสาวหลายคู่เกิดพบรักกันและสานต่อความสัมพันธ์กัน ภายหลังวิธีการจับสลากแบบนี้ถูกเรียกว่า “สลากรัก” หรือ “สลากลูเปอร์คาลีอา” พูดง่าย ๆ ก็คงคล้ายกับการนัดบอดในยุคนี้แหละค่ะ น้อง ๆ อาจจะกำลังคิดว่ากิจกรรมหลังนี้ดูจะปกติดีใช่ไหมคะ แต่ไม่เลยค่ะ บางแห่งเล่าว่าการเขียนชื่อลงในเหยือกหรือโถนั้นไม่ได้ทำเพื่อให้หนุ่มสาวได้ทดลองใช้เวลาร่วมกันแต่เพื่อมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ไม่มีการเดท ไม่มีการพูดคุย ไม่มีความรักมาเกี่ยวข้อง เป้าหมายมีเพียงการเพศสัมพันธ์และให้ผู้หญิงตั้งครรภ์เท่านั้น ซึ่งหากไม่สำเร็จตามเป้าหมายก็สามารถกลับมาใหม่ได้ในปีถัดไป แต่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าจะต้องคู่กับผู้ชายคนเดิม หรือเริ่มจับสลากกันใหม่ในทุกปีค่ะ . ต่อมาในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ศาสนาคริสต์กลายมาเป็นศาสนาหลักของกรุงโรม สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสเข้ามามีบทบาทและตัดสินว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียและเทศกาลอื่น ๆ เป็นเทศกาลของลัทธินอกรีต อีกทั้งยังผิดศีลธรรม ในราว ค.ศ. 500 ซึ่งจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ก็เห็นดีเห็นงามเนื่องจากเป็นบุคคลที่มีจิตใจดุร้าย ชื่นชอบการทำสงคราม การนองเลือด และมองว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียจะทำให้ผู้ชายไม่อยากเข้าร่วมกองทัพ เพราะไม่อยากจากคนรักหรือครอบครัวไป ทำให้เกิดเป็นคำสั่งห้ามไม่ให้มีการจัดพิธีหมั้นและพิธีแต่งงานกันในโรมอย่างเด็ดขาด สลากที่เคยเป็นสื่อกลางแห่งความรักถูกปรับเปลี่ยนเป็นสลากนักบุญ จากการจับชื่อหญิงสาวในโถกลายเป็นการจับชื่อนักบุญแทน หากชายหนุ่มจับได้ชื่อนักบุญท่านไหนก็ต้องใช้ชีวิต ศึกษา เรียนรู้ตามวิถีชีวิตของนักบุญท่านนั้น (จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2) . มาถึงตรงนี้น้อง ๆ คงจะเริ่มสงสัยกันแล้วว่าตกลงแล้ววันวาเลนไทน์ที่เป็นวันแห่งความรักจะเริ่มต้นที่ตรงไหน? ในระหว่างนี้เองที่มีนักบุญผู้ลือกันว่าหน้าตาหล่อเหลา งดงาม ชื่อว่า “เซนต์วาเลนไทน์” หรือ “วาเลนตินัส” มีความเห็นอกเห็นใจในคู่รัก จึงแอบร่วมมือกับ “เซนต์มาริอัส” จัดพิธีแต่งงานลับ ๆ ให้แก่ชาวคริสต์หลายคู่ ทั้งพิธีจะมีเพียงเจ้าบ่าว เจ้าสาว และบาทหลวงเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง ทหารของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ได้เข้ามาเห็นพิธี ส่งผลให้เซนต์วาเลนไทน์ถูกควบคุมตัวไปลงโทษอย่างสาหัส เหล่าคู่รักที่เคยเข้าร่วมพิธีแต่งงานกับเขาผลัดกันมาเยี่ยมนักบุญท่านนี้อยู่เสมอ และขณะที่เป็นนักโทษ เขาก็ยังคงส่งคำอวยพรออกไปนอกคุกอยู่เสมอ เชื่อกันว่าตอนอยู่ในคุกนั้น เซนต์วาเลนไทน์ได้รับคำขอให้ช่วยรักษาลูกสาวตาบอดของผู้คุมแอสทีเรียสที่ชื่อว่า “จูเลีย” ทั้งสองต่างตกหลุมรักกันระหว่างการรักษา จนกระทั่งจูเลียกลับมามองเห็นได้ปกติ เธอก็มักจะมาเยี่ยมเยียนเซนต์วาเลนไทน์อยู่เสมอ คืนก่อนที่เซนต์วาเลนไทน์จะถูกประหารด้วยการตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลียโดยลงท้ายว่า “From Your Valentine” เป็นอันปิดตำนานของเซนต์วาเลนไทน์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ด้วยวัยเพียง 47 ปี (เซนต์วาเลนไทน์และจูเลีย) . ศพของเซนต์วาเลนไทน์ได้ถูกจัดเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม โดยจูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอนด์สีชมพูไว้ใกล้หลุมศพของเขา โดยเหตุนี้เอง “ดอกอัลมอนด์สีชมพู” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งวันวาเลนไทน์ ความรักนิรันดร์ ไม่ใช่ดอกกุหลาบอย่างที่น้อง ๆ หลายคนเข้าใจกัน แต่ดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพและการแบ่งใจน้ำใจค่ะ (ดอกอัลมอนด์สีชมพู) . แม้เรื่องเล่าความรักของนักบุญวาเลนไทน์ข้างต้นจะเป็นที่โด่งดัง แต่ยังมีหลายแห่งที่มีเรื่องเล่าในรูปแบบที่ต่างกัน เล่ากันว่า “วาเลนตินุส” หรือ “วาเลนไทน์” มี 2 ท่าน คือ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งโรม” และ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งเทอร์นี” ทั้งสองพลีชีพเพื่อศาสนา ก่อนที่เรื่องราวจะถูกแต่งเติมจนกลายเป็นเรื่องราวความรักของนักบุญวาเลนไทน์ โดยคาดเดากันว่าน่าจะถูกแต่งขึ้นในช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 5 – 6 ใช้ชื่อผลงานว่า Passio Marii et Marthae ดังที่พี่ออมได้เล่าให้ฟังไปข้างต้นค่ะ . ด้วยเหตุการณ์นี้ เรื่องราวโรแมนติกอันสงสารของทั้งคู่ทำให้เซนต์วาเลนไทน์กลายเป็นนักบุญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ตั้งแต่เมื่อ ค.ศ. 496 สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสที่ 1 กำหนดให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักและมีการปรับเปลี่ยนชื่อวันแห่งความรักเป็น “วันวาเลนไทน์” ตามชื่อตามชื่อนักบุญค่ะ แต่ก็ถูกตัดออกจากปฏิทินโรมันทั่วไปและให้ไปอยู่ในปฏิทินเฉพาะซึ่งถือเป็นเพียงปฎิทินท้องถิ่นหรือปฎิทินประจำชาติโดยสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 ในปี ค.ศ. 1969 เพราะเห็นว่านอกจากชื่อของเซนต์วาเลนไทน์แล้วก็ไม่มีข้อมูลนอกเหนือจากว่าศพของเขาถูกฝังไว้ที่เวียฟลามิเนียเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ แต่ถึงอย่างนั้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ก็ได้กลายเป็นวันแห่งความรักของสากลอย่างเช่นทุกวันนี้ค่ะ . นอกจากจะเล่าที่มาของวันวาเลนไทน์แล้ว วันนี้พี่ออมก็ยังมีเกร็ดเล็ก ๆ ที่น่าจะพอคลายความสงสัยของน้อง ๆ เกี่ยวกับวาเลนไทนและความรักกันได้ค่ะ . สัญลักษณ์รูปหัวใจมาจากไหน ? ถ้าพูดถึงเรื่องของความรักก็เป็นไปไม่ได้เลยนะคะที่จะไม่พูดถึงรูปร่างหัวใจ แล้วรูปร่างหัวใจนี้มาจากไหนกันล่ะ? น้อง ๆ อาจจะเดากันว่าก็มาจากหัวใจมนุษย์จริง ๆ นี่ คำตอบนี้ก็ถูกต้องค่ะแต่ไม่ใช่เพียงคำตอบเดียวเท่านั้น ที่มาของรูปหัวใจถูกแบ่งออกเป็น 2 ทฤษฎีหลัก ๆ ค่ะ – ทฤษฎีแรกคือรูปร่างหัวใจมาจากอวัยวะ ซึ่งก็คือหัวใจมนุษย์จริง ๆ เริ่มจากนักปราชญ์ของกรีก “อริสโตเติล” (Aristotle) และแพทย์ชาวโรมัน “กาเลน” (Galen) ทั้งสองได้ศึกษาระบบร่างกายมนุษย์และโครงสร้างของของสิ่งมีชีวิตหรือที่เรียกกันว่ากายวิภาคศาสตร์นั้นแหละค่ะ ทั้งสองได้บันทึกและวาดรูปหัวใจของมนุษย์ไว้ (รูปวาดหัวใจของอริสโตเติลและกาเลน) จนในช่วงศตวรรษที่ 14 ชาวยุโรปได้เริ่มศึกษากายวิภาคของมนุษย์ และนำรูปหัวใจที่อริสโตเติลและกาเลนวาดมาอ้างอิง พร้อมทั้งเชื่อว่าหัวใจเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก อารมณ์ และความรัก ทำให้ถูกดัดแปลงกลายมาจากหัวใจของคนสองคนมาประกบกัน จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แต่ก็ยังมีผู้ถกเถียงว่ารูปร่างหัวใจมาจากร่างกายมนุษย์จริง แต่อาจถูกสร้างตามสรีระของร่างกายในส่วนของบั้นท้ายค่ะ – ทฤษฎีที่ 2 นั้นเชื่อกันว่ารูปหัวใจมาจากพืช เป็นพืชโบราณที่ชื่อว่า “ซิลเฟียม” หรือ “ซิลฟีเนียม” (Silphium) เป็นดอกไม้ในตระกูลยี่หร่า โดยผลของดอกมันมีลักษณะคล้ายกับรูปหัวใจในปัจจุบัน แล้วทำไมถึงเลือกเอาผลของพืชชนิดนี้มาเป็นสัญลักษณ์? เพราะว่าในสมัยก่อนซิลเฟียมเติบโตบริเวณชายฝั่งแอฟริกาเหนือใกล้กับคิวเรเนหรือซิเรเน (Cyrene) ซึ่งเป็นเมืองกรีกโบราณโดยพืชชนิดนี้ถูกใช้เป็นเครื่องเทศ และใช้ในการคุมกำเนิดของคนในสมัยนั้นอีกด้วยค่ะ (ผลของดอกซิลเฟียม) แต่ก็มีการเสนอความเห็นกันว่ารูปหัวใจอาจจะมาจากต้นไอวี ในช่วงศตวรรษที่ 4 ใบของมันถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของสถานที่ซื้อขายเพศสัมพันธ์ในเมืองเอฟิซัส (Ephesus) ตั้งอยู่ที่ประเทศตุรกีในปัจจุบัน ด้วยเหตุผลที่ว่าต้นไอวีเป็นสัญลักษณ์ของเทพไดโอนิซัส (Dionysus) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งไวน์ ความอิ่มเอมทั้งกายใจ ต่อมาต้นไอวีจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการมีเพศสัมพันธ์ของคนในสมัยนั้นไปโดยปริยาย ในอีกแง่คือไอวีถือเป็นพืชที่มีความเขียวสดอยู่ตลอดทั้งปีจึงถูกใช้แทนความหมายในเรื่องของความซื่อสัตย์ ความมั่นคงในเรื่องของความรัก จนถูกนำมารวมกับสีแดงซึ่งเป็นสีแห่งความรักจนกลายเป็นรูปหัวใจในที่สุดค่ะ (ใบเถาของต้นไอวี) . เทพเจ้าแห่งความรักมีแต่คิวปิดหรอ? หากพูดถึงเทพเจ้าแห่งความรักแล้ว น้อง ๆ อาจมีภาพเด็กผู้ชายถือธนูอยู่ ในความคิด ความเป็นจริงแล้วยังมีเทพเจ้าอีกหลายองค์ที่ถูกนับว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรักค่ะ – “อโฟรไดท์” (Aphrodite) หรือ “วีนัส” (Venus) เทพีแห่งความรัก ความงาม และเพศสภาพของกรีก อโฟรไดท์มีความสามารถในการสะกดจิต ทำให้ผู้อื่นหลุ่มหลงในความงามของนาง ตามตำนานกรีกแล้วอโฟรไดท์ถือเป็นเทพีที่มีอารมณ์รุนแรงและมีเพศสัมพันธ์กับเทพหลายองค์ แม้กระทั่งกับคนธรรมดา ซึ่งอโฟรไดท์มีศักดิ์เป็นแม่แท้ ๆ ของคิวปิด (อโฟรไดท์หรือวีนัส) – “คิวปิด” (Qupid) หรือ “อีรอส” (Eros) เทพเจ้าแห่งความรัก ความปรารถนาของกรีก แท้จริงแล้วคิวปิดเป็นเทพแห่งความรักแบบกามอารมณ์ ไม่ใช่แบบบริสุทธิ์อย่างที่ทุกคนเข้าใจค่ะ คิวปิดถือเป็นเทพที่รูปร่างหน้าตาดีที่สุด อีกทั้งยังมีความสามารถในการยิงธนูที่สั่งให้ใครรักใครก็ได้ และอีกด้านของธนูสามารถยิงให้คนเกลียดกันได้ คิวปิดตกหลุมรักไซคีตอนที่อโฟรไดท์สั่งเขาไปยิงธนูให้ไซคีไปรักกับผู้ชายไม่ดี เพราะผู้คนหลงในความงามของไซคีจนลืมบูชาเทพแห่งความงามอย่างอโฟรไดท์ คิวปิดตะลึงในความงามของไซคีจนทำธนูทิ่มมือตัวเอง ทำให้ต่อมาทั้งสองได้ครองรักกันภายใต้เงื่อนไขที่ว่าไซคีต้องห้ามแอบมองว่าหน้าตาคิวปิดเป็นอย่างไร แต่ด้วยคำยุยงจากพี่สาวที่อิจฉาชีวิตของไซคีทำให้ไซคีแอบดู เป็นเหตุทำให้คิวปิดจากไปพร้อมบอกว่า “ความรักไม่อาจดำรงอยู่ได้ ถ้าปราศจากความไว้วางใจ” แม้ในท้ายที่สุดทั้งสองจะได้ครองรักกันแต่เรื่องราวของไซคีกับคิวปิดจึงกลายเป็นตัวแทนและคำสอนเกี่ยวกับความรักเรื่องของความเชื่อใจ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน (คิวปิดและไซคี) – แฮธอร์ (Hathor) เทพีแห่งความรัก ความสุข การแต่งงาน การเต้นรำ และความงดงามของอียิปต์ เชื่อกันว่านางเป็นผู้ควบคุมระบบการสืบพันธุ์ของมนุษย์ เป็นผู้ให้เสน่ห์แก่ผู้หญิง และทำให้เกิดอารมณ์ปรารถนา เป็นผู้ควบคุมเพศสัมพันธ์ มีอำนาจทำให้มนุษย์เสื่อมสมรรถภาพหรือหายจากอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ ทำให้เทวสถานของนางส่วนใหญ่เปิดรับคู่รักทุกเพศ ทุกวรรรณะเพราะพระนางชื่นชอบการแต่งงาน และความรักที่สมหวังเป็นอย่างมาก (แฮธอร์) – อินันนา (Inanna) เทพีความรัก ความงาม เพศ สงคราม ความยุติธรรม และอำนาจทางการเมืองของเมโสโปเตเมีย เชื่อกันว่านางมีหน้าที่ให้กำเนิดความรักและความต้องการทางเพศ และถูกมองว่าเป็นเทพีผู้บริสุทธิ์ (อินันนา) – เฟรย่า (Freyja) เทพีแห่งความรัก ความงาม เพศสัมพันธ์ ความอุดมสมบูรณ์ และความตายตามตำราของนอร์ส เล่ากันว่านางเป็นเทพีที่งดงามที่สุดในแอสการ์ด มีทั้งด้านที่อ่อนหวานและดุดัน (เฟรย่า) ยังมีเทพอีกหลายอันที่พี่ออมยังไม่ได้พูดถึงนะคะ แต่น้อง ๆ อาจจะสังเกตได้ว่าเทพแห่งความรักส่วนใหญ่มักเป็นผู้หญิง และมีการผูกเข้ากับเรื่องของอารมณ์ เพศสัมพันธ์และความงามค่ะ . ทำไมต้องให้ดอกกุหลาบในวันวาเลนไทน์? ช่วงวาเลนไทน์เป็นช่วงที่ดอกไม้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โดยเฉพาะกับดอกกุหลาบ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เจอเต็มไปหมด จริง ๆ แล้วนะคะธรรมเนียมการให้ดอกกุหลาบมาจากหลายตำนาน – เรื่องเล่าหลายเรื่องมักมีการเชื่อมโยงระหว่างกุหลาบกับอโฟรไดท์ โดยเป็นเรื่องราวของอโดนิสที่เชื่อกันว่าเป็นคนที่อโฟร์ไดท์รักที่สุดในบรรดาชายที่เธอเคยข้องเกี่ยวมา ยิ่งอโดนิสเป็นชายคนเดียวที่ไม่ตกเป็นทาสความสวยของเธอ ยิ่งทำให้อโฟร์ไดท์หลุ่มหลงชายผู้นี้เป็นอย่างมาก จนเกิดเป็นเรื่องเล่าที่ทำให้กุหลาบกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เช่น หลังจากอโดนิส (Adonis) ถูก “อาเรส” (Ares) คู่รักเก่าของอโรไดท์ในร่างหมูป่าฆ่าเพราะความหึงหวง น้ำตาของเธอไหลลงผสมกับเลือดของเขา หยดลงกลายเป็นดอกกุหลาบสีแดง บ้างก็ว่าอโฟร์ไดท์แทงตัวเองจนเลือดหยดลงสู่พื้นกลายเป็นกุหลาบ บ้างก็ว่านางรับไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียคนรักจึงเสกเลือดของอโดนิสให้กลายเป็นดอกไม้ ทำให้ชื่อแรกสุดของดอกไม้ชนิดนี้คือ “อโดนิส” หรือ “อะเนมโมนิ” (Anemone) (อโฟร์ไดท์กับอโดนิส) – “คลอริส” (Chloris) เทพธิดาแห่งดอกไม้ได้ยกเอาดอกกุหลาบเป็นราชินีของดอกไม้ ซึ่งต่อมาได้มอบกุหลาบให้แก่คิวปิดเทพเจ้าแห่งความรัก ทำให้กุหลาบถูกเชื่อมโยงไปกับเรื่องราวความรักไปในทันที – ในศาสนาคริสต์เชื่อว่าเลือดของพระเยซูในตอนที่ถูกตรึงอยู่บนไม้กางเขนได้หยดลงบนต้นหญ้ามอลส์เกิดเป็นต้นกุหลาบแดง เรียกกันว่ากุหลาบมอลส์ – ในประเทศไทยไม่มีระบุแน่ชัดว่ากุหลาบเข้ามาเป็นที่นิยมตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มีวรรณคดีเรื่อง “มัทนะพาธา” พระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นตำนานของดอกกุหลาบที่เกี่ยวกับข้องกับเรื่องของความงาม ความรัก ในปัจจุบันดอกไม้ที่มอบให้ระหว่างเทศกาลวาเลนไทน์มีความหลากหลายมากขึ้น ถ้าน้อง ๆ ยังสงสัยกันอยู่ทำไมต้องเป็นดอกไม้ จริง ๆ แล้วนะคะ มนุษย์ใช้ดอกไม้เป็นสื่อกลางแสดงความรักมานักต่อนักแล้วค่ะ อาจจะดอกรูปร่าง สีสัน และกลิ่นของมันทำให้เป้นสิ่งของที่ดีในการมอบให้แก่ใครสักคนค่ะ . ช็อกโกแลตกับวาเลนไทน์? นอกจากดอกกุหลาบแล้ว ช็อกโกแลตก็เป็นอีกหนึ่งของแทนใจยอดฮิตที่อาจจะมีน้อง ๆ บางคนลงทุนทำเองกับมือเพื่อมอบให้คนที่รักในวันวาเลนไทน์ใช่ไหมคะ ถ้าถามว่าช็อกโกแลตมีความเกี่ยวข้องยังไงกับเทศกาลแห่งความรักเช่นนี้ ก็คงต้องย้อนกลับในสมัยจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ช่วงที่ความรักของชายหญิงถือเป็นเรื่องต้องห้าม การเจอกันแต่ละครั้งจึงนิยมเอาของมามอบแทนความรัก ใช่แล้วค่ะ ของสิ่งนั้นก็คือช็อกโกแลต เพราะถือเป็นของหายากและมีราคาสูง ทำให้ช็อกโกแลตกลายเป็นของมีค่าที่คู่รักนิยมมอบให้แก่กันเพื่อแสดงความรักที่เต็มหัวใจค่ะ ในขณะเดียวกันก็มีบางคนเชื่อว่า การให้ช็อกโกแลตอาจเป็นเพียงการตลาดที่เกิดจาก Richard Cabury สมัยเพิ่งเข้าสืบทอดกิจการช็อกโกแลต Cabury ของประเทศอังกฤษ และด้วยความไฟแรงต้องการเพิ่มยอดขายของเขาทำให้เกิดการคิดค้นช็อกโกแลตรูปหัวใจ และออกแบบลวดลายบนกล่องให้มีรูปคิวปิดและดอกกุหลาบ แน่นอนว่าเป็นความคิดที่ประสบความสำเร็จและพลิกวงการของช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์มาจนถึงทุกวันนี้ . แหวน เครื่องประดับแทนใจของคู่รัก? ทำไมต้องใส่นิ้วนางข้างซ้าย? เมื่อเข้าร่วมพิธีแต่งงานกันทั้งฝ่ายจำเป็นที่จะสวมแหวนไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย ซึ่งกลายเป็นเครื่องประดับที่เราเห็นเมื่อไรก็ทราบได้ทันทีว่าคน ๆ นี้มีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว แล้วทำไมต้องเป็นแหวนล่ะ? การใส่แหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายมาจากชาวอียิปต์โบราณที่พบว่านิ้วนางข้างซ้ายเป็นนิ้วเดียวที่มีเส้นเลือดใหญ่วิ่งเข้าไปที่หัวใจ ซึ่งเรียกตามภาษาละตินว่า “เส้นเลือดแห่งความรัก” (Vena Amoris) จนกลายมาเป็นวัฒนธรรมที่คู่รักสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายเพราะเป็นตัวเชื่อมจากเส้นเลือดไปถึงหัวใจของทั้งสอง แต่ในสำหรับข้อเท็จจริงนะคะ ได้มีการพิสูจน์ในภายหลังว่าแต่ละนิ้วมีระบบเลือดไหลเวียนที่เหมือนกัน ทำให้นิ้วนางข้างขวามีการไหลเวียนของเลือดไม่ต่างจากนิ้วนางข้างซ้ายค่ะ . คำว่าแฟนมาจากไหน? แล้วก่อนหน้านี้ใช้คำว่าอะไร? คำว่า “แฟน” ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 (ออนไลน์) เป็นภาษาปาก หมายถึง ผู้นิยมชมชอบ เช่น แฟนเพลง แฟนภาพยนตร์ แฟนมวย, ผู้เป็นที่ชอบพอรักใคร่, คู่รัก, สามีหรือภรรยา. ซึ่งคำนี้มีที่มาจากคำในภาษาอังกฤษคือว่า “Fan” ย่อมาจาก “Fanatic” คลั่งไคล้ หลุ่มหลงในสิ่งใดมาก ๆ ถ้าเอาในยุคนี้ก็คงเหมือนกับคำว่า “คลั่งรัก” นั้นแหละค่ะ แล้วก่อนหน้าที่จะมีคำว่าแฟนล่ะ คนไทยใช้คำว่าอะไร? คนไทยใช้คำว่า “ชิ้น” แทนคู่รักในหน้าที่เดียวกับคำว่าแฟนเลยค่ะ ก่อนที่หลังสมัย พ.ศ. 2490 คนไทยจะเปลี่ยนมาใช้คำว่าแฟนตามปัจจุบันอ้างจากหนังสือมหาเหตุประเทศสยาม เล่ม 1 ของเอนก นาวิกมูลที่เขียนในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งอธิบายไว้ “แฟน” ไว้ว่าเป็นคำที่คนไทยในสมัยนั้นใช้กันอย่างแพร่หลาย ฟุ่มเฟื่อย . วันวาเลนไทน์เข้ามาในไทยเมื่อไหร่? วันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรักซึ่งมาจากวัฒนธรรมของต่างประเทศ ซึ่งเข้ามามีบทบาทในไทยในสมัยสงครามเวียดนาม ราวปี พ.ศ. 2508 – 2509 สหรัฐอเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพในเมืองไทยหลายแห่ง เช่น อุดรธานี มีผู้หญิงหลายคนในบริเวณฐานทัพรับเอาวันวาเลนไทน์นี้เข้ามา จนกระทั่งห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เป็นผู้ริเริ่มการจัดประเพณีวาเลนไทน์ในห้าง บ้างก็ว่ามาจากพนักงานที่ไปเรียนต่างประเทศมา บ้างก็ว่าเป็นลูกหลานของเจ้าของห้างแห่งนั้น ทำให้หลังจาก พ.ศ. 2510 ห้างสรรพสินค้าเกือบทุกแห่งนับเอาเทศกาลวันวาเลนไทน์มาเป็นอีกหนึ่งอีเวนต์หลักของทุกปีเลยก็ว่าได้ค่ะ . วันแห่งความรักของไทย ถึงแม้ว่าวันวาเลนไทน์จะเป็นวันแห่งความรักที่รู้จักกันเป็นสากล และได้รับความนิยมในทุกหนแห่งไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย แต่ประเทศไทยก็มีวันแห่งความรักเช่นกันค่ะ แต่อิงตามศาสนาพุทธนั้นก็คือ “วันมาฆบูชา” ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 โดยอ้างจากเหตุการณ์โอวาทปาฎิโมกข์ซึ่งถือเป็นวันแสดงความรักของพระพุทธเจ้าโดยการเทศนา เป็นความรักในแบบของการเมตตา และปรารถนาดีต่อผู้อื่นค่ะ . จบกันไปแล้วนะคะสำหรับเรื่องราวของวันแห่งความรักแบบนี้ ไม่ว่าจะความรักแบบไหนก็สวยงามไม่แพ้กันนะคะ แต่อีกหนึ่งคนสำคัญที่พี่ออมอยากให้น้อง ๆ รักก็คือตัวน้อง ๆ เองค่ะ อย่ามองข้ามการรักตัวเองค่ะ ความรักในรูปแบบนี้นับว่าเป็นความรักที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะการรักตัวเองจะทำให้น้อง ๆ มีความสุขกับชีวิตในแต่ละวัน และไม่ว่าน้อง ๆ จะรักใคร สิ่งที่สำคัญก็อย่ารักจนไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น หรือทำให้ผู้ใดเป็นทุกข์ แม้กระทั่งตัวเราเองนะคะ 🙂 EZ Webmaster Related Posts มทร.ธัญบุรี โชว์ผลงานเด่น คว้า 12 รางวัลเวทีนวัตกรรมระดับนานาชาติ เซี่ยงไฮ้ 2025 มธ. ปักหมุดหลักสูตร ‘AI Ethics’ หนุนบริบทใหม่ของห้องเรียนทันโลก สร้างจุดยืนคนรุ่นใหม่ ‘ใช้เอไออย่างมีจริยธรรม’ พร้อมเดินหน้าวางหมุดหมายระบบการศึกษาไทย กับการปลุกการใช้เทคฯ คู่ธรรมาภิบาล คาดเริ่มเปิดลงทะเบียนพร้อมเรียนจริง สิงหาคม 68 นี้ สสวท. เชิญใช้ฟรี “คลังคำศัพท์” รับเปิดเทอมใหม่ มัดรวมศัพท์ในหนังสือเรียนวิชาที่ สสวท. พัฒนา สจล. เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน 11 สาเหตุลึกซึ้ง ทำไมการศึกษาไทยยังตกต่ำ? เสียงสะท้อนจากครูชนบท สู่คำถามใหญ่ของสังคม Post navigation PREVIOUS Previous post: กมธ. อุดมศึกษาฯ วุฒิสภา ดูงานและติดตามความคืบหน้าชุดโครงการวิจัยการพัฒนาต้นแบบการจัดการเกษตรผสมผสาน และการจัดการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนวัตวิถีเชิงสร้างสรรค์ จังหวัดแพร่NEXT Next post: มหาวิทยาลัยนเรศวร ประกาศรับ #TCAS66 รอบ 2 #QUOTA แพทยศาสตรบัณฑิต #ผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
สจล. เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน EZ WebmasterJune 19, 2025 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ทางวิชาการกับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีความร่วมมือกันมานานกว่า 20 ปี เพื่อหารือขยายความร่วมมือเชิงลึกในสาขาวิศวกรรมขั้นสูง โดยเฉพาะด้าน Aerospace, Mechatronics, Automation และ Astronautics ซึ่ง HIT ถือเป็นสถาบันชั้นนำของจีนในด้านนี้ พร้อมทั้งหารือแนวทางความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนนักศึกษา นักวิจัย และการพัฒนาโครงการ Joint Degree ในอนาคต รองศาสตราจารย์… อธิการบดีนำทีมกรรมการส่งเสริมฯ สวนสุนันทา เยี่ยมชมโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำ เมืองชิงเต่า สาธารณรัฐประชาชนจีน มุ่งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้สู่มาตรฐานโลก tui sakrapeeJune 18, 2025 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา นำโดย รศ.ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ อธิการบดี พร้อมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย เดินทางเยือนโรงเรียนนานาชาติ Qingdao No.1 International School of Shandong Province (QISS) และ Qingdao University… กองกลาง มจพ. เยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ และจัดสัมมนาจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรรายบุคคล ประจำปี 2568 EZ WebmasterJune 18, 2025 ผศ.ดร.สราวุฒิ สืบแย้ม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการคลังและกิจการทั่วไป มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วยนางสาวรัตนา สุขเฉลิมศรี ผู้อำนวยการกองกลาง และบุคลากรกองกลาง เข้าเยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ มจพ. ณ ชั้น 3 สำนักงานหอสมุดกลาง โดยมีนางสาวพนารมย์ เกียรติลีลานันท์ และ… กิจกรรม กองอาคาร มจพ. จับมือสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพฯ อบรมการจัดการคัดแยกขยะมูลฝอยภายในหน่วยงาน EZ WebmasterJune 18, 2025 ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ นายกสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วยศ.ดร.ธานินทร์ ศิลป์จารุ อธิการบดี ร่วมพิธีโครงการอบรม เรื่อง การคัดแยกขยะมูลฝอยภายในหน่วยงาน โดยมี รศ.ดร.ณัฐพงศ์ มกระธัช รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนากิจการมหาวิทยาลัยเพื่อความยั่งยืน กล่าวเปิดการอบรม รศ.ดร.ศักดา กตเวทวารักษ์… “40 ปี เภสัชศิลปากร” หลากวงการ ร่วมแสดงความยินดี สู่บทบาทผู้นำด้านวิชาชีพเภสัชกรรม วิจัยนวัตกรรม และการสร้างสุขภาพอย่างยั่งยืน EZ WebmasterJune 13, 2025 วันที่ 6 มิถุนายน 2568 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งการสถาปนาอย่างสมเกียรติ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม ภายใต้ชื่องาน “Celebrating the 40th Anniversary:… ดีพร้อม ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้ายกระดับร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย หวังสร้างรายได้ชุมชนสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก EZ WebmasterJune 13, 2025 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้า “โครงการพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย (Local Chef Restaurant) ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก” ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” มุ่งหวังยกระดับร้านอาหารท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ โดดเด่น และสามารถแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ และการสร้างให้เกิดเครือข่ายเชฟชุมชนที่เข้มแข็ง และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น… ถอดแนวคิดความมั่นคงชายแดนจากมุมมอง นักศึกษา “วปอ.บอ.” 4 ด้าน สังคม-เศรษฐกิจ-การเมือง-การทหาร ร่วมสะท้อนเส้นแบ่งแห่งโอกาสและอนาคตร่วมกัน EZ WebmasterJune 10, 2025 ชายแดนไทย-เมียนมา ที่ทอดยาวกว่า 2,400 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของไทย ตั้งแต่เชียงรายไปจนถึงและระนอง ไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นแบ่งระหว่างรัฐ แต่คือเส้นเขตแดนที่เชื่อมโยงผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ วัฒนธรรม เครือข่ายเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาอย่างยาวนาน แต่ภายหลังสถานการณ์การเมืองในเมียนมาตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา พื้นที่ที่เคยเต็มไปด้วยโอกาสนี้ กลับกลายเป็นความท้าทายที่ส่งผลกระทบบางประเด็นมาถึงประเทศไทย ดังนั้น การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนจึงไม่ใช่เพียงแค่ภารกิจของกองทัพในเรื่องการปกป้องพรมแดนเท่านั้น แต่เป็นโจทย์เชิงยุทธศาสตร์ที่ต้องผสมผสานความเข้าใจในพื้นที่ สังคม วัฒนธรรม ผู้คน เศรษฐกิจ… Search for: Search EZ Webmaster February 13, 2023 EZ Webmaster February 13, 2023 กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! เทศกาลแห่งความรักวนกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็ต้องเคยมีความรักกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ ความรักที่พี่ออมพูดถึงนั้นไม่ได้หมายถึงแค่ในรูปแบบคนรักเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความรักแบบครอบครัว แบบเพื่อน หรือแบบอื่น ๆ วันนี้นะคะพี่ออมจะมาเล่าประวัติวันแห่งความรักว่ามีที่มายังไงแล้วทำไมถึงกลายเป็นวันสำคัญอย่างเช่นทุกวันนี้ได้ ไปดูกันเลย! . แต่เดิมวันที่ 14 กุมภาพันธ์ไม่ได้เป็นที่รู้จักในชื่อวันวาเลนไทน์หรือเทศกาลแห่งความรักอย่างเช่นทุกวันนี้ ในช่วงจักรวรรดิโรมัน วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันหยุดเพื่อให้เกียรติแด่เทพีจูโน ซึ่งถือเป็นราชินีของบรรดาเทพเจ้าโรมัน และชาวโรมยังเชื่อว่าเธอเป็นผู้ปกป้องผู้หญิง ทั้งชีวิตแต่งงาน เวลาคลอดบุตร จึงถือว่าเทพีจูโนเป็นเทพีแห่งผู้หญิงและการแต่งงาน (เทพีจูโน) . ถ้าถามว่าแล้วยุคนั้นมีการเฉลิมฉลองเกี่ยวกับความรักไหม? มีค่ะ ถึงแม้ว่าในสมัยนั้นวิถีชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน แต่ก็ยังมีเทศกาลคล้ายกับวันวาเลนไทน์อย่าง “ลูเพอร์คาร์เลีย” หรือ “ลูเปอร์คาลีอา” เป็นประเพณีเพื่อระลึกถึงโรมิวลุสและเรมุสซึ่งเชื่อกันว่าเป็นฝาแฝดผู้ก่อตั้งกรุงโรม จัดในระหว่างวันที่ 13 – 15 กุมภาพันธ์ แต่เทศกาลวาเลนไทน์เดิมนี้ไม่ได้สวยงามอย่างวาเลนไทน์ในปัจจุบันนะคะเพราะการเฉลิมฉลองในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างโหดร้ายเลยก็ว่าได้ค่ะ เริ่มตั้งแต่การสังเวยแพะ แกะ สุนัข โดยสุนัขต้องเป็นลูกสุนัขตัวเล็กน่ารัก ๆ เท่านั้น วิธีการคือนำสัตว์เหล่านี้เข้าไปในถ้ำก่อนที่จะรุมฆ่ามันอย่างไร้ปราณี ไม่หยุดอยู่เพียงการสังหารสัตว์เท่านั้น หลังจากที่ฆ่าสัตว์แล้ว นักบวชจะนำเลือดจากมีดที่เพิ่งฆ่าสัตว์ไปก่อนหน้านี้มาป้ายลงบนศีรษะของเด็กหนุ่มจากตระกูลผู้ดีสองคน จากนั้นก็นำขนสัตว์มาชุบด้วยน้ำนมเพื่อเช็ดศีรษะอีกครั้งพร้อมบังคับให้เด็กทั้งสองหัวเราะออกมาอย่างสุดเสียงในถ้ำมืด ๆ ก่อนจะให้พวกเขาแก้ผ้าพร้อมมอบอาวุธเป็นแส้หนังแพะ แส้หนังแพะนี้เรียกว่า “Februare” มาจาก “February” หรือเดือนกุมภาพันธ์นั่นเองค่ะ โดยตามความเชื่อของคนในสมัยถือว่ากิจกรรมทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นการชำระจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ หลังจากนั้นจะมีเด็กหนุ่มผู้ดีมากมายพร้อมใจกันแก้ผ้าทาน้ำมันตามตัวถือแส้หนังแพะไว้ในมือ ก่อนกวาดสายตาวิ่งฟาดผู้หญิงที่เข้าร่วมงาน น้อง ๆ อาจจะเอ๊ะขึ้นมาว่าแล้วผู้หญิงไม่ทำอะไรกลับหรอ? ต้องบอกก่อนว่าแม้พวกเธอจะเหมือนวิ่งหนีแต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้หญิงเหล่านั้นต่างยินยอมที่จะถูกตีค่ะ เพราะเชื่อกันว่าหนังสัตว์เหล่านั้นจะทำให้พวกเธอสืบพันธุ์และมีลูกได้ (เด็กหนุ่มเอาแส้แพะไล่ฟาดหญิงสาว) . พิธีกรรมแปลก ๆ ตามมุมมองของคนปัจจุบันอย่างเรายังมีอีกนะคะ แน่นอนว่าเทศกาลแบบนี้ต้องมีอาหารกินเลี้ยงเหมือนประเพณีอื่น ๆ ต่างกันตรงที่ในเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียนี้ นักบวชจะแขวนเครื่องในแพะบนต้นวิลโลว์ หรือ ต้นหลิว (Willow) เพื่อให้คนนำมาทำอาหารพร้อมทั้งทำเค้กเกลือ ที่คล้ายกับแพนเค้กไปย่างเกลือทำให้ออกรสชาติเค็ม ๆ ไหม้ ๆ ทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นเมนูยอดฮิตประจำเทศกาลนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีการแต่งเพลงโดยนำเอาพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของผู้อื่นมาขับร้องเป็นเนื้อเพลงเพราะเชื่อกันว่าความอับอายจะช่วยให้ผู้คนประพฤติตัวดีขึ้น แต่แน่นอนว่ากิจกรรมนี้ดูเหมือนจะให้ผลเสียมากกว่า เป็นเรา เราก็คงไม่พอใจที่คนอื่นเอาเรื่องราวของเรามาป่าวประกาศใช่ไหมคะ อีกหนึ่งกิจกรรมเด่นที่เป็นตัวชูโรงทำให้เทศกาลนี้ถูกมองว่าเป็นวาเลนไทน์เดิมคือวันก่อนงานเทศกาล จะมีการจับสลากของหนุ่มสาวเพื่อจับคู่เที่ยวตลอดงาน เล่ากันว่าฝ่ายหญิงจะเขียนชื่อของตนและใส่ไปในเหยือกหรือโถ ก่อนฝ่ายชายจะเป็นผู้จับฉลากชื่อนั้นขึ้นมา แน่นอนว่างานเทศกาลนี้ทำให้หนุ่มสาวหลายคู่เกิดพบรักกันและสานต่อความสัมพันธ์กัน ภายหลังวิธีการจับสลากแบบนี้ถูกเรียกว่า “สลากรัก” หรือ “สลากลูเปอร์คาลีอา” พูดง่าย ๆ ก็คงคล้ายกับการนัดบอดในยุคนี้แหละค่ะ น้อง ๆ อาจจะกำลังคิดว่ากิจกรรมหลังนี้ดูจะปกติดีใช่ไหมคะ แต่ไม่เลยค่ะ บางแห่งเล่าว่าการเขียนชื่อลงในเหยือกหรือโถนั้นไม่ได้ทำเพื่อให้หนุ่มสาวได้ทดลองใช้เวลาร่วมกันแต่เพื่อมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ไม่มีการเดท ไม่มีการพูดคุย ไม่มีความรักมาเกี่ยวข้อง เป้าหมายมีเพียงการเพศสัมพันธ์และให้ผู้หญิงตั้งครรภ์เท่านั้น ซึ่งหากไม่สำเร็จตามเป้าหมายก็สามารถกลับมาใหม่ได้ในปีถัดไป แต่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าจะต้องคู่กับผู้ชายคนเดิม หรือเริ่มจับสลากกันใหม่ในทุกปีค่ะ . ต่อมาในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ศาสนาคริสต์กลายมาเป็นศาสนาหลักของกรุงโรม สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสเข้ามามีบทบาทและตัดสินว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียและเทศกาลอื่น ๆ เป็นเทศกาลของลัทธินอกรีต อีกทั้งยังผิดศีลธรรม ในราว ค.ศ. 500 ซึ่งจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ก็เห็นดีเห็นงามเนื่องจากเป็นบุคคลที่มีจิตใจดุร้าย ชื่นชอบการทำสงคราม การนองเลือด และมองว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียจะทำให้ผู้ชายไม่อยากเข้าร่วมกองทัพ เพราะไม่อยากจากคนรักหรือครอบครัวไป ทำให้เกิดเป็นคำสั่งห้ามไม่ให้มีการจัดพิธีหมั้นและพิธีแต่งงานกันในโรมอย่างเด็ดขาด สลากที่เคยเป็นสื่อกลางแห่งความรักถูกปรับเปลี่ยนเป็นสลากนักบุญ จากการจับชื่อหญิงสาวในโถกลายเป็นการจับชื่อนักบุญแทน หากชายหนุ่มจับได้ชื่อนักบุญท่านไหนก็ต้องใช้ชีวิต ศึกษา เรียนรู้ตามวิถีชีวิตของนักบุญท่านนั้น (จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2) . มาถึงตรงนี้น้อง ๆ คงจะเริ่มสงสัยกันแล้วว่าตกลงแล้ววันวาเลนไทน์ที่เป็นวันแห่งความรักจะเริ่มต้นที่ตรงไหน? ในระหว่างนี้เองที่มีนักบุญผู้ลือกันว่าหน้าตาหล่อเหลา งดงาม ชื่อว่า “เซนต์วาเลนไทน์” หรือ “วาเลนตินัส” มีความเห็นอกเห็นใจในคู่รัก จึงแอบร่วมมือกับ “เซนต์มาริอัส” จัดพิธีแต่งงานลับ ๆ ให้แก่ชาวคริสต์หลายคู่ ทั้งพิธีจะมีเพียงเจ้าบ่าว เจ้าสาว และบาทหลวงเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง ทหารของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ได้เข้ามาเห็นพิธี ส่งผลให้เซนต์วาเลนไทน์ถูกควบคุมตัวไปลงโทษอย่างสาหัส เหล่าคู่รักที่เคยเข้าร่วมพิธีแต่งงานกับเขาผลัดกันมาเยี่ยมนักบุญท่านนี้อยู่เสมอ และขณะที่เป็นนักโทษ เขาก็ยังคงส่งคำอวยพรออกไปนอกคุกอยู่เสมอ เชื่อกันว่าตอนอยู่ในคุกนั้น เซนต์วาเลนไทน์ได้รับคำขอให้ช่วยรักษาลูกสาวตาบอดของผู้คุมแอสทีเรียสที่ชื่อว่า “จูเลีย” ทั้งสองต่างตกหลุมรักกันระหว่างการรักษา จนกระทั่งจูเลียกลับมามองเห็นได้ปกติ เธอก็มักจะมาเยี่ยมเยียนเซนต์วาเลนไทน์อยู่เสมอ คืนก่อนที่เซนต์วาเลนไทน์จะถูกประหารด้วยการตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลียโดยลงท้ายว่า “From Your Valentine” เป็นอันปิดตำนานของเซนต์วาเลนไทน์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ด้วยวัยเพียง 47 ปี (เซนต์วาเลนไทน์และจูเลีย) . ศพของเซนต์วาเลนไทน์ได้ถูกจัดเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม โดยจูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอนด์สีชมพูไว้ใกล้หลุมศพของเขา โดยเหตุนี้เอง “ดอกอัลมอนด์สีชมพู” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งวันวาเลนไทน์ ความรักนิรันดร์ ไม่ใช่ดอกกุหลาบอย่างที่น้อง ๆ หลายคนเข้าใจกัน แต่ดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพและการแบ่งใจน้ำใจค่ะ (ดอกอัลมอนด์สีชมพู) . แม้เรื่องเล่าความรักของนักบุญวาเลนไทน์ข้างต้นจะเป็นที่โด่งดัง แต่ยังมีหลายแห่งที่มีเรื่องเล่าในรูปแบบที่ต่างกัน เล่ากันว่า “วาเลนตินุส” หรือ “วาเลนไทน์” มี 2 ท่าน คือ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งโรม” และ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งเทอร์นี” ทั้งสองพลีชีพเพื่อศาสนา ก่อนที่เรื่องราวจะถูกแต่งเติมจนกลายเป็นเรื่องราวความรักของนักบุญวาเลนไทน์ โดยคาดเดากันว่าน่าจะถูกแต่งขึ้นในช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 5 – 6 ใช้ชื่อผลงานว่า Passio Marii et Marthae ดังที่พี่ออมได้เล่าให้ฟังไปข้างต้นค่ะ . ด้วยเหตุการณ์นี้ เรื่องราวโรแมนติกอันสงสารของทั้งคู่ทำให้เซนต์วาเลนไทน์กลายเป็นนักบุญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ตั้งแต่เมื่อ ค.ศ. 496 สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสที่ 1 กำหนดให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักและมีการปรับเปลี่ยนชื่อวันแห่งความรักเป็น “วันวาเลนไทน์” ตามชื่อตามชื่อนักบุญค่ะ แต่ก็ถูกตัดออกจากปฏิทินโรมันทั่วไปและให้ไปอยู่ในปฏิทินเฉพาะซึ่งถือเป็นเพียงปฎิทินท้องถิ่นหรือปฎิทินประจำชาติโดยสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 ในปี ค.ศ. 1969 เพราะเห็นว่านอกจากชื่อของเซนต์วาเลนไทน์แล้วก็ไม่มีข้อมูลนอกเหนือจากว่าศพของเขาถูกฝังไว้ที่เวียฟลามิเนียเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ แต่ถึงอย่างนั้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ก็ได้กลายเป็นวันแห่งความรักของสากลอย่างเช่นทุกวันนี้ค่ะ . นอกจากจะเล่าที่มาของวันวาเลนไทน์แล้ว วันนี้พี่ออมก็ยังมีเกร็ดเล็ก ๆ ที่น่าจะพอคลายความสงสัยของน้อง ๆ เกี่ยวกับวาเลนไทนและความรักกันได้ค่ะ . สัญลักษณ์รูปหัวใจมาจากไหน ? ถ้าพูดถึงเรื่องของความรักก็เป็นไปไม่ได้เลยนะคะที่จะไม่พูดถึงรูปร่างหัวใจ แล้วรูปร่างหัวใจนี้มาจากไหนกันล่ะ? น้อง ๆ อาจจะเดากันว่าก็มาจากหัวใจมนุษย์จริง ๆ นี่ คำตอบนี้ก็ถูกต้องค่ะแต่ไม่ใช่เพียงคำตอบเดียวเท่านั้น ที่มาของรูปหัวใจถูกแบ่งออกเป็น 2 ทฤษฎีหลัก ๆ ค่ะ – ทฤษฎีแรกคือรูปร่างหัวใจมาจากอวัยวะ ซึ่งก็คือหัวใจมนุษย์จริง ๆ เริ่มจากนักปราชญ์ของกรีก “อริสโตเติล” (Aristotle) และแพทย์ชาวโรมัน “กาเลน” (Galen) ทั้งสองได้ศึกษาระบบร่างกายมนุษย์และโครงสร้างของของสิ่งมีชีวิตหรือที่เรียกกันว่ากายวิภาคศาสตร์นั้นแหละค่ะ ทั้งสองได้บันทึกและวาดรูปหัวใจของมนุษย์ไว้ (รูปวาดหัวใจของอริสโตเติลและกาเลน) จนในช่วงศตวรรษที่ 14 ชาวยุโรปได้เริ่มศึกษากายวิภาคของมนุษย์ และนำรูปหัวใจที่อริสโตเติลและกาเลนวาดมาอ้างอิง พร้อมทั้งเชื่อว่าหัวใจเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก อารมณ์ และความรัก ทำให้ถูกดัดแปลงกลายมาจากหัวใจของคนสองคนมาประกบกัน จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แต่ก็ยังมีผู้ถกเถียงว่ารูปร่างหัวใจมาจากร่างกายมนุษย์จริง แต่อาจถูกสร้างตามสรีระของร่างกายในส่วนของบั้นท้ายค่ะ – ทฤษฎีที่ 2 นั้นเชื่อกันว่ารูปหัวใจมาจากพืช เป็นพืชโบราณที่ชื่อว่า “ซิลเฟียม” หรือ “ซิลฟีเนียม” (Silphium) เป็นดอกไม้ในตระกูลยี่หร่า โดยผลของดอกมันมีลักษณะคล้ายกับรูปหัวใจในปัจจุบัน แล้วทำไมถึงเลือกเอาผลของพืชชนิดนี้มาเป็นสัญลักษณ์? เพราะว่าในสมัยก่อนซิลเฟียมเติบโตบริเวณชายฝั่งแอฟริกาเหนือใกล้กับคิวเรเนหรือซิเรเน (Cyrene) ซึ่งเป็นเมืองกรีกโบราณโดยพืชชนิดนี้ถูกใช้เป็นเครื่องเทศ และใช้ในการคุมกำเนิดของคนในสมัยนั้นอีกด้วยค่ะ (ผลของดอกซิลเฟียม) แต่ก็มีการเสนอความเห็นกันว่ารูปหัวใจอาจจะมาจากต้นไอวี ในช่วงศตวรรษที่ 4 ใบของมันถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของสถานที่ซื้อขายเพศสัมพันธ์ในเมืองเอฟิซัส (Ephesus) ตั้งอยู่ที่ประเทศตุรกีในปัจจุบัน ด้วยเหตุผลที่ว่าต้นไอวีเป็นสัญลักษณ์ของเทพไดโอนิซัส (Dionysus) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งไวน์ ความอิ่มเอมทั้งกายใจ ต่อมาต้นไอวีจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการมีเพศสัมพันธ์ของคนในสมัยนั้นไปโดยปริยาย ในอีกแง่คือไอวีถือเป็นพืชที่มีความเขียวสดอยู่ตลอดทั้งปีจึงถูกใช้แทนความหมายในเรื่องของความซื่อสัตย์ ความมั่นคงในเรื่องของความรัก จนถูกนำมารวมกับสีแดงซึ่งเป็นสีแห่งความรักจนกลายเป็นรูปหัวใจในที่สุดค่ะ (ใบเถาของต้นไอวี) . เทพเจ้าแห่งความรักมีแต่คิวปิดหรอ? หากพูดถึงเทพเจ้าแห่งความรักแล้ว น้อง ๆ อาจมีภาพเด็กผู้ชายถือธนูอยู่ ในความคิด ความเป็นจริงแล้วยังมีเทพเจ้าอีกหลายองค์ที่ถูกนับว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรักค่ะ – “อโฟรไดท์” (Aphrodite) หรือ “วีนัส” (Venus) เทพีแห่งความรัก ความงาม และเพศสภาพของกรีก อโฟรไดท์มีความสามารถในการสะกดจิต ทำให้ผู้อื่นหลุ่มหลงในความงามของนาง ตามตำนานกรีกแล้วอโฟรไดท์ถือเป็นเทพีที่มีอารมณ์รุนแรงและมีเพศสัมพันธ์กับเทพหลายองค์ แม้กระทั่งกับคนธรรมดา ซึ่งอโฟรไดท์มีศักดิ์เป็นแม่แท้ ๆ ของคิวปิด (อโฟรไดท์หรือวีนัส) – “คิวปิด” (Qupid) หรือ “อีรอส” (Eros) เทพเจ้าแห่งความรัก ความปรารถนาของกรีก แท้จริงแล้วคิวปิดเป็นเทพแห่งความรักแบบกามอารมณ์ ไม่ใช่แบบบริสุทธิ์อย่างที่ทุกคนเข้าใจค่ะ คิวปิดถือเป็นเทพที่รูปร่างหน้าตาดีที่สุด อีกทั้งยังมีความสามารถในการยิงธนูที่สั่งให้ใครรักใครก็ได้ และอีกด้านของธนูสามารถยิงให้คนเกลียดกันได้ คิวปิดตกหลุมรักไซคีตอนที่อโฟรไดท์สั่งเขาไปยิงธนูให้ไซคีไปรักกับผู้ชายไม่ดี เพราะผู้คนหลงในความงามของไซคีจนลืมบูชาเทพแห่งความงามอย่างอโฟรไดท์ คิวปิดตะลึงในความงามของไซคีจนทำธนูทิ่มมือตัวเอง ทำให้ต่อมาทั้งสองได้ครองรักกันภายใต้เงื่อนไขที่ว่าไซคีต้องห้ามแอบมองว่าหน้าตาคิวปิดเป็นอย่างไร แต่ด้วยคำยุยงจากพี่สาวที่อิจฉาชีวิตของไซคีทำให้ไซคีแอบดู เป็นเหตุทำให้คิวปิดจากไปพร้อมบอกว่า “ความรักไม่อาจดำรงอยู่ได้ ถ้าปราศจากความไว้วางใจ” แม้ในท้ายที่สุดทั้งสองจะได้ครองรักกันแต่เรื่องราวของไซคีกับคิวปิดจึงกลายเป็นตัวแทนและคำสอนเกี่ยวกับความรักเรื่องของความเชื่อใจ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน (คิวปิดและไซคี) – แฮธอร์ (Hathor) เทพีแห่งความรัก ความสุข การแต่งงาน การเต้นรำ และความงดงามของอียิปต์ เชื่อกันว่านางเป็นผู้ควบคุมระบบการสืบพันธุ์ของมนุษย์ เป็นผู้ให้เสน่ห์แก่ผู้หญิง และทำให้เกิดอารมณ์ปรารถนา เป็นผู้ควบคุมเพศสัมพันธ์ มีอำนาจทำให้มนุษย์เสื่อมสมรรถภาพหรือหายจากอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ ทำให้เทวสถานของนางส่วนใหญ่เปิดรับคู่รักทุกเพศ ทุกวรรรณะเพราะพระนางชื่นชอบการแต่งงาน และความรักที่สมหวังเป็นอย่างมาก (แฮธอร์) – อินันนา (Inanna) เทพีความรัก ความงาม เพศ สงคราม ความยุติธรรม และอำนาจทางการเมืองของเมโสโปเตเมีย เชื่อกันว่านางมีหน้าที่ให้กำเนิดความรักและความต้องการทางเพศ และถูกมองว่าเป็นเทพีผู้บริสุทธิ์ (อินันนา) – เฟรย่า (Freyja) เทพีแห่งความรัก ความงาม เพศสัมพันธ์ ความอุดมสมบูรณ์ และความตายตามตำราของนอร์ส เล่ากันว่านางเป็นเทพีที่งดงามที่สุดในแอสการ์ด มีทั้งด้านที่อ่อนหวานและดุดัน (เฟรย่า) ยังมีเทพอีกหลายอันที่พี่ออมยังไม่ได้พูดถึงนะคะ แต่น้อง ๆ อาจจะสังเกตได้ว่าเทพแห่งความรักส่วนใหญ่มักเป็นผู้หญิง และมีการผูกเข้ากับเรื่องของอารมณ์ เพศสัมพันธ์และความงามค่ะ . ทำไมต้องให้ดอกกุหลาบในวันวาเลนไทน์? ช่วงวาเลนไทน์เป็นช่วงที่ดอกไม้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โดยเฉพาะกับดอกกุหลาบ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เจอเต็มไปหมด จริง ๆ แล้วนะคะธรรมเนียมการให้ดอกกุหลาบมาจากหลายตำนาน – เรื่องเล่าหลายเรื่องมักมีการเชื่อมโยงระหว่างกุหลาบกับอโฟรไดท์ โดยเป็นเรื่องราวของอโดนิสที่เชื่อกันว่าเป็นคนที่อโฟร์ไดท์รักที่สุดในบรรดาชายที่เธอเคยข้องเกี่ยวมา ยิ่งอโดนิสเป็นชายคนเดียวที่ไม่ตกเป็นทาสความสวยของเธอ ยิ่งทำให้อโฟร์ไดท์หลุ่มหลงชายผู้นี้เป็นอย่างมาก จนเกิดเป็นเรื่องเล่าที่ทำให้กุหลาบกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เช่น หลังจากอโดนิส (Adonis) ถูก “อาเรส” (Ares) คู่รักเก่าของอโรไดท์ในร่างหมูป่าฆ่าเพราะความหึงหวง น้ำตาของเธอไหลลงผสมกับเลือดของเขา หยดลงกลายเป็นดอกกุหลาบสีแดง บ้างก็ว่าอโฟร์ไดท์แทงตัวเองจนเลือดหยดลงสู่พื้นกลายเป็นกุหลาบ บ้างก็ว่านางรับไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียคนรักจึงเสกเลือดของอโดนิสให้กลายเป็นดอกไม้ ทำให้ชื่อแรกสุดของดอกไม้ชนิดนี้คือ “อโดนิส” หรือ “อะเนมโมนิ” (Anemone) (อโฟร์ไดท์กับอโดนิส) – “คลอริส” (Chloris) เทพธิดาแห่งดอกไม้ได้ยกเอาดอกกุหลาบเป็นราชินีของดอกไม้ ซึ่งต่อมาได้มอบกุหลาบให้แก่คิวปิดเทพเจ้าแห่งความรัก ทำให้กุหลาบถูกเชื่อมโยงไปกับเรื่องราวความรักไปในทันที – ในศาสนาคริสต์เชื่อว่าเลือดของพระเยซูในตอนที่ถูกตรึงอยู่บนไม้กางเขนได้หยดลงบนต้นหญ้ามอลส์เกิดเป็นต้นกุหลาบแดง เรียกกันว่ากุหลาบมอลส์ – ในประเทศไทยไม่มีระบุแน่ชัดว่ากุหลาบเข้ามาเป็นที่นิยมตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มีวรรณคดีเรื่อง “มัทนะพาธา” พระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นตำนานของดอกกุหลาบที่เกี่ยวกับข้องกับเรื่องของความงาม ความรัก ในปัจจุบันดอกไม้ที่มอบให้ระหว่างเทศกาลวาเลนไทน์มีความหลากหลายมากขึ้น ถ้าน้อง ๆ ยังสงสัยกันอยู่ทำไมต้องเป็นดอกไม้ จริง ๆ แล้วนะคะ มนุษย์ใช้ดอกไม้เป็นสื่อกลางแสดงความรักมานักต่อนักแล้วค่ะ อาจจะดอกรูปร่าง สีสัน และกลิ่นของมันทำให้เป้นสิ่งของที่ดีในการมอบให้แก่ใครสักคนค่ะ . ช็อกโกแลตกับวาเลนไทน์? นอกจากดอกกุหลาบแล้ว ช็อกโกแลตก็เป็นอีกหนึ่งของแทนใจยอดฮิตที่อาจจะมีน้อง ๆ บางคนลงทุนทำเองกับมือเพื่อมอบให้คนที่รักในวันวาเลนไทน์ใช่ไหมคะ ถ้าถามว่าช็อกโกแลตมีความเกี่ยวข้องยังไงกับเทศกาลแห่งความรักเช่นนี้ ก็คงต้องย้อนกลับในสมัยจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ช่วงที่ความรักของชายหญิงถือเป็นเรื่องต้องห้าม การเจอกันแต่ละครั้งจึงนิยมเอาของมามอบแทนความรัก ใช่แล้วค่ะ ของสิ่งนั้นก็คือช็อกโกแลต เพราะถือเป็นของหายากและมีราคาสูง ทำให้ช็อกโกแลตกลายเป็นของมีค่าที่คู่รักนิยมมอบให้แก่กันเพื่อแสดงความรักที่เต็มหัวใจค่ะ ในขณะเดียวกันก็มีบางคนเชื่อว่า การให้ช็อกโกแลตอาจเป็นเพียงการตลาดที่เกิดจาก Richard Cabury สมัยเพิ่งเข้าสืบทอดกิจการช็อกโกแลต Cabury ของประเทศอังกฤษ และด้วยความไฟแรงต้องการเพิ่มยอดขายของเขาทำให้เกิดการคิดค้นช็อกโกแลตรูปหัวใจ และออกแบบลวดลายบนกล่องให้มีรูปคิวปิดและดอกกุหลาบ แน่นอนว่าเป็นความคิดที่ประสบความสำเร็จและพลิกวงการของช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์มาจนถึงทุกวันนี้ . แหวน เครื่องประดับแทนใจของคู่รัก? ทำไมต้องใส่นิ้วนางข้างซ้าย? เมื่อเข้าร่วมพิธีแต่งงานกันทั้งฝ่ายจำเป็นที่จะสวมแหวนไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย ซึ่งกลายเป็นเครื่องประดับที่เราเห็นเมื่อไรก็ทราบได้ทันทีว่าคน ๆ นี้มีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว แล้วทำไมต้องเป็นแหวนล่ะ? การใส่แหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายมาจากชาวอียิปต์โบราณที่พบว่านิ้วนางข้างซ้ายเป็นนิ้วเดียวที่มีเส้นเลือดใหญ่วิ่งเข้าไปที่หัวใจ ซึ่งเรียกตามภาษาละตินว่า “เส้นเลือดแห่งความรัก” (Vena Amoris) จนกลายมาเป็นวัฒนธรรมที่คู่รักสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายเพราะเป็นตัวเชื่อมจากเส้นเลือดไปถึงหัวใจของทั้งสอง แต่ในสำหรับข้อเท็จจริงนะคะ ได้มีการพิสูจน์ในภายหลังว่าแต่ละนิ้วมีระบบเลือดไหลเวียนที่เหมือนกัน ทำให้นิ้วนางข้างขวามีการไหลเวียนของเลือดไม่ต่างจากนิ้วนางข้างซ้ายค่ะ . คำว่าแฟนมาจากไหน? แล้วก่อนหน้านี้ใช้คำว่าอะไร? คำว่า “แฟน” ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 (ออนไลน์) เป็นภาษาปาก หมายถึง ผู้นิยมชมชอบ เช่น แฟนเพลง แฟนภาพยนตร์ แฟนมวย, ผู้เป็นที่ชอบพอรักใคร่, คู่รัก, สามีหรือภรรยา. ซึ่งคำนี้มีที่มาจากคำในภาษาอังกฤษคือว่า “Fan” ย่อมาจาก “Fanatic” คลั่งไคล้ หลุ่มหลงในสิ่งใดมาก ๆ ถ้าเอาในยุคนี้ก็คงเหมือนกับคำว่า “คลั่งรัก” นั้นแหละค่ะ แล้วก่อนหน้าที่จะมีคำว่าแฟนล่ะ คนไทยใช้คำว่าอะไร? คนไทยใช้คำว่า “ชิ้น” แทนคู่รักในหน้าที่เดียวกับคำว่าแฟนเลยค่ะ ก่อนที่หลังสมัย พ.ศ. 2490 คนไทยจะเปลี่ยนมาใช้คำว่าแฟนตามปัจจุบันอ้างจากหนังสือมหาเหตุประเทศสยาม เล่ม 1 ของเอนก นาวิกมูลที่เขียนในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งอธิบายไว้ “แฟน” ไว้ว่าเป็นคำที่คนไทยในสมัยนั้นใช้กันอย่างแพร่หลาย ฟุ่มเฟื่อย . วันวาเลนไทน์เข้ามาในไทยเมื่อไหร่? วันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรักซึ่งมาจากวัฒนธรรมของต่างประเทศ ซึ่งเข้ามามีบทบาทในไทยในสมัยสงครามเวียดนาม ราวปี พ.ศ. 2508 – 2509 สหรัฐอเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพในเมืองไทยหลายแห่ง เช่น อุดรธานี มีผู้หญิงหลายคนในบริเวณฐานทัพรับเอาวันวาเลนไทน์นี้เข้ามา จนกระทั่งห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เป็นผู้ริเริ่มการจัดประเพณีวาเลนไทน์ในห้าง บ้างก็ว่ามาจากพนักงานที่ไปเรียนต่างประเทศมา บ้างก็ว่าเป็นลูกหลานของเจ้าของห้างแห่งนั้น ทำให้หลังจาก พ.ศ. 2510 ห้างสรรพสินค้าเกือบทุกแห่งนับเอาเทศกาลวันวาเลนไทน์มาเป็นอีกหนึ่งอีเวนต์หลักของทุกปีเลยก็ว่าได้ค่ะ . วันแห่งความรักของไทย ถึงแม้ว่าวันวาเลนไทน์จะเป็นวันแห่งความรักที่รู้จักกันเป็นสากล และได้รับความนิยมในทุกหนแห่งไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย แต่ประเทศไทยก็มีวันแห่งความรักเช่นกันค่ะ แต่อิงตามศาสนาพุทธนั้นก็คือ “วันมาฆบูชา” ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 โดยอ้างจากเหตุการณ์โอวาทปาฎิโมกข์ซึ่งถือเป็นวันแสดงความรักของพระพุทธเจ้าโดยการเทศนา เป็นความรักในแบบของการเมตตา และปรารถนาดีต่อผู้อื่นค่ะ . จบกันไปแล้วนะคะสำหรับเรื่องราวของวันแห่งความรักแบบนี้ ไม่ว่าจะความรักแบบไหนก็สวยงามไม่แพ้กันนะคะ แต่อีกหนึ่งคนสำคัญที่พี่ออมอยากให้น้อง ๆ รักก็คือตัวน้อง ๆ เองค่ะ อย่ามองข้ามการรักตัวเองค่ะ ความรักในรูปแบบนี้นับว่าเป็นความรักที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะการรักตัวเองจะทำให้น้อง ๆ มีความสุขกับชีวิตในแต่ละวัน และไม่ว่าน้อง ๆ จะรักใคร สิ่งที่สำคัญก็อย่ารักจนไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น หรือทำให้ผู้ใดเป็นทุกข์ แม้กระทั่งตัวเราเองนะคะ 🙂 EZ Webmaster Related Posts มทร.ธัญบุรี โชว์ผลงานเด่น คว้า 12 รางวัลเวทีนวัตกรรมระดับนานาชาติ เซี่ยงไฮ้ 2025 มธ. ปักหมุดหลักสูตร ‘AI Ethics’ หนุนบริบทใหม่ของห้องเรียนทันโลก สร้างจุดยืนคนรุ่นใหม่ ‘ใช้เอไออย่างมีจริยธรรม’ พร้อมเดินหน้าวางหมุดหมายระบบการศึกษาไทย กับการปลุกการใช้เทคฯ คู่ธรรมาภิบาล คาดเริ่มเปิดลงทะเบียนพร้อมเรียนจริง สิงหาคม 68 นี้ สสวท. เชิญใช้ฟรี “คลังคำศัพท์” รับเปิดเทอมใหม่ มัดรวมศัพท์ในหนังสือเรียนวิชาที่ สสวท. พัฒนา สจล. เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน 11 สาเหตุลึกซึ้ง ทำไมการศึกษาไทยยังตกต่ำ? เสียงสะท้อนจากครูชนบท สู่คำถามใหญ่ของสังคม Post navigation PREVIOUS Previous post: กมธ. อุดมศึกษาฯ วุฒิสภา ดูงานและติดตามความคืบหน้าชุดโครงการวิจัยการพัฒนาต้นแบบการจัดการเกษตรผสมผสาน และการจัดการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนวัตวิถีเชิงสร้างสรรค์ จังหวัดแพร่NEXT Next post: มหาวิทยาลัยนเรศวร ประกาศรับ #TCAS66 รอบ 2 #QUOTA แพทยศาสตรบัณฑิต #ผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
อธิการบดีนำทีมกรรมการส่งเสริมฯ สวนสุนันทา เยี่ยมชมโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำ เมืองชิงเต่า สาธารณรัฐประชาชนจีน มุ่งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้สู่มาตรฐานโลก tui sakrapeeJune 18, 2025 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา นำโดย รศ.ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ อธิการบดี พร้อมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย เดินทางเยือนโรงเรียนนานาชาติ Qingdao No.1 International School of Shandong Province (QISS) และ Qingdao University… กองกลาง มจพ. เยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ และจัดสัมมนาจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรรายบุคคล ประจำปี 2568 EZ WebmasterJune 18, 2025 ผศ.ดร.สราวุฒิ สืบแย้ม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการคลังและกิจการทั่วไป มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วยนางสาวรัตนา สุขเฉลิมศรี ผู้อำนวยการกองกลาง และบุคลากรกองกลาง เข้าเยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ มจพ. ณ ชั้น 3 สำนักงานหอสมุดกลาง โดยมีนางสาวพนารมย์ เกียรติลีลานันท์ และ…
กองกลาง มจพ. เยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ และจัดสัมมนาจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรรายบุคคล ประจำปี 2568 EZ WebmasterJune 18, 2025 ผศ.ดร.สราวุฒิ สืบแย้ม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการคลังและกิจการทั่วไป มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วยนางสาวรัตนา สุขเฉลิมศรี ผู้อำนวยการกองกลาง และบุคลากรกองกลาง เข้าเยี่ยมชมหอเกียรติประวัติ มจพ. ณ ชั้น 3 สำนักงานหอสมุดกลาง โดยมีนางสาวพนารมย์ เกียรติลีลานันท์ และ…
กองอาคาร มจพ. จับมือสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพฯ อบรมการจัดการคัดแยกขยะมูลฝอยภายในหน่วยงาน EZ WebmasterJune 18, 2025 ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ นายกสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วยศ.ดร.ธานินทร์ ศิลป์จารุ อธิการบดี ร่วมพิธีโครงการอบรม เรื่อง การคัดแยกขยะมูลฝอยภายในหน่วยงาน โดยมี รศ.ดร.ณัฐพงศ์ มกระธัช รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนากิจการมหาวิทยาลัยเพื่อความยั่งยืน กล่าวเปิดการอบรม รศ.ดร.ศักดา กตเวทวารักษ์… “40 ปี เภสัชศิลปากร” หลากวงการ ร่วมแสดงความยินดี สู่บทบาทผู้นำด้านวิชาชีพเภสัชกรรม วิจัยนวัตกรรม และการสร้างสุขภาพอย่างยั่งยืน EZ WebmasterJune 13, 2025 วันที่ 6 มิถุนายน 2568 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งการสถาปนาอย่างสมเกียรติ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม ภายใต้ชื่องาน “Celebrating the 40th Anniversary:… ดีพร้อม ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้ายกระดับร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย หวังสร้างรายได้ชุมชนสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก EZ WebmasterJune 13, 2025 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้า “โครงการพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย (Local Chef Restaurant) ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก” ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” มุ่งหวังยกระดับร้านอาหารท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ โดดเด่น และสามารถแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ และการสร้างให้เกิดเครือข่ายเชฟชุมชนที่เข้มแข็ง และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น… ถอดแนวคิดความมั่นคงชายแดนจากมุมมอง นักศึกษา “วปอ.บอ.” 4 ด้าน สังคม-เศรษฐกิจ-การเมือง-การทหาร ร่วมสะท้อนเส้นแบ่งแห่งโอกาสและอนาคตร่วมกัน EZ WebmasterJune 10, 2025 ชายแดนไทย-เมียนมา ที่ทอดยาวกว่า 2,400 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของไทย ตั้งแต่เชียงรายไปจนถึงและระนอง ไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นแบ่งระหว่างรัฐ แต่คือเส้นเขตแดนที่เชื่อมโยงผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ วัฒนธรรม เครือข่ายเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาอย่างยาวนาน แต่ภายหลังสถานการณ์การเมืองในเมียนมาตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา พื้นที่ที่เคยเต็มไปด้วยโอกาสนี้ กลับกลายเป็นความท้าทายที่ส่งผลกระทบบางประเด็นมาถึงประเทศไทย ดังนั้น การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนจึงไม่ใช่เพียงแค่ภารกิจของกองทัพในเรื่องการปกป้องพรมแดนเท่านั้น แต่เป็นโจทย์เชิงยุทธศาสตร์ที่ต้องผสมผสานความเข้าใจในพื้นที่ สังคม วัฒนธรรม ผู้คน เศรษฐกิจ… Search for: Search EZ Webmaster February 13, 2023 EZ Webmaster February 13, 2023 กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! เทศกาลแห่งความรักวนกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็ต้องเคยมีความรักกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ ความรักที่พี่ออมพูดถึงนั้นไม่ได้หมายถึงแค่ในรูปแบบคนรักเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความรักแบบครอบครัว แบบเพื่อน หรือแบบอื่น ๆ วันนี้นะคะพี่ออมจะมาเล่าประวัติวันแห่งความรักว่ามีที่มายังไงแล้วทำไมถึงกลายเป็นวันสำคัญอย่างเช่นทุกวันนี้ได้ ไปดูกันเลย! . แต่เดิมวันที่ 14 กุมภาพันธ์ไม่ได้เป็นที่รู้จักในชื่อวันวาเลนไทน์หรือเทศกาลแห่งความรักอย่างเช่นทุกวันนี้ ในช่วงจักรวรรดิโรมัน วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันหยุดเพื่อให้เกียรติแด่เทพีจูโน ซึ่งถือเป็นราชินีของบรรดาเทพเจ้าโรมัน และชาวโรมยังเชื่อว่าเธอเป็นผู้ปกป้องผู้หญิง ทั้งชีวิตแต่งงาน เวลาคลอดบุตร จึงถือว่าเทพีจูโนเป็นเทพีแห่งผู้หญิงและการแต่งงาน (เทพีจูโน) . ถ้าถามว่าแล้วยุคนั้นมีการเฉลิมฉลองเกี่ยวกับความรักไหม? มีค่ะ ถึงแม้ว่าในสมัยนั้นวิถีชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน แต่ก็ยังมีเทศกาลคล้ายกับวันวาเลนไทน์อย่าง “ลูเพอร์คาร์เลีย” หรือ “ลูเปอร์คาลีอา” เป็นประเพณีเพื่อระลึกถึงโรมิวลุสและเรมุสซึ่งเชื่อกันว่าเป็นฝาแฝดผู้ก่อตั้งกรุงโรม จัดในระหว่างวันที่ 13 – 15 กุมภาพันธ์ แต่เทศกาลวาเลนไทน์เดิมนี้ไม่ได้สวยงามอย่างวาเลนไทน์ในปัจจุบันนะคะเพราะการเฉลิมฉลองในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างโหดร้ายเลยก็ว่าได้ค่ะ เริ่มตั้งแต่การสังเวยแพะ แกะ สุนัข โดยสุนัขต้องเป็นลูกสุนัขตัวเล็กน่ารัก ๆ เท่านั้น วิธีการคือนำสัตว์เหล่านี้เข้าไปในถ้ำก่อนที่จะรุมฆ่ามันอย่างไร้ปราณี ไม่หยุดอยู่เพียงการสังหารสัตว์เท่านั้น หลังจากที่ฆ่าสัตว์แล้ว นักบวชจะนำเลือดจากมีดที่เพิ่งฆ่าสัตว์ไปก่อนหน้านี้มาป้ายลงบนศีรษะของเด็กหนุ่มจากตระกูลผู้ดีสองคน จากนั้นก็นำขนสัตว์มาชุบด้วยน้ำนมเพื่อเช็ดศีรษะอีกครั้งพร้อมบังคับให้เด็กทั้งสองหัวเราะออกมาอย่างสุดเสียงในถ้ำมืด ๆ ก่อนจะให้พวกเขาแก้ผ้าพร้อมมอบอาวุธเป็นแส้หนังแพะ แส้หนังแพะนี้เรียกว่า “Februare” มาจาก “February” หรือเดือนกุมภาพันธ์นั่นเองค่ะ โดยตามความเชื่อของคนในสมัยถือว่ากิจกรรมทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นการชำระจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ หลังจากนั้นจะมีเด็กหนุ่มผู้ดีมากมายพร้อมใจกันแก้ผ้าทาน้ำมันตามตัวถือแส้หนังแพะไว้ในมือ ก่อนกวาดสายตาวิ่งฟาดผู้หญิงที่เข้าร่วมงาน น้อง ๆ อาจจะเอ๊ะขึ้นมาว่าแล้วผู้หญิงไม่ทำอะไรกลับหรอ? ต้องบอกก่อนว่าแม้พวกเธอจะเหมือนวิ่งหนีแต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้หญิงเหล่านั้นต่างยินยอมที่จะถูกตีค่ะ เพราะเชื่อกันว่าหนังสัตว์เหล่านั้นจะทำให้พวกเธอสืบพันธุ์และมีลูกได้ (เด็กหนุ่มเอาแส้แพะไล่ฟาดหญิงสาว) . พิธีกรรมแปลก ๆ ตามมุมมองของคนปัจจุบันอย่างเรายังมีอีกนะคะ แน่นอนว่าเทศกาลแบบนี้ต้องมีอาหารกินเลี้ยงเหมือนประเพณีอื่น ๆ ต่างกันตรงที่ในเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียนี้ นักบวชจะแขวนเครื่องในแพะบนต้นวิลโลว์ หรือ ต้นหลิว (Willow) เพื่อให้คนนำมาทำอาหารพร้อมทั้งทำเค้กเกลือ ที่คล้ายกับแพนเค้กไปย่างเกลือทำให้ออกรสชาติเค็ม ๆ ไหม้ ๆ ทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นเมนูยอดฮิตประจำเทศกาลนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีการแต่งเพลงโดยนำเอาพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของผู้อื่นมาขับร้องเป็นเนื้อเพลงเพราะเชื่อกันว่าความอับอายจะช่วยให้ผู้คนประพฤติตัวดีขึ้น แต่แน่นอนว่ากิจกรรมนี้ดูเหมือนจะให้ผลเสียมากกว่า เป็นเรา เราก็คงไม่พอใจที่คนอื่นเอาเรื่องราวของเรามาป่าวประกาศใช่ไหมคะ อีกหนึ่งกิจกรรมเด่นที่เป็นตัวชูโรงทำให้เทศกาลนี้ถูกมองว่าเป็นวาเลนไทน์เดิมคือวันก่อนงานเทศกาล จะมีการจับสลากของหนุ่มสาวเพื่อจับคู่เที่ยวตลอดงาน เล่ากันว่าฝ่ายหญิงจะเขียนชื่อของตนและใส่ไปในเหยือกหรือโถ ก่อนฝ่ายชายจะเป็นผู้จับฉลากชื่อนั้นขึ้นมา แน่นอนว่างานเทศกาลนี้ทำให้หนุ่มสาวหลายคู่เกิดพบรักกันและสานต่อความสัมพันธ์กัน ภายหลังวิธีการจับสลากแบบนี้ถูกเรียกว่า “สลากรัก” หรือ “สลากลูเปอร์คาลีอา” พูดง่าย ๆ ก็คงคล้ายกับการนัดบอดในยุคนี้แหละค่ะ น้อง ๆ อาจจะกำลังคิดว่ากิจกรรมหลังนี้ดูจะปกติดีใช่ไหมคะ แต่ไม่เลยค่ะ บางแห่งเล่าว่าการเขียนชื่อลงในเหยือกหรือโถนั้นไม่ได้ทำเพื่อให้หนุ่มสาวได้ทดลองใช้เวลาร่วมกันแต่เพื่อมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ไม่มีการเดท ไม่มีการพูดคุย ไม่มีความรักมาเกี่ยวข้อง เป้าหมายมีเพียงการเพศสัมพันธ์และให้ผู้หญิงตั้งครรภ์เท่านั้น ซึ่งหากไม่สำเร็จตามเป้าหมายก็สามารถกลับมาใหม่ได้ในปีถัดไป แต่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าจะต้องคู่กับผู้ชายคนเดิม หรือเริ่มจับสลากกันใหม่ในทุกปีค่ะ . ต่อมาในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ศาสนาคริสต์กลายมาเป็นศาสนาหลักของกรุงโรม สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสเข้ามามีบทบาทและตัดสินว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียและเทศกาลอื่น ๆ เป็นเทศกาลของลัทธินอกรีต อีกทั้งยังผิดศีลธรรม ในราว ค.ศ. 500 ซึ่งจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ก็เห็นดีเห็นงามเนื่องจากเป็นบุคคลที่มีจิตใจดุร้าย ชื่นชอบการทำสงคราม การนองเลือด และมองว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียจะทำให้ผู้ชายไม่อยากเข้าร่วมกองทัพ เพราะไม่อยากจากคนรักหรือครอบครัวไป ทำให้เกิดเป็นคำสั่งห้ามไม่ให้มีการจัดพิธีหมั้นและพิธีแต่งงานกันในโรมอย่างเด็ดขาด สลากที่เคยเป็นสื่อกลางแห่งความรักถูกปรับเปลี่ยนเป็นสลากนักบุญ จากการจับชื่อหญิงสาวในโถกลายเป็นการจับชื่อนักบุญแทน หากชายหนุ่มจับได้ชื่อนักบุญท่านไหนก็ต้องใช้ชีวิต ศึกษา เรียนรู้ตามวิถีชีวิตของนักบุญท่านนั้น (จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2) . มาถึงตรงนี้น้อง ๆ คงจะเริ่มสงสัยกันแล้วว่าตกลงแล้ววันวาเลนไทน์ที่เป็นวันแห่งความรักจะเริ่มต้นที่ตรงไหน? ในระหว่างนี้เองที่มีนักบุญผู้ลือกันว่าหน้าตาหล่อเหลา งดงาม ชื่อว่า “เซนต์วาเลนไทน์” หรือ “วาเลนตินัส” มีความเห็นอกเห็นใจในคู่รัก จึงแอบร่วมมือกับ “เซนต์มาริอัส” จัดพิธีแต่งงานลับ ๆ ให้แก่ชาวคริสต์หลายคู่ ทั้งพิธีจะมีเพียงเจ้าบ่าว เจ้าสาว และบาทหลวงเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง ทหารของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ได้เข้ามาเห็นพิธี ส่งผลให้เซนต์วาเลนไทน์ถูกควบคุมตัวไปลงโทษอย่างสาหัส เหล่าคู่รักที่เคยเข้าร่วมพิธีแต่งงานกับเขาผลัดกันมาเยี่ยมนักบุญท่านนี้อยู่เสมอ และขณะที่เป็นนักโทษ เขาก็ยังคงส่งคำอวยพรออกไปนอกคุกอยู่เสมอ เชื่อกันว่าตอนอยู่ในคุกนั้น เซนต์วาเลนไทน์ได้รับคำขอให้ช่วยรักษาลูกสาวตาบอดของผู้คุมแอสทีเรียสที่ชื่อว่า “จูเลีย” ทั้งสองต่างตกหลุมรักกันระหว่างการรักษา จนกระทั่งจูเลียกลับมามองเห็นได้ปกติ เธอก็มักจะมาเยี่ยมเยียนเซนต์วาเลนไทน์อยู่เสมอ คืนก่อนที่เซนต์วาเลนไทน์จะถูกประหารด้วยการตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลียโดยลงท้ายว่า “From Your Valentine” เป็นอันปิดตำนานของเซนต์วาเลนไทน์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ด้วยวัยเพียง 47 ปี (เซนต์วาเลนไทน์และจูเลีย) . ศพของเซนต์วาเลนไทน์ได้ถูกจัดเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม โดยจูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอนด์สีชมพูไว้ใกล้หลุมศพของเขา โดยเหตุนี้เอง “ดอกอัลมอนด์สีชมพู” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งวันวาเลนไทน์ ความรักนิรันดร์ ไม่ใช่ดอกกุหลาบอย่างที่น้อง ๆ หลายคนเข้าใจกัน แต่ดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพและการแบ่งใจน้ำใจค่ะ (ดอกอัลมอนด์สีชมพู) . แม้เรื่องเล่าความรักของนักบุญวาเลนไทน์ข้างต้นจะเป็นที่โด่งดัง แต่ยังมีหลายแห่งที่มีเรื่องเล่าในรูปแบบที่ต่างกัน เล่ากันว่า “วาเลนตินุส” หรือ “วาเลนไทน์” มี 2 ท่าน คือ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งโรม” และ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งเทอร์นี” ทั้งสองพลีชีพเพื่อศาสนา ก่อนที่เรื่องราวจะถูกแต่งเติมจนกลายเป็นเรื่องราวความรักของนักบุญวาเลนไทน์ โดยคาดเดากันว่าน่าจะถูกแต่งขึ้นในช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 5 – 6 ใช้ชื่อผลงานว่า Passio Marii et Marthae ดังที่พี่ออมได้เล่าให้ฟังไปข้างต้นค่ะ . ด้วยเหตุการณ์นี้ เรื่องราวโรแมนติกอันสงสารของทั้งคู่ทำให้เซนต์วาเลนไทน์กลายเป็นนักบุญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ตั้งแต่เมื่อ ค.ศ. 496 สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสที่ 1 กำหนดให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักและมีการปรับเปลี่ยนชื่อวันแห่งความรักเป็น “วันวาเลนไทน์” ตามชื่อตามชื่อนักบุญค่ะ แต่ก็ถูกตัดออกจากปฏิทินโรมันทั่วไปและให้ไปอยู่ในปฏิทินเฉพาะซึ่งถือเป็นเพียงปฎิทินท้องถิ่นหรือปฎิทินประจำชาติโดยสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 ในปี ค.ศ. 1969 เพราะเห็นว่านอกจากชื่อของเซนต์วาเลนไทน์แล้วก็ไม่มีข้อมูลนอกเหนือจากว่าศพของเขาถูกฝังไว้ที่เวียฟลามิเนียเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ แต่ถึงอย่างนั้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ก็ได้กลายเป็นวันแห่งความรักของสากลอย่างเช่นทุกวันนี้ค่ะ . นอกจากจะเล่าที่มาของวันวาเลนไทน์แล้ว วันนี้พี่ออมก็ยังมีเกร็ดเล็ก ๆ ที่น่าจะพอคลายความสงสัยของน้อง ๆ เกี่ยวกับวาเลนไทนและความรักกันได้ค่ะ . สัญลักษณ์รูปหัวใจมาจากไหน ? ถ้าพูดถึงเรื่องของความรักก็เป็นไปไม่ได้เลยนะคะที่จะไม่พูดถึงรูปร่างหัวใจ แล้วรูปร่างหัวใจนี้มาจากไหนกันล่ะ? น้อง ๆ อาจจะเดากันว่าก็มาจากหัวใจมนุษย์จริง ๆ นี่ คำตอบนี้ก็ถูกต้องค่ะแต่ไม่ใช่เพียงคำตอบเดียวเท่านั้น ที่มาของรูปหัวใจถูกแบ่งออกเป็น 2 ทฤษฎีหลัก ๆ ค่ะ – ทฤษฎีแรกคือรูปร่างหัวใจมาจากอวัยวะ ซึ่งก็คือหัวใจมนุษย์จริง ๆ เริ่มจากนักปราชญ์ของกรีก “อริสโตเติล” (Aristotle) และแพทย์ชาวโรมัน “กาเลน” (Galen) ทั้งสองได้ศึกษาระบบร่างกายมนุษย์และโครงสร้างของของสิ่งมีชีวิตหรือที่เรียกกันว่ากายวิภาคศาสตร์นั้นแหละค่ะ ทั้งสองได้บันทึกและวาดรูปหัวใจของมนุษย์ไว้ (รูปวาดหัวใจของอริสโตเติลและกาเลน) จนในช่วงศตวรรษที่ 14 ชาวยุโรปได้เริ่มศึกษากายวิภาคของมนุษย์ และนำรูปหัวใจที่อริสโตเติลและกาเลนวาดมาอ้างอิง พร้อมทั้งเชื่อว่าหัวใจเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก อารมณ์ และความรัก ทำให้ถูกดัดแปลงกลายมาจากหัวใจของคนสองคนมาประกบกัน จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แต่ก็ยังมีผู้ถกเถียงว่ารูปร่างหัวใจมาจากร่างกายมนุษย์จริง แต่อาจถูกสร้างตามสรีระของร่างกายในส่วนของบั้นท้ายค่ะ – ทฤษฎีที่ 2 นั้นเชื่อกันว่ารูปหัวใจมาจากพืช เป็นพืชโบราณที่ชื่อว่า “ซิลเฟียม” หรือ “ซิลฟีเนียม” (Silphium) เป็นดอกไม้ในตระกูลยี่หร่า โดยผลของดอกมันมีลักษณะคล้ายกับรูปหัวใจในปัจจุบัน แล้วทำไมถึงเลือกเอาผลของพืชชนิดนี้มาเป็นสัญลักษณ์? เพราะว่าในสมัยก่อนซิลเฟียมเติบโตบริเวณชายฝั่งแอฟริกาเหนือใกล้กับคิวเรเนหรือซิเรเน (Cyrene) ซึ่งเป็นเมืองกรีกโบราณโดยพืชชนิดนี้ถูกใช้เป็นเครื่องเทศ และใช้ในการคุมกำเนิดของคนในสมัยนั้นอีกด้วยค่ะ (ผลของดอกซิลเฟียม) แต่ก็มีการเสนอความเห็นกันว่ารูปหัวใจอาจจะมาจากต้นไอวี ในช่วงศตวรรษที่ 4 ใบของมันถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของสถานที่ซื้อขายเพศสัมพันธ์ในเมืองเอฟิซัส (Ephesus) ตั้งอยู่ที่ประเทศตุรกีในปัจจุบัน ด้วยเหตุผลที่ว่าต้นไอวีเป็นสัญลักษณ์ของเทพไดโอนิซัส (Dionysus) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งไวน์ ความอิ่มเอมทั้งกายใจ ต่อมาต้นไอวีจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการมีเพศสัมพันธ์ของคนในสมัยนั้นไปโดยปริยาย ในอีกแง่คือไอวีถือเป็นพืชที่มีความเขียวสดอยู่ตลอดทั้งปีจึงถูกใช้แทนความหมายในเรื่องของความซื่อสัตย์ ความมั่นคงในเรื่องของความรัก จนถูกนำมารวมกับสีแดงซึ่งเป็นสีแห่งความรักจนกลายเป็นรูปหัวใจในที่สุดค่ะ (ใบเถาของต้นไอวี) . เทพเจ้าแห่งความรักมีแต่คิวปิดหรอ? หากพูดถึงเทพเจ้าแห่งความรักแล้ว น้อง ๆ อาจมีภาพเด็กผู้ชายถือธนูอยู่ ในความคิด ความเป็นจริงแล้วยังมีเทพเจ้าอีกหลายองค์ที่ถูกนับว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรักค่ะ – “อโฟรไดท์” (Aphrodite) หรือ “วีนัส” (Venus) เทพีแห่งความรัก ความงาม และเพศสภาพของกรีก อโฟรไดท์มีความสามารถในการสะกดจิต ทำให้ผู้อื่นหลุ่มหลงในความงามของนาง ตามตำนานกรีกแล้วอโฟรไดท์ถือเป็นเทพีที่มีอารมณ์รุนแรงและมีเพศสัมพันธ์กับเทพหลายองค์ แม้กระทั่งกับคนธรรมดา ซึ่งอโฟรไดท์มีศักดิ์เป็นแม่แท้ ๆ ของคิวปิด (อโฟรไดท์หรือวีนัส) – “คิวปิด” (Qupid) หรือ “อีรอส” (Eros) เทพเจ้าแห่งความรัก ความปรารถนาของกรีก แท้จริงแล้วคิวปิดเป็นเทพแห่งความรักแบบกามอารมณ์ ไม่ใช่แบบบริสุทธิ์อย่างที่ทุกคนเข้าใจค่ะ คิวปิดถือเป็นเทพที่รูปร่างหน้าตาดีที่สุด อีกทั้งยังมีความสามารถในการยิงธนูที่สั่งให้ใครรักใครก็ได้ และอีกด้านของธนูสามารถยิงให้คนเกลียดกันได้ คิวปิดตกหลุมรักไซคีตอนที่อโฟรไดท์สั่งเขาไปยิงธนูให้ไซคีไปรักกับผู้ชายไม่ดี เพราะผู้คนหลงในความงามของไซคีจนลืมบูชาเทพแห่งความงามอย่างอโฟรไดท์ คิวปิดตะลึงในความงามของไซคีจนทำธนูทิ่มมือตัวเอง ทำให้ต่อมาทั้งสองได้ครองรักกันภายใต้เงื่อนไขที่ว่าไซคีต้องห้ามแอบมองว่าหน้าตาคิวปิดเป็นอย่างไร แต่ด้วยคำยุยงจากพี่สาวที่อิจฉาชีวิตของไซคีทำให้ไซคีแอบดู เป็นเหตุทำให้คิวปิดจากไปพร้อมบอกว่า “ความรักไม่อาจดำรงอยู่ได้ ถ้าปราศจากความไว้วางใจ” แม้ในท้ายที่สุดทั้งสองจะได้ครองรักกันแต่เรื่องราวของไซคีกับคิวปิดจึงกลายเป็นตัวแทนและคำสอนเกี่ยวกับความรักเรื่องของความเชื่อใจ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน (คิวปิดและไซคี) – แฮธอร์ (Hathor) เทพีแห่งความรัก ความสุข การแต่งงาน การเต้นรำ และความงดงามของอียิปต์ เชื่อกันว่านางเป็นผู้ควบคุมระบบการสืบพันธุ์ของมนุษย์ เป็นผู้ให้เสน่ห์แก่ผู้หญิง และทำให้เกิดอารมณ์ปรารถนา เป็นผู้ควบคุมเพศสัมพันธ์ มีอำนาจทำให้มนุษย์เสื่อมสมรรถภาพหรือหายจากอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ ทำให้เทวสถานของนางส่วนใหญ่เปิดรับคู่รักทุกเพศ ทุกวรรรณะเพราะพระนางชื่นชอบการแต่งงาน และความรักที่สมหวังเป็นอย่างมาก (แฮธอร์) – อินันนา (Inanna) เทพีความรัก ความงาม เพศ สงคราม ความยุติธรรม และอำนาจทางการเมืองของเมโสโปเตเมีย เชื่อกันว่านางมีหน้าที่ให้กำเนิดความรักและความต้องการทางเพศ และถูกมองว่าเป็นเทพีผู้บริสุทธิ์ (อินันนา) – เฟรย่า (Freyja) เทพีแห่งความรัก ความงาม เพศสัมพันธ์ ความอุดมสมบูรณ์ และความตายตามตำราของนอร์ส เล่ากันว่านางเป็นเทพีที่งดงามที่สุดในแอสการ์ด มีทั้งด้านที่อ่อนหวานและดุดัน (เฟรย่า) ยังมีเทพอีกหลายอันที่พี่ออมยังไม่ได้พูดถึงนะคะ แต่น้อง ๆ อาจจะสังเกตได้ว่าเทพแห่งความรักส่วนใหญ่มักเป็นผู้หญิง และมีการผูกเข้ากับเรื่องของอารมณ์ เพศสัมพันธ์และความงามค่ะ . ทำไมต้องให้ดอกกุหลาบในวันวาเลนไทน์? ช่วงวาเลนไทน์เป็นช่วงที่ดอกไม้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โดยเฉพาะกับดอกกุหลาบ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เจอเต็มไปหมด จริง ๆ แล้วนะคะธรรมเนียมการให้ดอกกุหลาบมาจากหลายตำนาน – เรื่องเล่าหลายเรื่องมักมีการเชื่อมโยงระหว่างกุหลาบกับอโฟรไดท์ โดยเป็นเรื่องราวของอโดนิสที่เชื่อกันว่าเป็นคนที่อโฟร์ไดท์รักที่สุดในบรรดาชายที่เธอเคยข้องเกี่ยวมา ยิ่งอโดนิสเป็นชายคนเดียวที่ไม่ตกเป็นทาสความสวยของเธอ ยิ่งทำให้อโฟร์ไดท์หลุ่มหลงชายผู้นี้เป็นอย่างมาก จนเกิดเป็นเรื่องเล่าที่ทำให้กุหลาบกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เช่น หลังจากอโดนิส (Adonis) ถูก “อาเรส” (Ares) คู่รักเก่าของอโรไดท์ในร่างหมูป่าฆ่าเพราะความหึงหวง น้ำตาของเธอไหลลงผสมกับเลือดของเขา หยดลงกลายเป็นดอกกุหลาบสีแดง บ้างก็ว่าอโฟร์ไดท์แทงตัวเองจนเลือดหยดลงสู่พื้นกลายเป็นกุหลาบ บ้างก็ว่านางรับไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียคนรักจึงเสกเลือดของอโดนิสให้กลายเป็นดอกไม้ ทำให้ชื่อแรกสุดของดอกไม้ชนิดนี้คือ “อโดนิส” หรือ “อะเนมโมนิ” (Anemone) (อโฟร์ไดท์กับอโดนิส) – “คลอริส” (Chloris) เทพธิดาแห่งดอกไม้ได้ยกเอาดอกกุหลาบเป็นราชินีของดอกไม้ ซึ่งต่อมาได้มอบกุหลาบให้แก่คิวปิดเทพเจ้าแห่งความรัก ทำให้กุหลาบถูกเชื่อมโยงไปกับเรื่องราวความรักไปในทันที – ในศาสนาคริสต์เชื่อว่าเลือดของพระเยซูในตอนที่ถูกตรึงอยู่บนไม้กางเขนได้หยดลงบนต้นหญ้ามอลส์เกิดเป็นต้นกุหลาบแดง เรียกกันว่ากุหลาบมอลส์ – ในประเทศไทยไม่มีระบุแน่ชัดว่ากุหลาบเข้ามาเป็นที่นิยมตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มีวรรณคดีเรื่อง “มัทนะพาธา” พระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นตำนานของดอกกุหลาบที่เกี่ยวกับข้องกับเรื่องของความงาม ความรัก ในปัจจุบันดอกไม้ที่มอบให้ระหว่างเทศกาลวาเลนไทน์มีความหลากหลายมากขึ้น ถ้าน้อง ๆ ยังสงสัยกันอยู่ทำไมต้องเป็นดอกไม้ จริง ๆ แล้วนะคะ มนุษย์ใช้ดอกไม้เป็นสื่อกลางแสดงความรักมานักต่อนักแล้วค่ะ อาจจะดอกรูปร่าง สีสัน และกลิ่นของมันทำให้เป้นสิ่งของที่ดีในการมอบให้แก่ใครสักคนค่ะ . ช็อกโกแลตกับวาเลนไทน์? นอกจากดอกกุหลาบแล้ว ช็อกโกแลตก็เป็นอีกหนึ่งของแทนใจยอดฮิตที่อาจจะมีน้อง ๆ บางคนลงทุนทำเองกับมือเพื่อมอบให้คนที่รักในวันวาเลนไทน์ใช่ไหมคะ ถ้าถามว่าช็อกโกแลตมีความเกี่ยวข้องยังไงกับเทศกาลแห่งความรักเช่นนี้ ก็คงต้องย้อนกลับในสมัยจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ช่วงที่ความรักของชายหญิงถือเป็นเรื่องต้องห้าม การเจอกันแต่ละครั้งจึงนิยมเอาของมามอบแทนความรัก ใช่แล้วค่ะ ของสิ่งนั้นก็คือช็อกโกแลต เพราะถือเป็นของหายากและมีราคาสูง ทำให้ช็อกโกแลตกลายเป็นของมีค่าที่คู่รักนิยมมอบให้แก่กันเพื่อแสดงความรักที่เต็มหัวใจค่ะ ในขณะเดียวกันก็มีบางคนเชื่อว่า การให้ช็อกโกแลตอาจเป็นเพียงการตลาดที่เกิดจาก Richard Cabury สมัยเพิ่งเข้าสืบทอดกิจการช็อกโกแลต Cabury ของประเทศอังกฤษ และด้วยความไฟแรงต้องการเพิ่มยอดขายของเขาทำให้เกิดการคิดค้นช็อกโกแลตรูปหัวใจ และออกแบบลวดลายบนกล่องให้มีรูปคิวปิดและดอกกุหลาบ แน่นอนว่าเป็นความคิดที่ประสบความสำเร็จและพลิกวงการของช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์มาจนถึงทุกวันนี้ . แหวน เครื่องประดับแทนใจของคู่รัก? ทำไมต้องใส่นิ้วนางข้างซ้าย? เมื่อเข้าร่วมพิธีแต่งงานกันทั้งฝ่ายจำเป็นที่จะสวมแหวนไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย ซึ่งกลายเป็นเครื่องประดับที่เราเห็นเมื่อไรก็ทราบได้ทันทีว่าคน ๆ นี้มีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว แล้วทำไมต้องเป็นแหวนล่ะ? การใส่แหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายมาจากชาวอียิปต์โบราณที่พบว่านิ้วนางข้างซ้ายเป็นนิ้วเดียวที่มีเส้นเลือดใหญ่วิ่งเข้าไปที่หัวใจ ซึ่งเรียกตามภาษาละตินว่า “เส้นเลือดแห่งความรัก” (Vena Amoris) จนกลายมาเป็นวัฒนธรรมที่คู่รักสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายเพราะเป็นตัวเชื่อมจากเส้นเลือดไปถึงหัวใจของทั้งสอง แต่ในสำหรับข้อเท็จจริงนะคะ ได้มีการพิสูจน์ในภายหลังว่าแต่ละนิ้วมีระบบเลือดไหลเวียนที่เหมือนกัน ทำให้นิ้วนางข้างขวามีการไหลเวียนของเลือดไม่ต่างจากนิ้วนางข้างซ้ายค่ะ . คำว่าแฟนมาจากไหน? แล้วก่อนหน้านี้ใช้คำว่าอะไร? คำว่า “แฟน” ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 (ออนไลน์) เป็นภาษาปาก หมายถึง ผู้นิยมชมชอบ เช่น แฟนเพลง แฟนภาพยนตร์ แฟนมวย, ผู้เป็นที่ชอบพอรักใคร่, คู่รัก, สามีหรือภรรยา. ซึ่งคำนี้มีที่มาจากคำในภาษาอังกฤษคือว่า “Fan” ย่อมาจาก “Fanatic” คลั่งไคล้ หลุ่มหลงในสิ่งใดมาก ๆ ถ้าเอาในยุคนี้ก็คงเหมือนกับคำว่า “คลั่งรัก” นั้นแหละค่ะ แล้วก่อนหน้าที่จะมีคำว่าแฟนล่ะ คนไทยใช้คำว่าอะไร? คนไทยใช้คำว่า “ชิ้น” แทนคู่รักในหน้าที่เดียวกับคำว่าแฟนเลยค่ะ ก่อนที่หลังสมัย พ.ศ. 2490 คนไทยจะเปลี่ยนมาใช้คำว่าแฟนตามปัจจุบันอ้างจากหนังสือมหาเหตุประเทศสยาม เล่ม 1 ของเอนก นาวิกมูลที่เขียนในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งอธิบายไว้ “แฟน” ไว้ว่าเป็นคำที่คนไทยในสมัยนั้นใช้กันอย่างแพร่หลาย ฟุ่มเฟื่อย . วันวาเลนไทน์เข้ามาในไทยเมื่อไหร่? วันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรักซึ่งมาจากวัฒนธรรมของต่างประเทศ ซึ่งเข้ามามีบทบาทในไทยในสมัยสงครามเวียดนาม ราวปี พ.ศ. 2508 – 2509 สหรัฐอเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพในเมืองไทยหลายแห่ง เช่น อุดรธานี มีผู้หญิงหลายคนในบริเวณฐานทัพรับเอาวันวาเลนไทน์นี้เข้ามา จนกระทั่งห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เป็นผู้ริเริ่มการจัดประเพณีวาเลนไทน์ในห้าง บ้างก็ว่ามาจากพนักงานที่ไปเรียนต่างประเทศมา บ้างก็ว่าเป็นลูกหลานของเจ้าของห้างแห่งนั้น ทำให้หลังจาก พ.ศ. 2510 ห้างสรรพสินค้าเกือบทุกแห่งนับเอาเทศกาลวันวาเลนไทน์มาเป็นอีกหนึ่งอีเวนต์หลักของทุกปีเลยก็ว่าได้ค่ะ . วันแห่งความรักของไทย ถึงแม้ว่าวันวาเลนไทน์จะเป็นวันแห่งความรักที่รู้จักกันเป็นสากล และได้รับความนิยมในทุกหนแห่งไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย แต่ประเทศไทยก็มีวันแห่งความรักเช่นกันค่ะ แต่อิงตามศาสนาพุทธนั้นก็คือ “วันมาฆบูชา” ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 โดยอ้างจากเหตุการณ์โอวาทปาฎิโมกข์ซึ่งถือเป็นวันแสดงความรักของพระพุทธเจ้าโดยการเทศนา เป็นความรักในแบบของการเมตตา และปรารถนาดีต่อผู้อื่นค่ะ . จบกันไปแล้วนะคะสำหรับเรื่องราวของวันแห่งความรักแบบนี้ ไม่ว่าจะความรักแบบไหนก็สวยงามไม่แพ้กันนะคะ แต่อีกหนึ่งคนสำคัญที่พี่ออมอยากให้น้อง ๆ รักก็คือตัวน้อง ๆ เองค่ะ อย่ามองข้ามการรักตัวเองค่ะ ความรักในรูปแบบนี้นับว่าเป็นความรักที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะการรักตัวเองจะทำให้น้อง ๆ มีความสุขกับชีวิตในแต่ละวัน และไม่ว่าน้อง ๆ จะรักใคร สิ่งที่สำคัญก็อย่ารักจนไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น หรือทำให้ผู้ใดเป็นทุกข์ แม้กระทั่งตัวเราเองนะคะ 🙂 EZ Webmaster Related Posts มทร.ธัญบุรี โชว์ผลงานเด่น คว้า 12 รางวัลเวทีนวัตกรรมระดับนานาชาติ เซี่ยงไฮ้ 2025 มธ. ปักหมุดหลักสูตร ‘AI Ethics’ หนุนบริบทใหม่ของห้องเรียนทันโลก สร้างจุดยืนคนรุ่นใหม่ ‘ใช้เอไออย่างมีจริยธรรม’ พร้อมเดินหน้าวางหมุดหมายระบบการศึกษาไทย กับการปลุกการใช้เทคฯ คู่ธรรมาภิบาล คาดเริ่มเปิดลงทะเบียนพร้อมเรียนจริง สิงหาคม 68 นี้ สสวท. เชิญใช้ฟรี “คลังคำศัพท์” รับเปิดเทอมใหม่ มัดรวมศัพท์ในหนังสือเรียนวิชาที่ สสวท. พัฒนา สจล. เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน 11 สาเหตุลึกซึ้ง ทำไมการศึกษาไทยยังตกต่ำ? เสียงสะท้อนจากครูชนบท สู่คำถามใหญ่ของสังคม Post navigation PREVIOUS Previous post: กมธ. อุดมศึกษาฯ วุฒิสภา ดูงานและติดตามความคืบหน้าชุดโครงการวิจัยการพัฒนาต้นแบบการจัดการเกษตรผสมผสาน และการจัดการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนวัตวิถีเชิงสร้างสรรค์ จังหวัดแพร่NEXT Next post: มหาวิทยาลัยนเรศวร ประกาศรับ #TCAS66 รอบ 2 #QUOTA แพทยศาสตรบัณฑิต #ผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
“40 ปี เภสัชศิลปากร” หลากวงการ ร่วมแสดงความยินดี สู่บทบาทผู้นำด้านวิชาชีพเภสัชกรรม วิจัยนวัตกรรม และการสร้างสุขภาพอย่างยั่งยืน EZ WebmasterJune 13, 2025 วันที่ 6 มิถุนายน 2568 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งการสถาปนาอย่างสมเกียรติ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม ภายใต้ชื่องาน “Celebrating the 40th Anniversary:… ดีพร้อม ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้ายกระดับร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย หวังสร้างรายได้ชุมชนสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก EZ WebmasterJune 13, 2025 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้า “โครงการพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย (Local Chef Restaurant) ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก” ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” มุ่งหวังยกระดับร้านอาหารท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ โดดเด่น และสามารถแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ และการสร้างให้เกิดเครือข่ายเชฟชุมชนที่เข้มแข็ง และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น… ถอดแนวคิดความมั่นคงชายแดนจากมุมมอง นักศึกษา “วปอ.บอ.” 4 ด้าน สังคม-เศรษฐกิจ-การเมือง-การทหาร ร่วมสะท้อนเส้นแบ่งแห่งโอกาสและอนาคตร่วมกัน EZ WebmasterJune 10, 2025 ชายแดนไทย-เมียนมา ที่ทอดยาวกว่า 2,400 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของไทย ตั้งแต่เชียงรายไปจนถึงและระนอง ไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นแบ่งระหว่างรัฐ แต่คือเส้นเขตแดนที่เชื่อมโยงผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ วัฒนธรรม เครือข่ายเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาอย่างยาวนาน แต่ภายหลังสถานการณ์การเมืองในเมียนมาตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา พื้นที่ที่เคยเต็มไปด้วยโอกาสนี้ กลับกลายเป็นความท้าทายที่ส่งผลกระทบบางประเด็นมาถึงประเทศไทย ดังนั้น การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนจึงไม่ใช่เพียงแค่ภารกิจของกองทัพในเรื่องการปกป้องพรมแดนเท่านั้น แต่เป็นโจทย์เชิงยุทธศาสตร์ที่ต้องผสมผสานความเข้าใจในพื้นที่ สังคม วัฒนธรรม ผู้คน เศรษฐกิจ… Search for: Search
ดีพร้อม ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้ายกระดับร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย หวังสร้างรายได้ชุมชนสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก EZ WebmasterJune 13, 2025 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้า “โครงการพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย (Local Chef Restaurant) ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก” ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” มุ่งหวังยกระดับร้านอาหารท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ โดดเด่น และสามารถแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ และการสร้างให้เกิดเครือข่ายเชฟชุมชนที่เข้มแข็ง และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น… ถอดแนวคิดความมั่นคงชายแดนจากมุมมอง นักศึกษา “วปอ.บอ.” 4 ด้าน สังคม-เศรษฐกิจ-การเมือง-การทหาร ร่วมสะท้อนเส้นแบ่งแห่งโอกาสและอนาคตร่วมกัน EZ WebmasterJune 10, 2025 ชายแดนไทย-เมียนมา ที่ทอดยาวกว่า 2,400 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของไทย ตั้งแต่เชียงรายไปจนถึงและระนอง ไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นแบ่งระหว่างรัฐ แต่คือเส้นเขตแดนที่เชื่อมโยงผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ วัฒนธรรม เครือข่ายเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาอย่างยาวนาน แต่ภายหลังสถานการณ์การเมืองในเมียนมาตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา พื้นที่ที่เคยเต็มไปด้วยโอกาสนี้ กลับกลายเป็นความท้าทายที่ส่งผลกระทบบางประเด็นมาถึงประเทศไทย ดังนั้น การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนจึงไม่ใช่เพียงแค่ภารกิจของกองทัพในเรื่องการปกป้องพรมแดนเท่านั้น แต่เป็นโจทย์เชิงยุทธศาสตร์ที่ต้องผสมผสานความเข้าใจในพื้นที่ สังคม วัฒนธรรม ผู้คน เศรษฐกิจ…
ถอดแนวคิดความมั่นคงชายแดนจากมุมมอง นักศึกษา “วปอ.บอ.” 4 ด้าน สังคม-เศรษฐกิจ-การเมือง-การทหาร ร่วมสะท้อนเส้นแบ่งแห่งโอกาสและอนาคตร่วมกัน EZ WebmasterJune 10, 2025 ชายแดนไทย-เมียนมา ที่ทอดยาวกว่า 2,400 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของไทย ตั้งแต่เชียงรายไปจนถึงและระนอง ไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นแบ่งระหว่างรัฐ แต่คือเส้นเขตแดนที่เชื่อมโยงผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ วัฒนธรรม เครือข่ายเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาอย่างยาวนาน แต่ภายหลังสถานการณ์การเมืองในเมียนมาตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา พื้นที่ที่เคยเต็มไปด้วยโอกาสนี้ กลับกลายเป็นความท้าทายที่ส่งผลกระทบบางประเด็นมาถึงประเทศไทย ดังนั้น การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนจึงไม่ใช่เพียงแค่ภารกิจของกองทัพในเรื่องการปกป้องพรมแดนเท่านั้น แต่เป็นโจทย์เชิงยุทธศาสตร์ที่ต้องผสมผสานความเข้าใจในพื้นที่ สังคม วัฒนธรรม ผู้คน เศรษฐกิจ…
EZ Webmaster February 13, 2023 EZ Webmaster February 13, 2023 กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! กว่าจะเป็นวาเลนไทน์? — ประวัติวันวาเลนไทน์แบบเจาะลึก / 8 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ห้ามพลาด! เทศกาลแห่งความรักวนกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็ต้องเคยมีความรักกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ ความรักที่พี่ออมพูดถึงนั้นไม่ได้หมายถึงแค่ในรูปแบบคนรักเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความรักแบบครอบครัว แบบเพื่อน หรือแบบอื่น ๆ วันนี้นะคะพี่ออมจะมาเล่าประวัติวันแห่งความรักว่ามีที่มายังไงแล้วทำไมถึงกลายเป็นวันสำคัญอย่างเช่นทุกวันนี้ได้ ไปดูกันเลย! . แต่เดิมวันที่ 14 กุมภาพันธ์ไม่ได้เป็นที่รู้จักในชื่อวันวาเลนไทน์หรือเทศกาลแห่งความรักอย่างเช่นทุกวันนี้ ในช่วงจักรวรรดิโรมัน วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันหยุดเพื่อให้เกียรติแด่เทพีจูโน ซึ่งถือเป็นราชินีของบรรดาเทพเจ้าโรมัน และชาวโรมยังเชื่อว่าเธอเป็นผู้ปกป้องผู้หญิง ทั้งชีวิตแต่งงาน เวลาคลอดบุตร จึงถือว่าเทพีจูโนเป็นเทพีแห่งผู้หญิงและการแต่งงาน (เทพีจูโน) . ถ้าถามว่าแล้วยุคนั้นมีการเฉลิมฉลองเกี่ยวกับความรักไหม? มีค่ะ ถึงแม้ว่าในสมัยนั้นวิถีชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน แต่ก็ยังมีเทศกาลคล้ายกับวันวาเลนไทน์อย่าง “ลูเพอร์คาร์เลีย” หรือ “ลูเปอร์คาลีอา” เป็นประเพณีเพื่อระลึกถึงโรมิวลุสและเรมุสซึ่งเชื่อกันว่าเป็นฝาแฝดผู้ก่อตั้งกรุงโรม จัดในระหว่างวันที่ 13 – 15 กุมภาพันธ์ แต่เทศกาลวาเลนไทน์เดิมนี้ไม่ได้สวยงามอย่างวาเลนไทน์ในปัจจุบันนะคะเพราะการเฉลิมฉลองในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างโหดร้ายเลยก็ว่าได้ค่ะ เริ่มตั้งแต่การสังเวยแพะ แกะ สุนัข โดยสุนัขต้องเป็นลูกสุนัขตัวเล็กน่ารัก ๆ เท่านั้น วิธีการคือนำสัตว์เหล่านี้เข้าไปในถ้ำก่อนที่จะรุมฆ่ามันอย่างไร้ปราณี ไม่หยุดอยู่เพียงการสังหารสัตว์เท่านั้น หลังจากที่ฆ่าสัตว์แล้ว นักบวชจะนำเลือดจากมีดที่เพิ่งฆ่าสัตว์ไปก่อนหน้านี้มาป้ายลงบนศีรษะของเด็กหนุ่มจากตระกูลผู้ดีสองคน จากนั้นก็นำขนสัตว์มาชุบด้วยน้ำนมเพื่อเช็ดศีรษะอีกครั้งพร้อมบังคับให้เด็กทั้งสองหัวเราะออกมาอย่างสุดเสียงในถ้ำมืด ๆ ก่อนจะให้พวกเขาแก้ผ้าพร้อมมอบอาวุธเป็นแส้หนังแพะ แส้หนังแพะนี้เรียกว่า “Februare” มาจาก “February” หรือเดือนกุมภาพันธ์นั่นเองค่ะ โดยตามความเชื่อของคนในสมัยถือว่ากิจกรรมทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นการชำระจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ หลังจากนั้นจะมีเด็กหนุ่มผู้ดีมากมายพร้อมใจกันแก้ผ้าทาน้ำมันตามตัวถือแส้หนังแพะไว้ในมือ ก่อนกวาดสายตาวิ่งฟาดผู้หญิงที่เข้าร่วมงาน น้อง ๆ อาจจะเอ๊ะขึ้นมาว่าแล้วผู้หญิงไม่ทำอะไรกลับหรอ? ต้องบอกก่อนว่าแม้พวกเธอจะเหมือนวิ่งหนีแต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้หญิงเหล่านั้นต่างยินยอมที่จะถูกตีค่ะ เพราะเชื่อกันว่าหนังสัตว์เหล่านั้นจะทำให้พวกเธอสืบพันธุ์และมีลูกได้ (เด็กหนุ่มเอาแส้แพะไล่ฟาดหญิงสาว) . พิธีกรรมแปลก ๆ ตามมุมมองของคนปัจจุบันอย่างเรายังมีอีกนะคะ แน่นอนว่าเทศกาลแบบนี้ต้องมีอาหารกินเลี้ยงเหมือนประเพณีอื่น ๆ ต่างกันตรงที่ในเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียนี้ นักบวชจะแขวนเครื่องในแพะบนต้นวิลโลว์ หรือ ต้นหลิว (Willow) เพื่อให้คนนำมาทำอาหารพร้อมทั้งทำเค้กเกลือ ที่คล้ายกับแพนเค้กไปย่างเกลือทำให้ออกรสชาติเค็ม ๆ ไหม้ ๆ ทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นเมนูยอดฮิตประจำเทศกาลนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีการแต่งเพลงโดยนำเอาพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของผู้อื่นมาขับร้องเป็นเนื้อเพลงเพราะเชื่อกันว่าความอับอายจะช่วยให้ผู้คนประพฤติตัวดีขึ้น แต่แน่นอนว่ากิจกรรมนี้ดูเหมือนจะให้ผลเสียมากกว่า เป็นเรา เราก็คงไม่พอใจที่คนอื่นเอาเรื่องราวของเรามาป่าวประกาศใช่ไหมคะ อีกหนึ่งกิจกรรมเด่นที่เป็นตัวชูโรงทำให้เทศกาลนี้ถูกมองว่าเป็นวาเลนไทน์เดิมคือวันก่อนงานเทศกาล จะมีการจับสลากของหนุ่มสาวเพื่อจับคู่เที่ยวตลอดงาน เล่ากันว่าฝ่ายหญิงจะเขียนชื่อของตนและใส่ไปในเหยือกหรือโถ ก่อนฝ่ายชายจะเป็นผู้จับฉลากชื่อนั้นขึ้นมา แน่นอนว่างานเทศกาลนี้ทำให้หนุ่มสาวหลายคู่เกิดพบรักกันและสานต่อความสัมพันธ์กัน ภายหลังวิธีการจับสลากแบบนี้ถูกเรียกว่า “สลากรัก” หรือ “สลากลูเปอร์คาลีอา” พูดง่าย ๆ ก็คงคล้ายกับการนัดบอดในยุคนี้แหละค่ะ น้อง ๆ อาจจะกำลังคิดว่ากิจกรรมหลังนี้ดูจะปกติดีใช่ไหมคะ แต่ไม่เลยค่ะ บางแห่งเล่าว่าการเขียนชื่อลงในเหยือกหรือโถนั้นไม่ได้ทำเพื่อให้หนุ่มสาวได้ทดลองใช้เวลาร่วมกันแต่เพื่อมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ไม่มีการเดท ไม่มีการพูดคุย ไม่มีความรักมาเกี่ยวข้อง เป้าหมายมีเพียงการเพศสัมพันธ์และให้ผู้หญิงตั้งครรภ์เท่านั้น ซึ่งหากไม่สำเร็จตามเป้าหมายก็สามารถกลับมาใหม่ได้ในปีถัดไป แต่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าจะต้องคู่กับผู้ชายคนเดิม หรือเริ่มจับสลากกันใหม่ในทุกปีค่ะ . ต่อมาในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ศาสนาคริสต์กลายมาเป็นศาสนาหลักของกรุงโรม สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสเข้ามามีบทบาทและตัดสินว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียและเทศกาลอื่น ๆ เป็นเทศกาลของลัทธินอกรีต อีกทั้งยังผิดศีลธรรม ในราว ค.ศ. 500 ซึ่งจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ก็เห็นดีเห็นงามเนื่องจากเป็นบุคคลที่มีจิตใจดุร้าย ชื่นชอบการทำสงคราม การนองเลือด และมองว่าเทศกาลลูเพอร์คาร์เลียจะทำให้ผู้ชายไม่อยากเข้าร่วมกองทัพ เพราะไม่อยากจากคนรักหรือครอบครัวไป ทำให้เกิดเป็นคำสั่งห้ามไม่ให้มีการจัดพิธีหมั้นและพิธีแต่งงานกันในโรมอย่างเด็ดขาด สลากที่เคยเป็นสื่อกลางแห่งความรักถูกปรับเปลี่ยนเป็นสลากนักบุญ จากการจับชื่อหญิงสาวในโถกลายเป็นการจับชื่อนักบุญแทน หากชายหนุ่มจับได้ชื่อนักบุญท่านไหนก็ต้องใช้ชีวิต ศึกษา เรียนรู้ตามวิถีชีวิตของนักบุญท่านนั้น (จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2) . มาถึงตรงนี้น้อง ๆ คงจะเริ่มสงสัยกันแล้วว่าตกลงแล้ววันวาเลนไทน์ที่เป็นวันแห่งความรักจะเริ่มต้นที่ตรงไหน? ในระหว่างนี้เองที่มีนักบุญผู้ลือกันว่าหน้าตาหล่อเหลา งดงาม ชื่อว่า “เซนต์วาเลนไทน์” หรือ “วาเลนตินัส” มีความเห็นอกเห็นใจในคู่รัก จึงแอบร่วมมือกับ “เซนต์มาริอัส” จัดพิธีแต่งงานลับ ๆ ให้แก่ชาวคริสต์หลายคู่ ทั้งพิธีจะมีเพียงเจ้าบ่าว เจ้าสาว และบาทหลวงเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง ทหารของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ได้เข้ามาเห็นพิธี ส่งผลให้เซนต์วาเลนไทน์ถูกควบคุมตัวไปลงโทษอย่างสาหัส เหล่าคู่รักที่เคยเข้าร่วมพิธีแต่งงานกับเขาผลัดกันมาเยี่ยมนักบุญท่านนี้อยู่เสมอ และขณะที่เป็นนักโทษ เขาก็ยังคงส่งคำอวยพรออกไปนอกคุกอยู่เสมอ เชื่อกันว่าตอนอยู่ในคุกนั้น เซนต์วาเลนไทน์ได้รับคำขอให้ช่วยรักษาลูกสาวตาบอดของผู้คุมแอสทีเรียสที่ชื่อว่า “จูเลีย” ทั้งสองต่างตกหลุมรักกันระหว่างการรักษา จนกระทั่งจูเลียกลับมามองเห็นได้ปกติ เธอก็มักจะมาเยี่ยมเยียนเซนต์วาเลนไทน์อยู่เสมอ คืนก่อนที่เซนต์วาเลนไทน์จะถูกประหารด้วยการตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลียโดยลงท้ายว่า “From Your Valentine” เป็นอันปิดตำนานของเซนต์วาเลนไทน์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ด้วยวัยเพียง 47 ปี (เซนต์วาเลนไทน์และจูเลีย) . ศพของเซนต์วาเลนไทน์ได้ถูกจัดเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม โดยจูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอนด์สีชมพูไว้ใกล้หลุมศพของเขา โดยเหตุนี้เอง “ดอกอัลมอนด์สีชมพู” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งวันวาเลนไทน์ ความรักนิรันดร์ ไม่ใช่ดอกกุหลาบอย่างที่น้อง ๆ หลายคนเข้าใจกัน แต่ดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพและการแบ่งใจน้ำใจค่ะ (ดอกอัลมอนด์สีชมพู) . แม้เรื่องเล่าความรักของนักบุญวาเลนไทน์ข้างต้นจะเป็นที่โด่งดัง แต่ยังมีหลายแห่งที่มีเรื่องเล่าในรูปแบบที่ต่างกัน เล่ากันว่า “วาเลนตินุส” หรือ “วาเลนไทน์” มี 2 ท่าน คือ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งโรม” และ “นักบุญวาเลนตินุสแห่งเทอร์นี” ทั้งสองพลีชีพเพื่อศาสนา ก่อนที่เรื่องราวจะถูกแต่งเติมจนกลายเป็นเรื่องราวความรักของนักบุญวาเลนไทน์ โดยคาดเดากันว่าน่าจะถูกแต่งขึ้นในช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 5 – 6 ใช้ชื่อผลงานว่า Passio Marii et Marthae ดังที่พี่ออมได้เล่าให้ฟังไปข้างต้นค่ะ . ด้วยเหตุการณ์นี้ เรื่องราวโรแมนติกอันสงสารของทั้งคู่ทำให้เซนต์วาเลนไทน์กลายเป็นนักบุญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ตั้งแต่เมื่อ ค.ศ. 496 สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสที่ 1 กำหนดให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักและมีการปรับเปลี่ยนชื่อวันแห่งความรักเป็น “วันวาเลนไทน์” ตามชื่อตามชื่อนักบุญค่ะ แต่ก็ถูกตัดออกจากปฏิทินโรมันทั่วไปและให้ไปอยู่ในปฏิทินเฉพาะซึ่งถือเป็นเพียงปฎิทินท้องถิ่นหรือปฎิทินประจำชาติโดยสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 ในปี ค.ศ. 1969 เพราะเห็นว่านอกจากชื่อของเซนต์วาเลนไทน์แล้วก็ไม่มีข้อมูลนอกเหนือจากว่าศพของเขาถูกฝังไว้ที่เวียฟลามิเนียเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ แต่ถึงอย่างนั้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ก็ได้กลายเป็นวันแห่งความรักของสากลอย่างเช่นทุกวันนี้ค่ะ . นอกจากจะเล่าที่มาของวันวาเลนไทน์แล้ว วันนี้พี่ออมก็ยังมีเกร็ดเล็ก ๆ ที่น่าจะพอคลายความสงสัยของน้อง ๆ เกี่ยวกับวาเลนไทนและความรักกันได้ค่ะ . สัญลักษณ์รูปหัวใจมาจากไหน ? ถ้าพูดถึงเรื่องของความรักก็เป็นไปไม่ได้เลยนะคะที่จะไม่พูดถึงรูปร่างหัวใจ แล้วรูปร่างหัวใจนี้มาจากไหนกันล่ะ? น้อง ๆ อาจจะเดากันว่าก็มาจากหัวใจมนุษย์จริง ๆ นี่ คำตอบนี้ก็ถูกต้องค่ะแต่ไม่ใช่เพียงคำตอบเดียวเท่านั้น ที่มาของรูปหัวใจถูกแบ่งออกเป็น 2 ทฤษฎีหลัก ๆ ค่ะ – ทฤษฎีแรกคือรูปร่างหัวใจมาจากอวัยวะ ซึ่งก็คือหัวใจมนุษย์จริง ๆ เริ่มจากนักปราชญ์ของกรีก “อริสโตเติล” (Aristotle) และแพทย์ชาวโรมัน “กาเลน” (Galen) ทั้งสองได้ศึกษาระบบร่างกายมนุษย์และโครงสร้างของของสิ่งมีชีวิตหรือที่เรียกกันว่ากายวิภาคศาสตร์นั้นแหละค่ะ ทั้งสองได้บันทึกและวาดรูปหัวใจของมนุษย์ไว้ (รูปวาดหัวใจของอริสโตเติลและกาเลน) จนในช่วงศตวรรษที่ 14 ชาวยุโรปได้เริ่มศึกษากายวิภาคของมนุษย์ และนำรูปหัวใจที่อริสโตเติลและกาเลนวาดมาอ้างอิง พร้อมทั้งเชื่อว่าหัวใจเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก อารมณ์ และความรัก ทำให้ถูกดัดแปลงกลายมาจากหัวใจของคนสองคนมาประกบกัน จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แต่ก็ยังมีผู้ถกเถียงว่ารูปร่างหัวใจมาจากร่างกายมนุษย์จริง แต่อาจถูกสร้างตามสรีระของร่างกายในส่วนของบั้นท้ายค่ะ – ทฤษฎีที่ 2 นั้นเชื่อกันว่ารูปหัวใจมาจากพืช เป็นพืชโบราณที่ชื่อว่า “ซิลเฟียม” หรือ “ซิลฟีเนียม” (Silphium) เป็นดอกไม้ในตระกูลยี่หร่า โดยผลของดอกมันมีลักษณะคล้ายกับรูปหัวใจในปัจจุบัน แล้วทำไมถึงเลือกเอาผลของพืชชนิดนี้มาเป็นสัญลักษณ์? เพราะว่าในสมัยก่อนซิลเฟียมเติบโตบริเวณชายฝั่งแอฟริกาเหนือใกล้กับคิวเรเนหรือซิเรเน (Cyrene) ซึ่งเป็นเมืองกรีกโบราณโดยพืชชนิดนี้ถูกใช้เป็นเครื่องเทศ และใช้ในการคุมกำเนิดของคนในสมัยนั้นอีกด้วยค่ะ (ผลของดอกซิลเฟียม) แต่ก็มีการเสนอความเห็นกันว่ารูปหัวใจอาจจะมาจากต้นไอวี ในช่วงศตวรรษที่ 4 ใบของมันถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของสถานที่ซื้อขายเพศสัมพันธ์ในเมืองเอฟิซัส (Ephesus) ตั้งอยู่ที่ประเทศตุรกีในปัจจุบัน ด้วยเหตุผลที่ว่าต้นไอวีเป็นสัญลักษณ์ของเทพไดโอนิซัส (Dionysus) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งไวน์ ความอิ่มเอมทั้งกายใจ ต่อมาต้นไอวีจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการมีเพศสัมพันธ์ของคนในสมัยนั้นไปโดยปริยาย ในอีกแง่คือไอวีถือเป็นพืชที่มีความเขียวสดอยู่ตลอดทั้งปีจึงถูกใช้แทนความหมายในเรื่องของความซื่อสัตย์ ความมั่นคงในเรื่องของความรัก จนถูกนำมารวมกับสีแดงซึ่งเป็นสีแห่งความรักจนกลายเป็นรูปหัวใจในที่สุดค่ะ (ใบเถาของต้นไอวี) . เทพเจ้าแห่งความรักมีแต่คิวปิดหรอ? หากพูดถึงเทพเจ้าแห่งความรักแล้ว น้อง ๆ อาจมีภาพเด็กผู้ชายถือธนูอยู่ ในความคิด ความเป็นจริงแล้วยังมีเทพเจ้าอีกหลายองค์ที่ถูกนับว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรักค่ะ – “อโฟรไดท์” (Aphrodite) หรือ “วีนัส” (Venus) เทพีแห่งความรัก ความงาม และเพศสภาพของกรีก อโฟรไดท์มีความสามารถในการสะกดจิต ทำให้ผู้อื่นหลุ่มหลงในความงามของนาง ตามตำนานกรีกแล้วอโฟรไดท์ถือเป็นเทพีที่มีอารมณ์รุนแรงและมีเพศสัมพันธ์กับเทพหลายองค์ แม้กระทั่งกับคนธรรมดา ซึ่งอโฟรไดท์มีศักดิ์เป็นแม่แท้ ๆ ของคิวปิด (อโฟรไดท์หรือวีนัส) – “คิวปิด” (Qupid) หรือ “อีรอส” (Eros) เทพเจ้าแห่งความรัก ความปรารถนาของกรีก แท้จริงแล้วคิวปิดเป็นเทพแห่งความรักแบบกามอารมณ์ ไม่ใช่แบบบริสุทธิ์อย่างที่ทุกคนเข้าใจค่ะ คิวปิดถือเป็นเทพที่รูปร่างหน้าตาดีที่สุด อีกทั้งยังมีความสามารถในการยิงธนูที่สั่งให้ใครรักใครก็ได้ และอีกด้านของธนูสามารถยิงให้คนเกลียดกันได้ คิวปิดตกหลุมรักไซคีตอนที่อโฟรไดท์สั่งเขาไปยิงธนูให้ไซคีไปรักกับผู้ชายไม่ดี เพราะผู้คนหลงในความงามของไซคีจนลืมบูชาเทพแห่งความงามอย่างอโฟรไดท์ คิวปิดตะลึงในความงามของไซคีจนทำธนูทิ่มมือตัวเอง ทำให้ต่อมาทั้งสองได้ครองรักกันภายใต้เงื่อนไขที่ว่าไซคีต้องห้ามแอบมองว่าหน้าตาคิวปิดเป็นอย่างไร แต่ด้วยคำยุยงจากพี่สาวที่อิจฉาชีวิตของไซคีทำให้ไซคีแอบดู เป็นเหตุทำให้คิวปิดจากไปพร้อมบอกว่า “ความรักไม่อาจดำรงอยู่ได้ ถ้าปราศจากความไว้วางใจ” แม้ในท้ายที่สุดทั้งสองจะได้ครองรักกันแต่เรื่องราวของไซคีกับคิวปิดจึงกลายเป็นตัวแทนและคำสอนเกี่ยวกับความรักเรื่องของความเชื่อใจ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน (คิวปิดและไซคี) – แฮธอร์ (Hathor) เทพีแห่งความรัก ความสุข การแต่งงาน การเต้นรำ และความงดงามของอียิปต์ เชื่อกันว่านางเป็นผู้ควบคุมระบบการสืบพันธุ์ของมนุษย์ เป็นผู้ให้เสน่ห์แก่ผู้หญิง และทำให้เกิดอารมณ์ปรารถนา เป็นผู้ควบคุมเพศสัมพันธ์ มีอำนาจทำให้มนุษย์เสื่อมสมรรถภาพหรือหายจากอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ ทำให้เทวสถานของนางส่วนใหญ่เปิดรับคู่รักทุกเพศ ทุกวรรรณะเพราะพระนางชื่นชอบการแต่งงาน และความรักที่สมหวังเป็นอย่างมาก (แฮธอร์) – อินันนา (Inanna) เทพีความรัก ความงาม เพศ สงคราม ความยุติธรรม และอำนาจทางการเมืองของเมโสโปเตเมีย เชื่อกันว่านางมีหน้าที่ให้กำเนิดความรักและความต้องการทางเพศ และถูกมองว่าเป็นเทพีผู้บริสุทธิ์ (อินันนา) – เฟรย่า (Freyja) เทพีแห่งความรัก ความงาม เพศสัมพันธ์ ความอุดมสมบูรณ์ และความตายตามตำราของนอร์ส เล่ากันว่านางเป็นเทพีที่งดงามที่สุดในแอสการ์ด มีทั้งด้านที่อ่อนหวานและดุดัน (เฟรย่า) ยังมีเทพอีกหลายอันที่พี่ออมยังไม่ได้พูดถึงนะคะ แต่น้อง ๆ อาจจะสังเกตได้ว่าเทพแห่งความรักส่วนใหญ่มักเป็นผู้หญิง และมีการผูกเข้ากับเรื่องของอารมณ์ เพศสัมพันธ์และความงามค่ะ . ทำไมต้องให้ดอกกุหลาบในวันวาเลนไทน์? ช่วงวาเลนไทน์เป็นช่วงที่ดอกไม้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โดยเฉพาะกับดอกกุหลาบ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เจอเต็มไปหมด จริง ๆ แล้วนะคะธรรมเนียมการให้ดอกกุหลาบมาจากหลายตำนาน – เรื่องเล่าหลายเรื่องมักมีการเชื่อมโยงระหว่างกุหลาบกับอโฟรไดท์ โดยเป็นเรื่องราวของอโดนิสที่เชื่อกันว่าเป็นคนที่อโฟร์ไดท์รักที่สุดในบรรดาชายที่เธอเคยข้องเกี่ยวมา ยิ่งอโดนิสเป็นชายคนเดียวที่ไม่ตกเป็นทาสความสวยของเธอ ยิ่งทำให้อโฟร์ไดท์หลุ่มหลงชายผู้นี้เป็นอย่างมาก จนเกิดเป็นเรื่องเล่าที่ทำให้กุหลาบกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เช่น หลังจากอโดนิส (Adonis) ถูก “อาเรส” (Ares) คู่รักเก่าของอโรไดท์ในร่างหมูป่าฆ่าเพราะความหึงหวง น้ำตาของเธอไหลลงผสมกับเลือดของเขา หยดลงกลายเป็นดอกกุหลาบสีแดง บ้างก็ว่าอโฟร์ไดท์แทงตัวเองจนเลือดหยดลงสู่พื้นกลายเป็นกุหลาบ บ้างก็ว่านางรับไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียคนรักจึงเสกเลือดของอโดนิสให้กลายเป็นดอกไม้ ทำให้ชื่อแรกสุดของดอกไม้ชนิดนี้คือ “อโดนิส” หรือ “อะเนมโมนิ” (Anemone) (อโฟร์ไดท์กับอโดนิส) – “คลอริส” (Chloris) เทพธิดาแห่งดอกไม้ได้ยกเอาดอกกุหลาบเป็นราชินีของดอกไม้ ซึ่งต่อมาได้มอบกุหลาบให้แก่คิวปิดเทพเจ้าแห่งความรัก ทำให้กุหลาบถูกเชื่อมโยงไปกับเรื่องราวความรักไปในทันที – ในศาสนาคริสต์เชื่อว่าเลือดของพระเยซูในตอนที่ถูกตรึงอยู่บนไม้กางเขนได้หยดลงบนต้นหญ้ามอลส์เกิดเป็นต้นกุหลาบแดง เรียกกันว่ากุหลาบมอลส์ – ในประเทศไทยไม่มีระบุแน่ชัดว่ากุหลาบเข้ามาเป็นที่นิยมตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มีวรรณคดีเรื่อง “มัทนะพาธา” พระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นตำนานของดอกกุหลาบที่เกี่ยวกับข้องกับเรื่องของความงาม ความรัก ในปัจจุบันดอกไม้ที่มอบให้ระหว่างเทศกาลวาเลนไทน์มีความหลากหลายมากขึ้น ถ้าน้อง ๆ ยังสงสัยกันอยู่ทำไมต้องเป็นดอกไม้ จริง ๆ แล้วนะคะ มนุษย์ใช้ดอกไม้เป็นสื่อกลางแสดงความรักมานักต่อนักแล้วค่ะ อาจจะดอกรูปร่าง สีสัน และกลิ่นของมันทำให้เป้นสิ่งของที่ดีในการมอบให้แก่ใครสักคนค่ะ . ช็อกโกแลตกับวาเลนไทน์? นอกจากดอกกุหลาบแล้ว ช็อกโกแลตก็เป็นอีกหนึ่งของแทนใจยอดฮิตที่อาจจะมีน้อง ๆ บางคนลงทุนทำเองกับมือเพื่อมอบให้คนที่รักในวันวาเลนไทน์ใช่ไหมคะ ถ้าถามว่าช็อกโกแลตมีความเกี่ยวข้องยังไงกับเทศกาลแห่งความรักเช่นนี้ ก็คงต้องย้อนกลับในสมัยจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ช่วงที่ความรักของชายหญิงถือเป็นเรื่องต้องห้าม การเจอกันแต่ละครั้งจึงนิยมเอาของมามอบแทนความรัก ใช่แล้วค่ะ ของสิ่งนั้นก็คือช็อกโกแลต เพราะถือเป็นของหายากและมีราคาสูง ทำให้ช็อกโกแลตกลายเป็นของมีค่าที่คู่รักนิยมมอบให้แก่กันเพื่อแสดงความรักที่เต็มหัวใจค่ะ ในขณะเดียวกันก็มีบางคนเชื่อว่า การให้ช็อกโกแลตอาจเป็นเพียงการตลาดที่เกิดจาก Richard Cabury สมัยเพิ่งเข้าสืบทอดกิจการช็อกโกแลต Cabury ของประเทศอังกฤษ และด้วยความไฟแรงต้องการเพิ่มยอดขายของเขาทำให้เกิดการคิดค้นช็อกโกแลตรูปหัวใจ และออกแบบลวดลายบนกล่องให้มีรูปคิวปิดและดอกกุหลาบ แน่นอนว่าเป็นความคิดที่ประสบความสำเร็จและพลิกวงการของช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์มาจนถึงทุกวันนี้ . แหวน เครื่องประดับแทนใจของคู่รัก? ทำไมต้องใส่นิ้วนางข้างซ้าย? เมื่อเข้าร่วมพิธีแต่งงานกันทั้งฝ่ายจำเป็นที่จะสวมแหวนไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย ซึ่งกลายเป็นเครื่องประดับที่เราเห็นเมื่อไรก็ทราบได้ทันทีว่าคน ๆ นี้มีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว แล้วทำไมต้องเป็นแหวนล่ะ? การใส่แหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายมาจากชาวอียิปต์โบราณที่พบว่านิ้วนางข้างซ้ายเป็นนิ้วเดียวที่มีเส้นเลือดใหญ่วิ่งเข้าไปที่หัวใจ ซึ่งเรียกตามภาษาละตินว่า “เส้นเลือดแห่งความรัก” (Vena Amoris) จนกลายมาเป็นวัฒนธรรมที่คู่รักสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายเพราะเป็นตัวเชื่อมจากเส้นเลือดไปถึงหัวใจของทั้งสอง แต่ในสำหรับข้อเท็จจริงนะคะ ได้มีการพิสูจน์ในภายหลังว่าแต่ละนิ้วมีระบบเลือดไหลเวียนที่เหมือนกัน ทำให้นิ้วนางข้างขวามีการไหลเวียนของเลือดไม่ต่างจากนิ้วนางข้างซ้ายค่ะ . คำว่าแฟนมาจากไหน? แล้วก่อนหน้านี้ใช้คำว่าอะไร? คำว่า “แฟน” ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 (ออนไลน์) เป็นภาษาปาก หมายถึง ผู้นิยมชมชอบ เช่น แฟนเพลง แฟนภาพยนตร์ แฟนมวย, ผู้เป็นที่ชอบพอรักใคร่, คู่รัก, สามีหรือภรรยา. ซึ่งคำนี้มีที่มาจากคำในภาษาอังกฤษคือว่า “Fan” ย่อมาจาก “Fanatic” คลั่งไคล้ หลุ่มหลงในสิ่งใดมาก ๆ ถ้าเอาในยุคนี้ก็คงเหมือนกับคำว่า “คลั่งรัก” นั้นแหละค่ะ แล้วก่อนหน้าที่จะมีคำว่าแฟนล่ะ คนไทยใช้คำว่าอะไร? คนไทยใช้คำว่า “ชิ้น” แทนคู่รักในหน้าที่เดียวกับคำว่าแฟนเลยค่ะ ก่อนที่หลังสมัย พ.ศ. 2490 คนไทยจะเปลี่ยนมาใช้คำว่าแฟนตามปัจจุบันอ้างจากหนังสือมหาเหตุประเทศสยาม เล่ม 1 ของเอนก นาวิกมูลที่เขียนในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งอธิบายไว้ “แฟน” ไว้ว่าเป็นคำที่คนไทยในสมัยนั้นใช้กันอย่างแพร่หลาย ฟุ่มเฟื่อย . วันวาเลนไทน์เข้ามาในไทยเมื่อไหร่? วันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรักซึ่งมาจากวัฒนธรรมของต่างประเทศ ซึ่งเข้ามามีบทบาทในไทยในสมัยสงครามเวียดนาม ราวปี พ.ศ. 2508 – 2509 สหรัฐอเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพในเมืองไทยหลายแห่ง เช่น อุดรธานี มีผู้หญิงหลายคนในบริเวณฐานทัพรับเอาวันวาเลนไทน์นี้เข้ามา จนกระทั่งห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เป็นผู้ริเริ่มการจัดประเพณีวาเลนไทน์ในห้าง บ้างก็ว่ามาจากพนักงานที่ไปเรียนต่างประเทศมา บ้างก็ว่าเป็นลูกหลานของเจ้าของห้างแห่งนั้น ทำให้หลังจาก พ.ศ. 2510 ห้างสรรพสินค้าเกือบทุกแห่งนับเอาเทศกาลวันวาเลนไทน์มาเป็นอีกหนึ่งอีเวนต์หลักของทุกปีเลยก็ว่าได้ค่ะ . วันแห่งความรักของไทย ถึงแม้ว่าวันวาเลนไทน์จะเป็นวันแห่งความรักที่รู้จักกันเป็นสากล และได้รับความนิยมในทุกหนแห่งไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย แต่ประเทศไทยก็มีวันแห่งความรักเช่นกันค่ะ แต่อิงตามศาสนาพุทธนั้นก็คือ “วันมาฆบูชา” ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 โดยอ้างจากเหตุการณ์โอวาทปาฎิโมกข์ซึ่งถือเป็นวันแสดงความรักของพระพุทธเจ้าโดยการเทศนา เป็นความรักในแบบของการเมตตา และปรารถนาดีต่อผู้อื่นค่ะ . จบกันไปแล้วนะคะสำหรับเรื่องราวของวันแห่งความรักแบบนี้ ไม่ว่าจะความรักแบบไหนก็สวยงามไม่แพ้กันนะคะ แต่อีกหนึ่งคนสำคัญที่พี่ออมอยากให้น้อง ๆ รักก็คือตัวน้อง ๆ เองค่ะ อย่ามองข้ามการรักตัวเองค่ะ ความรักในรูปแบบนี้นับว่าเป็นความรักที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะการรักตัวเองจะทำให้น้อง ๆ มีความสุขกับชีวิตในแต่ละวัน และไม่ว่าน้อง ๆ จะรักใคร สิ่งที่สำคัญก็อย่ารักจนไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น หรือทำให้ผู้ใดเป็นทุกข์ แม้กระทั่งตัวเราเองนะคะ 🙂
มธ. ปักหมุดหลักสูตร ‘AI Ethics’ หนุนบริบทใหม่ของห้องเรียนทันโลก สร้างจุดยืนคนรุ่นใหม่ ‘ใช้เอไออย่างมีจริยธรรม’ พร้อมเดินหน้าวางหมุดหมายระบบการศึกษาไทย กับการปลุกการใช้เทคฯ คู่ธรรมาภิบาล คาดเริ่มเปิดลงทะเบียนพร้อมเรียนจริง สิงหาคม 68 นี้
สจล. เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน