Dek69 ต้องดู! สรุปคะแนนเฉลี่ย A-Level 6 ปีล่าสุด วางแผนยื่นคะแนนยังไงไม่ให้พลาด

Dek69 ต้องดู! สรุปคะแนนเฉลี่ย A-Level 6 ปีล่าสุด วางแผนยื่นคะแนนยังไงไม่ให้พลาด

 

ในสนามสอบ TCAS ที่ความกดดันเพิ่มขึ้นทุกปี สิ่งที่จะช่วยให้ Dek69 ก้าวหน้าไปกว่าใครไม่ใช่แค่การทำคะแนนให้ได้สูงที่สุดเท่านั้น แต่คือการรู้จักนำข้อมูล “สถิติ” มาใช้เป็นอาวุธสำคัญในการวางแผน การรวบรวม คะแนนเฉลี่ย A-Level ย้อนหลัง 6 ปี จึงเป็นมากกว่าการดูตัวเลข แต่มันคือการย้อนรอยความยากง่ายของข้อสอบในแต่ละยุค เพื่อให้เราเห็นแนวโน้มความเคลื่อนไหวของคะแนนก่อนที่จะลงสนามจริง

หากเราพิจารณาข้อมูลย้อนหลัง จะพบว่ามีรอยต่อสำคัญระหว่างข้อสอบวิชาสามัญแบบเดิมกับ A-Level รูปแบบประยุกต์ ซึ่งทำให้เกิดปรากฏการณ์ “คะแนนเฟ้อ” และ “คะแนนฝืด” สลับกันไปในแต่ละปี การทำความเข้าใจว่าวิชาไหนที่มีแนวโน้มคะแนนร่วงลง หรือวิชาไหนที่คะแนนพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ Dek69 ประเมินสถานการณ์ได้แม่นยำขึ้น ว่าคะแนนที่เราทำได้นั้นจัดอยู่ในกลุ่มแนวหน้าหรือกลุ่มที่ต้องลุ้นอย่างหนัก เพื่ออุดช่องโหว่ความเสี่ยงก่อนถึงวันยื่นอันดับจริง

บทความนี้จึงได้รวบรวมสรุปคะแนนเฉลี่ย A-Level ตลอด 6 ปีล่าสุดมาแบบเน้นๆ พร้อมวิเคราะห์เจาะลึกเทคนิคการยื่นคะแนนอย่างไรไม่ให้พลาดที่นั่งในฝัน ไม่ว่าคุณจะตั้งเป้าที่คณะสายวิทย์สุขภาพ สายวิศวะ หรือสายศิลปศาสตร์ ข้อมูลชุดนี้จะเป็นคู่มือชั้นดีที่ช่วยเปลี่ยนความกังวลให้กลายเป็นกลยุทธ์ที่เฉียบคม เพื่อให้ Dek69 ทุกคนคว้าคำว่า “สอบติด” มาครองได้สำเร็จ

คะแนนเฉลี่ย A-Level ปี 2568 :

  • ภาษาไทย : 56.08
  • ภาษาอังกฤษ : 46.30
  • สังคมศึกษา : 41.65
  • คณิตศาสตร์ 1 (สายวิทย์) : 20.99
  • คณิตศาสตร์ 2 (สายศิลป์) : 34.72
  • ฟิสิกส์ : 21.40
  • เคมี : 25.22
  • ชีววิทยา : 34.95
  • วิทยาศาสตร์ประยุกต์ : 30.49

ข้อสังเกตสำหรับ Dek69 :

  • คณิตศาสตร์ 1 และ ฟิสิกส์: ยังคงเป็นวิชาที่คะแนนเฉลี่ย ต่ำสุด (ประมาณ 20-21 คะแนน) แสดงว่าความยากยังคงมาตรฐานสูงมาก ใครได้เกิน 40-50 คะแนนขึ้นไปถือว่าได้เปรียบคู่แข่งมหาศาล
  • เคมี และ คณิต 2: ปี 68 มีแนวโน้ม “คะแนนเฟ้อ” (คะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นกว่าปี 67) ดังนั้นถ้า Dek69 จะยื่นคณะที่ใช้ 2 วิชานี้ ต้องระวังว่าคะแนนต่ำสุดของคณะอาจจะขยับสูงขึ้นตามไปด้วยครับ

 

คะแนนเฉลี่ย A-Level ปี 2567 :

  • ภาษาไทย : 57.39
  • ภาษาอังกฤษ : 42.08
  • สังคมศึกษา: 35.18
  • คณิตศาสตร์ 1 (สายวิทย์) : 20.56
  • คณิตศาสตร์ 2 (สายศิลป์) : 26.95
  • ฟิสิกส์ : 20.61
  • เคมี : 19.10
  • ชีววิทยา: 29.58
  • วิทยาศาสตร์ประยุกต์ : 32.55

ข้อสังเกตสำหรับ Dek69 :

  • วิชาที่คะแนนต่ำกว่า 25: มีถึง 4 วิชา (คณิต 1, คณิต 2, ฟิสิกส์, เคมี) สะท้อนว่าข้อสอบเน้นการประยุกต์สูงมาก ใครเก็บได้เกิน 40 คะแนนจะทิ้งห่างคู่แข่งมหาศาล
  • เคมีคือวิชาปราบเซียน: มีคะแนนเฉลี่ยต่ำที่สุดในทุกวิชา (19.10) หากคณะที่เลือกใช้สัดส่วนวิชานี้เยอะ ต้องเน้นเป็นพิเศษ
  • เกณฑ์คะแนนขั้นต่ำ: หลายคณะกำหนดขั้นต่ำที่ 20% หรือ 30% ซึ่งจากสถิติปี 67 พบว่ามีคนสอบ “ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ” ในวิชาคณิตศาสตร์และเคมีเป็นจำนวนมาก

 

คะแนนเฉลี่ย A-Level ปี 2566 :

  • ภาษาไทย : 56.43
  • ภาษาอังกฤษ : 46.00
  • สังคมศึกษา : 41.59
  • คณิตศาสตร์ 1 (สายวิทย์) : 19.40
  • คณิตศาสตร์ 2 (สายศิลป์) : 32.14
  • ฟิสิกส์ : 21.82
  • เคมี : 18.40
  • ชีววิทยา : 30.76
  • วิทยาศาสตร์ประยุกต์ : 31.43

ข้อสังเกตสำหรับ Dek69 :

  • ปีแห่งการเริ่มต้น Applied Knowledge : เนื่องจากเป็นปีแรกที่เปลี่ยนแนวข้อสอบ คะแนนวิชา เคมี และ คณิต 1 จึงต่ำทุบสถิติ (ต่ำกว่า 20 คะแนน) เพราะเด็กส่วนใหญ่ยังปรับตัวกับแนวโจทย์ประยุกต์ไม่ทัน
  • ภาษาอังกฤษพุ่งสูง : ปี 66 เป็นปีที่คะแนนเฉลี่ยภาษาอังกฤษสูงที่สุดในรอบหลายปี (46.00) ทำให้มาตรฐานคะแนนรวมของเด็กสายภาษาและสายแพทย์ในปีนั้นดีดตัวสูงขึ้น
  • ระวังการใช้คะแนนปี 66 อ้างอิง : เนื่องจากเป็นปีแรก ข้อมูลอาจจะมีความแกว่งสูง Dek69 ควรดูคะแนนปี 67 และ 68 ประกอบด้วยเพื่อให้เห็นค่าเฉลี่ยที่แท้จริงของแนวข้อสอบใหม่ครับ

 

คะแนนเฉลี่ย A-Level ปี 2565 :

  • ภาษาไทย : 47.641
  • สังคมศึกษา : 39.502
  • ภาษาอังกฤษ : 33.333
  • คณิตศาสตร์ 1 : 21.027
  • ฟิสิกส์ : 22.889
  • เคมี : 19.606
  • ชีววิทยา : 28.914
  • คณิตศาสตร์ 2 : 23.874
  • วิทยาศาสตร์ทั่วไป : 26.364

ข้อสังเกตสำหรับ Dek69 :

  • ปีแห่งคะแนน “ฝืด” ที่แท้จริง : หากสังเกตดูจะพบว่าปี 65 เป็นปีที่แทบไม่มีวิชาไหนได้คะแนนเฉลี่ยเกิน 50 คะแนนเลย แม้แต่ภาษาไทยที่ปกติจะสูงกว่านี้ ก็ตกลงมาอยู่ที่ 47.64 ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในรอบหลายปี
  • ภาษาอังกฤษร่วงหนัก : เฉลี่ยเพียง 33.33 คะแนน ซึ่งต่ำกว่าปี 66 และ 67 มาก (ที่เฉลี่ย 40+) หาก Dek69 เจอข้อสอบเก่าปี 65 แล้วทำคะแนนได้น้อย อย่าเพิ่งตกใจ เพราะปีนั้นข้อสอบยากกว่าปีอื่นจริง
  • เคมีเข้าสู่โซนอันตราย : เริ่มเห็นแนวโน้มคะแนนเฉลี่ยต่ำกว่า 20 คะแนนเป็นปีแรกๆ ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานความยากของวิชาเคมีลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน

  • การเตรียมตัว : การทำโจทย์เก่าปี 65 จะช่วยให้คุณเห็นจุดที่ต่ำที่สุดของสถิติ หากคุณผ่านโจทย์ปีนี้ได้ ปีอื่นๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาครับ

 

คะแนนเฉลี่ย A-Level ปี 2564 :

  • ภาษาไทย : 51.82
  • ภาษาอังกฤษ : 34.79
  • สังคมศึกษา : 38.63
  • คณิตศาสตร์ 1 (สายวิทย์) : 19.98
  • คณิตศาสตร์ 2 (สายศิลป์) : 30.66 (บางแหล่งระบุ 26.04 ขึ้นอยู่กับการปัดค่าสถิติ)
  • ฟิสิกส์ : 20.91
  • เคมี : 22.66
  • ชีววิทยา : 31.69
  • วิทยาศาสตร์ทั่วไป : 38.07

ข้อสังเกตสำหรับ Dek69 :

  • คณิตศาสตร์ 1 และ ฟิสิกส์ ยังคงต่ำสุด: คะแนนเฉลี่ยเกาะกลุ่มอยู่ที่ประมาณ 19-20 คะแนน ซึ่งเป็นมาตรฐานความยากที่ส่งต่อมาจนถึงยุค A-Level ในปัจจุบันครับ
  • ภาษาไทยคือวิชาประคอง: เป็นวิชาเดียวในปีนั้นที่มีค่าเฉลี่ยเกิน 50 คะแนน และมีค่ามัธยฐาน (Median) อยู่ที่ 54.00 ซึ่งหมายความว่าคนเกินครึ่งประเทศทำคะแนนได้เกินครึ่งหนึ่งของวิชานี้ครับ

 

คะแนนเฉลี่ย A-Level ปี 2563 :

  • ภาษาไทย : 52.53
  • ภาษาอังกฤษ : 37.13
  • สังคมศึกษา : 34.18
  • คณิตศาสตร์ 1 (สายวิทย์) : 27.33
  • คณิตศาสตร์ 2 (สายศิลป์) : 25.20
  • ฟิสิกส์ : 28.82
  • เคมี : 30.41
  • ชีววิทยา : 28.11
  • วิทยาศาสตร์ทั่วไป : 29.61

ข้อสังเกตสำหรับ Dek69 :

  • ปีที่คะแนนวิชาคำนวณ “ดูดี” ที่สุด : หากเทียบกับปี 67-68 จะเห็นว่าคะแนนเฉลี่ย คณิตศาสตร์ 1 (27.33) และ เคมี (30.41) ของปี 63 นั้นสูงกว่าปีปัจจุบันมาก สะท้อนว่าข้อสอบในยุคก่อนจะเปลี่ยนเป็น A-Level มีความ “ใจดี” กว่าในแง่ของความยากแบบประยุกต์
  • สังคมศึกษาและภาษาอังกฤษ: เป็นสองวิชาที่คะแนนเฉลี่ยค่อนข้างคงที่ในระดับ 34-37 มานานหลายปี แสดงว่าเป็นวิชาที่มีมาตรฐานความยากชัดเจน Dek69 สามารถใช้ข้อสอบปีนี้ฝึกพื้นฐานได้ดีมากครับ
  • ความแตกต่างระหว่างวิชาภาษา: ภาษาไทยยังคงเป็นวิชาเดียวที่ค่าเฉลี่ยยืนเหนือ 50 คะแนนได้สำเร็จ ขณะที่ภาษาอังกฤษมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าถึง 15 คะแนน ชี้ให้เห็นว่าภาษาอังกฤษคือตัวตัดเกรดที่แท้จริงในสนามสอบนี้ครับ

  • การตั้งเป้าหมาย: สถิติปี 63 บอกเราว่า หากอยากติดคณะท็อปๆ คะแนนของคุณควรจะอยู่เหนือค่าเฉลี่ยในทุกวิชาอย่างน้อย 20-30 คะแนนครับ

 


สรุปคะเเนนเฉลี่ยทั้งหมดจาก ปี 63 ถึง 68

รายวิชา  ปี 2563 ปี 2564  ปี 2565 ปี 2566 ปี 2567 ปี 2568
ภาษาไทย 52.53 51.82 47.64 56.43 57.39 59.34
ภาษาอังกฤษ 37.13 34.79 33.33 46 42.08 42.08
สังคมศึกษา 34.18 38.63 39.5 41.59 35.18 41.65
คณิตศาสตร์ 1 27.33 19.98 21.02 19.4 20.56 20.99
ฟิสิกส์ 28.82 20.91 22.88 21.82 20.61 21.4
เคมี 30.41 22.66 19.6 18.4 19.1 25.22
ชีววิทยา 28.11 31.69 28.91 30.76 29.58 34.95
คณิตศาสตร์ 2 25.2 30.66 23.87 32.14 26.95 34.72
วิทย์ทั่วไป / ประยุกต์ 29.61 38.07 26.36 31.43 32.55 30.58

วิชาที่คะแนนเฉลี่ย “เยอะสุด” ตลอดกาล: ภาษาไทย

  • ทำไมถึงเยอะ? : ข้อสอบเน้นการอ่านจับใจความและวิเคราะห์บทความมากกว่าการท่องจำหลักภาษาโบราณ

  • ข้อระวังสำหรับ Dek69 : เมื่อคนส่วนใหญ่ทำได้คะแนนสูง (เฉลี่ย 50-59) การได้แค่คะแนนเฉลี่ยจะทำให้เสียเปรียบ ควรตั้งเป้าที่ 75+ คะแนน เพื่อใช้เป็นวิชาช่วยดึงคะแนนรวมครับ

วิชา “ปราบเซียน” ที่คะแนนต่ำสุด : คณิตศาสตร์ 1 และ เคมี

  • สถานการณ์: สองวิชานี้มีคะแนนเฉลี่ยวนเวียนอยู่ที่ 18-21 คะแนน มาโดยตลอด

  • โอกาส: เนื่องจากคนส่วนใหญ่ทำไม่ได้ (มัธยฐานต่ำมาก) หากคุณเก็บวิชานี้ได้เกิน 40-50 คะแนน จะถือเป็นจุดตัดสำคัญที่ทำให้คุณมีโอกาสติดคณะการแข่งขันสูงอย่าง แพทย์ หรือ วิศวะ มากขึ้นมหาศาลครับ

กลยุทธ์การวางแผนสำหรับ Dek69

  • เช็กแนวโน้ม “เฟ้อ-ฝืด”: หากปีที่เราสอบข้อสอบง่าย (คะแนนเฟ้อ) อย่าประมาทคะแนนตัวเอง ให้บวกคะแนนเผื่อจากปีเก่าไว้เยอะๆ แต่หากข้อสอบยาก (คะแนนฝืด) แม้เราจะได้คะแนนน้อยแต่ลำดับเราอาจจะดีก็ได้
  • ดูสถิติ 3 ปีหลังสุดเป็นหลัก: ปี 66-68 คือข้อสอบแนวใหม่ (Applied Knowledge) ซึ่งจะใกล้เคียงกับสิ่งที่คุณต้องเจอที่สุด ส่วนปี 63-65 ให้ใช้เพื่อดูแนวทางเนื้อหาพื้นฐาน
  • วิชาภาษาอังกฤษคือตัวตัดสิน: เป็นวิชาที่คะแนนกระจายตัวมากที่สุด (S.D. สูง) คนที่เก่งจะทำคะแนนทิ้งห่างคนอื่นได้ชัดเจน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *