“คุรุสภา” ปรับโฉมคุณภาพกระบวนการผลิตครู เริ่มปีการศึกษา 67

“คุรุสภา”คุมเข้มคุณภาพสถาบันผลิตครู ประกาศเงื่อนไขให้การรับรองปริญญาก่อนรับ น.ศ. เริ่มปีการศึกษา 67 

ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยกรณีราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศคุรุสภาเรื่อง “การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษา ตามมาตรฐานวิชาชีพ เพื่อการประกอบวิชาชีพ พ.ศ.2567” เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ถือเป็นการปฏิรูปการผลิตครูและปรับโฉมกระบวนการผลิตครู โดยประกาศฉบับใหม่นี้มีหลักเกณฑ์การพิจารณา วิธีการ และเงื่อนไขการรับรองปริญญาที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพมาตรฐานการผลิตของสถาบันอุดมศึกษาที่ผลิตครู และบุคลากรทางการศึกษา ทั้งหลักสูตรปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกทางการศึกษา รวมถึงหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู หรือที่เรียกชื่ออย่างอื่น

โดยในการขอรับรองปริญญาหรือประกาศนียบัตรจากคุรุสภานั้น ทางสถาบันอุดมศึกษาจะต้องกำหนดแผนการผลิตครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่สอดคล้องกับศักยภาพความพร้อมและความเชี่ยวชาญของแต่ละสถาบัน รวมถึงจัดทำแผนการผลิตในรอบระยะเวลา 5 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปีการศึกษา 2567 เป็นต้นไป ซึ่งสถาบันอุดมศึกษาจะต้องวิเคราะห์ความพร้อม และจัดทำแผนการผลิตทุกระดับการศึกษาในสาขาวิชาต่างๆ ทั้งปริมาณและคุณภาพ โดย 1 สถาบัน 1 แผนรวม หากมีการผลิตนอกเหนือจากแผนที่เสนอมา คุรุสภาจะไม่รับรอง และในระหว่าง 5 ปี สถาบันอุดมศึกษาสามารถปรับแผนได้ 1 ครั้ง

ในการขอรับรองหลักสูตร ทางสถาบันอุดมศึกษาจะต้องส่งเอกสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องก่อนเปิดรับนักศึกษาไม่น้อยกว่า 60 วัน สำหรับหลักสูตรที่จะขอรับรองและเปิดสอนในปีการศึกษา 2569 จะต้องส่งเอกสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องก่อนเปิดรับนักศึกษาไม่น้อยกว่า 180 วัน ซึ่งสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะดำเนินการรับรองให้แล้วเสร็จก่อนที่สถาบันจะเปิดรับนักศึกษา และการรับนักศึกษาต้องไม่เกินแผนการผลิตที่สภาสถาบันอุดมศึกษาอนุมัติ ทั้งนี้ ใน 1 ห้องเรียนรับนักศึกษาไม่เกิน 30 คน ซึ่งอาจจะรับได้มากกว่า 1 ห้องเรียน ขึ้นอยู่กับศักยภาพของสถาบันที่เป็นไปตามเกณฑ์ของสาขาวิชา และสามารถรับเกินจำนวนที่กำหนดไว้ได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของแผนการรับนักศึกษาเท่านั้น

เลขาธิการคุรุสภา กล่าวต่อว่า ประกาศคุรุสภาฉบับนี้ได้กำหนดคุณสมบัติของอาจารย์ ต้องประกอบด้วย

1) อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรและอาจารย์ประจำหลักสูตร ที่มีคุณสมบัติสอดคล้องตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา และมีคุณวุฒิด้านการศึกษาในระดับที่สูงกว่าระดับปริญญาของหลักสูตรที่รับผิดชอบหรือประจำหลักสูตร และเป็นคุณวุฒิด้านการศึกษาตรงกับสาขาวิชา หรือมีคุณวุฒิด้านการศึกษาสัมพันธ์กับสาขาวิชา และมีผลงานด้านการศึกษา ในสาขาวิชาที่รับผิดชอบตามเกณฑ์ของ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) และต้องทำหน้าที่เป็นผู้บริหารหลักสูตร

2) อาจารย์ผู้สอนรายวิชาชีพครู และรายวิชาชีพบริหารการศึกษา มีคุณวุฒิ หรือประสบการณ์สอดคล้องกับรายวิชาชีพครู หรือรายวิชาชีพบริหารการศึกษา ที่รับผิดชอบจัดการเรียนการสอน

3) อาจารย์นิเทศก์ มีคุณวุฒิทางวิชาชีพครู วิชาชีพบริหารการศึกษา และสมรรถนะในการนิเทศการปฏิบัติการสอน การปฏิบัติการบริหารสถานศึกษาและบริหารการศึกษา กรณีอาจารย์นิเทศก์ที่ไม่มีคุณวุฒิการศึกษา ต้องผ่านกระบวนการพัฒนาสมรรถนะจากหลักสูตรพัฒนาสมรรถนะด้านการศึกษาที่คุรุสภารับรอง สำหรับอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร อาจารย์ผู้สอน ต้องมีคุณสมบัติเป็นอาจารย์คุณภาพตามประกาศคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา เรื่องแนวทางการพัฒนาคุณภาพอาจารย์เพื่อส่งเสริมการบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ตามาตรฐานคุณวุฒิ ระดับอุดมศึกษา พ.ศ.2566 ลงวันที่ 25 พ.ค.2566

รวมถึงครูพี่เลี้ยงที่มีคุณวุฒิและประสบการณ์ตรงกับรายวิชาที่ปฏิบัติการสอน โดยสัดส่วนครูพี่เลี้ยงต่อนักศึกษาไม่เกิน 1:3 และอาจารย์นิเทศ 1:10 โดยนับรวมทุกหลักสูตรที่ปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาในภาคเรียนนั้น ๆ และสถาบันจะต้องออกแบบให้นักศึกษาฝึกปฏิบัติงานครูและการสอนในสถานศึกษาตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 ต่อเนื่องจนสำเร็จการศึกษา

สำหรับการพัฒนานักศึกษา สถาบันอุดมศึกษาต้องมีกระบวนการพัฒนาทักษะด้านการสื่อสารภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษาให้กับนักศึกษาอย่างต่อเนื่องตลอดหลักสูตร มีกิจกรรมเสริมความเป็นครู โดยสถาบันต้องจัดให้นักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่องตลอดหลักสูตร ได้แก่

  1. กิจกรรมสร้างเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความเป็นพลเมืองดีในด้านการรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
  2. กิจกรรมส่งเสริมจรรยาบรรณของวิชาชีพ (E-PLC) ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
  3. กิจกรรมส่งเสริมทักษะชีวิต การเป็นอยู่อย่างพอเพียง และการรู้เท่าทันทางการเงิน
  4. กิจกรรมจิตอาสา จิตสาธารณะ หรือการบำเพ็ญประโยชน์แก่ชุมชนและสังคม
  5. กิจกรรมเสริมทักษะการสื่อสารภาษาไทยและภาษาอังกฤษสำหรับครู และ
  6. กิจกรรมลูกเสือ ซึ่งอาจเป็นรายวิชาหรือกิจกรรมฝึกอบรมตามหลักสูตรของสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ

ทั้งนี้ ภายหลังการรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษาไปแล้ว ทางสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะส่งคณะอนุกรรมการติดตามผลการรับรองโดยการประเมินเชิงประจักษ์ เพื่อให้สถาบันดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดอย่างน้อย 1 ครั้ง ซึ่งกรณีที่สถาบันอุดมศึกษาจัดหลักสูตรไม่เป็นไปตามเกณฑ์การรับรอง จะต้องดำเนินการปรับปรุงให้เป็นไปตามเกณฑ์ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากปรับแก้ไขแล้วเป็นไปตามเกณฑ์การรับรอง คุรุสภาจะยืนยันการรับรอง แต่หากปรับแก้ไขแล้วยังไม่เป็นไปตามเกณฑ์การรับรอง คุรุสภาจะพักการรับรองหรือยุติการรับรอง แล้วแต่กรณี

“การปรับโฉมกระบวนการผลิตครูครั้งนี้ จะสร้างความมั่นใจในมาตรฐานการผลิตครู บัณฑิตที่จบมามีคุณภาพ และส่งผลต่อนักเรียนที่จะมีคุณภาพมากขึ้น ตนขอให้สถาบันอุดมศึกษาตระหนักและให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพ อาจารย์ของครูใส่ใจลูกศิษย์ มีสมรรถนะการอบรมบ่มเพาะนักศึกษาให้เป็นครูดีสอนดี ทำให้นักเรียนเรียนรู้อย่างมีความสุขต่อไป” ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าว 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : EduGuide 4.0 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *