แผนการพัฒนาลูกเสือไทย พ.ศ.2567 – 2570 ของสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ

พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบนโยบายการศึกษา “เรียนดี มีความสุข” โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีความสุข ผ่านการพัฒนางานลูกเสือเพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ

ดังนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงมีดำริส่งเสริมกิจกรรมลูกเสือตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ และสอดคล้องกับยุคสมัย ทันการณ์ และนำไปใช้งานได้จริง เพื่อช่วยเหลือตนเอง ครอบครัวชุมชน และ สังคม

การจัดทำแผนการพัฒนาลูกเสือไทย (พ.ศ. ๒๕๖๗ – ๒๕๗๐) เป็นการดำเนินการเพื่อพัฒนางานลูกเสือของประเทศ เพื่อเป็นทิศทางของสำนักงานลูกเสือแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถนำแผนไปปฏิบัติได้บรรลุตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย วิธีการ ยุทธศาสตร์ ที่กำหนด  มีการกำกับ เร่งรัดและติดตามประเมินผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน โดยมีรายละเอียดดังนี้

 

๑. ชื่อ แผนการพัฒนาลูกเสือไทย (พ.ศ. ๒๕๖๗ – ๒๕๗๐)

๒. วิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่อนาคต  (Vision for Scout)

พัฒนางานลูกเสือของประเทศให้มีความทันสมัย และส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน เป็นพลเมืองดี เพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ  “ เรียนดี มีความสุข ”

 

๓. พันธกิจ (Mission)

๑. น้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สู่การปฏิบัติในงานลูกเสือให้เป็นรูปธรรมเกิดประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชนของชาติ
๒. พัฒนาลูกเสือตามวัตถุประสงค์ของคณะลูกเสือแห่งชาติ เพื่อพัฒนาลูกเสือทั้งทางกาย สติปัญญาจิตใจ และศีลธรรม ให้เป็นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ และช่วยสร้างสรรค์สังคมให้เกิดความสามัคคีและมีความเจริญก้าวหน้า ทั้งนี้ เพื่อความสงบสุข และความมั่นคงของประเทศชาติ

 

๔. เป้าหมาย (Goal)

๔.๑ เด็กและเยาวชน มีพื้นฐานที่ดี ๔ ด้าน

๔.๒ เด็กและเยาวชนสามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณและกฎของลูกเสือ สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันที่สอดคล้องกับบริบทของสังคม และเกิดประโยชน์ต่อผู้อื่นและสังคม

 

๕. วิธีการ (Method)

“งานลูกเสือเพื่อลูกเสือและสังคม” (Scout  for scouts and community) โดยการขับเคลื่อนขบวนการลูกเสือ (scout movement) ให้เกิดพลัง ด้วยวิธีการลูกเสือ (Scout Method) ที่ปรับใช้ให้สอดคล้องกับบริบทของสังคมไทย (เช่น การลูกเสือสำหรับเด็ก (Scouting for Boys) คู่มือลูกเสือสำรอง (Wolf Cub’s Handbook) การท่องเที่ยวไปสู่ความสำเร็จ (Rovering to Success) และ Aids to Scoutmastership) เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และทัศนคติที่ถูกต้องต่อขบวนการลูกเสือ รวมทั้งพัฒนาการลูกเสือให้สอดคล้องกับยุคสมัยและการเปลี่ยนแปลงของสังคม

ขบวนการลูกเสือ (scout movement)” หรือการลูกเสือ หมายถึง การร่วมกันของทุกภาคส่วนในสังคม เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และสร้างสรรค์ให้เกิดพลังของเด็ก เยาวชน และคนหนุ่มสาว (empowerment) ให้มีอุปนิสัยติดตัว (Character) คือ ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ มีน้ำใจ ด้วยวิธีการลูกเสือ (Scout Method) ซึ่งเป็นโปรแกรมการฝึกอบรมที่เพิ่มประสบการณ์การเรียนรู้ที่ตอบสนองความต้องการและความสนใจตามช่วงวัย

 

๖. ยุทธศาสตร์ (Strategic)

๖.๑ ยุทธศาสตร์ด้านส่งเสริมกิจการลูกเสือ (Scout Affairs) โดยส่งเสริม สนับสนุน กิจการลูกเสือให้สอดคล้องกับยุคสมัยและการเปลี่ยนแปลงของสังคม รักษาไว้ซึ่งอุดมการณ์ หลักการ วัตถุประสงค์ แนวทาง วิธีการ ธรรมเนียมปฏิบัติ พิธีการ และวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง เข้าใจง่าย เพื่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของขบวนการลูกเสือ ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศที่มุ่งสร้างสังคมที่เป็นสุข

 

กลยุทธ์ (Strategy)

๑) ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายลูกเสือให้เป็นปัจจุบัน เร่งจัดทำกฎกระทรวง ข้อบังคับ ระเบียบที่ยังไม่บังคับใช้
๒) ปรับปรุง พัฒนา เครื่องแบบและเครื่องหมายประกอบเครื่องแบบลูกเสือให้ทันสมัย
๓) ปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ เกี่ยวกับการขอคุณวุฒิทางการลูกเสือ เหรียญลูกเสือ และการยกย่องเชิดชูเกียรติ
๔) ส่งเสริม สนับสนุน การชุมนุม ประชุม และสัมมนาทางการลูกเสือ
๕) ส่งเสริมและสนับสนุนบทบาทของลูกเสือไทยในเวทีโลก
๖) จัดให้มีสถาบันผู้นำทางการลูกเสือ (สถาบันวชิราวุธ) เพื่อหล่อหลอมผู้นำทางการลูกเสือ
๗) จัดให้มีพิพิธภัณฑ์ทางการลูกเสือ
๘) ส่งเสริม สนับสนุนความร่วมมือทุกภาคส่วน

 

๖.๒ ยุทธศาสตร์ด้านพัฒนากิจกรรมลูกเสือ (Scout Activities)  โดยส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนากิจกรรมลูกเสือในทุกมิติและทุกภาคส่วน  โดยพัฒนาบุคลากรทางการลูกเสือให้มีสมรรถนะเป็นมืออาชีพ ส่งเสริมกิจกรรมลูกเสือเน้นกระบวนการฝึกฝน ฝึกอบรม ไม่ใช่กระบวนการเรียนการสอน เป็นโปรแกรมการจัดกิจกรรมที่จำเป็นสำหรับเด็กและเยาวชน

ตัวชี้วัด (KPI)

 

กลยุทธ์ (Strategy)

๑) สืบสานลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน มุ่งประสานทำความดีด้วยหัวใจ

๒) ส่งเสริมสนับสนุนบทบาทของลูกเสือในการเป็นผู้นำเด็กและเยาวชนในจังหวัด โดยจัดตั้งสโมสรเยาวชนลูกเสือ (Scout Youth Club)

๓) ส่งเสริม สนับสนุน การจัดกิจกรรมลูกเสือทุกรูปแบบ สนับสนุนการใช้สื่อต่างๆ อย่างสร้างสรรค์ พัฒนางานลูกเสือให้มีนวัตกรรมและมีคุณภาพ

๔) ส่งเสริม สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนเปิดพื้นที่แห่งการเรียนรู้เกี่ยวกับลูกเสือทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ

๕) พัฒนาและปรับปรุงกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในสถานศึกษาให้ทันสมัย

๖) ปรับปรุงและพัฒนามาตรฐานของหลักสูตรการฝึกอบรมลูกเสือและบุคลากรทางการลูกเสือ ให้ทันสมัย

๗) กำหนดแนวทางให้ผู้ตรวจการลูกเสือ ร่วมกับศึกษานิเทศก์ ให้เป็นผู้นิเทศ แนะนำ ตรวจตรา ในการจัดกิจกรรมลูกเสือและจัดกิจกรรมอื่นๆ

๘) จัดให้มีกองทุนพัฒนางานลูกเสือ

 

๖.๓ ยุทธศาสตร์ด้านบริหารจัดการงานลูกเสือ (Scout Management) โดยบริหารจัดการองค์กรที่ทันสมัย ที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ตามภารกิจ  โดยสร้างวัฒนธรรมองค์กรการให้บริการที่ถูกต้อง รวดเร็ว ประโยชน์ ประหยัด นำเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพ สอดคล้องกับบริบทการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งเปิดโอกาสและสร้างเครือข่ายการดำเนินงานจากทุกภาคส่วน

ตัวชี้วัด (KPI)

 

กลยุทธ์ (Strategy)

๑) ขับเคลื่อนแผนการพัฒนาลูกเสือไทย (พ.ศ. ๒๕๖๗ – ๒๕๗๐) สู่การปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในทุกภาคส่วน

๒) ปรับโครงสร้างและอัตรากำลังของสำนักงานลูกเสือแห่งชาติและสำนักงานลูกเสือจังหวัด

๓) จัดระบบการจัดทำแผนงาน งบประมาณ ที่ต้องสามารถขับเคลื่อนงานในเชิงรุกได้ สร้างวัฒนธรรมการองค์กรที่เป็นมืออาชีพ มีจิตบริการ

๔) พัฒนาการดำเนินงานกิจการลูกเสือในภูมิภาคให้เป็นเอกภาพ เน้นหลักการกระจายอำนาจ และการบูรณาการร่วมกันในระดับจังหวัดและเขตพื้นที่

๕) จัดระบบการบริหารจัดการทรัพย์สินและการลงทุนรวมทั้งกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในทรัพย์สินของคณะลูกเสือแห่งชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด

๖) จัดระบบเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ สินค้า ตราสัญลักษณ์ รวมทั้งเงินค่าบำรุงต่างๆ

๗) จัดทำแพลตฟอร์ม (Platform) การเรียนรู้ด้านลูกเสือที่สามารถศึกษาหาความรู้ และเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา เน้นการสื่อสารประชาสัมพันธ์เชิงรุก การบริการแบบอิเล็กทรอนิกส์

๘) พัฒนาค่ายลูกเสือวชิราวุธ ให้เป็น “Scout City เมืองแห่งลูกเสือ” รวมทั้งจัดให้มีค่ายลูกเสือระดับชาติ ในทุกภูมิภาคของประเทศ โดยความร่วมมือกับทุกภาคส่วน

๙) พัฒนาค่ายลูกเสือทั่วประเทศให้มีมาตรฐาน มีสภาพแวดล้อมเหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง สะอาด ปลอดภัย

 

กลไกการขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติ

๑. ระดับนโยบาย

  • สภาลูกเสือไทย วางนโยบาย และให้คำแนะนำในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ
  • คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ องค์คณะที่ดำเนินการและบริหารกิจการลูกเสือตามวัตถุประสงค์ของคณะลูกเสือแห่งชาติและตามนโยบายของสภาลูกเสือไทย  มีบทบาทดังนี้
    – กำหนดนโยบาย
    – การควบคุม กำกับ กฎระเบียบ ข้อบังคับ
    – กำกับ ติดตาม ประเมินผล

 

๒. ระดับแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติ

  • สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ (สลช.) หน่วยงานในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของคณะลูกเสือแห่งชาติ ตามนโยบายของสภาลูกเสือไทย และคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ มีบทบาทดังนี้
    – บริหารจัดการ  แผน งบประมาณ ทรัพยากร
    – ขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติ
    – สนับสนุน กำกับ ติดตาม ประเมินผล

 

๓. ระดับปฎิบัติ

  • สำนักงานลูกเสือจังหวัด
  • สำนักงานลูกเสือเขตพื้นที่การศึกษา
  • สถานศึกษา
  • หน่วยสนับสนุน
  • สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด / คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด
  • หน่วยงานการศึกษา
  • ภาครัฐ ภาคเอกชน
  • ครอบครัว
  • ชุมชน
  • ประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญา
  • แหล่งเรียนรู้ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม
  • ศาสนา
  • สมาคม สโมสร และภาคีเครือข่ายต่างๆ

 

 

ขอขอบคุณข้อมูล และ รูปภาพจาก.

https://moe360.blog/2024/02/28/thai-scout-dev-plan/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *