คุรุสภาเดินหน้าจัดสอบ “ตั๋วครู” ครั้งที่ 2

คุรุสภา เตรียมจัดสอบตั๋วครูครั้งที่ 2 ยกเลิกสอบวิชาเอก แต่ยังคง 4 วิชาชีพครูและประเมินสมรรถนะด้านปฏิบัติงาน คาดเลื่อนสอบเป็นเดือน พ.ย.นี้ พร้อมยืนยันยกเลิกสอบวิชาเอกไม่เกี่ยวกับการเมือง

 

เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 64 ที่ผ่านมา เลขาธิการคุรุสภา ดร.ดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาได้ข้อสรุปการจัดการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ครั้งที่ 2/2564 แล้ว โดยดำเนินการตามมติคณะกรรมการคุรุสภา ครั้งที่ 5/2564 ที่เห็นชอบแนวทางการพัฒนาหลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู โดยยกเลิกการสอบ “วิชาเอก” และให้ดำเนินการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูฯ ตั้งแต่การสอบครั้งที่ 2 เป็นต้นไป

พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ประสานกับสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ในการสร้างข้อสอบตามที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการอำนวยการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องกำหนดวันสอบครั้งที่ 2 สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา จะหารือกับ สทศ. ก่อนเสนอต่อประธานกรรมการคุรุสภาพิจารณา ซึ่งคาดว่าอาจจะต้องเลื่อนออกไปเป็นเดือนพฤศจิกายน 2564 จากเดิมกำหนดที่จะสอบในเดือนตุลาคมนี้

เลขาธิการคุรุสภา กล่าวต่อไปว่า การทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูฯ ครั้งที่ 2 จะยังคงองค์ประกอบของการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูตามมาตรฐานวิชาชีพครู ที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนดไว้ โดยให้ทดสอบ 2 ส่วน คือ ด้านความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ จำนวน 4 วิชา ได้แก่ วิชาการใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร การใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา และวิชาชีพครู และการประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูด้านการปฏิบัติงานและการปฏิบัติตนใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการจัดการเรียนรู้, ด้านความสัมพันธ์กับผู้ปกครองและชุมชน และด้านการปฏิบัติหน้าที่ครูและจรรยาบรรณของวิชาชีพ

ดร.ดิศกุล กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่ประธานกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) เห็นว่าการสอบวิชาเอก มีความสำคัญอย่างยิ่งในการตรวจสอบคุณภาพครูว่ามีความรู้ในเนื้อหาวิชาที่สอนมากน้อยเพียงใดนั้น ขอชี้แจงว่าคณะกรรมการคุรุสภา เห็นความสำคัญของการทดสอบวิชาเอกและมีการตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้ไว้ โดยได้มอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาไปดำเนินการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 1 คณะ เพื่อปรับปรุงพัฒนาหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูระบบใหม่ ที่ระบุสาขาวิชาเฉพาะ หรือ ระบุความเฉพาะทางของผู้มีใบอนุญาตฯ ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยการใช้ครูที่ตรงหรือสัมพันธ์กับสาขาวิชาเฉพาะ หรือ ความเฉพาะทางที่ระบุในใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูต่อไป

“การพัฒนาระบบการออกใบอนุญาตฯ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายผลิตครู หน่วยงานผู้ใช้ครู ที่ต้องร่วมกันสร้างคุณภาพครูรุ่นใหม่ที่สอดคล้องสัมพันธ์กันทุกฝ่าย และเชื่อมโยงกับระบบการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ที่แสดงถึงความรู้ ความสามารถทางวิชาชีพครู และองค์ความรู้ในสาขาวิชาเอกหรือสาขาวิชาเฉพาะของผู้ได้รับใบอนุญาตฯ ซึ่งจะนำไปสู่การกำหนดขอบเขตการใช้ครูที่ตรง หรือ สัมพันธ์กับสาขาวิชาเอก หรือ สาขาวิชาเฉพาะของผู้มีใบอนุญาตฯ มากขึ้น และจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพการศึกษาของไทยในภาพรวม” ดร.ดิศกุล กล่าว

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

-https://www.dailynews.co.th/news/60017/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *