ก.ค.ศ.ปรับเกณฑ์การย้ายผู้บริหารใหม่ ย้ายได้ทั่วประเทศ ครบแค่ 12 เดือนก็ย้ายได้ !

 

ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 1/2563 มีมติเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา  สายงานบริหารสถานศึกษา (ผอ.โรงเรียน) นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ว 13 / 2556 ให้สามารถขอทบทวนมติ ก.ค.ศ. ได้อีกด้วย

 

 

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.)  ในวาระที่ที่ประชุมมีมติอนุมัติเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานบริหารสถานศึกษา โดยร่างหลักเกณฑ์ฉบับใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ทันทีตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้เพื่อให้มีความคล่องตัวในการปฏิบัติงานมากขึ้น รวมถึงจะเป็นประโยชน์และสร้างความเป็นธรรมในการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา

 

โดยหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวให้สำนักงาน ก.ค.ศ. ดำเนินการปรับรายละเอียดตามความเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุม เพื่อให้ครอบคลุม เกิดประโยชน์ต่อทางราชการเป็นสำคัญ เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และให้นำเสนอในที่ประชุม ก.ค.ศ. ครั้งต่อไป

 

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ ก.ค.ศ. พิจารณาแล้วมีมติว่า เป็นผู้มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ว 13 / 2556 ให้สามารถขอทบทวนมติ ก.ค.ศ. ได้ในกรณีที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษารายใดเห็นว่าผลการพิจารณานั้น อาจคลาดเคลื่อนให้เสนอขอทบทวนผลการพิจารณาเป็นรายบุคคลได้ ภายใน 90 วันนับตั้งแต่วันที่สำนักงาน ก.ค.ศ. มีหนังสือแจ้งมติ ก.ค.ศ. ทั้งนี้การทบทวน ก.ค.ศ.จะพิจารณาจากเอกสารที่ผู้ขอรับการประเมินยื่นไว้เดิม โดยผู้ขอรับการประเมินจะต้องชี้แจงในประเด็นที่เห็นว่า ก.ค.ศ. พิจารณามีความคลาดเคลื่อนจากเอกสารหลักฐานที่ได้เสนอไว้เดิม

 

 

นอกจากนี้ นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัดศธ.)ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ ได้มติที่ประชุมเรื่องการเห็นชอบในหลักการ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสายงานบริหารสถานศึกษา ในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)

 

โดยในเรื่องการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาจะมีการปรับหลักเกณฑ์เพื่อความเหมาะสม เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่ามีการ้องเรียนเรื่องการโยกย้ายผู้บริหารสถานศึกษาว่าหลักเกณฑ์เดิมสร้างเงื่อนไขให้ไม่สามารถย้ายข้ามจังหวัด และย้ายมาโรงเรียนขนาดใหญ่ไม่ได้ เพราะในบางจังหวัดไม่มีโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษทำให้ต้องย้ายไปโรงเรียนที่มีขนาดเดียวกัน ดังนั้น รมว.ศธ.จึงเห็นชอบให้มีการปรับแก้ไขหลักเกณฑ์ดังกล่าว โดยหลักเกณฑ์การขอย้ายผู้บริหารสถานศึกษาใหม่นั้น ให้สามารถขอย้ายข้ามจังหวัดได้ เพื่อให้ผู้บริหารสถานศึกษาในจังหวัดนั้นๆ ได้เข้ามาพัฒนาโรงเรียนขนาดใหญ่ โดยมีเงื่อนไขแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ขนาด เช่น เมื่อตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษว่างผู้ที่มีโอกาสย้ายจะเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษกับผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดใหญ่ หรือ เมื่อตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดใหญ่ว่างผู้มีโอกาสย้ายจะเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดใหญ่และผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดกลาง แต่การแข่งขันกันจะมาพร้อมกับองค์ประกอบการพิจารณาการย้าย 8 ข้อ เช่น ต้องมีความอาวุโส และมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านภาษาและเทคโนโลยีในการพัฒนาโรงเรียน เป็นต้น

 

นอกจากนี้ในการยื่นขอย้ายที่เดิมมีคุณสมบัติกำหนดไว้ 24 เดือนถึงจะมีสิทธิ์ยื่น และให้นับถึงวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี แต่คราวนี้ได้ปรับเหลือเป็น 12 เดือน แต่ผู้ขอย้ายจะต้องอยู่ในตำแหน่งครบ 12 เดือนบริบูรณ์นับตั้งแต่วันดำรงตำแหน่งถึงวันที่เขียนคำขอย้าย เพื่อให้ความเป็นธรรมเพราะที่ผ่านมาวงรอบการย้ายจะใช้เวลาดำเนินการจริงๆยาวนานส่งผลให้ผู้ขอย้ายเสียโอกาส ส่วนการโยกย้ายแทนตำแหน่งที่ว่างที่ประชุมมีมติว่าจะมีการกำหนดสัดส่วนให้ชัดเจนระหว่างผู้บรรจุใหม่กับผู้ยื่นเรื่องคำขอย้าย เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้กำหนดสัดส่วนไว้จึงทำให้ไม่ได้มีการบรรจุผู้สอบแข่งขันได้ โดยสัดส่วนการบรรจุระหว่างผู้สอบใหม่กับผู้ยื่นเรื่องขอย้ายจะให้อำนาจคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) เป็นผู้กำหนด เช่น เมื่อตำแหน่งว่าง 9 ตำแหน่ง จะต้องมีการแบ่งระหว่างผู้ที่บรรจุได้กับผู้ขอย้ายให้เท่ากันก่อน คือ สัดส่วนละ 4 ตำแหน่ง และที่เหลือ 1 ตำแหน่ง ซึ่ง กศจ.จะดูความเหมาะสมว่าสัดส่วนจะเหลื่อมไปทางผู้บรรจุใหม่หรือผู้ขอย้าย

 

นอกจากนี้ รมว.ศึกษาธิการ ยังมีนโยบายว่าที่จะให้ผู้บริหารที่มีความสามารถเข้าไปพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กที่มีปัญหาในเรื่องของคุณภาพ ซึ่ง ก.ค.ศ. ต้องกำหนดหลักเกณฑ์ในการให้ขวัญกำลังใจแก่ผู้บริหารในโรงเรียนดังกล่าว ทั้งเรื่องค่าเช่าบ้าน เรื่องวิทยฐานะ และที่สำคัญหากพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กจนประสบความสำเร็จผู้บริหารสถานศึกษาเหล่านี้จะมีสิทธิพิเศษในการย้ายเข้ามาเป็นผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนขนาดใหญ่ได้อีกด้วย

 

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

: https://www.facebook.com/etvMAC/videos/3345956722384900/

: https://www.kruupdate.com

 

 

ขอบคุณรูปภาพจาก

: fanpage อีทีวีแม็ค เวทีสาธารณะเพื่อการศึกษา

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *