10 คำถาม เช็คตัวเองให้ชัวร์ก่อนไปเรียนต่อต่างประเทศ

 

การไปเรียนต่อประเทศถือเป็นความฝันของใครหลายคน และการไปเรียนต่อต่างประเทศสำหรับใครหลายๆ คนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เพราะต้องคำนึงถึงปัจจัยอีกหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นค่าเล่าเรียน ค่ากินอยู่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ภาษา วัฒนธรรม บางคนก็อาจมีทุนสำหรับการไปเรียนต่อได้อย่างสบาย แต่สำหรับบางคนก็เป็นเรื่องใหญ่มากทีเดียว การไปเรียนต่อที่ต่างประเทศจึงเป็นสิ่งที่เราต้องศึกษาและทบทวนหลายๆ อย่างให้ดี ฉะนั้นวันนี้เราจึงมี 10 คำถามมาเป็นตัวช่วยเช็กตัวเองก่อนไปเรียนต่อต่างประเทศมาฝากกันค่ะ

 

 

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

 

  1. ต้องการไปเรียนต่อเมืองนอกจริงๆ ใช่ไหม?

 

ตอบให้ได้ว่าเราอยากไปจริงๆ ใช่ไหม จริงจังแค่ไหน? เพราะการเรียนต่อเมืองนอกนั้นถ้าเป็นระดับปริญญาโทก็ใช้เวลา 2-3 ปีเลย เพราะฉะนั้นต้องให้มั่นใจว่าอยากไปเรียนสาขาหนึ่งจริงๆ ด้วยระยะเวลาเท่านี้ไหวไหม อยากไปเรียนคณะ หรือสาขาไหนแล้วอยากจะได้อะไรจากการไปเรียนครั้งนี้

 

 

  1. พร้อมจะเริ่มเตรียมตัวเมื่อไหร่?

ช่วงการตัดสินใจเรียนต่อของหลายๆ คนอาจจะไม่เท่ากัน บางคนก็คิดไว้ตั้งแต่ยังเรียนป.ตรี  บางคนรอเวลาขอทำงานก่อนค่อยทำเอกสารสมัครเรียนต่างๆ เมื่อเป็นแบบนี้จึงต้องพิจารณาว่าตัวเองอยู่จุดไหน ยกตัวอย่างง่ายๆ สำหรับช่วงเวลาต่างๆ ในการเตรียมตัว

อายุน้อยกว่าหรือเท่ากับป.ตรี: เป็นช่วงสนใจ ลองหาข้อมูลการศึกษาที่ประเทศนั้นๆ หรือสาขานั้นๆ ให้แน่ใจว่าเราอยากเรียนจริงๆ ไหม แต่มีแผนสำรองเผื่อไว้ถ้าอยู่ๆ เกิดอยากเปลี่ยนสาขาขึ้นมา เพราะยังมีเวลาในการตัดสินใจ

กำลังจะเรียนจบ: ถ้าสนใจเรียนต่อทัน ก็ต้องรีบจัดแจงเอกสาร ขอ recommendation letter จากอาจารย์ที่สนิท เช็คตารางวัน เงื่อนไขของมหาวิทยาลัยหรือทุนต่างๆ ให้ดี แต่ถ้าใครที่แพลนว่าจะทำอย่างอื่นก่อนค่อยไปเรียนก็อาจจะต้องวางแผนเรื่องเอกสารเช่นกัน เช่นการไปคุยกับอาจารย์ก่อนตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อเราจะได้รู้วิธีการทำเอกสารต่างๆ ไม่ต้องมาเร่ง และปวดหัวกับเอกสารต่างๆ ในภายหลัง

กำลังทำงาน: อันนี้อาจจะยากกว่าวัยเรียนเพราะต้องแพลนและคุยกับที่ทำงานดีๆ สัญญาการทำงานเป็นอย่างไร เอกสารต้องจัดแจงให้เรียบร้อย ตรวจร่างกาย ขอวีซ่า เงื่อนไขเหล่านี้อาจทำให้ต้องลางานบ่อยครั้ง เพราะฉะนั้นต้องคุยฝ่ายบุคคล หรือหัวหน้าให้เข้าใจตรงกัน

 

 

  1. เรียนสาขาวิชาอะไรดี?

จุดมุ่งหมายในการไปเรียนครั้งนี้ของเราคืออะไร เราอยากไปนำความรู้อะไรกลับมา รวมถึงความรู้ ความถนัด หรือสาขาที่เราเรียนมานั้นควรจะเลือกเรียนสาขาอะไร ที่ไหน เพื่อต่อยอดและเพิ่มเติมความรู้ และสาขาที่จะไปเรียนนั้นเรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง เป็นต้น

 

 

 

  1. รับมือกับค่าใช้จ่ายยังไงดี?

เมื่อมีประเทศเป้าหมายที่จะไปเรียนต่อแล้ว มีสาขาที่อยากไปเรียนต่อแล้ว ลำดับถัดมาก็คือ การคำนวณค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่าเล่าเรียน ค่าที่พัก ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าประกัน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน (ค่ารถ ค่าอาหาร ฯลฯ) ในกรณที่ดูไว้หลายๆ ที่ก็อาจจะต้องเปรียบเทียบค่าครองชีพเพื่อดูว่าประเทศไหนใช้เงินมากหรือน้อยกว่าขอบเขตที่เรากำหนดไว้ ที่สำคัญเลยคือต้องตอบให้ได้ว่าจะจัดการกับค่าใช้จ่ายเหล่านี้อย่างไร

 

 

  1. สมัครเรียนเมื่อไหร่?

มหาวิทยาลัยในต่างประเทศส่วนใหญ่ จะเปิดรับนักศึกษา 2 ช่วง คือ ฤดูใบไม้ผลิ และ ฤดูหนาวหรือฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งจะเริ่มเปิดรับใบสมัครทางออนไลน์ ประมาณ 4-5 เดือนก่อนเปิดเทอม โดยมากนักเรียนไทยจะไปเรียนต่อประมาณเดือนกันยายน แต่ก็ต้องเดินทางไปถึงมหาวิทยาลัยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – สิงหาคม เพื่อเตรียมความพร้อม จัดหาที่พัก และบางคนอาจต้องเรียนคอร์สภาษาหรือคอร์สปรับพื้นฐานเพิ่มเติมก่อน ดังนั้นต้องศึกษาข้อมูลและวางแผนให้ดี เพราะการสมัครเรียนจำเป็นต้องใช้เอกสารหลายๆ อย่าง  โดยเฉพาะสำหรับนักศึกษาปริญญาตรีที่อยากไปเรียนต่อโทเลยก็ต้องวางแผนเวลาด้วยว่าจะขอทรานสคริปต์หรือ letter of recommendation ทันหรือไม่ เพราะเป็นเอกสารที่สำคัญมาก และมีหลายคนที่ต้องเลื่อนเวลาสมัครเรียนเพราะวางแผนเวลาผิดมาแล้ว

 

 

  1. ต้องใช้คะแนนการสอบอะไร?

ถ้าไปเรียนต่อหลักสูตรนานาชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก มหาวิทยาลัยมักต้องการให้ผู้สมัครยื่นคะแนนสอบภาษาอังกฤษประกอบการพิจารณาด้วย โดยผลคะแนนที่นิยมใช้กันแพร่หลายก็ได้แก่ TOEFL และ IELTS หรือบางคอร์สอาจต้องยื่นคะแนนอื่นๆ เช่น GRE หรือ GMAT (ทดสอบมาตรฐานที่ใช้วัดความสามารถทางคณิตศาสตร์และทักษะการคิดวิเคราะห์) ประกอบด้วย ดังนั้นต้องศึกษาข้อมูลและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสอบเหล่านี้ด้วย

 

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ scholarship

 

  1. สามารถขอทุนการศึกษาได้ไหม?

ในประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่ เช่น อเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย สิงคโปร์ ฯลฯ จะมีทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่มีผลการเรียนดี หรือ กิจกรรมโดดเด่นด้วย หากได้รับทุนก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากทีเดียว ดังนั้น จึงควรศึกษารายละเอียดหรือสอบถามทางมหาวิทยาลัยเอาไว้ล่วงหน้า เพราะหากต้องการขอทุน มักจะต้องยื่นเอกสาร resume cv และเขียนเรียงความเพิ่มเติมเพื่อการขอทุนโดยเฉพาะ

 

 

  1. พักอาศัยที่ไหนดี?

การพักอาศัยเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ สำหรับการไปเรียนต่อต่างประเทศ เพราะถ้าโชคดีเจอที่พักดีก็โอเคไป ถ้าไม่ดีก็อาจจะลำบาก เพราะว่าแม้บางมหาวิทยาลัยหลายแห่งจัดสรรหอพักไว้ให้นักศึกษาต่างชาติในปีแรกของการศึกษาแต่ก็ทุกสถาบัน อีกทั้งหอพักก็อาจจะต้องมีการจองหรือชำระเงินล่วงหน้า อันนี้ต้องเช็คให้ดี ถ้าอยากเช่าห้องพักข้างนอก เพื่อให้ผู้ปกครองและเพื่อนๆ ที่จะมาเยี่ยมสามารถพักด้วยได้อย่างสะดวกสบาย ก็ลองหาข้อมูลและเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ แหล่งดู รวมถึงความปลอดภัยบริเวณโดยรอบ การเดินทางจากที่พักไปเรียนสะดวกไหม ต้องคำนึงถึงในหลายๆ ปัจจัยเลยทีเดียว ต้องหาข้อมูลสำหรับที่พักให้ละเอียดไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ

 

 

  1. สามารถทำงานพิเศษได้ไหม?

 

หากไม่ได้มีเงินสนับสนุนจากครอบครัวมากนัก การทำงานพิเศษก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการไปเรียนต่อต่างประเทศ เพราะค่าแรงในการทำ PART-TIME ที่ต่างประเทศนั้นมีเรทราคาค่าจ้างที่ไม่น้อยเลย และยังได้ประสบการณ์ในการทำงานด้วย แต่อย่าลืมศึกษาข้อมูลให้ดีว่า วีซ่านักเรียนนอกแต่ละประเทศทำงาน PART-TIME ได้กี่ชั่วโมงบ้าง และไม่ควรทำงานเยอะเกินไปหรือละเมิดกฎโดยเด็ดขาด เพราะนอกจากตัวเองจะเสี่ยงแล้ว ก็ยังอาจส่งผลเสียต่อรุ่นน้องนักเรียนไทยที่จะมาเรียนต่อในรุ่นหลังๆ ด้วย

 

 

  1. จะเอาตัวรอดได้อย่างไร?

 

การไปอยู่ห่างไกลจากบ้านเกิดนั้นแน่นอนว่าจะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งใหม่ๆ มากมาย และยังต้องรับผิดชอบตัวเองในทุกๆ ด้านอีกด้วย ฉะนั้นถ้ายังขาดทักษะอะไรที่จำเป็น ก่อนถึงวันเดินทางก็ควรฝึกฝน หาข้อมูล และเตรียมตัวไปก่อนล่วงหน้า เช่น ฝึกทำอาหาร หรือ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่างๆ ที่จะช่วยในการใช้ชีวิตในต่างประเทศ และการเรียนในประเทศนั้นๆ ด้วย หาข้อมูลเกี่ยวกับเมืองที่เราจะไปอยู่ให้มากที่สุด และที่สำคัญคือการเตรียมตัวด้านภาษาเพื่อการสื่อสารในเบื้องต้นด้วย เพราะอย่างน้อยก็จะสามารถสื่อสารกับคนในพื้นที่ได้หากเกิดปัญหาอะไร

 

 

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

เป็นอย่างไรกันบางคะ คำถามทั้ง 10 ข้อนี้พอจะทำให้น้องๆ และเพื่อนๆ หลายคนตอบตัวเองในเรื่องนี้ได้มากขึ้นไหมคะ ยังไงก็อย่าลืมทบทวนตัวเอง เตรียมหาข้อมูลให้ละเอียดที่สุด เตรียมทักษะและวางแผนให้พร้อม เพื่อให้การไปเรียนในต่างประเทศของเราประสบผลสำเร็จและ “ไม่เสียเปล่า” กันทุกคนนะคะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

:https://www.hotcourses.in.th/study-abroad-info/applying-to-university/how-to-plan-study-abroad-in-1-year/

 

ขอบคุณรูปภาพจาก

:https://www.ciee.org/go-abroad/college-study-abroad/blog/10-things-know-you-study-abroad-barcelona

:https://www.efswiss.ch/de/blog/language/wir-beantworten-deine-fragen-zu-deinem-auslandsaufenthalt/

:https://www.wegointer.com/2017/12/11-best-scholarships-offered/

:https://www.gofundme.com/f/yz8gw5-study-abroad-internship

:

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *