มาตรฐานการศึกษาปฐมวัยแห่งชาติ เครื่องนำทางสู่การพัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างมีคุณภาพ

มาตรฐานการศึกษาปฐมวัยแห่งชาติ เครื่องนำทางสู่การพัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างมีคุณภาพ

การพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะเด็กปฐมวัย ถือเป็นภารกิจสำคัญของประเทศ เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่มีบทบาทอย่างยิ่งต่อการวางรากฐานการพัฒนามนุษย์ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการดูแลและพัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างรอบด้าน เพื่อให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ มีทักษะที่เหมาะสมตามวัย และสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ การศึกษา และสวัสดิการทางสังคมได้อย่างเท่าเทียม สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ซึ่งกำหนดให้รัฐต้องจัดการศึกษาและการพัฒนาเด็กตั้งแต่ก่อนวัยเรียนอย่างมีคุณภาพและต่อเนื่อง

 

ความสําคัญของเด็กปฐมวัย

เด็กปฐมวัยเป็นช่วงเริ่มต้นของชีวิตที่มีพัฒนาการรวดเร็วที่สุด และเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาในทุกช่วงวัยต่อไป เด็กที่ได้รับการดูแลและพัฒนาอย่างเหมาะสมจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและเป็นกำลังสำคัญของประเทศ การลงทุนในการพัฒนาเด็กปฐมวัยถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและให้ผลตอบแทนสูงในระยะยาว อย่างไรก็ตาม คุณภาพเด็กปฐมวัยของประเทศไทยยังเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ต้องได้รับการแก้ไข จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากรัฐ ครอบครัว ชุมชน และทุกภาคส่วน เพื่อให้เด็กปฐมวัยได้รับการพัฒนาอย่างรอบด้าน ปลอดภัย และเต็มศักยภาพตามวัย

อุดมการณ์และหลักการในการจัดการศึกษาเด็กปฐมวัยของชาติ

รัฐธรรมนูญและกฎหมายด้านการศึกษาให้ความสำคัญกับการดูแลและพัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างรอบด้านตั้งแต่ก่อนวัยเรียน โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย เพื่อพัฒนาร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญาให้เหมาะสมตามวัย การจัดการศึกษาเด็กปฐมวัยต้องเป็นระบบ มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน โดยอาศัยความร่วมมือจากรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และครอบครัว พร้อมบูรณาการการทำงานทุกภาคส่วนให้สอดคล้องกับแผนการศึกษาแห่งชาติและมาตรฐานระดับอาเซียนและสากล เพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างต่อเนื่องและเต็มศักยภาพ

เหตุผลที่ต้องมีมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ

ปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาเด็กปฐมวัยจำนวนมากมีพัฒนาการไม่สมวัย อันส่งผลกระทบต่อคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยมีมาตรฐานและคุณภาพที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำและความสับสนในการดำเนินงาน จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดทำมาตรฐานกลางที่ครอบคลุมเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึงก่อนประถมศึกษา คณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติจึงจัดทำมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ เพื่อให้ทุกหน่วยงานใช้ร่วมกันในการประเมินและพัฒนาเด็กอย่างเป็นระบบและมีคุณภาพ นำไปสู่การสร้างรากฐานที่มั่นคงของพลเมืองคุณภาพในอนาคต

วัตถุประสงค์

มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ คือ เพื่อยกระดับคุณภาพการดูแล พัฒนา และจัดการศึกษาเด็กปฐมวัยตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ 6 ปี ให้สามารถใช้เป็นมาตรฐานกลางในการประเมินการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกสังกัด เพื่อให้การพัฒนาเด็กเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพ

กลุ่มเป้าหมาย

สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกประเภทในประเทศไทย ทั้งภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานอื่น ๆ ที่ให้บริการดูแลและจัดการศึกษาเด็กปฐมวัย เช่น ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนอนุบาล สถานรับเลี้ยงเด็ก และศูนย์เด็กเล็กในโรงพยาบาล ครอบคลุมทุกสังกัดและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ

เป็นมาตรฐานกลางของประเทศ ใช้แทนมาตรฐานศูนย์เด็กเล็กแห่งชาติ เพื่อเป็นแนวทางประเมินและยกระดับคุณภาพการดูแลและจัดการศึกษาเด็กปฐมวัยทุกสังกัด มาตรฐานดังกล่าวจัดทำโดยความร่วมมือของหลายหน่วยงาน และอ้างอิงมาตรฐานระดับอาเซียนและสากล เพื่อให้เด็กปฐมวัยตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปีได้รับโอกาสเริ่มต้นชีวิตอย่างมีคุณภาพ เท่าเทียม และลดความเหลื่อมล้ำ อันเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

สาระสำคัญมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ

มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ แบ่งออกเป็น ๓ ด้าน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยมีคุณภาพ ปลอดภัย และส่งเสริมพัฒนาการเด็กอย่างรอบด้าน

มาตรฐานด้านที่ 1 การบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย

มุ่งเน้นการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และคำนึงถึงความปลอดภัย สุขภาพ และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

  1. การบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ 
    สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยต้องมีการบริหารงาน หลักสูตร และข้อมูลอย่างเป็นระบบ มีแผนงานชัดเจนและตรวจสอบได้

  2. การบริหารจัดการบุคลากร 
    ผู้บริหาร ครู และผู้ดูแลเด็กต้องมีคุณวุฒิและคุณสมบัติเหมาะสม จัดอัตรากำลังให้เพียงพอต่อจำนวนเด็ก และบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ

  3. การจัดการสภาพแวดล้อมเพื่อความปลอดภัย
    อาคาร สถานที่ สนามเด็กเล่น วัสดุอุปกรณ์ และของเล่นต้องมั่นคง ปลอดภัย ได้มาตรฐาน มีระบบป้องกันอุบัติเหตุ ภัยพิบัติ และเหตุฉุกเฉิน

  4. การจัดการเพื่อส่งเสริมสุขภาพและการเรียนรู้
    ดูแลสุขภาพเด็กอย่างรอบด้าน มีการเฝ้าระวังการเจริญเติบโต ตรวจสุขภาพ ป้องกันโรค จัดสภาพแวดล้อมและแหล่งเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัย รวมถึงระบบสุขาภิบาลที่มีประสิทธิภาพ

  5. การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชน
    สร้างความร่วมมือกับผู้ปกครองและชุมชน มีการสื่อสารที่ดี จัดกิจกรรมร่วมกัน และพัฒนาสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน

มาตรฐานด้านที่ 2 ครู/ผู้ดูแลเด็กให้การดูแล และจัดประสบการณ์การเรียนรู้

การดูแลส่งเสริม และจัดประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านการเล่น เพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างสมดุล ครอบคลุมทุกมิติของพัฒนาการ ดังนี้

  1. การดูแลและพัฒนาเด็กอย่างรอบด้าน
    ครูจัดแผนการเรียนรู้ที่สอดคล้องหลักสูตร จัดกิจกรรมและมุมประสบการณ์ที่หลากหลาย ใช้สื่อและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ปลอดภัย และติดตามพัฒนาการเด็กรายบุคคลเพื่อพัฒนาเด็กตามศักยภาพ

  2. การส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกายและสุขภาพ
    ดูแลโภชนาการ สุขนิสัย ความปลอดภัย ตรวจสุขภาพและเฝ้าระวังการเจริญเติบโตของเด็กอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กมีร่างกายแข็งแรงและสุขภาพดี

  3. การส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา ภาษา และการสื่อสาร
    จัดกิจกรรมให้เด็กได้คิด สังเกต ทดลอง ตั้งคำถาม แก้ปัญหา ส่งเสริมการสื่อสาร การใช้ภาษา ความรักการอ่าน และการเรียนรู้คณิตศาสตร์–วิทยาศาสตร์เบื้องต้นอย่างเหมาะสมกับวัย

  4. การส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ และสังคม
    สร้างความสัมพันธ์ที่ดี ปลูกฝังอารมณ์เชิงบวก คุณธรรม วินัย ความรับผิดชอบ และความเป็นพลเมืองดี ผ่านกิจกรรมที่สอดคล้องกับวัยและความสนใจของเด็ก

  5. การส่งเสริมเด็กในระยะเปลี่ยนผ่าน
    เตรียมความพร้อมและช่วยให้เด็กปรับตัวจากบ้านสู่สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย และเชื่อมต่อสู่ระดับการศึกษาที่สูงขึ้นอย่างราบรื่น โดยร่วมมือกับผู้ปกครอง

มาตรฐานด้านที่ 3 คุณภาพของเด็กปฐมวัย

มุ่งเน้นผลลัพธ์คุณภาพของเด็กปฐมวัยตามช่วงวัย ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม สติปัญญา และภาษา เพื่อให้เด็กเติบโตสมวัย มีสุขภาวะที่ดี และพร้อมก้าวสู่การเรียนรู้ในระดับถัดไป

1.เด็กแรกเกิด – อายุ ๒ ปี ๑๑ เดือน ๒๙ วัน

เน้นการเจริญเติบโตและพัฒนาการพื้นฐานที่เหมาะสมกับวัย

  • เด็กมี การเจริญเติบโตสมวัย น้ำหนักและส่วนสูงเหมาะสม มีการบันทึกเป็นรายบุคคล
  • เด็กมี พัฒนาการสมวัยครบ ๕ ด้าน ได้แก่ กล้ามเนื้อมัดใหญ่ กล้ามเนื้อมัดเล็กและสติปัญญา การรับรู้ภาษา การใช้ภาษา และการช่วยเหลือตนเอง–การเข้าสังคม

2.เด็กอายุ ๓ – ๖ ปี (ก่อนเข้า ป.๑)

เน้นพัฒนาการรอบด้าน สุขนิสัยที่ดี และความพร้อมสู่การศึกษา

  • เด็กมี การเจริญเติบโตสมวัย สุขภาพแข็งแรง และสุขนิสัยที่เหมาะสม รวมถึงสุขภาพช่องปากที่ดี
  • เด็กมี พัฒนาการสมวัยครบ ๕ ด้าน
  • เด็กมีพัฒนาการด้าน การเคลื่อนไหวร่างกาย ทั้งกล้ามเนื้อมัดใหญ่และมัดเล็ก
  • เด็กมีพัฒนาการด้าน อารมณ์จิตใจ ร่าเริง มั่นคงทางอารมณ์ ควบคุมตนเอง และปรับตัวได้
  • เด็กมีพัฒนาการด้าน สติปัญญา การคิด การแก้ปัญหา และความคิดสร้างสรรค์
  • เด็กมีพัฒนาการด้าน ภาษาและการสื่อสาร ฟัง พูด อ่าน เขียนเบื้องต้น และใช้ภาษาได้เหมาะสม
  • เด็กมีพัฒนาการด้าน สังคม คุณธรรม วินัย และความเป็นพลเมืองดี อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ เคารพความแตกต่าง และภาคภูมิใจในความเป็นสมาชิกของสังคม

 

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ดาวน์โหลด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *