มศว ประกาศการปรับจำนวนการรับ TCAS รอบที่ 3 (Admission) เพิ่ม EZ WebmasterMay 10, 2024 . รายละเอียด • คลิก #ทีมมศว #เด็กซิ่ว #TCAS67 #dek67 ศูนย์สอบ ใครคิดว่าไม่สำคัญ บริติช เคานซิล นำชมศูนย์สอบ IELTS ที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมชู 7 เหตุผล ที่ทำไมใครๆ ก็เลือกสอบที่นี่ EZ WebmasterMay 10, 2024 ถ้าเปรียบวีซ่า เป็นใบเบิกทางสำหรับเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ผลสอบ IELTS ก็เปรียบได้กับใบเบิกทางในโลกแห่งการศึกษา เพราะไม่ว่าจะไปเรียนต่อหรือทำงานในต่างประเทศ ผลสอบ IELTS จะช่วยเบิกทางทำให้ทุกฝันเป็นจริงได้ หรือแม้แต่ถ้าอยากเรียน อยากทำงานในองค์กรชั้นนำในประเทศไทย หลายๆ แห่ง ก็ต้องใช้ผลสอบ IELTS ประกอบการสมัคร หรือถ้าหากไม่จำเป็นต้องใช้ การมีคะแนนสอบ IELTS ปังๆ ประดับ Resume หรือ Portfolio ก็จะช่วยเพิ่มแต้มต่อ เพิ่มความน่าสนใจ และได้เปรียบกว่าผู้ที่ไม่มีแน่นอน เพราะการสอบ IELTS เป็นมาตรฐานวัดระดับความรู้ความสามารถการใช้ภาษาอังกฤษระดับสากลที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับจากองค์กรและสถาบันการศึกษามากกว่า 11,500 แห่ง ในมากกว่า 140 ประเทศ และมีการสอบในปีที่ผ่านมามากกว่า… เอ็นไอเอ สานฝันเด็กไทยสู่เส้นทางนวัตกรในเวทีประกวด รางวัลนวัตกรรมแห่งประเทศไทย “TIA 2024” ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 1 แสนบาท EZ WebmasterMay 9, 2024 สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ และความร่วมมือพิเศษจาก Education New Zealand (ENZ) เชิญชวนนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย นิสิต นักศึกษา และอาชีวศึกษาอายุไม่เกิน 25 ปี ที่มีไอเดียสร้างผลงานนวัตกรรมและต้องการพัฒนาเพื่อส่งประกวดให้เป็นสุดยอดนวัตกรรมกับ “โครงการประกวดรางวัลนวัตกรรมแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 24 หรือ Thailand Innovation Awards (TIA2024)”… สสวท. พาทดลองใช้ระบบข้อสอบออนไลน์ PISA ล่าสุดเพิ่มโจทย์คณิตศาสตร์ 8 เรื่องฝึกทักษะ EZ WebmasterMay 9, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) นำเสนอข้อสอบ PISA ที่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่แล้วโดยเป็นลิขสิทธิ์ขององค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organisation for Economic Co-operation and Development หรือ OECD) ประกอบด้วยโจทย์วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ การอ่าน การแก้ปัญหาแบบร่วมมือ และ สมรรถนะการอยู่ในสังคมโลก ทดลองใช้งานได้ที่ระบบข้อสอบออนไลน์ PISA เว็บไซต์ https://pisaitems.ipst.ac.th ล่าสุดยังได้เพิ่มโจทย์คณิตศาสตร์จากการสอบ PISA 2022 จำนวน 8 เรื่อง ได้แก่ การซื้อรถยนต์ ยอดขายดีวีดี รถขนย้าย ระบบสุริยะ… นักศึกษา 40 ปี ม.รังสิต ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ ชูหัวใจ คือ นักศึกษา เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ tui sakrapeeMay 11, 2024 ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ให้เกียรติเป็นประธานงาน 40 ปี ม.รังสิต และในฐานะวันคล้ายวันเกิดท่าน ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2567 ณ ตึก 14 อาคารนันทนาการ… สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ EZ WebmasterMay 10, 2024 สำนักการเรียนรู้ตลอดชีวิตพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KLLC) ภายใต้สังกัดสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดโครงการ DEP หลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล เพื่อคนพิการ สร้างงาน สร้างอาชีพ” โดยมี ผศ.ดร.ทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร เป็นหัวหน้าโครงการ พร้อมด้วย รศ.ดร.จรสวรรณ โกยวานิช ผู้อำนวยการ KLLC, คุณหญิง ดร. สุมาลี อุทัยเฉลิม… ซีเอ็มเอ็มยู เปิดผลวิจัยใหม่ถอดด้าม “การตลาดคนขี้เบื่อ” พร้อมเจาะ “พฤติกรรมขี้เบื่อคน 4 Gen” คลื่นลูกใหม่กระทบ “Brand Loyalty” โชว์เทคนิคช่วยแบรนด์ดึงคนเบื่อหวนภักดีต่อสินค้า – บริการ EZ WebmasterMay 10, 2024 วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU ชวนจับตา “ตลาดคนขี้เบื่อ” เทรนด์ธุรกิจใหม่มาแรงที่มาพร้อมโอกาส เผยผลสำรวจคนไทยมากกว่า 50% เป็นคนขี้เบื่อ พบ Gen Z ขี้เบื่อมากที่สุด และ “ดูหนังหรือโทรทัศน์” เป็นกิจกรรมแก้เบื่อยอดนิยมของคนทุก Gen รวมทั้งแนะกลยุทธ์สุดปังพิชิตใจคนขี้เบื่อ “BEAT” : Be specific, Extremely appealing, Amazed emotion, Too fun… LEARN to EARN เพราะชีวิต คือการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด “สุรพรชัย ธรรมศิริ” ว่าที่นักกายอุปกรณ์ ที่ไม่หยุดพัฒนาตนเอง เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ EZ WebmasterMay 10, 2024 เมื่อการเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดให้อยู่เพียงแค่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่เรียกว่าห้องเรียนอีกต่อไป แต่เป็นการเรียนรู้ที่ไม่รู้จบ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา หรือที่เรียกว่า Lifelong learning ที่จะทำให้ผู้เรียนรู้ นำประสบการณ์นั้นมาพัฒนาตัวเองได้มากขึ้น เมื่อโอกาสเปิดให้ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียมกันแล้ว ก็อยู่ที่แต่ละคนว่าจะค้นหาความเป็นตัวเองเพื่อจะไขว่คว้าหาความรู้เพื่อให้ตัวเอง “อยู่รอด” ได้ในโลกปัจจุบันที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรวดเร็วจนแทบจะตามกันไม่ทัน เหมือนอย่าง สิงห์ – สุรพรชัย… ทุนดีดี ขยายเวลารับทุนเรียนต่อป.โท ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว สหพันธรัฐรัสเซีย tui sakrapeeApril 24, 2024 ประกาศขยายเวลารับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว (Skolkovo Institute of Science and Technology: Skoltech) สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024) หลักสูตรภาษาอังกฤษ ตามที่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ… ม.เทคโนโลยีและการออกแบบแห่งสิงคโปร์ ให้ทุนคนไทยไปศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี tui sakrapeeApril 22, 2024 ประกาศ รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบ แห่งสิงคโปร์ (Singapore University of Technology and Design : SUTD) สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024)… รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH… ครู-อาจารย์ สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ EZ WebmasterMay 10, 2024 สำนักการเรียนรู้ตลอดชีวิตพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KLLC) ภายใต้สังกัดสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดโครงการ DEP หลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล เพื่อคนพิการ สร้างงาน สร้างอาชีพ” โดยมี ผศ.ดร.ทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร เป็นหัวหน้าโครงการ พร้อมด้วย รศ.ดร.จรสวรรณ โกยวานิช ผู้อำนวยการ KLLC, คุณหญิง ดร. สุมาลี อุทัยเฉลิม… สสวท. อบรมครูศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ชูสะเต็มศึกษานำร่องหนุนครูขยายผลสู่โรงเรียนทั่วประเทศ EZ WebmasterMay 10, 2024 รองศาสตราจารย์ ดร.ธีระเดช เจียรสุขสกุล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ สำหรับศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ประจำปี พ.ศ. 2567 พร้อมด้วย ดร.พรชัย อินทร์ฉาย รองผู้อำนวยการ สสวท. โดยมีโรงเรียนศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 30 ศูนย์จากทั่วประเทศและโรงเรียนสังเกตการณ์ 1 โรงเรียน จำนวนครู 124 คน ร่วมในการอบรม เพื่อนำหลักสูตรไปขยายผลให้ครูและโรงเรียนในระยะต่อไป ณ โรงแรมกราฟ… คณะแพทยศาสตร์ สจล. เปิดรับสมัครนักศึกษา ป.โท สาขาการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ) EZ WebmasterMay 9, 2024 คณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ขอเชิญผู้สนใจสมัครเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต(ปริญญาโท) สาขาการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ) ประจำปีการศึกษา 2567 ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และเศรษฐกิจสังคมในปัจจุบัน รวมทั้งความรู้และทักษะที่ช่วยให้ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถเป็นผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีด้านสุขภาพได้อย่างแท้จริง สำหรับคุณสมบัติผู้สมัครจะต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือเรียนในปีสุดท้ายของหลักสูตรปริญญาตรี สมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 15 พฤษภาคม 2567 ผ่านลงทะเบียนออนไลน์ที่ www.reg.kmitl.ac.th หรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://md.kmitl.ac.th/ การศึกษาไทยกำลังสิ้นหวัง ครูได้เงินเพิ่ม แต่PISA-โอเน็ต ‘ต่ำ’ EZ WebmasterMay 8, 2024 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม นายสมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า จากผลคะแนนสอบPISA และผลคะแนนสอบโอเน็ต ที่ร่วงเป็นราวหรือไม่เกิน 50% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องกระบวนการเรียนรู้เราไม่ได้แก้ไขอะไรเลย ซึ่งสวนทางกับเรื่องที่ครูได้รับเงินที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าตอบแทน ค่าตำแหน่ง วิทยฐานะที่สูงขึ้นตามลำดับ แต่คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของเด็กไม่ดีขึ้น… กิจกรรม ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน EZ WebmasterMay 3, 2024 ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี! ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ทาง www.vec.go.th… ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search EZ Webmaster April 24, 2023 EZ Webmaster April 24, 2023 สรุปความคิดเห็น 10 อันดับ! ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จัดอันดับ! ความคิดเห็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จากชุมชนชาว Eduzones สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ชุมชน Eduzones ของเรา ได้รวบรวมผลสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด? จาก โพล์ลการสำรวจความคิดเห็นด้านล่างนี้ https://www.facebook.com/interscholarship/posts/pfbid02on1d5jCx3N5E9uCkMLKMwWuDrHz1dZqdW2edy75RDnpRfiMDf3QTtX1sev5fdxSzl โดยเราได้รวบรวมผลจากการแสดงความคิดเห็นและได้จัดอันดับหมวดหมู่ออกเป็น 10 อันดับ ดังนี้ อันดับที่ 1 ประเทศสหรัฐอเมริกา ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นตัวเลือกแรกที่ขึ้นมาเมื่อคนต้องการไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ เพราะการศึกษาที่มีคุณภาพ และ เป็นที่นิยมสูงมากในหมู่นักเรียน ด้วยวิธีการสอน ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น การศึกษาสาย STEM คุณภาพที่มีอิสระ ที่จะเรียนในสาขาวิชาต่าง ๆ ในระดับปริญญาตรี ก่อนที่จะลง เรียนวิชาเอก นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกในการทำวิชาเอกสองครั้ง (รับปริญญาตรีในสองวิชาในเวลาเดียวกัน) ในระดับสูงกว่าปริญญาตรี และสามารถเลือกชั้นเรียนเพื่อให้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสาขาวิชาที่สนใจได้ มหาวิทยาลัยได้รับการยอมรับในระดับสากล อเมริกามีมหาวิทยาลัยมากกว่า 4,000 แห่ง ที่ เปิดสอน ระดับปริญญา ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เพราะความพร้อมในการเรียน ไม่ว่าจะเป็นความพร้อม ในด้านอุปกรณ์ที่ครบครัน และ ทันสมัย พร้อมด้วย พนักงานที่มีประสบการณ์มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ยังเป็น ผู้นำระดับโลก ด้าน การวิจัย เนื่องจากรัฐบาลใช้งบประมาณ จำนวนมากในการคิดค้นวิจัยนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมา การพัฒนาทักษะที่หลากหลาย เนื่องจากวิธีการสอนที่ยืดหยุ่นของประเทศ จะมีโอกาสได้พัฒนาทักษะความสามารถข้ามสาขาวิชาซึ่งจะช่วยให้โดดเด่นกว่าเพื่อน มหาวิทยาลัยอเมริกาจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถเริ่มเตรียมตัวสำหรับงานในฝันได้ตั้งแต่ปริญญาตรี และเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำในเกือบทุกสาขา เช่น เทคโนโลยี สื่อ และ ศิลปะ จนมีโอกาสมากมายเมื่อเริ่มมองหาการฝึกงานงานพาร์ทไทม์หรือประสบการณ์การทำงานหลังเรียนจบ ระบบการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติ อเมริกาสนับสนุนให้ความช่วยเหลือนักเรียนต่างชาติได้ดี จากมหาวิทยาลัยในอเมริกาจะช่วยเหลือนักศึกษาต่างชาติ ตั้งแต่ ปฐมนิเทศจนถึง สำเร็จการศึกษา สามารถ ไปที่สำนักงานนักศึกษาต่างชาติ ของ มหาวิทยาลัย ได้ตลอดเวลา เพื่อขอคำแนะนำที่ต้องการ มหาวิทยาลัยหลายแห่งยังให้ความช่วยเหลือโดยจัดโปรแกรม เพื่อ ช่วยนักศึกษาต่างชาติ ในการเขียนเชิงวิชาการ และ ปรับตัวเข้ากับระบบการศึกษาใหม่ ข้อนี้ทำให้หลาย ๆ คน ตัดสินใจได้ว่าทำไมต้องเป็นอเมริกา อันดับที่ 2 ประเทศอังกฤษ หากพูดถึงการเรียนต่อที่ต่างประเทศเชื่อว่า ‘อังกฤษ’ คือ Top of Mind ที่อยู่อันดับต้น ๆ ในใจของทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กไทยที่อยากไปศึกษาต่อ เพราะประเทศอังกฤษเป็นที่นิยม จากสถานที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมที่มีชื่อเสียงและได้รับการันตีว่าดีที่สุดในโลก รวมทั้งยังเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ได้เคยผลิตนักวิทยาศาสตร์ระดับตำนานในอดีต ไม่ว่าจะเป็น เซอร์ไอแซก นิวตัน นักฟิสิกส์ หรือ สตีเฟน ฮอว์คิง อัจฉริยะทางฟิสิกส์ พ่อแม่-ผู้ปกครอง จึงได้วางใจและคาดหวังว่าอังกฤษ จะมอบคุณภาพอันดีเยี่ยมเหล่านั้นให้แก่บุตร-หลาน ไม่เพียงแต่ด้านวิชาการ แต่ยังรวมไปถึง ความเป็นเลิศด้านดนตรี ศิลปะ และการเขียนอีกด้วย หลักสูตรอันเป็นประตูสู่ระดับ World-Class โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในประเทศอังกฤษ เสนอหลักสูตรที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพระดับสากล ที่ถือเป็นใบเบิกทางชั้นดีสู่การต่อยอดการศึกษาขั้นสูงและการทำงานยังประเทศชั้นนำอื่น ๆ ซึ่งอันได้แก่ IGCSE, International Baccalaureate Diploma, A-Levels ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้ เป็นสากลและได้รับการยอมรับจากประเทศอื่น ๆ เรียกได้ว่า เป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงให้แก่บุตร-หลานได้มากเลยทีเดียว ได้ภาษาอังกฤษที่ดีจากต้นกำเนิด ภาษาอังกฤษถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะเป็นภาษาที่คนใช้กันทั่วโลก สามารถใช้สื่อสารได้ในหลายๆ ประเทศ และใช้ต่อยอดในหน้าที่การงานในอนาคตได้ ซึ่งการไปเรียนที่ต่างประเทศ (โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ของประเทศอังกฤษ) มีข้อดีคือ เรื่องสำเนียงที่ถูกต้องแบบชาวบริติช และยังมีคอนเนคชั่นกับชาวต่างชาติ ปฎิเสธไม่ได้ว่าการไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษมีข้อดีที่เด่นชัดที่สุดคือเรื่องของภาษา ที่เป็นต้นตำรับ เชื่อได้ว่าทักษะภาษาอังกฤษจะดีขึ้นมากหากได้ลองไปเรียน หรือใช้ชีวิตอยู่ในประเทศต้นกำเนิด แนวทางการพัฒนาตัวเองที่หาไม่ได้จากที่อื่น เหตุผลอีกหนึ่งประการ ที่ถือเป็นสิ่งสำคัญ ในการศึกษาต่อประเทศอังกฤษ นั่นก็คือ แนวทางการพัฒนาตนเองที่เด็กจะได้รับ โรงเรียนมัธยมในอังกฤษ มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาศักยภาพนักเรียนของพวกเขา เพื่อพร้อมก้าวสู่โลกใบใหญ่และการเดินทางต่อในระดับมหาวิทยาลัย นอกจากนั้น สถาบันการศึกษาในอังกฤษยังสนับสนุนและแนะนำอย่างเต็มที่ ให้นักเรียนมีความมั่นใจ พร้อมจิตใจที่เปิดกว้าง และเปิดรับโอกาสที่ดีในอนาคต อันดับที่ 3 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หากจะบอกว่าสวิตเซอร์แลนด์ คือหนึ่งในประเทศที่คนไทยชื่นชอบมากที่สุดคงไม่แปลกนัก สังเกตได้จากคนไทยจำนวนมากที่ไปตั้งรกรากอยู่ที่นั่น รวมถึงเป็นดินแดนแห่งความสุขที่สามารถพบเจอรอยยิ้มของผู้คนได้แทบทุกเส้นทางบนถนน การมีโอกาสได้เรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์ จึงเป็นสิ่งที่นักเรียนไทยจำนวนมากใฝ่ฝันเอาไว้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากหากมีความตั้งใจ แม้ไม่ใช่ประเทศใหญ่ในยุโรป แต่เชื่อว่าความรู้ที่ได้บวกกับประสบการณ์ดี ๆ ในชีวิตมันช่างคุ้มค่ากับการเดินทางไปอย่างยิ่ง มหาวิทยาลัยชั้นนำ สวิสเซอร์แลนด์มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอยู่หลายแห่ง และมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประเทศสองแห่ง ได้แก่ EPFL และ ETH Zurich ยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 30 มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ใน The Times Higher Education (THE) World University Rankings นักศึกษามีความพึงพอใจกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูงในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศและส่วนใหญ่จะชื่นชอบคุณภาพการสอนในแต่ละหลักสูตรเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปแล้ว มหาวิทยาลัยของสวิสเซอร์แลนด์มีชื่อเสียงด้านการเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นชาวสวิสหรือนักศึกษาต่างชาติที่เรียนในสถาบันที่สวิสเซอร์แลนด์ ก็จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนายจ้าง ระบบการศึกษาคุณภาพระดับโลก ระบบการศึกษาของสวิตเซอร์แลนด์เป็นอีกหนึ่งอย่างที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้าน “การโรงแรม” เนื่องจากประเทศแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกันอย่างมากมาย ดังนั้นธุรกิจด้านโรงแรมจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจและน่าเรียน ทำให้มีสถาบันการศึกษาเปิดสอนทางด้านโรงแรมโดยเฉพาะ และยังถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของวิชาการด้านการโรงแรม เพราะมีหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ และยังมีสอนภาษาที่ 3 ได้แก่ เยอรมัน และ ฝรั่งเศส ที่เป็นหนึ่งภาษาทางการของสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับการเรียนการสอนการโรงแรมของสวิตเซอร์แลนด์ เน้นทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ โดยมีการฝึกงานจริงและยังได้รับค่าจ้าง โดยที่นักเรียนจะไม่ได้ถูกส่งไปฝึกงานเฉพาะในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น แต่ยังถูกส่งไปฝึกงานที่ต่างประเทศด้วย โอกาสแห่งการเรียนรู้ภาษา สวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นสถานที่ที่ดีในการเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เป็นการช่วยเพิ่มตัวเลือกด้านอาชีพหลังจบการศึกษาได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเยอรมนีมีฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปซึ่งเต็มไปด้วยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ได้แก่ การธนาคาร การผลิต และมีโปรแกรมการฝึกอบรมนักศึกษาฝึกงานที่ยอดเยี่ยม ภาษาฝรั่งเศสยังเป็นอีกหนึ่งภาษาที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพในธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งภาษาฝรั่งเศสนั้นเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นอันดับสองในสหภาพยุโรป และเป็นภาษาราชการของ 29 ประเทศทั่วโลก เช่น แคนาดา เบลเยียม และมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตในแอฟริกา เช่น แทนซาเนีย รวันดา และโมซัมบิก เป็นต้น อันดับที่ 4 ประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ได้รับการจัดอันดับว่าเป็น ประเทศที่มีความสงบสุขมากที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 2 โดยพิจารณาจากรายได้ การศึกษา และระดับของการรวมกลุ่มในระดับภูมิภาค, ความโปร่งใสในระดับสูงของรัฐบาลและการทุจริตต่ำ, ความมีเสถียรภาพ อีกทั้งยังมีความก้าวหน้าทางสังคมอย่างแท้จริง โดยประเทศที่ปลอดภัยแห่งนี้ยังมีระบบการศึกษาระดับโลกและการดูแลสุขภาพขั้นสูง ชาวกีวีได้รับการดูแลสุขภาพฟรีจากรัฐ หรือมีค่าใช้จ่ายต่ำในกรณีเจ็บป่วย และเงินสนับสนุนจากรัฐบาลในกรณีว่างงาน เนื่องด้วยปัญหาอาชญกรรมที่น้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทำให้นักเรียนของประเทศนิวซีแลนด์สามารถโฟกัสในเรื่องเรียนเพียงอย่างเดียว และสนุกสนานกับกิจกรรมต่าง ๆ นอกห้องเรียนไปด้วย มาตรฐานการศึกษาระดับสากล ประเทศนิวซีแลนด์มีมาตรฐานในระดับสากล มหาวิทยาลัยทั้ง 8 แห่งของนิวซีแลนด์อยู่ในอันดับ Top 3% ของโลก อีกทั้งนิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับโดย The Economist, Intelligence Unit (Worldwide Educating for the Future Index), 2018 ให้เป็นอันดับที่ 1 ในการเตรียมความพร้อมนักเรียนสู่อนาคต ด้วยความสามารถในการปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้เหมาะกับภาคอุตสาหกรรมและสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ความสามารถของครูและบุคคลากร นโยบายภาครัฐ ความร่วมมือร่วมใจกันของรัฐบาลและภาคเอกชน ความสามารถในการให้คำปรึกษาถึงอาชีพในอนาคตตั้งแต่ในระดับโรงเรียน และความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่แตกต่างแต่อยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว การต้อนรับอย่างอบอุ่น นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากกว่า 100 เชื้อชาติทั่วโลก ชาวนิวซีแลนด์ล้วนเป็นมิตรและพร้อมต้อนรับนักเรียนต่างชาติด้วยความอบอุ่นและความเข้าใจ ตามคำกล่าวของชาวเมารีที่ว่า “Manaakitanga” แปลว่า การเคารพและดูแลผู้ที่อยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจ มีน้ำใจ เอื้ออาทรและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เรียนรู้จากการเรียนและการเล่น ประเทศนิวซีแลนด์ไม่ได้เน้นเฉพาะในด้านของการเรียนเพียงเท่านั้น การเรียนเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของการเรียนในห้องเรียนและการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ซึ่งได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่า เป็นการเรียนที่ดีที่สุดในโลก Study Life Balance โดยนักเรียนสามารถเลือกเรียนในเมืองชนบทที่สวยงามของนิวซีแลนด์ ที่ตั้งไม่ไกลจากเมืองมากนัก หากต้องการช้อปปิ้งหรือสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ก็สามารถเดินทางไปในเมืองใหญ่ได้ไม่ยาก สันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่สงบสุขอันดับ 2 ของโลก (อ้างอิงจาก Global Peace Index,2018) การเรียนในประเทศนิวซีแลนด์นักเรียนจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบ การเมืองที่มีเสถียรภาพและยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทุจริตคอรัปชั่นน้อยที่สุดในโลกอีกด้วย อันดับที่ 5 ประเทศแคนาดา ประเทศแคนาดาจัดได้ว่าเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก หลาย ๆ สถาบันในแคนาดามีชื่อเสียง มีคุณภาพในด้านการเรียนการสอนสูง มีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ใบปริญญาหรือ certificate ต่าง ๆ จากสถาบันและมหาวิทยาลัยในประเทศแคนาดาจึงเป็นตัวการันตีได้ว่าได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ นักศึกษาที่จบจากประเทศแคนาดาจึงมีโอกาสดีที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มาตรฐานการสอนของครู – อาจารย์ หนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศแคนาดาประสบความสำเร็จทางด้านการศึกษาก็คือความสามารถของตัวอาจารย์ผู้สอนที่ให้ความรู้กับนักเรียน ผู้ที่จะมาทำอาชีพครูผู้สอนที่แคนาดาได้ต้องผ่านการคัดกรองมาเป็นอย่างดี โดยแต่ละเมืองจะมีรูปแบบการประเมินผลของตนเอง เช่น การวัดผลที่ผู้สอนต้องผ่านการประเมินทั้งด้านความรู้ในการสอนสาขาวิชานั้น การสอนในภาคปฏิบัติและการปรับตัวกับสังคมแห่งการเรียนรู้ และการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมพร้อมพัฒนาศาสตร์ความรู้ของตนในฐานะของผู้สอน เป็นต้น อาจารย์ของเมืองนั้นจะต้องผ่านหลักสูตรที่กำหนดโดยก่อนเพื่อให้ได้ใบประกาศนียบัตรเพื่อใช้แสดงตนเป็นผู้สอนของเมืองนั้น สถาบันการศึกษาของประเทศแคนาดาจึงขึ้นชื่อในการรักษามาตรฐานคุณภาพการศึกษา เพราะแต่ละสถาบันจะไม่รับอาจารย์ที่ไม่ผ่านการรับรองจากหลักสูตรผู้สอนในประเทศมาเป็นอาจารย์ของสถาบัน และแต่ละเมืองจะมีความเคร่งครัดที่ต่างกันไป เพราะอาจารย์พูดสอนต้องสอบประเมินผลใหม่เมื่อจะย้ายไปสอนในอีกเมือง หนึ่งในระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก แคนาดาหนึ่งในประเทศที่ได้สร้างชื่อเสียงด้านการศึกษาจากการวัดผลในโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment) หรือ PISA ได้จัดให้แคนาดาอยู่ในกลุ่มที่ 10 ประเทศที่เยาวชนมีผลการเรียนเป็นเลิศ เพราะทางรัฐบาลของประเทศแคนาดาให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษามาก มาตรฐานการศึกษาของแคนาดาเป็นที่ยอมรับในระดับโลก นักศึกษาต่างชาติที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยของแคนาดา จึงประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในหน้าที่การงานจากมาตรฐานการศึกษาที่สูงพร้อมประสบการณ์มากมายที่ได้ฝึกฝนในระหว่างนั้น ระบบการเรียนสองภาษา ประเทศแคนาดามีระบบการเรียนการสอนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยผู้เรียนจะต้องเข้าเรียนในชั้นเรียนด้วยภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก และเข้าเรียนในภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่สอง เพราะประเทศแคนาดามี 2 ภาษาราชการ นักเรียนต่างชาติที่เข้าระบบการศึกษาของแคนาดาจึงมีทางเลือกในการเรียนต่อที่จะได้ฝึกทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 59% และมีภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 23% นอกจากนั้นกว่า 18% ของประชากรในแคนาดามีมากกว่าหนึ่งภาษาแม่ ขึ้นอยู่กับประเทศสัญชาติเดิมของผู้อพยพที่ได้เดินทางเข้าไปยังประเทศแคนาดา ภาษาอื่นที่เป็นที่นิยมในประเทศแคนาดา ได้แก่ ภาษาจีน ภาษาสเปน ภาษาอารบิก และ ภาษาตากาล็อก เป็นต้น อันดับที่ 6 ประเทศออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลียถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติหลาย ๆ คน ด้วยเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง สิทธิ์การทำงานสำหรับผู้จบการศึกษาใหม่มีมาก ชีวิตความเป็นอยู่สบาย และระบบการ ศึกษาคุณภาพสูง จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเศรษฐกิจของออสเตรเลียยังคงมีความแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยมีอัตราการว่างงานและเงินเฟ้อต่ำ จากเมืองที่น่าอยู่ที่สุด 10 อันดับแรกของโลก อยู่ในออสเตรเลียถึง 4 เมือง คือเมลเบิร์นอันดับหนึ่ง! ส่วนอีกสามเมืองได้แก่ แอดิเลด ซิดนีย์ และเพิร์ท โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ เสถียรภาพ การดูแลสุขภาพ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษา เน้นการเรียนรู้แบบ Real-world Learning ผลการสำรวจงานวิจัยยืนยันว่าผลการเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้นและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ระบบการเรียนของออสเตรเลียมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพสูงประกอบกับการศึกษาที่เน้นการเรียนรู้ในโลกของความเป็นจริงมากขึ้น โดยเน้นการเรียนแบบภาคปฏิบัติควบคู่กับความรู้เชิงทฤษฎีเพื่อให้ผู้เรียนได้นำความรู้ไปใช้ได้จริงถือเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนให้สอดคล้องกับการทำงานในภาคอุตสาหกรรมไปจนถึงการประกอบอาชีพในอนาคต มาตรฐานคุณภาพแบบขั้นสูง ออสเตรเลียมีหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบและคุณภาพระดับประเทศสำหรับการศึกษาชั้นสูง – Tertiary Education Quality and Standards Agency (TEQSA) ก่อตั้งขึ้นโดยหน่วยรัฐบาลออสเตรเลียเพื่อควบคุมคุณภาพและกำกับดูแลสถานศึกษาชั้นสูงที่เป็นมหาวิทยาลัยและที่ไม่ใช่มหาวิทยาลัย โดยมีชุดมาตรฐานที่พัฒนาขึ้นโดยหน่วยงานอิสระ Higher Education Standards Panel นอกจากนี้ กฎหมาย Education Services for Overseas Student (ESOS) ยังคุ้มครอง สวัสดิภาพของนักเรียนต่างชาติ คุณภาพประสบการณ์การศึกษาของนักเรียน รวมถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน อีกด้วย LGBTQ+ friendly มีความหลากหลายทางเพศ นอกจากความหลากหลายทางวัฒนธรรม ออสเตรเลียยังให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศสภาพ ถือเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ค่อนข้างยอมรับความหลากหลายทางเพศอย่างชัดเจน โดยมีกฎหมายสนับสนุนสิทธิเสรีภาพและความหลากหลายทางเพศ อาทิเช่น การยอมรับการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน (Same-Sax Marraige) ที่ประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2017 รวมถึงการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมโดยเพศเดียวกันก็ถูกรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ที่ออสเตรเลียมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายทั้งการเดินขบวน การเฉลิมฉลอง การจัดประกวด อีเวนท์ เพื่อเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือและผลักดันชาว LGBTQ+ ในสังคมอย่างต่อเนื่อง อันดับที่ 7 ประเทศเยอรมณี เยอรมนีอีกหนึ่งประเทศที่กำลังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเรียนต่างชาติ มีประชากรนักเรียน นักศึกษาต่างชาติจำนวนมากเป็นอันดับสามรองจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ระบบการศึกษาที่สูงขึ้นของเยอรมนีถือเป็นอีกหนึ่งในระบบที่ดีที่สุดของโลก มหาวิทยาลัยหลายแห่งติดอันดับหนึ่งใน 100 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก นอกจากทักษะภาษาที่จะได้เพิ่มมาแล้ว ยังทำให้ได้รู้จักเพื่อน ๆ ต่างชาติ ได้เปิดมุมมองเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง รวมถึงอิทธิพลของภาษา ที่ส่งผลต่อความคิด ทัศนคติ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เป็นการได้ทั้ง ปริญญาจากมหาวิทยาลัย และปริญญาทางการเรียนรู้โลกใหม่ ในการเปิดประสบการณ์ และโลกที่กว้างขึ้น ทั้งภาษา วัฒนธรรม สังคม เพื่อน และการใช้ชีวิตอีกด้วย โอกาสทางการศึกษา (ค่าเล่าเรียนไม่แพงสำหรับการศึกษาต่อ) การศึกษาในประเทศเยอรมันนับได้ว่ามีมาตรฐานที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ที่สำคัญค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยในประเทศเยอรมนีก็ยังไม่แพง (หรือในบางรัฐยังมีค่าเทอมที่ฟรีอยู่) เมื่อเทียบกับในประเทศอังกฤษหรือสหรัฐอเมริกา ทำให้ค่าใช้จ่ายหลักจริง ๆ ในการเรียนตกอยู่ที่ค่าเช่าบ้านและค่ากินเท่านั้น การเรียนภาษาเยอรมันเพื่อเตรียมตัวเรียนต่อนั้นจึงนับเป็นการลงทุนทางการศึกษาที่คุ้มค่า นับว่าหลังเรียนจบมีตลาดแรงงานที่ขาดแคลนแรงงานให้หางานทำต่อ จึงนับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากเลยทีเดียว ภาษาเยอรมันมีคุณค่าทางวิชาการ ภาษาเยอรมันนับเป็นภาษาที่มีความสำคัญอย่างมากในวงการวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม การบริหารและในวงการต่าง ๆ เพราะประเทศเยอรมันเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของอิทธิพลนวัตกรรมการค้นคว้าวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ จนทำให้มีบริษัทเยอรมันขนาดใหญ่จำนวนมากสามารถขยายกิจการไปได้ทั่วโลก และนอกจากงานวิจัยต่าง ๆ หรือหนังสือทางวิชาการแล้ว ยังมีอีกหลายบทความหรือหลายการวิจัยที่สามารถพบได้ในภาษาเยอรมันเท่านั้น นอกจากนี้การศึกษาต่อที่เยอรมันก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะคุณภาพของมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก และค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อที่น้อยมากเรียกได้ว่าแทบเรียนฟรี และยังมีโอกาสดี ๆ อีกมากมายที่จะได้รับหลังจากที่จบการศึกษาที่เยอรมัน คุณภาพชีวิตดี สิ่งแวดล้อมหลากหลาย ชีวิตความเป็นอยู่ของนักเรียนต่างชาติในเยอรมันถูกรายล้อมไปด้วยวัฒนธรรม แสงเสียง ดนตรี ศิลปะที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง เช่น ตามเมืองใหญ่ ๆ ของเยอรมันอย่าง เแบร์ลิน มิวนิค ฮัมบวก จะมีทุกอย่างที่ตอบสนองความต้องการในใช้ชีวิตของนักเรียนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าอะไรที่น่าสนใจ ก็จะเจอคนที่สนใจสิ่งเดียวกัน หรือสถานที่ การรวมกลุ่มที่ตอบสนองความสนใจนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังหาทางเข้าร่วมได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น กีฬา การเมือง ประวิติศาสตร์ หรือศิลปะ รวมถึงวัฒนธรรมที่หลากหลาย เนื่องจากคอร์สเรียนต่าง ๆ ที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ มีค่าใช้จ่ายที่ประหยัด ทำให้นักเรียนจากทั่วโลกหลั่งไหลมาอยู่ที่นี่ อันดับที่ 8 ประเทศฟินแลนด์ ระบบการศึกษาของประเทศ ฟินแลนด์ เน้นที่การเรียนรู้ผ่านการ “เล่น” เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ มากกว่าการเรียนแบบท่องจำและนำไปสอบ เพราะเชื่อว่าการเรียนการสอนแบบนี้จะทำให้นักเรียนเรียนรู้ได้ดีจากการลงมือทำ มากกว่าการท่องจำข้อความที่ไม่จำเป็นจากหนังสือ และจะทำให้เด็กเกิดการพัฒนามากกว่าการแข่งขันกัน แทบจะไม่ได้ให้การบ้านเด็ก ๆ เพราะให้ความสำคัญนอกห้องเรียนมากกว่า นอกจากนี้จำนวนชั่วโมงเรียนก็น้อยลง หากเทียบกับนักเรียนจากส่วนอื่น ๆ ของโลก โดยเฉลี่ยเพียงวันละ 3 ชั่วโมง 45 นาทีเท่านั้น เพราะต้องการสนับสนุนให้นักเรียนให้มีชีวิตนอกโรงเรียน ได้ “เรียนรู้” มากกว่า “เรียน” ดังนั้น การได้มีสังคม มีกิจกรรม หรือสนุกกับกีฬา จึงเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ที่ดีที่สุด เป็นที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุด จากผลการสำรวจพบว่าประเทศฟินแลนด์ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพชีวิต ความมั่นคงของภาพรวม และการศึกษาอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเป็นประเทศที่มีความสุขเป็นอันดับสองของโลก ผลการวัดระดับ Programme for International Student Assessment (PISA) ของนักเรียนชาวฟินแลนด์ก็อยู่ในระดับดีมาตลอด ไม่ได้มีเพียงคุณภาพชีวิตและการศึกษาที่ดีที่ชาวฟินแลนด์ภาคภูมิใจเท่านั้น ประเทศฟินแลนด์ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่มีนวัตกรรมที่มีอิทธิพลในระดับโลกสูงและมีความเป็นมิตรต่อธรรมชาติ ด้วยคะแนนที่อยู่ในระดับสูงเหล่านี้ จึงไม่แปลกใจที่ฟินแลนด์จะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลก บรรยากาศนานาชาติ กระแสโลกาภิวัฒน์ที่กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ นักเรียนต่างชาติสามารถเข้าไปทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในบริษัทของชาวฟินแลนด์ที่ต้องการขยายตลาดออกไปยังต่างประเทศ ประเทศฟินแลนด์ยังมีความต้องการผู้ทำงานสายสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังคาดการณ์ว่าประเทศฟินแลนด์จะเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานเมื่อประชากรกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ที่เกิดหลังสงครามโลกเกษียณ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะไปเรียนต่อและบุกเบิกการทำงานต่อหลังเรียนจบ ฟินแลนด์ยังคงเป็นประเทศที่ยอดเยี่ยมสำหรับการไปเรียน ทำงาน และสร้างครอบครัวอีกด้วย ไม่มีการสอบวัดผลแบบ Standardized Test ระบบการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ไม่มีการทดสอบเพื่อวัดผล เพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้ผลสอบเพื่อขึ้นระดับชั้นที่สูงขึ้นหรือแข่งขันกัน เพราะเชื่อว่า การทำแบบนั้น จะทำให้นักเรียนมุ่งเน้นเรื่องเรียนเพื่อสอบเพียงอย่างเดียว ไม่ได้เน้นที่จะเรียนรู้อย่างแท้จริง อันดับที่ 9 ประเทศอินเดีย ประเทศอินเดีย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เหมาะกับการไปเรียนต่อมากที่สุด แต่คนไทยส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยจะนึกถึงกันสักเท่าไหร่ เป็นอีกหนึ่งในประเทศที่มีสถาบันทางการศึกษาที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับให้เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากอเมริกา และ จีน จึงมีหลักสูตรที่หลากหลายทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ โดยมีหลักสูตรยอดนิยมของนักเรียนชาวต่างชาติ เช่น วิศวกรรมศาสตร์ บริหารธุรกิจ การแพทย์ และศิลปศาสตร์ นอกจากนี้ อินเดียยังขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์อันดับต้น ๆ ของโลก การผสมผสานด้านการศึกษา การศึกษาแบบอินเดียได้รับอิทธิพลจากชาวอังกฤษผสมผสานกับปรัชญาดั้งเดิมแบบฮินดู พุทธ มุสลิมและแบบเปอร์เซียเข้าไว้ด้วยกัน โดยถูกถ่ายทอดจากอาจารย์ผ่านความเป็น กูรู จึงไม่แปลกนักที่ศิษย์เก่าต่างชาติอินเดียจำนวนมากจะได้รับการยอมรับ อาทิ อองซาน ซูจี (ผู้นำประชาธิปไตยของพม่า จบด้านรัฐศาสตร์จากเดลี) H.E. Le Luong Minh (เลขาธิการอาเซียนคนปัจจุบันชาวเวียดนาม จบโทจาก JNU) เป็นต้น รวมถึงนักเรียนจากมหาวิทยาลัยในอินเดีย ต่างได้รับการตอบรับเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วโลก .. นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ชาวอินเดียหลายท่านยังได้รับการยอมรับในระดับโลก เช่น Partha Chatterjee จากมหาวิทยาลัยกัลกัตตา นักวิชาการแนวหน้าด้าน Subaltern Studies อีกด้วย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ประเทศอินเดียถือเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาการคอมพิวเตอร์อันดับต้นของโลก ไฮเดอราบาด หรืออีกชี่อคือ Cyberabad ถูกขนามนามให้เป็นซิลลิคอนวัลเลย์ของเอเชียเมืองบังกาลอว์เป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์มือฉมังของโลก นอกจากนี้อินเดียยังสามารถส่งกระสวยอวกาศไปยังดาวอังคารได้เป็นผลสำเร็จ รวมถึงขีปนาวุธอัคนีที่มีพิสัยไกลถึง 5,000 กิโลเมตร เล็งไปที่จีนก็สามารถยิงไปยังทุกเมืองใหญ่ของชาวจีน ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของอินเดียย่อมเป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นดีสำหรับนักเรียนสายวิทยาศาสตร์ ประสบการณ์นอกห้องเรียน อินเดียประเทศแห่งอารยธรรมที่สำคัญของโลก มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น ทัชมาฮาล รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย ตั้งแต่ทะเลทรายไปจนถึงท้องทะเลอันงดงาม มีโอกาสได้เรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมที่มีความหลากหลายอยู่สูง รวมถึงได้ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ และเรียนรู้เรื่องราววัฒนธรรม อีกทั้งยังมีการพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวผ่อนคลายนอกสถานที่ มีประเพณี วัฒนธรรม วันหยุด ที่คล้ายกับของประเทศไทย ขณะที่นักศึกษาต่างชาติที่มาเรียนต่อมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่จะมีโฮสเทล อยู่ภายในมหาวิทยาลัย เหมาะสำหรับให้นักศึกษาได้พักอาศัยส่วนตัว อันดับที่ 10 ประเทศสิงคโปร์ สิงคโปร์ นิยามของคำว่า “ตะวันออกพบกับตะวันตก” ถือว่าเหมาะกับนักเรียนที่ชอบความแปลกใหม่ของวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เต็มไปด้วยการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัว ในส่วนของการศึกษา สิงค์โปร์ก็เป็นอีกหนึ่ง Destination ที่ผู้คนจากทั่วโลกให้ความสนใจเดินทางไปเรียนต่อ เพราะมีการมุ่งเน้นความรู้ทางวิชาการอย่างตรงจุดคือความรู้ในแต่ละระดับ ส่วนทักษะรอบด้าน คือ การพัฒนาทักษะอื่น ๆ จากการเข้าชมรม ซึ่งชาวสิงคโปร์จะเรียกว่า CCA ซึ่งมีความจริงจังในการพัฒนาทักษะแต่ละอย่างเป็นอย่างมากเพื่อเก็บให้เป็น Portfolio ได้ เช่น ชมรมกีฬา ชมรมประสานเสียง ก็จะมีการซ้อมในทุก ๆ อาทิตย์และพาไปแข่งขันอย่างจริงจัง เมืองในฝัน สิงคโปร์ข้นชื่อได้ว่า “เมืองในสวน หรือ City in the Garden” หากใครเคยไปสิงคโปร์จะเห็นว่าทุกตารางนิ้วของประเทศเล็ก ๆ เต็มด้วยพื้นที่สีเขียวสบายตา คงไม่ต้องแปลกใจเพราะนี่คือวิสัยทัศน์ที่ทำให้ชาวต่างชาติทั้งอาเซียน และทวีปอื่น ๆ อยากมาใช้ชีวิตที่นี่ จะได้พบกับคนมากหน้าหลายตา หลายชนชาติ ส่งผลให้เป็นเมืองที่นอกจะรวยในพื้นที่สีเขียว ยังรวยวัฒนธรรม นอกจากนี้สิงค์โปร์ยังได้รับการยกย่องจาก The Economist Intelligence Unit ว่าเป็นอันดับ 1 ในด้าน Personal Security และ Infrastructure Security จึงสบายใจได้เลยว่า การเข้าไปเรียนในประเทศที่มีความปลอดภัยสูง ทำให้โฟกัสกับการเรียนและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยทางด้านร่างกายและทรัพย์สิน ระบบการศึกษายอดเยี่ยม ประเทศสิงคโปร์หนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดแห่งของโลก มีความหลากหลายทางหลักสูตรและมหาวิทยาลัยทั้งของภาครัฐและเอกชน ขณะเดียวกันยังมีสถาบันการศึกษาจำนวนมากที่เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ทางการศึกษากับมหาวิทยาลัยต่างชาติเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการศึกษาเพิ่มขึ้น อาทิ หลักสูตรการศึกษาข้ามพรมแดน Transnational Education. เป็นต้น โอกาสในการทำงาน เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการแข่งขันและเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ทำให้นักศึกษาที่เรียนจบมีโอกาสได้ฝึกงานหรือร่วมงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลก นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของบริษัทชั้นนำของโลกในเอเชีย อย่าง Google, Netflix, Microsoft ฯลฯ การขอวีซ่าทำงานในสิงคโปร์นายจ้างต้องทำเรื่องให้ก่อน แต่ข้อได้เปรียบของการมาเรียนในสิงคโปร์ก็คือจะมีโอกาสได้ฝึกงานก่อน (โดยใช้วีซ่าของนักเรียน) จากนั้นก็จะมีโอกาสต่อยอดเพื่อไปทำงานได้นั่นเอง ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นบางส่วนจากชาวชุมชน Eduzones จากโพล์ลการสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด และกลายเป็นประเทศยอดฮิตในแวดวงการศึกษาต่อของเหล่านักเรียนต่างชาติในหลายประเทศ ส่วนเหตุผลข้อต่อ ๆ ไปจะมีอะไรบ้าง อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของตัวเองภายใต้โพสต์นี้ แม้จะเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูงสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ แต่เชื่อว่าประสบการณ์ชีวิตที่จะได้รับกลับไปต้องมีค่ามากกว่าอย่างแน่นอน EZ Webmaster Related Posts 40 ปี ม.รังสิต ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ ชูหัวใจ คือ นักศึกษา เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ ซีเอ็มเอ็มยู เปิดผลวิจัยใหม่ถอดด้าม “การตลาดคนขี้เบื่อ” พร้อมเจาะ “พฤติกรรมขี้เบื่อคน 4 Gen” คลื่นลูกใหม่กระทบ “Brand Loyalty” โชว์เทคนิคช่วยแบรนด์ดึงคนเบื่อหวนภักดีต่อสินค้า – บริการ มศว ประกาศการปรับจำนวนการรับ TCAS รอบที่ 3 (Admission) เพิ่ม LEARN to EARN เพราะชีวิต คือการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด “สุรพรชัย ธรรมศิริ” ว่าที่นักกายอุปกรณ์ ที่ไม่หยุดพัฒนาตนเอง เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ Post navigation PREVIOUS Previous post: รองอธิการบดีสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา ร่วมแถลงข่าวการจัดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ในโอกาสเฉลิมฉลอง 100 ปีประสูติNEXT Next post: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา จัดพิธีถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการบริหารการพัฒนา แด่ พระอาจารย์จีนคณาณัติจีนพรต (เย็นงี้) ณ วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
ศูนย์สอบ ใครคิดว่าไม่สำคัญ บริติช เคานซิล นำชมศูนย์สอบ IELTS ที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมชู 7 เหตุผล ที่ทำไมใครๆ ก็เลือกสอบที่นี่ EZ WebmasterMay 10, 2024 ถ้าเปรียบวีซ่า เป็นใบเบิกทางสำหรับเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ผลสอบ IELTS ก็เปรียบได้กับใบเบิกทางในโลกแห่งการศึกษา เพราะไม่ว่าจะไปเรียนต่อหรือทำงานในต่างประเทศ ผลสอบ IELTS จะช่วยเบิกทางทำให้ทุกฝันเป็นจริงได้ หรือแม้แต่ถ้าอยากเรียน อยากทำงานในองค์กรชั้นนำในประเทศไทย หลายๆ แห่ง ก็ต้องใช้ผลสอบ IELTS ประกอบการสมัคร หรือถ้าหากไม่จำเป็นต้องใช้ การมีคะแนนสอบ IELTS ปังๆ ประดับ Resume หรือ Portfolio ก็จะช่วยเพิ่มแต้มต่อ เพิ่มความน่าสนใจ และได้เปรียบกว่าผู้ที่ไม่มีแน่นอน เพราะการสอบ IELTS เป็นมาตรฐานวัดระดับความรู้ความสามารถการใช้ภาษาอังกฤษระดับสากลที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับจากองค์กรและสถาบันการศึกษามากกว่า 11,500 แห่ง ในมากกว่า 140 ประเทศ และมีการสอบในปีที่ผ่านมามากกว่า… เอ็นไอเอ สานฝันเด็กไทยสู่เส้นทางนวัตกรในเวทีประกวด รางวัลนวัตกรรมแห่งประเทศไทย “TIA 2024” ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 1 แสนบาท EZ WebmasterMay 9, 2024 สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ และความร่วมมือพิเศษจาก Education New Zealand (ENZ) เชิญชวนนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย นิสิต นักศึกษา และอาชีวศึกษาอายุไม่เกิน 25 ปี ที่มีไอเดียสร้างผลงานนวัตกรรมและต้องการพัฒนาเพื่อส่งประกวดให้เป็นสุดยอดนวัตกรรมกับ “โครงการประกวดรางวัลนวัตกรรมแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 24 หรือ Thailand Innovation Awards (TIA2024)”… สสวท. พาทดลองใช้ระบบข้อสอบออนไลน์ PISA ล่าสุดเพิ่มโจทย์คณิตศาสตร์ 8 เรื่องฝึกทักษะ EZ WebmasterMay 9, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) นำเสนอข้อสอบ PISA ที่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่แล้วโดยเป็นลิขสิทธิ์ขององค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organisation for Economic Co-operation and Development หรือ OECD) ประกอบด้วยโจทย์วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ การอ่าน การแก้ปัญหาแบบร่วมมือ และ สมรรถนะการอยู่ในสังคมโลก ทดลองใช้งานได้ที่ระบบข้อสอบออนไลน์ PISA เว็บไซต์ https://pisaitems.ipst.ac.th ล่าสุดยังได้เพิ่มโจทย์คณิตศาสตร์จากการสอบ PISA 2022 จำนวน 8 เรื่อง ได้แก่ การซื้อรถยนต์ ยอดขายดีวีดี รถขนย้าย ระบบสุริยะ… นักศึกษา 40 ปี ม.รังสิต ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ ชูหัวใจ คือ นักศึกษา เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ tui sakrapeeMay 11, 2024 ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ให้เกียรติเป็นประธานงาน 40 ปี ม.รังสิต และในฐานะวันคล้ายวันเกิดท่าน ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2567 ณ ตึก 14 อาคารนันทนาการ… สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ EZ WebmasterMay 10, 2024 สำนักการเรียนรู้ตลอดชีวิตพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KLLC) ภายใต้สังกัดสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดโครงการ DEP หลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล เพื่อคนพิการ สร้างงาน สร้างอาชีพ” โดยมี ผศ.ดร.ทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร เป็นหัวหน้าโครงการ พร้อมด้วย รศ.ดร.จรสวรรณ โกยวานิช ผู้อำนวยการ KLLC, คุณหญิง ดร. สุมาลี อุทัยเฉลิม… ซีเอ็มเอ็มยู เปิดผลวิจัยใหม่ถอดด้าม “การตลาดคนขี้เบื่อ” พร้อมเจาะ “พฤติกรรมขี้เบื่อคน 4 Gen” คลื่นลูกใหม่กระทบ “Brand Loyalty” โชว์เทคนิคช่วยแบรนด์ดึงคนเบื่อหวนภักดีต่อสินค้า – บริการ EZ WebmasterMay 10, 2024 วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU ชวนจับตา “ตลาดคนขี้เบื่อ” เทรนด์ธุรกิจใหม่มาแรงที่มาพร้อมโอกาส เผยผลสำรวจคนไทยมากกว่า 50% เป็นคนขี้เบื่อ พบ Gen Z ขี้เบื่อมากที่สุด และ “ดูหนังหรือโทรทัศน์” เป็นกิจกรรมแก้เบื่อยอดนิยมของคนทุก Gen รวมทั้งแนะกลยุทธ์สุดปังพิชิตใจคนขี้เบื่อ “BEAT” : Be specific, Extremely appealing, Amazed emotion, Too fun… LEARN to EARN เพราะชีวิต คือการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด “สุรพรชัย ธรรมศิริ” ว่าที่นักกายอุปกรณ์ ที่ไม่หยุดพัฒนาตนเอง เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ EZ WebmasterMay 10, 2024 เมื่อการเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดให้อยู่เพียงแค่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่เรียกว่าห้องเรียนอีกต่อไป แต่เป็นการเรียนรู้ที่ไม่รู้จบ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา หรือที่เรียกว่า Lifelong learning ที่จะทำให้ผู้เรียนรู้ นำประสบการณ์นั้นมาพัฒนาตัวเองได้มากขึ้น เมื่อโอกาสเปิดให้ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียมกันแล้ว ก็อยู่ที่แต่ละคนว่าจะค้นหาความเป็นตัวเองเพื่อจะไขว่คว้าหาความรู้เพื่อให้ตัวเอง “อยู่รอด” ได้ในโลกปัจจุบันที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรวดเร็วจนแทบจะตามกันไม่ทัน เหมือนอย่าง สิงห์ – สุรพรชัย… ทุนดีดี ขยายเวลารับทุนเรียนต่อป.โท ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว สหพันธรัฐรัสเซีย tui sakrapeeApril 24, 2024 ประกาศขยายเวลารับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว (Skolkovo Institute of Science and Technology: Skoltech) สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024) หลักสูตรภาษาอังกฤษ ตามที่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ… ม.เทคโนโลยีและการออกแบบแห่งสิงคโปร์ ให้ทุนคนไทยไปศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี tui sakrapeeApril 22, 2024 ประกาศ รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบ แห่งสิงคโปร์ (Singapore University of Technology and Design : SUTD) สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024)… รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH… ครู-อาจารย์ สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ EZ WebmasterMay 10, 2024 สำนักการเรียนรู้ตลอดชีวิตพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KLLC) ภายใต้สังกัดสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดโครงการ DEP หลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล เพื่อคนพิการ สร้างงาน สร้างอาชีพ” โดยมี ผศ.ดร.ทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร เป็นหัวหน้าโครงการ พร้อมด้วย รศ.ดร.จรสวรรณ โกยวานิช ผู้อำนวยการ KLLC, คุณหญิง ดร. สุมาลี อุทัยเฉลิม… สสวท. อบรมครูศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ชูสะเต็มศึกษานำร่องหนุนครูขยายผลสู่โรงเรียนทั่วประเทศ EZ WebmasterMay 10, 2024 รองศาสตราจารย์ ดร.ธีระเดช เจียรสุขสกุล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ สำหรับศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ประจำปี พ.ศ. 2567 พร้อมด้วย ดร.พรชัย อินทร์ฉาย รองผู้อำนวยการ สสวท. โดยมีโรงเรียนศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 30 ศูนย์จากทั่วประเทศและโรงเรียนสังเกตการณ์ 1 โรงเรียน จำนวนครู 124 คน ร่วมในการอบรม เพื่อนำหลักสูตรไปขยายผลให้ครูและโรงเรียนในระยะต่อไป ณ โรงแรมกราฟ… คณะแพทยศาสตร์ สจล. เปิดรับสมัครนักศึกษา ป.โท สาขาการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ) EZ WebmasterMay 9, 2024 คณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ขอเชิญผู้สนใจสมัครเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต(ปริญญาโท) สาขาการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ) ประจำปีการศึกษา 2567 ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และเศรษฐกิจสังคมในปัจจุบัน รวมทั้งความรู้และทักษะที่ช่วยให้ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถเป็นผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีด้านสุขภาพได้อย่างแท้จริง สำหรับคุณสมบัติผู้สมัครจะต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือเรียนในปีสุดท้ายของหลักสูตรปริญญาตรี สมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 15 พฤษภาคม 2567 ผ่านลงทะเบียนออนไลน์ที่ www.reg.kmitl.ac.th หรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://md.kmitl.ac.th/ การศึกษาไทยกำลังสิ้นหวัง ครูได้เงินเพิ่ม แต่PISA-โอเน็ต ‘ต่ำ’ EZ WebmasterMay 8, 2024 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม นายสมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า จากผลคะแนนสอบPISA และผลคะแนนสอบโอเน็ต ที่ร่วงเป็นราวหรือไม่เกิน 50% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องกระบวนการเรียนรู้เราไม่ได้แก้ไขอะไรเลย ซึ่งสวนทางกับเรื่องที่ครูได้รับเงินที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าตอบแทน ค่าตำแหน่ง วิทยฐานะที่สูงขึ้นตามลำดับ แต่คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของเด็กไม่ดีขึ้น… กิจกรรม ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน EZ WebmasterMay 3, 2024 ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี! ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ทาง www.vec.go.th… ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search EZ Webmaster April 24, 2023 EZ Webmaster April 24, 2023 สรุปความคิดเห็น 10 อันดับ! ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จัดอันดับ! ความคิดเห็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จากชุมชนชาว Eduzones สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ชุมชน Eduzones ของเรา ได้รวบรวมผลสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด? จาก โพล์ลการสำรวจความคิดเห็นด้านล่างนี้ https://www.facebook.com/interscholarship/posts/pfbid02on1d5jCx3N5E9uCkMLKMwWuDrHz1dZqdW2edy75RDnpRfiMDf3QTtX1sev5fdxSzl โดยเราได้รวบรวมผลจากการแสดงความคิดเห็นและได้จัดอันดับหมวดหมู่ออกเป็น 10 อันดับ ดังนี้ อันดับที่ 1 ประเทศสหรัฐอเมริกา ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นตัวเลือกแรกที่ขึ้นมาเมื่อคนต้องการไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ เพราะการศึกษาที่มีคุณภาพ และ เป็นที่นิยมสูงมากในหมู่นักเรียน ด้วยวิธีการสอน ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น การศึกษาสาย STEM คุณภาพที่มีอิสระ ที่จะเรียนในสาขาวิชาต่าง ๆ ในระดับปริญญาตรี ก่อนที่จะลง เรียนวิชาเอก นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกในการทำวิชาเอกสองครั้ง (รับปริญญาตรีในสองวิชาในเวลาเดียวกัน) ในระดับสูงกว่าปริญญาตรี และสามารถเลือกชั้นเรียนเพื่อให้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสาขาวิชาที่สนใจได้ มหาวิทยาลัยได้รับการยอมรับในระดับสากล อเมริกามีมหาวิทยาลัยมากกว่า 4,000 แห่ง ที่ เปิดสอน ระดับปริญญา ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เพราะความพร้อมในการเรียน ไม่ว่าจะเป็นความพร้อม ในด้านอุปกรณ์ที่ครบครัน และ ทันสมัย พร้อมด้วย พนักงานที่มีประสบการณ์มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ยังเป็น ผู้นำระดับโลก ด้าน การวิจัย เนื่องจากรัฐบาลใช้งบประมาณ จำนวนมากในการคิดค้นวิจัยนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมา การพัฒนาทักษะที่หลากหลาย เนื่องจากวิธีการสอนที่ยืดหยุ่นของประเทศ จะมีโอกาสได้พัฒนาทักษะความสามารถข้ามสาขาวิชาซึ่งจะช่วยให้โดดเด่นกว่าเพื่อน มหาวิทยาลัยอเมริกาจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถเริ่มเตรียมตัวสำหรับงานในฝันได้ตั้งแต่ปริญญาตรี และเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำในเกือบทุกสาขา เช่น เทคโนโลยี สื่อ และ ศิลปะ จนมีโอกาสมากมายเมื่อเริ่มมองหาการฝึกงานงานพาร์ทไทม์หรือประสบการณ์การทำงานหลังเรียนจบ ระบบการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติ อเมริกาสนับสนุนให้ความช่วยเหลือนักเรียนต่างชาติได้ดี จากมหาวิทยาลัยในอเมริกาจะช่วยเหลือนักศึกษาต่างชาติ ตั้งแต่ ปฐมนิเทศจนถึง สำเร็จการศึกษา สามารถ ไปที่สำนักงานนักศึกษาต่างชาติ ของ มหาวิทยาลัย ได้ตลอดเวลา เพื่อขอคำแนะนำที่ต้องการ มหาวิทยาลัยหลายแห่งยังให้ความช่วยเหลือโดยจัดโปรแกรม เพื่อ ช่วยนักศึกษาต่างชาติ ในการเขียนเชิงวิชาการ และ ปรับตัวเข้ากับระบบการศึกษาใหม่ ข้อนี้ทำให้หลาย ๆ คน ตัดสินใจได้ว่าทำไมต้องเป็นอเมริกา อันดับที่ 2 ประเทศอังกฤษ หากพูดถึงการเรียนต่อที่ต่างประเทศเชื่อว่า ‘อังกฤษ’ คือ Top of Mind ที่อยู่อันดับต้น ๆ ในใจของทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กไทยที่อยากไปศึกษาต่อ เพราะประเทศอังกฤษเป็นที่นิยม จากสถานที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมที่มีชื่อเสียงและได้รับการันตีว่าดีที่สุดในโลก รวมทั้งยังเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ได้เคยผลิตนักวิทยาศาสตร์ระดับตำนานในอดีต ไม่ว่าจะเป็น เซอร์ไอแซก นิวตัน นักฟิสิกส์ หรือ สตีเฟน ฮอว์คิง อัจฉริยะทางฟิสิกส์ พ่อแม่-ผู้ปกครอง จึงได้วางใจและคาดหวังว่าอังกฤษ จะมอบคุณภาพอันดีเยี่ยมเหล่านั้นให้แก่บุตร-หลาน ไม่เพียงแต่ด้านวิชาการ แต่ยังรวมไปถึง ความเป็นเลิศด้านดนตรี ศิลปะ และการเขียนอีกด้วย หลักสูตรอันเป็นประตูสู่ระดับ World-Class โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในประเทศอังกฤษ เสนอหลักสูตรที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพระดับสากล ที่ถือเป็นใบเบิกทางชั้นดีสู่การต่อยอดการศึกษาขั้นสูงและการทำงานยังประเทศชั้นนำอื่น ๆ ซึ่งอันได้แก่ IGCSE, International Baccalaureate Diploma, A-Levels ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้ เป็นสากลและได้รับการยอมรับจากประเทศอื่น ๆ เรียกได้ว่า เป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงให้แก่บุตร-หลานได้มากเลยทีเดียว ได้ภาษาอังกฤษที่ดีจากต้นกำเนิด ภาษาอังกฤษถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะเป็นภาษาที่คนใช้กันทั่วโลก สามารถใช้สื่อสารได้ในหลายๆ ประเทศ และใช้ต่อยอดในหน้าที่การงานในอนาคตได้ ซึ่งการไปเรียนที่ต่างประเทศ (โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ของประเทศอังกฤษ) มีข้อดีคือ เรื่องสำเนียงที่ถูกต้องแบบชาวบริติช และยังมีคอนเนคชั่นกับชาวต่างชาติ ปฎิเสธไม่ได้ว่าการไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษมีข้อดีที่เด่นชัดที่สุดคือเรื่องของภาษา ที่เป็นต้นตำรับ เชื่อได้ว่าทักษะภาษาอังกฤษจะดีขึ้นมากหากได้ลองไปเรียน หรือใช้ชีวิตอยู่ในประเทศต้นกำเนิด แนวทางการพัฒนาตัวเองที่หาไม่ได้จากที่อื่น เหตุผลอีกหนึ่งประการ ที่ถือเป็นสิ่งสำคัญ ในการศึกษาต่อประเทศอังกฤษ นั่นก็คือ แนวทางการพัฒนาตนเองที่เด็กจะได้รับ โรงเรียนมัธยมในอังกฤษ มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาศักยภาพนักเรียนของพวกเขา เพื่อพร้อมก้าวสู่โลกใบใหญ่และการเดินทางต่อในระดับมหาวิทยาลัย นอกจากนั้น สถาบันการศึกษาในอังกฤษยังสนับสนุนและแนะนำอย่างเต็มที่ ให้นักเรียนมีความมั่นใจ พร้อมจิตใจที่เปิดกว้าง และเปิดรับโอกาสที่ดีในอนาคต อันดับที่ 3 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หากจะบอกว่าสวิตเซอร์แลนด์ คือหนึ่งในประเทศที่คนไทยชื่นชอบมากที่สุดคงไม่แปลกนัก สังเกตได้จากคนไทยจำนวนมากที่ไปตั้งรกรากอยู่ที่นั่น รวมถึงเป็นดินแดนแห่งความสุขที่สามารถพบเจอรอยยิ้มของผู้คนได้แทบทุกเส้นทางบนถนน การมีโอกาสได้เรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์ จึงเป็นสิ่งที่นักเรียนไทยจำนวนมากใฝ่ฝันเอาไว้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากหากมีความตั้งใจ แม้ไม่ใช่ประเทศใหญ่ในยุโรป แต่เชื่อว่าความรู้ที่ได้บวกกับประสบการณ์ดี ๆ ในชีวิตมันช่างคุ้มค่ากับการเดินทางไปอย่างยิ่ง มหาวิทยาลัยชั้นนำ สวิสเซอร์แลนด์มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอยู่หลายแห่ง และมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประเทศสองแห่ง ได้แก่ EPFL และ ETH Zurich ยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 30 มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ใน The Times Higher Education (THE) World University Rankings นักศึกษามีความพึงพอใจกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูงในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศและส่วนใหญ่จะชื่นชอบคุณภาพการสอนในแต่ละหลักสูตรเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปแล้ว มหาวิทยาลัยของสวิสเซอร์แลนด์มีชื่อเสียงด้านการเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นชาวสวิสหรือนักศึกษาต่างชาติที่เรียนในสถาบันที่สวิสเซอร์แลนด์ ก็จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนายจ้าง ระบบการศึกษาคุณภาพระดับโลก ระบบการศึกษาของสวิตเซอร์แลนด์เป็นอีกหนึ่งอย่างที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้าน “การโรงแรม” เนื่องจากประเทศแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกันอย่างมากมาย ดังนั้นธุรกิจด้านโรงแรมจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจและน่าเรียน ทำให้มีสถาบันการศึกษาเปิดสอนทางด้านโรงแรมโดยเฉพาะ และยังถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของวิชาการด้านการโรงแรม เพราะมีหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ และยังมีสอนภาษาที่ 3 ได้แก่ เยอรมัน และ ฝรั่งเศส ที่เป็นหนึ่งภาษาทางการของสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับการเรียนการสอนการโรงแรมของสวิตเซอร์แลนด์ เน้นทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ โดยมีการฝึกงานจริงและยังได้รับค่าจ้าง โดยที่นักเรียนจะไม่ได้ถูกส่งไปฝึกงานเฉพาะในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น แต่ยังถูกส่งไปฝึกงานที่ต่างประเทศด้วย โอกาสแห่งการเรียนรู้ภาษา สวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นสถานที่ที่ดีในการเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เป็นการช่วยเพิ่มตัวเลือกด้านอาชีพหลังจบการศึกษาได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเยอรมนีมีฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปซึ่งเต็มไปด้วยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ได้แก่ การธนาคาร การผลิต และมีโปรแกรมการฝึกอบรมนักศึกษาฝึกงานที่ยอดเยี่ยม ภาษาฝรั่งเศสยังเป็นอีกหนึ่งภาษาที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพในธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งภาษาฝรั่งเศสนั้นเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นอันดับสองในสหภาพยุโรป และเป็นภาษาราชการของ 29 ประเทศทั่วโลก เช่น แคนาดา เบลเยียม และมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตในแอฟริกา เช่น แทนซาเนีย รวันดา และโมซัมบิก เป็นต้น อันดับที่ 4 ประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ได้รับการจัดอันดับว่าเป็น ประเทศที่มีความสงบสุขมากที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 2 โดยพิจารณาจากรายได้ การศึกษา และระดับของการรวมกลุ่มในระดับภูมิภาค, ความโปร่งใสในระดับสูงของรัฐบาลและการทุจริตต่ำ, ความมีเสถียรภาพ อีกทั้งยังมีความก้าวหน้าทางสังคมอย่างแท้จริง โดยประเทศที่ปลอดภัยแห่งนี้ยังมีระบบการศึกษาระดับโลกและการดูแลสุขภาพขั้นสูง ชาวกีวีได้รับการดูแลสุขภาพฟรีจากรัฐ หรือมีค่าใช้จ่ายต่ำในกรณีเจ็บป่วย และเงินสนับสนุนจากรัฐบาลในกรณีว่างงาน เนื่องด้วยปัญหาอาชญกรรมที่น้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทำให้นักเรียนของประเทศนิวซีแลนด์สามารถโฟกัสในเรื่องเรียนเพียงอย่างเดียว และสนุกสนานกับกิจกรรมต่าง ๆ นอกห้องเรียนไปด้วย มาตรฐานการศึกษาระดับสากล ประเทศนิวซีแลนด์มีมาตรฐานในระดับสากล มหาวิทยาลัยทั้ง 8 แห่งของนิวซีแลนด์อยู่ในอันดับ Top 3% ของโลก อีกทั้งนิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับโดย The Economist, Intelligence Unit (Worldwide Educating for the Future Index), 2018 ให้เป็นอันดับที่ 1 ในการเตรียมความพร้อมนักเรียนสู่อนาคต ด้วยความสามารถในการปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้เหมาะกับภาคอุตสาหกรรมและสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ความสามารถของครูและบุคคลากร นโยบายภาครัฐ ความร่วมมือร่วมใจกันของรัฐบาลและภาคเอกชน ความสามารถในการให้คำปรึกษาถึงอาชีพในอนาคตตั้งแต่ในระดับโรงเรียน และความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่แตกต่างแต่อยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว การต้อนรับอย่างอบอุ่น นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากกว่า 100 เชื้อชาติทั่วโลก ชาวนิวซีแลนด์ล้วนเป็นมิตรและพร้อมต้อนรับนักเรียนต่างชาติด้วยความอบอุ่นและความเข้าใจ ตามคำกล่าวของชาวเมารีที่ว่า “Manaakitanga” แปลว่า การเคารพและดูแลผู้ที่อยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจ มีน้ำใจ เอื้ออาทรและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เรียนรู้จากการเรียนและการเล่น ประเทศนิวซีแลนด์ไม่ได้เน้นเฉพาะในด้านของการเรียนเพียงเท่านั้น การเรียนเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของการเรียนในห้องเรียนและการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ซึ่งได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่า เป็นการเรียนที่ดีที่สุดในโลก Study Life Balance โดยนักเรียนสามารถเลือกเรียนในเมืองชนบทที่สวยงามของนิวซีแลนด์ ที่ตั้งไม่ไกลจากเมืองมากนัก หากต้องการช้อปปิ้งหรือสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ก็สามารถเดินทางไปในเมืองใหญ่ได้ไม่ยาก สันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่สงบสุขอันดับ 2 ของโลก (อ้างอิงจาก Global Peace Index,2018) การเรียนในประเทศนิวซีแลนด์นักเรียนจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบ การเมืองที่มีเสถียรภาพและยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทุจริตคอรัปชั่นน้อยที่สุดในโลกอีกด้วย อันดับที่ 5 ประเทศแคนาดา ประเทศแคนาดาจัดได้ว่าเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก หลาย ๆ สถาบันในแคนาดามีชื่อเสียง มีคุณภาพในด้านการเรียนการสอนสูง มีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ใบปริญญาหรือ certificate ต่าง ๆ จากสถาบันและมหาวิทยาลัยในประเทศแคนาดาจึงเป็นตัวการันตีได้ว่าได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ นักศึกษาที่จบจากประเทศแคนาดาจึงมีโอกาสดีที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มาตรฐานการสอนของครู – อาจารย์ หนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศแคนาดาประสบความสำเร็จทางด้านการศึกษาก็คือความสามารถของตัวอาจารย์ผู้สอนที่ให้ความรู้กับนักเรียน ผู้ที่จะมาทำอาชีพครูผู้สอนที่แคนาดาได้ต้องผ่านการคัดกรองมาเป็นอย่างดี โดยแต่ละเมืองจะมีรูปแบบการประเมินผลของตนเอง เช่น การวัดผลที่ผู้สอนต้องผ่านการประเมินทั้งด้านความรู้ในการสอนสาขาวิชานั้น การสอนในภาคปฏิบัติและการปรับตัวกับสังคมแห่งการเรียนรู้ และการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมพร้อมพัฒนาศาสตร์ความรู้ของตนในฐานะของผู้สอน เป็นต้น อาจารย์ของเมืองนั้นจะต้องผ่านหลักสูตรที่กำหนดโดยก่อนเพื่อให้ได้ใบประกาศนียบัตรเพื่อใช้แสดงตนเป็นผู้สอนของเมืองนั้น สถาบันการศึกษาของประเทศแคนาดาจึงขึ้นชื่อในการรักษามาตรฐานคุณภาพการศึกษา เพราะแต่ละสถาบันจะไม่รับอาจารย์ที่ไม่ผ่านการรับรองจากหลักสูตรผู้สอนในประเทศมาเป็นอาจารย์ของสถาบัน และแต่ละเมืองจะมีความเคร่งครัดที่ต่างกันไป เพราะอาจารย์พูดสอนต้องสอบประเมินผลใหม่เมื่อจะย้ายไปสอนในอีกเมือง หนึ่งในระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก แคนาดาหนึ่งในประเทศที่ได้สร้างชื่อเสียงด้านการศึกษาจากการวัดผลในโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment) หรือ PISA ได้จัดให้แคนาดาอยู่ในกลุ่มที่ 10 ประเทศที่เยาวชนมีผลการเรียนเป็นเลิศ เพราะทางรัฐบาลของประเทศแคนาดาให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษามาก มาตรฐานการศึกษาของแคนาดาเป็นที่ยอมรับในระดับโลก นักศึกษาต่างชาติที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยของแคนาดา จึงประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในหน้าที่การงานจากมาตรฐานการศึกษาที่สูงพร้อมประสบการณ์มากมายที่ได้ฝึกฝนในระหว่างนั้น ระบบการเรียนสองภาษา ประเทศแคนาดามีระบบการเรียนการสอนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยผู้เรียนจะต้องเข้าเรียนในชั้นเรียนด้วยภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก และเข้าเรียนในภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่สอง เพราะประเทศแคนาดามี 2 ภาษาราชการ นักเรียนต่างชาติที่เข้าระบบการศึกษาของแคนาดาจึงมีทางเลือกในการเรียนต่อที่จะได้ฝึกทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 59% และมีภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 23% นอกจากนั้นกว่า 18% ของประชากรในแคนาดามีมากกว่าหนึ่งภาษาแม่ ขึ้นอยู่กับประเทศสัญชาติเดิมของผู้อพยพที่ได้เดินทางเข้าไปยังประเทศแคนาดา ภาษาอื่นที่เป็นที่นิยมในประเทศแคนาดา ได้แก่ ภาษาจีน ภาษาสเปน ภาษาอารบิก และ ภาษาตากาล็อก เป็นต้น อันดับที่ 6 ประเทศออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลียถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติหลาย ๆ คน ด้วยเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง สิทธิ์การทำงานสำหรับผู้จบการศึกษาใหม่มีมาก ชีวิตความเป็นอยู่สบาย และระบบการ ศึกษาคุณภาพสูง จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเศรษฐกิจของออสเตรเลียยังคงมีความแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยมีอัตราการว่างงานและเงินเฟ้อต่ำ จากเมืองที่น่าอยู่ที่สุด 10 อันดับแรกของโลก อยู่ในออสเตรเลียถึง 4 เมือง คือเมลเบิร์นอันดับหนึ่ง! ส่วนอีกสามเมืองได้แก่ แอดิเลด ซิดนีย์ และเพิร์ท โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ เสถียรภาพ การดูแลสุขภาพ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษา เน้นการเรียนรู้แบบ Real-world Learning ผลการสำรวจงานวิจัยยืนยันว่าผลการเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้นและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ระบบการเรียนของออสเตรเลียมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพสูงประกอบกับการศึกษาที่เน้นการเรียนรู้ในโลกของความเป็นจริงมากขึ้น โดยเน้นการเรียนแบบภาคปฏิบัติควบคู่กับความรู้เชิงทฤษฎีเพื่อให้ผู้เรียนได้นำความรู้ไปใช้ได้จริงถือเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนให้สอดคล้องกับการทำงานในภาคอุตสาหกรรมไปจนถึงการประกอบอาชีพในอนาคต มาตรฐานคุณภาพแบบขั้นสูง ออสเตรเลียมีหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบและคุณภาพระดับประเทศสำหรับการศึกษาชั้นสูง – Tertiary Education Quality and Standards Agency (TEQSA) ก่อตั้งขึ้นโดยหน่วยรัฐบาลออสเตรเลียเพื่อควบคุมคุณภาพและกำกับดูแลสถานศึกษาชั้นสูงที่เป็นมหาวิทยาลัยและที่ไม่ใช่มหาวิทยาลัย โดยมีชุดมาตรฐานที่พัฒนาขึ้นโดยหน่วยงานอิสระ Higher Education Standards Panel นอกจากนี้ กฎหมาย Education Services for Overseas Student (ESOS) ยังคุ้มครอง สวัสดิภาพของนักเรียนต่างชาติ คุณภาพประสบการณ์การศึกษาของนักเรียน รวมถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน อีกด้วย LGBTQ+ friendly มีความหลากหลายทางเพศ นอกจากความหลากหลายทางวัฒนธรรม ออสเตรเลียยังให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศสภาพ ถือเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ค่อนข้างยอมรับความหลากหลายทางเพศอย่างชัดเจน โดยมีกฎหมายสนับสนุนสิทธิเสรีภาพและความหลากหลายทางเพศ อาทิเช่น การยอมรับการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน (Same-Sax Marraige) ที่ประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2017 รวมถึงการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมโดยเพศเดียวกันก็ถูกรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ที่ออสเตรเลียมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายทั้งการเดินขบวน การเฉลิมฉลอง การจัดประกวด อีเวนท์ เพื่อเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือและผลักดันชาว LGBTQ+ ในสังคมอย่างต่อเนื่อง อันดับที่ 7 ประเทศเยอรมณี เยอรมนีอีกหนึ่งประเทศที่กำลังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเรียนต่างชาติ มีประชากรนักเรียน นักศึกษาต่างชาติจำนวนมากเป็นอันดับสามรองจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ระบบการศึกษาที่สูงขึ้นของเยอรมนีถือเป็นอีกหนึ่งในระบบที่ดีที่สุดของโลก มหาวิทยาลัยหลายแห่งติดอันดับหนึ่งใน 100 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก นอกจากทักษะภาษาที่จะได้เพิ่มมาแล้ว ยังทำให้ได้รู้จักเพื่อน ๆ ต่างชาติ ได้เปิดมุมมองเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง รวมถึงอิทธิพลของภาษา ที่ส่งผลต่อความคิด ทัศนคติ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เป็นการได้ทั้ง ปริญญาจากมหาวิทยาลัย และปริญญาทางการเรียนรู้โลกใหม่ ในการเปิดประสบการณ์ และโลกที่กว้างขึ้น ทั้งภาษา วัฒนธรรม สังคม เพื่อน และการใช้ชีวิตอีกด้วย โอกาสทางการศึกษา (ค่าเล่าเรียนไม่แพงสำหรับการศึกษาต่อ) การศึกษาในประเทศเยอรมันนับได้ว่ามีมาตรฐานที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ที่สำคัญค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยในประเทศเยอรมนีก็ยังไม่แพง (หรือในบางรัฐยังมีค่าเทอมที่ฟรีอยู่) เมื่อเทียบกับในประเทศอังกฤษหรือสหรัฐอเมริกา ทำให้ค่าใช้จ่ายหลักจริง ๆ ในการเรียนตกอยู่ที่ค่าเช่าบ้านและค่ากินเท่านั้น การเรียนภาษาเยอรมันเพื่อเตรียมตัวเรียนต่อนั้นจึงนับเป็นการลงทุนทางการศึกษาที่คุ้มค่า นับว่าหลังเรียนจบมีตลาดแรงงานที่ขาดแคลนแรงงานให้หางานทำต่อ จึงนับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากเลยทีเดียว ภาษาเยอรมันมีคุณค่าทางวิชาการ ภาษาเยอรมันนับเป็นภาษาที่มีความสำคัญอย่างมากในวงการวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม การบริหารและในวงการต่าง ๆ เพราะประเทศเยอรมันเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของอิทธิพลนวัตกรรมการค้นคว้าวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ จนทำให้มีบริษัทเยอรมันขนาดใหญ่จำนวนมากสามารถขยายกิจการไปได้ทั่วโลก และนอกจากงานวิจัยต่าง ๆ หรือหนังสือทางวิชาการแล้ว ยังมีอีกหลายบทความหรือหลายการวิจัยที่สามารถพบได้ในภาษาเยอรมันเท่านั้น นอกจากนี้การศึกษาต่อที่เยอรมันก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะคุณภาพของมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก และค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อที่น้อยมากเรียกได้ว่าแทบเรียนฟรี และยังมีโอกาสดี ๆ อีกมากมายที่จะได้รับหลังจากที่จบการศึกษาที่เยอรมัน คุณภาพชีวิตดี สิ่งแวดล้อมหลากหลาย ชีวิตความเป็นอยู่ของนักเรียนต่างชาติในเยอรมันถูกรายล้อมไปด้วยวัฒนธรรม แสงเสียง ดนตรี ศิลปะที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง เช่น ตามเมืองใหญ่ ๆ ของเยอรมันอย่าง เแบร์ลิน มิวนิค ฮัมบวก จะมีทุกอย่างที่ตอบสนองความต้องการในใช้ชีวิตของนักเรียนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าอะไรที่น่าสนใจ ก็จะเจอคนที่สนใจสิ่งเดียวกัน หรือสถานที่ การรวมกลุ่มที่ตอบสนองความสนใจนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังหาทางเข้าร่วมได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น กีฬา การเมือง ประวิติศาสตร์ หรือศิลปะ รวมถึงวัฒนธรรมที่หลากหลาย เนื่องจากคอร์สเรียนต่าง ๆ ที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ มีค่าใช้จ่ายที่ประหยัด ทำให้นักเรียนจากทั่วโลกหลั่งไหลมาอยู่ที่นี่ อันดับที่ 8 ประเทศฟินแลนด์ ระบบการศึกษาของประเทศ ฟินแลนด์ เน้นที่การเรียนรู้ผ่านการ “เล่น” เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ มากกว่าการเรียนแบบท่องจำและนำไปสอบ เพราะเชื่อว่าการเรียนการสอนแบบนี้จะทำให้นักเรียนเรียนรู้ได้ดีจากการลงมือทำ มากกว่าการท่องจำข้อความที่ไม่จำเป็นจากหนังสือ และจะทำให้เด็กเกิดการพัฒนามากกว่าการแข่งขันกัน แทบจะไม่ได้ให้การบ้านเด็ก ๆ เพราะให้ความสำคัญนอกห้องเรียนมากกว่า นอกจากนี้จำนวนชั่วโมงเรียนก็น้อยลง หากเทียบกับนักเรียนจากส่วนอื่น ๆ ของโลก โดยเฉลี่ยเพียงวันละ 3 ชั่วโมง 45 นาทีเท่านั้น เพราะต้องการสนับสนุนให้นักเรียนให้มีชีวิตนอกโรงเรียน ได้ “เรียนรู้” มากกว่า “เรียน” ดังนั้น การได้มีสังคม มีกิจกรรม หรือสนุกกับกีฬา จึงเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ที่ดีที่สุด เป็นที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุด จากผลการสำรวจพบว่าประเทศฟินแลนด์ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพชีวิต ความมั่นคงของภาพรวม และการศึกษาอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเป็นประเทศที่มีความสุขเป็นอันดับสองของโลก ผลการวัดระดับ Programme for International Student Assessment (PISA) ของนักเรียนชาวฟินแลนด์ก็อยู่ในระดับดีมาตลอด ไม่ได้มีเพียงคุณภาพชีวิตและการศึกษาที่ดีที่ชาวฟินแลนด์ภาคภูมิใจเท่านั้น ประเทศฟินแลนด์ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่มีนวัตกรรมที่มีอิทธิพลในระดับโลกสูงและมีความเป็นมิตรต่อธรรมชาติ ด้วยคะแนนที่อยู่ในระดับสูงเหล่านี้ จึงไม่แปลกใจที่ฟินแลนด์จะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลก บรรยากาศนานาชาติ กระแสโลกาภิวัฒน์ที่กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ นักเรียนต่างชาติสามารถเข้าไปทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในบริษัทของชาวฟินแลนด์ที่ต้องการขยายตลาดออกไปยังต่างประเทศ ประเทศฟินแลนด์ยังมีความต้องการผู้ทำงานสายสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังคาดการณ์ว่าประเทศฟินแลนด์จะเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานเมื่อประชากรกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ที่เกิดหลังสงครามโลกเกษียณ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะไปเรียนต่อและบุกเบิกการทำงานต่อหลังเรียนจบ ฟินแลนด์ยังคงเป็นประเทศที่ยอดเยี่ยมสำหรับการไปเรียน ทำงาน และสร้างครอบครัวอีกด้วย ไม่มีการสอบวัดผลแบบ Standardized Test ระบบการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ไม่มีการทดสอบเพื่อวัดผล เพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้ผลสอบเพื่อขึ้นระดับชั้นที่สูงขึ้นหรือแข่งขันกัน เพราะเชื่อว่า การทำแบบนั้น จะทำให้นักเรียนมุ่งเน้นเรื่องเรียนเพื่อสอบเพียงอย่างเดียว ไม่ได้เน้นที่จะเรียนรู้อย่างแท้จริง อันดับที่ 9 ประเทศอินเดีย ประเทศอินเดีย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เหมาะกับการไปเรียนต่อมากที่สุด แต่คนไทยส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยจะนึกถึงกันสักเท่าไหร่ เป็นอีกหนึ่งในประเทศที่มีสถาบันทางการศึกษาที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับให้เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากอเมริกา และ จีน จึงมีหลักสูตรที่หลากหลายทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ โดยมีหลักสูตรยอดนิยมของนักเรียนชาวต่างชาติ เช่น วิศวกรรมศาสตร์ บริหารธุรกิจ การแพทย์ และศิลปศาสตร์ นอกจากนี้ อินเดียยังขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์อันดับต้น ๆ ของโลก การผสมผสานด้านการศึกษา การศึกษาแบบอินเดียได้รับอิทธิพลจากชาวอังกฤษผสมผสานกับปรัชญาดั้งเดิมแบบฮินดู พุทธ มุสลิมและแบบเปอร์เซียเข้าไว้ด้วยกัน โดยถูกถ่ายทอดจากอาจารย์ผ่านความเป็น กูรู จึงไม่แปลกนักที่ศิษย์เก่าต่างชาติอินเดียจำนวนมากจะได้รับการยอมรับ อาทิ อองซาน ซูจี (ผู้นำประชาธิปไตยของพม่า จบด้านรัฐศาสตร์จากเดลี) H.E. Le Luong Minh (เลขาธิการอาเซียนคนปัจจุบันชาวเวียดนาม จบโทจาก JNU) เป็นต้น รวมถึงนักเรียนจากมหาวิทยาลัยในอินเดีย ต่างได้รับการตอบรับเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วโลก .. นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ชาวอินเดียหลายท่านยังได้รับการยอมรับในระดับโลก เช่น Partha Chatterjee จากมหาวิทยาลัยกัลกัตตา นักวิชาการแนวหน้าด้าน Subaltern Studies อีกด้วย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ประเทศอินเดียถือเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาการคอมพิวเตอร์อันดับต้นของโลก ไฮเดอราบาด หรืออีกชี่อคือ Cyberabad ถูกขนามนามให้เป็นซิลลิคอนวัลเลย์ของเอเชียเมืองบังกาลอว์เป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์มือฉมังของโลก นอกจากนี้อินเดียยังสามารถส่งกระสวยอวกาศไปยังดาวอังคารได้เป็นผลสำเร็จ รวมถึงขีปนาวุธอัคนีที่มีพิสัยไกลถึง 5,000 กิโลเมตร เล็งไปที่จีนก็สามารถยิงไปยังทุกเมืองใหญ่ของชาวจีน ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของอินเดียย่อมเป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นดีสำหรับนักเรียนสายวิทยาศาสตร์ ประสบการณ์นอกห้องเรียน อินเดียประเทศแห่งอารยธรรมที่สำคัญของโลก มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น ทัชมาฮาล รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย ตั้งแต่ทะเลทรายไปจนถึงท้องทะเลอันงดงาม มีโอกาสได้เรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมที่มีความหลากหลายอยู่สูง รวมถึงได้ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ และเรียนรู้เรื่องราววัฒนธรรม อีกทั้งยังมีการพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวผ่อนคลายนอกสถานที่ มีประเพณี วัฒนธรรม วันหยุด ที่คล้ายกับของประเทศไทย ขณะที่นักศึกษาต่างชาติที่มาเรียนต่อมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่จะมีโฮสเทล อยู่ภายในมหาวิทยาลัย เหมาะสำหรับให้นักศึกษาได้พักอาศัยส่วนตัว อันดับที่ 10 ประเทศสิงคโปร์ สิงคโปร์ นิยามของคำว่า “ตะวันออกพบกับตะวันตก” ถือว่าเหมาะกับนักเรียนที่ชอบความแปลกใหม่ของวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เต็มไปด้วยการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัว ในส่วนของการศึกษา สิงค์โปร์ก็เป็นอีกหนึ่ง Destination ที่ผู้คนจากทั่วโลกให้ความสนใจเดินทางไปเรียนต่อ เพราะมีการมุ่งเน้นความรู้ทางวิชาการอย่างตรงจุดคือความรู้ในแต่ละระดับ ส่วนทักษะรอบด้าน คือ การพัฒนาทักษะอื่น ๆ จากการเข้าชมรม ซึ่งชาวสิงคโปร์จะเรียกว่า CCA ซึ่งมีความจริงจังในการพัฒนาทักษะแต่ละอย่างเป็นอย่างมากเพื่อเก็บให้เป็น Portfolio ได้ เช่น ชมรมกีฬา ชมรมประสานเสียง ก็จะมีการซ้อมในทุก ๆ อาทิตย์และพาไปแข่งขันอย่างจริงจัง เมืองในฝัน สิงคโปร์ข้นชื่อได้ว่า “เมืองในสวน หรือ City in the Garden” หากใครเคยไปสิงคโปร์จะเห็นว่าทุกตารางนิ้วของประเทศเล็ก ๆ เต็มด้วยพื้นที่สีเขียวสบายตา คงไม่ต้องแปลกใจเพราะนี่คือวิสัยทัศน์ที่ทำให้ชาวต่างชาติทั้งอาเซียน และทวีปอื่น ๆ อยากมาใช้ชีวิตที่นี่ จะได้พบกับคนมากหน้าหลายตา หลายชนชาติ ส่งผลให้เป็นเมืองที่นอกจะรวยในพื้นที่สีเขียว ยังรวยวัฒนธรรม นอกจากนี้สิงค์โปร์ยังได้รับการยกย่องจาก The Economist Intelligence Unit ว่าเป็นอันดับ 1 ในด้าน Personal Security และ Infrastructure Security จึงสบายใจได้เลยว่า การเข้าไปเรียนในประเทศที่มีความปลอดภัยสูง ทำให้โฟกัสกับการเรียนและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยทางด้านร่างกายและทรัพย์สิน ระบบการศึกษายอดเยี่ยม ประเทศสิงคโปร์หนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดแห่งของโลก มีความหลากหลายทางหลักสูตรและมหาวิทยาลัยทั้งของภาครัฐและเอกชน ขณะเดียวกันยังมีสถาบันการศึกษาจำนวนมากที่เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ทางการศึกษากับมหาวิทยาลัยต่างชาติเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการศึกษาเพิ่มขึ้น อาทิ หลักสูตรการศึกษาข้ามพรมแดน Transnational Education. เป็นต้น โอกาสในการทำงาน เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการแข่งขันและเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ทำให้นักศึกษาที่เรียนจบมีโอกาสได้ฝึกงานหรือร่วมงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลก นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของบริษัทชั้นนำของโลกในเอเชีย อย่าง Google, Netflix, Microsoft ฯลฯ การขอวีซ่าทำงานในสิงคโปร์นายจ้างต้องทำเรื่องให้ก่อน แต่ข้อได้เปรียบของการมาเรียนในสิงคโปร์ก็คือจะมีโอกาสได้ฝึกงานก่อน (โดยใช้วีซ่าของนักเรียน) จากนั้นก็จะมีโอกาสต่อยอดเพื่อไปทำงานได้นั่นเอง ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นบางส่วนจากชาวชุมชน Eduzones จากโพล์ลการสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด และกลายเป็นประเทศยอดฮิตในแวดวงการศึกษาต่อของเหล่านักเรียนต่างชาติในหลายประเทศ ส่วนเหตุผลข้อต่อ ๆ ไปจะมีอะไรบ้าง อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของตัวเองภายใต้โพสต์นี้ แม้จะเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูงสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ แต่เชื่อว่าประสบการณ์ชีวิตที่จะได้รับกลับไปต้องมีค่ามากกว่าอย่างแน่นอน EZ Webmaster Related Posts 40 ปี ม.รังสิต ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ ชูหัวใจ คือ นักศึกษา เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ ซีเอ็มเอ็มยู เปิดผลวิจัยใหม่ถอดด้าม “การตลาดคนขี้เบื่อ” พร้อมเจาะ “พฤติกรรมขี้เบื่อคน 4 Gen” คลื่นลูกใหม่กระทบ “Brand Loyalty” โชว์เทคนิคช่วยแบรนด์ดึงคนเบื่อหวนภักดีต่อสินค้า – บริการ มศว ประกาศการปรับจำนวนการรับ TCAS รอบที่ 3 (Admission) เพิ่ม LEARN to EARN เพราะชีวิต คือการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด “สุรพรชัย ธรรมศิริ” ว่าที่นักกายอุปกรณ์ ที่ไม่หยุดพัฒนาตนเอง เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ Post navigation PREVIOUS Previous post: รองอธิการบดีสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา ร่วมแถลงข่าวการจัดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ในโอกาสเฉลิมฉลอง 100 ปีประสูติNEXT Next post: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา จัดพิธีถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการบริหารการพัฒนา แด่ พระอาจารย์จีนคณาณัติจีนพรต (เย็นงี้) ณ วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
เอ็นไอเอ สานฝันเด็กไทยสู่เส้นทางนวัตกรในเวทีประกวด รางวัลนวัตกรรมแห่งประเทศไทย “TIA 2024” ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 1 แสนบาท EZ WebmasterMay 9, 2024 สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ และความร่วมมือพิเศษจาก Education New Zealand (ENZ) เชิญชวนนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย นิสิต นักศึกษา และอาชีวศึกษาอายุไม่เกิน 25 ปี ที่มีไอเดียสร้างผลงานนวัตกรรมและต้องการพัฒนาเพื่อส่งประกวดให้เป็นสุดยอดนวัตกรรมกับ “โครงการประกวดรางวัลนวัตกรรมแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 24 หรือ Thailand Innovation Awards (TIA2024)”… สสวท. พาทดลองใช้ระบบข้อสอบออนไลน์ PISA ล่าสุดเพิ่มโจทย์คณิตศาสตร์ 8 เรื่องฝึกทักษะ EZ WebmasterMay 9, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) นำเสนอข้อสอบ PISA ที่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่แล้วโดยเป็นลิขสิทธิ์ขององค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organisation for Economic Co-operation and Development หรือ OECD) ประกอบด้วยโจทย์วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ การอ่าน การแก้ปัญหาแบบร่วมมือ และ สมรรถนะการอยู่ในสังคมโลก ทดลองใช้งานได้ที่ระบบข้อสอบออนไลน์ PISA เว็บไซต์ https://pisaitems.ipst.ac.th ล่าสุดยังได้เพิ่มโจทย์คณิตศาสตร์จากการสอบ PISA 2022 จำนวน 8 เรื่อง ได้แก่ การซื้อรถยนต์ ยอดขายดีวีดี รถขนย้าย ระบบสุริยะ…
สสวท. พาทดลองใช้ระบบข้อสอบออนไลน์ PISA ล่าสุดเพิ่มโจทย์คณิตศาสตร์ 8 เรื่องฝึกทักษะ EZ WebmasterMay 9, 2024 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) นำเสนอข้อสอบ PISA ที่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่แล้วโดยเป็นลิขสิทธิ์ขององค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organisation for Economic Co-operation and Development หรือ OECD) ประกอบด้วยโจทย์วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ การอ่าน การแก้ปัญหาแบบร่วมมือ และ สมรรถนะการอยู่ในสังคมโลก ทดลองใช้งานได้ที่ระบบข้อสอบออนไลน์ PISA เว็บไซต์ https://pisaitems.ipst.ac.th ล่าสุดยังได้เพิ่มโจทย์คณิตศาสตร์จากการสอบ PISA 2022 จำนวน 8 เรื่อง ได้แก่ การซื้อรถยนต์ ยอดขายดีวีดี รถขนย้าย ระบบสุริยะ…
40 ปี ม.รังสิต ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ ชูหัวใจ คือ นักศึกษา เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ tui sakrapeeMay 11, 2024 ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ให้เกียรติเป็นประธานงาน 40 ปี ม.รังสิต และในฐานะวันคล้ายวันเกิดท่าน ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2567 ณ ตึก 14 อาคารนันทนาการ… สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ EZ WebmasterMay 10, 2024 สำนักการเรียนรู้ตลอดชีวิตพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KLLC) ภายใต้สังกัดสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดโครงการ DEP หลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล เพื่อคนพิการ สร้างงาน สร้างอาชีพ” โดยมี ผศ.ดร.ทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร เป็นหัวหน้าโครงการ พร้อมด้วย รศ.ดร.จรสวรรณ โกยวานิช ผู้อำนวยการ KLLC, คุณหญิง ดร. สุมาลี อุทัยเฉลิม… ซีเอ็มเอ็มยู เปิดผลวิจัยใหม่ถอดด้าม “การตลาดคนขี้เบื่อ” พร้อมเจาะ “พฤติกรรมขี้เบื่อคน 4 Gen” คลื่นลูกใหม่กระทบ “Brand Loyalty” โชว์เทคนิคช่วยแบรนด์ดึงคนเบื่อหวนภักดีต่อสินค้า – บริการ EZ WebmasterMay 10, 2024 วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU ชวนจับตา “ตลาดคนขี้เบื่อ” เทรนด์ธุรกิจใหม่มาแรงที่มาพร้อมโอกาส เผยผลสำรวจคนไทยมากกว่า 50% เป็นคนขี้เบื่อ พบ Gen Z ขี้เบื่อมากที่สุด และ “ดูหนังหรือโทรทัศน์” เป็นกิจกรรมแก้เบื่อยอดนิยมของคนทุก Gen รวมทั้งแนะกลยุทธ์สุดปังพิชิตใจคนขี้เบื่อ “BEAT” : Be specific, Extremely appealing, Amazed emotion, Too fun… LEARN to EARN เพราะชีวิต คือการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด “สุรพรชัย ธรรมศิริ” ว่าที่นักกายอุปกรณ์ ที่ไม่หยุดพัฒนาตนเอง เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ EZ WebmasterMay 10, 2024 เมื่อการเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดให้อยู่เพียงแค่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่เรียกว่าห้องเรียนอีกต่อไป แต่เป็นการเรียนรู้ที่ไม่รู้จบ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา หรือที่เรียกว่า Lifelong learning ที่จะทำให้ผู้เรียนรู้ นำประสบการณ์นั้นมาพัฒนาตัวเองได้มากขึ้น เมื่อโอกาสเปิดให้ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียมกันแล้ว ก็อยู่ที่แต่ละคนว่าจะค้นหาความเป็นตัวเองเพื่อจะไขว่คว้าหาความรู้เพื่อให้ตัวเอง “อยู่รอด” ได้ในโลกปัจจุบันที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรวดเร็วจนแทบจะตามกันไม่ทัน เหมือนอย่าง สิงห์ – สุรพรชัย… ทุนดีดี ขยายเวลารับทุนเรียนต่อป.โท ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว สหพันธรัฐรัสเซีย tui sakrapeeApril 24, 2024 ประกาศขยายเวลารับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว (Skolkovo Institute of Science and Technology: Skoltech) สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024) หลักสูตรภาษาอังกฤษ ตามที่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ… ม.เทคโนโลยีและการออกแบบแห่งสิงคโปร์ ให้ทุนคนไทยไปศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี tui sakrapeeApril 22, 2024 ประกาศ รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบ แห่งสิงคโปร์ (Singapore University of Technology and Design : SUTD) สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024)… รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH… ครู-อาจารย์ สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ EZ WebmasterMay 10, 2024 สำนักการเรียนรู้ตลอดชีวิตพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KLLC) ภายใต้สังกัดสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดโครงการ DEP หลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล เพื่อคนพิการ สร้างงาน สร้างอาชีพ” โดยมี ผศ.ดร.ทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร เป็นหัวหน้าโครงการ พร้อมด้วย รศ.ดร.จรสวรรณ โกยวานิช ผู้อำนวยการ KLLC, คุณหญิง ดร. สุมาลี อุทัยเฉลิม… สสวท. อบรมครูศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ชูสะเต็มศึกษานำร่องหนุนครูขยายผลสู่โรงเรียนทั่วประเทศ EZ WebmasterMay 10, 2024 รองศาสตราจารย์ ดร.ธีระเดช เจียรสุขสกุล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ สำหรับศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ประจำปี พ.ศ. 2567 พร้อมด้วย ดร.พรชัย อินทร์ฉาย รองผู้อำนวยการ สสวท. โดยมีโรงเรียนศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 30 ศูนย์จากทั่วประเทศและโรงเรียนสังเกตการณ์ 1 โรงเรียน จำนวนครู 124 คน ร่วมในการอบรม เพื่อนำหลักสูตรไปขยายผลให้ครูและโรงเรียนในระยะต่อไป ณ โรงแรมกราฟ… คณะแพทยศาสตร์ สจล. เปิดรับสมัครนักศึกษา ป.โท สาขาการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ) EZ WebmasterMay 9, 2024 คณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ขอเชิญผู้สนใจสมัครเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต(ปริญญาโท) สาขาการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ) ประจำปีการศึกษา 2567 ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และเศรษฐกิจสังคมในปัจจุบัน รวมทั้งความรู้และทักษะที่ช่วยให้ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถเป็นผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีด้านสุขภาพได้อย่างแท้จริง สำหรับคุณสมบัติผู้สมัครจะต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือเรียนในปีสุดท้ายของหลักสูตรปริญญาตรี สมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 15 พฤษภาคม 2567 ผ่านลงทะเบียนออนไลน์ที่ www.reg.kmitl.ac.th หรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://md.kmitl.ac.th/ การศึกษาไทยกำลังสิ้นหวัง ครูได้เงินเพิ่ม แต่PISA-โอเน็ต ‘ต่ำ’ EZ WebmasterMay 8, 2024 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม นายสมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า จากผลคะแนนสอบPISA และผลคะแนนสอบโอเน็ต ที่ร่วงเป็นราวหรือไม่เกิน 50% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องกระบวนการเรียนรู้เราไม่ได้แก้ไขอะไรเลย ซึ่งสวนทางกับเรื่องที่ครูได้รับเงินที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าตอบแทน ค่าตำแหน่ง วิทยฐานะที่สูงขึ้นตามลำดับ แต่คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของเด็กไม่ดีขึ้น… กิจกรรม ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน EZ WebmasterMay 3, 2024 ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี! ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ทาง www.vec.go.th… ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search EZ Webmaster April 24, 2023 EZ Webmaster April 24, 2023 สรุปความคิดเห็น 10 อันดับ! ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จัดอันดับ! ความคิดเห็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จากชุมชนชาว Eduzones สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ชุมชน Eduzones ของเรา ได้รวบรวมผลสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด? จาก โพล์ลการสำรวจความคิดเห็นด้านล่างนี้ https://www.facebook.com/interscholarship/posts/pfbid02on1d5jCx3N5E9uCkMLKMwWuDrHz1dZqdW2edy75RDnpRfiMDf3QTtX1sev5fdxSzl โดยเราได้รวบรวมผลจากการแสดงความคิดเห็นและได้จัดอันดับหมวดหมู่ออกเป็น 10 อันดับ ดังนี้ อันดับที่ 1 ประเทศสหรัฐอเมริกา ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นตัวเลือกแรกที่ขึ้นมาเมื่อคนต้องการไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ เพราะการศึกษาที่มีคุณภาพ และ เป็นที่นิยมสูงมากในหมู่นักเรียน ด้วยวิธีการสอน ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น การศึกษาสาย STEM คุณภาพที่มีอิสระ ที่จะเรียนในสาขาวิชาต่าง ๆ ในระดับปริญญาตรี ก่อนที่จะลง เรียนวิชาเอก นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกในการทำวิชาเอกสองครั้ง (รับปริญญาตรีในสองวิชาในเวลาเดียวกัน) ในระดับสูงกว่าปริญญาตรี และสามารถเลือกชั้นเรียนเพื่อให้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสาขาวิชาที่สนใจได้ มหาวิทยาลัยได้รับการยอมรับในระดับสากล อเมริกามีมหาวิทยาลัยมากกว่า 4,000 แห่ง ที่ เปิดสอน ระดับปริญญา ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เพราะความพร้อมในการเรียน ไม่ว่าจะเป็นความพร้อม ในด้านอุปกรณ์ที่ครบครัน และ ทันสมัย พร้อมด้วย พนักงานที่มีประสบการณ์มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ยังเป็น ผู้นำระดับโลก ด้าน การวิจัย เนื่องจากรัฐบาลใช้งบประมาณ จำนวนมากในการคิดค้นวิจัยนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมา การพัฒนาทักษะที่หลากหลาย เนื่องจากวิธีการสอนที่ยืดหยุ่นของประเทศ จะมีโอกาสได้พัฒนาทักษะความสามารถข้ามสาขาวิชาซึ่งจะช่วยให้โดดเด่นกว่าเพื่อน มหาวิทยาลัยอเมริกาจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถเริ่มเตรียมตัวสำหรับงานในฝันได้ตั้งแต่ปริญญาตรี และเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำในเกือบทุกสาขา เช่น เทคโนโลยี สื่อ และ ศิลปะ จนมีโอกาสมากมายเมื่อเริ่มมองหาการฝึกงานงานพาร์ทไทม์หรือประสบการณ์การทำงานหลังเรียนจบ ระบบการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติ อเมริกาสนับสนุนให้ความช่วยเหลือนักเรียนต่างชาติได้ดี จากมหาวิทยาลัยในอเมริกาจะช่วยเหลือนักศึกษาต่างชาติ ตั้งแต่ ปฐมนิเทศจนถึง สำเร็จการศึกษา สามารถ ไปที่สำนักงานนักศึกษาต่างชาติ ของ มหาวิทยาลัย ได้ตลอดเวลา เพื่อขอคำแนะนำที่ต้องการ มหาวิทยาลัยหลายแห่งยังให้ความช่วยเหลือโดยจัดโปรแกรม เพื่อ ช่วยนักศึกษาต่างชาติ ในการเขียนเชิงวิชาการ และ ปรับตัวเข้ากับระบบการศึกษาใหม่ ข้อนี้ทำให้หลาย ๆ คน ตัดสินใจได้ว่าทำไมต้องเป็นอเมริกา อันดับที่ 2 ประเทศอังกฤษ หากพูดถึงการเรียนต่อที่ต่างประเทศเชื่อว่า ‘อังกฤษ’ คือ Top of Mind ที่อยู่อันดับต้น ๆ ในใจของทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กไทยที่อยากไปศึกษาต่อ เพราะประเทศอังกฤษเป็นที่นิยม จากสถานที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมที่มีชื่อเสียงและได้รับการันตีว่าดีที่สุดในโลก รวมทั้งยังเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ได้เคยผลิตนักวิทยาศาสตร์ระดับตำนานในอดีต ไม่ว่าจะเป็น เซอร์ไอแซก นิวตัน นักฟิสิกส์ หรือ สตีเฟน ฮอว์คิง อัจฉริยะทางฟิสิกส์ พ่อแม่-ผู้ปกครอง จึงได้วางใจและคาดหวังว่าอังกฤษ จะมอบคุณภาพอันดีเยี่ยมเหล่านั้นให้แก่บุตร-หลาน ไม่เพียงแต่ด้านวิชาการ แต่ยังรวมไปถึง ความเป็นเลิศด้านดนตรี ศิลปะ และการเขียนอีกด้วย หลักสูตรอันเป็นประตูสู่ระดับ World-Class โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในประเทศอังกฤษ เสนอหลักสูตรที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพระดับสากล ที่ถือเป็นใบเบิกทางชั้นดีสู่การต่อยอดการศึกษาขั้นสูงและการทำงานยังประเทศชั้นนำอื่น ๆ ซึ่งอันได้แก่ IGCSE, International Baccalaureate Diploma, A-Levels ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้ เป็นสากลและได้รับการยอมรับจากประเทศอื่น ๆ เรียกได้ว่า เป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงให้แก่บุตร-หลานได้มากเลยทีเดียว ได้ภาษาอังกฤษที่ดีจากต้นกำเนิด ภาษาอังกฤษถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะเป็นภาษาที่คนใช้กันทั่วโลก สามารถใช้สื่อสารได้ในหลายๆ ประเทศ และใช้ต่อยอดในหน้าที่การงานในอนาคตได้ ซึ่งการไปเรียนที่ต่างประเทศ (โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ของประเทศอังกฤษ) มีข้อดีคือ เรื่องสำเนียงที่ถูกต้องแบบชาวบริติช และยังมีคอนเนคชั่นกับชาวต่างชาติ ปฎิเสธไม่ได้ว่าการไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษมีข้อดีที่เด่นชัดที่สุดคือเรื่องของภาษา ที่เป็นต้นตำรับ เชื่อได้ว่าทักษะภาษาอังกฤษจะดีขึ้นมากหากได้ลองไปเรียน หรือใช้ชีวิตอยู่ในประเทศต้นกำเนิด แนวทางการพัฒนาตัวเองที่หาไม่ได้จากที่อื่น เหตุผลอีกหนึ่งประการ ที่ถือเป็นสิ่งสำคัญ ในการศึกษาต่อประเทศอังกฤษ นั่นก็คือ แนวทางการพัฒนาตนเองที่เด็กจะได้รับ โรงเรียนมัธยมในอังกฤษ มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาศักยภาพนักเรียนของพวกเขา เพื่อพร้อมก้าวสู่โลกใบใหญ่และการเดินทางต่อในระดับมหาวิทยาลัย นอกจากนั้น สถาบันการศึกษาในอังกฤษยังสนับสนุนและแนะนำอย่างเต็มที่ ให้นักเรียนมีความมั่นใจ พร้อมจิตใจที่เปิดกว้าง และเปิดรับโอกาสที่ดีในอนาคต อันดับที่ 3 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หากจะบอกว่าสวิตเซอร์แลนด์ คือหนึ่งในประเทศที่คนไทยชื่นชอบมากที่สุดคงไม่แปลกนัก สังเกตได้จากคนไทยจำนวนมากที่ไปตั้งรกรากอยู่ที่นั่น รวมถึงเป็นดินแดนแห่งความสุขที่สามารถพบเจอรอยยิ้มของผู้คนได้แทบทุกเส้นทางบนถนน การมีโอกาสได้เรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์ จึงเป็นสิ่งที่นักเรียนไทยจำนวนมากใฝ่ฝันเอาไว้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากหากมีความตั้งใจ แม้ไม่ใช่ประเทศใหญ่ในยุโรป แต่เชื่อว่าความรู้ที่ได้บวกกับประสบการณ์ดี ๆ ในชีวิตมันช่างคุ้มค่ากับการเดินทางไปอย่างยิ่ง มหาวิทยาลัยชั้นนำ สวิสเซอร์แลนด์มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอยู่หลายแห่ง และมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประเทศสองแห่ง ได้แก่ EPFL และ ETH Zurich ยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 30 มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ใน The Times Higher Education (THE) World University Rankings นักศึกษามีความพึงพอใจกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูงในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศและส่วนใหญ่จะชื่นชอบคุณภาพการสอนในแต่ละหลักสูตรเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปแล้ว มหาวิทยาลัยของสวิสเซอร์แลนด์มีชื่อเสียงด้านการเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นชาวสวิสหรือนักศึกษาต่างชาติที่เรียนในสถาบันที่สวิสเซอร์แลนด์ ก็จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนายจ้าง ระบบการศึกษาคุณภาพระดับโลก ระบบการศึกษาของสวิตเซอร์แลนด์เป็นอีกหนึ่งอย่างที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้าน “การโรงแรม” เนื่องจากประเทศแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกันอย่างมากมาย ดังนั้นธุรกิจด้านโรงแรมจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจและน่าเรียน ทำให้มีสถาบันการศึกษาเปิดสอนทางด้านโรงแรมโดยเฉพาะ และยังถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของวิชาการด้านการโรงแรม เพราะมีหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ และยังมีสอนภาษาที่ 3 ได้แก่ เยอรมัน และ ฝรั่งเศส ที่เป็นหนึ่งภาษาทางการของสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับการเรียนการสอนการโรงแรมของสวิตเซอร์แลนด์ เน้นทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ โดยมีการฝึกงานจริงและยังได้รับค่าจ้าง โดยที่นักเรียนจะไม่ได้ถูกส่งไปฝึกงานเฉพาะในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น แต่ยังถูกส่งไปฝึกงานที่ต่างประเทศด้วย โอกาสแห่งการเรียนรู้ภาษา สวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นสถานที่ที่ดีในการเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เป็นการช่วยเพิ่มตัวเลือกด้านอาชีพหลังจบการศึกษาได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเยอรมนีมีฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปซึ่งเต็มไปด้วยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ได้แก่ การธนาคาร การผลิต และมีโปรแกรมการฝึกอบรมนักศึกษาฝึกงานที่ยอดเยี่ยม ภาษาฝรั่งเศสยังเป็นอีกหนึ่งภาษาที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพในธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งภาษาฝรั่งเศสนั้นเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นอันดับสองในสหภาพยุโรป และเป็นภาษาราชการของ 29 ประเทศทั่วโลก เช่น แคนาดา เบลเยียม และมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตในแอฟริกา เช่น แทนซาเนีย รวันดา และโมซัมบิก เป็นต้น อันดับที่ 4 ประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ได้รับการจัดอันดับว่าเป็น ประเทศที่มีความสงบสุขมากที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 2 โดยพิจารณาจากรายได้ การศึกษา และระดับของการรวมกลุ่มในระดับภูมิภาค, ความโปร่งใสในระดับสูงของรัฐบาลและการทุจริตต่ำ, ความมีเสถียรภาพ อีกทั้งยังมีความก้าวหน้าทางสังคมอย่างแท้จริง โดยประเทศที่ปลอดภัยแห่งนี้ยังมีระบบการศึกษาระดับโลกและการดูแลสุขภาพขั้นสูง ชาวกีวีได้รับการดูแลสุขภาพฟรีจากรัฐ หรือมีค่าใช้จ่ายต่ำในกรณีเจ็บป่วย และเงินสนับสนุนจากรัฐบาลในกรณีว่างงาน เนื่องด้วยปัญหาอาชญกรรมที่น้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทำให้นักเรียนของประเทศนิวซีแลนด์สามารถโฟกัสในเรื่องเรียนเพียงอย่างเดียว และสนุกสนานกับกิจกรรมต่าง ๆ นอกห้องเรียนไปด้วย มาตรฐานการศึกษาระดับสากล ประเทศนิวซีแลนด์มีมาตรฐานในระดับสากล มหาวิทยาลัยทั้ง 8 แห่งของนิวซีแลนด์อยู่ในอันดับ Top 3% ของโลก อีกทั้งนิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับโดย The Economist, Intelligence Unit (Worldwide Educating for the Future Index), 2018 ให้เป็นอันดับที่ 1 ในการเตรียมความพร้อมนักเรียนสู่อนาคต ด้วยความสามารถในการปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้เหมาะกับภาคอุตสาหกรรมและสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ความสามารถของครูและบุคคลากร นโยบายภาครัฐ ความร่วมมือร่วมใจกันของรัฐบาลและภาคเอกชน ความสามารถในการให้คำปรึกษาถึงอาชีพในอนาคตตั้งแต่ในระดับโรงเรียน และความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่แตกต่างแต่อยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว การต้อนรับอย่างอบอุ่น นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากกว่า 100 เชื้อชาติทั่วโลก ชาวนิวซีแลนด์ล้วนเป็นมิตรและพร้อมต้อนรับนักเรียนต่างชาติด้วยความอบอุ่นและความเข้าใจ ตามคำกล่าวของชาวเมารีที่ว่า “Manaakitanga” แปลว่า การเคารพและดูแลผู้ที่อยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจ มีน้ำใจ เอื้ออาทรและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เรียนรู้จากการเรียนและการเล่น ประเทศนิวซีแลนด์ไม่ได้เน้นเฉพาะในด้านของการเรียนเพียงเท่านั้น การเรียนเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของการเรียนในห้องเรียนและการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ซึ่งได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่า เป็นการเรียนที่ดีที่สุดในโลก Study Life Balance โดยนักเรียนสามารถเลือกเรียนในเมืองชนบทที่สวยงามของนิวซีแลนด์ ที่ตั้งไม่ไกลจากเมืองมากนัก หากต้องการช้อปปิ้งหรือสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ก็สามารถเดินทางไปในเมืองใหญ่ได้ไม่ยาก สันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่สงบสุขอันดับ 2 ของโลก (อ้างอิงจาก Global Peace Index,2018) การเรียนในประเทศนิวซีแลนด์นักเรียนจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบ การเมืองที่มีเสถียรภาพและยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทุจริตคอรัปชั่นน้อยที่สุดในโลกอีกด้วย อันดับที่ 5 ประเทศแคนาดา ประเทศแคนาดาจัดได้ว่าเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก หลาย ๆ สถาบันในแคนาดามีชื่อเสียง มีคุณภาพในด้านการเรียนการสอนสูง มีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ใบปริญญาหรือ certificate ต่าง ๆ จากสถาบันและมหาวิทยาลัยในประเทศแคนาดาจึงเป็นตัวการันตีได้ว่าได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ นักศึกษาที่จบจากประเทศแคนาดาจึงมีโอกาสดีที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มาตรฐานการสอนของครู – อาจารย์ หนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศแคนาดาประสบความสำเร็จทางด้านการศึกษาก็คือความสามารถของตัวอาจารย์ผู้สอนที่ให้ความรู้กับนักเรียน ผู้ที่จะมาทำอาชีพครูผู้สอนที่แคนาดาได้ต้องผ่านการคัดกรองมาเป็นอย่างดี โดยแต่ละเมืองจะมีรูปแบบการประเมินผลของตนเอง เช่น การวัดผลที่ผู้สอนต้องผ่านการประเมินทั้งด้านความรู้ในการสอนสาขาวิชานั้น การสอนในภาคปฏิบัติและการปรับตัวกับสังคมแห่งการเรียนรู้ และการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมพร้อมพัฒนาศาสตร์ความรู้ของตนในฐานะของผู้สอน เป็นต้น อาจารย์ของเมืองนั้นจะต้องผ่านหลักสูตรที่กำหนดโดยก่อนเพื่อให้ได้ใบประกาศนียบัตรเพื่อใช้แสดงตนเป็นผู้สอนของเมืองนั้น สถาบันการศึกษาของประเทศแคนาดาจึงขึ้นชื่อในการรักษามาตรฐานคุณภาพการศึกษา เพราะแต่ละสถาบันจะไม่รับอาจารย์ที่ไม่ผ่านการรับรองจากหลักสูตรผู้สอนในประเทศมาเป็นอาจารย์ของสถาบัน และแต่ละเมืองจะมีความเคร่งครัดที่ต่างกันไป เพราะอาจารย์พูดสอนต้องสอบประเมินผลใหม่เมื่อจะย้ายไปสอนในอีกเมือง หนึ่งในระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก แคนาดาหนึ่งในประเทศที่ได้สร้างชื่อเสียงด้านการศึกษาจากการวัดผลในโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment) หรือ PISA ได้จัดให้แคนาดาอยู่ในกลุ่มที่ 10 ประเทศที่เยาวชนมีผลการเรียนเป็นเลิศ เพราะทางรัฐบาลของประเทศแคนาดาให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษามาก มาตรฐานการศึกษาของแคนาดาเป็นที่ยอมรับในระดับโลก นักศึกษาต่างชาติที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยของแคนาดา จึงประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในหน้าที่การงานจากมาตรฐานการศึกษาที่สูงพร้อมประสบการณ์มากมายที่ได้ฝึกฝนในระหว่างนั้น ระบบการเรียนสองภาษา ประเทศแคนาดามีระบบการเรียนการสอนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยผู้เรียนจะต้องเข้าเรียนในชั้นเรียนด้วยภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก และเข้าเรียนในภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่สอง เพราะประเทศแคนาดามี 2 ภาษาราชการ นักเรียนต่างชาติที่เข้าระบบการศึกษาของแคนาดาจึงมีทางเลือกในการเรียนต่อที่จะได้ฝึกทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 59% และมีภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 23% นอกจากนั้นกว่า 18% ของประชากรในแคนาดามีมากกว่าหนึ่งภาษาแม่ ขึ้นอยู่กับประเทศสัญชาติเดิมของผู้อพยพที่ได้เดินทางเข้าไปยังประเทศแคนาดา ภาษาอื่นที่เป็นที่นิยมในประเทศแคนาดา ได้แก่ ภาษาจีน ภาษาสเปน ภาษาอารบิก และ ภาษาตากาล็อก เป็นต้น อันดับที่ 6 ประเทศออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลียถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติหลาย ๆ คน ด้วยเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง สิทธิ์การทำงานสำหรับผู้จบการศึกษาใหม่มีมาก ชีวิตความเป็นอยู่สบาย และระบบการ ศึกษาคุณภาพสูง จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเศรษฐกิจของออสเตรเลียยังคงมีความแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยมีอัตราการว่างงานและเงินเฟ้อต่ำ จากเมืองที่น่าอยู่ที่สุด 10 อันดับแรกของโลก อยู่ในออสเตรเลียถึง 4 เมือง คือเมลเบิร์นอันดับหนึ่ง! ส่วนอีกสามเมืองได้แก่ แอดิเลด ซิดนีย์ และเพิร์ท โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ เสถียรภาพ การดูแลสุขภาพ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษา เน้นการเรียนรู้แบบ Real-world Learning ผลการสำรวจงานวิจัยยืนยันว่าผลการเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้นและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ระบบการเรียนของออสเตรเลียมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพสูงประกอบกับการศึกษาที่เน้นการเรียนรู้ในโลกของความเป็นจริงมากขึ้น โดยเน้นการเรียนแบบภาคปฏิบัติควบคู่กับความรู้เชิงทฤษฎีเพื่อให้ผู้เรียนได้นำความรู้ไปใช้ได้จริงถือเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนให้สอดคล้องกับการทำงานในภาคอุตสาหกรรมไปจนถึงการประกอบอาชีพในอนาคต มาตรฐานคุณภาพแบบขั้นสูง ออสเตรเลียมีหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบและคุณภาพระดับประเทศสำหรับการศึกษาชั้นสูง – Tertiary Education Quality and Standards Agency (TEQSA) ก่อตั้งขึ้นโดยหน่วยรัฐบาลออสเตรเลียเพื่อควบคุมคุณภาพและกำกับดูแลสถานศึกษาชั้นสูงที่เป็นมหาวิทยาลัยและที่ไม่ใช่มหาวิทยาลัย โดยมีชุดมาตรฐานที่พัฒนาขึ้นโดยหน่วยงานอิสระ Higher Education Standards Panel นอกจากนี้ กฎหมาย Education Services for Overseas Student (ESOS) ยังคุ้มครอง สวัสดิภาพของนักเรียนต่างชาติ คุณภาพประสบการณ์การศึกษาของนักเรียน รวมถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน อีกด้วย LGBTQ+ friendly มีความหลากหลายทางเพศ นอกจากความหลากหลายทางวัฒนธรรม ออสเตรเลียยังให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศสภาพ ถือเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ค่อนข้างยอมรับความหลากหลายทางเพศอย่างชัดเจน โดยมีกฎหมายสนับสนุนสิทธิเสรีภาพและความหลากหลายทางเพศ อาทิเช่น การยอมรับการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน (Same-Sax Marraige) ที่ประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2017 รวมถึงการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมโดยเพศเดียวกันก็ถูกรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ที่ออสเตรเลียมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายทั้งการเดินขบวน การเฉลิมฉลอง การจัดประกวด อีเวนท์ เพื่อเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือและผลักดันชาว LGBTQ+ ในสังคมอย่างต่อเนื่อง อันดับที่ 7 ประเทศเยอรมณี เยอรมนีอีกหนึ่งประเทศที่กำลังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเรียนต่างชาติ มีประชากรนักเรียน นักศึกษาต่างชาติจำนวนมากเป็นอันดับสามรองจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ระบบการศึกษาที่สูงขึ้นของเยอรมนีถือเป็นอีกหนึ่งในระบบที่ดีที่สุดของโลก มหาวิทยาลัยหลายแห่งติดอันดับหนึ่งใน 100 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก นอกจากทักษะภาษาที่จะได้เพิ่มมาแล้ว ยังทำให้ได้รู้จักเพื่อน ๆ ต่างชาติ ได้เปิดมุมมองเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง รวมถึงอิทธิพลของภาษา ที่ส่งผลต่อความคิด ทัศนคติ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เป็นการได้ทั้ง ปริญญาจากมหาวิทยาลัย และปริญญาทางการเรียนรู้โลกใหม่ ในการเปิดประสบการณ์ และโลกที่กว้างขึ้น ทั้งภาษา วัฒนธรรม สังคม เพื่อน และการใช้ชีวิตอีกด้วย โอกาสทางการศึกษา (ค่าเล่าเรียนไม่แพงสำหรับการศึกษาต่อ) การศึกษาในประเทศเยอรมันนับได้ว่ามีมาตรฐานที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ที่สำคัญค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยในประเทศเยอรมนีก็ยังไม่แพง (หรือในบางรัฐยังมีค่าเทอมที่ฟรีอยู่) เมื่อเทียบกับในประเทศอังกฤษหรือสหรัฐอเมริกา ทำให้ค่าใช้จ่ายหลักจริง ๆ ในการเรียนตกอยู่ที่ค่าเช่าบ้านและค่ากินเท่านั้น การเรียนภาษาเยอรมันเพื่อเตรียมตัวเรียนต่อนั้นจึงนับเป็นการลงทุนทางการศึกษาที่คุ้มค่า นับว่าหลังเรียนจบมีตลาดแรงงานที่ขาดแคลนแรงงานให้หางานทำต่อ จึงนับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากเลยทีเดียว ภาษาเยอรมันมีคุณค่าทางวิชาการ ภาษาเยอรมันนับเป็นภาษาที่มีความสำคัญอย่างมากในวงการวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม การบริหารและในวงการต่าง ๆ เพราะประเทศเยอรมันเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของอิทธิพลนวัตกรรมการค้นคว้าวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ จนทำให้มีบริษัทเยอรมันขนาดใหญ่จำนวนมากสามารถขยายกิจการไปได้ทั่วโลก และนอกจากงานวิจัยต่าง ๆ หรือหนังสือทางวิชาการแล้ว ยังมีอีกหลายบทความหรือหลายการวิจัยที่สามารถพบได้ในภาษาเยอรมันเท่านั้น นอกจากนี้การศึกษาต่อที่เยอรมันก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะคุณภาพของมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก และค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อที่น้อยมากเรียกได้ว่าแทบเรียนฟรี และยังมีโอกาสดี ๆ อีกมากมายที่จะได้รับหลังจากที่จบการศึกษาที่เยอรมัน คุณภาพชีวิตดี สิ่งแวดล้อมหลากหลาย ชีวิตความเป็นอยู่ของนักเรียนต่างชาติในเยอรมันถูกรายล้อมไปด้วยวัฒนธรรม แสงเสียง ดนตรี ศิลปะที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง เช่น ตามเมืองใหญ่ ๆ ของเยอรมันอย่าง เแบร์ลิน มิวนิค ฮัมบวก จะมีทุกอย่างที่ตอบสนองความต้องการในใช้ชีวิตของนักเรียนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าอะไรที่น่าสนใจ ก็จะเจอคนที่สนใจสิ่งเดียวกัน หรือสถานที่ การรวมกลุ่มที่ตอบสนองความสนใจนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังหาทางเข้าร่วมได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น กีฬา การเมือง ประวิติศาสตร์ หรือศิลปะ รวมถึงวัฒนธรรมที่หลากหลาย เนื่องจากคอร์สเรียนต่าง ๆ ที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ มีค่าใช้จ่ายที่ประหยัด ทำให้นักเรียนจากทั่วโลกหลั่งไหลมาอยู่ที่นี่ อันดับที่ 8 ประเทศฟินแลนด์ ระบบการศึกษาของประเทศ ฟินแลนด์ เน้นที่การเรียนรู้ผ่านการ “เล่น” เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ มากกว่าการเรียนแบบท่องจำและนำไปสอบ เพราะเชื่อว่าการเรียนการสอนแบบนี้จะทำให้นักเรียนเรียนรู้ได้ดีจากการลงมือทำ มากกว่าการท่องจำข้อความที่ไม่จำเป็นจากหนังสือ และจะทำให้เด็กเกิดการพัฒนามากกว่าการแข่งขันกัน แทบจะไม่ได้ให้การบ้านเด็ก ๆ เพราะให้ความสำคัญนอกห้องเรียนมากกว่า นอกจากนี้จำนวนชั่วโมงเรียนก็น้อยลง หากเทียบกับนักเรียนจากส่วนอื่น ๆ ของโลก โดยเฉลี่ยเพียงวันละ 3 ชั่วโมง 45 นาทีเท่านั้น เพราะต้องการสนับสนุนให้นักเรียนให้มีชีวิตนอกโรงเรียน ได้ “เรียนรู้” มากกว่า “เรียน” ดังนั้น การได้มีสังคม มีกิจกรรม หรือสนุกกับกีฬา จึงเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ที่ดีที่สุด เป็นที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุด จากผลการสำรวจพบว่าประเทศฟินแลนด์ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพชีวิต ความมั่นคงของภาพรวม และการศึกษาอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเป็นประเทศที่มีความสุขเป็นอันดับสองของโลก ผลการวัดระดับ Programme for International Student Assessment (PISA) ของนักเรียนชาวฟินแลนด์ก็อยู่ในระดับดีมาตลอด ไม่ได้มีเพียงคุณภาพชีวิตและการศึกษาที่ดีที่ชาวฟินแลนด์ภาคภูมิใจเท่านั้น ประเทศฟินแลนด์ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่มีนวัตกรรมที่มีอิทธิพลในระดับโลกสูงและมีความเป็นมิตรต่อธรรมชาติ ด้วยคะแนนที่อยู่ในระดับสูงเหล่านี้ จึงไม่แปลกใจที่ฟินแลนด์จะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลก บรรยากาศนานาชาติ กระแสโลกาภิวัฒน์ที่กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ นักเรียนต่างชาติสามารถเข้าไปทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในบริษัทของชาวฟินแลนด์ที่ต้องการขยายตลาดออกไปยังต่างประเทศ ประเทศฟินแลนด์ยังมีความต้องการผู้ทำงานสายสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังคาดการณ์ว่าประเทศฟินแลนด์จะเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานเมื่อประชากรกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ที่เกิดหลังสงครามโลกเกษียณ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะไปเรียนต่อและบุกเบิกการทำงานต่อหลังเรียนจบ ฟินแลนด์ยังคงเป็นประเทศที่ยอดเยี่ยมสำหรับการไปเรียน ทำงาน และสร้างครอบครัวอีกด้วย ไม่มีการสอบวัดผลแบบ Standardized Test ระบบการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ไม่มีการทดสอบเพื่อวัดผล เพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้ผลสอบเพื่อขึ้นระดับชั้นที่สูงขึ้นหรือแข่งขันกัน เพราะเชื่อว่า การทำแบบนั้น จะทำให้นักเรียนมุ่งเน้นเรื่องเรียนเพื่อสอบเพียงอย่างเดียว ไม่ได้เน้นที่จะเรียนรู้อย่างแท้จริง อันดับที่ 9 ประเทศอินเดีย ประเทศอินเดีย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เหมาะกับการไปเรียนต่อมากที่สุด แต่คนไทยส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยจะนึกถึงกันสักเท่าไหร่ เป็นอีกหนึ่งในประเทศที่มีสถาบันทางการศึกษาที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับให้เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากอเมริกา และ จีน จึงมีหลักสูตรที่หลากหลายทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ โดยมีหลักสูตรยอดนิยมของนักเรียนชาวต่างชาติ เช่น วิศวกรรมศาสตร์ บริหารธุรกิจ การแพทย์ และศิลปศาสตร์ นอกจากนี้ อินเดียยังขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์อันดับต้น ๆ ของโลก การผสมผสานด้านการศึกษา การศึกษาแบบอินเดียได้รับอิทธิพลจากชาวอังกฤษผสมผสานกับปรัชญาดั้งเดิมแบบฮินดู พุทธ มุสลิมและแบบเปอร์เซียเข้าไว้ด้วยกัน โดยถูกถ่ายทอดจากอาจารย์ผ่านความเป็น กูรู จึงไม่แปลกนักที่ศิษย์เก่าต่างชาติอินเดียจำนวนมากจะได้รับการยอมรับ อาทิ อองซาน ซูจี (ผู้นำประชาธิปไตยของพม่า จบด้านรัฐศาสตร์จากเดลี) H.E. Le Luong Minh (เลขาธิการอาเซียนคนปัจจุบันชาวเวียดนาม จบโทจาก JNU) เป็นต้น รวมถึงนักเรียนจากมหาวิทยาลัยในอินเดีย ต่างได้รับการตอบรับเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วโลก .. นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ชาวอินเดียหลายท่านยังได้รับการยอมรับในระดับโลก เช่น Partha Chatterjee จากมหาวิทยาลัยกัลกัตตา นักวิชาการแนวหน้าด้าน Subaltern Studies อีกด้วย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ประเทศอินเดียถือเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาการคอมพิวเตอร์อันดับต้นของโลก ไฮเดอราบาด หรืออีกชี่อคือ Cyberabad ถูกขนามนามให้เป็นซิลลิคอนวัลเลย์ของเอเชียเมืองบังกาลอว์เป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์มือฉมังของโลก นอกจากนี้อินเดียยังสามารถส่งกระสวยอวกาศไปยังดาวอังคารได้เป็นผลสำเร็จ รวมถึงขีปนาวุธอัคนีที่มีพิสัยไกลถึง 5,000 กิโลเมตร เล็งไปที่จีนก็สามารถยิงไปยังทุกเมืองใหญ่ของชาวจีน ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของอินเดียย่อมเป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นดีสำหรับนักเรียนสายวิทยาศาสตร์ ประสบการณ์นอกห้องเรียน อินเดียประเทศแห่งอารยธรรมที่สำคัญของโลก มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น ทัชมาฮาล รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย ตั้งแต่ทะเลทรายไปจนถึงท้องทะเลอันงดงาม มีโอกาสได้เรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมที่มีความหลากหลายอยู่สูง รวมถึงได้ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ และเรียนรู้เรื่องราววัฒนธรรม อีกทั้งยังมีการพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวผ่อนคลายนอกสถานที่ มีประเพณี วัฒนธรรม วันหยุด ที่คล้ายกับของประเทศไทย ขณะที่นักศึกษาต่างชาติที่มาเรียนต่อมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่จะมีโฮสเทล อยู่ภายในมหาวิทยาลัย เหมาะสำหรับให้นักศึกษาได้พักอาศัยส่วนตัว อันดับที่ 10 ประเทศสิงคโปร์ สิงคโปร์ นิยามของคำว่า “ตะวันออกพบกับตะวันตก” ถือว่าเหมาะกับนักเรียนที่ชอบความแปลกใหม่ของวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เต็มไปด้วยการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัว ในส่วนของการศึกษา สิงค์โปร์ก็เป็นอีกหนึ่ง Destination ที่ผู้คนจากทั่วโลกให้ความสนใจเดินทางไปเรียนต่อ เพราะมีการมุ่งเน้นความรู้ทางวิชาการอย่างตรงจุดคือความรู้ในแต่ละระดับ ส่วนทักษะรอบด้าน คือ การพัฒนาทักษะอื่น ๆ จากการเข้าชมรม ซึ่งชาวสิงคโปร์จะเรียกว่า CCA ซึ่งมีความจริงจังในการพัฒนาทักษะแต่ละอย่างเป็นอย่างมากเพื่อเก็บให้เป็น Portfolio ได้ เช่น ชมรมกีฬา ชมรมประสานเสียง ก็จะมีการซ้อมในทุก ๆ อาทิตย์และพาไปแข่งขันอย่างจริงจัง เมืองในฝัน สิงคโปร์ข้นชื่อได้ว่า “เมืองในสวน หรือ City in the Garden” หากใครเคยไปสิงคโปร์จะเห็นว่าทุกตารางนิ้วของประเทศเล็ก ๆ เต็มด้วยพื้นที่สีเขียวสบายตา คงไม่ต้องแปลกใจเพราะนี่คือวิสัยทัศน์ที่ทำให้ชาวต่างชาติทั้งอาเซียน และทวีปอื่น ๆ อยากมาใช้ชีวิตที่นี่ จะได้พบกับคนมากหน้าหลายตา หลายชนชาติ ส่งผลให้เป็นเมืองที่นอกจะรวยในพื้นที่สีเขียว ยังรวยวัฒนธรรม นอกจากนี้สิงค์โปร์ยังได้รับการยกย่องจาก The Economist Intelligence Unit ว่าเป็นอันดับ 1 ในด้าน Personal Security และ Infrastructure Security จึงสบายใจได้เลยว่า การเข้าไปเรียนในประเทศที่มีความปลอดภัยสูง ทำให้โฟกัสกับการเรียนและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยทางด้านร่างกายและทรัพย์สิน ระบบการศึกษายอดเยี่ยม ประเทศสิงคโปร์หนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดแห่งของโลก มีความหลากหลายทางหลักสูตรและมหาวิทยาลัยทั้งของภาครัฐและเอกชน ขณะเดียวกันยังมีสถาบันการศึกษาจำนวนมากที่เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ทางการศึกษากับมหาวิทยาลัยต่างชาติเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการศึกษาเพิ่มขึ้น อาทิ หลักสูตรการศึกษาข้ามพรมแดน Transnational Education. เป็นต้น โอกาสในการทำงาน เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการแข่งขันและเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ทำให้นักศึกษาที่เรียนจบมีโอกาสได้ฝึกงานหรือร่วมงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลก นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของบริษัทชั้นนำของโลกในเอเชีย อย่าง Google, Netflix, Microsoft ฯลฯ การขอวีซ่าทำงานในสิงคโปร์นายจ้างต้องทำเรื่องให้ก่อน แต่ข้อได้เปรียบของการมาเรียนในสิงคโปร์ก็คือจะมีโอกาสได้ฝึกงานก่อน (โดยใช้วีซ่าของนักเรียน) จากนั้นก็จะมีโอกาสต่อยอดเพื่อไปทำงานได้นั่นเอง ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นบางส่วนจากชาวชุมชน Eduzones จากโพล์ลการสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด และกลายเป็นประเทศยอดฮิตในแวดวงการศึกษาต่อของเหล่านักเรียนต่างชาติในหลายประเทศ ส่วนเหตุผลข้อต่อ ๆ ไปจะมีอะไรบ้าง อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของตัวเองภายใต้โพสต์นี้ แม้จะเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูงสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ แต่เชื่อว่าประสบการณ์ชีวิตที่จะได้รับกลับไปต้องมีค่ามากกว่าอย่างแน่นอน EZ Webmaster Related Posts 40 ปี ม.รังสิต ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ ชูหัวใจ คือ นักศึกษา เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ ซีเอ็มเอ็มยู เปิดผลวิจัยใหม่ถอดด้าม “การตลาดคนขี้เบื่อ” พร้อมเจาะ “พฤติกรรมขี้เบื่อคน 4 Gen” คลื่นลูกใหม่กระทบ “Brand Loyalty” โชว์เทคนิคช่วยแบรนด์ดึงคนเบื่อหวนภักดีต่อสินค้า – บริการ มศว ประกาศการปรับจำนวนการรับ TCAS รอบที่ 3 (Admission) เพิ่ม LEARN to EARN เพราะชีวิต คือการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด “สุรพรชัย ธรรมศิริ” ว่าที่นักกายอุปกรณ์ ที่ไม่หยุดพัฒนาตนเอง เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ Post navigation PREVIOUS Previous post: รองอธิการบดีสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา ร่วมแถลงข่าวการจัดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ในโอกาสเฉลิมฉลอง 100 ปีประสูติNEXT Next post: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา จัดพิธีถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการบริหารการพัฒนา แด่ พระอาจารย์จีนคณาณัติจีนพรต (เย็นงี้) ณ วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ EZ WebmasterMay 10, 2024 สำนักการเรียนรู้ตลอดชีวิตพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KLLC) ภายใต้สังกัดสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดโครงการ DEP หลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล เพื่อคนพิการ สร้างงาน สร้างอาชีพ” โดยมี ผศ.ดร.ทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร เป็นหัวหน้าโครงการ พร้อมด้วย รศ.ดร.จรสวรรณ โกยวานิช ผู้อำนวยการ KLLC, คุณหญิง ดร. สุมาลี อุทัยเฉลิม… ซีเอ็มเอ็มยู เปิดผลวิจัยใหม่ถอดด้าม “การตลาดคนขี้เบื่อ” พร้อมเจาะ “พฤติกรรมขี้เบื่อคน 4 Gen” คลื่นลูกใหม่กระทบ “Brand Loyalty” โชว์เทคนิคช่วยแบรนด์ดึงคนเบื่อหวนภักดีต่อสินค้า – บริการ EZ WebmasterMay 10, 2024 วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU ชวนจับตา “ตลาดคนขี้เบื่อ” เทรนด์ธุรกิจใหม่มาแรงที่มาพร้อมโอกาส เผยผลสำรวจคนไทยมากกว่า 50% เป็นคนขี้เบื่อ พบ Gen Z ขี้เบื่อมากที่สุด และ “ดูหนังหรือโทรทัศน์” เป็นกิจกรรมแก้เบื่อยอดนิยมของคนทุก Gen รวมทั้งแนะกลยุทธ์สุดปังพิชิตใจคนขี้เบื่อ “BEAT” : Be specific, Extremely appealing, Amazed emotion, Too fun… LEARN to EARN เพราะชีวิต คือการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด “สุรพรชัย ธรรมศิริ” ว่าที่นักกายอุปกรณ์ ที่ไม่หยุดพัฒนาตนเอง เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ EZ WebmasterMay 10, 2024 เมื่อการเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดให้อยู่เพียงแค่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่เรียกว่าห้องเรียนอีกต่อไป แต่เป็นการเรียนรู้ที่ไม่รู้จบ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา หรือที่เรียกว่า Lifelong learning ที่จะทำให้ผู้เรียนรู้ นำประสบการณ์นั้นมาพัฒนาตัวเองได้มากขึ้น เมื่อโอกาสเปิดให้ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียมกันแล้ว ก็อยู่ที่แต่ละคนว่าจะค้นหาความเป็นตัวเองเพื่อจะไขว่คว้าหาความรู้เพื่อให้ตัวเอง “อยู่รอด” ได้ในโลกปัจจุบันที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรวดเร็วจนแทบจะตามกันไม่ทัน เหมือนอย่าง สิงห์ – สุรพรชัย… ทุนดีดี ขยายเวลารับทุนเรียนต่อป.โท ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว สหพันธรัฐรัสเซีย tui sakrapeeApril 24, 2024 ประกาศขยายเวลารับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว (Skolkovo Institute of Science and Technology: Skoltech) สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024) หลักสูตรภาษาอังกฤษ ตามที่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ… ม.เทคโนโลยีและการออกแบบแห่งสิงคโปร์ ให้ทุนคนไทยไปศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี tui sakrapeeApril 22, 2024 ประกาศ รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบ แห่งสิงคโปร์ (Singapore University of Technology and Design : SUTD) สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024)… รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH… ครู-อาจารย์ สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ EZ WebmasterMay 10, 2024 สำนักการเรียนรู้ตลอดชีวิตพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KLLC) ภายใต้สังกัดสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดโครงการ DEP หลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล เพื่อคนพิการ สร้างงาน สร้างอาชีพ” โดยมี ผศ.ดร.ทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร เป็นหัวหน้าโครงการ พร้อมด้วย รศ.ดร.จรสวรรณ โกยวานิช ผู้อำนวยการ KLLC, คุณหญิง ดร. สุมาลี อุทัยเฉลิม… สสวท. อบรมครูศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ชูสะเต็มศึกษานำร่องหนุนครูขยายผลสู่โรงเรียนทั่วประเทศ EZ WebmasterMay 10, 2024 รองศาสตราจารย์ ดร.ธีระเดช เจียรสุขสกุล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ สำหรับศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ประจำปี พ.ศ. 2567 พร้อมด้วย ดร.พรชัย อินทร์ฉาย รองผู้อำนวยการ สสวท. โดยมีโรงเรียนศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 30 ศูนย์จากทั่วประเทศและโรงเรียนสังเกตการณ์ 1 โรงเรียน จำนวนครู 124 คน ร่วมในการอบรม เพื่อนำหลักสูตรไปขยายผลให้ครูและโรงเรียนในระยะต่อไป ณ โรงแรมกราฟ… คณะแพทยศาสตร์ สจล. เปิดรับสมัครนักศึกษา ป.โท สาขาการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ) EZ WebmasterMay 9, 2024 คณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ขอเชิญผู้สนใจสมัครเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต(ปริญญาโท) สาขาการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ) ประจำปีการศึกษา 2567 ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และเศรษฐกิจสังคมในปัจจุบัน รวมทั้งความรู้และทักษะที่ช่วยให้ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถเป็นผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีด้านสุขภาพได้อย่างแท้จริง สำหรับคุณสมบัติผู้สมัครจะต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือเรียนในปีสุดท้ายของหลักสูตรปริญญาตรี สมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 15 พฤษภาคม 2567 ผ่านลงทะเบียนออนไลน์ที่ www.reg.kmitl.ac.th หรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://md.kmitl.ac.th/ การศึกษาไทยกำลังสิ้นหวัง ครูได้เงินเพิ่ม แต่PISA-โอเน็ต ‘ต่ำ’ EZ WebmasterMay 8, 2024 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม นายสมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า จากผลคะแนนสอบPISA และผลคะแนนสอบโอเน็ต ที่ร่วงเป็นราวหรือไม่เกิน 50% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องกระบวนการเรียนรู้เราไม่ได้แก้ไขอะไรเลย ซึ่งสวนทางกับเรื่องที่ครูได้รับเงินที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าตอบแทน ค่าตำแหน่ง วิทยฐานะที่สูงขึ้นตามลำดับ แต่คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของเด็กไม่ดีขึ้น… กิจกรรม ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน EZ WebmasterMay 3, 2024 ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี! ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ทาง www.vec.go.th… ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search EZ Webmaster April 24, 2023 EZ Webmaster April 24, 2023 สรุปความคิดเห็น 10 อันดับ! ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จัดอันดับ! ความคิดเห็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จากชุมชนชาว Eduzones สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ชุมชน Eduzones ของเรา ได้รวบรวมผลสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด? จาก โพล์ลการสำรวจความคิดเห็นด้านล่างนี้ https://www.facebook.com/interscholarship/posts/pfbid02on1d5jCx3N5E9uCkMLKMwWuDrHz1dZqdW2edy75RDnpRfiMDf3QTtX1sev5fdxSzl โดยเราได้รวบรวมผลจากการแสดงความคิดเห็นและได้จัดอันดับหมวดหมู่ออกเป็น 10 อันดับ ดังนี้ อันดับที่ 1 ประเทศสหรัฐอเมริกา ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นตัวเลือกแรกที่ขึ้นมาเมื่อคนต้องการไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ เพราะการศึกษาที่มีคุณภาพ และ เป็นที่นิยมสูงมากในหมู่นักเรียน ด้วยวิธีการสอน ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น การศึกษาสาย STEM คุณภาพที่มีอิสระ ที่จะเรียนในสาขาวิชาต่าง ๆ ในระดับปริญญาตรี ก่อนที่จะลง เรียนวิชาเอก นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกในการทำวิชาเอกสองครั้ง (รับปริญญาตรีในสองวิชาในเวลาเดียวกัน) ในระดับสูงกว่าปริญญาตรี และสามารถเลือกชั้นเรียนเพื่อให้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสาขาวิชาที่สนใจได้ มหาวิทยาลัยได้รับการยอมรับในระดับสากล อเมริกามีมหาวิทยาลัยมากกว่า 4,000 แห่ง ที่ เปิดสอน ระดับปริญญา ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เพราะความพร้อมในการเรียน ไม่ว่าจะเป็นความพร้อม ในด้านอุปกรณ์ที่ครบครัน และ ทันสมัย พร้อมด้วย พนักงานที่มีประสบการณ์มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ยังเป็น ผู้นำระดับโลก ด้าน การวิจัย เนื่องจากรัฐบาลใช้งบประมาณ จำนวนมากในการคิดค้นวิจัยนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมา การพัฒนาทักษะที่หลากหลาย เนื่องจากวิธีการสอนที่ยืดหยุ่นของประเทศ จะมีโอกาสได้พัฒนาทักษะความสามารถข้ามสาขาวิชาซึ่งจะช่วยให้โดดเด่นกว่าเพื่อน มหาวิทยาลัยอเมริกาจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถเริ่มเตรียมตัวสำหรับงานในฝันได้ตั้งแต่ปริญญาตรี และเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำในเกือบทุกสาขา เช่น เทคโนโลยี สื่อ และ ศิลปะ จนมีโอกาสมากมายเมื่อเริ่มมองหาการฝึกงานงานพาร์ทไทม์หรือประสบการณ์การทำงานหลังเรียนจบ ระบบการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติ อเมริกาสนับสนุนให้ความช่วยเหลือนักเรียนต่างชาติได้ดี จากมหาวิทยาลัยในอเมริกาจะช่วยเหลือนักศึกษาต่างชาติ ตั้งแต่ ปฐมนิเทศจนถึง สำเร็จการศึกษา สามารถ ไปที่สำนักงานนักศึกษาต่างชาติ ของ มหาวิทยาลัย ได้ตลอดเวลา เพื่อขอคำแนะนำที่ต้องการ มหาวิทยาลัยหลายแห่งยังให้ความช่วยเหลือโดยจัดโปรแกรม เพื่อ ช่วยนักศึกษาต่างชาติ ในการเขียนเชิงวิชาการ และ ปรับตัวเข้ากับระบบการศึกษาใหม่ ข้อนี้ทำให้หลาย ๆ คน ตัดสินใจได้ว่าทำไมต้องเป็นอเมริกา อันดับที่ 2 ประเทศอังกฤษ หากพูดถึงการเรียนต่อที่ต่างประเทศเชื่อว่า ‘อังกฤษ’ คือ Top of Mind ที่อยู่อันดับต้น ๆ ในใจของทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กไทยที่อยากไปศึกษาต่อ เพราะประเทศอังกฤษเป็นที่นิยม จากสถานที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมที่มีชื่อเสียงและได้รับการันตีว่าดีที่สุดในโลก รวมทั้งยังเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ได้เคยผลิตนักวิทยาศาสตร์ระดับตำนานในอดีต ไม่ว่าจะเป็น เซอร์ไอแซก นิวตัน นักฟิสิกส์ หรือ สตีเฟน ฮอว์คิง อัจฉริยะทางฟิสิกส์ พ่อแม่-ผู้ปกครอง จึงได้วางใจและคาดหวังว่าอังกฤษ จะมอบคุณภาพอันดีเยี่ยมเหล่านั้นให้แก่บุตร-หลาน ไม่เพียงแต่ด้านวิชาการ แต่ยังรวมไปถึง ความเป็นเลิศด้านดนตรี ศิลปะ และการเขียนอีกด้วย หลักสูตรอันเป็นประตูสู่ระดับ World-Class โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในประเทศอังกฤษ เสนอหลักสูตรที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพระดับสากล ที่ถือเป็นใบเบิกทางชั้นดีสู่การต่อยอดการศึกษาขั้นสูงและการทำงานยังประเทศชั้นนำอื่น ๆ ซึ่งอันได้แก่ IGCSE, International Baccalaureate Diploma, A-Levels ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้ เป็นสากลและได้รับการยอมรับจากประเทศอื่น ๆ เรียกได้ว่า เป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงให้แก่บุตร-หลานได้มากเลยทีเดียว ได้ภาษาอังกฤษที่ดีจากต้นกำเนิด ภาษาอังกฤษถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะเป็นภาษาที่คนใช้กันทั่วโลก สามารถใช้สื่อสารได้ในหลายๆ ประเทศ และใช้ต่อยอดในหน้าที่การงานในอนาคตได้ ซึ่งการไปเรียนที่ต่างประเทศ (โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ของประเทศอังกฤษ) มีข้อดีคือ เรื่องสำเนียงที่ถูกต้องแบบชาวบริติช และยังมีคอนเนคชั่นกับชาวต่างชาติ ปฎิเสธไม่ได้ว่าการไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษมีข้อดีที่เด่นชัดที่สุดคือเรื่องของภาษา ที่เป็นต้นตำรับ เชื่อได้ว่าทักษะภาษาอังกฤษจะดีขึ้นมากหากได้ลองไปเรียน หรือใช้ชีวิตอยู่ในประเทศต้นกำเนิด แนวทางการพัฒนาตัวเองที่หาไม่ได้จากที่อื่น เหตุผลอีกหนึ่งประการ ที่ถือเป็นสิ่งสำคัญ ในการศึกษาต่อประเทศอังกฤษ นั่นก็คือ แนวทางการพัฒนาตนเองที่เด็กจะได้รับ โรงเรียนมัธยมในอังกฤษ มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาศักยภาพนักเรียนของพวกเขา เพื่อพร้อมก้าวสู่โลกใบใหญ่และการเดินทางต่อในระดับมหาวิทยาลัย นอกจากนั้น สถาบันการศึกษาในอังกฤษยังสนับสนุนและแนะนำอย่างเต็มที่ ให้นักเรียนมีความมั่นใจ พร้อมจิตใจที่เปิดกว้าง และเปิดรับโอกาสที่ดีในอนาคต อันดับที่ 3 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หากจะบอกว่าสวิตเซอร์แลนด์ คือหนึ่งในประเทศที่คนไทยชื่นชอบมากที่สุดคงไม่แปลกนัก สังเกตได้จากคนไทยจำนวนมากที่ไปตั้งรกรากอยู่ที่นั่น รวมถึงเป็นดินแดนแห่งความสุขที่สามารถพบเจอรอยยิ้มของผู้คนได้แทบทุกเส้นทางบนถนน การมีโอกาสได้เรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์ จึงเป็นสิ่งที่นักเรียนไทยจำนวนมากใฝ่ฝันเอาไว้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากหากมีความตั้งใจ แม้ไม่ใช่ประเทศใหญ่ในยุโรป แต่เชื่อว่าความรู้ที่ได้บวกกับประสบการณ์ดี ๆ ในชีวิตมันช่างคุ้มค่ากับการเดินทางไปอย่างยิ่ง มหาวิทยาลัยชั้นนำ สวิสเซอร์แลนด์มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอยู่หลายแห่ง และมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประเทศสองแห่ง ได้แก่ EPFL และ ETH Zurich ยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 30 มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ใน The Times Higher Education (THE) World University Rankings นักศึกษามีความพึงพอใจกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูงในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศและส่วนใหญ่จะชื่นชอบคุณภาพการสอนในแต่ละหลักสูตรเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปแล้ว มหาวิทยาลัยของสวิสเซอร์แลนด์มีชื่อเสียงด้านการเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นชาวสวิสหรือนักศึกษาต่างชาติที่เรียนในสถาบันที่สวิสเซอร์แลนด์ ก็จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนายจ้าง ระบบการศึกษาคุณภาพระดับโลก ระบบการศึกษาของสวิตเซอร์แลนด์เป็นอีกหนึ่งอย่างที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้าน “การโรงแรม” เนื่องจากประเทศแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกันอย่างมากมาย ดังนั้นธุรกิจด้านโรงแรมจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจและน่าเรียน ทำให้มีสถาบันการศึกษาเปิดสอนทางด้านโรงแรมโดยเฉพาะ และยังถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของวิชาการด้านการโรงแรม เพราะมีหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ และยังมีสอนภาษาที่ 3 ได้แก่ เยอรมัน และ ฝรั่งเศส ที่เป็นหนึ่งภาษาทางการของสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับการเรียนการสอนการโรงแรมของสวิตเซอร์แลนด์ เน้นทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ โดยมีการฝึกงานจริงและยังได้รับค่าจ้าง โดยที่นักเรียนจะไม่ได้ถูกส่งไปฝึกงานเฉพาะในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น แต่ยังถูกส่งไปฝึกงานที่ต่างประเทศด้วย โอกาสแห่งการเรียนรู้ภาษา สวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นสถานที่ที่ดีในการเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เป็นการช่วยเพิ่มตัวเลือกด้านอาชีพหลังจบการศึกษาได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเยอรมนีมีฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปซึ่งเต็มไปด้วยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ได้แก่ การธนาคาร การผลิต และมีโปรแกรมการฝึกอบรมนักศึกษาฝึกงานที่ยอดเยี่ยม ภาษาฝรั่งเศสยังเป็นอีกหนึ่งภาษาที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพในธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งภาษาฝรั่งเศสนั้นเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นอันดับสองในสหภาพยุโรป และเป็นภาษาราชการของ 29 ประเทศทั่วโลก เช่น แคนาดา เบลเยียม และมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตในแอฟริกา เช่น แทนซาเนีย รวันดา และโมซัมบิก เป็นต้น อันดับที่ 4 ประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ได้รับการจัดอันดับว่าเป็น ประเทศที่มีความสงบสุขมากที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 2 โดยพิจารณาจากรายได้ การศึกษา และระดับของการรวมกลุ่มในระดับภูมิภาค, ความโปร่งใสในระดับสูงของรัฐบาลและการทุจริตต่ำ, ความมีเสถียรภาพ อีกทั้งยังมีความก้าวหน้าทางสังคมอย่างแท้จริง โดยประเทศที่ปลอดภัยแห่งนี้ยังมีระบบการศึกษาระดับโลกและการดูแลสุขภาพขั้นสูง ชาวกีวีได้รับการดูแลสุขภาพฟรีจากรัฐ หรือมีค่าใช้จ่ายต่ำในกรณีเจ็บป่วย และเงินสนับสนุนจากรัฐบาลในกรณีว่างงาน เนื่องด้วยปัญหาอาชญกรรมที่น้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทำให้นักเรียนของประเทศนิวซีแลนด์สามารถโฟกัสในเรื่องเรียนเพียงอย่างเดียว และสนุกสนานกับกิจกรรมต่าง ๆ นอกห้องเรียนไปด้วย มาตรฐานการศึกษาระดับสากล ประเทศนิวซีแลนด์มีมาตรฐานในระดับสากล มหาวิทยาลัยทั้ง 8 แห่งของนิวซีแลนด์อยู่ในอันดับ Top 3% ของโลก อีกทั้งนิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับโดย The Economist, Intelligence Unit (Worldwide Educating for the Future Index), 2018 ให้เป็นอันดับที่ 1 ในการเตรียมความพร้อมนักเรียนสู่อนาคต ด้วยความสามารถในการปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้เหมาะกับภาคอุตสาหกรรมและสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ความสามารถของครูและบุคคลากร นโยบายภาครัฐ ความร่วมมือร่วมใจกันของรัฐบาลและภาคเอกชน ความสามารถในการให้คำปรึกษาถึงอาชีพในอนาคตตั้งแต่ในระดับโรงเรียน และความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่แตกต่างแต่อยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว การต้อนรับอย่างอบอุ่น นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากกว่า 100 เชื้อชาติทั่วโลก ชาวนิวซีแลนด์ล้วนเป็นมิตรและพร้อมต้อนรับนักเรียนต่างชาติด้วยความอบอุ่นและความเข้าใจ ตามคำกล่าวของชาวเมารีที่ว่า “Manaakitanga” แปลว่า การเคารพและดูแลผู้ที่อยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจ มีน้ำใจ เอื้ออาทรและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เรียนรู้จากการเรียนและการเล่น ประเทศนิวซีแลนด์ไม่ได้เน้นเฉพาะในด้านของการเรียนเพียงเท่านั้น การเรียนเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของการเรียนในห้องเรียนและการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ซึ่งได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่า เป็นการเรียนที่ดีที่สุดในโลก Study Life Balance โดยนักเรียนสามารถเลือกเรียนในเมืองชนบทที่สวยงามของนิวซีแลนด์ ที่ตั้งไม่ไกลจากเมืองมากนัก หากต้องการช้อปปิ้งหรือสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ก็สามารถเดินทางไปในเมืองใหญ่ได้ไม่ยาก สันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่สงบสุขอันดับ 2 ของโลก (อ้างอิงจาก Global Peace Index,2018) การเรียนในประเทศนิวซีแลนด์นักเรียนจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบ การเมืองที่มีเสถียรภาพและยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทุจริตคอรัปชั่นน้อยที่สุดในโลกอีกด้วย อันดับที่ 5 ประเทศแคนาดา ประเทศแคนาดาจัดได้ว่าเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก หลาย ๆ สถาบันในแคนาดามีชื่อเสียง มีคุณภาพในด้านการเรียนการสอนสูง มีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ใบปริญญาหรือ certificate ต่าง ๆ จากสถาบันและมหาวิทยาลัยในประเทศแคนาดาจึงเป็นตัวการันตีได้ว่าได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ นักศึกษาที่จบจากประเทศแคนาดาจึงมีโอกาสดีที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มาตรฐานการสอนของครู – อาจารย์ หนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศแคนาดาประสบความสำเร็จทางด้านการศึกษาก็คือความสามารถของตัวอาจารย์ผู้สอนที่ให้ความรู้กับนักเรียน ผู้ที่จะมาทำอาชีพครูผู้สอนที่แคนาดาได้ต้องผ่านการคัดกรองมาเป็นอย่างดี โดยแต่ละเมืองจะมีรูปแบบการประเมินผลของตนเอง เช่น การวัดผลที่ผู้สอนต้องผ่านการประเมินทั้งด้านความรู้ในการสอนสาขาวิชานั้น การสอนในภาคปฏิบัติและการปรับตัวกับสังคมแห่งการเรียนรู้ และการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมพร้อมพัฒนาศาสตร์ความรู้ของตนในฐานะของผู้สอน เป็นต้น อาจารย์ของเมืองนั้นจะต้องผ่านหลักสูตรที่กำหนดโดยก่อนเพื่อให้ได้ใบประกาศนียบัตรเพื่อใช้แสดงตนเป็นผู้สอนของเมืองนั้น สถาบันการศึกษาของประเทศแคนาดาจึงขึ้นชื่อในการรักษามาตรฐานคุณภาพการศึกษา เพราะแต่ละสถาบันจะไม่รับอาจารย์ที่ไม่ผ่านการรับรองจากหลักสูตรผู้สอนในประเทศมาเป็นอาจารย์ของสถาบัน และแต่ละเมืองจะมีความเคร่งครัดที่ต่างกันไป เพราะอาจารย์พูดสอนต้องสอบประเมินผลใหม่เมื่อจะย้ายไปสอนในอีกเมือง หนึ่งในระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก แคนาดาหนึ่งในประเทศที่ได้สร้างชื่อเสียงด้านการศึกษาจากการวัดผลในโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment) หรือ PISA ได้จัดให้แคนาดาอยู่ในกลุ่มที่ 10 ประเทศที่เยาวชนมีผลการเรียนเป็นเลิศ เพราะทางรัฐบาลของประเทศแคนาดาให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษามาก มาตรฐานการศึกษาของแคนาดาเป็นที่ยอมรับในระดับโลก นักศึกษาต่างชาติที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยของแคนาดา จึงประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในหน้าที่การงานจากมาตรฐานการศึกษาที่สูงพร้อมประสบการณ์มากมายที่ได้ฝึกฝนในระหว่างนั้น ระบบการเรียนสองภาษา ประเทศแคนาดามีระบบการเรียนการสอนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยผู้เรียนจะต้องเข้าเรียนในชั้นเรียนด้วยภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก และเข้าเรียนในภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่สอง เพราะประเทศแคนาดามี 2 ภาษาราชการ นักเรียนต่างชาติที่เข้าระบบการศึกษาของแคนาดาจึงมีทางเลือกในการเรียนต่อที่จะได้ฝึกทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 59% และมีภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 23% นอกจากนั้นกว่า 18% ของประชากรในแคนาดามีมากกว่าหนึ่งภาษาแม่ ขึ้นอยู่กับประเทศสัญชาติเดิมของผู้อพยพที่ได้เดินทางเข้าไปยังประเทศแคนาดา ภาษาอื่นที่เป็นที่นิยมในประเทศแคนาดา ได้แก่ ภาษาจีน ภาษาสเปน ภาษาอารบิก และ ภาษาตากาล็อก เป็นต้น อันดับที่ 6 ประเทศออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลียถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติหลาย ๆ คน ด้วยเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง สิทธิ์การทำงานสำหรับผู้จบการศึกษาใหม่มีมาก ชีวิตความเป็นอยู่สบาย และระบบการ ศึกษาคุณภาพสูง จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเศรษฐกิจของออสเตรเลียยังคงมีความแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยมีอัตราการว่างงานและเงินเฟ้อต่ำ จากเมืองที่น่าอยู่ที่สุด 10 อันดับแรกของโลก อยู่ในออสเตรเลียถึง 4 เมือง คือเมลเบิร์นอันดับหนึ่ง! ส่วนอีกสามเมืองได้แก่ แอดิเลด ซิดนีย์ และเพิร์ท โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ เสถียรภาพ การดูแลสุขภาพ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษา เน้นการเรียนรู้แบบ Real-world Learning ผลการสำรวจงานวิจัยยืนยันว่าผลการเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้นและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ระบบการเรียนของออสเตรเลียมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพสูงประกอบกับการศึกษาที่เน้นการเรียนรู้ในโลกของความเป็นจริงมากขึ้น โดยเน้นการเรียนแบบภาคปฏิบัติควบคู่กับความรู้เชิงทฤษฎีเพื่อให้ผู้เรียนได้นำความรู้ไปใช้ได้จริงถือเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนให้สอดคล้องกับการทำงานในภาคอุตสาหกรรมไปจนถึงการประกอบอาชีพในอนาคต มาตรฐานคุณภาพแบบขั้นสูง ออสเตรเลียมีหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบและคุณภาพระดับประเทศสำหรับการศึกษาชั้นสูง – Tertiary Education Quality and Standards Agency (TEQSA) ก่อตั้งขึ้นโดยหน่วยรัฐบาลออสเตรเลียเพื่อควบคุมคุณภาพและกำกับดูแลสถานศึกษาชั้นสูงที่เป็นมหาวิทยาลัยและที่ไม่ใช่มหาวิทยาลัย โดยมีชุดมาตรฐานที่พัฒนาขึ้นโดยหน่วยงานอิสระ Higher Education Standards Panel นอกจากนี้ กฎหมาย Education Services for Overseas Student (ESOS) ยังคุ้มครอง สวัสดิภาพของนักเรียนต่างชาติ คุณภาพประสบการณ์การศึกษาของนักเรียน รวมถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน อีกด้วย LGBTQ+ friendly มีความหลากหลายทางเพศ นอกจากความหลากหลายทางวัฒนธรรม ออสเตรเลียยังให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศสภาพ ถือเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ค่อนข้างยอมรับความหลากหลายทางเพศอย่างชัดเจน โดยมีกฎหมายสนับสนุนสิทธิเสรีภาพและความหลากหลายทางเพศ อาทิเช่น การยอมรับการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน (Same-Sax Marraige) ที่ประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2017 รวมถึงการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมโดยเพศเดียวกันก็ถูกรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ที่ออสเตรเลียมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายทั้งการเดินขบวน การเฉลิมฉลอง การจัดประกวด อีเวนท์ เพื่อเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือและผลักดันชาว LGBTQ+ ในสังคมอย่างต่อเนื่อง อันดับที่ 7 ประเทศเยอรมณี เยอรมนีอีกหนึ่งประเทศที่กำลังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเรียนต่างชาติ มีประชากรนักเรียน นักศึกษาต่างชาติจำนวนมากเป็นอันดับสามรองจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ระบบการศึกษาที่สูงขึ้นของเยอรมนีถือเป็นอีกหนึ่งในระบบที่ดีที่สุดของโลก มหาวิทยาลัยหลายแห่งติดอันดับหนึ่งใน 100 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก นอกจากทักษะภาษาที่จะได้เพิ่มมาแล้ว ยังทำให้ได้รู้จักเพื่อน ๆ ต่างชาติ ได้เปิดมุมมองเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง รวมถึงอิทธิพลของภาษา ที่ส่งผลต่อความคิด ทัศนคติ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เป็นการได้ทั้ง ปริญญาจากมหาวิทยาลัย และปริญญาทางการเรียนรู้โลกใหม่ ในการเปิดประสบการณ์ และโลกที่กว้างขึ้น ทั้งภาษา วัฒนธรรม สังคม เพื่อน และการใช้ชีวิตอีกด้วย โอกาสทางการศึกษา (ค่าเล่าเรียนไม่แพงสำหรับการศึกษาต่อ) การศึกษาในประเทศเยอรมันนับได้ว่ามีมาตรฐานที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ที่สำคัญค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยในประเทศเยอรมนีก็ยังไม่แพง (หรือในบางรัฐยังมีค่าเทอมที่ฟรีอยู่) เมื่อเทียบกับในประเทศอังกฤษหรือสหรัฐอเมริกา ทำให้ค่าใช้จ่ายหลักจริง ๆ ในการเรียนตกอยู่ที่ค่าเช่าบ้านและค่ากินเท่านั้น การเรียนภาษาเยอรมันเพื่อเตรียมตัวเรียนต่อนั้นจึงนับเป็นการลงทุนทางการศึกษาที่คุ้มค่า นับว่าหลังเรียนจบมีตลาดแรงงานที่ขาดแคลนแรงงานให้หางานทำต่อ จึงนับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากเลยทีเดียว ภาษาเยอรมันมีคุณค่าทางวิชาการ ภาษาเยอรมันนับเป็นภาษาที่มีความสำคัญอย่างมากในวงการวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม การบริหารและในวงการต่าง ๆ เพราะประเทศเยอรมันเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของอิทธิพลนวัตกรรมการค้นคว้าวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ จนทำให้มีบริษัทเยอรมันขนาดใหญ่จำนวนมากสามารถขยายกิจการไปได้ทั่วโลก และนอกจากงานวิจัยต่าง ๆ หรือหนังสือทางวิชาการแล้ว ยังมีอีกหลายบทความหรือหลายการวิจัยที่สามารถพบได้ในภาษาเยอรมันเท่านั้น นอกจากนี้การศึกษาต่อที่เยอรมันก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะคุณภาพของมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก และค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อที่น้อยมากเรียกได้ว่าแทบเรียนฟรี และยังมีโอกาสดี ๆ อีกมากมายที่จะได้รับหลังจากที่จบการศึกษาที่เยอรมัน คุณภาพชีวิตดี สิ่งแวดล้อมหลากหลาย ชีวิตความเป็นอยู่ของนักเรียนต่างชาติในเยอรมันถูกรายล้อมไปด้วยวัฒนธรรม แสงเสียง ดนตรี ศิลปะที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง เช่น ตามเมืองใหญ่ ๆ ของเยอรมันอย่าง เแบร์ลิน มิวนิค ฮัมบวก จะมีทุกอย่างที่ตอบสนองความต้องการในใช้ชีวิตของนักเรียนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าอะไรที่น่าสนใจ ก็จะเจอคนที่สนใจสิ่งเดียวกัน หรือสถานที่ การรวมกลุ่มที่ตอบสนองความสนใจนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังหาทางเข้าร่วมได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น กีฬา การเมือง ประวิติศาสตร์ หรือศิลปะ รวมถึงวัฒนธรรมที่หลากหลาย เนื่องจากคอร์สเรียนต่าง ๆ ที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ มีค่าใช้จ่ายที่ประหยัด ทำให้นักเรียนจากทั่วโลกหลั่งไหลมาอยู่ที่นี่ อันดับที่ 8 ประเทศฟินแลนด์ ระบบการศึกษาของประเทศ ฟินแลนด์ เน้นที่การเรียนรู้ผ่านการ “เล่น” เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ มากกว่าการเรียนแบบท่องจำและนำไปสอบ เพราะเชื่อว่าการเรียนการสอนแบบนี้จะทำให้นักเรียนเรียนรู้ได้ดีจากการลงมือทำ มากกว่าการท่องจำข้อความที่ไม่จำเป็นจากหนังสือ และจะทำให้เด็กเกิดการพัฒนามากกว่าการแข่งขันกัน แทบจะไม่ได้ให้การบ้านเด็ก ๆ เพราะให้ความสำคัญนอกห้องเรียนมากกว่า นอกจากนี้จำนวนชั่วโมงเรียนก็น้อยลง หากเทียบกับนักเรียนจากส่วนอื่น ๆ ของโลก โดยเฉลี่ยเพียงวันละ 3 ชั่วโมง 45 นาทีเท่านั้น เพราะต้องการสนับสนุนให้นักเรียนให้มีชีวิตนอกโรงเรียน ได้ “เรียนรู้” มากกว่า “เรียน” ดังนั้น การได้มีสังคม มีกิจกรรม หรือสนุกกับกีฬา จึงเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ที่ดีที่สุด เป็นที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุด จากผลการสำรวจพบว่าประเทศฟินแลนด์ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพชีวิต ความมั่นคงของภาพรวม และการศึกษาอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเป็นประเทศที่มีความสุขเป็นอันดับสองของโลก ผลการวัดระดับ Programme for International Student Assessment (PISA) ของนักเรียนชาวฟินแลนด์ก็อยู่ในระดับดีมาตลอด ไม่ได้มีเพียงคุณภาพชีวิตและการศึกษาที่ดีที่ชาวฟินแลนด์ภาคภูมิใจเท่านั้น ประเทศฟินแลนด์ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่มีนวัตกรรมที่มีอิทธิพลในระดับโลกสูงและมีความเป็นมิตรต่อธรรมชาติ ด้วยคะแนนที่อยู่ในระดับสูงเหล่านี้ จึงไม่แปลกใจที่ฟินแลนด์จะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลก บรรยากาศนานาชาติ กระแสโลกาภิวัฒน์ที่กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ นักเรียนต่างชาติสามารถเข้าไปทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในบริษัทของชาวฟินแลนด์ที่ต้องการขยายตลาดออกไปยังต่างประเทศ ประเทศฟินแลนด์ยังมีความต้องการผู้ทำงานสายสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังคาดการณ์ว่าประเทศฟินแลนด์จะเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานเมื่อประชากรกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ที่เกิดหลังสงครามโลกเกษียณ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะไปเรียนต่อและบุกเบิกการทำงานต่อหลังเรียนจบ ฟินแลนด์ยังคงเป็นประเทศที่ยอดเยี่ยมสำหรับการไปเรียน ทำงาน และสร้างครอบครัวอีกด้วย ไม่มีการสอบวัดผลแบบ Standardized Test ระบบการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ไม่มีการทดสอบเพื่อวัดผล เพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้ผลสอบเพื่อขึ้นระดับชั้นที่สูงขึ้นหรือแข่งขันกัน เพราะเชื่อว่า การทำแบบนั้น จะทำให้นักเรียนมุ่งเน้นเรื่องเรียนเพื่อสอบเพียงอย่างเดียว ไม่ได้เน้นที่จะเรียนรู้อย่างแท้จริง อันดับที่ 9 ประเทศอินเดีย ประเทศอินเดีย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เหมาะกับการไปเรียนต่อมากที่สุด แต่คนไทยส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยจะนึกถึงกันสักเท่าไหร่ เป็นอีกหนึ่งในประเทศที่มีสถาบันทางการศึกษาที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับให้เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากอเมริกา และ จีน จึงมีหลักสูตรที่หลากหลายทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ โดยมีหลักสูตรยอดนิยมของนักเรียนชาวต่างชาติ เช่น วิศวกรรมศาสตร์ บริหารธุรกิจ การแพทย์ และศิลปศาสตร์ นอกจากนี้ อินเดียยังขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์อันดับต้น ๆ ของโลก การผสมผสานด้านการศึกษา การศึกษาแบบอินเดียได้รับอิทธิพลจากชาวอังกฤษผสมผสานกับปรัชญาดั้งเดิมแบบฮินดู พุทธ มุสลิมและแบบเปอร์เซียเข้าไว้ด้วยกัน โดยถูกถ่ายทอดจากอาจารย์ผ่านความเป็น กูรู จึงไม่แปลกนักที่ศิษย์เก่าต่างชาติอินเดียจำนวนมากจะได้รับการยอมรับ อาทิ อองซาน ซูจี (ผู้นำประชาธิปไตยของพม่า จบด้านรัฐศาสตร์จากเดลี) H.E. Le Luong Minh (เลขาธิการอาเซียนคนปัจจุบันชาวเวียดนาม จบโทจาก JNU) เป็นต้น รวมถึงนักเรียนจากมหาวิทยาลัยในอินเดีย ต่างได้รับการตอบรับเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วโลก .. นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ชาวอินเดียหลายท่านยังได้รับการยอมรับในระดับโลก เช่น Partha Chatterjee จากมหาวิทยาลัยกัลกัตตา นักวิชาการแนวหน้าด้าน Subaltern Studies อีกด้วย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ประเทศอินเดียถือเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาการคอมพิวเตอร์อันดับต้นของโลก ไฮเดอราบาด หรืออีกชี่อคือ Cyberabad ถูกขนามนามให้เป็นซิลลิคอนวัลเลย์ของเอเชียเมืองบังกาลอว์เป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์มือฉมังของโลก นอกจากนี้อินเดียยังสามารถส่งกระสวยอวกาศไปยังดาวอังคารได้เป็นผลสำเร็จ รวมถึงขีปนาวุธอัคนีที่มีพิสัยไกลถึง 5,000 กิโลเมตร เล็งไปที่จีนก็สามารถยิงไปยังทุกเมืองใหญ่ของชาวจีน ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของอินเดียย่อมเป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นดีสำหรับนักเรียนสายวิทยาศาสตร์ ประสบการณ์นอกห้องเรียน อินเดียประเทศแห่งอารยธรรมที่สำคัญของโลก มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น ทัชมาฮาล รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย ตั้งแต่ทะเลทรายไปจนถึงท้องทะเลอันงดงาม มีโอกาสได้เรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมที่มีความหลากหลายอยู่สูง รวมถึงได้ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ และเรียนรู้เรื่องราววัฒนธรรม อีกทั้งยังมีการพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวผ่อนคลายนอกสถานที่ มีประเพณี วัฒนธรรม วันหยุด ที่คล้ายกับของประเทศไทย ขณะที่นักศึกษาต่างชาติที่มาเรียนต่อมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่จะมีโฮสเทล อยู่ภายในมหาวิทยาลัย เหมาะสำหรับให้นักศึกษาได้พักอาศัยส่วนตัว อันดับที่ 10 ประเทศสิงคโปร์ สิงคโปร์ นิยามของคำว่า “ตะวันออกพบกับตะวันตก” ถือว่าเหมาะกับนักเรียนที่ชอบความแปลกใหม่ของวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เต็มไปด้วยการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัว ในส่วนของการศึกษา สิงค์โปร์ก็เป็นอีกหนึ่ง Destination ที่ผู้คนจากทั่วโลกให้ความสนใจเดินทางไปเรียนต่อ เพราะมีการมุ่งเน้นความรู้ทางวิชาการอย่างตรงจุดคือความรู้ในแต่ละระดับ ส่วนทักษะรอบด้าน คือ การพัฒนาทักษะอื่น ๆ จากการเข้าชมรม ซึ่งชาวสิงคโปร์จะเรียกว่า CCA ซึ่งมีความจริงจังในการพัฒนาทักษะแต่ละอย่างเป็นอย่างมากเพื่อเก็บให้เป็น Portfolio ได้ เช่น ชมรมกีฬา ชมรมประสานเสียง ก็จะมีการซ้อมในทุก ๆ อาทิตย์และพาไปแข่งขันอย่างจริงจัง เมืองในฝัน สิงคโปร์ข้นชื่อได้ว่า “เมืองในสวน หรือ City in the Garden” หากใครเคยไปสิงคโปร์จะเห็นว่าทุกตารางนิ้วของประเทศเล็ก ๆ เต็มด้วยพื้นที่สีเขียวสบายตา คงไม่ต้องแปลกใจเพราะนี่คือวิสัยทัศน์ที่ทำให้ชาวต่างชาติทั้งอาเซียน และทวีปอื่น ๆ อยากมาใช้ชีวิตที่นี่ จะได้พบกับคนมากหน้าหลายตา หลายชนชาติ ส่งผลให้เป็นเมืองที่นอกจะรวยในพื้นที่สีเขียว ยังรวยวัฒนธรรม นอกจากนี้สิงค์โปร์ยังได้รับการยกย่องจาก The Economist Intelligence Unit ว่าเป็นอันดับ 1 ในด้าน Personal Security และ Infrastructure Security จึงสบายใจได้เลยว่า การเข้าไปเรียนในประเทศที่มีความปลอดภัยสูง ทำให้โฟกัสกับการเรียนและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยทางด้านร่างกายและทรัพย์สิน ระบบการศึกษายอดเยี่ยม ประเทศสิงคโปร์หนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดแห่งของโลก มีความหลากหลายทางหลักสูตรและมหาวิทยาลัยทั้งของภาครัฐและเอกชน ขณะเดียวกันยังมีสถาบันการศึกษาจำนวนมากที่เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ทางการศึกษากับมหาวิทยาลัยต่างชาติเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการศึกษาเพิ่มขึ้น อาทิ หลักสูตรการศึกษาข้ามพรมแดน Transnational Education. เป็นต้น โอกาสในการทำงาน เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการแข่งขันและเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ทำให้นักศึกษาที่เรียนจบมีโอกาสได้ฝึกงานหรือร่วมงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลก นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของบริษัทชั้นนำของโลกในเอเชีย อย่าง Google, Netflix, Microsoft ฯลฯ การขอวีซ่าทำงานในสิงคโปร์นายจ้างต้องทำเรื่องให้ก่อน แต่ข้อได้เปรียบของการมาเรียนในสิงคโปร์ก็คือจะมีโอกาสได้ฝึกงานก่อน (โดยใช้วีซ่าของนักเรียน) จากนั้นก็จะมีโอกาสต่อยอดเพื่อไปทำงานได้นั่นเอง ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นบางส่วนจากชาวชุมชน Eduzones จากโพล์ลการสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด และกลายเป็นประเทศยอดฮิตในแวดวงการศึกษาต่อของเหล่านักเรียนต่างชาติในหลายประเทศ ส่วนเหตุผลข้อต่อ ๆ ไปจะมีอะไรบ้าง อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของตัวเองภายใต้โพสต์นี้ แม้จะเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูงสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ แต่เชื่อว่าประสบการณ์ชีวิตที่จะได้รับกลับไปต้องมีค่ามากกว่าอย่างแน่นอน EZ Webmaster Related Posts 40 ปี ม.รังสิต ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ ชูหัวใจ คือ นักศึกษา เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ ซีเอ็มเอ็มยู เปิดผลวิจัยใหม่ถอดด้าม “การตลาดคนขี้เบื่อ” พร้อมเจาะ “พฤติกรรมขี้เบื่อคน 4 Gen” คลื่นลูกใหม่กระทบ “Brand Loyalty” โชว์เทคนิคช่วยแบรนด์ดึงคนเบื่อหวนภักดีต่อสินค้า – บริการ มศว ประกาศการปรับจำนวนการรับ TCAS รอบที่ 3 (Admission) เพิ่ม LEARN to EARN เพราะชีวิต คือการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด “สุรพรชัย ธรรมศิริ” ว่าที่นักกายอุปกรณ์ ที่ไม่หยุดพัฒนาตนเอง เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ Post navigation PREVIOUS Previous post: รองอธิการบดีสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา ร่วมแถลงข่าวการจัดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ในโอกาสเฉลิมฉลอง 100 ปีประสูติNEXT Next post: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา จัดพิธีถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการบริหารการพัฒนา แด่ พระอาจารย์จีนคณาณัติจีนพรต (เย็นงี้) ณ วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
ซีเอ็มเอ็มยู เปิดผลวิจัยใหม่ถอดด้าม “การตลาดคนขี้เบื่อ” พร้อมเจาะ “พฤติกรรมขี้เบื่อคน 4 Gen” คลื่นลูกใหม่กระทบ “Brand Loyalty” โชว์เทคนิคช่วยแบรนด์ดึงคนเบื่อหวนภักดีต่อสินค้า – บริการ EZ WebmasterMay 10, 2024 วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU ชวนจับตา “ตลาดคนขี้เบื่อ” เทรนด์ธุรกิจใหม่มาแรงที่มาพร้อมโอกาส เผยผลสำรวจคนไทยมากกว่า 50% เป็นคนขี้เบื่อ พบ Gen Z ขี้เบื่อมากที่สุด และ “ดูหนังหรือโทรทัศน์” เป็นกิจกรรมแก้เบื่อยอดนิยมของคนทุก Gen รวมทั้งแนะกลยุทธ์สุดปังพิชิตใจคนขี้เบื่อ “BEAT” : Be specific, Extremely appealing, Amazed emotion, Too fun… LEARN to EARN เพราะชีวิต คือการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด “สุรพรชัย ธรรมศิริ” ว่าที่นักกายอุปกรณ์ ที่ไม่หยุดพัฒนาตนเอง เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ EZ WebmasterMay 10, 2024 เมื่อการเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดให้อยู่เพียงแค่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่เรียกว่าห้องเรียนอีกต่อไป แต่เป็นการเรียนรู้ที่ไม่รู้จบ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา หรือที่เรียกว่า Lifelong learning ที่จะทำให้ผู้เรียนรู้ นำประสบการณ์นั้นมาพัฒนาตัวเองได้มากขึ้น เมื่อโอกาสเปิดให้ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียมกันแล้ว ก็อยู่ที่แต่ละคนว่าจะค้นหาความเป็นตัวเองเพื่อจะไขว่คว้าหาความรู้เพื่อให้ตัวเอง “อยู่รอด” ได้ในโลกปัจจุบันที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรวดเร็วจนแทบจะตามกันไม่ทัน เหมือนอย่าง สิงห์ – สุรพรชัย…
LEARN to EARN เพราะชีวิต คือการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด “สุรพรชัย ธรรมศิริ” ว่าที่นักกายอุปกรณ์ ที่ไม่หยุดพัฒนาตนเอง เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ EZ WebmasterMay 10, 2024 เมื่อการเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดให้อยู่เพียงแค่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่เรียกว่าห้องเรียนอีกต่อไป แต่เป็นการเรียนรู้ที่ไม่รู้จบ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา หรือที่เรียกว่า Lifelong learning ที่จะทำให้ผู้เรียนรู้ นำประสบการณ์นั้นมาพัฒนาตัวเองได้มากขึ้น เมื่อโอกาสเปิดให้ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียมกันแล้ว ก็อยู่ที่แต่ละคนว่าจะค้นหาความเป็นตัวเองเพื่อจะไขว่คว้าหาความรู้เพื่อให้ตัวเอง “อยู่รอด” ได้ในโลกปัจจุบันที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรวดเร็วจนแทบจะตามกันไม่ทัน เหมือนอย่าง สิงห์ – สุรพรชัย…
ขยายเวลารับทุนเรียนต่อป.โท ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว สหพันธรัฐรัสเซีย tui sakrapeeApril 24, 2024 ประกาศขยายเวลารับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกลโกโว (Skolkovo Institute of Science and Technology: Skoltech) สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024) หลักสูตรภาษาอังกฤษ ตามที่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ… ม.เทคโนโลยีและการออกแบบแห่งสิงคโปร์ ให้ทุนคนไทยไปศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี tui sakrapeeApril 22, 2024 ประกาศ รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบ แห่งสิงคโปร์ (Singapore University of Technology and Design : SUTD) สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024)… รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH… ครู-อาจารย์ สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ EZ WebmasterMay 10, 2024 สำนักการเรียนรู้ตลอดชีวิตพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KLLC) ภายใต้สังกัดสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดโครงการ DEP หลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล เพื่อคนพิการ สร้างงาน สร้างอาชีพ” โดยมี ผศ.ดร.ทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร เป็นหัวหน้าโครงการ พร้อมด้วย รศ.ดร.จรสวรรณ โกยวานิช ผู้อำนวยการ KLLC, คุณหญิง ดร. สุมาลี อุทัยเฉลิม… สสวท. อบรมครูศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ชูสะเต็มศึกษานำร่องหนุนครูขยายผลสู่โรงเรียนทั่วประเทศ EZ WebmasterMay 10, 2024 รองศาสตราจารย์ ดร.ธีระเดช เจียรสุขสกุล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ สำหรับศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ประจำปี พ.ศ. 2567 พร้อมด้วย ดร.พรชัย อินทร์ฉาย รองผู้อำนวยการ สสวท. โดยมีโรงเรียนศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 30 ศูนย์จากทั่วประเทศและโรงเรียนสังเกตการณ์ 1 โรงเรียน จำนวนครู 124 คน ร่วมในการอบรม เพื่อนำหลักสูตรไปขยายผลให้ครูและโรงเรียนในระยะต่อไป ณ โรงแรมกราฟ… คณะแพทยศาสตร์ สจล. เปิดรับสมัครนักศึกษา ป.โท สาขาการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ) EZ WebmasterMay 9, 2024 คณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ขอเชิญผู้สนใจสมัครเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต(ปริญญาโท) สาขาการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ) ประจำปีการศึกษา 2567 ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และเศรษฐกิจสังคมในปัจจุบัน รวมทั้งความรู้และทักษะที่ช่วยให้ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถเป็นผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีด้านสุขภาพได้อย่างแท้จริง สำหรับคุณสมบัติผู้สมัครจะต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือเรียนในปีสุดท้ายของหลักสูตรปริญญาตรี สมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 15 พฤษภาคม 2567 ผ่านลงทะเบียนออนไลน์ที่ www.reg.kmitl.ac.th หรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://md.kmitl.ac.th/ การศึกษาไทยกำลังสิ้นหวัง ครูได้เงินเพิ่ม แต่PISA-โอเน็ต ‘ต่ำ’ EZ WebmasterMay 8, 2024 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม นายสมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า จากผลคะแนนสอบPISA และผลคะแนนสอบโอเน็ต ที่ร่วงเป็นราวหรือไม่เกิน 50% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องกระบวนการเรียนรู้เราไม่ได้แก้ไขอะไรเลย ซึ่งสวนทางกับเรื่องที่ครูได้รับเงินที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าตอบแทน ค่าตำแหน่ง วิทยฐานะที่สูงขึ้นตามลำดับ แต่คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของเด็กไม่ดีขึ้น… กิจกรรม ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน EZ WebmasterMay 3, 2024 ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี! ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ทาง www.vec.go.th… ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search EZ Webmaster April 24, 2023 EZ Webmaster April 24, 2023 สรุปความคิดเห็น 10 อันดับ! ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จัดอันดับ! ความคิดเห็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จากชุมชนชาว Eduzones สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ชุมชน Eduzones ของเรา ได้รวบรวมผลสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด? จาก โพล์ลการสำรวจความคิดเห็นด้านล่างนี้ https://www.facebook.com/interscholarship/posts/pfbid02on1d5jCx3N5E9uCkMLKMwWuDrHz1dZqdW2edy75RDnpRfiMDf3QTtX1sev5fdxSzl โดยเราได้รวบรวมผลจากการแสดงความคิดเห็นและได้จัดอันดับหมวดหมู่ออกเป็น 10 อันดับ ดังนี้ อันดับที่ 1 ประเทศสหรัฐอเมริกา ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นตัวเลือกแรกที่ขึ้นมาเมื่อคนต้องการไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ เพราะการศึกษาที่มีคุณภาพ และ เป็นที่นิยมสูงมากในหมู่นักเรียน ด้วยวิธีการสอน ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น การศึกษาสาย STEM คุณภาพที่มีอิสระ ที่จะเรียนในสาขาวิชาต่าง ๆ ในระดับปริญญาตรี ก่อนที่จะลง เรียนวิชาเอก นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกในการทำวิชาเอกสองครั้ง (รับปริญญาตรีในสองวิชาในเวลาเดียวกัน) ในระดับสูงกว่าปริญญาตรี และสามารถเลือกชั้นเรียนเพื่อให้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสาขาวิชาที่สนใจได้ มหาวิทยาลัยได้รับการยอมรับในระดับสากล อเมริกามีมหาวิทยาลัยมากกว่า 4,000 แห่ง ที่ เปิดสอน ระดับปริญญา ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เพราะความพร้อมในการเรียน ไม่ว่าจะเป็นความพร้อม ในด้านอุปกรณ์ที่ครบครัน และ ทันสมัย พร้อมด้วย พนักงานที่มีประสบการณ์มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ยังเป็น ผู้นำระดับโลก ด้าน การวิจัย เนื่องจากรัฐบาลใช้งบประมาณ จำนวนมากในการคิดค้นวิจัยนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมา การพัฒนาทักษะที่หลากหลาย เนื่องจากวิธีการสอนที่ยืดหยุ่นของประเทศ จะมีโอกาสได้พัฒนาทักษะความสามารถข้ามสาขาวิชาซึ่งจะช่วยให้โดดเด่นกว่าเพื่อน มหาวิทยาลัยอเมริกาจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถเริ่มเตรียมตัวสำหรับงานในฝันได้ตั้งแต่ปริญญาตรี และเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำในเกือบทุกสาขา เช่น เทคโนโลยี สื่อ และ ศิลปะ จนมีโอกาสมากมายเมื่อเริ่มมองหาการฝึกงานงานพาร์ทไทม์หรือประสบการณ์การทำงานหลังเรียนจบ ระบบการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติ อเมริกาสนับสนุนให้ความช่วยเหลือนักเรียนต่างชาติได้ดี จากมหาวิทยาลัยในอเมริกาจะช่วยเหลือนักศึกษาต่างชาติ ตั้งแต่ ปฐมนิเทศจนถึง สำเร็จการศึกษา สามารถ ไปที่สำนักงานนักศึกษาต่างชาติ ของ มหาวิทยาลัย ได้ตลอดเวลา เพื่อขอคำแนะนำที่ต้องการ มหาวิทยาลัยหลายแห่งยังให้ความช่วยเหลือโดยจัดโปรแกรม เพื่อ ช่วยนักศึกษาต่างชาติ ในการเขียนเชิงวิชาการ และ ปรับตัวเข้ากับระบบการศึกษาใหม่ ข้อนี้ทำให้หลาย ๆ คน ตัดสินใจได้ว่าทำไมต้องเป็นอเมริกา อันดับที่ 2 ประเทศอังกฤษ หากพูดถึงการเรียนต่อที่ต่างประเทศเชื่อว่า ‘อังกฤษ’ คือ Top of Mind ที่อยู่อันดับต้น ๆ ในใจของทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กไทยที่อยากไปศึกษาต่อ เพราะประเทศอังกฤษเป็นที่นิยม จากสถานที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมที่มีชื่อเสียงและได้รับการันตีว่าดีที่สุดในโลก รวมทั้งยังเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ได้เคยผลิตนักวิทยาศาสตร์ระดับตำนานในอดีต ไม่ว่าจะเป็น เซอร์ไอแซก นิวตัน นักฟิสิกส์ หรือ สตีเฟน ฮอว์คิง อัจฉริยะทางฟิสิกส์ พ่อแม่-ผู้ปกครอง จึงได้วางใจและคาดหวังว่าอังกฤษ จะมอบคุณภาพอันดีเยี่ยมเหล่านั้นให้แก่บุตร-หลาน ไม่เพียงแต่ด้านวิชาการ แต่ยังรวมไปถึง ความเป็นเลิศด้านดนตรี ศิลปะ และการเขียนอีกด้วย หลักสูตรอันเป็นประตูสู่ระดับ World-Class โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในประเทศอังกฤษ เสนอหลักสูตรที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพระดับสากล ที่ถือเป็นใบเบิกทางชั้นดีสู่การต่อยอดการศึกษาขั้นสูงและการทำงานยังประเทศชั้นนำอื่น ๆ ซึ่งอันได้แก่ IGCSE, International Baccalaureate Diploma, A-Levels ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้ เป็นสากลและได้รับการยอมรับจากประเทศอื่น ๆ เรียกได้ว่า เป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงให้แก่บุตร-หลานได้มากเลยทีเดียว ได้ภาษาอังกฤษที่ดีจากต้นกำเนิด ภาษาอังกฤษถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะเป็นภาษาที่คนใช้กันทั่วโลก สามารถใช้สื่อสารได้ในหลายๆ ประเทศ และใช้ต่อยอดในหน้าที่การงานในอนาคตได้ ซึ่งการไปเรียนที่ต่างประเทศ (โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ของประเทศอังกฤษ) มีข้อดีคือ เรื่องสำเนียงที่ถูกต้องแบบชาวบริติช และยังมีคอนเนคชั่นกับชาวต่างชาติ ปฎิเสธไม่ได้ว่าการไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษมีข้อดีที่เด่นชัดที่สุดคือเรื่องของภาษา ที่เป็นต้นตำรับ เชื่อได้ว่าทักษะภาษาอังกฤษจะดีขึ้นมากหากได้ลองไปเรียน หรือใช้ชีวิตอยู่ในประเทศต้นกำเนิด แนวทางการพัฒนาตัวเองที่หาไม่ได้จากที่อื่น เหตุผลอีกหนึ่งประการ ที่ถือเป็นสิ่งสำคัญ ในการศึกษาต่อประเทศอังกฤษ นั่นก็คือ แนวทางการพัฒนาตนเองที่เด็กจะได้รับ โรงเรียนมัธยมในอังกฤษ มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาศักยภาพนักเรียนของพวกเขา เพื่อพร้อมก้าวสู่โลกใบใหญ่และการเดินทางต่อในระดับมหาวิทยาลัย นอกจากนั้น สถาบันการศึกษาในอังกฤษยังสนับสนุนและแนะนำอย่างเต็มที่ ให้นักเรียนมีความมั่นใจ พร้อมจิตใจที่เปิดกว้าง และเปิดรับโอกาสที่ดีในอนาคต อันดับที่ 3 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หากจะบอกว่าสวิตเซอร์แลนด์ คือหนึ่งในประเทศที่คนไทยชื่นชอบมากที่สุดคงไม่แปลกนัก สังเกตได้จากคนไทยจำนวนมากที่ไปตั้งรกรากอยู่ที่นั่น รวมถึงเป็นดินแดนแห่งความสุขที่สามารถพบเจอรอยยิ้มของผู้คนได้แทบทุกเส้นทางบนถนน การมีโอกาสได้เรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์ จึงเป็นสิ่งที่นักเรียนไทยจำนวนมากใฝ่ฝันเอาไว้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากหากมีความตั้งใจ แม้ไม่ใช่ประเทศใหญ่ในยุโรป แต่เชื่อว่าความรู้ที่ได้บวกกับประสบการณ์ดี ๆ ในชีวิตมันช่างคุ้มค่ากับการเดินทางไปอย่างยิ่ง มหาวิทยาลัยชั้นนำ สวิสเซอร์แลนด์มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอยู่หลายแห่ง และมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประเทศสองแห่ง ได้แก่ EPFL และ ETH Zurich ยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 30 มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ใน The Times Higher Education (THE) World University Rankings นักศึกษามีความพึงพอใจกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูงในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศและส่วนใหญ่จะชื่นชอบคุณภาพการสอนในแต่ละหลักสูตรเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปแล้ว มหาวิทยาลัยของสวิสเซอร์แลนด์มีชื่อเสียงด้านการเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นชาวสวิสหรือนักศึกษาต่างชาติที่เรียนในสถาบันที่สวิสเซอร์แลนด์ ก็จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนายจ้าง ระบบการศึกษาคุณภาพระดับโลก ระบบการศึกษาของสวิตเซอร์แลนด์เป็นอีกหนึ่งอย่างที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้าน “การโรงแรม” เนื่องจากประเทศแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกันอย่างมากมาย ดังนั้นธุรกิจด้านโรงแรมจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจและน่าเรียน ทำให้มีสถาบันการศึกษาเปิดสอนทางด้านโรงแรมโดยเฉพาะ และยังถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของวิชาการด้านการโรงแรม เพราะมีหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ และยังมีสอนภาษาที่ 3 ได้แก่ เยอรมัน และ ฝรั่งเศส ที่เป็นหนึ่งภาษาทางการของสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับการเรียนการสอนการโรงแรมของสวิตเซอร์แลนด์ เน้นทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ โดยมีการฝึกงานจริงและยังได้รับค่าจ้าง โดยที่นักเรียนจะไม่ได้ถูกส่งไปฝึกงานเฉพาะในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น แต่ยังถูกส่งไปฝึกงานที่ต่างประเทศด้วย โอกาสแห่งการเรียนรู้ภาษา สวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นสถานที่ที่ดีในการเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เป็นการช่วยเพิ่มตัวเลือกด้านอาชีพหลังจบการศึกษาได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเยอรมนีมีฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปซึ่งเต็มไปด้วยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ได้แก่ การธนาคาร การผลิต และมีโปรแกรมการฝึกอบรมนักศึกษาฝึกงานที่ยอดเยี่ยม ภาษาฝรั่งเศสยังเป็นอีกหนึ่งภาษาที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพในธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งภาษาฝรั่งเศสนั้นเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นอันดับสองในสหภาพยุโรป และเป็นภาษาราชการของ 29 ประเทศทั่วโลก เช่น แคนาดา เบลเยียม และมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตในแอฟริกา เช่น แทนซาเนีย รวันดา และโมซัมบิก เป็นต้น อันดับที่ 4 ประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ได้รับการจัดอันดับว่าเป็น ประเทศที่มีความสงบสุขมากที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 2 โดยพิจารณาจากรายได้ การศึกษา และระดับของการรวมกลุ่มในระดับภูมิภาค, ความโปร่งใสในระดับสูงของรัฐบาลและการทุจริตต่ำ, ความมีเสถียรภาพ อีกทั้งยังมีความก้าวหน้าทางสังคมอย่างแท้จริง โดยประเทศที่ปลอดภัยแห่งนี้ยังมีระบบการศึกษาระดับโลกและการดูแลสุขภาพขั้นสูง ชาวกีวีได้รับการดูแลสุขภาพฟรีจากรัฐ หรือมีค่าใช้จ่ายต่ำในกรณีเจ็บป่วย และเงินสนับสนุนจากรัฐบาลในกรณีว่างงาน เนื่องด้วยปัญหาอาชญกรรมที่น้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทำให้นักเรียนของประเทศนิวซีแลนด์สามารถโฟกัสในเรื่องเรียนเพียงอย่างเดียว และสนุกสนานกับกิจกรรมต่าง ๆ นอกห้องเรียนไปด้วย มาตรฐานการศึกษาระดับสากล ประเทศนิวซีแลนด์มีมาตรฐานในระดับสากล มหาวิทยาลัยทั้ง 8 แห่งของนิวซีแลนด์อยู่ในอันดับ Top 3% ของโลก อีกทั้งนิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับโดย The Economist, Intelligence Unit (Worldwide Educating for the Future Index), 2018 ให้เป็นอันดับที่ 1 ในการเตรียมความพร้อมนักเรียนสู่อนาคต ด้วยความสามารถในการปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้เหมาะกับภาคอุตสาหกรรมและสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ความสามารถของครูและบุคคลากร นโยบายภาครัฐ ความร่วมมือร่วมใจกันของรัฐบาลและภาคเอกชน ความสามารถในการให้คำปรึกษาถึงอาชีพในอนาคตตั้งแต่ในระดับโรงเรียน และความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่แตกต่างแต่อยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว การต้อนรับอย่างอบอุ่น นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากกว่า 100 เชื้อชาติทั่วโลก ชาวนิวซีแลนด์ล้วนเป็นมิตรและพร้อมต้อนรับนักเรียนต่างชาติด้วยความอบอุ่นและความเข้าใจ ตามคำกล่าวของชาวเมารีที่ว่า “Manaakitanga” แปลว่า การเคารพและดูแลผู้ที่อยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจ มีน้ำใจ เอื้ออาทรและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เรียนรู้จากการเรียนและการเล่น ประเทศนิวซีแลนด์ไม่ได้เน้นเฉพาะในด้านของการเรียนเพียงเท่านั้น การเรียนเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของการเรียนในห้องเรียนและการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ซึ่งได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่า เป็นการเรียนที่ดีที่สุดในโลก Study Life Balance โดยนักเรียนสามารถเลือกเรียนในเมืองชนบทที่สวยงามของนิวซีแลนด์ ที่ตั้งไม่ไกลจากเมืองมากนัก หากต้องการช้อปปิ้งหรือสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ก็สามารถเดินทางไปในเมืองใหญ่ได้ไม่ยาก สันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่สงบสุขอันดับ 2 ของโลก (อ้างอิงจาก Global Peace Index,2018) การเรียนในประเทศนิวซีแลนด์นักเรียนจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบ การเมืองที่มีเสถียรภาพและยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทุจริตคอรัปชั่นน้อยที่สุดในโลกอีกด้วย อันดับที่ 5 ประเทศแคนาดา ประเทศแคนาดาจัดได้ว่าเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก หลาย ๆ สถาบันในแคนาดามีชื่อเสียง มีคุณภาพในด้านการเรียนการสอนสูง มีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ใบปริญญาหรือ certificate ต่าง ๆ จากสถาบันและมหาวิทยาลัยในประเทศแคนาดาจึงเป็นตัวการันตีได้ว่าได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ นักศึกษาที่จบจากประเทศแคนาดาจึงมีโอกาสดีที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มาตรฐานการสอนของครู – อาจารย์ หนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศแคนาดาประสบความสำเร็จทางด้านการศึกษาก็คือความสามารถของตัวอาจารย์ผู้สอนที่ให้ความรู้กับนักเรียน ผู้ที่จะมาทำอาชีพครูผู้สอนที่แคนาดาได้ต้องผ่านการคัดกรองมาเป็นอย่างดี โดยแต่ละเมืองจะมีรูปแบบการประเมินผลของตนเอง เช่น การวัดผลที่ผู้สอนต้องผ่านการประเมินทั้งด้านความรู้ในการสอนสาขาวิชานั้น การสอนในภาคปฏิบัติและการปรับตัวกับสังคมแห่งการเรียนรู้ และการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมพร้อมพัฒนาศาสตร์ความรู้ของตนในฐานะของผู้สอน เป็นต้น อาจารย์ของเมืองนั้นจะต้องผ่านหลักสูตรที่กำหนดโดยก่อนเพื่อให้ได้ใบประกาศนียบัตรเพื่อใช้แสดงตนเป็นผู้สอนของเมืองนั้น สถาบันการศึกษาของประเทศแคนาดาจึงขึ้นชื่อในการรักษามาตรฐานคุณภาพการศึกษา เพราะแต่ละสถาบันจะไม่รับอาจารย์ที่ไม่ผ่านการรับรองจากหลักสูตรผู้สอนในประเทศมาเป็นอาจารย์ของสถาบัน และแต่ละเมืองจะมีความเคร่งครัดที่ต่างกันไป เพราะอาจารย์พูดสอนต้องสอบประเมินผลใหม่เมื่อจะย้ายไปสอนในอีกเมือง หนึ่งในระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก แคนาดาหนึ่งในประเทศที่ได้สร้างชื่อเสียงด้านการศึกษาจากการวัดผลในโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment) หรือ PISA ได้จัดให้แคนาดาอยู่ในกลุ่มที่ 10 ประเทศที่เยาวชนมีผลการเรียนเป็นเลิศ เพราะทางรัฐบาลของประเทศแคนาดาให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษามาก มาตรฐานการศึกษาของแคนาดาเป็นที่ยอมรับในระดับโลก นักศึกษาต่างชาติที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยของแคนาดา จึงประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในหน้าที่การงานจากมาตรฐานการศึกษาที่สูงพร้อมประสบการณ์มากมายที่ได้ฝึกฝนในระหว่างนั้น ระบบการเรียนสองภาษา ประเทศแคนาดามีระบบการเรียนการสอนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยผู้เรียนจะต้องเข้าเรียนในชั้นเรียนด้วยภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก และเข้าเรียนในภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่สอง เพราะประเทศแคนาดามี 2 ภาษาราชการ นักเรียนต่างชาติที่เข้าระบบการศึกษาของแคนาดาจึงมีทางเลือกในการเรียนต่อที่จะได้ฝึกทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 59% และมีภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 23% นอกจากนั้นกว่า 18% ของประชากรในแคนาดามีมากกว่าหนึ่งภาษาแม่ ขึ้นอยู่กับประเทศสัญชาติเดิมของผู้อพยพที่ได้เดินทางเข้าไปยังประเทศแคนาดา ภาษาอื่นที่เป็นที่นิยมในประเทศแคนาดา ได้แก่ ภาษาจีน ภาษาสเปน ภาษาอารบิก และ ภาษาตากาล็อก เป็นต้น อันดับที่ 6 ประเทศออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลียถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติหลาย ๆ คน ด้วยเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง สิทธิ์การทำงานสำหรับผู้จบการศึกษาใหม่มีมาก ชีวิตความเป็นอยู่สบาย และระบบการ ศึกษาคุณภาพสูง จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเศรษฐกิจของออสเตรเลียยังคงมีความแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยมีอัตราการว่างงานและเงินเฟ้อต่ำ จากเมืองที่น่าอยู่ที่สุด 10 อันดับแรกของโลก อยู่ในออสเตรเลียถึง 4 เมือง คือเมลเบิร์นอันดับหนึ่ง! ส่วนอีกสามเมืองได้แก่ แอดิเลด ซิดนีย์ และเพิร์ท โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ เสถียรภาพ การดูแลสุขภาพ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษา เน้นการเรียนรู้แบบ Real-world Learning ผลการสำรวจงานวิจัยยืนยันว่าผลการเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้นและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ระบบการเรียนของออสเตรเลียมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพสูงประกอบกับการศึกษาที่เน้นการเรียนรู้ในโลกของความเป็นจริงมากขึ้น โดยเน้นการเรียนแบบภาคปฏิบัติควบคู่กับความรู้เชิงทฤษฎีเพื่อให้ผู้เรียนได้นำความรู้ไปใช้ได้จริงถือเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนให้สอดคล้องกับการทำงานในภาคอุตสาหกรรมไปจนถึงการประกอบอาชีพในอนาคต มาตรฐานคุณภาพแบบขั้นสูง ออสเตรเลียมีหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบและคุณภาพระดับประเทศสำหรับการศึกษาชั้นสูง – Tertiary Education Quality and Standards Agency (TEQSA) ก่อตั้งขึ้นโดยหน่วยรัฐบาลออสเตรเลียเพื่อควบคุมคุณภาพและกำกับดูแลสถานศึกษาชั้นสูงที่เป็นมหาวิทยาลัยและที่ไม่ใช่มหาวิทยาลัย โดยมีชุดมาตรฐานที่พัฒนาขึ้นโดยหน่วยงานอิสระ Higher Education Standards Panel นอกจากนี้ กฎหมาย Education Services for Overseas Student (ESOS) ยังคุ้มครอง สวัสดิภาพของนักเรียนต่างชาติ คุณภาพประสบการณ์การศึกษาของนักเรียน รวมถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน อีกด้วย LGBTQ+ friendly มีความหลากหลายทางเพศ นอกจากความหลากหลายทางวัฒนธรรม ออสเตรเลียยังให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศสภาพ ถือเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ค่อนข้างยอมรับความหลากหลายทางเพศอย่างชัดเจน โดยมีกฎหมายสนับสนุนสิทธิเสรีภาพและความหลากหลายทางเพศ อาทิเช่น การยอมรับการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน (Same-Sax Marraige) ที่ประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2017 รวมถึงการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมโดยเพศเดียวกันก็ถูกรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ที่ออสเตรเลียมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายทั้งการเดินขบวน การเฉลิมฉลอง การจัดประกวด อีเวนท์ เพื่อเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือและผลักดันชาว LGBTQ+ ในสังคมอย่างต่อเนื่อง อันดับที่ 7 ประเทศเยอรมณี เยอรมนีอีกหนึ่งประเทศที่กำลังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเรียนต่างชาติ มีประชากรนักเรียน นักศึกษาต่างชาติจำนวนมากเป็นอันดับสามรองจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ระบบการศึกษาที่สูงขึ้นของเยอรมนีถือเป็นอีกหนึ่งในระบบที่ดีที่สุดของโลก มหาวิทยาลัยหลายแห่งติดอันดับหนึ่งใน 100 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก นอกจากทักษะภาษาที่จะได้เพิ่มมาแล้ว ยังทำให้ได้รู้จักเพื่อน ๆ ต่างชาติ ได้เปิดมุมมองเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง รวมถึงอิทธิพลของภาษา ที่ส่งผลต่อความคิด ทัศนคติ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เป็นการได้ทั้ง ปริญญาจากมหาวิทยาลัย และปริญญาทางการเรียนรู้โลกใหม่ ในการเปิดประสบการณ์ และโลกที่กว้างขึ้น ทั้งภาษา วัฒนธรรม สังคม เพื่อน และการใช้ชีวิตอีกด้วย โอกาสทางการศึกษา (ค่าเล่าเรียนไม่แพงสำหรับการศึกษาต่อ) การศึกษาในประเทศเยอรมันนับได้ว่ามีมาตรฐานที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ที่สำคัญค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยในประเทศเยอรมนีก็ยังไม่แพง (หรือในบางรัฐยังมีค่าเทอมที่ฟรีอยู่) เมื่อเทียบกับในประเทศอังกฤษหรือสหรัฐอเมริกา ทำให้ค่าใช้จ่ายหลักจริง ๆ ในการเรียนตกอยู่ที่ค่าเช่าบ้านและค่ากินเท่านั้น การเรียนภาษาเยอรมันเพื่อเตรียมตัวเรียนต่อนั้นจึงนับเป็นการลงทุนทางการศึกษาที่คุ้มค่า นับว่าหลังเรียนจบมีตลาดแรงงานที่ขาดแคลนแรงงานให้หางานทำต่อ จึงนับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากเลยทีเดียว ภาษาเยอรมันมีคุณค่าทางวิชาการ ภาษาเยอรมันนับเป็นภาษาที่มีความสำคัญอย่างมากในวงการวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม การบริหารและในวงการต่าง ๆ เพราะประเทศเยอรมันเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของอิทธิพลนวัตกรรมการค้นคว้าวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ จนทำให้มีบริษัทเยอรมันขนาดใหญ่จำนวนมากสามารถขยายกิจการไปได้ทั่วโลก และนอกจากงานวิจัยต่าง ๆ หรือหนังสือทางวิชาการแล้ว ยังมีอีกหลายบทความหรือหลายการวิจัยที่สามารถพบได้ในภาษาเยอรมันเท่านั้น นอกจากนี้การศึกษาต่อที่เยอรมันก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะคุณภาพของมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก และค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อที่น้อยมากเรียกได้ว่าแทบเรียนฟรี และยังมีโอกาสดี ๆ อีกมากมายที่จะได้รับหลังจากที่จบการศึกษาที่เยอรมัน คุณภาพชีวิตดี สิ่งแวดล้อมหลากหลาย ชีวิตความเป็นอยู่ของนักเรียนต่างชาติในเยอรมันถูกรายล้อมไปด้วยวัฒนธรรม แสงเสียง ดนตรี ศิลปะที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง เช่น ตามเมืองใหญ่ ๆ ของเยอรมันอย่าง เแบร์ลิน มิวนิค ฮัมบวก จะมีทุกอย่างที่ตอบสนองความต้องการในใช้ชีวิตของนักเรียนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าอะไรที่น่าสนใจ ก็จะเจอคนที่สนใจสิ่งเดียวกัน หรือสถานที่ การรวมกลุ่มที่ตอบสนองความสนใจนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังหาทางเข้าร่วมได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น กีฬา การเมือง ประวิติศาสตร์ หรือศิลปะ รวมถึงวัฒนธรรมที่หลากหลาย เนื่องจากคอร์สเรียนต่าง ๆ ที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ มีค่าใช้จ่ายที่ประหยัด ทำให้นักเรียนจากทั่วโลกหลั่งไหลมาอยู่ที่นี่ อันดับที่ 8 ประเทศฟินแลนด์ ระบบการศึกษาของประเทศ ฟินแลนด์ เน้นที่การเรียนรู้ผ่านการ “เล่น” เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ มากกว่าการเรียนแบบท่องจำและนำไปสอบ เพราะเชื่อว่าการเรียนการสอนแบบนี้จะทำให้นักเรียนเรียนรู้ได้ดีจากการลงมือทำ มากกว่าการท่องจำข้อความที่ไม่จำเป็นจากหนังสือ และจะทำให้เด็กเกิดการพัฒนามากกว่าการแข่งขันกัน แทบจะไม่ได้ให้การบ้านเด็ก ๆ เพราะให้ความสำคัญนอกห้องเรียนมากกว่า นอกจากนี้จำนวนชั่วโมงเรียนก็น้อยลง หากเทียบกับนักเรียนจากส่วนอื่น ๆ ของโลก โดยเฉลี่ยเพียงวันละ 3 ชั่วโมง 45 นาทีเท่านั้น เพราะต้องการสนับสนุนให้นักเรียนให้มีชีวิตนอกโรงเรียน ได้ “เรียนรู้” มากกว่า “เรียน” ดังนั้น การได้มีสังคม มีกิจกรรม หรือสนุกกับกีฬา จึงเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ที่ดีที่สุด เป็นที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุด จากผลการสำรวจพบว่าประเทศฟินแลนด์ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพชีวิต ความมั่นคงของภาพรวม และการศึกษาอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเป็นประเทศที่มีความสุขเป็นอันดับสองของโลก ผลการวัดระดับ Programme for International Student Assessment (PISA) ของนักเรียนชาวฟินแลนด์ก็อยู่ในระดับดีมาตลอด ไม่ได้มีเพียงคุณภาพชีวิตและการศึกษาที่ดีที่ชาวฟินแลนด์ภาคภูมิใจเท่านั้น ประเทศฟินแลนด์ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่มีนวัตกรรมที่มีอิทธิพลในระดับโลกสูงและมีความเป็นมิตรต่อธรรมชาติ ด้วยคะแนนที่อยู่ในระดับสูงเหล่านี้ จึงไม่แปลกใจที่ฟินแลนด์จะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลก บรรยากาศนานาชาติ กระแสโลกาภิวัฒน์ที่กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ นักเรียนต่างชาติสามารถเข้าไปทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในบริษัทของชาวฟินแลนด์ที่ต้องการขยายตลาดออกไปยังต่างประเทศ ประเทศฟินแลนด์ยังมีความต้องการผู้ทำงานสายสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังคาดการณ์ว่าประเทศฟินแลนด์จะเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานเมื่อประชากรกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ที่เกิดหลังสงครามโลกเกษียณ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะไปเรียนต่อและบุกเบิกการทำงานต่อหลังเรียนจบ ฟินแลนด์ยังคงเป็นประเทศที่ยอดเยี่ยมสำหรับการไปเรียน ทำงาน และสร้างครอบครัวอีกด้วย ไม่มีการสอบวัดผลแบบ Standardized Test ระบบการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ไม่มีการทดสอบเพื่อวัดผล เพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้ผลสอบเพื่อขึ้นระดับชั้นที่สูงขึ้นหรือแข่งขันกัน เพราะเชื่อว่า การทำแบบนั้น จะทำให้นักเรียนมุ่งเน้นเรื่องเรียนเพื่อสอบเพียงอย่างเดียว ไม่ได้เน้นที่จะเรียนรู้อย่างแท้จริง อันดับที่ 9 ประเทศอินเดีย ประเทศอินเดีย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เหมาะกับการไปเรียนต่อมากที่สุด แต่คนไทยส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยจะนึกถึงกันสักเท่าไหร่ เป็นอีกหนึ่งในประเทศที่มีสถาบันทางการศึกษาที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับให้เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากอเมริกา และ จีน จึงมีหลักสูตรที่หลากหลายทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ โดยมีหลักสูตรยอดนิยมของนักเรียนชาวต่างชาติ เช่น วิศวกรรมศาสตร์ บริหารธุรกิจ การแพทย์ และศิลปศาสตร์ นอกจากนี้ อินเดียยังขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์อันดับต้น ๆ ของโลก การผสมผสานด้านการศึกษา การศึกษาแบบอินเดียได้รับอิทธิพลจากชาวอังกฤษผสมผสานกับปรัชญาดั้งเดิมแบบฮินดู พุทธ มุสลิมและแบบเปอร์เซียเข้าไว้ด้วยกัน โดยถูกถ่ายทอดจากอาจารย์ผ่านความเป็น กูรู จึงไม่แปลกนักที่ศิษย์เก่าต่างชาติอินเดียจำนวนมากจะได้รับการยอมรับ อาทิ อองซาน ซูจี (ผู้นำประชาธิปไตยของพม่า จบด้านรัฐศาสตร์จากเดลี) H.E. Le Luong Minh (เลขาธิการอาเซียนคนปัจจุบันชาวเวียดนาม จบโทจาก JNU) เป็นต้น รวมถึงนักเรียนจากมหาวิทยาลัยในอินเดีย ต่างได้รับการตอบรับเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วโลก .. นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ชาวอินเดียหลายท่านยังได้รับการยอมรับในระดับโลก เช่น Partha Chatterjee จากมหาวิทยาลัยกัลกัตตา นักวิชาการแนวหน้าด้าน Subaltern Studies อีกด้วย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ประเทศอินเดียถือเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาการคอมพิวเตอร์อันดับต้นของโลก ไฮเดอราบาด หรืออีกชี่อคือ Cyberabad ถูกขนามนามให้เป็นซิลลิคอนวัลเลย์ของเอเชียเมืองบังกาลอว์เป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์มือฉมังของโลก นอกจากนี้อินเดียยังสามารถส่งกระสวยอวกาศไปยังดาวอังคารได้เป็นผลสำเร็จ รวมถึงขีปนาวุธอัคนีที่มีพิสัยไกลถึง 5,000 กิโลเมตร เล็งไปที่จีนก็สามารถยิงไปยังทุกเมืองใหญ่ของชาวจีน ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของอินเดียย่อมเป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นดีสำหรับนักเรียนสายวิทยาศาสตร์ ประสบการณ์นอกห้องเรียน อินเดียประเทศแห่งอารยธรรมที่สำคัญของโลก มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น ทัชมาฮาล รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย ตั้งแต่ทะเลทรายไปจนถึงท้องทะเลอันงดงาม มีโอกาสได้เรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมที่มีความหลากหลายอยู่สูง รวมถึงได้ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ และเรียนรู้เรื่องราววัฒนธรรม อีกทั้งยังมีการพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวผ่อนคลายนอกสถานที่ มีประเพณี วัฒนธรรม วันหยุด ที่คล้ายกับของประเทศไทย ขณะที่นักศึกษาต่างชาติที่มาเรียนต่อมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่จะมีโฮสเทล อยู่ภายในมหาวิทยาลัย เหมาะสำหรับให้นักศึกษาได้พักอาศัยส่วนตัว อันดับที่ 10 ประเทศสิงคโปร์ สิงคโปร์ นิยามของคำว่า “ตะวันออกพบกับตะวันตก” ถือว่าเหมาะกับนักเรียนที่ชอบความแปลกใหม่ของวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เต็มไปด้วยการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัว ในส่วนของการศึกษา สิงค์โปร์ก็เป็นอีกหนึ่ง Destination ที่ผู้คนจากทั่วโลกให้ความสนใจเดินทางไปเรียนต่อ เพราะมีการมุ่งเน้นความรู้ทางวิชาการอย่างตรงจุดคือความรู้ในแต่ละระดับ ส่วนทักษะรอบด้าน คือ การพัฒนาทักษะอื่น ๆ จากการเข้าชมรม ซึ่งชาวสิงคโปร์จะเรียกว่า CCA ซึ่งมีความจริงจังในการพัฒนาทักษะแต่ละอย่างเป็นอย่างมากเพื่อเก็บให้เป็น Portfolio ได้ เช่น ชมรมกีฬา ชมรมประสานเสียง ก็จะมีการซ้อมในทุก ๆ อาทิตย์และพาไปแข่งขันอย่างจริงจัง เมืองในฝัน สิงคโปร์ข้นชื่อได้ว่า “เมืองในสวน หรือ City in the Garden” หากใครเคยไปสิงคโปร์จะเห็นว่าทุกตารางนิ้วของประเทศเล็ก ๆ เต็มด้วยพื้นที่สีเขียวสบายตา คงไม่ต้องแปลกใจเพราะนี่คือวิสัยทัศน์ที่ทำให้ชาวต่างชาติทั้งอาเซียน และทวีปอื่น ๆ อยากมาใช้ชีวิตที่นี่ จะได้พบกับคนมากหน้าหลายตา หลายชนชาติ ส่งผลให้เป็นเมืองที่นอกจะรวยในพื้นที่สีเขียว ยังรวยวัฒนธรรม นอกจากนี้สิงค์โปร์ยังได้รับการยกย่องจาก The Economist Intelligence Unit ว่าเป็นอันดับ 1 ในด้าน Personal Security และ Infrastructure Security จึงสบายใจได้เลยว่า การเข้าไปเรียนในประเทศที่มีความปลอดภัยสูง ทำให้โฟกัสกับการเรียนและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยทางด้านร่างกายและทรัพย์สิน ระบบการศึกษายอดเยี่ยม ประเทศสิงคโปร์หนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดแห่งของโลก มีความหลากหลายทางหลักสูตรและมหาวิทยาลัยทั้งของภาครัฐและเอกชน ขณะเดียวกันยังมีสถาบันการศึกษาจำนวนมากที่เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ทางการศึกษากับมหาวิทยาลัยต่างชาติเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการศึกษาเพิ่มขึ้น อาทิ หลักสูตรการศึกษาข้ามพรมแดน Transnational Education. เป็นต้น โอกาสในการทำงาน เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการแข่งขันและเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ทำให้นักศึกษาที่เรียนจบมีโอกาสได้ฝึกงานหรือร่วมงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลก นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของบริษัทชั้นนำของโลกในเอเชีย อย่าง Google, Netflix, Microsoft ฯลฯ การขอวีซ่าทำงานในสิงคโปร์นายจ้างต้องทำเรื่องให้ก่อน แต่ข้อได้เปรียบของการมาเรียนในสิงคโปร์ก็คือจะมีโอกาสได้ฝึกงานก่อน (โดยใช้วีซ่าของนักเรียน) จากนั้นก็จะมีโอกาสต่อยอดเพื่อไปทำงานได้นั่นเอง ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นบางส่วนจากชาวชุมชน Eduzones จากโพล์ลการสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด และกลายเป็นประเทศยอดฮิตในแวดวงการศึกษาต่อของเหล่านักเรียนต่างชาติในหลายประเทศ ส่วนเหตุผลข้อต่อ ๆ ไปจะมีอะไรบ้าง อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของตัวเองภายใต้โพสต์นี้ แม้จะเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูงสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ แต่เชื่อว่าประสบการณ์ชีวิตที่จะได้รับกลับไปต้องมีค่ามากกว่าอย่างแน่นอน EZ Webmaster Related Posts 40 ปี ม.รังสิต ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ ชูหัวใจ คือ นักศึกษา เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ ซีเอ็มเอ็มยู เปิดผลวิจัยใหม่ถอดด้าม “การตลาดคนขี้เบื่อ” พร้อมเจาะ “พฤติกรรมขี้เบื่อคน 4 Gen” คลื่นลูกใหม่กระทบ “Brand Loyalty” โชว์เทคนิคช่วยแบรนด์ดึงคนเบื่อหวนภักดีต่อสินค้า – บริการ มศว ประกาศการปรับจำนวนการรับ TCAS รอบที่ 3 (Admission) เพิ่ม LEARN to EARN เพราะชีวิต คือการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด “สุรพรชัย ธรรมศิริ” ว่าที่นักกายอุปกรณ์ ที่ไม่หยุดพัฒนาตนเอง เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ Post navigation PREVIOUS Previous post: รองอธิการบดีสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา ร่วมแถลงข่าวการจัดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ในโอกาสเฉลิมฉลอง 100 ปีประสูติNEXT Next post: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา จัดพิธีถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการบริหารการพัฒนา แด่ พระอาจารย์จีนคณาณัติจีนพรต (เย็นงี้) ณ วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
ม.เทคโนโลยีและการออกแบบแห่งสิงคโปร์ ให้ทุนคนไทยไปศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี tui sakrapeeApril 22, 2024 ประกาศ รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบ แห่งสิงคโปร์ (Singapore University of Technology and Design : SUTD) สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำปีการศึกษา 2567 (ค.ศ. 2024)… รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH… ครู-อาจารย์ สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ EZ WebmasterMay 10, 2024 สำนักการเรียนรู้ตลอดชีวิตพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KLLC) ภายใต้สังกัดสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดโครงการ DEP หลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล เพื่อคนพิการ สร้างงาน สร้างอาชีพ” โดยมี ผศ.ดร.ทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร เป็นหัวหน้าโครงการ พร้อมด้วย รศ.ดร.จรสวรรณ โกยวานิช ผู้อำนวยการ KLLC, คุณหญิง ดร. สุมาลี อุทัยเฉลิม… สสวท. อบรมครูศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ชูสะเต็มศึกษานำร่องหนุนครูขยายผลสู่โรงเรียนทั่วประเทศ EZ WebmasterMay 10, 2024 รองศาสตราจารย์ ดร.ธีระเดช เจียรสุขสกุล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ สำหรับศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ประจำปี พ.ศ. 2567 พร้อมด้วย ดร.พรชัย อินทร์ฉาย รองผู้อำนวยการ สสวท. โดยมีโรงเรียนศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 30 ศูนย์จากทั่วประเทศและโรงเรียนสังเกตการณ์ 1 โรงเรียน จำนวนครู 124 คน ร่วมในการอบรม เพื่อนำหลักสูตรไปขยายผลให้ครูและโรงเรียนในระยะต่อไป ณ โรงแรมกราฟ… คณะแพทยศาสตร์ สจล. เปิดรับสมัครนักศึกษา ป.โท สาขาการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ) EZ WebmasterMay 9, 2024 คณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ขอเชิญผู้สนใจสมัครเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต(ปริญญาโท) สาขาการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ) ประจำปีการศึกษา 2567 ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และเศรษฐกิจสังคมในปัจจุบัน รวมทั้งความรู้และทักษะที่ช่วยให้ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถเป็นผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีด้านสุขภาพได้อย่างแท้จริง สำหรับคุณสมบัติผู้สมัครจะต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือเรียนในปีสุดท้ายของหลักสูตรปริญญาตรี สมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 15 พฤษภาคม 2567 ผ่านลงทะเบียนออนไลน์ที่ www.reg.kmitl.ac.th หรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://md.kmitl.ac.th/ การศึกษาไทยกำลังสิ้นหวัง ครูได้เงินเพิ่ม แต่PISA-โอเน็ต ‘ต่ำ’ EZ WebmasterMay 8, 2024 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม นายสมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า จากผลคะแนนสอบPISA และผลคะแนนสอบโอเน็ต ที่ร่วงเป็นราวหรือไม่เกิน 50% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องกระบวนการเรียนรู้เราไม่ได้แก้ไขอะไรเลย ซึ่งสวนทางกับเรื่องที่ครูได้รับเงินที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าตอบแทน ค่าตำแหน่ง วิทยฐานะที่สูงขึ้นตามลำดับ แต่คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของเด็กไม่ดีขึ้น… กิจกรรม ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน EZ WebmasterMay 3, 2024 ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี! ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ทาง www.vec.go.th… ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search EZ Webmaster April 24, 2023 EZ Webmaster April 24, 2023 สรุปความคิดเห็น 10 อันดับ! ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จัดอันดับ! ความคิดเห็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จากชุมชนชาว Eduzones สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ชุมชน Eduzones ของเรา ได้รวบรวมผลสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด? จาก โพล์ลการสำรวจความคิดเห็นด้านล่างนี้ https://www.facebook.com/interscholarship/posts/pfbid02on1d5jCx3N5E9uCkMLKMwWuDrHz1dZqdW2edy75RDnpRfiMDf3QTtX1sev5fdxSzl โดยเราได้รวบรวมผลจากการแสดงความคิดเห็นและได้จัดอันดับหมวดหมู่ออกเป็น 10 อันดับ ดังนี้ อันดับที่ 1 ประเทศสหรัฐอเมริกา ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นตัวเลือกแรกที่ขึ้นมาเมื่อคนต้องการไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ เพราะการศึกษาที่มีคุณภาพ และ เป็นที่นิยมสูงมากในหมู่นักเรียน ด้วยวิธีการสอน ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น การศึกษาสาย STEM คุณภาพที่มีอิสระ ที่จะเรียนในสาขาวิชาต่าง ๆ ในระดับปริญญาตรี ก่อนที่จะลง เรียนวิชาเอก นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกในการทำวิชาเอกสองครั้ง (รับปริญญาตรีในสองวิชาในเวลาเดียวกัน) ในระดับสูงกว่าปริญญาตรี และสามารถเลือกชั้นเรียนเพื่อให้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสาขาวิชาที่สนใจได้ มหาวิทยาลัยได้รับการยอมรับในระดับสากล อเมริกามีมหาวิทยาลัยมากกว่า 4,000 แห่ง ที่ เปิดสอน ระดับปริญญา ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เพราะความพร้อมในการเรียน ไม่ว่าจะเป็นความพร้อม ในด้านอุปกรณ์ที่ครบครัน และ ทันสมัย พร้อมด้วย พนักงานที่มีประสบการณ์มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ยังเป็น ผู้นำระดับโลก ด้าน การวิจัย เนื่องจากรัฐบาลใช้งบประมาณ จำนวนมากในการคิดค้นวิจัยนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมา การพัฒนาทักษะที่หลากหลาย เนื่องจากวิธีการสอนที่ยืดหยุ่นของประเทศ จะมีโอกาสได้พัฒนาทักษะความสามารถข้ามสาขาวิชาซึ่งจะช่วยให้โดดเด่นกว่าเพื่อน มหาวิทยาลัยอเมริกาจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถเริ่มเตรียมตัวสำหรับงานในฝันได้ตั้งแต่ปริญญาตรี และเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำในเกือบทุกสาขา เช่น เทคโนโลยี สื่อ และ ศิลปะ จนมีโอกาสมากมายเมื่อเริ่มมองหาการฝึกงานงานพาร์ทไทม์หรือประสบการณ์การทำงานหลังเรียนจบ ระบบการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติ อเมริกาสนับสนุนให้ความช่วยเหลือนักเรียนต่างชาติได้ดี จากมหาวิทยาลัยในอเมริกาจะช่วยเหลือนักศึกษาต่างชาติ ตั้งแต่ ปฐมนิเทศจนถึง สำเร็จการศึกษา สามารถ ไปที่สำนักงานนักศึกษาต่างชาติ ของ มหาวิทยาลัย ได้ตลอดเวลา เพื่อขอคำแนะนำที่ต้องการ มหาวิทยาลัยหลายแห่งยังให้ความช่วยเหลือโดยจัดโปรแกรม เพื่อ ช่วยนักศึกษาต่างชาติ ในการเขียนเชิงวิชาการ และ ปรับตัวเข้ากับระบบการศึกษาใหม่ ข้อนี้ทำให้หลาย ๆ คน ตัดสินใจได้ว่าทำไมต้องเป็นอเมริกา อันดับที่ 2 ประเทศอังกฤษ หากพูดถึงการเรียนต่อที่ต่างประเทศเชื่อว่า ‘อังกฤษ’ คือ Top of Mind ที่อยู่อันดับต้น ๆ ในใจของทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กไทยที่อยากไปศึกษาต่อ เพราะประเทศอังกฤษเป็นที่นิยม จากสถานที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมที่มีชื่อเสียงและได้รับการันตีว่าดีที่สุดในโลก รวมทั้งยังเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ได้เคยผลิตนักวิทยาศาสตร์ระดับตำนานในอดีต ไม่ว่าจะเป็น เซอร์ไอแซก นิวตัน นักฟิสิกส์ หรือ สตีเฟน ฮอว์คิง อัจฉริยะทางฟิสิกส์ พ่อแม่-ผู้ปกครอง จึงได้วางใจและคาดหวังว่าอังกฤษ จะมอบคุณภาพอันดีเยี่ยมเหล่านั้นให้แก่บุตร-หลาน ไม่เพียงแต่ด้านวิชาการ แต่ยังรวมไปถึง ความเป็นเลิศด้านดนตรี ศิลปะ และการเขียนอีกด้วย หลักสูตรอันเป็นประตูสู่ระดับ World-Class โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในประเทศอังกฤษ เสนอหลักสูตรที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพระดับสากล ที่ถือเป็นใบเบิกทางชั้นดีสู่การต่อยอดการศึกษาขั้นสูงและการทำงานยังประเทศชั้นนำอื่น ๆ ซึ่งอันได้แก่ IGCSE, International Baccalaureate Diploma, A-Levels ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้ เป็นสากลและได้รับการยอมรับจากประเทศอื่น ๆ เรียกได้ว่า เป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงให้แก่บุตร-หลานได้มากเลยทีเดียว ได้ภาษาอังกฤษที่ดีจากต้นกำเนิด ภาษาอังกฤษถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะเป็นภาษาที่คนใช้กันทั่วโลก สามารถใช้สื่อสารได้ในหลายๆ ประเทศ และใช้ต่อยอดในหน้าที่การงานในอนาคตได้ ซึ่งการไปเรียนที่ต่างประเทศ (โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ของประเทศอังกฤษ) มีข้อดีคือ เรื่องสำเนียงที่ถูกต้องแบบชาวบริติช และยังมีคอนเนคชั่นกับชาวต่างชาติ ปฎิเสธไม่ได้ว่าการไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษมีข้อดีที่เด่นชัดที่สุดคือเรื่องของภาษา ที่เป็นต้นตำรับ เชื่อได้ว่าทักษะภาษาอังกฤษจะดีขึ้นมากหากได้ลองไปเรียน หรือใช้ชีวิตอยู่ในประเทศต้นกำเนิด แนวทางการพัฒนาตัวเองที่หาไม่ได้จากที่อื่น เหตุผลอีกหนึ่งประการ ที่ถือเป็นสิ่งสำคัญ ในการศึกษาต่อประเทศอังกฤษ นั่นก็คือ แนวทางการพัฒนาตนเองที่เด็กจะได้รับ โรงเรียนมัธยมในอังกฤษ มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาศักยภาพนักเรียนของพวกเขา เพื่อพร้อมก้าวสู่โลกใบใหญ่และการเดินทางต่อในระดับมหาวิทยาลัย นอกจากนั้น สถาบันการศึกษาในอังกฤษยังสนับสนุนและแนะนำอย่างเต็มที่ ให้นักเรียนมีความมั่นใจ พร้อมจิตใจที่เปิดกว้าง และเปิดรับโอกาสที่ดีในอนาคต อันดับที่ 3 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หากจะบอกว่าสวิตเซอร์แลนด์ คือหนึ่งในประเทศที่คนไทยชื่นชอบมากที่สุดคงไม่แปลกนัก สังเกตได้จากคนไทยจำนวนมากที่ไปตั้งรกรากอยู่ที่นั่น รวมถึงเป็นดินแดนแห่งความสุขที่สามารถพบเจอรอยยิ้มของผู้คนได้แทบทุกเส้นทางบนถนน การมีโอกาสได้เรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์ จึงเป็นสิ่งที่นักเรียนไทยจำนวนมากใฝ่ฝันเอาไว้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากหากมีความตั้งใจ แม้ไม่ใช่ประเทศใหญ่ในยุโรป แต่เชื่อว่าความรู้ที่ได้บวกกับประสบการณ์ดี ๆ ในชีวิตมันช่างคุ้มค่ากับการเดินทางไปอย่างยิ่ง มหาวิทยาลัยชั้นนำ สวิสเซอร์แลนด์มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอยู่หลายแห่ง และมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประเทศสองแห่ง ได้แก่ EPFL และ ETH Zurich ยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 30 มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ใน The Times Higher Education (THE) World University Rankings นักศึกษามีความพึงพอใจกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูงในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศและส่วนใหญ่จะชื่นชอบคุณภาพการสอนในแต่ละหลักสูตรเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปแล้ว มหาวิทยาลัยของสวิสเซอร์แลนด์มีชื่อเสียงด้านการเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นชาวสวิสหรือนักศึกษาต่างชาติที่เรียนในสถาบันที่สวิสเซอร์แลนด์ ก็จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนายจ้าง ระบบการศึกษาคุณภาพระดับโลก ระบบการศึกษาของสวิตเซอร์แลนด์เป็นอีกหนึ่งอย่างที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้าน “การโรงแรม” เนื่องจากประเทศแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกันอย่างมากมาย ดังนั้นธุรกิจด้านโรงแรมจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจและน่าเรียน ทำให้มีสถาบันการศึกษาเปิดสอนทางด้านโรงแรมโดยเฉพาะ และยังถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของวิชาการด้านการโรงแรม เพราะมีหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ และยังมีสอนภาษาที่ 3 ได้แก่ เยอรมัน และ ฝรั่งเศส ที่เป็นหนึ่งภาษาทางการของสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับการเรียนการสอนการโรงแรมของสวิตเซอร์แลนด์ เน้นทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ โดยมีการฝึกงานจริงและยังได้รับค่าจ้าง โดยที่นักเรียนจะไม่ได้ถูกส่งไปฝึกงานเฉพาะในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น แต่ยังถูกส่งไปฝึกงานที่ต่างประเทศด้วย โอกาสแห่งการเรียนรู้ภาษา สวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นสถานที่ที่ดีในการเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เป็นการช่วยเพิ่มตัวเลือกด้านอาชีพหลังจบการศึกษาได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเยอรมนีมีฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปซึ่งเต็มไปด้วยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ได้แก่ การธนาคาร การผลิต และมีโปรแกรมการฝึกอบรมนักศึกษาฝึกงานที่ยอดเยี่ยม ภาษาฝรั่งเศสยังเป็นอีกหนึ่งภาษาที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพในธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งภาษาฝรั่งเศสนั้นเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นอันดับสองในสหภาพยุโรป และเป็นภาษาราชการของ 29 ประเทศทั่วโลก เช่น แคนาดา เบลเยียม และมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตในแอฟริกา เช่น แทนซาเนีย รวันดา และโมซัมบิก เป็นต้น อันดับที่ 4 ประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ได้รับการจัดอันดับว่าเป็น ประเทศที่มีความสงบสุขมากที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 2 โดยพิจารณาจากรายได้ การศึกษา และระดับของการรวมกลุ่มในระดับภูมิภาค, ความโปร่งใสในระดับสูงของรัฐบาลและการทุจริตต่ำ, ความมีเสถียรภาพ อีกทั้งยังมีความก้าวหน้าทางสังคมอย่างแท้จริง โดยประเทศที่ปลอดภัยแห่งนี้ยังมีระบบการศึกษาระดับโลกและการดูแลสุขภาพขั้นสูง ชาวกีวีได้รับการดูแลสุขภาพฟรีจากรัฐ หรือมีค่าใช้จ่ายต่ำในกรณีเจ็บป่วย และเงินสนับสนุนจากรัฐบาลในกรณีว่างงาน เนื่องด้วยปัญหาอาชญกรรมที่น้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทำให้นักเรียนของประเทศนิวซีแลนด์สามารถโฟกัสในเรื่องเรียนเพียงอย่างเดียว และสนุกสนานกับกิจกรรมต่าง ๆ นอกห้องเรียนไปด้วย มาตรฐานการศึกษาระดับสากล ประเทศนิวซีแลนด์มีมาตรฐานในระดับสากล มหาวิทยาลัยทั้ง 8 แห่งของนิวซีแลนด์อยู่ในอันดับ Top 3% ของโลก อีกทั้งนิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับโดย The Economist, Intelligence Unit (Worldwide Educating for the Future Index), 2018 ให้เป็นอันดับที่ 1 ในการเตรียมความพร้อมนักเรียนสู่อนาคต ด้วยความสามารถในการปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้เหมาะกับภาคอุตสาหกรรมและสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ความสามารถของครูและบุคคลากร นโยบายภาครัฐ ความร่วมมือร่วมใจกันของรัฐบาลและภาคเอกชน ความสามารถในการให้คำปรึกษาถึงอาชีพในอนาคตตั้งแต่ในระดับโรงเรียน และความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่แตกต่างแต่อยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว การต้อนรับอย่างอบอุ่น นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากกว่า 100 เชื้อชาติทั่วโลก ชาวนิวซีแลนด์ล้วนเป็นมิตรและพร้อมต้อนรับนักเรียนต่างชาติด้วยความอบอุ่นและความเข้าใจ ตามคำกล่าวของชาวเมารีที่ว่า “Manaakitanga” แปลว่า การเคารพและดูแลผู้ที่อยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจ มีน้ำใจ เอื้ออาทรและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เรียนรู้จากการเรียนและการเล่น ประเทศนิวซีแลนด์ไม่ได้เน้นเฉพาะในด้านของการเรียนเพียงเท่านั้น การเรียนเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของการเรียนในห้องเรียนและการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ซึ่งได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่า เป็นการเรียนที่ดีที่สุดในโลก Study Life Balance โดยนักเรียนสามารถเลือกเรียนในเมืองชนบทที่สวยงามของนิวซีแลนด์ ที่ตั้งไม่ไกลจากเมืองมากนัก หากต้องการช้อปปิ้งหรือสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ก็สามารถเดินทางไปในเมืองใหญ่ได้ไม่ยาก สันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่สงบสุขอันดับ 2 ของโลก (อ้างอิงจาก Global Peace Index,2018) การเรียนในประเทศนิวซีแลนด์นักเรียนจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบ การเมืองที่มีเสถียรภาพและยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทุจริตคอรัปชั่นน้อยที่สุดในโลกอีกด้วย อันดับที่ 5 ประเทศแคนาดา ประเทศแคนาดาจัดได้ว่าเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก หลาย ๆ สถาบันในแคนาดามีชื่อเสียง มีคุณภาพในด้านการเรียนการสอนสูง มีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ใบปริญญาหรือ certificate ต่าง ๆ จากสถาบันและมหาวิทยาลัยในประเทศแคนาดาจึงเป็นตัวการันตีได้ว่าได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ นักศึกษาที่จบจากประเทศแคนาดาจึงมีโอกาสดีที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มาตรฐานการสอนของครู – อาจารย์ หนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศแคนาดาประสบความสำเร็จทางด้านการศึกษาก็คือความสามารถของตัวอาจารย์ผู้สอนที่ให้ความรู้กับนักเรียน ผู้ที่จะมาทำอาชีพครูผู้สอนที่แคนาดาได้ต้องผ่านการคัดกรองมาเป็นอย่างดี โดยแต่ละเมืองจะมีรูปแบบการประเมินผลของตนเอง เช่น การวัดผลที่ผู้สอนต้องผ่านการประเมินทั้งด้านความรู้ในการสอนสาขาวิชานั้น การสอนในภาคปฏิบัติและการปรับตัวกับสังคมแห่งการเรียนรู้ และการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมพร้อมพัฒนาศาสตร์ความรู้ของตนในฐานะของผู้สอน เป็นต้น อาจารย์ของเมืองนั้นจะต้องผ่านหลักสูตรที่กำหนดโดยก่อนเพื่อให้ได้ใบประกาศนียบัตรเพื่อใช้แสดงตนเป็นผู้สอนของเมืองนั้น สถาบันการศึกษาของประเทศแคนาดาจึงขึ้นชื่อในการรักษามาตรฐานคุณภาพการศึกษา เพราะแต่ละสถาบันจะไม่รับอาจารย์ที่ไม่ผ่านการรับรองจากหลักสูตรผู้สอนในประเทศมาเป็นอาจารย์ของสถาบัน และแต่ละเมืองจะมีความเคร่งครัดที่ต่างกันไป เพราะอาจารย์พูดสอนต้องสอบประเมินผลใหม่เมื่อจะย้ายไปสอนในอีกเมือง หนึ่งในระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก แคนาดาหนึ่งในประเทศที่ได้สร้างชื่อเสียงด้านการศึกษาจากการวัดผลในโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment) หรือ PISA ได้จัดให้แคนาดาอยู่ในกลุ่มที่ 10 ประเทศที่เยาวชนมีผลการเรียนเป็นเลิศ เพราะทางรัฐบาลของประเทศแคนาดาให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษามาก มาตรฐานการศึกษาของแคนาดาเป็นที่ยอมรับในระดับโลก นักศึกษาต่างชาติที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยของแคนาดา จึงประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในหน้าที่การงานจากมาตรฐานการศึกษาที่สูงพร้อมประสบการณ์มากมายที่ได้ฝึกฝนในระหว่างนั้น ระบบการเรียนสองภาษา ประเทศแคนาดามีระบบการเรียนการสอนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยผู้เรียนจะต้องเข้าเรียนในชั้นเรียนด้วยภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก และเข้าเรียนในภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่สอง เพราะประเทศแคนาดามี 2 ภาษาราชการ นักเรียนต่างชาติที่เข้าระบบการศึกษาของแคนาดาจึงมีทางเลือกในการเรียนต่อที่จะได้ฝึกทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 59% และมีภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 23% นอกจากนั้นกว่า 18% ของประชากรในแคนาดามีมากกว่าหนึ่งภาษาแม่ ขึ้นอยู่กับประเทศสัญชาติเดิมของผู้อพยพที่ได้เดินทางเข้าไปยังประเทศแคนาดา ภาษาอื่นที่เป็นที่นิยมในประเทศแคนาดา ได้แก่ ภาษาจีน ภาษาสเปน ภาษาอารบิก และ ภาษาตากาล็อก เป็นต้น อันดับที่ 6 ประเทศออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลียถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติหลาย ๆ คน ด้วยเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง สิทธิ์การทำงานสำหรับผู้จบการศึกษาใหม่มีมาก ชีวิตความเป็นอยู่สบาย และระบบการ ศึกษาคุณภาพสูง จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเศรษฐกิจของออสเตรเลียยังคงมีความแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยมีอัตราการว่างงานและเงินเฟ้อต่ำ จากเมืองที่น่าอยู่ที่สุด 10 อันดับแรกของโลก อยู่ในออสเตรเลียถึง 4 เมือง คือเมลเบิร์นอันดับหนึ่ง! ส่วนอีกสามเมืองได้แก่ แอดิเลด ซิดนีย์ และเพิร์ท โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ เสถียรภาพ การดูแลสุขภาพ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษา เน้นการเรียนรู้แบบ Real-world Learning ผลการสำรวจงานวิจัยยืนยันว่าผลการเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้นและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ระบบการเรียนของออสเตรเลียมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพสูงประกอบกับการศึกษาที่เน้นการเรียนรู้ในโลกของความเป็นจริงมากขึ้น โดยเน้นการเรียนแบบภาคปฏิบัติควบคู่กับความรู้เชิงทฤษฎีเพื่อให้ผู้เรียนได้นำความรู้ไปใช้ได้จริงถือเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนให้สอดคล้องกับการทำงานในภาคอุตสาหกรรมไปจนถึงการประกอบอาชีพในอนาคต มาตรฐานคุณภาพแบบขั้นสูง ออสเตรเลียมีหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบและคุณภาพระดับประเทศสำหรับการศึกษาชั้นสูง – Tertiary Education Quality and Standards Agency (TEQSA) ก่อตั้งขึ้นโดยหน่วยรัฐบาลออสเตรเลียเพื่อควบคุมคุณภาพและกำกับดูแลสถานศึกษาชั้นสูงที่เป็นมหาวิทยาลัยและที่ไม่ใช่มหาวิทยาลัย โดยมีชุดมาตรฐานที่พัฒนาขึ้นโดยหน่วยงานอิสระ Higher Education Standards Panel นอกจากนี้ กฎหมาย Education Services for Overseas Student (ESOS) ยังคุ้มครอง สวัสดิภาพของนักเรียนต่างชาติ คุณภาพประสบการณ์การศึกษาของนักเรียน รวมถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน อีกด้วย LGBTQ+ friendly มีความหลากหลายทางเพศ นอกจากความหลากหลายทางวัฒนธรรม ออสเตรเลียยังให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศสภาพ ถือเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ค่อนข้างยอมรับความหลากหลายทางเพศอย่างชัดเจน โดยมีกฎหมายสนับสนุนสิทธิเสรีภาพและความหลากหลายทางเพศ อาทิเช่น การยอมรับการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน (Same-Sax Marraige) ที่ประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2017 รวมถึงการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมโดยเพศเดียวกันก็ถูกรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ที่ออสเตรเลียมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายทั้งการเดินขบวน การเฉลิมฉลอง การจัดประกวด อีเวนท์ เพื่อเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือและผลักดันชาว LGBTQ+ ในสังคมอย่างต่อเนื่อง อันดับที่ 7 ประเทศเยอรมณี เยอรมนีอีกหนึ่งประเทศที่กำลังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเรียนต่างชาติ มีประชากรนักเรียน นักศึกษาต่างชาติจำนวนมากเป็นอันดับสามรองจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ระบบการศึกษาที่สูงขึ้นของเยอรมนีถือเป็นอีกหนึ่งในระบบที่ดีที่สุดของโลก มหาวิทยาลัยหลายแห่งติดอันดับหนึ่งใน 100 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก นอกจากทักษะภาษาที่จะได้เพิ่มมาแล้ว ยังทำให้ได้รู้จักเพื่อน ๆ ต่างชาติ ได้เปิดมุมมองเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง รวมถึงอิทธิพลของภาษา ที่ส่งผลต่อความคิด ทัศนคติ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เป็นการได้ทั้ง ปริญญาจากมหาวิทยาลัย และปริญญาทางการเรียนรู้โลกใหม่ ในการเปิดประสบการณ์ และโลกที่กว้างขึ้น ทั้งภาษา วัฒนธรรม สังคม เพื่อน และการใช้ชีวิตอีกด้วย โอกาสทางการศึกษา (ค่าเล่าเรียนไม่แพงสำหรับการศึกษาต่อ) การศึกษาในประเทศเยอรมันนับได้ว่ามีมาตรฐานที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ที่สำคัญค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยในประเทศเยอรมนีก็ยังไม่แพง (หรือในบางรัฐยังมีค่าเทอมที่ฟรีอยู่) เมื่อเทียบกับในประเทศอังกฤษหรือสหรัฐอเมริกา ทำให้ค่าใช้จ่ายหลักจริง ๆ ในการเรียนตกอยู่ที่ค่าเช่าบ้านและค่ากินเท่านั้น การเรียนภาษาเยอรมันเพื่อเตรียมตัวเรียนต่อนั้นจึงนับเป็นการลงทุนทางการศึกษาที่คุ้มค่า นับว่าหลังเรียนจบมีตลาดแรงงานที่ขาดแคลนแรงงานให้หางานทำต่อ จึงนับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากเลยทีเดียว ภาษาเยอรมันมีคุณค่าทางวิชาการ ภาษาเยอรมันนับเป็นภาษาที่มีความสำคัญอย่างมากในวงการวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม การบริหารและในวงการต่าง ๆ เพราะประเทศเยอรมันเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของอิทธิพลนวัตกรรมการค้นคว้าวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ จนทำให้มีบริษัทเยอรมันขนาดใหญ่จำนวนมากสามารถขยายกิจการไปได้ทั่วโลก และนอกจากงานวิจัยต่าง ๆ หรือหนังสือทางวิชาการแล้ว ยังมีอีกหลายบทความหรือหลายการวิจัยที่สามารถพบได้ในภาษาเยอรมันเท่านั้น นอกจากนี้การศึกษาต่อที่เยอรมันก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะคุณภาพของมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก และค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อที่น้อยมากเรียกได้ว่าแทบเรียนฟรี และยังมีโอกาสดี ๆ อีกมากมายที่จะได้รับหลังจากที่จบการศึกษาที่เยอรมัน คุณภาพชีวิตดี สิ่งแวดล้อมหลากหลาย ชีวิตความเป็นอยู่ของนักเรียนต่างชาติในเยอรมันถูกรายล้อมไปด้วยวัฒนธรรม แสงเสียง ดนตรี ศิลปะที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง เช่น ตามเมืองใหญ่ ๆ ของเยอรมันอย่าง เแบร์ลิน มิวนิค ฮัมบวก จะมีทุกอย่างที่ตอบสนองความต้องการในใช้ชีวิตของนักเรียนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าอะไรที่น่าสนใจ ก็จะเจอคนที่สนใจสิ่งเดียวกัน หรือสถานที่ การรวมกลุ่มที่ตอบสนองความสนใจนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังหาทางเข้าร่วมได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น กีฬา การเมือง ประวิติศาสตร์ หรือศิลปะ รวมถึงวัฒนธรรมที่หลากหลาย เนื่องจากคอร์สเรียนต่าง ๆ ที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ มีค่าใช้จ่ายที่ประหยัด ทำให้นักเรียนจากทั่วโลกหลั่งไหลมาอยู่ที่นี่ อันดับที่ 8 ประเทศฟินแลนด์ ระบบการศึกษาของประเทศ ฟินแลนด์ เน้นที่การเรียนรู้ผ่านการ “เล่น” เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ มากกว่าการเรียนแบบท่องจำและนำไปสอบ เพราะเชื่อว่าการเรียนการสอนแบบนี้จะทำให้นักเรียนเรียนรู้ได้ดีจากการลงมือทำ มากกว่าการท่องจำข้อความที่ไม่จำเป็นจากหนังสือ และจะทำให้เด็กเกิดการพัฒนามากกว่าการแข่งขันกัน แทบจะไม่ได้ให้การบ้านเด็ก ๆ เพราะให้ความสำคัญนอกห้องเรียนมากกว่า นอกจากนี้จำนวนชั่วโมงเรียนก็น้อยลง หากเทียบกับนักเรียนจากส่วนอื่น ๆ ของโลก โดยเฉลี่ยเพียงวันละ 3 ชั่วโมง 45 นาทีเท่านั้น เพราะต้องการสนับสนุนให้นักเรียนให้มีชีวิตนอกโรงเรียน ได้ “เรียนรู้” มากกว่า “เรียน” ดังนั้น การได้มีสังคม มีกิจกรรม หรือสนุกกับกีฬา จึงเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ที่ดีที่สุด เป็นที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุด จากผลการสำรวจพบว่าประเทศฟินแลนด์ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพชีวิต ความมั่นคงของภาพรวม และการศึกษาอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเป็นประเทศที่มีความสุขเป็นอันดับสองของโลก ผลการวัดระดับ Programme for International Student Assessment (PISA) ของนักเรียนชาวฟินแลนด์ก็อยู่ในระดับดีมาตลอด ไม่ได้มีเพียงคุณภาพชีวิตและการศึกษาที่ดีที่ชาวฟินแลนด์ภาคภูมิใจเท่านั้น ประเทศฟินแลนด์ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่มีนวัตกรรมที่มีอิทธิพลในระดับโลกสูงและมีความเป็นมิตรต่อธรรมชาติ ด้วยคะแนนที่อยู่ในระดับสูงเหล่านี้ จึงไม่แปลกใจที่ฟินแลนด์จะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลก บรรยากาศนานาชาติ กระแสโลกาภิวัฒน์ที่กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ นักเรียนต่างชาติสามารถเข้าไปทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในบริษัทของชาวฟินแลนด์ที่ต้องการขยายตลาดออกไปยังต่างประเทศ ประเทศฟินแลนด์ยังมีความต้องการผู้ทำงานสายสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังคาดการณ์ว่าประเทศฟินแลนด์จะเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานเมื่อประชากรกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ที่เกิดหลังสงครามโลกเกษียณ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะไปเรียนต่อและบุกเบิกการทำงานต่อหลังเรียนจบ ฟินแลนด์ยังคงเป็นประเทศที่ยอดเยี่ยมสำหรับการไปเรียน ทำงาน และสร้างครอบครัวอีกด้วย ไม่มีการสอบวัดผลแบบ Standardized Test ระบบการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ไม่มีการทดสอบเพื่อวัดผล เพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้ผลสอบเพื่อขึ้นระดับชั้นที่สูงขึ้นหรือแข่งขันกัน เพราะเชื่อว่า การทำแบบนั้น จะทำให้นักเรียนมุ่งเน้นเรื่องเรียนเพื่อสอบเพียงอย่างเดียว ไม่ได้เน้นที่จะเรียนรู้อย่างแท้จริง อันดับที่ 9 ประเทศอินเดีย ประเทศอินเดีย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เหมาะกับการไปเรียนต่อมากที่สุด แต่คนไทยส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยจะนึกถึงกันสักเท่าไหร่ เป็นอีกหนึ่งในประเทศที่มีสถาบันทางการศึกษาที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับให้เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากอเมริกา และ จีน จึงมีหลักสูตรที่หลากหลายทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ โดยมีหลักสูตรยอดนิยมของนักเรียนชาวต่างชาติ เช่น วิศวกรรมศาสตร์ บริหารธุรกิจ การแพทย์ และศิลปศาสตร์ นอกจากนี้ อินเดียยังขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์อันดับต้น ๆ ของโลก การผสมผสานด้านการศึกษา การศึกษาแบบอินเดียได้รับอิทธิพลจากชาวอังกฤษผสมผสานกับปรัชญาดั้งเดิมแบบฮินดู พุทธ มุสลิมและแบบเปอร์เซียเข้าไว้ด้วยกัน โดยถูกถ่ายทอดจากอาจารย์ผ่านความเป็น กูรู จึงไม่แปลกนักที่ศิษย์เก่าต่างชาติอินเดียจำนวนมากจะได้รับการยอมรับ อาทิ อองซาน ซูจี (ผู้นำประชาธิปไตยของพม่า จบด้านรัฐศาสตร์จากเดลี) H.E. Le Luong Minh (เลขาธิการอาเซียนคนปัจจุบันชาวเวียดนาม จบโทจาก JNU) เป็นต้น รวมถึงนักเรียนจากมหาวิทยาลัยในอินเดีย ต่างได้รับการตอบรับเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วโลก .. นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ชาวอินเดียหลายท่านยังได้รับการยอมรับในระดับโลก เช่น Partha Chatterjee จากมหาวิทยาลัยกัลกัตตา นักวิชาการแนวหน้าด้าน Subaltern Studies อีกด้วย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ประเทศอินเดียถือเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาการคอมพิวเตอร์อันดับต้นของโลก ไฮเดอราบาด หรืออีกชี่อคือ Cyberabad ถูกขนามนามให้เป็นซิลลิคอนวัลเลย์ของเอเชียเมืองบังกาลอว์เป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์มือฉมังของโลก นอกจากนี้อินเดียยังสามารถส่งกระสวยอวกาศไปยังดาวอังคารได้เป็นผลสำเร็จ รวมถึงขีปนาวุธอัคนีที่มีพิสัยไกลถึง 5,000 กิโลเมตร เล็งไปที่จีนก็สามารถยิงไปยังทุกเมืองใหญ่ของชาวจีน ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของอินเดียย่อมเป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นดีสำหรับนักเรียนสายวิทยาศาสตร์ ประสบการณ์นอกห้องเรียน อินเดียประเทศแห่งอารยธรรมที่สำคัญของโลก มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น ทัชมาฮาล รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย ตั้งแต่ทะเลทรายไปจนถึงท้องทะเลอันงดงาม มีโอกาสได้เรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมที่มีความหลากหลายอยู่สูง รวมถึงได้ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ และเรียนรู้เรื่องราววัฒนธรรม อีกทั้งยังมีการพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวผ่อนคลายนอกสถานที่ มีประเพณี วัฒนธรรม วันหยุด ที่คล้ายกับของประเทศไทย ขณะที่นักศึกษาต่างชาติที่มาเรียนต่อมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่จะมีโฮสเทล อยู่ภายในมหาวิทยาลัย เหมาะสำหรับให้นักศึกษาได้พักอาศัยส่วนตัว อันดับที่ 10 ประเทศสิงคโปร์ สิงคโปร์ นิยามของคำว่า “ตะวันออกพบกับตะวันตก” ถือว่าเหมาะกับนักเรียนที่ชอบความแปลกใหม่ของวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เต็มไปด้วยการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัว ในส่วนของการศึกษา สิงค์โปร์ก็เป็นอีกหนึ่ง Destination ที่ผู้คนจากทั่วโลกให้ความสนใจเดินทางไปเรียนต่อ เพราะมีการมุ่งเน้นความรู้ทางวิชาการอย่างตรงจุดคือความรู้ในแต่ละระดับ ส่วนทักษะรอบด้าน คือ การพัฒนาทักษะอื่น ๆ จากการเข้าชมรม ซึ่งชาวสิงคโปร์จะเรียกว่า CCA ซึ่งมีความจริงจังในการพัฒนาทักษะแต่ละอย่างเป็นอย่างมากเพื่อเก็บให้เป็น Portfolio ได้ เช่น ชมรมกีฬา ชมรมประสานเสียง ก็จะมีการซ้อมในทุก ๆ อาทิตย์และพาไปแข่งขันอย่างจริงจัง เมืองในฝัน สิงคโปร์ข้นชื่อได้ว่า “เมืองในสวน หรือ City in the Garden” หากใครเคยไปสิงคโปร์จะเห็นว่าทุกตารางนิ้วของประเทศเล็ก ๆ เต็มด้วยพื้นที่สีเขียวสบายตา คงไม่ต้องแปลกใจเพราะนี่คือวิสัยทัศน์ที่ทำให้ชาวต่างชาติทั้งอาเซียน และทวีปอื่น ๆ อยากมาใช้ชีวิตที่นี่ จะได้พบกับคนมากหน้าหลายตา หลายชนชาติ ส่งผลให้เป็นเมืองที่นอกจะรวยในพื้นที่สีเขียว ยังรวยวัฒนธรรม นอกจากนี้สิงค์โปร์ยังได้รับการยกย่องจาก The Economist Intelligence Unit ว่าเป็นอันดับ 1 ในด้าน Personal Security และ Infrastructure Security จึงสบายใจได้เลยว่า การเข้าไปเรียนในประเทศที่มีความปลอดภัยสูง ทำให้โฟกัสกับการเรียนและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยทางด้านร่างกายและทรัพย์สิน ระบบการศึกษายอดเยี่ยม ประเทศสิงคโปร์หนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดแห่งของโลก มีความหลากหลายทางหลักสูตรและมหาวิทยาลัยทั้งของภาครัฐและเอกชน ขณะเดียวกันยังมีสถาบันการศึกษาจำนวนมากที่เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ทางการศึกษากับมหาวิทยาลัยต่างชาติเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการศึกษาเพิ่มขึ้น อาทิ หลักสูตรการศึกษาข้ามพรมแดน Transnational Education. เป็นต้น โอกาสในการทำงาน เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการแข่งขันและเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ทำให้นักศึกษาที่เรียนจบมีโอกาสได้ฝึกงานหรือร่วมงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลก นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของบริษัทชั้นนำของโลกในเอเชีย อย่าง Google, Netflix, Microsoft ฯลฯ การขอวีซ่าทำงานในสิงคโปร์นายจ้างต้องทำเรื่องให้ก่อน แต่ข้อได้เปรียบของการมาเรียนในสิงคโปร์ก็คือจะมีโอกาสได้ฝึกงานก่อน (โดยใช้วีซ่าของนักเรียน) จากนั้นก็จะมีโอกาสต่อยอดเพื่อไปทำงานได้นั่นเอง ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นบางส่วนจากชาวชุมชน Eduzones จากโพล์ลการสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด และกลายเป็นประเทศยอดฮิตในแวดวงการศึกษาต่อของเหล่านักเรียนต่างชาติในหลายประเทศ ส่วนเหตุผลข้อต่อ ๆ ไปจะมีอะไรบ้าง อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของตัวเองภายใต้โพสต์นี้ แม้จะเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูงสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ แต่เชื่อว่าประสบการณ์ชีวิตที่จะได้รับกลับไปต้องมีค่ามากกว่าอย่างแน่นอน EZ Webmaster Related Posts 40 ปี ม.รังสิต ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ ชูหัวใจ คือ นักศึกษา เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ ซีเอ็มเอ็มยู เปิดผลวิจัยใหม่ถอดด้าม “การตลาดคนขี้เบื่อ” พร้อมเจาะ “พฤติกรรมขี้เบื่อคน 4 Gen” คลื่นลูกใหม่กระทบ “Brand Loyalty” โชว์เทคนิคช่วยแบรนด์ดึงคนเบื่อหวนภักดีต่อสินค้า – บริการ มศว ประกาศการปรับจำนวนการรับ TCAS รอบที่ 3 (Admission) เพิ่ม LEARN to EARN เพราะชีวิต คือการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด “สุรพรชัย ธรรมศิริ” ว่าที่นักกายอุปกรณ์ ที่ไม่หยุดพัฒนาตนเอง เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ Post navigation PREVIOUS Previous post: รองอธิการบดีสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา ร่วมแถลงข่าวการจัดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ในโอกาสเฉลิมฉลอง 100 ปีประสูติNEXT Next post: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา จัดพิธีถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการบริหารการพัฒนา แด่ พระอาจารย์จีนคณาณัติจีนพรต (เย็นงี้) ณ วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดมอบทุนเต็มจำนวน ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย tui sakrapeeApril 20, 2024 กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น (MEXT) ประกาศมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน ค่าครองชีพ และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) แก่ชาวไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ URL ด้านล่างนี้ ประเภททุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) URL :… ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH…
ทุน NUS-MoPH Scholarship เรียนระดับป.โท และป.เอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร tui sakrapeeApril 19, 2024 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669 ประชาสัมพันธ์ โครงการทุน NUS-MoPH Scholarship ปีที่ 2 ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านสาธารณสุข ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ฟรีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลักสูตร โครงการทุน NUS-MoPH…
สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ EZ WebmasterMay 10, 2024 สำนักการเรียนรู้ตลอดชีวิตพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KLLC) ภายใต้สังกัดสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดโครงการ DEP หลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล เพื่อคนพิการ สร้างงาน สร้างอาชีพ” โดยมี ผศ.ดร.ทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร เป็นหัวหน้าโครงการ พร้อมด้วย รศ.ดร.จรสวรรณ โกยวานิช ผู้อำนวยการ KLLC, คุณหญิง ดร. สุมาลี อุทัยเฉลิม… สสวท. อบรมครูศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ชูสะเต็มศึกษานำร่องหนุนครูขยายผลสู่โรงเรียนทั่วประเทศ EZ WebmasterMay 10, 2024 รองศาสตราจารย์ ดร.ธีระเดช เจียรสุขสกุล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ สำหรับศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ประจำปี พ.ศ. 2567 พร้อมด้วย ดร.พรชัย อินทร์ฉาย รองผู้อำนวยการ สสวท. โดยมีโรงเรียนศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 30 ศูนย์จากทั่วประเทศและโรงเรียนสังเกตการณ์ 1 โรงเรียน จำนวนครู 124 คน ร่วมในการอบรม เพื่อนำหลักสูตรไปขยายผลให้ครูและโรงเรียนในระยะต่อไป ณ โรงแรมกราฟ… คณะแพทยศาสตร์ สจล. เปิดรับสมัครนักศึกษา ป.โท สาขาการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ) EZ WebmasterMay 9, 2024 คณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ขอเชิญผู้สนใจสมัครเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต(ปริญญาโท) สาขาการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ) ประจำปีการศึกษา 2567 ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และเศรษฐกิจสังคมในปัจจุบัน รวมทั้งความรู้และทักษะที่ช่วยให้ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถเป็นผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีด้านสุขภาพได้อย่างแท้จริง สำหรับคุณสมบัติผู้สมัครจะต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือเรียนในปีสุดท้ายของหลักสูตรปริญญาตรี สมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 15 พฤษภาคม 2567 ผ่านลงทะเบียนออนไลน์ที่ www.reg.kmitl.ac.th หรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://md.kmitl.ac.th/ การศึกษาไทยกำลังสิ้นหวัง ครูได้เงินเพิ่ม แต่PISA-โอเน็ต ‘ต่ำ’ EZ WebmasterMay 8, 2024 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม นายสมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า จากผลคะแนนสอบPISA และผลคะแนนสอบโอเน็ต ที่ร่วงเป็นราวหรือไม่เกิน 50% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องกระบวนการเรียนรู้เราไม่ได้แก้ไขอะไรเลย ซึ่งสวนทางกับเรื่องที่ครูได้รับเงินที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าตอบแทน ค่าตำแหน่ง วิทยฐานะที่สูงขึ้นตามลำดับ แต่คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของเด็กไม่ดีขึ้น… กิจกรรม ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน EZ WebmasterMay 3, 2024 ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี! ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ทาง www.vec.go.th… ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search EZ Webmaster April 24, 2023 EZ Webmaster April 24, 2023 สรุปความคิดเห็น 10 อันดับ! ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จัดอันดับ! ความคิดเห็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จากชุมชนชาว Eduzones สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ชุมชน Eduzones ของเรา ได้รวบรวมผลสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด? จาก โพล์ลการสำรวจความคิดเห็นด้านล่างนี้ https://www.facebook.com/interscholarship/posts/pfbid02on1d5jCx3N5E9uCkMLKMwWuDrHz1dZqdW2edy75RDnpRfiMDf3QTtX1sev5fdxSzl โดยเราได้รวบรวมผลจากการแสดงความคิดเห็นและได้จัดอันดับหมวดหมู่ออกเป็น 10 อันดับ ดังนี้ อันดับที่ 1 ประเทศสหรัฐอเมริกา ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นตัวเลือกแรกที่ขึ้นมาเมื่อคนต้องการไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ เพราะการศึกษาที่มีคุณภาพ และ เป็นที่นิยมสูงมากในหมู่นักเรียน ด้วยวิธีการสอน ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น การศึกษาสาย STEM คุณภาพที่มีอิสระ ที่จะเรียนในสาขาวิชาต่าง ๆ ในระดับปริญญาตรี ก่อนที่จะลง เรียนวิชาเอก นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกในการทำวิชาเอกสองครั้ง (รับปริญญาตรีในสองวิชาในเวลาเดียวกัน) ในระดับสูงกว่าปริญญาตรี และสามารถเลือกชั้นเรียนเพื่อให้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสาขาวิชาที่สนใจได้ มหาวิทยาลัยได้รับการยอมรับในระดับสากล อเมริกามีมหาวิทยาลัยมากกว่า 4,000 แห่ง ที่ เปิดสอน ระดับปริญญา ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เพราะความพร้อมในการเรียน ไม่ว่าจะเป็นความพร้อม ในด้านอุปกรณ์ที่ครบครัน และ ทันสมัย พร้อมด้วย พนักงานที่มีประสบการณ์มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ยังเป็น ผู้นำระดับโลก ด้าน การวิจัย เนื่องจากรัฐบาลใช้งบประมาณ จำนวนมากในการคิดค้นวิจัยนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมา การพัฒนาทักษะที่หลากหลาย เนื่องจากวิธีการสอนที่ยืดหยุ่นของประเทศ จะมีโอกาสได้พัฒนาทักษะความสามารถข้ามสาขาวิชาซึ่งจะช่วยให้โดดเด่นกว่าเพื่อน มหาวิทยาลัยอเมริกาจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถเริ่มเตรียมตัวสำหรับงานในฝันได้ตั้งแต่ปริญญาตรี และเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำในเกือบทุกสาขา เช่น เทคโนโลยี สื่อ และ ศิลปะ จนมีโอกาสมากมายเมื่อเริ่มมองหาการฝึกงานงานพาร์ทไทม์หรือประสบการณ์การทำงานหลังเรียนจบ ระบบการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติ อเมริกาสนับสนุนให้ความช่วยเหลือนักเรียนต่างชาติได้ดี จากมหาวิทยาลัยในอเมริกาจะช่วยเหลือนักศึกษาต่างชาติ ตั้งแต่ ปฐมนิเทศจนถึง สำเร็จการศึกษา สามารถ ไปที่สำนักงานนักศึกษาต่างชาติ ของ มหาวิทยาลัย ได้ตลอดเวลา เพื่อขอคำแนะนำที่ต้องการ มหาวิทยาลัยหลายแห่งยังให้ความช่วยเหลือโดยจัดโปรแกรม เพื่อ ช่วยนักศึกษาต่างชาติ ในการเขียนเชิงวิชาการ และ ปรับตัวเข้ากับระบบการศึกษาใหม่ ข้อนี้ทำให้หลาย ๆ คน ตัดสินใจได้ว่าทำไมต้องเป็นอเมริกา อันดับที่ 2 ประเทศอังกฤษ หากพูดถึงการเรียนต่อที่ต่างประเทศเชื่อว่า ‘อังกฤษ’ คือ Top of Mind ที่อยู่อันดับต้น ๆ ในใจของทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กไทยที่อยากไปศึกษาต่อ เพราะประเทศอังกฤษเป็นที่นิยม จากสถานที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมที่มีชื่อเสียงและได้รับการันตีว่าดีที่สุดในโลก รวมทั้งยังเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ได้เคยผลิตนักวิทยาศาสตร์ระดับตำนานในอดีต ไม่ว่าจะเป็น เซอร์ไอแซก นิวตัน นักฟิสิกส์ หรือ สตีเฟน ฮอว์คิง อัจฉริยะทางฟิสิกส์ พ่อแม่-ผู้ปกครอง จึงได้วางใจและคาดหวังว่าอังกฤษ จะมอบคุณภาพอันดีเยี่ยมเหล่านั้นให้แก่บุตร-หลาน ไม่เพียงแต่ด้านวิชาการ แต่ยังรวมไปถึง ความเป็นเลิศด้านดนตรี ศิลปะ และการเขียนอีกด้วย หลักสูตรอันเป็นประตูสู่ระดับ World-Class โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในประเทศอังกฤษ เสนอหลักสูตรที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพระดับสากล ที่ถือเป็นใบเบิกทางชั้นดีสู่การต่อยอดการศึกษาขั้นสูงและการทำงานยังประเทศชั้นนำอื่น ๆ ซึ่งอันได้แก่ IGCSE, International Baccalaureate Diploma, A-Levels ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้ เป็นสากลและได้รับการยอมรับจากประเทศอื่น ๆ เรียกได้ว่า เป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงให้แก่บุตร-หลานได้มากเลยทีเดียว ได้ภาษาอังกฤษที่ดีจากต้นกำเนิด ภาษาอังกฤษถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะเป็นภาษาที่คนใช้กันทั่วโลก สามารถใช้สื่อสารได้ในหลายๆ ประเทศ และใช้ต่อยอดในหน้าที่การงานในอนาคตได้ ซึ่งการไปเรียนที่ต่างประเทศ (โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ของประเทศอังกฤษ) มีข้อดีคือ เรื่องสำเนียงที่ถูกต้องแบบชาวบริติช และยังมีคอนเนคชั่นกับชาวต่างชาติ ปฎิเสธไม่ได้ว่าการไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษมีข้อดีที่เด่นชัดที่สุดคือเรื่องของภาษา ที่เป็นต้นตำรับ เชื่อได้ว่าทักษะภาษาอังกฤษจะดีขึ้นมากหากได้ลองไปเรียน หรือใช้ชีวิตอยู่ในประเทศต้นกำเนิด แนวทางการพัฒนาตัวเองที่หาไม่ได้จากที่อื่น เหตุผลอีกหนึ่งประการ ที่ถือเป็นสิ่งสำคัญ ในการศึกษาต่อประเทศอังกฤษ นั่นก็คือ แนวทางการพัฒนาตนเองที่เด็กจะได้รับ โรงเรียนมัธยมในอังกฤษ มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาศักยภาพนักเรียนของพวกเขา เพื่อพร้อมก้าวสู่โลกใบใหญ่และการเดินทางต่อในระดับมหาวิทยาลัย นอกจากนั้น สถาบันการศึกษาในอังกฤษยังสนับสนุนและแนะนำอย่างเต็มที่ ให้นักเรียนมีความมั่นใจ พร้อมจิตใจที่เปิดกว้าง และเปิดรับโอกาสที่ดีในอนาคต อันดับที่ 3 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หากจะบอกว่าสวิตเซอร์แลนด์ คือหนึ่งในประเทศที่คนไทยชื่นชอบมากที่สุดคงไม่แปลกนัก สังเกตได้จากคนไทยจำนวนมากที่ไปตั้งรกรากอยู่ที่นั่น รวมถึงเป็นดินแดนแห่งความสุขที่สามารถพบเจอรอยยิ้มของผู้คนได้แทบทุกเส้นทางบนถนน การมีโอกาสได้เรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์ จึงเป็นสิ่งที่นักเรียนไทยจำนวนมากใฝ่ฝันเอาไว้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากหากมีความตั้งใจ แม้ไม่ใช่ประเทศใหญ่ในยุโรป แต่เชื่อว่าความรู้ที่ได้บวกกับประสบการณ์ดี ๆ ในชีวิตมันช่างคุ้มค่ากับการเดินทางไปอย่างยิ่ง มหาวิทยาลัยชั้นนำ สวิสเซอร์แลนด์มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอยู่หลายแห่ง และมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประเทศสองแห่ง ได้แก่ EPFL และ ETH Zurich ยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 30 มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ใน The Times Higher Education (THE) World University Rankings นักศึกษามีความพึงพอใจกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูงในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศและส่วนใหญ่จะชื่นชอบคุณภาพการสอนในแต่ละหลักสูตรเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปแล้ว มหาวิทยาลัยของสวิสเซอร์แลนด์มีชื่อเสียงด้านการเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นชาวสวิสหรือนักศึกษาต่างชาติที่เรียนในสถาบันที่สวิสเซอร์แลนด์ ก็จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนายจ้าง ระบบการศึกษาคุณภาพระดับโลก ระบบการศึกษาของสวิตเซอร์แลนด์เป็นอีกหนึ่งอย่างที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้าน “การโรงแรม” เนื่องจากประเทศแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกันอย่างมากมาย ดังนั้นธุรกิจด้านโรงแรมจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจและน่าเรียน ทำให้มีสถาบันการศึกษาเปิดสอนทางด้านโรงแรมโดยเฉพาะ และยังถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของวิชาการด้านการโรงแรม เพราะมีหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ และยังมีสอนภาษาที่ 3 ได้แก่ เยอรมัน และ ฝรั่งเศส ที่เป็นหนึ่งภาษาทางการของสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับการเรียนการสอนการโรงแรมของสวิตเซอร์แลนด์ เน้นทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ โดยมีการฝึกงานจริงและยังได้รับค่าจ้าง โดยที่นักเรียนจะไม่ได้ถูกส่งไปฝึกงานเฉพาะในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น แต่ยังถูกส่งไปฝึกงานที่ต่างประเทศด้วย โอกาสแห่งการเรียนรู้ภาษา สวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นสถานที่ที่ดีในการเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เป็นการช่วยเพิ่มตัวเลือกด้านอาชีพหลังจบการศึกษาได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเยอรมนีมีฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปซึ่งเต็มไปด้วยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ได้แก่ การธนาคาร การผลิต และมีโปรแกรมการฝึกอบรมนักศึกษาฝึกงานที่ยอดเยี่ยม ภาษาฝรั่งเศสยังเป็นอีกหนึ่งภาษาที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพในธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งภาษาฝรั่งเศสนั้นเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นอันดับสองในสหภาพยุโรป และเป็นภาษาราชการของ 29 ประเทศทั่วโลก เช่น แคนาดา เบลเยียม และมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตในแอฟริกา เช่น แทนซาเนีย รวันดา และโมซัมบิก เป็นต้น อันดับที่ 4 ประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ได้รับการจัดอันดับว่าเป็น ประเทศที่มีความสงบสุขมากที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 2 โดยพิจารณาจากรายได้ การศึกษา และระดับของการรวมกลุ่มในระดับภูมิภาค, ความโปร่งใสในระดับสูงของรัฐบาลและการทุจริตต่ำ, ความมีเสถียรภาพ อีกทั้งยังมีความก้าวหน้าทางสังคมอย่างแท้จริง โดยประเทศที่ปลอดภัยแห่งนี้ยังมีระบบการศึกษาระดับโลกและการดูแลสุขภาพขั้นสูง ชาวกีวีได้รับการดูแลสุขภาพฟรีจากรัฐ หรือมีค่าใช้จ่ายต่ำในกรณีเจ็บป่วย และเงินสนับสนุนจากรัฐบาลในกรณีว่างงาน เนื่องด้วยปัญหาอาชญกรรมที่น้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทำให้นักเรียนของประเทศนิวซีแลนด์สามารถโฟกัสในเรื่องเรียนเพียงอย่างเดียว และสนุกสนานกับกิจกรรมต่าง ๆ นอกห้องเรียนไปด้วย มาตรฐานการศึกษาระดับสากล ประเทศนิวซีแลนด์มีมาตรฐานในระดับสากล มหาวิทยาลัยทั้ง 8 แห่งของนิวซีแลนด์อยู่ในอันดับ Top 3% ของโลก อีกทั้งนิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับโดย The Economist, Intelligence Unit (Worldwide Educating for the Future Index), 2018 ให้เป็นอันดับที่ 1 ในการเตรียมความพร้อมนักเรียนสู่อนาคต ด้วยความสามารถในการปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้เหมาะกับภาคอุตสาหกรรมและสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ความสามารถของครูและบุคคลากร นโยบายภาครัฐ ความร่วมมือร่วมใจกันของรัฐบาลและภาคเอกชน ความสามารถในการให้คำปรึกษาถึงอาชีพในอนาคตตั้งแต่ในระดับโรงเรียน และความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่แตกต่างแต่อยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว การต้อนรับอย่างอบอุ่น นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากกว่า 100 เชื้อชาติทั่วโลก ชาวนิวซีแลนด์ล้วนเป็นมิตรและพร้อมต้อนรับนักเรียนต่างชาติด้วยความอบอุ่นและความเข้าใจ ตามคำกล่าวของชาวเมารีที่ว่า “Manaakitanga” แปลว่า การเคารพและดูแลผู้ที่อยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจ มีน้ำใจ เอื้ออาทรและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เรียนรู้จากการเรียนและการเล่น ประเทศนิวซีแลนด์ไม่ได้เน้นเฉพาะในด้านของการเรียนเพียงเท่านั้น การเรียนเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของการเรียนในห้องเรียนและการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ซึ่งได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่า เป็นการเรียนที่ดีที่สุดในโลก Study Life Balance โดยนักเรียนสามารถเลือกเรียนในเมืองชนบทที่สวยงามของนิวซีแลนด์ ที่ตั้งไม่ไกลจากเมืองมากนัก หากต้องการช้อปปิ้งหรือสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ก็สามารถเดินทางไปในเมืองใหญ่ได้ไม่ยาก สันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่สงบสุขอันดับ 2 ของโลก (อ้างอิงจาก Global Peace Index,2018) การเรียนในประเทศนิวซีแลนด์นักเรียนจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบ การเมืองที่มีเสถียรภาพและยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทุจริตคอรัปชั่นน้อยที่สุดในโลกอีกด้วย อันดับที่ 5 ประเทศแคนาดา ประเทศแคนาดาจัดได้ว่าเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก หลาย ๆ สถาบันในแคนาดามีชื่อเสียง มีคุณภาพในด้านการเรียนการสอนสูง มีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ใบปริญญาหรือ certificate ต่าง ๆ จากสถาบันและมหาวิทยาลัยในประเทศแคนาดาจึงเป็นตัวการันตีได้ว่าได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ นักศึกษาที่จบจากประเทศแคนาดาจึงมีโอกาสดีที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มาตรฐานการสอนของครู – อาจารย์ หนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศแคนาดาประสบความสำเร็จทางด้านการศึกษาก็คือความสามารถของตัวอาจารย์ผู้สอนที่ให้ความรู้กับนักเรียน ผู้ที่จะมาทำอาชีพครูผู้สอนที่แคนาดาได้ต้องผ่านการคัดกรองมาเป็นอย่างดี โดยแต่ละเมืองจะมีรูปแบบการประเมินผลของตนเอง เช่น การวัดผลที่ผู้สอนต้องผ่านการประเมินทั้งด้านความรู้ในการสอนสาขาวิชานั้น การสอนในภาคปฏิบัติและการปรับตัวกับสังคมแห่งการเรียนรู้ และการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมพร้อมพัฒนาศาสตร์ความรู้ของตนในฐานะของผู้สอน เป็นต้น อาจารย์ของเมืองนั้นจะต้องผ่านหลักสูตรที่กำหนดโดยก่อนเพื่อให้ได้ใบประกาศนียบัตรเพื่อใช้แสดงตนเป็นผู้สอนของเมืองนั้น สถาบันการศึกษาของประเทศแคนาดาจึงขึ้นชื่อในการรักษามาตรฐานคุณภาพการศึกษา เพราะแต่ละสถาบันจะไม่รับอาจารย์ที่ไม่ผ่านการรับรองจากหลักสูตรผู้สอนในประเทศมาเป็นอาจารย์ของสถาบัน และแต่ละเมืองจะมีความเคร่งครัดที่ต่างกันไป เพราะอาจารย์พูดสอนต้องสอบประเมินผลใหม่เมื่อจะย้ายไปสอนในอีกเมือง หนึ่งในระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก แคนาดาหนึ่งในประเทศที่ได้สร้างชื่อเสียงด้านการศึกษาจากการวัดผลในโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment) หรือ PISA ได้จัดให้แคนาดาอยู่ในกลุ่มที่ 10 ประเทศที่เยาวชนมีผลการเรียนเป็นเลิศ เพราะทางรัฐบาลของประเทศแคนาดาให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษามาก มาตรฐานการศึกษาของแคนาดาเป็นที่ยอมรับในระดับโลก นักศึกษาต่างชาติที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยของแคนาดา จึงประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในหน้าที่การงานจากมาตรฐานการศึกษาที่สูงพร้อมประสบการณ์มากมายที่ได้ฝึกฝนในระหว่างนั้น ระบบการเรียนสองภาษา ประเทศแคนาดามีระบบการเรียนการสอนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยผู้เรียนจะต้องเข้าเรียนในชั้นเรียนด้วยภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก และเข้าเรียนในภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่สอง เพราะประเทศแคนาดามี 2 ภาษาราชการ นักเรียนต่างชาติที่เข้าระบบการศึกษาของแคนาดาจึงมีทางเลือกในการเรียนต่อที่จะได้ฝึกทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 59% และมีภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 23% นอกจากนั้นกว่า 18% ของประชากรในแคนาดามีมากกว่าหนึ่งภาษาแม่ ขึ้นอยู่กับประเทศสัญชาติเดิมของผู้อพยพที่ได้เดินทางเข้าไปยังประเทศแคนาดา ภาษาอื่นที่เป็นที่นิยมในประเทศแคนาดา ได้แก่ ภาษาจีน ภาษาสเปน ภาษาอารบิก และ ภาษาตากาล็อก เป็นต้น อันดับที่ 6 ประเทศออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลียถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติหลาย ๆ คน ด้วยเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง สิทธิ์การทำงานสำหรับผู้จบการศึกษาใหม่มีมาก ชีวิตความเป็นอยู่สบาย และระบบการ ศึกษาคุณภาพสูง จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเศรษฐกิจของออสเตรเลียยังคงมีความแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยมีอัตราการว่างงานและเงินเฟ้อต่ำ จากเมืองที่น่าอยู่ที่สุด 10 อันดับแรกของโลก อยู่ในออสเตรเลียถึง 4 เมือง คือเมลเบิร์นอันดับหนึ่ง! ส่วนอีกสามเมืองได้แก่ แอดิเลด ซิดนีย์ และเพิร์ท โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ เสถียรภาพ การดูแลสุขภาพ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษา เน้นการเรียนรู้แบบ Real-world Learning ผลการสำรวจงานวิจัยยืนยันว่าผลการเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้นและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ระบบการเรียนของออสเตรเลียมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพสูงประกอบกับการศึกษาที่เน้นการเรียนรู้ในโลกของความเป็นจริงมากขึ้น โดยเน้นการเรียนแบบภาคปฏิบัติควบคู่กับความรู้เชิงทฤษฎีเพื่อให้ผู้เรียนได้นำความรู้ไปใช้ได้จริงถือเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนให้สอดคล้องกับการทำงานในภาคอุตสาหกรรมไปจนถึงการประกอบอาชีพในอนาคต มาตรฐานคุณภาพแบบขั้นสูง ออสเตรเลียมีหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบและคุณภาพระดับประเทศสำหรับการศึกษาชั้นสูง – Tertiary Education Quality and Standards Agency (TEQSA) ก่อตั้งขึ้นโดยหน่วยรัฐบาลออสเตรเลียเพื่อควบคุมคุณภาพและกำกับดูแลสถานศึกษาชั้นสูงที่เป็นมหาวิทยาลัยและที่ไม่ใช่มหาวิทยาลัย โดยมีชุดมาตรฐานที่พัฒนาขึ้นโดยหน่วยงานอิสระ Higher Education Standards Panel นอกจากนี้ กฎหมาย Education Services for Overseas Student (ESOS) ยังคุ้มครอง สวัสดิภาพของนักเรียนต่างชาติ คุณภาพประสบการณ์การศึกษาของนักเรียน รวมถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน อีกด้วย LGBTQ+ friendly มีความหลากหลายทางเพศ นอกจากความหลากหลายทางวัฒนธรรม ออสเตรเลียยังให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศสภาพ ถือเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ค่อนข้างยอมรับความหลากหลายทางเพศอย่างชัดเจน โดยมีกฎหมายสนับสนุนสิทธิเสรีภาพและความหลากหลายทางเพศ อาทิเช่น การยอมรับการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน (Same-Sax Marraige) ที่ประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2017 รวมถึงการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมโดยเพศเดียวกันก็ถูกรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ที่ออสเตรเลียมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายทั้งการเดินขบวน การเฉลิมฉลอง การจัดประกวด อีเวนท์ เพื่อเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือและผลักดันชาว LGBTQ+ ในสังคมอย่างต่อเนื่อง อันดับที่ 7 ประเทศเยอรมณี เยอรมนีอีกหนึ่งประเทศที่กำลังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเรียนต่างชาติ มีประชากรนักเรียน นักศึกษาต่างชาติจำนวนมากเป็นอันดับสามรองจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ระบบการศึกษาที่สูงขึ้นของเยอรมนีถือเป็นอีกหนึ่งในระบบที่ดีที่สุดของโลก มหาวิทยาลัยหลายแห่งติดอันดับหนึ่งใน 100 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก นอกจากทักษะภาษาที่จะได้เพิ่มมาแล้ว ยังทำให้ได้รู้จักเพื่อน ๆ ต่างชาติ ได้เปิดมุมมองเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง รวมถึงอิทธิพลของภาษา ที่ส่งผลต่อความคิด ทัศนคติ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เป็นการได้ทั้ง ปริญญาจากมหาวิทยาลัย และปริญญาทางการเรียนรู้โลกใหม่ ในการเปิดประสบการณ์ และโลกที่กว้างขึ้น ทั้งภาษา วัฒนธรรม สังคม เพื่อน และการใช้ชีวิตอีกด้วย โอกาสทางการศึกษา (ค่าเล่าเรียนไม่แพงสำหรับการศึกษาต่อ) การศึกษาในประเทศเยอรมันนับได้ว่ามีมาตรฐานที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ที่สำคัญค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยในประเทศเยอรมนีก็ยังไม่แพง (หรือในบางรัฐยังมีค่าเทอมที่ฟรีอยู่) เมื่อเทียบกับในประเทศอังกฤษหรือสหรัฐอเมริกา ทำให้ค่าใช้จ่ายหลักจริง ๆ ในการเรียนตกอยู่ที่ค่าเช่าบ้านและค่ากินเท่านั้น การเรียนภาษาเยอรมันเพื่อเตรียมตัวเรียนต่อนั้นจึงนับเป็นการลงทุนทางการศึกษาที่คุ้มค่า นับว่าหลังเรียนจบมีตลาดแรงงานที่ขาดแคลนแรงงานให้หางานทำต่อ จึงนับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากเลยทีเดียว ภาษาเยอรมันมีคุณค่าทางวิชาการ ภาษาเยอรมันนับเป็นภาษาที่มีความสำคัญอย่างมากในวงการวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม การบริหารและในวงการต่าง ๆ เพราะประเทศเยอรมันเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของอิทธิพลนวัตกรรมการค้นคว้าวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ จนทำให้มีบริษัทเยอรมันขนาดใหญ่จำนวนมากสามารถขยายกิจการไปได้ทั่วโลก และนอกจากงานวิจัยต่าง ๆ หรือหนังสือทางวิชาการแล้ว ยังมีอีกหลายบทความหรือหลายการวิจัยที่สามารถพบได้ในภาษาเยอรมันเท่านั้น นอกจากนี้การศึกษาต่อที่เยอรมันก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะคุณภาพของมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก และค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อที่น้อยมากเรียกได้ว่าแทบเรียนฟรี และยังมีโอกาสดี ๆ อีกมากมายที่จะได้รับหลังจากที่จบการศึกษาที่เยอรมัน คุณภาพชีวิตดี สิ่งแวดล้อมหลากหลาย ชีวิตความเป็นอยู่ของนักเรียนต่างชาติในเยอรมันถูกรายล้อมไปด้วยวัฒนธรรม แสงเสียง ดนตรี ศิลปะที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง เช่น ตามเมืองใหญ่ ๆ ของเยอรมันอย่าง เแบร์ลิน มิวนิค ฮัมบวก จะมีทุกอย่างที่ตอบสนองความต้องการในใช้ชีวิตของนักเรียนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าอะไรที่น่าสนใจ ก็จะเจอคนที่สนใจสิ่งเดียวกัน หรือสถานที่ การรวมกลุ่มที่ตอบสนองความสนใจนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังหาทางเข้าร่วมได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น กีฬา การเมือง ประวิติศาสตร์ หรือศิลปะ รวมถึงวัฒนธรรมที่หลากหลาย เนื่องจากคอร์สเรียนต่าง ๆ ที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ มีค่าใช้จ่ายที่ประหยัด ทำให้นักเรียนจากทั่วโลกหลั่งไหลมาอยู่ที่นี่ อันดับที่ 8 ประเทศฟินแลนด์ ระบบการศึกษาของประเทศ ฟินแลนด์ เน้นที่การเรียนรู้ผ่านการ “เล่น” เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ มากกว่าการเรียนแบบท่องจำและนำไปสอบ เพราะเชื่อว่าการเรียนการสอนแบบนี้จะทำให้นักเรียนเรียนรู้ได้ดีจากการลงมือทำ มากกว่าการท่องจำข้อความที่ไม่จำเป็นจากหนังสือ และจะทำให้เด็กเกิดการพัฒนามากกว่าการแข่งขันกัน แทบจะไม่ได้ให้การบ้านเด็ก ๆ เพราะให้ความสำคัญนอกห้องเรียนมากกว่า นอกจากนี้จำนวนชั่วโมงเรียนก็น้อยลง หากเทียบกับนักเรียนจากส่วนอื่น ๆ ของโลก โดยเฉลี่ยเพียงวันละ 3 ชั่วโมง 45 นาทีเท่านั้น เพราะต้องการสนับสนุนให้นักเรียนให้มีชีวิตนอกโรงเรียน ได้ “เรียนรู้” มากกว่า “เรียน” ดังนั้น การได้มีสังคม มีกิจกรรม หรือสนุกกับกีฬา จึงเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ที่ดีที่สุด เป็นที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุด จากผลการสำรวจพบว่าประเทศฟินแลนด์ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพชีวิต ความมั่นคงของภาพรวม และการศึกษาอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเป็นประเทศที่มีความสุขเป็นอันดับสองของโลก ผลการวัดระดับ Programme for International Student Assessment (PISA) ของนักเรียนชาวฟินแลนด์ก็อยู่ในระดับดีมาตลอด ไม่ได้มีเพียงคุณภาพชีวิตและการศึกษาที่ดีที่ชาวฟินแลนด์ภาคภูมิใจเท่านั้น ประเทศฟินแลนด์ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่มีนวัตกรรมที่มีอิทธิพลในระดับโลกสูงและมีความเป็นมิตรต่อธรรมชาติ ด้วยคะแนนที่อยู่ในระดับสูงเหล่านี้ จึงไม่แปลกใจที่ฟินแลนด์จะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลก บรรยากาศนานาชาติ กระแสโลกาภิวัฒน์ที่กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ นักเรียนต่างชาติสามารถเข้าไปทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในบริษัทของชาวฟินแลนด์ที่ต้องการขยายตลาดออกไปยังต่างประเทศ ประเทศฟินแลนด์ยังมีความต้องการผู้ทำงานสายสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังคาดการณ์ว่าประเทศฟินแลนด์จะเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานเมื่อประชากรกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ที่เกิดหลังสงครามโลกเกษียณ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะไปเรียนต่อและบุกเบิกการทำงานต่อหลังเรียนจบ ฟินแลนด์ยังคงเป็นประเทศที่ยอดเยี่ยมสำหรับการไปเรียน ทำงาน และสร้างครอบครัวอีกด้วย ไม่มีการสอบวัดผลแบบ Standardized Test ระบบการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ไม่มีการทดสอบเพื่อวัดผล เพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้ผลสอบเพื่อขึ้นระดับชั้นที่สูงขึ้นหรือแข่งขันกัน เพราะเชื่อว่า การทำแบบนั้น จะทำให้นักเรียนมุ่งเน้นเรื่องเรียนเพื่อสอบเพียงอย่างเดียว ไม่ได้เน้นที่จะเรียนรู้อย่างแท้จริง อันดับที่ 9 ประเทศอินเดีย ประเทศอินเดีย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เหมาะกับการไปเรียนต่อมากที่สุด แต่คนไทยส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยจะนึกถึงกันสักเท่าไหร่ เป็นอีกหนึ่งในประเทศที่มีสถาบันทางการศึกษาที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับให้เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากอเมริกา และ จีน จึงมีหลักสูตรที่หลากหลายทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ โดยมีหลักสูตรยอดนิยมของนักเรียนชาวต่างชาติ เช่น วิศวกรรมศาสตร์ บริหารธุรกิจ การแพทย์ และศิลปศาสตร์ นอกจากนี้ อินเดียยังขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์อันดับต้น ๆ ของโลก การผสมผสานด้านการศึกษา การศึกษาแบบอินเดียได้รับอิทธิพลจากชาวอังกฤษผสมผสานกับปรัชญาดั้งเดิมแบบฮินดู พุทธ มุสลิมและแบบเปอร์เซียเข้าไว้ด้วยกัน โดยถูกถ่ายทอดจากอาจารย์ผ่านความเป็น กูรู จึงไม่แปลกนักที่ศิษย์เก่าต่างชาติอินเดียจำนวนมากจะได้รับการยอมรับ อาทิ อองซาน ซูจี (ผู้นำประชาธิปไตยของพม่า จบด้านรัฐศาสตร์จากเดลี) H.E. Le Luong Minh (เลขาธิการอาเซียนคนปัจจุบันชาวเวียดนาม จบโทจาก JNU) เป็นต้น รวมถึงนักเรียนจากมหาวิทยาลัยในอินเดีย ต่างได้รับการตอบรับเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วโลก .. นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ชาวอินเดียหลายท่านยังได้รับการยอมรับในระดับโลก เช่น Partha Chatterjee จากมหาวิทยาลัยกัลกัตตา นักวิชาการแนวหน้าด้าน Subaltern Studies อีกด้วย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ประเทศอินเดียถือเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาการคอมพิวเตอร์อันดับต้นของโลก ไฮเดอราบาด หรืออีกชี่อคือ Cyberabad ถูกขนามนามให้เป็นซิลลิคอนวัลเลย์ของเอเชียเมืองบังกาลอว์เป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์มือฉมังของโลก นอกจากนี้อินเดียยังสามารถส่งกระสวยอวกาศไปยังดาวอังคารได้เป็นผลสำเร็จ รวมถึงขีปนาวุธอัคนีที่มีพิสัยไกลถึง 5,000 กิโลเมตร เล็งไปที่จีนก็สามารถยิงไปยังทุกเมืองใหญ่ของชาวจีน ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของอินเดียย่อมเป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นดีสำหรับนักเรียนสายวิทยาศาสตร์ ประสบการณ์นอกห้องเรียน อินเดียประเทศแห่งอารยธรรมที่สำคัญของโลก มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น ทัชมาฮาล รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย ตั้งแต่ทะเลทรายไปจนถึงท้องทะเลอันงดงาม มีโอกาสได้เรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมที่มีความหลากหลายอยู่สูง รวมถึงได้ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ และเรียนรู้เรื่องราววัฒนธรรม อีกทั้งยังมีการพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวผ่อนคลายนอกสถานที่ มีประเพณี วัฒนธรรม วันหยุด ที่คล้ายกับของประเทศไทย ขณะที่นักศึกษาต่างชาติที่มาเรียนต่อมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่จะมีโฮสเทล อยู่ภายในมหาวิทยาลัย เหมาะสำหรับให้นักศึกษาได้พักอาศัยส่วนตัว อันดับที่ 10 ประเทศสิงคโปร์ สิงคโปร์ นิยามของคำว่า “ตะวันออกพบกับตะวันตก” ถือว่าเหมาะกับนักเรียนที่ชอบความแปลกใหม่ของวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เต็มไปด้วยการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัว ในส่วนของการศึกษา สิงค์โปร์ก็เป็นอีกหนึ่ง Destination ที่ผู้คนจากทั่วโลกให้ความสนใจเดินทางไปเรียนต่อ เพราะมีการมุ่งเน้นความรู้ทางวิชาการอย่างตรงจุดคือความรู้ในแต่ละระดับ ส่วนทักษะรอบด้าน คือ การพัฒนาทักษะอื่น ๆ จากการเข้าชมรม ซึ่งชาวสิงคโปร์จะเรียกว่า CCA ซึ่งมีความจริงจังในการพัฒนาทักษะแต่ละอย่างเป็นอย่างมากเพื่อเก็บให้เป็น Portfolio ได้ เช่น ชมรมกีฬา ชมรมประสานเสียง ก็จะมีการซ้อมในทุก ๆ อาทิตย์และพาไปแข่งขันอย่างจริงจัง เมืองในฝัน สิงคโปร์ข้นชื่อได้ว่า “เมืองในสวน หรือ City in the Garden” หากใครเคยไปสิงคโปร์จะเห็นว่าทุกตารางนิ้วของประเทศเล็ก ๆ เต็มด้วยพื้นที่สีเขียวสบายตา คงไม่ต้องแปลกใจเพราะนี่คือวิสัยทัศน์ที่ทำให้ชาวต่างชาติทั้งอาเซียน และทวีปอื่น ๆ อยากมาใช้ชีวิตที่นี่ จะได้พบกับคนมากหน้าหลายตา หลายชนชาติ ส่งผลให้เป็นเมืองที่นอกจะรวยในพื้นที่สีเขียว ยังรวยวัฒนธรรม นอกจากนี้สิงค์โปร์ยังได้รับการยกย่องจาก The Economist Intelligence Unit ว่าเป็นอันดับ 1 ในด้าน Personal Security และ Infrastructure Security จึงสบายใจได้เลยว่า การเข้าไปเรียนในประเทศที่มีความปลอดภัยสูง ทำให้โฟกัสกับการเรียนและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยทางด้านร่างกายและทรัพย์สิน ระบบการศึกษายอดเยี่ยม ประเทศสิงคโปร์หนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดแห่งของโลก มีความหลากหลายทางหลักสูตรและมหาวิทยาลัยทั้งของภาครัฐและเอกชน ขณะเดียวกันยังมีสถาบันการศึกษาจำนวนมากที่เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ทางการศึกษากับมหาวิทยาลัยต่างชาติเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการศึกษาเพิ่มขึ้น อาทิ หลักสูตรการศึกษาข้ามพรมแดน Transnational Education. เป็นต้น โอกาสในการทำงาน เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการแข่งขันและเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ทำให้นักศึกษาที่เรียนจบมีโอกาสได้ฝึกงานหรือร่วมงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลก นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของบริษัทชั้นนำของโลกในเอเชีย อย่าง Google, Netflix, Microsoft ฯลฯ การขอวีซ่าทำงานในสิงคโปร์นายจ้างต้องทำเรื่องให้ก่อน แต่ข้อได้เปรียบของการมาเรียนในสิงคโปร์ก็คือจะมีโอกาสได้ฝึกงานก่อน (โดยใช้วีซ่าของนักเรียน) จากนั้นก็จะมีโอกาสต่อยอดเพื่อไปทำงานได้นั่นเอง ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นบางส่วนจากชาวชุมชน Eduzones จากโพล์ลการสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด และกลายเป็นประเทศยอดฮิตในแวดวงการศึกษาต่อของเหล่านักเรียนต่างชาติในหลายประเทศ ส่วนเหตุผลข้อต่อ ๆ ไปจะมีอะไรบ้าง อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของตัวเองภายใต้โพสต์นี้ แม้จะเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูงสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ แต่เชื่อว่าประสบการณ์ชีวิตที่จะได้รับกลับไปต้องมีค่ามากกว่าอย่างแน่นอน EZ Webmaster Related Posts 40 ปี ม.รังสิต ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ ชูหัวใจ คือ นักศึกษา เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ ซีเอ็มเอ็มยู เปิดผลวิจัยใหม่ถอดด้าม “การตลาดคนขี้เบื่อ” พร้อมเจาะ “พฤติกรรมขี้เบื่อคน 4 Gen” คลื่นลูกใหม่กระทบ “Brand Loyalty” โชว์เทคนิคช่วยแบรนด์ดึงคนเบื่อหวนภักดีต่อสินค้า – บริการ มศว ประกาศการปรับจำนวนการรับ TCAS รอบที่ 3 (Admission) เพิ่ม LEARN to EARN เพราะชีวิต คือการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด “สุรพรชัย ธรรมศิริ” ว่าที่นักกายอุปกรณ์ ที่ไม่หยุดพัฒนาตนเอง เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ Post navigation PREVIOUS Previous post: รองอธิการบดีสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา ร่วมแถลงข่าวการจัดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ในโอกาสเฉลิมฉลอง 100 ปีประสูติNEXT Next post: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา จัดพิธีถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการบริหารการพัฒนา แด่ พระอาจารย์จีนคณาณัติจีนพรต (เย็นงี้) ณ วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
สสวท. อบรมครูศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ชูสะเต็มศึกษานำร่องหนุนครูขยายผลสู่โรงเรียนทั่วประเทศ EZ WebmasterMay 10, 2024 รองศาสตราจารย์ ดร.ธีระเดช เจียรสุขสกุล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ สำหรับศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ประจำปี พ.ศ. 2567 พร้อมด้วย ดร.พรชัย อินทร์ฉาย รองผู้อำนวยการ สสวท. โดยมีโรงเรียนศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 30 ศูนย์จากทั่วประเทศและโรงเรียนสังเกตการณ์ 1 โรงเรียน จำนวนครู 124 คน ร่วมในการอบรม เพื่อนำหลักสูตรไปขยายผลให้ครูและโรงเรียนในระยะต่อไป ณ โรงแรมกราฟ… คณะแพทยศาสตร์ สจล. เปิดรับสมัครนักศึกษา ป.โท สาขาการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ) EZ WebmasterMay 9, 2024 คณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ขอเชิญผู้สนใจสมัครเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต(ปริญญาโท) สาขาการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ) ประจำปีการศึกษา 2567 ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และเศรษฐกิจสังคมในปัจจุบัน รวมทั้งความรู้และทักษะที่ช่วยให้ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถเป็นผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีด้านสุขภาพได้อย่างแท้จริง สำหรับคุณสมบัติผู้สมัครจะต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือเรียนในปีสุดท้ายของหลักสูตรปริญญาตรี สมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 15 พฤษภาคม 2567 ผ่านลงทะเบียนออนไลน์ที่ www.reg.kmitl.ac.th หรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://md.kmitl.ac.th/ การศึกษาไทยกำลังสิ้นหวัง ครูได้เงินเพิ่ม แต่PISA-โอเน็ต ‘ต่ำ’ EZ WebmasterMay 8, 2024 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม นายสมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า จากผลคะแนนสอบPISA และผลคะแนนสอบโอเน็ต ที่ร่วงเป็นราวหรือไม่เกิน 50% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องกระบวนการเรียนรู้เราไม่ได้แก้ไขอะไรเลย ซึ่งสวนทางกับเรื่องที่ครูได้รับเงินที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าตอบแทน ค่าตำแหน่ง วิทยฐานะที่สูงขึ้นตามลำดับ แต่คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของเด็กไม่ดีขึ้น… กิจกรรม ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน EZ WebmasterMay 3, 2024 ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี! ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ทาง www.vec.go.th… ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search EZ Webmaster April 24, 2023 EZ Webmaster April 24, 2023 สรุปความคิดเห็น 10 อันดับ! ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จัดอันดับ! ความคิดเห็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จากชุมชนชาว Eduzones สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ชุมชน Eduzones ของเรา ได้รวบรวมผลสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด? จาก โพล์ลการสำรวจความคิดเห็นด้านล่างนี้ https://www.facebook.com/interscholarship/posts/pfbid02on1d5jCx3N5E9uCkMLKMwWuDrHz1dZqdW2edy75RDnpRfiMDf3QTtX1sev5fdxSzl โดยเราได้รวบรวมผลจากการแสดงความคิดเห็นและได้จัดอันดับหมวดหมู่ออกเป็น 10 อันดับ ดังนี้ อันดับที่ 1 ประเทศสหรัฐอเมริกา ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นตัวเลือกแรกที่ขึ้นมาเมื่อคนต้องการไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ เพราะการศึกษาที่มีคุณภาพ และ เป็นที่นิยมสูงมากในหมู่นักเรียน ด้วยวิธีการสอน ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น การศึกษาสาย STEM คุณภาพที่มีอิสระ ที่จะเรียนในสาขาวิชาต่าง ๆ ในระดับปริญญาตรี ก่อนที่จะลง เรียนวิชาเอก นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกในการทำวิชาเอกสองครั้ง (รับปริญญาตรีในสองวิชาในเวลาเดียวกัน) ในระดับสูงกว่าปริญญาตรี และสามารถเลือกชั้นเรียนเพื่อให้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสาขาวิชาที่สนใจได้ มหาวิทยาลัยได้รับการยอมรับในระดับสากล อเมริกามีมหาวิทยาลัยมากกว่า 4,000 แห่ง ที่ เปิดสอน ระดับปริญญา ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เพราะความพร้อมในการเรียน ไม่ว่าจะเป็นความพร้อม ในด้านอุปกรณ์ที่ครบครัน และ ทันสมัย พร้อมด้วย พนักงานที่มีประสบการณ์มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ยังเป็น ผู้นำระดับโลก ด้าน การวิจัย เนื่องจากรัฐบาลใช้งบประมาณ จำนวนมากในการคิดค้นวิจัยนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมา การพัฒนาทักษะที่หลากหลาย เนื่องจากวิธีการสอนที่ยืดหยุ่นของประเทศ จะมีโอกาสได้พัฒนาทักษะความสามารถข้ามสาขาวิชาซึ่งจะช่วยให้โดดเด่นกว่าเพื่อน มหาวิทยาลัยอเมริกาจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถเริ่มเตรียมตัวสำหรับงานในฝันได้ตั้งแต่ปริญญาตรี และเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำในเกือบทุกสาขา เช่น เทคโนโลยี สื่อ และ ศิลปะ จนมีโอกาสมากมายเมื่อเริ่มมองหาการฝึกงานงานพาร์ทไทม์หรือประสบการณ์การทำงานหลังเรียนจบ ระบบการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติ อเมริกาสนับสนุนให้ความช่วยเหลือนักเรียนต่างชาติได้ดี จากมหาวิทยาลัยในอเมริกาจะช่วยเหลือนักศึกษาต่างชาติ ตั้งแต่ ปฐมนิเทศจนถึง สำเร็จการศึกษา สามารถ ไปที่สำนักงานนักศึกษาต่างชาติ ของ มหาวิทยาลัย ได้ตลอดเวลา เพื่อขอคำแนะนำที่ต้องการ มหาวิทยาลัยหลายแห่งยังให้ความช่วยเหลือโดยจัดโปรแกรม เพื่อ ช่วยนักศึกษาต่างชาติ ในการเขียนเชิงวิชาการ และ ปรับตัวเข้ากับระบบการศึกษาใหม่ ข้อนี้ทำให้หลาย ๆ คน ตัดสินใจได้ว่าทำไมต้องเป็นอเมริกา อันดับที่ 2 ประเทศอังกฤษ หากพูดถึงการเรียนต่อที่ต่างประเทศเชื่อว่า ‘อังกฤษ’ คือ Top of Mind ที่อยู่อันดับต้น ๆ ในใจของทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กไทยที่อยากไปศึกษาต่อ เพราะประเทศอังกฤษเป็นที่นิยม จากสถานที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมที่มีชื่อเสียงและได้รับการันตีว่าดีที่สุดในโลก รวมทั้งยังเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ได้เคยผลิตนักวิทยาศาสตร์ระดับตำนานในอดีต ไม่ว่าจะเป็น เซอร์ไอแซก นิวตัน นักฟิสิกส์ หรือ สตีเฟน ฮอว์คิง อัจฉริยะทางฟิสิกส์ พ่อแม่-ผู้ปกครอง จึงได้วางใจและคาดหวังว่าอังกฤษ จะมอบคุณภาพอันดีเยี่ยมเหล่านั้นให้แก่บุตร-หลาน ไม่เพียงแต่ด้านวิชาการ แต่ยังรวมไปถึง ความเป็นเลิศด้านดนตรี ศิลปะ และการเขียนอีกด้วย หลักสูตรอันเป็นประตูสู่ระดับ World-Class โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในประเทศอังกฤษ เสนอหลักสูตรที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพระดับสากล ที่ถือเป็นใบเบิกทางชั้นดีสู่การต่อยอดการศึกษาขั้นสูงและการทำงานยังประเทศชั้นนำอื่น ๆ ซึ่งอันได้แก่ IGCSE, International Baccalaureate Diploma, A-Levels ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้ เป็นสากลและได้รับการยอมรับจากประเทศอื่น ๆ เรียกได้ว่า เป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงให้แก่บุตร-หลานได้มากเลยทีเดียว ได้ภาษาอังกฤษที่ดีจากต้นกำเนิด ภาษาอังกฤษถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะเป็นภาษาที่คนใช้กันทั่วโลก สามารถใช้สื่อสารได้ในหลายๆ ประเทศ และใช้ต่อยอดในหน้าที่การงานในอนาคตได้ ซึ่งการไปเรียนที่ต่างประเทศ (โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ของประเทศอังกฤษ) มีข้อดีคือ เรื่องสำเนียงที่ถูกต้องแบบชาวบริติช และยังมีคอนเนคชั่นกับชาวต่างชาติ ปฎิเสธไม่ได้ว่าการไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษมีข้อดีที่เด่นชัดที่สุดคือเรื่องของภาษา ที่เป็นต้นตำรับ เชื่อได้ว่าทักษะภาษาอังกฤษจะดีขึ้นมากหากได้ลองไปเรียน หรือใช้ชีวิตอยู่ในประเทศต้นกำเนิด แนวทางการพัฒนาตัวเองที่หาไม่ได้จากที่อื่น เหตุผลอีกหนึ่งประการ ที่ถือเป็นสิ่งสำคัญ ในการศึกษาต่อประเทศอังกฤษ นั่นก็คือ แนวทางการพัฒนาตนเองที่เด็กจะได้รับ โรงเรียนมัธยมในอังกฤษ มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาศักยภาพนักเรียนของพวกเขา เพื่อพร้อมก้าวสู่โลกใบใหญ่และการเดินทางต่อในระดับมหาวิทยาลัย นอกจากนั้น สถาบันการศึกษาในอังกฤษยังสนับสนุนและแนะนำอย่างเต็มที่ ให้นักเรียนมีความมั่นใจ พร้อมจิตใจที่เปิดกว้าง และเปิดรับโอกาสที่ดีในอนาคต อันดับที่ 3 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หากจะบอกว่าสวิตเซอร์แลนด์ คือหนึ่งในประเทศที่คนไทยชื่นชอบมากที่สุดคงไม่แปลกนัก สังเกตได้จากคนไทยจำนวนมากที่ไปตั้งรกรากอยู่ที่นั่น รวมถึงเป็นดินแดนแห่งความสุขที่สามารถพบเจอรอยยิ้มของผู้คนได้แทบทุกเส้นทางบนถนน การมีโอกาสได้เรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์ จึงเป็นสิ่งที่นักเรียนไทยจำนวนมากใฝ่ฝันเอาไว้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากหากมีความตั้งใจ แม้ไม่ใช่ประเทศใหญ่ในยุโรป แต่เชื่อว่าความรู้ที่ได้บวกกับประสบการณ์ดี ๆ ในชีวิตมันช่างคุ้มค่ากับการเดินทางไปอย่างยิ่ง มหาวิทยาลัยชั้นนำ สวิสเซอร์แลนด์มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอยู่หลายแห่ง และมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประเทศสองแห่ง ได้แก่ EPFL และ ETH Zurich ยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 30 มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ใน The Times Higher Education (THE) World University Rankings นักศึกษามีความพึงพอใจกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูงในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศและส่วนใหญ่จะชื่นชอบคุณภาพการสอนในแต่ละหลักสูตรเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปแล้ว มหาวิทยาลัยของสวิสเซอร์แลนด์มีชื่อเสียงด้านการเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นชาวสวิสหรือนักศึกษาต่างชาติที่เรียนในสถาบันที่สวิสเซอร์แลนด์ ก็จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนายจ้าง ระบบการศึกษาคุณภาพระดับโลก ระบบการศึกษาของสวิตเซอร์แลนด์เป็นอีกหนึ่งอย่างที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้าน “การโรงแรม” เนื่องจากประเทศแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกันอย่างมากมาย ดังนั้นธุรกิจด้านโรงแรมจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจและน่าเรียน ทำให้มีสถาบันการศึกษาเปิดสอนทางด้านโรงแรมโดยเฉพาะ และยังถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของวิชาการด้านการโรงแรม เพราะมีหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ และยังมีสอนภาษาที่ 3 ได้แก่ เยอรมัน และ ฝรั่งเศส ที่เป็นหนึ่งภาษาทางการของสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับการเรียนการสอนการโรงแรมของสวิตเซอร์แลนด์ เน้นทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ โดยมีการฝึกงานจริงและยังได้รับค่าจ้าง โดยที่นักเรียนจะไม่ได้ถูกส่งไปฝึกงานเฉพาะในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น แต่ยังถูกส่งไปฝึกงานที่ต่างประเทศด้วย โอกาสแห่งการเรียนรู้ภาษา สวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นสถานที่ที่ดีในการเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เป็นการช่วยเพิ่มตัวเลือกด้านอาชีพหลังจบการศึกษาได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเยอรมนีมีฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปซึ่งเต็มไปด้วยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ได้แก่ การธนาคาร การผลิต และมีโปรแกรมการฝึกอบรมนักศึกษาฝึกงานที่ยอดเยี่ยม ภาษาฝรั่งเศสยังเป็นอีกหนึ่งภาษาที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพในธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งภาษาฝรั่งเศสนั้นเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นอันดับสองในสหภาพยุโรป และเป็นภาษาราชการของ 29 ประเทศทั่วโลก เช่น แคนาดา เบลเยียม และมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตในแอฟริกา เช่น แทนซาเนีย รวันดา และโมซัมบิก เป็นต้น อันดับที่ 4 ประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ได้รับการจัดอันดับว่าเป็น ประเทศที่มีความสงบสุขมากที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 2 โดยพิจารณาจากรายได้ การศึกษา และระดับของการรวมกลุ่มในระดับภูมิภาค, ความโปร่งใสในระดับสูงของรัฐบาลและการทุจริตต่ำ, ความมีเสถียรภาพ อีกทั้งยังมีความก้าวหน้าทางสังคมอย่างแท้จริง โดยประเทศที่ปลอดภัยแห่งนี้ยังมีระบบการศึกษาระดับโลกและการดูแลสุขภาพขั้นสูง ชาวกีวีได้รับการดูแลสุขภาพฟรีจากรัฐ หรือมีค่าใช้จ่ายต่ำในกรณีเจ็บป่วย และเงินสนับสนุนจากรัฐบาลในกรณีว่างงาน เนื่องด้วยปัญหาอาชญกรรมที่น้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทำให้นักเรียนของประเทศนิวซีแลนด์สามารถโฟกัสในเรื่องเรียนเพียงอย่างเดียว และสนุกสนานกับกิจกรรมต่าง ๆ นอกห้องเรียนไปด้วย มาตรฐานการศึกษาระดับสากล ประเทศนิวซีแลนด์มีมาตรฐานในระดับสากล มหาวิทยาลัยทั้ง 8 แห่งของนิวซีแลนด์อยู่ในอันดับ Top 3% ของโลก อีกทั้งนิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับโดย The Economist, Intelligence Unit (Worldwide Educating for the Future Index), 2018 ให้เป็นอันดับที่ 1 ในการเตรียมความพร้อมนักเรียนสู่อนาคต ด้วยความสามารถในการปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้เหมาะกับภาคอุตสาหกรรมและสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ความสามารถของครูและบุคคลากร นโยบายภาครัฐ ความร่วมมือร่วมใจกันของรัฐบาลและภาคเอกชน ความสามารถในการให้คำปรึกษาถึงอาชีพในอนาคตตั้งแต่ในระดับโรงเรียน และความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่แตกต่างแต่อยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว การต้อนรับอย่างอบอุ่น นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากกว่า 100 เชื้อชาติทั่วโลก ชาวนิวซีแลนด์ล้วนเป็นมิตรและพร้อมต้อนรับนักเรียนต่างชาติด้วยความอบอุ่นและความเข้าใจ ตามคำกล่าวของชาวเมารีที่ว่า “Manaakitanga” แปลว่า การเคารพและดูแลผู้ที่อยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจ มีน้ำใจ เอื้ออาทรและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เรียนรู้จากการเรียนและการเล่น ประเทศนิวซีแลนด์ไม่ได้เน้นเฉพาะในด้านของการเรียนเพียงเท่านั้น การเรียนเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของการเรียนในห้องเรียนและการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ซึ่งได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่า เป็นการเรียนที่ดีที่สุดในโลก Study Life Balance โดยนักเรียนสามารถเลือกเรียนในเมืองชนบทที่สวยงามของนิวซีแลนด์ ที่ตั้งไม่ไกลจากเมืองมากนัก หากต้องการช้อปปิ้งหรือสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ก็สามารถเดินทางไปในเมืองใหญ่ได้ไม่ยาก สันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่สงบสุขอันดับ 2 ของโลก (อ้างอิงจาก Global Peace Index,2018) การเรียนในประเทศนิวซีแลนด์นักเรียนจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบ การเมืองที่มีเสถียรภาพและยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทุจริตคอรัปชั่นน้อยที่สุดในโลกอีกด้วย อันดับที่ 5 ประเทศแคนาดา ประเทศแคนาดาจัดได้ว่าเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก หลาย ๆ สถาบันในแคนาดามีชื่อเสียง มีคุณภาพในด้านการเรียนการสอนสูง มีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ใบปริญญาหรือ certificate ต่าง ๆ จากสถาบันและมหาวิทยาลัยในประเทศแคนาดาจึงเป็นตัวการันตีได้ว่าได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ นักศึกษาที่จบจากประเทศแคนาดาจึงมีโอกาสดีที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มาตรฐานการสอนของครู – อาจารย์ หนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศแคนาดาประสบความสำเร็จทางด้านการศึกษาก็คือความสามารถของตัวอาจารย์ผู้สอนที่ให้ความรู้กับนักเรียน ผู้ที่จะมาทำอาชีพครูผู้สอนที่แคนาดาได้ต้องผ่านการคัดกรองมาเป็นอย่างดี โดยแต่ละเมืองจะมีรูปแบบการประเมินผลของตนเอง เช่น การวัดผลที่ผู้สอนต้องผ่านการประเมินทั้งด้านความรู้ในการสอนสาขาวิชานั้น การสอนในภาคปฏิบัติและการปรับตัวกับสังคมแห่งการเรียนรู้ และการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมพร้อมพัฒนาศาสตร์ความรู้ของตนในฐานะของผู้สอน เป็นต้น อาจารย์ของเมืองนั้นจะต้องผ่านหลักสูตรที่กำหนดโดยก่อนเพื่อให้ได้ใบประกาศนียบัตรเพื่อใช้แสดงตนเป็นผู้สอนของเมืองนั้น สถาบันการศึกษาของประเทศแคนาดาจึงขึ้นชื่อในการรักษามาตรฐานคุณภาพการศึกษา เพราะแต่ละสถาบันจะไม่รับอาจารย์ที่ไม่ผ่านการรับรองจากหลักสูตรผู้สอนในประเทศมาเป็นอาจารย์ของสถาบัน และแต่ละเมืองจะมีความเคร่งครัดที่ต่างกันไป เพราะอาจารย์พูดสอนต้องสอบประเมินผลใหม่เมื่อจะย้ายไปสอนในอีกเมือง หนึ่งในระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก แคนาดาหนึ่งในประเทศที่ได้สร้างชื่อเสียงด้านการศึกษาจากการวัดผลในโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment) หรือ PISA ได้จัดให้แคนาดาอยู่ในกลุ่มที่ 10 ประเทศที่เยาวชนมีผลการเรียนเป็นเลิศ เพราะทางรัฐบาลของประเทศแคนาดาให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษามาก มาตรฐานการศึกษาของแคนาดาเป็นที่ยอมรับในระดับโลก นักศึกษาต่างชาติที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยของแคนาดา จึงประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในหน้าที่การงานจากมาตรฐานการศึกษาที่สูงพร้อมประสบการณ์มากมายที่ได้ฝึกฝนในระหว่างนั้น ระบบการเรียนสองภาษา ประเทศแคนาดามีระบบการเรียนการสอนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยผู้เรียนจะต้องเข้าเรียนในชั้นเรียนด้วยภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก และเข้าเรียนในภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่สอง เพราะประเทศแคนาดามี 2 ภาษาราชการ นักเรียนต่างชาติที่เข้าระบบการศึกษาของแคนาดาจึงมีทางเลือกในการเรียนต่อที่จะได้ฝึกทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 59% และมีภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 23% นอกจากนั้นกว่า 18% ของประชากรในแคนาดามีมากกว่าหนึ่งภาษาแม่ ขึ้นอยู่กับประเทศสัญชาติเดิมของผู้อพยพที่ได้เดินทางเข้าไปยังประเทศแคนาดา ภาษาอื่นที่เป็นที่นิยมในประเทศแคนาดา ได้แก่ ภาษาจีน ภาษาสเปน ภาษาอารบิก และ ภาษาตากาล็อก เป็นต้น อันดับที่ 6 ประเทศออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลียถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติหลาย ๆ คน ด้วยเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง สิทธิ์การทำงานสำหรับผู้จบการศึกษาใหม่มีมาก ชีวิตความเป็นอยู่สบาย และระบบการ ศึกษาคุณภาพสูง จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเศรษฐกิจของออสเตรเลียยังคงมีความแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยมีอัตราการว่างงานและเงินเฟ้อต่ำ จากเมืองที่น่าอยู่ที่สุด 10 อันดับแรกของโลก อยู่ในออสเตรเลียถึง 4 เมือง คือเมลเบิร์นอันดับหนึ่ง! ส่วนอีกสามเมืองได้แก่ แอดิเลด ซิดนีย์ และเพิร์ท โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ เสถียรภาพ การดูแลสุขภาพ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษา เน้นการเรียนรู้แบบ Real-world Learning ผลการสำรวจงานวิจัยยืนยันว่าผลการเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้นและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ระบบการเรียนของออสเตรเลียมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพสูงประกอบกับการศึกษาที่เน้นการเรียนรู้ในโลกของความเป็นจริงมากขึ้น โดยเน้นการเรียนแบบภาคปฏิบัติควบคู่กับความรู้เชิงทฤษฎีเพื่อให้ผู้เรียนได้นำความรู้ไปใช้ได้จริงถือเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนให้สอดคล้องกับการทำงานในภาคอุตสาหกรรมไปจนถึงการประกอบอาชีพในอนาคต มาตรฐานคุณภาพแบบขั้นสูง ออสเตรเลียมีหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบและคุณภาพระดับประเทศสำหรับการศึกษาชั้นสูง – Tertiary Education Quality and Standards Agency (TEQSA) ก่อตั้งขึ้นโดยหน่วยรัฐบาลออสเตรเลียเพื่อควบคุมคุณภาพและกำกับดูแลสถานศึกษาชั้นสูงที่เป็นมหาวิทยาลัยและที่ไม่ใช่มหาวิทยาลัย โดยมีชุดมาตรฐานที่พัฒนาขึ้นโดยหน่วยงานอิสระ Higher Education Standards Panel นอกจากนี้ กฎหมาย Education Services for Overseas Student (ESOS) ยังคุ้มครอง สวัสดิภาพของนักเรียนต่างชาติ คุณภาพประสบการณ์การศึกษาของนักเรียน รวมถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน อีกด้วย LGBTQ+ friendly มีความหลากหลายทางเพศ นอกจากความหลากหลายทางวัฒนธรรม ออสเตรเลียยังให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศสภาพ ถือเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ค่อนข้างยอมรับความหลากหลายทางเพศอย่างชัดเจน โดยมีกฎหมายสนับสนุนสิทธิเสรีภาพและความหลากหลายทางเพศ อาทิเช่น การยอมรับการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน (Same-Sax Marraige) ที่ประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2017 รวมถึงการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมโดยเพศเดียวกันก็ถูกรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ที่ออสเตรเลียมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายทั้งการเดินขบวน การเฉลิมฉลอง การจัดประกวด อีเวนท์ เพื่อเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือและผลักดันชาว LGBTQ+ ในสังคมอย่างต่อเนื่อง อันดับที่ 7 ประเทศเยอรมณี เยอรมนีอีกหนึ่งประเทศที่กำลังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเรียนต่างชาติ มีประชากรนักเรียน นักศึกษาต่างชาติจำนวนมากเป็นอันดับสามรองจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ระบบการศึกษาที่สูงขึ้นของเยอรมนีถือเป็นอีกหนึ่งในระบบที่ดีที่สุดของโลก มหาวิทยาลัยหลายแห่งติดอันดับหนึ่งใน 100 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก นอกจากทักษะภาษาที่จะได้เพิ่มมาแล้ว ยังทำให้ได้รู้จักเพื่อน ๆ ต่างชาติ ได้เปิดมุมมองเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง รวมถึงอิทธิพลของภาษา ที่ส่งผลต่อความคิด ทัศนคติ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เป็นการได้ทั้ง ปริญญาจากมหาวิทยาลัย และปริญญาทางการเรียนรู้โลกใหม่ ในการเปิดประสบการณ์ และโลกที่กว้างขึ้น ทั้งภาษา วัฒนธรรม สังคม เพื่อน และการใช้ชีวิตอีกด้วย โอกาสทางการศึกษา (ค่าเล่าเรียนไม่แพงสำหรับการศึกษาต่อ) การศึกษาในประเทศเยอรมันนับได้ว่ามีมาตรฐานที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ที่สำคัญค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยในประเทศเยอรมนีก็ยังไม่แพง (หรือในบางรัฐยังมีค่าเทอมที่ฟรีอยู่) เมื่อเทียบกับในประเทศอังกฤษหรือสหรัฐอเมริกา ทำให้ค่าใช้จ่ายหลักจริง ๆ ในการเรียนตกอยู่ที่ค่าเช่าบ้านและค่ากินเท่านั้น การเรียนภาษาเยอรมันเพื่อเตรียมตัวเรียนต่อนั้นจึงนับเป็นการลงทุนทางการศึกษาที่คุ้มค่า นับว่าหลังเรียนจบมีตลาดแรงงานที่ขาดแคลนแรงงานให้หางานทำต่อ จึงนับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากเลยทีเดียว ภาษาเยอรมันมีคุณค่าทางวิชาการ ภาษาเยอรมันนับเป็นภาษาที่มีความสำคัญอย่างมากในวงการวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม การบริหารและในวงการต่าง ๆ เพราะประเทศเยอรมันเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของอิทธิพลนวัตกรรมการค้นคว้าวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ จนทำให้มีบริษัทเยอรมันขนาดใหญ่จำนวนมากสามารถขยายกิจการไปได้ทั่วโลก และนอกจากงานวิจัยต่าง ๆ หรือหนังสือทางวิชาการแล้ว ยังมีอีกหลายบทความหรือหลายการวิจัยที่สามารถพบได้ในภาษาเยอรมันเท่านั้น นอกจากนี้การศึกษาต่อที่เยอรมันก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะคุณภาพของมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก และค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อที่น้อยมากเรียกได้ว่าแทบเรียนฟรี และยังมีโอกาสดี ๆ อีกมากมายที่จะได้รับหลังจากที่จบการศึกษาที่เยอรมัน คุณภาพชีวิตดี สิ่งแวดล้อมหลากหลาย ชีวิตความเป็นอยู่ของนักเรียนต่างชาติในเยอรมันถูกรายล้อมไปด้วยวัฒนธรรม แสงเสียง ดนตรี ศิลปะที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง เช่น ตามเมืองใหญ่ ๆ ของเยอรมันอย่าง เแบร์ลิน มิวนิค ฮัมบวก จะมีทุกอย่างที่ตอบสนองความต้องการในใช้ชีวิตของนักเรียนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าอะไรที่น่าสนใจ ก็จะเจอคนที่สนใจสิ่งเดียวกัน หรือสถานที่ การรวมกลุ่มที่ตอบสนองความสนใจนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังหาทางเข้าร่วมได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น กีฬา การเมือง ประวิติศาสตร์ หรือศิลปะ รวมถึงวัฒนธรรมที่หลากหลาย เนื่องจากคอร์สเรียนต่าง ๆ ที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ มีค่าใช้จ่ายที่ประหยัด ทำให้นักเรียนจากทั่วโลกหลั่งไหลมาอยู่ที่นี่ อันดับที่ 8 ประเทศฟินแลนด์ ระบบการศึกษาของประเทศ ฟินแลนด์ เน้นที่การเรียนรู้ผ่านการ “เล่น” เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ มากกว่าการเรียนแบบท่องจำและนำไปสอบ เพราะเชื่อว่าการเรียนการสอนแบบนี้จะทำให้นักเรียนเรียนรู้ได้ดีจากการลงมือทำ มากกว่าการท่องจำข้อความที่ไม่จำเป็นจากหนังสือ และจะทำให้เด็กเกิดการพัฒนามากกว่าการแข่งขันกัน แทบจะไม่ได้ให้การบ้านเด็ก ๆ เพราะให้ความสำคัญนอกห้องเรียนมากกว่า นอกจากนี้จำนวนชั่วโมงเรียนก็น้อยลง หากเทียบกับนักเรียนจากส่วนอื่น ๆ ของโลก โดยเฉลี่ยเพียงวันละ 3 ชั่วโมง 45 นาทีเท่านั้น เพราะต้องการสนับสนุนให้นักเรียนให้มีชีวิตนอกโรงเรียน ได้ “เรียนรู้” มากกว่า “เรียน” ดังนั้น การได้มีสังคม มีกิจกรรม หรือสนุกกับกีฬา จึงเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ที่ดีที่สุด เป็นที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุด จากผลการสำรวจพบว่าประเทศฟินแลนด์ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพชีวิต ความมั่นคงของภาพรวม และการศึกษาอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเป็นประเทศที่มีความสุขเป็นอันดับสองของโลก ผลการวัดระดับ Programme for International Student Assessment (PISA) ของนักเรียนชาวฟินแลนด์ก็อยู่ในระดับดีมาตลอด ไม่ได้มีเพียงคุณภาพชีวิตและการศึกษาที่ดีที่ชาวฟินแลนด์ภาคภูมิใจเท่านั้น ประเทศฟินแลนด์ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่มีนวัตกรรมที่มีอิทธิพลในระดับโลกสูงและมีความเป็นมิตรต่อธรรมชาติ ด้วยคะแนนที่อยู่ในระดับสูงเหล่านี้ จึงไม่แปลกใจที่ฟินแลนด์จะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลก บรรยากาศนานาชาติ กระแสโลกาภิวัฒน์ที่กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ นักเรียนต่างชาติสามารถเข้าไปทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในบริษัทของชาวฟินแลนด์ที่ต้องการขยายตลาดออกไปยังต่างประเทศ ประเทศฟินแลนด์ยังมีความต้องการผู้ทำงานสายสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังคาดการณ์ว่าประเทศฟินแลนด์จะเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานเมื่อประชากรกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ที่เกิดหลังสงครามโลกเกษียณ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะไปเรียนต่อและบุกเบิกการทำงานต่อหลังเรียนจบ ฟินแลนด์ยังคงเป็นประเทศที่ยอดเยี่ยมสำหรับการไปเรียน ทำงาน และสร้างครอบครัวอีกด้วย ไม่มีการสอบวัดผลแบบ Standardized Test ระบบการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ไม่มีการทดสอบเพื่อวัดผล เพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้ผลสอบเพื่อขึ้นระดับชั้นที่สูงขึ้นหรือแข่งขันกัน เพราะเชื่อว่า การทำแบบนั้น จะทำให้นักเรียนมุ่งเน้นเรื่องเรียนเพื่อสอบเพียงอย่างเดียว ไม่ได้เน้นที่จะเรียนรู้อย่างแท้จริง อันดับที่ 9 ประเทศอินเดีย ประเทศอินเดีย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เหมาะกับการไปเรียนต่อมากที่สุด แต่คนไทยส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยจะนึกถึงกันสักเท่าไหร่ เป็นอีกหนึ่งในประเทศที่มีสถาบันทางการศึกษาที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับให้เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากอเมริกา และ จีน จึงมีหลักสูตรที่หลากหลายทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ โดยมีหลักสูตรยอดนิยมของนักเรียนชาวต่างชาติ เช่น วิศวกรรมศาสตร์ บริหารธุรกิจ การแพทย์ และศิลปศาสตร์ นอกจากนี้ อินเดียยังขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์อันดับต้น ๆ ของโลก การผสมผสานด้านการศึกษา การศึกษาแบบอินเดียได้รับอิทธิพลจากชาวอังกฤษผสมผสานกับปรัชญาดั้งเดิมแบบฮินดู พุทธ มุสลิมและแบบเปอร์เซียเข้าไว้ด้วยกัน โดยถูกถ่ายทอดจากอาจารย์ผ่านความเป็น กูรู จึงไม่แปลกนักที่ศิษย์เก่าต่างชาติอินเดียจำนวนมากจะได้รับการยอมรับ อาทิ อองซาน ซูจี (ผู้นำประชาธิปไตยของพม่า จบด้านรัฐศาสตร์จากเดลี) H.E. Le Luong Minh (เลขาธิการอาเซียนคนปัจจุบันชาวเวียดนาม จบโทจาก JNU) เป็นต้น รวมถึงนักเรียนจากมหาวิทยาลัยในอินเดีย ต่างได้รับการตอบรับเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วโลก .. นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ชาวอินเดียหลายท่านยังได้รับการยอมรับในระดับโลก เช่น Partha Chatterjee จากมหาวิทยาลัยกัลกัตตา นักวิชาการแนวหน้าด้าน Subaltern Studies อีกด้วย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ประเทศอินเดียถือเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาการคอมพิวเตอร์อันดับต้นของโลก ไฮเดอราบาด หรืออีกชี่อคือ Cyberabad ถูกขนามนามให้เป็นซิลลิคอนวัลเลย์ของเอเชียเมืองบังกาลอว์เป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์มือฉมังของโลก นอกจากนี้อินเดียยังสามารถส่งกระสวยอวกาศไปยังดาวอังคารได้เป็นผลสำเร็จ รวมถึงขีปนาวุธอัคนีที่มีพิสัยไกลถึง 5,000 กิโลเมตร เล็งไปที่จีนก็สามารถยิงไปยังทุกเมืองใหญ่ของชาวจีน ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของอินเดียย่อมเป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นดีสำหรับนักเรียนสายวิทยาศาสตร์ ประสบการณ์นอกห้องเรียน อินเดียประเทศแห่งอารยธรรมที่สำคัญของโลก มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น ทัชมาฮาล รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย ตั้งแต่ทะเลทรายไปจนถึงท้องทะเลอันงดงาม มีโอกาสได้เรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมที่มีความหลากหลายอยู่สูง รวมถึงได้ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ และเรียนรู้เรื่องราววัฒนธรรม อีกทั้งยังมีการพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวผ่อนคลายนอกสถานที่ มีประเพณี วัฒนธรรม วันหยุด ที่คล้ายกับของประเทศไทย ขณะที่นักศึกษาต่างชาติที่มาเรียนต่อมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่จะมีโฮสเทล อยู่ภายในมหาวิทยาลัย เหมาะสำหรับให้นักศึกษาได้พักอาศัยส่วนตัว อันดับที่ 10 ประเทศสิงคโปร์ สิงคโปร์ นิยามของคำว่า “ตะวันออกพบกับตะวันตก” ถือว่าเหมาะกับนักเรียนที่ชอบความแปลกใหม่ของวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เต็มไปด้วยการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัว ในส่วนของการศึกษา สิงค์โปร์ก็เป็นอีกหนึ่ง Destination ที่ผู้คนจากทั่วโลกให้ความสนใจเดินทางไปเรียนต่อ เพราะมีการมุ่งเน้นความรู้ทางวิชาการอย่างตรงจุดคือความรู้ในแต่ละระดับ ส่วนทักษะรอบด้าน คือ การพัฒนาทักษะอื่น ๆ จากการเข้าชมรม ซึ่งชาวสิงคโปร์จะเรียกว่า CCA ซึ่งมีความจริงจังในการพัฒนาทักษะแต่ละอย่างเป็นอย่างมากเพื่อเก็บให้เป็น Portfolio ได้ เช่น ชมรมกีฬา ชมรมประสานเสียง ก็จะมีการซ้อมในทุก ๆ อาทิตย์และพาไปแข่งขันอย่างจริงจัง เมืองในฝัน สิงคโปร์ข้นชื่อได้ว่า “เมืองในสวน หรือ City in the Garden” หากใครเคยไปสิงคโปร์จะเห็นว่าทุกตารางนิ้วของประเทศเล็ก ๆ เต็มด้วยพื้นที่สีเขียวสบายตา คงไม่ต้องแปลกใจเพราะนี่คือวิสัยทัศน์ที่ทำให้ชาวต่างชาติทั้งอาเซียน และทวีปอื่น ๆ อยากมาใช้ชีวิตที่นี่ จะได้พบกับคนมากหน้าหลายตา หลายชนชาติ ส่งผลให้เป็นเมืองที่นอกจะรวยในพื้นที่สีเขียว ยังรวยวัฒนธรรม นอกจากนี้สิงค์โปร์ยังได้รับการยกย่องจาก The Economist Intelligence Unit ว่าเป็นอันดับ 1 ในด้าน Personal Security และ Infrastructure Security จึงสบายใจได้เลยว่า การเข้าไปเรียนในประเทศที่มีความปลอดภัยสูง ทำให้โฟกัสกับการเรียนและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยทางด้านร่างกายและทรัพย์สิน ระบบการศึกษายอดเยี่ยม ประเทศสิงคโปร์หนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดแห่งของโลก มีความหลากหลายทางหลักสูตรและมหาวิทยาลัยทั้งของภาครัฐและเอกชน ขณะเดียวกันยังมีสถาบันการศึกษาจำนวนมากที่เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ทางการศึกษากับมหาวิทยาลัยต่างชาติเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการศึกษาเพิ่มขึ้น อาทิ หลักสูตรการศึกษาข้ามพรมแดน Transnational Education. เป็นต้น โอกาสในการทำงาน เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการแข่งขันและเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ทำให้นักศึกษาที่เรียนจบมีโอกาสได้ฝึกงานหรือร่วมงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลก นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของบริษัทชั้นนำของโลกในเอเชีย อย่าง Google, Netflix, Microsoft ฯลฯ การขอวีซ่าทำงานในสิงคโปร์นายจ้างต้องทำเรื่องให้ก่อน แต่ข้อได้เปรียบของการมาเรียนในสิงคโปร์ก็คือจะมีโอกาสได้ฝึกงานก่อน (โดยใช้วีซ่าของนักเรียน) จากนั้นก็จะมีโอกาสต่อยอดเพื่อไปทำงานได้นั่นเอง ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นบางส่วนจากชาวชุมชน Eduzones จากโพล์ลการสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด และกลายเป็นประเทศยอดฮิตในแวดวงการศึกษาต่อของเหล่านักเรียนต่างชาติในหลายประเทศ ส่วนเหตุผลข้อต่อ ๆ ไปจะมีอะไรบ้าง อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของตัวเองภายใต้โพสต์นี้ แม้จะเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูงสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ แต่เชื่อว่าประสบการณ์ชีวิตที่จะได้รับกลับไปต้องมีค่ามากกว่าอย่างแน่นอน EZ Webmaster Related Posts 40 ปี ม.รังสิต ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ ชูหัวใจ คือ นักศึกษา เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ ซีเอ็มเอ็มยู เปิดผลวิจัยใหม่ถอดด้าม “การตลาดคนขี้เบื่อ” พร้อมเจาะ “พฤติกรรมขี้เบื่อคน 4 Gen” คลื่นลูกใหม่กระทบ “Brand Loyalty” โชว์เทคนิคช่วยแบรนด์ดึงคนเบื่อหวนภักดีต่อสินค้า – บริการ มศว ประกาศการปรับจำนวนการรับ TCAS รอบที่ 3 (Admission) เพิ่ม LEARN to EARN เพราะชีวิต คือการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด “สุรพรชัย ธรรมศิริ” ว่าที่นักกายอุปกรณ์ ที่ไม่หยุดพัฒนาตนเอง เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ Post navigation PREVIOUS Previous post: รองอธิการบดีสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา ร่วมแถลงข่าวการจัดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ในโอกาสเฉลิมฉลอง 100 ปีประสูติNEXT Next post: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา จัดพิธีถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการบริหารการพัฒนา แด่ พระอาจารย์จีนคณาณัติจีนพรต (เย็นงี้) ณ วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
คณะแพทยศาสตร์ สจล. เปิดรับสมัครนักศึกษา ป.โท สาขาการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ) EZ WebmasterMay 9, 2024 คณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ขอเชิญผู้สนใจสมัครเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต(ปริญญาโท) สาขาการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ) ประจำปีการศึกษา 2567 ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และเศรษฐกิจสังคมในปัจจุบัน รวมทั้งความรู้และทักษะที่ช่วยให้ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถเป็นผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีด้านสุขภาพได้อย่างแท้จริง สำหรับคุณสมบัติผู้สมัครจะต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือเรียนในปีสุดท้ายของหลักสูตรปริญญาตรี สมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 15 พฤษภาคม 2567 ผ่านลงทะเบียนออนไลน์ที่ www.reg.kmitl.ac.th หรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://md.kmitl.ac.th/ การศึกษาไทยกำลังสิ้นหวัง ครูได้เงินเพิ่ม แต่PISA-โอเน็ต ‘ต่ำ’ EZ WebmasterMay 8, 2024 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม นายสมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า จากผลคะแนนสอบPISA และผลคะแนนสอบโอเน็ต ที่ร่วงเป็นราวหรือไม่เกิน 50% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องกระบวนการเรียนรู้เราไม่ได้แก้ไขอะไรเลย ซึ่งสวนทางกับเรื่องที่ครูได้รับเงินที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าตอบแทน ค่าตำแหน่ง วิทยฐานะที่สูงขึ้นตามลำดับ แต่คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของเด็กไม่ดีขึ้น…
การศึกษาไทยกำลังสิ้นหวัง ครูได้เงินเพิ่ม แต่PISA-โอเน็ต ‘ต่ำ’ EZ WebmasterMay 8, 2024 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม นายสมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า จากผลคะแนนสอบPISA และผลคะแนนสอบโอเน็ต ที่ร่วงเป็นราวหรือไม่เกิน 50% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องกระบวนการเรียนรู้เราไม่ได้แก้ไขอะไรเลย ซึ่งสวนทางกับเรื่องที่ครูได้รับเงินที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าตอบแทน ค่าตำแหน่ง วิทยฐานะที่สูงขึ้นตามลำดับ แต่คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของเด็กไม่ดีขึ้น…
ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน EZ WebmasterMay 3, 2024 ศธ. เปิดลงทะเบียนล้างแอร์ “อาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี!” พร้อมแนะนำวิธีการดูแลแอร์ ลดภาระในครัวเรือนให้ประชาชน เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ ฟรี! ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ทาง www.vec.go.th… ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search EZ Webmaster April 24, 2023 EZ Webmaster April 24, 2023 สรุปความคิดเห็น 10 อันดับ! ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จัดอันดับ! ความคิดเห็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จากชุมชนชาว Eduzones สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ชุมชน Eduzones ของเรา ได้รวบรวมผลสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด? จาก โพล์ลการสำรวจความคิดเห็นด้านล่างนี้ https://www.facebook.com/interscholarship/posts/pfbid02on1d5jCx3N5E9uCkMLKMwWuDrHz1dZqdW2edy75RDnpRfiMDf3QTtX1sev5fdxSzl โดยเราได้รวบรวมผลจากการแสดงความคิดเห็นและได้จัดอันดับหมวดหมู่ออกเป็น 10 อันดับ ดังนี้ อันดับที่ 1 ประเทศสหรัฐอเมริกา ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นตัวเลือกแรกที่ขึ้นมาเมื่อคนต้องการไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ เพราะการศึกษาที่มีคุณภาพ และ เป็นที่นิยมสูงมากในหมู่นักเรียน ด้วยวิธีการสอน ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น การศึกษาสาย STEM คุณภาพที่มีอิสระ ที่จะเรียนในสาขาวิชาต่าง ๆ ในระดับปริญญาตรี ก่อนที่จะลง เรียนวิชาเอก นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกในการทำวิชาเอกสองครั้ง (รับปริญญาตรีในสองวิชาในเวลาเดียวกัน) ในระดับสูงกว่าปริญญาตรี และสามารถเลือกชั้นเรียนเพื่อให้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสาขาวิชาที่สนใจได้ มหาวิทยาลัยได้รับการยอมรับในระดับสากล อเมริกามีมหาวิทยาลัยมากกว่า 4,000 แห่ง ที่ เปิดสอน ระดับปริญญา ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เพราะความพร้อมในการเรียน ไม่ว่าจะเป็นความพร้อม ในด้านอุปกรณ์ที่ครบครัน และ ทันสมัย พร้อมด้วย พนักงานที่มีประสบการณ์มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ยังเป็น ผู้นำระดับโลก ด้าน การวิจัย เนื่องจากรัฐบาลใช้งบประมาณ จำนวนมากในการคิดค้นวิจัยนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมา การพัฒนาทักษะที่หลากหลาย เนื่องจากวิธีการสอนที่ยืดหยุ่นของประเทศ จะมีโอกาสได้พัฒนาทักษะความสามารถข้ามสาขาวิชาซึ่งจะช่วยให้โดดเด่นกว่าเพื่อน มหาวิทยาลัยอเมริกาจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถเริ่มเตรียมตัวสำหรับงานในฝันได้ตั้งแต่ปริญญาตรี และเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำในเกือบทุกสาขา เช่น เทคโนโลยี สื่อ และ ศิลปะ จนมีโอกาสมากมายเมื่อเริ่มมองหาการฝึกงานงานพาร์ทไทม์หรือประสบการณ์การทำงานหลังเรียนจบ ระบบการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติ อเมริกาสนับสนุนให้ความช่วยเหลือนักเรียนต่างชาติได้ดี จากมหาวิทยาลัยในอเมริกาจะช่วยเหลือนักศึกษาต่างชาติ ตั้งแต่ ปฐมนิเทศจนถึง สำเร็จการศึกษา สามารถ ไปที่สำนักงานนักศึกษาต่างชาติ ของ มหาวิทยาลัย ได้ตลอดเวลา เพื่อขอคำแนะนำที่ต้องการ มหาวิทยาลัยหลายแห่งยังให้ความช่วยเหลือโดยจัดโปรแกรม เพื่อ ช่วยนักศึกษาต่างชาติ ในการเขียนเชิงวิชาการ และ ปรับตัวเข้ากับระบบการศึกษาใหม่ ข้อนี้ทำให้หลาย ๆ คน ตัดสินใจได้ว่าทำไมต้องเป็นอเมริกา อันดับที่ 2 ประเทศอังกฤษ หากพูดถึงการเรียนต่อที่ต่างประเทศเชื่อว่า ‘อังกฤษ’ คือ Top of Mind ที่อยู่อันดับต้น ๆ ในใจของทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กไทยที่อยากไปศึกษาต่อ เพราะประเทศอังกฤษเป็นที่นิยม จากสถานที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมที่มีชื่อเสียงและได้รับการันตีว่าดีที่สุดในโลก รวมทั้งยังเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ได้เคยผลิตนักวิทยาศาสตร์ระดับตำนานในอดีต ไม่ว่าจะเป็น เซอร์ไอแซก นิวตัน นักฟิสิกส์ หรือ สตีเฟน ฮอว์คิง อัจฉริยะทางฟิสิกส์ พ่อแม่-ผู้ปกครอง จึงได้วางใจและคาดหวังว่าอังกฤษ จะมอบคุณภาพอันดีเยี่ยมเหล่านั้นให้แก่บุตร-หลาน ไม่เพียงแต่ด้านวิชาการ แต่ยังรวมไปถึง ความเป็นเลิศด้านดนตรี ศิลปะ และการเขียนอีกด้วย หลักสูตรอันเป็นประตูสู่ระดับ World-Class โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในประเทศอังกฤษ เสนอหลักสูตรที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพระดับสากล ที่ถือเป็นใบเบิกทางชั้นดีสู่การต่อยอดการศึกษาขั้นสูงและการทำงานยังประเทศชั้นนำอื่น ๆ ซึ่งอันได้แก่ IGCSE, International Baccalaureate Diploma, A-Levels ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้ เป็นสากลและได้รับการยอมรับจากประเทศอื่น ๆ เรียกได้ว่า เป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงให้แก่บุตร-หลานได้มากเลยทีเดียว ได้ภาษาอังกฤษที่ดีจากต้นกำเนิด ภาษาอังกฤษถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะเป็นภาษาที่คนใช้กันทั่วโลก สามารถใช้สื่อสารได้ในหลายๆ ประเทศ และใช้ต่อยอดในหน้าที่การงานในอนาคตได้ ซึ่งการไปเรียนที่ต่างประเทศ (โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ของประเทศอังกฤษ) มีข้อดีคือ เรื่องสำเนียงที่ถูกต้องแบบชาวบริติช และยังมีคอนเนคชั่นกับชาวต่างชาติ ปฎิเสธไม่ได้ว่าการไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษมีข้อดีที่เด่นชัดที่สุดคือเรื่องของภาษา ที่เป็นต้นตำรับ เชื่อได้ว่าทักษะภาษาอังกฤษจะดีขึ้นมากหากได้ลองไปเรียน หรือใช้ชีวิตอยู่ในประเทศต้นกำเนิด แนวทางการพัฒนาตัวเองที่หาไม่ได้จากที่อื่น เหตุผลอีกหนึ่งประการ ที่ถือเป็นสิ่งสำคัญ ในการศึกษาต่อประเทศอังกฤษ นั่นก็คือ แนวทางการพัฒนาตนเองที่เด็กจะได้รับ โรงเรียนมัธยมในอังกฤษ มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาศักยภาพนักเรียนของพวกเขา เพื่อพร้อมก้าวสู่โลกใบใหญ่และการเดินทางต่อในระดับมหาวิทยาลัย นอกจากนั้น สถาบันการศึกษาในอังกฤษยังสนับสนุนและแนะนำอย่างเต็มที่ ให้นักเรียนมีความมั่นใจ พร้อมจิตใจที่เปิดกว้าง และเปิดรับโอกาสที่ดีในอนาคต อันดับที่ 3 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หากจะบอกว่าสวิตเซอร์แลนด์ คือหนึ่งในประเทศที่คนไทยชื่นชอบมากที่สุดคงไม่แปลกนัก สังเกตได้จากคนไทยจำนวนมากที่ไปตั้งรกรากอยู่ที่นั่น รวมถึงเป็นดินแดนแห่งความสุขที่สามารถพบเจอรอยยิ้มของผู้คนได้แทบทุกเส้นทางบนถนน การมีโอกาสได้เรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์ จึงเป็นสิ่งที่นักเรียนไทยจำนวนมากใฝ่ฝันเอาไว้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากหากมีความตั้งใจ แม้ไม่ใช่ประเทศใหญ่ในยุโรป แต่เชื่อว่าความรู้ที่ได้บวกกับประสบการณ์ดี ๆ ในชีวิตมันช่างคุ้มค่ากับการเดินทางไปอย่างยิ่ง มหาวิทยาลัยชั้นนำ สวิสเซอร์แลนด์มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอยู่หลายแห่ง และมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประเทศสองแห่ง ได้แก่ EPFL และ ETH Zurich ยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 30 มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ใน The Times Higher Education (THE) World University Rankings นักศึกษามีความพึงพอใจกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูงในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศและส่วนใหญ่จะชื่นชอบคุณภาพการสอนในแต่ละหลักสูตรเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปแล้ว มหาวิทยาลัยของสวิสเซอร์แลนด์มีชื่อเสียงด้านการเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นชาวสวิสหรือนักศึกษาต่างชาติที่เรียนในสถาบันที่สวิสเซอร์แลนด์ ก็จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนายจ้าง ระบบการศึกษาคุณภาพระดับโลก ระบบการศึกษาของสวิตเซอร์แลนด์เป็นอีกหนึ่งอย่างที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้าน “การโรงแรม” เนื่องจากประเทศแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกันอย่างมากมาย ดังนั้นธุรกิจด้านโรงแรมจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจและน่าเรียน ทำให้มีสถาบันการศึกษาเปิดสอนทางด้านโรงแรมโดยเฉพาะ และยังถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของวิชาการด้านการโรงแรม เพราะมีหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ และยังมีสอนภาษาที่ 3 ได้แก่ เยอรมัน และ ฝรั่งเศส ที่เป็นหนึ่งภาษาทางการของสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับการเรียนการสอนการโรงแรมของสวิตเซอร์แลนด์ เน้นทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ โดยมีการฝึกงานจริงและยังได้รับค่าจ้าง โดยที่นักเรียนจะไม่ได้ถูกส่งไปฝึกงานเฉพาะในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น แต่ยังถูกส่งไปฝึกงานที่ต่างประเทศด้วย โอกาสแห่งการเรียนรู้ภาษา สวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นสถานที่ที่ดีในการเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เป็นการช่วยเพิ่มตัวเลือกด้านอาชีพหลังจบการศึกษาได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเยอรมนีมีฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปซึ่งเต็มไปด้วยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ได้แก่ การธนาคาร การผลิต และมีโปรแกรมการฝึกอบรมนักศึกษาฝึกงานที่ยอดเยี่ยม ภาษาฝรั่งเศสยังเป็นอีกหนึ่งภาษาที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพในธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งภาษาฝรั่งเศสนั้นเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นอันดับสองในสหภาพยุโรป และเป็นภาษาราชการของ 29 ประเทศทั่วโลก เช่น แคนาดา เบลเยียม และมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตในแอฟริกา เช่น แทนซาเนีย รวันดา และโมซัมบิก เป็นต้น อันดับที่ 4 ประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ได้รับการจัดอันดับว่าเป็น ประเทศที่มีความสงบสุขมากที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 2 โดยพิจารณาจากรายได้ การศึกษา และระดับของการรวมกลุ่มในระดับภูมิภาค, ความโปร่งใสในระดับสูงของรัฐบาลและการทุจริตต่ำ, ความมีเสถียรภาพ อีกทั้งยังมีความก้าวหน้าทางสังคมอย่างแท้จริง โดยประเทศที่ปลอดภัยแห่งนี้ยังมีระบบการศึกษาระดับโลกและการดูแลสุขภาพขั้นสูง ชาวกีวีได้รับการดูแลสุขภาพฟรีจากรัฐ หรือมีค่าใช้จ่ายต่ำในกรณีเจ็บป่วย และเงินสนับสนุนจากรัฐบาลในกรณีว่างงาน เนื่องด้วยปัญหาอาชญกรรมที่น้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทำให้นักเรียนของประเทศนิวซีแลนด์สามารถโฟกัสในเรื่องเรียนเพียงอย่างเดียว และสนุกสนานกับกิจกรรมต่าง ๆ นอกห้องเรียนไปด้วย มาตรฐานการศึกษาระดับสากล ประเทศนิวซีแลนด์มีมาตรฐานในระดับสากล มหาวิทยาลัยทั้ง 8 แห่งของนิวซีแลนด์อยู่ในอันดับ Top 3% ของโลก อีกทั้งนิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับโดย The Economist, Intelligence Unit (Worldwide Educating for the Future Index), 2018 ให้เป็นอันดับที่ 1 ในการเตรียมความพร้อมนักเรียนสู่อนาคต ด้วยความสามารถในการปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้เหมาะกับภาคอุตสาหกรรมและสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ความสามารถของครูและบุคคลากร นโยบายภาครัฐ ความร่วมมือร่วมใจกันของรัฐบาลและภาคเอกชน ความสามารถในการให้คำปรึกษาถึงอาชีพในอนาคตตั้งแต่ในระดับโรงเรียน และความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่แตกต่างแต่อยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว การต้อนรับอย่างอบอุ่น นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากกว่า 100 เชื้อชาติทั่วโลก ชาวนิวซีแลนด์ล้วนเป็นมิตรและพร้อมต้อนรับนักเรียนต่างชาติด้วยความอบอุ่นและความเข้าใจ ตามคำกล่าวของชาวเมารีที่ว่า “Manaakitanga” แปลว่า การเคารพและดูแลผู้ที่อยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจ มีน้ำใจ เอื้ออาทรและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เรียนรู้จากการเรียนและการเล่น ประเทศนิวซีแลนด์ไม่ได้เน้นเฉพาะในด้านของการเรียนเพียงเท่านั้น การเรียนเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของการเรียนในห้องเรียนและการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ซึ่งได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่า เป็นการเรียนที่ดีที่สุดในโลก Study Life Balance โดยนักเรียนสามารถเลือกเรียนในเมืองชนบทที่สวยงามของนิวซีแลนด์ ที่ตั้งไม่ไกลจากเมืองมากนัก หากต้องการช้อปปิ้งหรือสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ก็สามารถเดินทางไปในเมืองใหญ่ได้ไม่ยาก สันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่สงบสุขอันดับ 2 ของโลก (อ้างอิงจาก Global Peace Index,2018) การเรียนในประเทศนิวซีแลนด์นักเรียนจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบ การเมืองที่มีเสถียรภาพและยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทุจริตคอรัปชั่นน้อยที่สุดในโลกอีกด้วย อันดับที่ 5 ประเทศแคนาดา ประเทศแคนาดาจัดได้ว่าเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก หลาย ๆ สถาบันในแคนาดามีชื่อเสียง มีคุณภาพในด้านการเรียนการสอนสูง มีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ใบปริญญาหรือ certificate ต่าง ๆ จากสถาบันและมหาวิทยาลัยในประเทศแคนาดาจึงเป็นตัวการันตีได้ว่าได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ นักศึกษาที่จบจากประเทศแคนาดาจึงมีโอกาสดีที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มาตรฐานการสอนของครู – อาจารย์ หนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศแคนาดาประสบความสำเร็จทางด้านการศึกษาก็คือความสามารถของตัวอาจารย์ผู้สอนที่ให้ความรู้กับนักเรียน ผู้ที่จะมาทำอาชีพครูผู้สอนที่แคนาดาได้ต้องผ่านการคัดกรองมาเป็นอย่างดี โดยแต่ละเมืองจะมีรูปแบบการประเมินผลของตนเอง เช่น การวัดผลที่ผู้สอนต้องผ่านการประเมินทั้งด้านความรู้ในการสอนสาขาวิชานั้น การสอนในภาคปฏิบัติและการปรับตัวกับสังคมแห่งการเรียนรู้ และการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมพร้อมพัฒนาศาสตร์ความรู้ของตนในฐานะของผู้สอน เป็นต้น อาจารย์ของเมืองนั้นจะต้องผ่านหลักสูตรที่กำหนดโดยก่อนเพื่อให้ได้ใบประกาศนียบัตรเพื่อใช้แสดงตนเป็นผู้สอนของเมืองนั้น สถาบันการศึกษาของประเทศแคนาดาจึงขึ้นชื่อในการรักษามาตรฐานคุณภาพการศึกษา เพราะแต่ละสถาบันจะไม่รับอาจารย์ที่ไม่ผ่านการรับรองจากหลักสูตรผู้สอนในประเทศมาเป็นอาจารย์ของสถาบัน และแต่ละเมืองจะมีความเคร่งครัดที่ต่างกันไป เพราะอาจารย์พูดสอนต้องสอบประเมินผลใหม่เมื่อจะย้ายไปสอนในอีกเมือง หนึ่งในระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก แคนาดาหนึ่งในประเทศที่ได้สร้างชื่อเสียงด้านการศึกษาจากการวัดผลในโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment) หรือ PISA ได้จัดให้แคนาดาอยู่ในกลุ่มที่ 10 ประเทศที่เยาวชนมีผลการเรียนเป็นเลิศ เพราะทางรัฐบาลของประเทศแคนาดาให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษามาก มาตรฐานการศึกษาของแคนาดาเป็นที่ยอมรับในระดับโลก นักศึกษาต่างชาติที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยของแคนาดา จึงประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในหน้าที่การงานจากมาตรฐานการศึกษาที่สูงพร้อมประสบการณ์มากมายที่ได้ฝึกฝนในระหว่างนั้น ระบบการเรียนสองภาษา ประเทศแคนาดามีระบบการเรียนการสอนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยผู้เรียนจะต้องเข้าเรียนในชั้นเรียนด้วยภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก และเข้าเรียนในภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่สอง เพราะประเทศแคนาดามี 2 ภาษาราชการ นักเรียนต่างชาติที่เข้าระบบการศึกษาของแคนาดาจึงมีทางเลือกในการเรียนต่อที่จะได้ฝึกทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 59% และมีภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 23% นอกจากนั้นกว่า 18% ของประชากรในแคนาดามีมากกว่าหนึ่งภาษาแม่ ขึ้นอยู่กับประเทศสัญชาติเดิมของผู้อพยพที่ได้เดินทางเข้าไปยังประเทศแคนาดา ภาษาอื่นที่เป็นที่นิยมในประเทศแคนาดา ได้แก่ ภาษาจีน ภาษาสเปน ภาษาอารบิก และ ภาษาตากาล็อก เป็นต้น อันดับที่ 6 ประเทศออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลียถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติหลาย ๆ คน ด้วยเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง สิทธิ์การทำงานสำหรับผู้จบการศึกษาใหม่มีมาก ชีวิตความเป็นอยู่สบาย และระบบการ ศึกษาคุณภาพสูง จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเศรษฐกิจของออสเตรเลียยังคงมีความแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยมีอัตราการว่างงานและเงินเฟ้อต่ำ จากเมืองที่น่าอยู่ที่สุด 10 อันดับแรกของโลก อยู่ในออสเตรเลียถึง 4 เมือง คือเมลเบิร์นอันดับหนึ่ง! ส่วนอีกสามเมืองได้แก่ แอดิเลด ซิดนีย์ และเพิร์ท โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ เสถียรภาพ การดูแลสุขภาพ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษา เน้นการเรียนรู้แบบ Real-world Learning ผลการสำรวจงานวิจัยยืนยันว่าผลการเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้นและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ระบบการเรียนของออสเตรเลียมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพสูงประกอบกับการศึกษาที่เน้นการเรียนรู้ในโลกของความเป็นจริงมากขึ้น โดยเน้นการเรียนแบบภาคปฏิบัติควบคู่กับความรู้เชิงทฤษฎีเพื่อให้ผู้เรียนได้นำความรู้ไปใช้ได้จริงถือเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนให้สอดคล้องกับการทำงานในภาคอุตสาหกรรมไปจนถึงการประกอบอาชีพในอนาคต มาตรฐานคุณภาพแบบขั้นสูง ออสเตรเลียมีหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบและคุณภาพระดับประเทศสำหรับการศึกษาชั้นสูง – Tertiary Education Quality and Standards Agency (TEQSA) ก่อตั้งขึ้นโดยหน่วยรัฐบาลออสเตรเลียเพื่อควบคุมคุณภาพและกำกับดูแลสถานศึกษาชั้นสูงที่เป็นมหาวิทยาลัยและที่ไม่ใช่มหาวิทยาลัย โดยมีชุดมาตรฐานที่พัฒนาขึ้นโดยหน่วยงานอิสระ Higher Education Standards Panel นอกจากนี้ กฎหมาย Education Services for Overseas Student (ESOS) ยังคุ้มครอง สวัสดิภาพของนักเรียนต่างชาติ คุณภาพประสบการณ์การศึกษาของนักเรียน รวมถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน อีกด้วย LGBTQ+ friendly มีความหลากหลายทางเพศ นอกจากความหลากหลายทางวัฒนธรรม ออสเตรเลียยังให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศสภาพ ถือเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ค่อนข้างยอมรับความหลากหลายทางเพศอย่างชัดเจน โดยมีกฎหมายสนับสนุนสิทธิเสรีภาพและความหลากหลายทางเพศ อาทิเช่น การยอมรับการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน (Same-Sax Marraige) ที่ประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2017 รวมถึงการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมโดยเพศเดียวกันก็ถูกรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ที่ออสเตรเลียมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายทั้งการเดินขบวน การเฉลิมฉลอง การจัดประกวด อีเวนท์ เพื่อเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือและผลักดันชาว LGBTQ+ ในสังคมอย่างต่อเนื่อง อันดับที่ 7 ประเทศเยอรมณี เยอรมนีอีกหนึ่งประเทศที่กำลังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเรียนต่างชาติ มีประชากรนักเรียน นักศึกษาต่างชาติจำนวนมากเป็นอันดับสามรองจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ระบบการศึกษาที่สูงขึ้นของเยอรมนีถือเป็นอีกหนึ่งในระบบที่ดีที่สุดของโลก มหาวิทยาลัยหลายแห่งติดอันดับหนึ่งใน 100 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก นอกจากทักษะภาษาที่จะได้เพิ่มมาแล้ว ยังทำให้ได้รู้จักเพื่อน ๆ ต่างชาติ ได้เปิดมุมมองเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง รวมถึงอิทธิพลของภาษา ที่ส่งผลต่อความคิด ทัศนคติ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เป็นการได้ทั้ง ปริญญาจากมหาวิทยาลัย และปริญญาทางการเรียนรู้โลกใหม่ ในการเปิดประสบการณ์ และโลกที่กว้างขึ้น ทั้งภาษา วัฒนธรรม สังคม เพื่อน และการใช้ชีวิตอีกด้วย โอกาสทางการศึกษา (ค่าเล่าเรียนไม่แพงสำหรับการศึกษาต่อ) การศึกษาในประเทศเยอรมันนับได้ว่ามีมาตรฐานที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ที่สำคัญค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยในประเทศเยอรมนีก็ยังไม่แพง (หรือในบางรัฐยังมีค่าเทอมที่ฟรีอยู่) เมื่อเทียบกับในประเทศอังกฤษหรือสหรัฐอเมริกา ทำให้ค่าใช้จ่ายหลักจริง ๆ ในการเรียนตกอยู่ที่ค่าเช่าบ้านและค่ากินเท่านั้น การเรียนภาษาเยอรมันเพื่อเตรียมตัวเรียนต่อนั้นจึงนับเป็นการลงทุนทางการศึกษาที่คุ้มค่า นับว่าหลังเรียนจบมีตลาดแรงงานที่ขาดแคลนแรงงานให้หางานทำต่อ จึงนับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากเลยทีเดียว ภาษาเยอรมันมีคุณค่าทางวิชาการ ภาษาเยอรมันนับเป็นภาษาที่มีความสำคัญอย่างมากในวงการวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม การบริหารและในวงการต่าง ๆ เพราะประเทศเยอรมันเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของอิทธิพลนวัตกรรมการค้นคว้าวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ จนทำให้มีบริษัทเยอรมันขนาดใหญ่จำนวนมากสามารถขยายกิจการไปได้ทั่วโลก และนอกจากงานวิจัยต่าง ๆ หรือหนังสือทางวิชาการแล้ว ยังมีอีกหลายบทความหรือหลายการวิจัยที่สามารถพบได้ในภาษาเยอรมันเท่านั้น นอกจากนี้การศึกษาต่อที่เยอรมันก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะคุณภาพของมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก และค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อที่น้อยมากเรียกได้ว่าแทบเรียนฟรี และยังมีโอกาสดี ๆ อีกมากมายที่จะได้รับหลังจากที่จบการศึกษาที่เยอรมัน คุณภาพชีวิตดี สิ่งแวดล้อมหลากหลาย ชีวิตความเป็นอยู่ของนักเรียนต่างชาติในเยอรมันถูกรายล้อมไปด้วยวัฒนธรรม แสงเสียง ดนตรี ศิลปะที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง เช่น ตามเมืองใหญ่ ๆ ของเยอรมันอย่าง เแบร์ลิน มิวนิค ฮัมบวก จะมีทุกอย่างที่ตอบสนองความต้องการในใช้ชีวิตของนักเรียนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าอะไรที่น่าสนใจ ก็จะเจอคนที่สนใจสิ่งเดียวกัน หรือสถานที่ การรวมกลุ่มที่ตอบสนองความสนใจนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังหาทางเข้าร่วมได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น กีฬา การเมือง ประวิติศาสตร์ หรือศิลปะ รวมถึงวัฒนธรรมที่หลากหลาย เนื่องจากคอร์สเรียนต่าง ๆ ที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ มีค่าใช้จ่ายที่ประหยัด ทำให้นักเรียนจากทั่วโลกหลั่งไหลมาอยู่ที่นี่ อันดับที่ 8 ประเทศฟินแลนด์ ระบบการศึกษาของประเทศ ฟินแลนด์ เน้นที่การเรียนรู้ผ่านการ “เล่น” เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ มากกว่าการเรียนแบบท่องจำและนำไปสอบ เพราะเชื่อว่าการเรียนการสอนแบบนี้จะทำให้นักเรียนเรียนรู้ได้ดีจากการลงมือทำ มากกว่าการท่องจำข้อความที่ไม่จำเป็นจากหนังสือ และจะทำให้เด็กเกิดการพัฒนามากกว่าการแข่งขันกัน แทบจะไม่ได้ให้การบ้านเด็ก ๆ เพราะให้ความสำคัญนอกห้องเรียนมากกว่า นอกจากนี้จำนวนชั่วโมงเรียนก็น้อยลง หากเทียบกับนักเรียนจากส่วนอื่น ๆ ของโลก โดยเฉลี่ยเพียงวันละ 3 ชั่วโมง 45 นาทีเท่านั้น เพราะต้องการสนับสนุนให้นักเรียนให้มีชีวิตนอกโรงเรียน ได้ “เรียนรู้” มากกว่า “เรียน” ดังนั้น การได้มีสังคม มีกิจกรรม หรือสนุกกับกีฬา จึงเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ที่ดีที่สุด เป็นที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุด จากผลการสำรวจพบว่าประเทศฟินแลนด์ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพชีวิต ความมั่นคงของภาพรวม และการศึกษาอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเป็นประเทศที่มีความสุขเป็นอันดับสองของโลก ผลการวัดระดับ Programme for International Student Assessment (PISA) ของนักเรียนชาวฟินแลนด์ก็อยู่ในระดับดีมาตลอด ไม่ได้มีเพียงคุณภาพชีวิตและการศึกษาที่ดีที่ชาวฟินแลนด์ภาคภูมิใจเท่านั้น ประเทศฟินแลนด์ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่มีนวัตกรรมที่มีอิทธิพลในระดับโลกสูงและมีความเป็นมิตรต่อธรรมชาติ ด้วยคะแนนที่อยู่ในระดับสูงเหล่านี้ จึงไม่แปลกใจที่ฟินแลนด์จะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลก บรรยากาศนานาชาติ กระแสโลกาภิวัฒน์ที่กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ นักเรียนต่างชาติสามารถเข้าไปทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในบริษัทของชาวฟินแลนด์ที่ต้องการขยายตลาดออกไปยังต่างประเทศ ประเทศฟินแลนด์ยังมีความต้องการผู้ทำงานสายสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังคาดการณ์ว่าประเทศฟินแลนด์จะเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานเมื่อประชากรกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ที่เกิดหลังสงครามโลกเกษียณ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะไปเรียนต่อและบุกเบิกการทำงานต่อหลังเรียนจบ ฟินแลนด์ยังคงเป็นประเทศที่ยอดเยี่ยมสำหรับการไปเรียน ทำงาน และสร้างครอบครัวอีกด้วย ไม่มีการสอบวัดผลแบบ Standardized Test ระบบการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ไม่มีการทดสอบเพื่อวัดผล เพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้ผลสอบเพื่อขึ้นระดับชั้นที่สูงขึ้นหรือแข่งขันกัน เพราะเชื่อว่า การทำแบบนั้น จะทำให้นักเรียนมุ่งเน้นเรื่องเรียนเพื่อสอบเพียงอย่างเดียว ไม่ได้เน้นที่จะเรียนรู้อย่างแท้จริง อันดับที่ 9 ประเทศอินเดีย ประเทศอินเดีย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เหมาะกับการไปเรียนต่อมากที่สุด แต่คนไทยส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยจะนึกถึงกันสักเท่าไหร่ เป็นอีกหนึ่งในประเทศที่มีสถาบันทางการศึกษาที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับให้เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากอเมริกา และ จีน จึงมีหลักสูตรที่หลากหลายทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ โดยมีหลักสูตรยอดนิยมของนักเรียนชาวต่างชาติ เช่น วิศวกรรมศาสตร์ บริหารธุรกิจ การแพทย์ และศิลปศาสตร์ นอกจากนี้ อินเดียยังขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์อันดับต้น ๆ ของโลก การผสมผสานด้านการศึกษา การศึกษาแบบอินเดียได้รับอิทธิพลจากชาวอังกฤษผสมผสานกับปรัชญาดั้งเดิมแบบฮินดู พุทธ มุสลิมและแบบเปอร์เซียเข้าไว้ด้วยกัน โดยถูกถ่ายทอดจากอาจารย์ผ่านความเป็น กูรู จึงไม่แปลกนักที่ศิษย์เก่าต่างชาติอินเดียจำนวนมากจะได้รับการยอมรับ อาทิ อองซาน ซูจี (ผู้นำประชาธิปไตยของพม่า จบด้านรัฐศาสตร์จากเดลี) H.E. Le Luong Minh (เลขาธิการอาเซียนคนปัจจุบันชาวเวียดนาม จบโทจาก JNU) เป็นต้น รวมถึงนักเรียนจากมหาวิทยาลัยในอินเดีย ต่างได้รับการตอบรับเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วโลก .. นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ชาวอินเดียหลายท่านยังได้รับการยอมรับในระดับโลก เช่น Partha Chatterjee จากมหาวิทยาลัยกัลกัตตา นักวิชาการแนวหน้าด้าน Subaltern Studies อีกด้วย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ประเทศอินเดียถือเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาการคอมพิวเตอร์อันดับต้นของโลก ไฮเดอราบาด หรืออีกชี่อคือ Cyberabad ถูกขนามนามให้เป็นซิลลิคอนวัลเลย์ของเอเชียเมืองบังกาลอว์เป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์มือฉมังของโลก นอกจากนี้อินเดียยังสามารถส่งกระสวยอวกาศไปยังดาวอังคารได้เป็นผลสำเร็จ รวมถึงขีปนาวุธอัคนีที่มีพิสัยไกลถึง 5,000 กิโลเมตร เล็งไปที่จีนก็สามารถยิงไปยังทุกเมืองใหญ่ของชาวจีน ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของอินเดียย่อมเป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นดีสำหรับนักเรียนสายวิทยาศาสตร์ ประสบการณ์นอกห้องเรียน อินเดียประเทศแห่งอารยธรรมที่สำคัญของโลก มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น ทัชมาฮาล รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย ตั้งแต่ทะเลทรายไปจนถึงท้องทะเลอันงดงาม มีโอกาสได้เรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมที่มีความหลากหลายอยู่สูง รวมถึงได้ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ และเรียนรู้เรื่องราววัฒนธรรม อีกทั้งยังมีการพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวผ่อนคลายนอกสถานที่ มีประเพณี วัฒนธรรม วันหยุด ที่คล้ายกับของประเทศไทย ขณะที่นักศึกษาต่างชาติที่มาเรียนต่อมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่จะมีโฮสเทล อยู่ภายในมหาวิทยาลัย เหมาะสำหรับให้นักศึกษาได้พักอาศัยส่วนตัว อันดับที่ 10 ประเทศสิงคโปร์ สิงคโปร์ นิยามของคำว่า “ตะวันออกพบกับตะวันตก” ถือว่าเหมาะกับนักเรียนที่ชอบความแปลกใหม่ของวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เต็มไปด้วยการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัว ในส่วนของการศึกษา สิงค์โปร์ก็เป็นอีกหนึ่ง Destination ที่ผู้คนจากทั่วโลกให้ความสนใจเดินทางไปเรียนต่อ เพราะมีการมุ่งเน้นความรู้ทางวิชาการอย่างตรงจุดคือความรู้ในแต่ละระดับ ส่วนทักษะรอบด้าน คือ การพัฒนาทักษะอื่น ๆ จากการเข้าชมรม ซึ่งชาวสิงคโปร์จะเรียกว่า CCA ซึ่งมีความจริงจังในการพัฒนาทักษะแต่ละอย่างเป็นอย่างมากเพื่อเก็บให้เป็น Portfolio ได้ เช่น ชมรมกีฬา ชมรมประสานเสียง ก็จะมีการซ้อมในทุก ๆ อาทิตย์และพาไปแข่งขันอย่างจริงจัง เมืองในฝัน สิงคโปร์ข้นชื่อได้ว่า “เมืองในสวน หรือ City in the Garden” หากใครเคยไปสิงคโปร์จะเห็นว่าทุกตารางนิ้วของประเทศเล็ก ๆ เต็มด้วยพื้นที่สีเขียวสบายตา คงไม่ต้องแปลกใจเพราะนี่คือวิสัยทัศน์ที่ทำให้ชาวต่างชาติทั้งอาเซียน และทวีปอื่น ๆ อยากมาใช้ชีวิตที่นี่ จะได้พบกับคนมากหน้าหลายตา หลายชนชาติ ส่งผลให้เป็นเมืองที่นอกจะรวยในพื้นที่สีเขียว ยังรวยวัฒนธรรม นอกจากนี้สิงค์โปร์ยังได้รับการยกย่องจาก The Economist Intelligence Unit ว่าเป็นอันดับ 1 ในด้าน Personal Security และ Infrastructure Security จึงสบายใจได้เลยว่า การเข้าไปเรียนในประเทศที่มีความปลอดภัยสูง ทำให้โฟกัสกับการเรียนและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยทางด้านร่างกายและทรัพย์สิน ระบบการศึกษายอดเยี่ยม ประเทศสิงคโปร์หนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดแห่งของโลก มีความหลากหลายทางหลักสูตรและมหาวิทยาลัยทั้งของภาครัฐและเอกชน ขณะเดียวกันยังมีสถาบันการศึกษาจำนวนมากที่เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ทางการศึกษากับมหาวิทยาลัยต่างชาติเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการศึกษาเพิ่มขึ้น อาทิ หลักสูตรการศึกษาข้ามพรมแดน Transnational Education. เป็นต้น โอกาสในการทำงาน เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการแข่งขันและเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ทำให้นักศึกษาที่เรียนจบมีโอกาสได้ฝึกงานหรือร่วมงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลก นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของบริษัทชั้นนำของโลกในเอเชีย อย่าง Google, Netflix, Microsoft ฯลฯ การขอวีซ่าทำงานในสิงคโปร์นายจ้างต้องทำเรื่องให้ก่อน แต่ข้อได้เปรียบของการมาเรียนในสิงคโปร์ก็คือจะมีโอกาสได้ฝึกงานก่อน (โดยใช้วีซ่าของนักเรียน) จากนั้นก็จะมีโอกาสต่อยอดเพื่อไปทำงานได้นั่นเอง ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นบางส่วนจากชาวชุมชน Eduzones จากโพล์ลการสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด และกลายเป็นประเทศยอดฮิตในแวดวงการศึกษาต่อของเหล่านักเรียนต่างชาติในหลายประเทศ ส่วนเหตุผลข้อต่อ ๆ ไปจะมีอะไรบ้าง อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของตัวเองภายใต้โพสต์นี้ แม้จะเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูงสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ แต่เชื่อว่าประสบการณ์ชีวิตที่จะได้รับกลับไปต้องมีค่ามากกว่าอย่างแน่นอน EZ Webmaster Related Posts 40 ปี ม.รังสิต ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ ชูหัวใจ คือ นักศึกษา เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ สจล. เปิดหลักสูตร “นักสื่อสารดิจิทัล”พัฒนาศักยภาพคนพิการ ซีเอ็มเอ็มยู เปิดผลวิจัยใหม่ถอดด้าม “การตลาดคนขี้เบื่อ” พร้อมเจาะ “พฤติกรรมขี้เบื่อคน 4 Gen” คลื่นลูกใหม่กระทบ “Brand Loyalty” โชว์เทคนิคช่วยแบรนด์ดึงคนเบื่อหวนภักดีต่อสินค้า – บริการ มศว ประกาศการปรับจำนวนการรับ TCAS รอบที่ 3 (Admission) เพิ่ม LEARN to EARN เพราะชีวิต คือการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด “สุรพรชัย ธรรมศิริ” ว่าที่นักกายอุปกรณ์ ที่ไม่หยุดพัฒนาตนเอง เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ Post navigation PREVIOUS Previous post: รองอธิการบดีสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา ร่วมแถลงข่าวการจัดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ในโอกาสเฉลิมฉลอง 100 ปีประสูติNEXT Next post: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา จัดพิธีถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการบริหารการพัฒนา แด่ พระอาจารย์จีนคณาณัติจีนพรต (เย็นงี้) ณ วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked * Name* Email* Website Comment* Δ
ก.กก บึงกาฬ ห้องเรียนข้ามขอบของคนบึงกาฬ EZ WebmasterApril 26, 2024 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อบ้านโพธ์ทอง ตำบลโนนสมบูรณ์ จังหวัดบึงกาฬ หรือ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของคนในชุมชน และพร้อมเป็น Change Agent สร้างคน สร้างงาน ให้คนในชุมชนและขยายไปสู่วงกว้าง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีแกนนำหลักอย่าง นางรัศมี อืดผา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ลุกขึ้นมาชวนคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงความคิด มองเห็นคุณค่าทรัพยากรดี ๆ ในชุมชนอย่าง “กกและผือ” มาต่อยอดจนเกิดเป็นคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถสร้างทั้งรายได้ สานทั้งใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และคนในชุมชนไว้ด้วยกัน โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ช่วยหนุนเสริมวิธีคิดและเครื่องมือการทำงาน วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ได้เดินทางมาถึงการเป็น “ชุมชนตัวแบบ” ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และตรงใจคนในชุมชนเท่านั้น พวกเขายังร่วมกันสร้างคนให้กลายเป็นทั้งปราชญ์ แกนนำชุมชน และที่สำคัญคือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้กระบวนการผลิตกกและผือตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การย้อม การสาน และการแปรรูป ให้กับคนในและนอกชุมชนทุกช่วงวัย รวมถึงเกิดการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ก.กก บึงกาฬ ขึ้นในตำบลโนนสมบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จัดเวที “สานพลังพื้นที่…ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างกัน ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เห็น “โมเดลต้นแบบ” การทำงานกับคนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย โดยนัยยะสำคัญของเวทีนี้คือ “การพัฒนาคนแม้เพียง 1 คน หากเขาได้รับการพัฒนาที่ดีเขาจะกลายเป็นตัวคูณสำคัญให้พื้นที่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้ด้วยตนเอง” เฉกเช่นกับกลุ่ม ก.กก บึงกาฬ ที่แม้วันนี้จะไม่รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสศ. แล้ว แต่รากฐานที่ กสศ. และคณะทำงานในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้างอย่าง “รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” ไว้ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้ก่อให้เกิดความงอกงามที่ปลายน้ำ ด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนั่นเอง และเนื่องจากต้องการส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น นางรัศมีจึงได้มองหาโอกาสในการสร้างคนและพัฒนาชุมชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมูลนิธิเอสซีจี และ กสศ. ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาตัวแบบกองทุนเพื่อพัฒนาอาชีพที่เชื่อมโยงกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ จึงสนใจเข้าร่วมเพราะต้องการขยายผลแนวคิดการทำงานจากฐานทุนความรู้ของชุมชนไปสู่กลุ่มอาชีพอื่น ๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาส มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น และผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้วันนี้ กลุ่ม ก.กก บึงกาฬ มีการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ขึ้นเป็นผลสำเร็จ นางรัศมี กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุน “ก.กกบึงกาฬ สานสัมพันธ์ชุมชน” ของที่นี่จะแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ โดยเธอได้ชวนทั้งตำบลมาถอดบทเรียนการทำงานกองทุนร่วมกัน เพื่อหาจุดเด่นและข้อควรแก้ไขมาพัฒนาให้กองทุนนี้มีความแตกต่างโดยเน้นไปที่การสร้างเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบอาชีพทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวที่ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสนใจโดยใช้ต้นแบบของ ก.กก บึงกาฬ เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และที่สำคัญต้องเกิดการส่งต่อและสืบทอดภูมิปัญญา โดยระหว่างการกู้ยืมทุนไปประกอบอาชีพก็จะมีทีมงานคอยช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ให้อยู่เสมอเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบึงกาฬ กล่าวไว้ คือการทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ และมีคุณธรรม เป็นคนดี มีวินัย… ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา… Search for: Search
ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking-สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ EZ WebmasterApril 24, 2024 ในโอกาสที่ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni… สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา…
สวนสุนันทา พัฒนา Soft Skills ผู้บริหาร-คณาจารย์ ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม tui sakrapeeApril 9, 2024 สวนสุนันทา อบรมพัฒนาทักษะ Soft Skills ผู้บริหาร-อาจารย์ ต้นแบบพัฒนานักศึกษาศตวรรษที่ 21 ตอบโจทย์สังคมโลก ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม วันที่ 4 – 5 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา…
EZ Webmaster April 24, 2023 EZ Webmaster April 24, 2023 สรุปความคิดเห็น 10 อันดับ! ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จัดอันดับ! ความคิดเห็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด จากชุมชนชาว Eduzones สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ชุมชน Eduzones ของเรา ได้รวบรวมผลสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด? จาก โพล์ลการสำรวจความคิดเห็นด้านล่างนี้ https://www.facebook.com/interscholarship/posts/pfbid02on1d5jCx3N5E9uCkMLKMwWuDrHz1dZqdW2edy75RDnpRfiMDf3QTtX1sev5fdxSzl โดยเราได้รวบรวมผลจากการแสดงความคิดเห็นและได้จัดอันดับหมวดหมู่ออกเป็น 10 อันดับ ดังนี้ อันดับที่ 1 ประเทศสหรัฐอเมริกา ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นตัวเลือกแรกที่ขึ้นมาเมื่อคนต้องการไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ เพราะการศึกษาที่มีคุณภาพ และ เป็นที่นิยมสูงมากในหมู่นักเรียน ด้วยวิธีการสอน ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น การศึกษาสาย STEM คุณภาพที่มีอิสระ ที่จะเรียนในสาขาวิชาต่าง ๆ ในระดับปริญญาตรี ก่อนที่จะลง เรียนวิชาเอก นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกในการทำวิชาเอกสองครั้ง (รับปริญญาตรีในสองวิชาในเวลาเดียวกัน) ในระดับสูงกว่าปริญญาตรี และสามารถเลือกชั้นเรียนเพื่อให้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสาขาวิชาที่สนใจได้ มหาวิทยาลัยได้รับการยอมรับในระดับสากล อเมริกามีมหาวิทยาลัยมากกว่า 4,000 แห่ง ที่ เปิดสอน ระดับปริญญา ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เพราะความพร้อมในการเรียน ไม่ว่าจะเป็นความพร้อม ในด้านอุปกรณ์ที่ครบครัน และ ทันสมัย พร้อมด้วย พนักงานที่มีประสบการณ์มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ยังเป็น ผู้นำระดับโลก ด้าน การวิจัย เนื่องจากรัฐบาลใช้งบประมาณ จำนวนมากในการคิดค้นวิจัยนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมา การพัฒนาทักษะที่หลากหลาย เนื่องจากวิธีการสอนที่ยืดหยุ่นของประเทศ จะมีโอกาสได้พัฒนาทักษะความสามารถข้ามสาขาวิชาซึ่งจะช่วยให้โดดเด่นกว่าเพื่อน มหาวิทยาลัยอเมริกาจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถเริ่มเตรียมตัวสำหรับงานในฝันได้ตั้งแต่ปริญญาตรี และเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำในเกือบทุกสาขา เช่น เทคโนโลยี สื่อ และ ศิลปะ จนมีโอกาสมากมายเมื่อเริ่มมองหาการฝึกงานงานพาร์ทไทม์หรือประสบการณ์การทำงานหลังเรียนจบ ระบบการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติ อเมริกาสนับสนุนให้ความช่วยเหลือนักเรียนต่างชาติได้ดี จากมหาวิทยาลัยในอเมริกาจะช่วยเหลือนักศึกษาต่างชาติ ตั้งแต่ ปฐมนิเทศจนถึง สำเร็จการศึกษา สามารถ ไปที่สำนักงานนักศึกษาต่างชาติ ของ มหาวิทยาลัย ได้ตลอดเวลา เพื่อขอคำแนะนำที่ต้องการ มหาวิทยาลัยหลายแห่งยังให้ความช่วยเหลือโดยจัดโปรแกรม เพื่อ ช่วยนักศึกษาต่างชาติ ในการเขียนเชิงวิชาการ และ ปรับตัวเข้ากับระบบการศึกษาใหม่ ข้อนี้ทำให้หลาย ๆ คน ตัดสินใจได้ว่าทำไมต้องเป็นอเมริกา อันดับที่ 2 ประเทศอังกฤษ หากพูดถึงการเรียนต่อที่ต่างประเทศเชื่อว่า ‘อังกฤษ’ คือ Top of Mind ที่อยู่อันดับต้น ๆ ในใจของทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กไทยที่อยากไปศึกษาต่อ เพราะประเทศอังกฤษเป็นที่นิยม จากสถานที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมที่มีชื่อเสียงและได้รับการันตีว่าดีที่สุดในโลก รวมทั้งยังเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ได้เคยผลิตนักวิทยาศาสตร์ระดับตำนานในอดีต ไม่ว่าจะเป็น เซอร์ไอแซก นิวตัน นักฟิสิกส์ หรือ สตีเฟน ฮอว์คิง อัจฉริยะทางฟิสิกส์ พ่อแม่-ผู้ปกครอง จึงได้วางใจและคาดหวังว่าอังกฤษ จะมอบคุณภาพอันดีเยี่ยมเหล่านั้นให้แก่บุตร-หลาน ไม่เพียงแต่ด้านวิชาการ แต่ยังรวมไปถึง ความเป็นเลิศด้านดนตรี ศิลปะ และการเขียนอีกด้วย หลักสูตรอันเป็นประตูสู่ระดับ World-Class โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในประเทศอังกฤษ เสนอหลักสูตรที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพระดับสากล ที่ถือเป็นใบเบิกทางชั้นดีสู่การต่อยอดการศึกษาขั้นสูงและการทำงานยังประเทศชั้นนำอื่น ๆ ซึ่งอันได้แก่ IGCSE, International Baccalaureate Diploma, A-Levels ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้ เป็นสากลและได้รับการยอมรับจากประเทศอื่น ๆ เรียกได้ว่า เป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงให้แก่บุตร-หลานได้มากเลยทีเดียว ได้ภาษาอังกฤษที่ดีจากต้นกำเนิด ภาษาอังกฤษถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะเป็นภาษาที่คนใช้กันทั่วโลก สามารถใช้สื่อสารได้ในหลายๆ ประเทศ และใช้ต่อยอดในหน้าที่การงานในอนาคตได้ ซึ่งการไปเรียนที่ต่างประเทศ (โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ของประเทศอังกฤษ) มีข้อดีคือ เรื่องสำเนียงที่ถูกต้องแบบชาวบริติช และยังมีคอนเนคชั่นกับชาวต่างชาติ ปฎิเสธไม่ได้ว่าการไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษมีข้อดีที่เด่นชัดที่สุดคือเรื่องของภาษา ที่เป็นต้นตำรับ เชื่อได้ว่าทักษะภาษาอังกฤษจะดีขึ้นมากหากได้ลองไปเรียน หรือใช้ชีวิตอยู่ในประเทศต้นกำเนิด แนวทางการพัฒนาตัวเองที่หาไม่ได้จากที่อื่น เหตุผลอีกหนึ่งประการ ที่ถือเป็นสิ่งสำคัญ ในการศึกษาต่อประเทศอังกฤษ นั่นก็คือ แนวทางการพัฒนาตนเองที่เด็กจะได้รับ โรงเรียนมัธยมในอังกฤษ มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาศักยภาพนักเรียนของพวกเขา เพื่อพร้อมก้าวสู่โลกใบใหญ่และการเดินทางต่อในระดับมหาวิทยาลัย นอกจากนั้น สถาบันการศึกษาในอังกฤษยังสนับสนุนและแนะนำอย่างเต็มที่ ให้นักเรียนมีความมั่นใจ พร้อมจิตใจที่เปิดกว้าง และเปิดรับโอกาสที่ดีในอนาคต อันดับที่ 3 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หากจะบอกว่าสวิตเซอร์แลนด์ คือหนึ่งในประเทศที่คนไทยชื่นชอบมากที่สุดคงไม่แปลกนัก สังเกตได้จากคนไทยจำนวนมากที่ไปตั้งรกรากอยู่ที่นั่น รวมถึงเป็นดินแดนแห่งความสุขที่สามารถพบเจอรอยยิ้มของผู้คนได้แทบทุกเส้นทางบนถนน การมีโอกาสได้เรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์ จึงเป็นสิ่งที่นักเรียนไทยจำนวนมากใฝ่ฝันเอาไว้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากหากมีความตั้งใจ แม้ไม่ใช่ประเทศใหญ่ในยุโรป แต่เชื่อว่าความรู้ที่ได้บวกกับประสบการณ์ดี ๆ ในชีวิตมันช่างคุ้มค่ากับการเดินทางไปอย่างยิ่ง มหาวิทยาลัยชั้นนำ สวิสเซอร์แลนด์มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอยู่หลายแห่ง และมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประเทศสองแห่ง ได้แก่ EPFL และ ETH Zurich ยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 30 มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ใน The Times Higher Education (THE) World University Rankings นักศึกษามีความพึงพอใจกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูงในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศและส่วนใหญ่จะชื่นชอบคุณภาพการสอนในแต่ละหลักสูตรเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปแล้ว มหาวิทยาลัยของสวิสเซอร์แลนด์มีชื่อเสียงด้านการเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นชาวสวิสหรือนักศึกษาต่างชาติที่เรียนในสถาบันที่สวิสเซอร์แลนด์ ก็จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนายจ้าง ระบบการศึกษาคุณภาพระดับโลก ระบบการศึกษาของสวิตเซอร์แลนด์เป็นอีกหนึ่งอย่างที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้าน “การโรงแรม” เนื่องจากประเทศแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกันอย่างมากมาย ดังนั้นธุรกิจด้านโรงแรมจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจและน่าเรียน ทำให้มีสถาบันการศึกษาเปิดสอนทางด้านโรงแรมโดยเฉพาะ และยังถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของวิชาการด้านการโรงแรม เพราะมีหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ และยังมีสอนภาษาที่ 3 ได้แก่ เยอรมัน และ ฝรั่งเศส ที่เป็นหนึ่งภาษาทางการของสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับการเรียนการสอนการโรงแรมของสวิตเซอร์แลนด์ เน้นทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ โดยมีการฝึกงานจริงและยังได้รับค่าจ้าง โดยที่นักเรียนจะไม่ได้ถูกส่งไปฝึกงานเฉพาะในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น แต่ยังถูกส่งไปฝึกงานที่ต่างประเทศด้วย โอกาสแห่งการเรียนรู้ภาษา สวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นสถานที่ที่ดีในการเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เป็นการช่วยเพิ่มตัวเลือกด้านอาชีพหลังจบการศึกษาได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเยอรมนีมีฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปซึ่งเต็มไปด้วยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ได้แก่ การธนาคาร การผลิต และมีโปรแกรมการฝึกอบรมนักศึกษาฝึกงานที่ยอดเยี่ยม ภาษาฝรั่งเศสยังเป็นอีกหนึ่งภาษาที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพในธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งภาษาฝรั่งเศสนั้นเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นอันดับสองในสหภาพยุโรป และเป็นภาษาราชการของ 29 ประเทศทั่วโลก เช่น แคนาดา เบลเยียม และมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตในแอฟริกา เช่น แทนซาเนีย รวันดา และโมซัมบิก เป็นต้น อันดับที่ 4 ประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ได้รับการจัดอันดับว่าเป็น ประเทศที่มีความสงบสุขมากที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 2 โดยพิจารณาจากรายได้ การศึกษา และระดับของการรวมกลุ่มในระดับภูมิภาค, ความโปร่งใสในระดับสูงของรัฐบาลและการทุจริตต่ำ, ความมีเสถียรภาพ อีกทั้งยังมีความก้าวหน้าทางสังคมอย่างแท้จริง โดยประเทศที่ปลอดภัยแห่งนี้ยังมีระบบการศึกษาระดับโลกและการดูแลสุขภาพขั้นสูง ชาวกีวีได้รับการดูแลสุขภาพฟรีจากรัฐ หรือมีค่าใช้จ่ายต่ำในกรณีเจ็บป่วย และเงินสนับสนุนจากรัฐบาลในกรณีว่างงาน เนื่องด้วยปัญหาอาชญกรรมที่น้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทำให้นักเรียนของประเทศนิวซีแลนด์สามารถโฟกัสในเรื่องเรียนเพียงอย่างเดียว และสนุกสนานกับกิจกรรมต่าง ๆ นอกห้องเรียนไปด้วย มาตรฐานการศึกษาระดับสากล ประเทศนิวซีแลนด์มีมาตรฐานในระดับสากล มหาวิทยาลัยทั้ง 8 แห่งของนิวซีแลนด์อยู่ในอันดับ Top 3% ของโลก อีกทั้งนิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับโดย The Economist, Intelligence Unit (Worldwide Educating for the Future Index), 2018 ให้เป็นอันดับที่ 1 ในการเตรียมความพร้อมนักเรียนสู่อนาคต ด้วยความสามารถในการปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้เหมาะกับภาคอุตสาหกรรมและสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ความสามารถของครูและบุคคลากร นโยบายภาครัฐ ความร่วมมือร่วมใจกันของรัฐบาลและภาคเอกชน ความสามารถในการให้คำปรึกษาถึงอาชีพในอนาคตตั้งแต่ในระดับโรงเรียน และความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่แตกต่างแต่อยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว การต้อนรับอย่างอบอุ่น นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากกว่า 100 เชื้อชาติทั่วโลก ชาวนิวซีแลนด์ล้วนเป็นมิตรและพร้อมต้อนรับนักเรียนต่างชาติด้วยความอบอุ่นและความเข้าใจ ตามคำกล่าวของชาวเมารีที่ว่า “Manaakitanga” แปลว่า การเคารพและดูแลผู้ที่อยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจ มีน้ำใจ เอื้ออาทรและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เรียนรู้จากการเรียนและการเล่น ประเทศนิวซีแลนด์ไม่ได้เน้นเฉพาะในด้านของการเรียนเพียงเท่านั้น การเรียนเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของการเรียนในห้องเรียนและการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ซึ่งได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่า เป็นการเรียนที่ดีที่สุดในโลก Study Life Balance โดยนักเรียนสามารถเลือกเรียนในเมืองชนบทที่สวยงามของนิวซีแลนด์ ที่ตั้งไม่ไกลจากเมืองมากนัก หากต้องการช้อปปิ้งหรือสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ก็สามารถเดินทางไปในเมืองใหญ่ได้ไม่ยาก สันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่สงบสุขอันดับ 2 ของโลก (อ้างอิงจาก Global Peace Index,2018) การเรียนในประเทศนิวซีแลนด์นักเรียนจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบ การเมืองที่มีเสถียรภาพและยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทุจริตคอรัปชั่นน้อยที่สุดในโลกอีกด้วย อันดับที่ 5 ประเทศแคนาดา ประเทศแคนาดาจัดได้ว่าเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก หลาย ๆ สถาบันในแคนาดามีชื่อเสียง มีคุณภาพในด้านการเรียนการสอนสูง มีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ใบปริญญาหรือ certificate ต่าง ๆ จากสถาบันและมหาวิทยาลัยในประเทศแคนาดาจึงเป็นตัวการันตีได้ว่าได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ นักศึกษาที่จบจากประเทศแคนาดาจึงมีโอกาสดีที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มาตรฐานการสอนของครู – อาจารย์ หนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศแคนาดาประสบความสำเร็จทางด้านการศึกษาก็คือความสามารถของตัวอาจารย์ผู้สอนที่ให้ความรู้กับนักเรียน ผู้ที่จะมาทำอาชีพครูผู้สอนที่แคนาดาได้ต้องผ่านการคัดกรองมาเป็นอย่างดี โดยแต่ละเมืองจะมีรูปแบบการประเมินผลของตนเอง เช่น การวัดผลที่ผู้สอนต้องผ่านการประเมินทั้งด้านความรู้ในการสอนสาขาวิชานั้น การสอนในภาคปฏิบัติและการปรับตัวกับสังคมแห่งการเรียนรู้ และการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมพร้อมพัฒนาศาสตร์ความรู้ของตนในฐานะของผู้สอน เป็นต้น อาจารย์ของเมืองนั้นจะต้องผ่านหลักสูตรที่กำหนดโดยก่อนเพื่อให้ได้ใบประกาศนียบัตรเพื่อใช้แสดงตนเป็นผู้สอนของเมืองนั้น สถาบันการศึกษาของประเทศแคนาดาจึงขึ้นชื่อในการรักษามาตรฐานคุณภาพการศึกษา เพราะแต่ละสถาบันจะไม่รับอาจารย์ที่ไม่ผ่านการรับรองจากหลักสูตรผู้สอนในประเทศมาเป็นอาจารย์ของสถาบัน และแต่ละเมืองจะมีความเคร่งครัดที่ต่างกันไป เพราะอาจารย์พูดสอนต้องสอบประเมินผลใหม่เมื่อจะย้ายไปสอนในอีกเมือง หนึ่งในระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก แคนาดาหนึ่งในประเทศที่ได้สร้างชื่อเสียงด้านการศึกษาจากการวัดผลในโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment) หรือ PISA ได้จัดให้แคนาดาอยู่ในกลุ่มที่ 10 ประเทศที่เยาวชนมีผลการเรียนเป็นเลิศ เพราะทางรัฐบาลของประเทศแคนาดาให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษามาก มาตรฐานการศึกษาของแคนาดาเป็นที่ยอมรับในระดับโลก นักศึกษาต่างชาติที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยของแคนาดา จึงประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในหน้าที่การงานจากมาตรฐานการศึกษาที่สูงพร้อมประสบการณ์มากมายที่ได้ฝึกฝนในระหว่างนั้น ระบบการเรียนสองภาษา ประเทศแคนาดามีระบบการเรียนการสอนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยผู้เรียนจะต้องเข้าเรียนในชั้นเรียนด้วยภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก และเข้าเรียนในภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่สอง เพราะประเทศแคนาดามี 2 ภาษาราชการ นักเรียนต่างชาติที่เข้าระบบการศึกษาของแคนาดาจึงมีทางเลือกในการเรียนต่อที่จะได้ฝึกทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 59% และมีภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 23% นอกจากนั้นกว่า 18% ของประชากรในแคนาดามีมากกว่าหนึ่งภาษาแม่ ขึ้นอยู่กับประเทศสัญชาติเดิมของผู้อพยพที่ได้เดินทางเข้าไปยังประเทศแคนาดา ภาษาอื่นที่เป็นที่นิยมในประเทศแคนาดา ได้แก่ ภาษาจีน ภาษาสเปน ภาษาอารบิก และ ภาษาตากาล็อก เป็นต้น อันดับที่ 6 ประเทศออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลียถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติหลาย ๆ คน ด้วยเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง สิทธิ์การทำงานสำหรับผู้จบการศึกษาใหม่มีมาก ชีวิตความเป็นอยู่สบาย และระบบการ ศึกษาคุณภาพสูง จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเศรษฐกิจของออสเตรเลียยังคงมีความแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยมีอัตราการว่างงานและเงินเฟ้อต่ำ จากเมืองที่น่าอยู่ที่สุด 10 อันดับแรกของโลก อยู่ในออสเตรเลียถึง 4 เมือง คือเมลเบิร์นอันดับหนึ่ง! ส่วนอีกสามเมืองได้แก่ แอดิเลด ซิดนีย์ และเพิร์ท โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ เสถียรภาพ การดูแลสุขภาพ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษา เน้นการเรียนรู้แบบ Real-world Learning ผลการสำรวจงานวิจัยยืนยันว่าผลการเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้นและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ระบบการเรียนของออสเตรเลียมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพสูงประกอบกับการศึกษาที่เน้นการเรียนรู้ในโลกของความเป็นจริงมากขึ้น โดยเน้นการเรียนแบบภาคปฏิบัติควบคู่กับความรู้เชิงทฤษฎีเพื่อให้ผู้เรียนได้นำความรู้ไปใช้ได้จริงถือเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนให้สอดคล้องกับการทำงานในภาคอุตสาหกรรมไปจนถึงการประกอบอาชีพในอนาคต มาตรฐานคุณภาพแบบขั้นสูง ออสเตรเลียมีหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบและคุณภาพระดับประเทศสำหรับการศึกษาชั้นสูง – Tertiary Education Quality and Standards Agency (TEQSA) ก่อตั้งขึ้นโดยหน่วยรัฐบาลออสเตรเลียเพื่อควบคุมคุณภาพและกำกับดูแลสถานศึกษาชั้นสูงที่เป็นมหาวิทยาลัยและที่ไม่ใช่มหาวิทยาลัย โดยมีชุดมาตรฐานที่พัฒนาขึ้นโดยหน่วยงานอิสระ Higher Education Standards Panel นอกจากนี้ กฎหมาย Education Services for Overseas Student (ESOS) ยังคุ้มครอง สวัสดิภาพของนักเรียนต่างชาติ คุณภาพประสบการณ์การศึกษาของนักเรียน รวมถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน อีกด้วย LGBTQ+ friendly มีความหลากหลายทางเพศ นอกจากความหลากหลายทางวัฒนธรรม ออสเตรเลียยังให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศสภาพ ถือเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ค่อนข้างยอมรับความหลากหลายทางเพศอย่างชัดเจน โดยมีกฎหมายสนับสนุนสิทธิเสรีภาพและความหลากหลายทางเพศ อาทิเช่น การยอมรับการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน (Same-Sax Marraige) ที่ประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2017 รวมถึงการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมโดยเพศเดียวกันก็ถูกรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ที่ออสเตรเลียมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายทั้งการเดินขบวน การเฉลิมฉลอง การจัดประกวด อีเวนท์ เพื่อเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือและผลักดันชาว LGBTQ+ ในสังคมอย่างต่อเนื่อง อันดับที่ 7 ประเทศเยอรมณี เยอรมนีอีกหนึ่งประเทศที่กำลังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเรียนต่างชาติ มีประชากรนักเรียน นักศึกษาต่างชาติจำนวนมากเป็นอันดับสามรองจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ระบบการศึกษาที่สูงขึ้นของเยอรมนีถือเป็นอีกหนึ่งในระบบที่ดีที่สุดของโลก มหาวิทยาลัยหลายแห่งติดอันดับหนึ่งใน 100 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก นอกจากทักษะภาษาที่จะได้เพิ่มมาแล้ว ยังทำให้ได้รู้จักเพื่อน ๆ ต่างชาติ ได้เปิดมุมมองเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง รวมถึงอิทธิพลของภาษา ที่ส่งผลต่อความคิด ทัศนคติ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เป็นการได้ทั้ง ปริญญาจากมหาวิทยาลัย และปริญญาทางการเรียนรู้โลกใหม่ ในการเปิดประสบการณ์ และโลกที่กว้างขึ้น ทั้งภาษา วัฒนธรรม สังคม เพื่อน และการใช้ชีวิตอีกด้วย โอกาสทางการศึกษา (ค่าเล่าเรียนไม่แพงสำหรับการศึกษาต่อ) การศึกษาในประเทศเยอรมันนับได้ว่ามีมาตรฐานที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ที่สำคัญค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยในประเทศเยอรมนีก็ยังไม่แพง (หรือในบางรัฐยังมีค่าเทอมที่ฟรีอยู่) เมื่อเทียบกับในประเทศอังกฤษหรือสหรัฐอเมริกา ทำให้ค่าใช้จ่ายหลักจริง ๆ ในการเรียนตกอยู่ที่ค่าเช่าบ้านและค่ากินเท่านั้น การเรียนภาษาเยอรมันเพื่อเตรียมตัวเรียนต่อนั้นจึงนับเป็นการลงทุนทางการศึกษาที่คุ้มค่า นับว่าหลังเรียนจบมีตลาดแรงงานที่ขาดแคลนแรงงานให้หางานทำต่อ จึงนับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากเลยทีเดียว ภาษาเยอรมันมีคุณค่าทางวิชาการ ภาษาเยอรมันนับเป็นภาษาที่มีความสำคัญอย่างมากในวงการวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม การบริหารและในวงการต่าง ๆ เพราะประเทศเยอรมันเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของอิทธิพลนวัตกรรมการค้นคว้าวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ จนทำให้มีบริษัทเยอรมันขนาดใหญ่จำนวนมากสามารถขยายกิจการไปได้ทั่วโลก และนอกจากงานวิจัยต่าง ๆ หรือหนังสือทางวิชาการแล้ว ยังมีอีกหลายบทความหรือหลายการวิจัยที่สามารถพบได้ในภาษาเยอรมันเท่านั้น นอกจากนี้การศึกษาต่อที่เยอรมันก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะคุณภาพของมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก และค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อที่น้อยมากเรียกได้ว่าแทบเรียนฟรี และยังมีโอกาสดี ๆ อีกมากมายที่จะได้รับหลังจากที่จบการศึกษาที่เยอรมัน คุณภาพชีวิตดี สิ่งแวดล้อมหลากหลาย ชีวิตความเป็นอยู่ของนักเรียนต่างชาติในเยอรมันถูกรายล้อมไปด้วยวัฒนธรรม แสงเสียง ดนตรี ศิลปะที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง เช่น ตามเมืองใหญ่ ๆ ของเยอรมันอย่าง เแบร์ลิน มิวนิค ฮัมบวก จะมีทุกอย่างที่ตอบสนองความต้องการในใช้ชีวิตของนักเรียนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าอะไรที่น่าสนใจ ก็จะเจอคนที่สนใจสิ่งเดียวกัน หรือสถานที่ การรวมกลุ่มที่ตอบสนองความสนใจนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังหาทางเข้าร่วมได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น กีฬา การเมือง ประวิติศาสตร์ หรือศิลปะ รวมถึงวัฒนธรรมที่หลากหลาย เนื่องจากคอร์สเรียนต่าง ๆ ที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ มีค่าใช้จ่ายที่ประหยัด ทำให้นักเรียนจากทั่วโลกหลั่งไหลมาอยู่ที่นี่ อันดับที่ 8 ประเทศฟินแลนด์ ระบบการศึกษาของประเทศ ฟินแลนด์ เน้นที่การเรียนรู้ผ่านการ “เล่น” เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ มากกว่าการเรียนแบบท่องจำและนำไปสอบ เพราะเชื่อว่าการเรียนการสอนแบบนี้จะทำให้นักเรียนเรียนรู้ได้ดีจากการลงมือทำ มากกว่าการท่องจำข้อความที่ไม่จำเป็นจากหนังสือ และจะทำให้เด็กเกิดการพัฒนามากกว่าการแข่งขันกัน แทบจะไม่ได้ให้การบ้านเด็ก ๆ เพราะให้ความสำคัญนอกห้องเรียนมากกว่า นอกจากนี้จำนวนชั่วโมงเรียนก็น้อยลง หากเทียบกับนักเรียนจากส่วนอื่น ๆ ของโลก โดยเฉลี่ยเพียงวันละ 3 ชั่วโมง 45 นาทีเท่านั้น เพราะต้องการสนับสนุนให้นักเรียนให้มีชีวิตนอกโรงเรียน ได้ “เรียนรู้” มากกว่า “เรียน” ดังนั้น การได้มีสังคม มีกิจกรรม หรือสนุกกับกีฬา จึงเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ที่ดีที่สุด เป็นที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุด จากผลการสำรวจพบว่าประเทศฟินแลนด์ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพชีวิต ความมั่นคงของภาพรวม และการศึกษาอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเป็นประเทศที่มีความสุขเป็นอันดับสองของโลก ผลการวัดระดับ Programme for International Student Assessment (PISA) ของนักเรียนชาวฟินแลนด์ก็อยู่ในระดับดีมาตลอด ไม่ได้มีเพียงคุณภาพชีวิตและการศึกษาที่ดีที่ชาวฟินแลนด์ภาคภูมิใจเท่านั้น ประเทศฟินแลนด์ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่มีนวัตกรรมที่มีอิทธิพลในระดับโลกสูงและมีความเป็นมิตรต่อธรรมชาติ ด้วยคะแนนที่อยู่ในระดับสูงเหล่านี้ จึงไม่แปลกใจที่ฟินแลนด์จะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลก บรรยากาศนานาชาติ กระแสโลกาภิวัฒน์ที่กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ นักเรียนต่างชาติสามารถเข้าไปทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในบริษัทของชาวฟินแลนด์ที่ต้องการขยายตลาดออกไปยังต่างประเทศ ประเทศฟินแลนด์ยังมีความต้องการผู้ทำงานสายสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังคาดการณ์ว่าประเทศฟินแลนด์จะเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานเมื่อประชากรกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ที่เกิดหลังสงครามโลกเกษียณ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะไปเรียนต่อและบุกเบิกการทำงานต่อหลังเรียนจบ ฟินแลนด์ยังคงเป็นประเทศที่ยอดเยี่ยมสำหรับการไปเรียน ทำงาน และสร้างครอบครัวอีกด้วย ไม่มีการสอบวัดผลแบบ Standardized Test ระบบการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ไม่มีการทดสอบเพื่อวัดผล เพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้ผลสอบเพื่อขึ้นระดับชั้นที่สูงขึ้นหรือแข่งขันกัน เพราะเชื่อว่า การทำแบบนั้น จะทำให้นักเรียนมุ่งเน้นเรื่องเรียนเพื่อสอบเพียงอย่างเดียว ไม่ได้เน้นที่จะเรียนรู้อย่างแท้จริง อันดับที่ 9 ประเทศอินเดีย ประเทศอินเดีย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เหมาะกับการไปเรียนต่อมากที่สุด แต่คนไทยส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยจะนึกถึงกันสักเท่าไหร่ เป็นอีกหนึ่งในประเทศที่มีสถาบันทางการศึกษาที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับให้เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากอเมริกา และ จีน จึงมีหลักสูตรที่หลากหลายทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ โดยมีหลักสูตรยอดนิยมของนักเรียนชาวต่างชาติ เช่น วิศวกรรมศาสตร์ บริหารธุรกิจ การแพทย์ และศิลปศาสตร์ นอกจากนี้ อินเดียยังขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์อันดับต้น ๆ ของโลก การผสมผสานด้านการศึกษา การศึกษาแบบอินเดียได้รับอิทธิพลจากชาวอังกฤษผสมผสานกับปรัชญาดั้งเดิมแบบฮินดู พุทธ มุสลิมและแบบเปอร์เซียเข้าไว้ด้วยกัน โดยถูกถ่ายทอดจากอาจารย์ผ่านความเป็น กูรู จึงไม่แปลกนักที่ศิษย์เก่าต่างชาติอินเดียจำนวนมากจะได้รับการยอมรับ อาทิ อองซาน ซูจี (ผู้นำประชาธิปไตยของพม่า จบด้านรัฐศาสตร์จากเดลี) H.E. Le Luong Minh (เลขาธิการอาเซียนคนปัจจุบันชาวเวียดนาม จบโทจาก JNU) เป็นต้น รวมถึงนักเรียนจากมหาวิทยาลัยในอินเดีย ต่างได้รับการตอบรับเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วโลก .. นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ชาวอินเดียหลายท่านยังได้รับการยอมรับในระดับโลก เช่น Partha Chatterjee จากมหาวิทยาลัยกัลกัตตา นักวิชาการแนวหน้าด้าน Subaltern Studies อีกด้วย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ประเทศอินเดียถือเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาการคอมพิวเตอร์อันดับต้นของโลก ไฮเดอราบาด หรืออีกชี่อคือ Cyberabad ถูกขนามนามให้เป็นซิลลิคอนวัลเลย์ของเอเชียเมืองบังกาลอว์เป็นแหล่งผลิตโปรแกรมเมอร์มือฉมังของโลก นอกจากนี้อินเดียยังสามารถส่งกระสวยอวกาศไปยังดาวอังคารได้เป็นผลสำเร็จ รวมถึงขีปนาวุธอัคนีที่มีพิสัยไกลถึง 5,000 กิโลเมตร เล็งไปที่จีนก็สามารถยิงไปยังทุกเมืองใหญ่ของชาวจีน ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของอินเดียย่อมเป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นดีสำหรับนักเรียนสายวิทยาศาสตร์ ประสบการณ์นอกห้องเรียน อินเดียประเทศแห่งอารยธรรมที่สำคัญของโลก มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น ทัชมาฮาล รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย ตั้งแต่ทะเลทรายไปจนถึงท้องทะเลอันงดงาม มีโอกาสได้เรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมที่มีความหลากหลายอยู่สูง รวมถึงได้ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ และเรียนรู้เรื่องราววัฒนธรรม อีกทั้งยังมีการพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวผ่อนคลายนอกสถานที่ มีประเพณี วัฒนธรรม วันหยุด ที่คล้ายกับของประเทศไทย ขณะที่นักศึกษาต่างชาติที่มาเรียนต่อมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่จะมีโฮสเทล อยู่ภายในมหาวิทยาลัย เหมาะสำหรับให้นักศึกษาได้พักอาศัยส่วนตัว อันดับที่ 10 ประเทศสิงคโปร์ สิงคโปร์ นิยามของคำว่า “ตะวันออกพบกับตะวันตก” ถือว่าเหมาะกับนักเรียนที่ชอบความแปลกใหม่ของวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เต็มไปด้วยการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัว ในส่วนของการศึกษา สิงค์โปร์ก็เป็นอีกหนึ่ง Destination ที่ผู้คนจากทั่วโลกให้ความสนใจเดินทางไปเรียนต่อ เพราะมีการมุ่งเน้นความรู้ทางวิชาการอย่างตรงจุดคือความรู้ในแต่ละระดับ ส่วนทักษะรอบด้าน คือ การพัฒนาทักษะอื่น ๆ จากการเข้าชมรม ซึ่งชาวสิงคโปร์จะเรียกว่า CCA ซึ่งมีความจริงจังในการพัฒนาทักษะแต่ละอย่างเป็นอย่างมากเพื่อเก็บให้เป็น Portfolio ได้ เช่น ชมรมกีฬา ชมรมประสานเสียง ก็จะมีการซ้อมในทุก ๆ อาทิตย์และพาไปแข่งขันอย่างจริงจัง เมืองในฝัน สิงคโปร์ข้นชื่อได้ว่า “เมืองในสวน หรือ City in the Garden” หากใครเคยไปสิงคโปร์จะเห็นว่าทุกตารางนิ้วของประเทศเล็ก ๆ เต็มด้วยพื้นที่สีเขียวสบายตา คงไม่ต้องแปลกใจเพราะนี่คือวิสัยทัศน์ที่ทำให้ชาวต่างชาติทั้งอาเซียน และทวีปอื่น ๆ อยากมาใช้ชีวิตที่นี่ จะได้พบกับคนมากหน้าหลายตา หลายชนชาติ ส่งผลให้เป็นเมืองที่นอกจะรวยในพื้นที่สีเขียว ยังรวยวัฒนธรรม นอกจากนี้สิงค์โปร์ยังได้รับการยกย่องจาก The Economist Intelligence Unit ว่าเป็นอันดับ 1 ในด้าน Personal Security และ Infrastructure Security จึงสบายใจได้เลยว่า การเข้าไปเรียนในประเทศที่มีความปลอดภัยสูง ทำให้โฟกัสกับการเรียนและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยทางด้านร่างกายและทรัพย์สิน ระบบการศึกษายอดเยี่ยม ประเทศสิงคโปร์หนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดแห่งของโลก มีความหลากหลายทางหลักสูตรและมหาวิทยาลัยทั้งของภาครัฐและเอกชน ขณะเดียวกันยังมีสถาบันการศึกษาจำนวนมากที่เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ทางการศึกษากับมหาวิทยาลัยต่างชาติเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการศึกษาเพิ่มขึ้น อาทิ หลักสูตรการศึกษาข้ามพรมแดน Transnational Education. เป็นต้น โอกาสในการทำงาน เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการแข่งขันและเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ทำให้นักศึกษาที่เรียนจบมีโอกาสได้ฝึกงานหรือร่วมงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลก นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของบริษัทชั้นนำของโลกในเอเชีย อย่าง Google, Netflix, Microsoft ฯลฯ การขอวีซ่าทำงานในสิงคโปร์นายจ้างต้องทำเรื่องให้ก่อน แต่ข้อได้เปรียบของการมาเรียนในสิงคโปร์ก็คือจะมีโอกาสได้ฝึกงานก่อน (โดยใช้วีซ่าของนักเรียน) จากนั้นก็จะมีโอกาสต่อยอดเพื่อไปทำงานได้นั่นเอง ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นบางส่วนจากชาวชุมชน Eduzones จากโพล์ลการสำรวจความคิดเห็นประเด็น ประเทศอะไร…ที่คนไทยอยากไปเรียนมากที่สุด และกลายเป็นประเทศยอดฮิตในแวดวงการศึกษาต่อของเหล่านักเรียนต่างชาติในหลายประเทศ ส่วนเหตุผลข้อต่อ ๆ ไปจะมีอะไรบ้าง อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของตัวเองภายใต้โพสต์นี้ แม้จะเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูงสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ แต่เชื่อว่าประสบการณ์ชีวิตที่จะได้รับกลับไปต้องมีค่ามากกว่าอย่างแน่นอน
ซีเอ็มเอ็มยู เปิดผลวิจัยใหม่ถอดด้าม “การตลาดคนขี้เบื่อ” พร้อมเจาะ “พฤติกรรมขี้เบื่อคน 4 Gen” คลื่นลูกใหม่กระทบ “Brand Loyalty” โชว์เทคนิคช่วยแบรนด์ดึงคนเบื่อหวนภักดีต่อสินค้า – บริการ
LEARN to EARN เพราะชีวิต คือการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด “สุรพรชัย ธรรมศิริ” ว่าที่นักกายอุปกรณ์ ที่ไม่หยุดพัฒนาตนเอง เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ