อธิการบดี มทร.ธัญบุรี ร่วมลงนาม ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง “พัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง” ก้าวสู่พลเมืองที่มีคุณภาพ

 ณ ลานอเนกประสงค์ ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง จังหวัดปทุมธานี รองศาสตราจารย์ ดร. สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง กับ ดร.อัสนีย์ สังขเนตร ผู้อำนวยการกองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม โดย รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดี มทร.ธัญบุรี เผยว่า ในความร่วมมือครั้งนี้เพื่อสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาระบบเครือข่ายความร่วมมือการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง   ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง ให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพสามารถอยู่ร่วมกับสังคมภายนอกได้อย่างปกติสุข และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศอนาคต สำหรับขอบเขตหน้าที่ข้อตกลงความร่วมมือ ร่วมวางแผน กำหนดนโยบาย เนื้อหาหลักสูตรในการพัฒนาผู้ต้องขัง และเจ้าหน้าที่ ตลอดจนสื่อการเรียนการสอนภายในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( Covid-19) และสถานการณ์ปกติ สนับสนุนด้านบุคลากรเพื่อเป็นวิทยากรอบรมแก่ผู้ต้องขัง และเจ้าหน้าที่ สนับสนุน วัสดุ อุปกรณ์ งบประมาณในด้านการศึกษา กีฬา ศิลปะ ภายใต้กรอบระยเวลา 5 ปี

ทางด้าน ดร.อัสนีย์ สังขเนตร ผู้อำนวยการกองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง เผยว่า กรมราชทัณฑ์มีนโยบายในการสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาระบบเครือข่ายความร่วมมือด้านการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังในรูปแบบทวิภาคี ได้แก่ สถานศึกษา หน่วยงานภาครัฐ เอกชน เรือนจำ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังให้เป็นคนที่มีคุณภาพ มีความสามารถอยู่ร่วมกับสังคมภายนอกได้อย่างปกติสุข ภายหลังพ้นโทษ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลางและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้ลงนาม บันทึกข้อตกลง (MOU) ภายใต้ความร่วมมือด้านการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังร่วมกัน การฝึกวิชาชีพให้กับผู้ต้องขัง และเจ้าหน้าที่ การส่งเสริมการศึกษาในระดับที่สูงขึ้นให้แก่ผู้ต้องขัง การพัฒนาหลักสูตรและการฝึกวิชาชีพให้แก่ผู้ต้องขังที่ มีความหลากหลายและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่ผู้ต้องขัง โดยเพิ่มเสริมทักษะและสร้างความเชื่อมั่นในการออกไปประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษ รวมถึงการเสริมสร้างทัศนคติเชิงบวกในการประกอบอาชีพหาเลี้ยงตนเองภายหลังพ้นโทษ นำไปสู่เป้าหมายสูงสุดคือการคืนคนดีสู่สังคมได้อย่างแท้จริงต่อไป

.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *