“Monozukuri” การเรียนรู้ที่เหมาะกับคน Gen Z

“Gen Z” คำจำกัดความของคนยุคนี้ ยุคที่มีการเปิดกว้างทางความคิดและการกระทำมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่พวกเขาได้เติบโตมาในยุคที่เทคโนโลยีมีความพร้อมและถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว หากเทียบกับคนรุ่นก่อนหน้าอย่าง Gen Y ที่เติบโตมาในช่วงคาบเกี่ยวของการเปลี่ยนผ่านจากยุคอะนาล็อคสู่ยุคดิจิตอล ที่การมาของเทคโนโลยีไร้สายทำให้คนได้เห็นโลกกว้างมากขึ้นและง่ายขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว การที่คน Gen Z ได้เติบโตมาในยุคดิจิตอลที่พร้อมไปด้วยเทคโนโลยีไร้สายที่ทันสมัย ทำให้พวกเขามีความคิดสร้างสรรค์อย่างมาก กล้าที่จะเสี่ยง และสนุกไปกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อย่างไม่ลังเลอยู่ตลอดเวลา

การพัฒนาของเทคโนโลยีไร้สายที่ล้ำหน้ามากขึ้นอย่างสมาร์ทโฟนและอินเตอร์เน็ต ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คน Gen Z เข้าถึงข้อมูลมากมายได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส การสื่อสารและแสดงออกซึ่งตัวตน สามารถแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วผ่านสื่อสังคมออนไลน์ มันทำให้พวกเขาได้เห็นถึงข่าวสารและความคิดของคนอื่น ๆ มากมายผ่านสิ่งเหล่านั้น

ในทางกลับกัน จากการที่พวกเขามีเทคโนโลยีที่มีความสะดวกและรวดเร็ว เป็นเหมือนกับอวัยวะพิเศษส่วนหนึ่งของร่างกาย ทำให้ในบางครั้งพวกเขามีขีดจำกัดในด้านความอดทน และการรับความกดดันที่ค่อนข้างต่ำกว่าคนรุ่นก่อน ๆ ซึ่งค่อนข้างทำให้คน Gen Z ไม่ชอบการรอคอยและเบื่อกับอะไรเดิมๆ ชอบการที่ได้ลองลงมือทำจริงๆ เพื่อดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นและเรียนรู้ปรับปรุงจากผลลัพธ์นั้นมากกว่าการยึดตามทฤษฎี เพราะพวกเขาเชื่อว่าการให้น้ำหนักความสำคัญของการได้ลองและได้ลงมือทำจริง ๆ มันทำให้พวกเค้าได้อะไรมากกว่า เพราะถ้าล้มเหลว มันก็ทำให้พวกเค้ารู้และลุกได้ไวขึ้น หรือถ้าสำเร็จ มันก็จะยิ่งเป็นเหมือนไฟที่ทำให้พวกเค้าไม่หยุดที่จะพัฒนาและเรียนรู้ต่อ

ซึ่งถ้ามองในแง่ของโลกธุรกิจ หากพลาดเพียงนิดเดียวและลุกขึ้นมาได้ช้า ก็จะยิ่งทำให้เสียโอกาสมากขึ้น การที่จะลดความผิดพลาดนั้นให้น้อยลงก็คือ การทำให้คน Gen Z ได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรงของการทำธุรกิจที่เกิดขึ้นจากการลงมือทำจริง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาคนแบบญี่ปุ่น ที่มุ่งเน้นไปที่การคิดจริงและลงมือทำจริง เรียกว่า Monozukuri มาช่วยในการพัฒนาคน Gen Z ที่มีจุดเด่นในเรื่องของความกล้า และชอบที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ได้เรียนรู้ที่จะล้มและลิ้มลองรสชาติของความกดดัน การรู้จักอดทน และเรียนรู้ที่จะลุกขึ้นจากประสบการณ์ตรงที่พวกเขาได้รับ

สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ได้นำหลัก Monozukuri มาประยุกต์ใช้กับนักศึกษาผ่านโครงการที่เรียกว่า House Project หรือ บริษัทจำลอง เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ ได้เรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์ตรงของโลกธุรกิจจากการคิดจริงและลงมือทำจริง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสินค้าเพื่อออกวางจำหน่ายจริง รวมไปถึงการวางแผนกลยุทธ์ต่าง ๆ House Project ทำให้นักศึกษามีโอกาสได้เรียนรู้โลกธุรกิจจริง ๆ ก่อนที่จะต้องออกไปเผชิญกับมันอย่างเต็มตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่เหมาะกับคนยุคนี้อย่าง Gen Z ที่ชอบการเรียนรู้จากการลงมือทำจริงมาก เพราะในวันที่พวกเขาพลาด ประสบการณ์ตรงจากการลงมือทำจริงเหล่านั้น จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้พวกเขาลุกขึ้น พร้อมที่จะปรับตัวและก้าวเดินไปข้างหน้าอยู่ทุกเมื่อ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *