ใต้ลุกขึ้นสู้! นักวิชาการการท่องเที่ยว ม.หอการค้าไทย ชี้ธุรกิจ–ชุมชนต้องจับมือฟื้นท่องเที่ยวหลังมหาอุทกภัย

ท่วมใหญ่ถล่มภาคใต้ปี 2568 สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ทั้งบ้านเรือน ถนน ร้านค้า และธุรกิจท่องเที่ยวที่ต้องหยุดชะงักเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่าง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากยกเลิกการเดินทาง ธุรกิจโรงแรม–บริการต่างๆ รายได้หายวับในพริบตา ขณะที่หลายชุมชนต้องการทั้งความช่วยเหลือและกำลังใจอย่างเร่งด่วน

นักวิชาการด้านการจัดการการท่องเที่ยวและบริการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ชี้ว่า “ช่วง 24–72 ชั่วโมงหลังน้ำลด” คือ “หัวใจการฟื้นฟู” ที่ทุกพื้นที่ต้องเร่งประเมินความปลอดภัย ทั้งเส้นทางการเข้าถึง ระบบไฟฟ้า–ประปา โครงสร้างโรงแรมที่ถูกน้ำกัดเซาะ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอย่างน้ำตกและชายหาดที่อาจเปลี่ยนสภาพไปจากเดิม พร้อมทั้งตรวจสอบระบบหลังบ้านของโรงแรม เช่น ห้องพักที่ใช้งานได้ ระบบจอง พนักงานที่ยังได้รับผลกระทบ เพื่อวางแผนเปิดบริการอย่างรอบคอบ

อีกปัจจัยใหญ่ที่มองข้ามไม่ได้ คือ “ภาพลักษณ์จังหวัดหลังวิกฤต” ภาพน้ำท่วม–คลิปไวรัลที่แชร์กันทั่วโซเชียลทำให้นักท่องเที่ยวกลัว แม้หลายพื้นที่ฟื้นตัวแล้วก็ตาม จึงจำเป็นต้องสื่อสารสถานการณ์แบบโปร่งใส ชัดเจน และต่อเนื่อง พร้อมโชว์ภาพ Before–After และแจ้งพื้นที่ที่ปลอดภัยให้ประชาชนมั่นใจว่าจะเดินทางกลับมาได้จริง

ด้านการตลาด นักวิชาการแนะให้รีบดึงตลาดใกล้บ้านกลับมาก่อน เช่น นักท่องเที่ยวภาคใต้ใกล้เคียง–กรุงเทพฯ ผ่านแคมเปญราคาพิเศษ แพ็กเกจเที่ยวฟื้นฟู และการเชิญอินฟลูเอนเซอร์ลงพื้นที่เพื่อสะท้อนภาพการฟื้นตัวจริง ขณะเดียวกันต้องเร่งฟื้นเศรษฐกิจชุมชนผ่านตลาดท้องถิ่น สินค้าชุมชน และกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ เพื่อให้รายได้หมุนเข้าสู่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด

ธุรกิจเอกชนหลายแห่งมีบทบาทสำคัญ เช่น โรงแรมออร่า หาดใหญ่ ที่เปิดที่พักรองรับอาสาสมัครกว่า 100 คน พร้อมจัดหาอาหารและน้ำดื่มสำหรับภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัย ถือเป็นตัวอย่างการยืนหยัดเคียงข้างชุมชนในยามวิกฤต และสะท้อนพลังของภาคท่องเที่ยวที่มากกว่าหน้าที่ด้านเศรษฐกิจ แต่เป็น “เสาหลักของสังคม” ยามเกิดภัยพิบัติ

ท้ายที่สุด นักวิชาการเตือนว่า ภาคใต้จำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับภัยในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นระบบเตือนภัย การลงทุนป้องกันน้ำท่วมในโรงแรม การจัดทำคู่มือรับมือเหตุฉุกเฉิน หรือการใช้เทคโนโลยีและ AI ช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยง เพื่อให้การท่องเที่ยวของภาคใต้กลับมาอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง.