ผลสอบใบประกอบวิชาชีพครู รอบนี้ โซเชียลมีเดียวิพากษ์วิจารณ์กันมากถึงเกณฑ์การตัดสิน และถามถึงมาตรฐาน ความเป็นธรรม ชี้วัดว่าสอบผ่านหรือไม่ผ่าน

.

ประกาศแล้ว ผลการทดสอบ และประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู เพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งได้มีการจัดสอบด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นครั้งแรก ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2566 ล่าสุด คุรุสภา มีผู้เข้าสอบรวม 42,474 คน และปรากฏผลสอบผ่าน 11,127 คน

.

ทีนี้เรื่องราวที่เป็นประเด็นดรามา ติดแฮชแท็ก #ใบประกอบวิชาชีพครู หรือ ตั๋วครู ที่มีผู้เข้าสอบ และติวเตอร์ข้องใจ ว่า การคิดคะแนน 60 ตามเกณฑ์คือสอบผ่าน แต่เหตุใดจึงมีผู้เข้าสอบที่ได้คะแนน 55 และ 57 สอบผ่านด้วย และก็มีการโทรศัพท์เข้าไปสอบถามคุรุสภาว่า นอกจากคะแนนแล้ว ยังขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการพิจารณาด้วยว่า จะให้ผ่านหรือไม่ผ่าน ไม่ถือว่ามีการได้เปรียบเสียเปรียบกัน แต่เป็นการสอบคนละรอบ ที่จะใช้ข้อสอบคนละชุดกันอยู่แล้ว ข้อสอบต่างกัน การพิจารณาก็ต่างกัน

.

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นการสอบแต่ละรอบ มีความยากง่ายแตกต่างกันอีก กลายเป็นประเด็นดรามาว่า ตกลงแล้ว 2 มาตรฐาน หรือเปล่า กับการประกาศผลสอบครั้งนี้

.

สำหรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูที่สอบกัน จะมีเป็นระดับ ได้แก่ ใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่ครู P-License มีอายุ 2 ปี แต่คนที่สอบได้ในรอบนี้ จะได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นต้น B-License มีอายุ 5 ปี

.

ประเด็นร้อนในโซเชียลอีกเรื่อง เป็นกรณีสภาเภสัชกรรม ออกระเบียบบังคับให้ผู้ที่เข้าสอบรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป ต้องใช้ iPad ในการสอบข้อเขียนเท่านั้น ทำให้คนเข้ามาวิจารณ์กันว่า นี่เป็นการกีดกันกลุ่มคนที่อยากจะเข้าสอบ แต่เข้าไม่ถึงอุปกรณ์หรือไม่

.

แหล่งที่มา : CH7NEWS