การเติบโตของแฟชั่นอย่างยั่งยืนในแวดวงการศึกษา

“The Rise of Sustainable Fashion in Education” หรือการเติบโตของแฟชั่นอย่างยั่งยืนในแวดวงการศึกษา เป็นปรากฏการณ์สำคัญที่สะท้อนถึงความตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นต่อผลกระทบเชิงลบของอุตสาหกรรมแฟชั่นต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้สถาบันการศึกษาด้านแฟชั่นและการออกแบบทั่วโลกหันมาปรับปรุงหลักสูตรเพื่อเน้นความยั่งยืนมากขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมให้นักเรียนเป็นบุคลากรที่มีความรับผิดชอบต่อโลก ซึ่งทาง Louis Vuitton ก็มีส่วนในการสนับสนุนถึงแนวคิดดังกล่าวด้วยเช่นกัน

 

ที่มาของแนวคิด Sustainable Fashion

การใส่ใจสิ่งแวดล้อม ถือเป็นอีกหนึ่งวาระสำคัญของโลก เพื่อลดปัญหาภาวะโลกร้อนที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกันอย่างจริงจัง ในทุกอุตสาหกรรมจึงได้มีการจัดการระบบภายในธุรกิจ เพื่อลดปัญหาดังกล่าว รวมถึงอุตสาหกรรมแฟชั่นทั่วโลก ที่เป็นส่วนหนึ่งของปัญหานี้ด้วยเช่นกัน เมื่อที่ผ่านมาพบว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ทำให้แบรนด์แฟชั่นหลายแบรนด์ตื่นตัวกับเรื่องนี้ และแสดงออกถึงพลังของการใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ เสื้อคาร์ดิแกนผู้หญิง จากวัสดุรีไซเคิล หรือการเปิดตัวคอลเลกชันที่มีจุดประสงค์เพื่อความยั่งยืนด้านสถาบันการศึกษาเกี่ยวกับแฟชั่นเองก็ได้เพิ่มหลักสูตร “Sustainable Fashion” เข้าไปหลายแห่ง เพื่อถ่ายทอดเกี่ยวกับการออกแบบและผลิตเสื้อผ้าในลักษณะที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

 

การส่งเสริมความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับ Louis Vuitton

ในส่วนของแบรนด์แฟชั่นระดับโลกอย่าง Louis Vuitton ก็ได้เริ่มปรับตัวและให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น พร้อมกับสนับสนุนโครงการเพื่อการศึกษา เช่น การร่วมมือกับโรงเรียนแฟชั่นชั้นนำ ในส่วนของการเรียนรู้ด้านการออกแบบและผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

โครงการ LVMH Life 360 เน้นเรื่องความยั่งยืน

โครงการ LVMH Life 360 เป็นแผนกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของกลุ่มบริษัท LVMH ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์หรูอย่าง Louis Vuitton, Dior, Givenchy, Fendi, และอีกมากมาย โดย “Life 360” เป็นวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมแนวทางการดำเนินธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมในทุกมิติภายในปี 2030 โดย 4 แกนหลักของโครงการ Life 360 ได้แก่

 

Creative Circularity (ความคิดสร้างสรรค์แบบหมุนเวียน) ซึ่งเน้นการออกแบบที่คำนึงถึงวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (Product Lifecycle) รวมถึงการใช้วัสดุรีไซเคิลหรือยั่งยืนมากขึ้น ลดของเสียจากการผลิต และส่งเสริมการซ่อมแซม นำกลับมาใช้ใหม่

Traceability & Transparency (การตรวจสอบย้อนกลับและความโปร่งใส) คือการที่สามารถตรวจสอบที่มาของวัสดุได้ทุกชนิด เช่น หนัง ผ้า และอัญมณี อีกทั้งยังมีระบบบันทึกห่วงโซ่อุปทานที่แม่นยำ

Biodiversity (ความหลากหลายทางชีวภาพ) เน้นการปกป้องระบบนิเวศ เช่น การไม่ใช้วัตถุดิบจากป่าไม้ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ และร่วมมือกับองค์กรอนุรักษ์ เช่น UNESCO, Reforest’Action เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ

Climate (การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) โดยจะเน้นเรื่องการลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ของบริษัทให้ได้ 50% ภายในปี 2030 มีการหันไปใช้พลังงานหมุนเวียนในร้านค้าและโรงงาน และปรับเปลี่ยนระบบขนส่งให้ปล่อยคาร์บอนน้อยลง

 

L’Institut des Métiers d’Excellence (IME) ส่งเสริมความรู้ด้านแฟชั่นยั่งยืน

L’Institut des Métiers d’Excellence (IME) คือสถาบันของ LVMH เป็นโครงการฝึกอบรมวิชาชีพ ภายใต้จุดประสงค์หลักคือการสืบทอดและส่งเสริมความรู้ความชำนาญ ด้านงานฝีมือ การสร้างสรรค์ และการบริการลูกค้าในอุตสาหกรรมสินค้าหรูหรา ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 นอกจากนี้ LVMH ยังมีเป้าหมายในการดำรงไว้ซึ่งทักษะดั้งเดิมที่สำคัญต่อแบรนด์ในเครือกว่า 75 แบรนด์ รวมถึง Louis Vuitton

 

IME ไม่ได้เป็นเพียงสอนเทคนิคการผลิตแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นการพัฒนาช่างฝีมือและผู้เชี่ยวชาญรุ่นใหม่ให้เข้าใจถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยการส่งเสริมความรู้ด้านแฟชั่นยั่งยืนผ่าน IME สามารถอธิบายได้ดังนี้

1. การบูรณาการในหลักสูตรการฝึกอบรม

หลักสูตรของ IME พัฒนาร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำในหลายประเทศ (เช่น ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี สเปน ญี่ปุ่น เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา) และมีเนื้อหาที่ครอบคลุมงานฝีมือหลากหลาย รวมถึงเครื่องหนัง (Leather Goods) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Louis Vuitton

 

เน้นการใช้วัสดุอย่างมีความรับผิดชอบ ส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับวัสดุที่ยั่งยืน รวมถึงเทคนิคการจัดการวัสดุเพื่อลดของเสีย โดยได้ถ่ายทอดการศึกษาเกี่ยวกับแหล่งที่มาของวัสดุ (เช่น หนัง) และแนวทางปฏิบัติที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

 

นอกจากนี้ยังสอนเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circularity) ภายใต้แนวคิดการออกแบบและผลิตที่คำนึงถึงอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ การซ่อมแซม และการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycling and Upcycling) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ความยั่งยืน

 

2. การถ่ายทอด “Savoir-faire” ที่ยั่งยืนของ Louis Vuitton

ในฐานะแบรนด์หลักภายใต้ LVMH, Louis Vuitton มีบทบาทสำคัญในการเป็นพันธมิตรของ IME นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ IME และฝึกงานกับ Louis Vuitton จะได้รับการฝึกฝนโดยตรงจากช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญของแบรนด์ เกี่ยวกับการให้ความสำคัญกับความทนทานและคุณภาพ ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของแฟชั่นยั่งยืน Louis Vuitton จะสอนให้นักเรียนเข้าใจว่า “ความหรูหรา” หมายถึง “การมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน” (Last Forever) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ลดการบริโภคแบบใช้แล้วทิ้ง

 

นอกจากนี้ยังถ่ายทอดเกี่ยวกับการ Upcycling และการจัดการวัสดุเหลือใช้ เช่น การใช้แพลตฟอร์ม Nona Source สำหรับวัสดุเหลือใช้จากแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อให้ดีไซเนอร์รุ่นใหม่และช่างฝีมือสามารถนำวัสดุเหล่านี้ไปสร้างสรรค์ผลงานใหม่ได้

 

3. Master Classes และการเรียนรู้นวัตกรรม

นักเรียนของ IME จะได้เข้าร่วม Master Classes ซึ่งเป็นโปรแกรมเสริมที่ช่วยให้พวกเขาได้พบปะกับผู้เชี่ยวชาญ และเรียนรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรม เรียนรู้การสัมผัสกับวัสดุทางเลือกและเทคนิคใหม่ ๆ เน้นไปที่การแนะนำวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เทคนิคการผลิตที่ลดการใช้พลังงาน และแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืนอื่น ๆ

จะเห็นว่าการเติบโตของแฟชั่นอย่างยั่งยืนในแวดวงการศึกษากำลังเกิดขึ้น และดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ Louis Vuitton ก็ได้แสดงบทบาทสำคัญหลายอย่างออกมา ให้ทั่วโลกได้เห็นว่าแบรนด์ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม และพร้อมที่จะแก้ไขไปพร้อม ๆ กันกับสังคมโลก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *