ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) มีมติเห็นชอบแนวทางการปรับปรุงข้อสอบการคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาหรือทีแคส เพื่อลดความซ้ำซ้อน ลดจำนวนวิชา การสอบ และพิ่มการวัดทักษะในอนาคต เช่น เรื่องความคิดสร้างสรรค์ การสื่อสาร การทำงานเป็นทีม ความเป็นผู้นำ จิตวิญญาณเพื่อประชาชน เป็นต้น  โดยเริ่มใช้ปีการศึกษา 2565 ตนเห็นว่าเป็นข้อดี และที่ทปอ.จะรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขก็ยิ่งดี และการปรับปรุงระบบทีแคสให้ดีขึ้นทุกปีๆ เป็นหลักการที่ถูกต้อง

“การปรับทีแคส ช่วยปลดล็อคการปฏิรูปการศึกษาได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่เพียงพอ ต้องปรับปรุงไปถึงเรื่องการสอบแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานหรือโอเน็ต กระบวนการเรียนรู้ หลักสูตรขั้นพื้นฐาน และหลักสูตรในมหาวิทยาลัย การเตรียมอาจารย์มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นการแก้ไขทั้งระบบด้วย  โดยเฉพาะการใช้คะแนนโอเน็ตเพื่อการสอบเข้าในระดับต่างๆ เป็นการใช้ที่ผิดวัตถุประสงค์  โดยเป็นความหวังดีที่จะให้เด็กอยู่ในห้องเรียนจนครบหลักสูตร จึงผูกคะแนนโอเน็ตกับการเข้ามหาวิทยาลัย และบังคับเด็กด้วยการสอบ แต่ปัจจุบันความต้องการเข้ามหาวิทยาลัยของเด็กลดน้อยลง เราจึงควรลดความสำคัญของคะแนนโอเน็ตลง หากไม่ต้องใช้เลยได้จะยิ่งดี  ถ้าข้อสอบวัดทักษะในอนาคตสามารถวัดทักษะของเด็กได้จริง ก็ไม่จำเป็นต้องใช้คะแนนโอเน็ต ”ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว

ด้าน ผศ.ดร.วิโรจน์ ลิ้มไขแสง  ในฐานะประธานที่ประชุมคณะกรรมการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ทปอ.มทร. )กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่ทปอ.จะปรับลดการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อเด็กจะได้ไม่เครียดมากนัก และผู้ปกครองลดค่าใช้จ่าย ส่วนที่ทปอ.จะเพิ่มการทดสอบที่วัดทางด้านทักษะในอนาคต เป็นเรื่องที่ดี หากทปอ.จะวัดเรื่องนี้ต้องมีเครื่องมือที่สามารถวัดได้  ส่วนตัวเห็นว่าการวัดเรื่องของทักษะเป็นการวัดที่ยาก และไม่แน่ใจว่าสามารถไปกวดวิชาได้หรือไม่  รวมทั้งจะยิ่งทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างเด็กในต่างจังหวัดและเด็กในกรุงเทพฯหรือไม่ เพราะขณะนี้เด็กในต่างจังหวัดยังมีทักษะหลายเรื่องที่สู้เด็กในเมืองไม่ได้ เช่น ทักษะทางด้านคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/education/705333?fbclid=IwAR1xua5BpBUVGOPFEAAQqPg-TfcUluadhlc2TwZSOp87DbNhQ77DURyg0vA