มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผลิตหน้ากากอนามัยนาโน ป้องกันโควิด-ฝุ่นพิษ PM 2.5 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ทีมเจ้าหน้าที่ไฟป่า ประชาชนที่ขาดแคลน ซักแล้วนำหลับมาใช้ใหม่ได้ 20 ครั้ง หน้ากากของประชาชน เพื่อประชาชน MARK 4 ALL มอบหน้ากากอนามัยชุดแรก ให้แก่ โรงพยาบาลนครพิงค์ และโรงพยาบาลสันทราย จ.เชียงใหม่

มูลนิธิพัฒนามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับคณะทำงานด้านวิชาการเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้จัดทำหน้ากากของประชาชน เพื่อประชาชน MARK 4 ALL เพื่อผลิตหน้ากากอนามัยให้กับแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีความจำเป็นใช้งานมากทีี่สุด รวมถึงประชาชนที่มีความเสีี่ยงต่อเชื้อโควิด-19 และฝุ่นควัน โดยเบื้องต้นได้ทำการทดลองผลิตหน้ากากที่สามารถป้องกันสารคัดหลั่งได้ 100% และกันฝุ่น PM 2.5 ได้มากกว่า 80% อีกทั้งยังสามารถทำการซักล้างตามคำแนะนำของ WHO 

สำหรับหน้ากากอนามัยที่ทางศูนย์วิชาการเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะทำงานด้านวิชาการเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้จัดทำทั้งหมด 3 แบบ คือ

แบบที่ 1 Envi Mask หน้ากากผ้าสามารถซักได้ ใช้แผ่นกรองสอดไปในผ้า สามารถป้องกันสารคัดหลั่งและ PM 2.5 ได้ ซึ่งผ่านการรับรองจาก Nelson Labs?อเมริกา โดยที่ผ่านมาได้มีทีมบริษัทตันติยานันท์การ์เม้นท์มาดำเนินการให้ฟรี และได้มีการฝึกอบรมให้กับชาวบ้าน

ส่วนแบบที่ 2 Envi Mask+ หน้ากากผ้าสปันบอนด์ กระดาษแบบ Non-Woven และใช้แผ่นกรองอากาศ High Efficiency Particulate Air Filter (HEPA) ที่มีคุณภาพสูง สามารถป้องกันฝุ่นละออง เชื้อโรค แบคทีเรีย ป้องกันอนุภาคขนาดเล็ก ได้ผ่านการทดสอบจากเครื่องมือ OHSAS ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยได้รับความร่วมมือจากทางบริษัทตันติยานันท์การ์เม้นท์ จำกัด ในการตัดแบบหน้ากากอนามัยฟรี และส่งให้ชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย เป็นผู้ตัดเย็บ โดยหน้ากากแบบที่ 2 นี้ ขณะนี้มีกำลังผลิตประมาณสัปดาห์ละ 10,000 ชิ้น

แบบที่ 3 Envi Nano+ Mask เป็นหน้ากากนวัตกรรมนาโนและใช้แผ่นกรองอากาศนาโน สามารถป้องกันสาคัดหลั่ง ไวรัสโควิด-19 ได้ ป้องกันฝุ่นขนาด 0.075 ไมครอน ซึ่งผ่านการรับรองจาก Nelson Labs?อเมริกา สามารถซักล้างและนำกลับมาใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์กรผลิตหน้ากากอนามัยจากประเทศญี่ปุ่น เกาหลีและไต้หวัน หลังจากนั้นจะส่งกลับเข้ามาตรวจสอบคุณภาพ และเข้าระบบฆ่าเชื้อทำความสะอาด

เมื่อวันที่ 26-27 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา มูลนิธิพัฒนามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำโดย ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และประธานมูลนิธิพัฒนามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มอบหน้ากากอนามัยชุดแรก ซึ่งเป็นหน้ากากแบบที่ 2 Envi Mask+ หน้ากากผ้าสปันบอนด์ กระดาษแบบ Non-Woven และใช้แผ่นกรองอากาศ High Efficiency Particulate Air Filter (HEPA) และแบบที่ 3 Envi Nano+ Mask เป็นหน้ากากนวัตกรรมนาโนและใช้แผ่นกรองอากาศนาโน ให้แก่ นายแพทย์ศิริพจน์ ศรีบัณฑิตกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์อาวุโส โรงพยาบาลนครพิงค์ และนายแพทย์ยุทธศาสตร์ จันทร์ทิพย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ จากการสนับสนุนกิจกรรม มช. จิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ สำหรับมอบให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในการปฏิบัติงาน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid – 19 และป้องกันปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษจากหมอกควัน  และหน้ากากอนามัยชุดต่อไปจะสนับสนุนและกระจายให้กับทีมหมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ในการปฏิบัติงาน กลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลต่างๆ รวมถึงทีมอาสาดับไฟป่า

สามารถร่วมบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการผลิตหน้ากากในการปฏิบัติงานให้กับบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มเสี่ยง รวมถึงทีมเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าได้ที่ บัญชี มูลนิธิพัฒนามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 667-260962-6 หรือผ่านระบบบริจาค CMU Donate ได้ที่ https://donate.cmu.ac.th/ViewProject.aspx?foundation_id=48&project_id=5 ใบเสร็จสามารถนำไปลดหย่อนประจำปีได้ หากท่านบริจาคแล้ว รบกวนแจ้งสลิปการโอนเงิน พร้อมชื่อที่อยู่ที่จะให้ออกใบเสร็จได้ทางกล่องข้อความเพจมูลนิธิพัฒนามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือติดต่อ มูลนิธิพัฒนามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โทร 053 94 3499 หรือร่วมแคมเปญ #Mask4allChallenge   #หน้ากากจากประชาชนเพื่อประชาชน  คนไทยไม่ทอดทิ้งกัน เมื่อมีทั้ง PM2.5 และ COVID-19  ในยามประเทศลำบากแบบนี้  เราคงต้องช่วยเหลือกัน เราจะผ่านพ้นวิกฤติไปด้วยกัน การให้ที่น้อยแต่ได้มาก ร่วมบริจาคเพียงคนละ 19 บาทเพื่อสนับสนุนหน้ากากในการปฏิบัติงานให้กับหมอ พยาบาล กลุ่มเสี่ยง รวมถึง ทีมเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลกันและกัน บริจาคแล้ว Share / Tag เพื่อน 4 คน  อย่าลืมติด Hashtag #Mask4allChallenge